![เกิดใหม่ครานี้…ข้าเป็นหญิงรับใช้ที่โชคดีที่สุด [เกิดใหม่ทะลุมิติจีนโบราณ]](https://cos-thres.cdreader.com/site-433(new)/0/22680/coverbig.jpg?v=6b31d11de577046b865f270c31951f1b)
"เมื่อวิศวกรสาวปากแจ๋วทะลุมิติมาเป็นหญิงรับใช้ แถมดันหวั่นไหวกับคุณชายสุดหล่อแห่งยุคจีนโบราณ!" งานนี้จากปากแจ๋ว จะกลายเป็นหวานเจี๊ยบหรือไม่?
"เมื่อวิศวกรสาวปากแจ๋วทะลุมิติมาเป็นหญิงรับใช้ แถมดันหวั่นไหวกับคุณชายสุดหล่อแห่งยุคจีนโบราณ!" งานนี้จากปากแจ๋ว จะกลายเป็นหวานเจี๊ยบหรือไม่?
เสียงฮัมเพลงในห้องเซิร์ฟเวอร์อย่างสบายใจดังขึ้นหลังจากผ่านช่วงพักเที่ยงในบริษัทข้ามชาติซอฟต์แวร์สัญชาติจีน
ยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง เสียงเพราะใสแจ๋วนั่นเป็นของ 'รัชธิดา สิริธารา' หรือที่ทุกคนเรียกเธอว่า 'ผิง' สาวสวยหมวยน่ารัก
ที่สุดในทีมพัฒนาซอฟต์แวร์ สาวผมยาวสีดำขลับในวัยเพียง 26 ปี ทำงานเก่ง IQ สูง ได้โปรโมตเร็วกว่าเพื่อนวิศวะ
ซอฟต์แวร์ที่เป็นผู้ชายทุกคนในวัยเดียวกัน
"ไอผิง...นี่แกรีบกินข้าวแล้วรีบกลับมาทำงานเอาหน้าอีกแล้วใช่ไหมว่ะ?" ชายร่างสันทัดผิวเข้มชื่อ 'โจ' เอ่ยแซะ
"บ้า!...ฉันเก่งกว่าแกตั้งเยอะแถมทำงานก็เร็วกว่า...ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำงานเอาหน้าโว้ย!" เธอละจากหน้าจอ
คอมพิวเตอร์แล้วหันไปทำตาขวางใส่โจ
"เออ...อิผิงนี่...กูว่ามึงสวยนะเพราะทั้งทีมก็มีมึงเป็นผู้หญิงอยู่คนเดียวแต่ทำไม...มึงถึงยังไม่มีแฟนว่ะ?" ชายในชุด
ทำงานเสื้อเชิ้ตสีขาวล้วงกระเป๋ากางเกงพูดด้วยน้ำเสียงกวนตีน
"โห...พี่มานพ...ใครจะไปเอามัน...มันปากแจ๋วยิ่งกว่าอะไรดี" โจพูดเสริม
"ทำไม...การที่ฉันเก่งฉันปากแจ๋วมันไปหนักหัวใครไม่ทราบคะ?" สาวหมวยปากแดงหันไปจิ๊ปากใส่เพื่อนร่วมทีม
"นี่ทุกคน...เดี๋ยวบ่ายสองมีประชุมด่วนนะ" พี่หัวหน้าทีมชื่อ 'ศักดิ์' เดินเข้ามาแจ้งข่าวให้ทุกคนในทีมรู้
"ใกล้จะสิ้นปีแล้ว...หรือจะประกาศเรื่องโบนัส...หรือจะเรื่องโปรโมตคะพี่ศักดิ์?" ผิงทำหน้าสงสัยหันไปถามพี่
หัวหน้าทีมที่มีครอบครัวแล้ว
"พี่ก็ไม่แน่ใจนะ...รู้สึกจะคัดเลือกอะไรบางอย่างนี่แหละ..."
"โห...พี่...ถ้าเป็นเรื่องคัดเลือกเดี๋ยวไอผิงก็ได้ตัดหน้าพวกเราไปอีก...เหม็นว่ะ" มานพทำหน้าไม่พอใจ
"เอาน่าพี่มานพ...ใจเย็นๆ...อาจเป็นเรื่องอื่นก็ได้...ฮ่าๆ" โจตอบแซวอย่างที่ไม่อยากให้บรรยากาศในทีมไม่ดี
"ยังไงก็แล้วแต่...นายอาจจะอยากถามเรื่องความคืบหน้าเรื่องซอฟต์แวร์เกมตัวใหม่ที่ทีมของเรากับทีมของโชค
กำลังพัฒนาแข่งกันก็ได้ว่าของใครมีแนวโน้มจะสำเร็จมากกว่ากัน" พี่หัวหน้าทีมเอามือเท้าโต๊ะทำงานก่อนพูด
ด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"ครับผม...ยังไงพวกเราจะเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเข้าประชุมครับพี่ศักดิ์" มานพทำมือตะเบ๊ะด้วยความมั่นใจ
"เอาหน้าให้มันน้อยๆ หน่อยพี่...ใครๆ ก็รู้ว่าโปรเจคนี้หนูรู้ดีกว่าใครและคนที่จะนำเสนอถ้านายถามถึงก็คือหนูอยู่ดี"
ผิงยิ้มกว้างพร้อมขยิบตาให้พี่มานพ
"เออๆ อย่าปากดีให้มาก...มีไรก็ต้องช่วยๆ กันดิวะ...เรามันทีมเดียวกันนี่...ฮ่าๆ" มานพหัวเราะเสียงดัง ก่อนที่ทั้ง
สามต่างแยกย้ายไปจดจ่ออยู่กับงานหน้าโต๊ะคอมของตัวเอง
"อ่า...เมื่อยจัง" ผิงพึมพรำก่อนที่จะลุกขึ้นบิดขี้เกียจ เธอเหลือบตาดูนาฬิกาข้อมือซึ่งแสดงเวลา 13.45 น.
"ไปดื่มกาแฟแก้ง่วงสักหน่อยก่อนจะไปเข้าประชุมแล้วกัน" เธอตัดสินก่อนที่จะเดินผ่านโต๊ะของโจไป
"อ้าว...ไอผิงแกจะไปไหนวะ?" โจเกาหัวสงสัยเลยถามออกไป
"ไปที่ชอบๆ ...โอเค๊" เธอทำมือเป็นรูปโอเคสื่อว่าไม่ต้องมาเสือก
"ไอ้บ้านี่...ฉันอุตส่าห์ถามดีๆ" โจมองค้อนตามหลังผิงไป
กลิ่นกาแฟเอสเปสโซ่หอมฟุ้งไปทั่วบริเวณเครื่องดื่มบริการตัวเองซึ่งเป็นสวัสดิการของพนักงาน ผิงค่อยๆ
ละเลียดจิบกาแฟอย่างช้าๆ เพราะมันยังร้อนอยู่พลางครุ่นคิดว่าอนาคตในสายงานที่เธอทำอยู่จะพาเธอไปได้ไกล
แค่ไหน เธอรู้ดีว่าเธอมีจุดแข็งที่ตรงไหนและจุดอ่อนที่ต้องปรับปรุงคืออะไร...
"ผิง!" เสียงดังกังวานมาจากทางข้างหลังเธอ ทำให้เธอสะดุ้งแล้วหันไปตามเสียงที่เรียกชื่อเธอ
"มีอะไรโชค...เรียกซะฉันตกใจหมดเลย" ผิงหน้าตาตื่นไม่รู้ว่าเป็นเพราะกาแฟหรือเพราะเสียงเรียกเมื่อกี้กันแน่
"นายมีเรียกประชุมหนิ...ทีมเธอก็ต้องเข้าร่วมประชุมด้วยใช่ไหม?" โชคจ้องหน้าเธอตาไม่กะพริบ
"อือ...ใช่...ทำไมหรอ?" ผิงทำหน้างงเพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร
"เปล่า...ฉันก็หวังแค่ว่าเธอจะไม่ยอมแพ้นะ..." โชคเดินเข้ามาใกล้แล้วก็ตบบ่าเธอเบาๆ พร้อมกระซิบว่า
"เพราะทีมของเธอ...ห่วยไง" แล้วก็เดินจากไป
ผิงนิ่งไปชั่วครู่ก่อนได้สติหลังจากที่สมองประมวลคำด่าเสร็จ "ไอเ_ยโชคเอ้ย...ถึงแกจะชื่อโชคแต่วันนี้ฉันจะทำ
ให้แกสิ้นโชคแน่ๆ" เธอหน้าแดงก่ำพร้อมกำมือด้วยความโกรธ
"อิผิง...แกอยู่นี่เอง...ถึงเวลาเข้าประชุมแล้วนะโว้ย...รีบไปกันเร็ว" โจปาดเหงื่อพร้อมเข้ามาดึงแขนผิงไป
"โทษทีแก...เดี๋ยวฉันไปหยิบแฟ้มแล้วเจอกันที่ห้องประชุมนะ" ผิงบอกโจเสร็จก็รีบเดินไปเอาแฟ้มที่โต๊ะของเธอ
...
"เอาละดีมาก...ทุกคนมาครบกันหมดแล้วใช่ไหม?" ชายร่างอ้วนท่วมหัวล้านในชุดสูทสีดำนั่งอยู่หัวโต๊ะเอ่ยถาม
เสียงดังฟังชัด
"ครับๆ/ค่ะ" เสียงตอบรับดังครับท่วมท้น เหลือเพียงเสียงค่ะเบาๆ จากสาวสวยหน้าหมวยเป็นเอกลักษณ์จนนายใหญ่
ต้องหันไปมองตามเสียงค่ะนั้น
"อืม...ใช่...ผมได้ยินมาว่ามีผู้หญิงเก่งคนหนึ่งในทีมพัฒนาซอฟต์แวร์คือเธอเองสินะ..." เขาขยับแว่นเพื่อที่จะมอง
หน้าเธอให้ชัดๆ
"ค่ะนาย...ดิฉันชื่อรัชธิดาค่ะ" สาวผิวขาวหน้าตาจิ้มลิ้มตอบเสียงใส
"โอเค...งั้นผมเข้าเรื่องเลยนะ...คือบริษัทแม่ที่เมืองก่วงโจวต้องการให้ผมคัดเลือกพนักงานที่มีแววไปเรียนรู้งาน
ระบบซอฟต์แวร์เกมใหม่ล่าสุดจากที่นั่น..."
เสียงฮือฮาอื้ออึงดังขึ้นในห้องประชุมทุกคนต่างหันหน้าคุยกันด้วยความตื่นเต้น
"อ่ะเดี๋ยวฟังผมให้จบก่อน...คือมันเป็นโปรเจคที่ด่วนมากคือต้องบินไปภายในอีก 2 วันเลยและต้องอยู่เรียนรู้
งาน 1 เดือน ทางนู้นเสนอจะให้เงินเดือนเพิ่ม 3 เท่า แต่เขาขอคนที่ยังไม่มีครอบครัวไม่มีภาระอะไรแถมยังต้อง
ได้ภาษาจีนพื้นฐานด้วย..."
เสียงโหร้องโอดโอยดังระงม หลายคนมีสีหน้าผิดหวังเพราะโอกาสแบบนี้ไม่ได้มีมาบ่อยๆ เพราะเผลอๆ ถ้าใคร
ได้ไปแล้วทำผลงานได้ดีการเลื่อนตำแหน่งไปเป็นหัวหน้าฝ่ายก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
"ไหนใครคิดว่าตัวเองมีคุณสมบัติครบบ้าง...ยกมือขึ้น" นายใหญ่ทำท่ายกมือแล้วกวาดสายตาไปรอบห้อง
"ห้ะ...ไม่มีใครยกมือเลย...นี่พวกคุณไม่มีใครรู้พื้นฐานภาษาจีนเลยหรอ...แล้วสอบผ่านเข้ามาทำงานบริษัท
สัญชาติจีนนี่ได้ไง" ชายวัย 50 ที่นั่งหัวโต๊ะทำหน้างงเป็นไก่ตาแตก
"โห่...นายครับ...ที่นั่งอยู่นี่เป็นวิศวกรซอฟต์แวร์กันทั้งนั้นนะครับ...ทำงานกับโค้ดไม่ได้พูดหรือสื่อสารกับคน
เลยครับ" พี่ศักดิ์หัวหน้าทีมเป็นหน่วยกล้าตายพูดอธิบายออกมา...ทุกคนที่นั่งฟังต่างพยักหน้าเห็นด้วยกันงึกๆ
"เดี๋ยวก่อนค่ะ..." สาวสวยหนึ่งเดียวในที่ประชุมพูดขัดขึ้น
"คุณมีอะไร...ไหนว่ามาสิ" นายใหญ่เอ่ยทัก ก่อนที่ดวงตาทุกคู่ต่างจับจ้องไปที่ผิงคนเดียว
"ดิฉันคิดว่าดิฉันมีคุณสมบัติครบค่ะนาย...ทั้งจากผลงานที่ผ่านมา...และตอนนี้ไม่มีภาระ...แถมดิฉันยังได้
ภาษาจีนพื้นฐานด้วยค่ะ" เธอเสยผมเชิดหน้าตอบแบบมั่นๆ
ชายทั้งห้องต่างทำตาโตอ้าปากค้าง... "ห้ะ...ยัยผิงนี่นะ" ชายจากทีมของโชคคนหนึ่งเอ่ยขึ้นก่อนหันไปซุบซิบ
กับโชคซึ่งตอนนี้มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก
"ทุกคนละว่าไง...แต่ก็คงช่วยไม่ได้งั้นผมคงต้องส่งคุณรัชธิดาไปคนเดียว" เขาพูดจบพร้อมเขียนชื่อรัชธิดาใส่ลง
ในเอกสารที่เตรียมมาก่อนที่จะส่งสัญญาณว่าเลิกประชุม
"โห่อะไรวะ...ไอส้มหล่นเอ้ย" โชคตะโกนไล่หลังผิงมาติดๆ
"ก็ใครเสือกไม่เตรียมตัวมาให้ดีละวะ ช่วยไม่ได้...ภาษาจีนพื้นฐานเอง...มันก็ควรต้องรู้ไว้นะไอ้น้อง" ผิงตอกกลับ
อย่างซะใจ
"ฝากไว้ก่อนเถอะ!" โชคชูนิ้วกลางแล้วรีบเดินจากไป
"ไอพวกแพ้แล้วพาลเอ้ย" ผิงขำคิกคัก
"ยินดีด้วยนะผิง...ยังไงก็อย่าลืมพี่ละ...มีข้อมูลอะไรดีๆ ก็กลับมาอัปเดตให้ด้วยนะ" พี่ศักดิ์ยิ้มหวานชมไม่ขาดปาก
"ค่า...พี่หัวหน้าทีม"
"อ่ะ น้องผิงคนสวยยังงี้ต้องมาเลี้ยงเหล้าพวกเราก่อนไปแล้วไหม" มานพแกล้งเร้าแหย่เธอ
"ใช่ๆ เลย ผิง...เลี้ยงพี่มานพกับเราด้วยเลย ฮ่าๆ" โจหัวเราะร่วนอย่างชอบใจ
"ไปเลี้ยงกันเองสิ...ไอพวกบ้าผู้หญิง...ครั้งที่แล้วพอเหล้าเข้าปากก็ก่อเรื่องไว้จำไม่ได้หรอ?" ผิงทำหน้าดุ
พร้อมด่าไม่ยั้ง
"เออๆ ไปดีมาดีละกัน" โจแตะไหล่เบาๆ
ผิงรีบเคลียร์งานที่ค้างไว้ในคอมให้เสร็จก่อนส่งไฟล์ให้คนในทีมพร้อมบอกขั้นตอนวิธีลัดต่างๆ ไว้ให้
"อ่ะ...ฉันเคลียร์งานทุกอย่างเสร็จแล้ว...งั้นขอกลับบ้านไปเตรียมตัวไปจีนก่อนนะทุกคน" เธอพูดด้วยความดีใจที่
จะได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ที่บริษัทแม่ที่จีน
"บายๆ มึงโชคดีละ" โจพูดพร้อมยิ้ม
"โชคดีนะไอน้องหมวยของพี่" มานพขยิบตาให้
"ขอให้ได้สามีเป็นคนจีนนะ จะได้เป็นซ้อรวยๆ ที่นั่นไงไม่ต้องกลับมาทำงานละ ฮ่าๆ" พี่ศักดิ์พูดทีเล่นทีจริง
"โอ๊ยพี่ก็...ขอให้มีแฟนก่อนเถอะ" ผิงยิ้มเขินก่อนรีบเดินออกจากห้องมา
...
ที่ฉันโสดนี่เพราะฉันโสดด้วยความสามารถน้า...
“ถ้าเกลียดฉันจริง... ทำไมตามมาขนาดนี้?” "ในสงครามธุรกิจ ใครแพ้คือผู้ถูกลบ… ในสงครามหัวใจ ใครเผลอคือผู้ถูกครอบครอง" พิมพ์ใจ... CEO สาวผู้ไม่เคยยอมพ่ายแพ้ให้ใคร รัญชน์... นักธุรกิจหญิงที่พร้อมใช้ทุกกลยุทธ์เพื่อครอบครองทุกสิ่ง เมื่อสงครามที่ดินพันล้านระหว่างสองผู้หญิงอันตรายเริ่มต้นขึ้น เรื่องราวไม่จบแค่บนเวทีประมูล แต่ลามไปถึงห้องประชุม, ลิฟต์กระจก, ปาร์ตี้ไฮโซ และแม้กระทั่ง... เตียงของศัตรู! เพราะศัตรูที่น่ากลัวที่สุด... คือศัตรูที่เราห้ามใจไม่ให้หลงใหลไม่ได้!
ชีวิตของเด็กสาววัย 14 จะเปลี่ยนไปอย่างไรเมื่อแม่ของเธอได้จากไป ทิ้งเธอไว้กับพ่อเลี้ยงที่จู่ๆ ก็ความจำเสื่อมได้เนี่ย!! เพราะความรักมันไม่เคยจำกัดอายุ... เราจะสามารถตกหลุมรักใครสักคนได้ไหมในเมื่อคนนั้นเหมือนกลายเป็นคนใหม่แม้จะอยู่ในร่างเดิม นิชานาถ เด็กสาววัย 14 จะทำอย่างไรในเมื่อเธอคิดว่าเธอกำลังตกหลุมรักพ่อเลี้ยงของตัวเองซึ่งตอนนี้ เขาความจำเสื่อมไปแล้ว!! เรื่องราวความรักที่เพิ่มดีกรีความ แซ่บบบ แบบไต่ระดับอารมณ์ มี NC จุกๆ
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"
ในระยะเวลาสองปีที่แต่งงานกัน เนี่ยเหยียนเซินจู่ๆ ก็เสนอขอหย่า เขาพูดว่า "เธอกลับมาแล้ว เราหย่ากันเถอะ คุณอยากได้อะไรบอกมาได้เลย" ชีวิตการแต่งงานสองปีสู้อีกคนที่หันหลังกลับมาไม่ได้ ตามอย่างที่คนเขาว่ากัน "คนรักเก่าแค่ร้องไห้สักหน่อย คนรักปัจจุบันก็ย่อมแพ้แน่นอน" เหยียนซีไม่ได้โวยวายอะไร เลือกที่จะตอบตกลงและเสนอเงื่อนไขว่า "ฉันต้องการรถซูเปอร์คาร์ที่แพงที่สุดของคุณ" "ได้" "วิลล่าสุดหรูชานเมือง" "ตกลง" "กำไรหลายพันล้านที่หามาในช่วงสองปีนี้ แบ่งคนละครึ่ง" "อะไรนะ"
ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก
นางขอสมรสพระราชทานเพราะรัก แต่คืนแต่งงาน เขารังเกียจนางและทิ้งไป ห้าปีผ่านไปพระชายาที่ถูกลืม กลับเป็นสตรีที่เขาต้องตามจีบ และศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดของเขาก็คือลูกชายของตนเอง
© 2018-now MeghaBook
บนสุด