/0/23193/coverbig.jpg?v=42de389052b56515d4ad4b4fcdf0dace)
ผู้หญิงที่ทำงานเก่งและประสบความสำเร็จทุกอย่างในชีวิต แต่กลับประสบอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด แล้วตื่นขึ้นมาในร่างของ “หลินจิ่วเอ๋อร์” ภรรยาคนที่สองของแม่ทัพซูเหยียนในทันทีที่นางเปิดตาขึ้นในร่างนี้...
ผู้หญิงที่ทำงานเก่งและประสบความสำเร็จทุกอย่างในชีวิต แต่กลับประสบอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด แล้วตื่นขึ้นมาในร่างของ “หลินจิ่วเอ๋อร์” ภรรยาคนที่สองของแม่ทัพซูเหยียนในทันทีที่นางเปิดตาขึ้นในร่างนี้...
บทที่ 1 การพิสูจน์ตัวตน
เสียงหวีดหวิวของลมหนาวพัดผ่านเข้าไปในซอกหิน ท่ามกลางท้องฟ้าที่ถูกปกคลุมด้วยเมฆสีเทาทึบ
หลินจิ่วเอ๋อร์ยืนอยู่ที่หน้าผา พลางกวาดสายตามองภูเขาที่ทอดยาวออกไปสุดสายตา หัวใจของนางเต็มไปด้วยความรู้สึกสับสนและเหนื่อยล้า ราวกับมีความทรงจำบางอย่างที่ไม่ใช่ของตนเองกำลังก่อตัวขึ้น
นางไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่ ที่โลกโบราณแห่งนี้ หรือในร่างของหญิงที่ถูกสามีทอดทิ้ง นางเพียงจำได้ว่าในโลกปัจจุบัน นางเป็นผู้บริหารหญิงที่ทำงานในกรมททหาร มีตำแหน่งเป็นถึงรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด
ผู้หญิงที่ทำงานเก่งและประสบความสำเร็จทุกอย่างในชีวิต แต่กลับประสบอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด แล้วตื่นขึ้นมาในร่างของ “หลินจิ่วเอ๋อร์” ภรรยาคนที่สองของแม่ทัพซูเหยียน
ในทันทีที่นางเปิดตาขึ้นในร่างนี้... ภาพความทรงจำของหลิน-จิ่วเอ๋อร์ก็หลั่งไหลเข้ามา
ชีวิตที่เต็มไปด้วยการถูกปฏิเสธจากสามี การถูกเหยียดหยามจากคนในจวนแม่ทัพ และความหวังอันเลือนลางที่จะได้รับความรักจากชายที่ไม่เคยหันมามองนางเลย
“ทำไมชะตาชีวิตถึงต้องเล่นตลกเช่นนี้…” นางพึมพำกับตัวเอง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความหดหู่ พลางกำมือแน่น
หลินจิ่วเอ๋อร์ในร่างปัจจุบันมองเงาสะท้อนของตนเองในสายน้ำ ความอ่อนแอและความทุกข์ใจ ที่อดีตท่านของร่างนี้สะสมมานานยังคงปรากฏให้เห็นชัดเจน
“หลินจิ่วเอ๋อร์คนนั้นอาจจะยอมรับโชคชะตาเช่นนี้... แต่ข้าไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้อะไรง่าย ๆ”
นางหลับตาลงและสูดหายใจเข้าลึก การเดินทางครั้งใหม่นี้ แม้ว่าจะยากลำบาก แต่นางจะไม่ปล่อยให้ตัวเองต้องทนทุกข์ทรมานเช่นเดียวกับหลินจิ่วเอ๋อร์คนเดิม
นางสาบานว่าจะแก้ไขทุกอย่าง เปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตที่ถูกขีดไว้ และจะทำให้ซูเหยียนหันมามองเห็นคุณค่าของตน
เวลาล่วงเลยผ่านไป
ในจวนแม่ทัพตระกูลซู ความเงียบสงบกลับเต็มไปด้วยความเย็นชาของผู้คนในบ้าน ทุกคนต่างรู้ดีว่าหลินจิ่วเอ๋อร์เป็นเพียงภรรยาที่สองที่ไม่มีค่าในสายตาของแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่
นางนั่งอยู่ในห้องพักของตน สายตามองออกไปยังสวนที่อยู่ภายนอก ขณะเดียวกันความคิดมากมายก็วิ่งผ่านในหัว นางรู้ว่าหากจะเปลี่ยนแปลงชีวิตในโลกนี้ นางต้องเริ่มจากการวางแผนอย่างรอบคอบ
“ซูเหยียน... ท่านจะไม่ยอมรับข้า แต่ข้าจะไม่ปล่อยให้ตัวเองถูกละเลยอีกต่อไป” นางพูดด้วยความมั่นใจ แม้ว่าจะรู้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเปลี่ยนแปลงใจของท่านแม่ทัพที่ไม่เคยสนใจตน แต่นางจะไม่ยอมแพ้
เสียงฝีเท้าหนักแน่นดังก้องผ่านทางเดินยาวที่ทอดไปสู่ห้องโถง แม่ทัพซูเหยียนเดินเข้ามาพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเหน็ดเหนื่อยจากภารกิจทหาร แววตาของเขาคมกริบและเย็นชา เขาเป็นแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ที่ได้รับการเคารพนับถือจากทหารและคนทั่วไป
แต่ในเรื่องส่วนตัว เขาไม่เคยสนใจหลินจิ่วเอ๋อร์ หรือให้คุณค่ากับภรรยาคนที่สองเลย เพราะนางเป็นลูกสาวของอำมาตย์หลินตู้ ที่มักใหญ่ใฝ่สูง เป็นคนสนิทของฮ่องเต้ ในสายตาของแม่ทัพซู คนอย่างอำมาตย์หลินทำงานด้วยปาก
พระราชทานสมรสฮูหยินแม่ทัพคนที่สอง โดยแม่ทัพซูได้รับลูกสาวคนโตของอำมาตย์หลินให้มาตบแต่ง แม้จะเป็นอนุภรรยาก็ยอม ซึ่งแม่ทัพซูเกลียดนัก การที่เอาลูกสาวมาผูกติดกับเขาเท่ากับว่า เพิ่มอำนาจให้กับอำมาตย์หลินไปอีกมาก
“ท่านแม่ทัพซูกลับมาแล้วหรือ?” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากข้างหลัง เป็นเสียงของเสี่ยวถิงถิง คนรับใช้สาวที่คอยรับใช้เขา และเป็นต้นห้องของฮูหยินซูเหม่ยลี่ ฮูหยินเอกของเขา
“อืม” เขาตอบรับสั้น ๆ โดยไม่หันไปมอง เสี่ยวถิงถิงรีบหายตัวไปทันที เพราะต้องไปรายงานและสอพอนายหญิงของตน
ในจังหวะที่เขากำลังจะเดินผ่านห้องของหลินจิ่วเอ๋อร์ สายตาของเขาก็เหลือบเห็นเงาร่างของนาง ที่กำลังนั่งอยู่ในห้อง นางยังคงเหมือนเดิมสงบและเงียบเฉย
แต่วันนี้พอเขาได้สบตากับนาง ก็มีบางอย่างในแววตาของนางที่ต่างออกไป... ทำให้เขาชะงัก
เขาหันไปมองนางอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินต่อไปโดยไม่พูดอะไร แต่ความรู้สึกที่เห็นแววตาแน่วแน่ของนางยังคงติดอยู่ในใจ
ในค่ำคืนนั้น หลินจิ่วเอ๋อร์นั่งอยู่ที่โต๊ะเล็กภายในห้อง สายตาจ้องมองไปยังแผนการที่นางวาดขึ้นมา บนกระดาษมีคำจารึกถึงการวางแผนเพื่อเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตนเอง
นางรู้ดีว่า... หากต้องการให้ซูเหยียนหันมามอง นางต้องพิสูจน์คุณค่าของตน แต่การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เริ่มที่การพยายามทำให้เขารักนางในทันที นางรู้ว่าแม่ทัพซูเหยียนเป็นคนที่มองเห็นคุณค่าจากความสามารถและความแข็งแกร่ง
ไม่ใช่ความงามหรือการอ้อนวอน นางจะใช้ความรู้จากโลกปัจจุบันมาเป็นประโยชน์ในการวางแผนทั้งในเรื่องการเมือง การค้าขาย และการทหาร เพื่อทำให้เขาเห็นว่านางไม่ใช่เพียงภรรยาที่ไร้ค่า
แต่ถ้าทำให้เขามองเห็นตนเองอยู่ในสายตาของเขาให้ได้ อีกอย่างความต้องการของนางนั้น หากทำสำเร็จ...
หลินจิ่วเอ๋อร์จะขอหย่า... กับท่านแม่ทัพซู
หลายวันต่อมา ในยามเช้าที่จวนแม่ทัพตระกูลซู ที่ห่างจากชายแดนของหลงซาน กับอีกสองแคว้น คือ... แคว้นถังหยุน และแคว้นซงเถา
หลินจิ่วเอ๋อร์เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการทำกิจวัตรที่เงียบสงบ นางพยายามปรับตัวให้เข้ากับชีวิตในโลกนี้ และเริ่มเรียนรู้รายละเอียดของบ้านเมืองที่แตกต่างไปจากยุคปัจจุบัน
ก่อนอื่นนางคิดว่า นางต้องรู้จักกับทุกคนในจวนแม่ทัพเสียก่อน ว่าใครดีกับนาง ใครร้ายกับนาง นางจะได้ระมัดระวังตัว
ในทุกย่างก้าวของนางต้องเป็นไปอย่างรอบคอบ นางค่อย ๆ ทำความรู้จักกับผู้คนในจวนแม่ทัพ เริ่มสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับบ่าวไพร่ และผู้ติดตามของแม่ทัพ นางวางแผนทุกอย่างอย่างระแวดระวัง เพื่อทำให้ตัวเองเป็นที่ยอมรับ
บ่าวไพร่ต่างเริ่มสงสัยในการเปลี่ยนแปลงของหลินจิ่วเอ๋อร์ บางคนเห็นว่า นางเริ่มมีความมั่นคงทางอารมณ์มากขึ้น และไม่ได้พยายามอ้อนวอนสามีเหมือนแต่ก่อน
เพราะด้วยความเป็นบุตรสาวคนโตของอำมาตย์หลินตู้ ทำให้นางถูกเลี้ยงมาแบบตามใจ ตอนที่แม่ทัพซูได้รู้ว่าเป็นนาง เขายังไม่อยากจะเข้าใกล้
อนึ่งหลินจิ่วเอ๋อร์ชอบเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และยังชอบเล่นหูเล่นตาแพรวพราว ไม่มีจริตของลูกสาวของผู้รากมากดีเสียเลย ทำให้เขานึกคำปฏิเสธมากมาย แต่พอจะไปพูดดับฮ่องเต้ อำมาตย์หลินตู้ที่เก่งเรื่องวาทศิลป์ก็พูดดักทางแม่ทัพซูทุกทาง
ขนาดเขาบอกว่า แต่งงานกับเขาต้องไปอยู่ชายแดน...
หลินจิ่วเอ๋อร์ยังพร้อมที่จะมา เมื่อก่อนนางจะสู้รบและสร้างความรำคาญใจให้กับทั้งแม่ทัพซู และฮูหยินเอกซูเหม่ยลี่เสมอ จนอยากจะไล่นางออกไปจากชีวิตทั้งสองคน
ทว่าเหม่ยลี่ก็เป็นถึงบุตรสาวคนสุดท้องของราชครูถังเถียนหรง ทำให้เขาแทบกระดิกไม่ได้ ใจของแม่ทัพมีเมียทั้งที่ไม่ได้รักทั้งสองคน ทำให้อยู่กับพวกนางแบบไปวัน ๆ และเอาหูเอาตาของเขาไปติดกับงานในกองทัพอย่างเดียว
หลินจิ่วเอ๋อร์ตระหนักได้ เพราะความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมกลับมาแล้ว
“ข้ารู้ดีว่าท่านแม่ทัพไม่สนใจข้าหรอก แต่สักวันหนึ่งท่านจะต้องหันมามองข้า” นางพึมพำกับตัวเอง พลางยิ้มเล็กน้อย
นางตั้งใจจะทำให้ชีวิตในโลกนี้เป็นไปในทิศทางที่นางต้องการ แม้ว่าเส้นทางนี้จะยากลำบากเพียงใดก็ตาม ในโลกปัจจุบันนางไม่เคยเป็นสองรองใคร แต่ดันมาเป็นเมียน้อย แบบนี้เสียชื่อจริง ๆ
เมื่อความจำเป็นนำพา เบลล่า ฟรานเซนโก้ นางแบบสาวให้มาพัวพันกับความอันตรายของซีนอล ออตโตนี มาเฟียหนุ่ม ผู้ทรงอำนาจแห่งลากูนผู้ไม่เคยยอมให้ใครก้าวล้ำเข้ามาในโลกส่วนตัว ต้องยื่นมือช่วยเหลือเธอ...
ภาวรีแหงนหน้าขึ้นแล้วยิ้มกวนโมโหใส่หน้าเขา "มาขวางทำไม เชยไม่สนพี่เขื่อนแล้วนะรู้ไหม ให้หย่าก็ได้เลย ไปเลย เพราะไรรู้มะ เพราะพี่เขื่อนสู้หนุ่ม ๆ ในร้านไม่ได้เลยสักคน ในนั้นถึงใจกว่าพี่เขื่อนตั้งเยอะ" ลัพธวิทย์หรี่ตามอง ถามเสียงเรียบ "ถึงใจแบบไหน" "ใหญ่กว่า อึด แล้วก็เอาเก่งกว่าพี่เขื่อน" ได้ยินเสียงตัวเองพูดจาก๋ากั่นออกไปแบบนั้นแล้วก็ให้ตกใจไม่น้อย พอได้ยินคำตอบของเธอที่หลับตาฟังก็รู้ว่าจงใจพูดจายั่วยุเขา ลัพธวิทย์ก็ค่อยหัวเราะออกมาลั่น พร้อมค่อนแคะกลับไป "น้ำหน้าอย่างเราเนี่ยหรือ กล้านอนกับผู้ชายตามบาร์" ภาวรีหน้าชาเมื่อถูกจับไต๋ได้ว่าโกหก เธอลอยหน้าลอยตาแล้วตอบเขากลับ "ทำไมจะไม่กล้า แม่เปิดห้องให้เชยลองแล้วด้วย หนุ่ม ๆ ในบาร์โฮสต์ทำให้เชยรู้แล้วล่ะว่าของพี่เขื่อนนี่เทียบชั้นกันไม่ติด แบบนั้นน่ะ..." ภาวรีพูดแล้วกวาดตาลงมองอย่างหยามเหยียด บอกต่อจนจบประโยค "น่าจะเอาไว้แค่ฉี่มากกว่านะ"
ซ่งชิงเหอโดนหักหลังและกลายเป็นฆาตกรในสายตาคนอื่น เธอจึงหย่ากับสีจั้นถิง สามีของเธอ และเดินทางออกจากเมืองหวยไปด้วยความเกลียดชัง หกปีต่อมา เธอหวนกลับมาราวกับนกฟีนิกซ์พร้อมกับคู่แข่งของสามีเก่าเธอ เธอเติบโตขึ้นกลายเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง เธอสาบานกับตัวเองว่าจะทำให้ทุกคนต้องชดใช้ในสิ่งที่พวกเขาทำไว้กับเธอ เธอยอมร่วมมือกับเขาเพียงเพื่อแก้แค้น โดยไม่รู้เลยว่าเธอตกเป็นเหยื่อของเขาไปแล้ว ในเกมแห่งความรักและความปรารถนา ไม่มีใครรู้ว่าสุดท้ายแล้วผู้ชนะที่แท้จริงจะเป็นใคร
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
ต่อหน้าทุกคน เธอเป็นเลขานุการส่วนตัวของท่านประธาน โดยส่วนตัวแล้ว เธอเป็นภรรยาของเขา กู้เวยยีรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อเธอทราบว่าตนเองตั้งครรภ์ ทว่าเธอกลับเห็นฟู่จิงเฉินกับรักแรกของเขาสิทสนมกัน... เธอจากไปอย่างเศร้าใจและตัดสินใจที่จะให้พวกเขาสมหวัง ต่อมา เมื่อฟู่จิงเฉินมองดูท้องที่ยื่นออกมาของเธอ และถามอย่างตื่นเต้นว่า "้กู้เวยยี นี่คือลูกของใคร!" เธอตอบอย่างหัวเราะเยาะ "มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย อดีตสามี!"
ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก
หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”
© 2018-now MeghaBook
บนสุด