/0/22514/coverbig.jpg?v=e2707a30b70f4ee4ee964a8383fb8cfa)
❝รัก❞ คำสั้น ๆ ที่ไม่ได้บอกออกไป ทิ้งไว้เพียงจดหมายซองเล็กที่สารภาพความรู้สึกในใจก่อนตาย คนจากไปก็ไปแล้ว... แต่คนรอก็ทรมานมานับสี่ร้อยปี
❝รัก❞ คำสั้น ๆ ที่ไม่ได้บอกออกไป ทิ้งไว้เพียงจดหมายซองเล็กที่สารภาพความรู้สึกในใจก่อนตาย คนจากไปก็ไปแล้ว... แต่คนรอก็ทรมานมานับสี่ร้อยปี
ค.ศ. 1989 ประเทศฝรั่งเศส
รถเบนซ์คันหรูสีดำทมิฬ ขับผ่านสวนสาธารณะคิงชิน สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ที่ผลิดอกบานสะพรั่ง ตกแต่งด้วยไฟสลัวหลากสีตามตรีมของเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ บ้านของชายหนุ่มมหาเศรษฐีถูกสร้างออกมาห่างจากตัวเมือง และอยู่ติดกับเขตสงวนเพราะเขาต้องการความเป็นส่วนตัว และเงียบสงบ แต่ทว่าห้าสิบปีมานี้ รัฐบาลได้จัดสรรให้เขตสงวนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวซึ่งเขาเองก็เพิ่งรู้
คฤหาสน์สีทองอร่ามบนพื้นกว้างหลายร้อยไร่ หญ้าสีเขียวถูกตัดแต่งสวยงาม ต้นโอนอ่อนพัดปลิวไปตามลม เขาสั่งให้คนขับเปิดกระจกรถเลื่อนลง
กลิ่นหอมอ่อนลอยโชยมาจากทุ่งกุหลาบสีขาวในลานใหญ่พิเศษ ปกคลุมคฤหาสน์ทั้งหลัง
เวเฟียส ชายผู้อายุสี่ร้อยกว่าปีในคราบชายหนุ่มหล่อเหลาผิวกายขาวซีด เจ้าของเส้นผมสีแดงเพลิงดวงตาสีรัตติกาลดั่งเจ้าชายผู้ไร้ซึ่งแสงแดดอาจเอื้อมถึง ความร่ำรวยมหาศาลทำให้เขามีบ้านสีทองอร่ามอยู่ทุกประเทศทั่วโลก ผู้บริหารหนึ่งเดียวของธุรกิจเพชร เป็นทั้งเจ้าของเหมืองเพชร โรงงานผลิตส่งออกเพชร รวมถึงเป็นนักอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของโลก แต่นั่นกลับไม่มีใครรู้ว่าเป็นเขาเพราะนิสัยที่ลึกลับ แสนจะเย็นชา และไม่ใช่มนุษย์ ทำให้เขาไม่สามารถปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนได้
“ยินดีต้อนรับกลับค่ะนายน้อย” เมื่อรถเบนซ์ขับเข้ามาจอดนิ่งอยู่หน้าประตู
สีทองบานใหญ่ คนในบ้านต่างวิ่งกรูเข้ามารอต้อนรับเขา ชายหนุ่มเจ้าของเส้นผม
สีแดงสง่าก้าวขายาวลงจากรถ หันมองแม่บ้านที่ยืนอยู่หน้าแถว สังเกตเห็นเส้นผมของเธอที่ขาวหงอกเต็มหัวก็ทำให้เขารู้ว่าเธอแก่ขึ้นมากแล้ว
“กลับมาคราวนี้จะอยู่กับพวกเรา...” เธอยังคงพูดถามต่อไป พร้อมสายตาของคนอื่น ๆ ซึ่งคาดหวังว่านายน้อยของพวกเขาจะอยู่ที่นี่นานสักหน่อย
"ตอบไม่ได้" แต่แล้วประโยคนั้นกลับเปล่งออกมาได้เพียงครึ่งหนึ่งคำตอบจากคนร่างสูงก็พลันสวนกลับไปในทันที
เธอพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะให้แม่บ้านคนอื่นมาช่วยยกของเข้าบ้าน แม่บ้านหญิงชรามองตามเจ้านายของตนกำลังเดินหายลับเข้าไปหยุดอยู่ที่สวนหลังบ้านเพียงลำพัง
ดวงตาสีรัตติกาลมองชื่นชมดอกไม้สีขาวที่มีผีเสื้อโบยบินล้อมรอบกุหลาบสีขาวบริสุทธิ์เหล่านั้น มือหนาเอื้อมจับสร้อยล็อกเกตสีเทาสวยบนคอ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเล็กน้อย
รุ่งเช้า ณ สวนสาธารณะคิงชิน
ทั้งที่เป็นฤดูใบไม้ผลิแต่กลับมีหมอกหนา แสงแดดไม่สาดส่อง ชายหนุ่ม
ร่างสูงออกมาเชยชมบรรยากาศในสวนสาธารณะใกล้บ้าน สองเท้าเดินมาหยุด
อยู่บนสะพานข้ามแม่น้ำขนาดเล็กสีแดงสวย หันไปมองน้ำที่กำลังไหลออกไปอย่างมีทิศทางที่ชัดเจน ใบไม้ร่วงหล่นลอยบนผิวน้ำ และเงาสะท้อนของต้นไม้รอบข้าง
เกิดเป็นแสงระยิบระยับกระทบดวงตาสีรัตติกาลของเขา ลมเบาบางพัดสัมผัส
เส้นผมสีแดงสดให้ปลิวไสว เขายืนนิ่งเหม่อมองแม่น้ำ จนกระทั่งมีชายหนุ่มอีกคน
ที่กำลังวิ่งเหยาะ ๆ ผ่านมา ดวงตากลมโตสีฟ้าใสหันมองชายเส้นผมสีแดงที่ยืน
อยู่บนสะพานสีเดียวกันนี้
'เส้นผมของเขามีสีแดงสด โดดเด่นรับกับสันจมูกโด่ง และใบหน้าหล่อของเขา ทำไมเด็กสมัยนี้โตไวจังเลยนะ’ สีแดงภายในดวงตาเด่นชัดบนนัยน์ตา
สีฟ้า ดั่งไฟกับน้ำที่ตัดกันอย่างชัดเจน โอเชี่ยนคิดในใจ เขายังคงก้าววิ่งสายตาไม่ได้มองทางเพราะมัวแต่จับจ้องเด็กหนุ่มคนนั้น
โครม!!!
‘วันนี้ผมจะเจอเรื่องซวยอะไรอีกไหมนะ ซุ่มซ่ามตั้งแต่เช้าเลย’ ความไม่ระมัดระวังทำให้เขาไถลลงไปกับทางต่างระดับ คนล้มลงไม่ร้องออกมาแม้สักนิด แต่กลับบ่นตัวเองอุบอิบอยู่ภายในใจ
หลังจากล้มลงไปก้นจ้ำเบ้า เขาก็รีบมองสำรวจตัวเอง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาเข้ากับชายหนุ่มที่หันมามองจ้องเขาอยู่เช่นกัน ใบหน้าหล่อหันมามองก่อนจะชะงักไปครู่หนึ่ง เขายังคงค้ำแขนอยู่ที่สะพานก่อนจะถอยออกมาแล้วก้าวขายาวเดินมาหยุดยืนตรงหน้าของโอเชี่ยน นัยน์ตาสีรัตติกาลถ่ายทอดความรู้สึกออกมาอย่างเผลอตัวเมื่อได้เห็นคนตรงหน้า ความอ่อนโยน ห่วงหา ความดีใจเหล่านั้นถูกกลบทับด้วยความเศร้า มือเรียวของคนด้านล่างเอื้อมออกไปเพราะคิดว่าชายหนุ่มต้องมาช่วยเขาแน่
“เป็นอะไร”
'ผมคิดว่าเขาจะช่วยพยุงผมสักหน่อยแต่ว่า... ผมคงคิดผิดไปเอง' ไม่เพียงไม่ยื่นมือออกมาช่วยพยุง เขายังเอามือสอดเข้าไปในกางเกงทั้งสองข้าง แล้วเอ่ยถามคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่กลับดูคล้ายเป็นการตอกย้ำว่าคนด้านล่างซุ่มซ่ามมากแค่ไหน
“ผมไม่เป็นไร ผมสบายดี” คนตัวเล็กเจ้าของเส้นผมสีชมพูเห็นพฤติกรรมของเด็กหนุ่มก็ถึงกับคิ้วขมวดเล็กน้อย มือเรียวถอยเลื่อนกลับลงมาด้วยความ
เขินอาย รีบลุกขึ้นปัดฝุ่นบนตัวเล็กน้อย พร้อมรีบกล่าวปฏิเสธ
‘เป็นเด็กที่ดูดีจริง ๆ มองใกล้ ๆ เขายิ่งหล่อกว่าเดิม’
ส่วนสูงที่ห่างกันเพียงสี่เซนติเมตร เป็นความพอดีของระยะสายตาเมื่อ
คนทั้งคู่มองสบประสานกัน คนร่างสูงยืนนิ่งไม่พูดอะไรดวงตาสีรัตติกาลหางตาคมเฉี่ยวจ้องมองคนตัวเล็กกว่าอย่างไม่ละสายตา ทำเอาโอเชี่ยนทำตัวไม่ถูก
“หน้าของนาย สีตาของนาย...” เด็กหนุ่มพึมพำออกมา
'เขามองหน้าผมอยู่จริงด้วย ตั้งแต่ตอนล้มเมื่อกี้แล้ว' โอเชี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะถามกลับ
“มีอะไรติดหน้าของผมงั้นเหรอครับ” มือเรียวข้างหนึ่งยกจับที่ข้างแก้มของตัวเอง
“ไม่มีอะไร”
“ดะ... เดี๋ยวสิ” โอเชี่ยนร้องตามหลัง คนร่างสูงที่ก้าวเดินลับหายไปอย่างรวดเร็วไม่ทันให้เขาได้วิ่งตามไป คนถูกทักเรื่องใบหน้าจึงรีบหยิบโทรศัพท์เปิดกล้องขึ้นส่องมองหน้าเรียวของตัวเอง
“ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติเลยนี่นา” หลังจากมองดูแล้วไม่พบสิ่งที่แปลกไปจึงเลื่อนโทรศัพท์ลงด้วยความงุนงง เขาได้แต่บ่นพึมพำออกมา
คฤหาสน์สีทอง
ชายเส้นผมสีแดงเจ้าของบ้าน เปิดประตูเข้าห้องนอนของตัวเองก่อนจะทิ้งกายใหญ่ลงนอนบนเตียงใหญ่สีเพลิง ภาพในหัวปรากฏผู้ชายร่างบางเจ้าของดวงตาสีฟ้าทะเล ใบหน้าน่ารักสวยหวาน เส้นผม และผิวกายคนนั้น ที่ทำให้เขาก้าวเข้าหาคนแปลกหน้าอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
เวเฟียสวางหลังมือขึ้นปิดเปลือกตาก่อนจะเผลออมยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว
'ทำไมถึงรู้สึก... มีความสุข'
1 สัปดาห์ต่อมา
ครืด ครืด
"ฮัลโหล” คนมือหนากดรับโทรศัพท์สายหนึ่งที่โทรเข้ามา
“สวัสดีครับคุณคิงเวเฟียส ยินดีต้อนรับกลับนะครับ วันนี้จะแวะเข้ามาตรวจงานใช่ไหมครับ”
“อืม” คุณคิงเวเฟียสที่ปลายสายกล่าวเรียก ตอบกลับเสียงเรียบตามบุคลิกของเขาก่อนจะตัดสายไป
14.00น.
"จริง ๆ ไม่ต้องลำบากนายท่านลงมาจากรถหรอกนะครับ" น้ำเสียงของชายมีอายุคนหนึ่งดังขึ้นจากทางเบาะหน้า เขาก้าวออกจากรถพร้อมกับหยิบร่ม
สีดำคันใหญ่รีบวิ่งมาเปิดประตูพร้อมกางออกให้กับนายท่านของเขา
ชายหนุ่มสวมแว่นตาสีดำเดินลงจากรถโดยมีเลขาพยายามก้าวไวตามมา และคอยระวังผิวกายของนายท่านที่เขาเรียกนั้น ไม่ให้กระทบแสงแดดแม้แต่น้อย
"ที่นี่คือที่สุดท้ายแล้วล่ะครับ เขาเพิ่งมาเช่าใหม่เห็นว่าติดท็อปร้านอาหารยอดนิยมประจำปี ผมว่าจะซื้อฝากภรรยาสักหน่อย" เมื่อทั้งคู่ก้าวหยุดอยู่ที่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง เลขาจอร์นพูดยิ้ม ๆ แล้วหุบร่มลง
"สวัสดีค่ะ เชิญด้านในได้เลยค่ะ รับอะไรดีคะ" เปิดเข้ามาภายในร้าน
มีพนักงานต้อนรับกล่าวทักทาย ร้านเรียบหรูโทนสีฟ้า กว้างขวาง และถูกออกแบบสวยงามน่าใช้บริการ
"เจ้าของร้านอยู่ไหมครับ" เลขาจอร์นกล่าวถามพนักงานสาว
"เชฟเข้าครัวอยู่ค่ะ ต้องการพบใช่ไหมคะ"
"ครับ เดี๋ยวผมสั่งอาหารไปด้วยเลย นายท่านสั่งอะไรไปทานด้วยไหมครับ" เลขาตอบรับพนักงานพร้อมทั้งหันกลับมาถามเจ้านายของเขาที่นั่งกอดอกพิงเก้าอี้ ไม่พูดอะไร แต่แล้วเลขาจอร์นก็ต้องยิ้มแห้งเพราะรู้ตัวว่าพูดผิดไป เลยลุกลี้ลุกลนเล็กน้อย กลัวคนตรงหน้าจะโกรธ
"ขอโทษด้วยครับ" เลขาจอร์นกล่าวขอโทษ และหันไปสั่งอาหารที่มียอดขายดีอันดับหนึ่งของร้านไปหลายรายการ พร้อมแจ้งเรื่องธุระไปเรียบร้อย
ห้องครัว
"เชฟคะ ออเดอร์ล่าสุดลูกค้าแจ้งว่ามาเรื่องสัญญาเช่าค่ะ" หญิงสาวเปิดม่านเข้ามาด้านใน ตะโกนบอกเจ้าของร้านที่ง่วนกับการทำอาหารอย่างตั้งใจ
"ขอบคุณครับ แจ้งเขาว่าผมจะออกไปพร้อมกับอาหารชุดนี้"
"รับทราบค่ะ"
40 นาทีต่อมา [Talk Ocean]
เจ้าของร้านถอดชุดเชฟสีขาวสะอาดออก ก่อนจะเดินมาที่โซนหน้าร้าน แวะพูดคุยกับพนักงานเล็กน้อย
ชายหนุ่มนั่งมองสำรวจรอบร้านกว้างโทนสีฟ้าอ่อน ก่อนจะหันไปเห็น
คนที่คุ้นหน้าคุ้นตา คนตัวเล็กเส้นผมสีชมพูสดใส ยืนพูดคุยออกคำสั่งพนักงานด้วยสีหน้าจริงจัง สลับกับยิ้มแย้มดูเป็นมืออาชีพ รอยยิ้มของเขาสดใสจนทำให้คนที่กำลังจ้องมองแทบละสายตาไม่ได้
"ให้เขาเซ็นสัญญาระยะยาวที่ยอดเงิน 0 ยูโรแล้วไม่ต้องบอกว่าฉันมาด้วย" คนร่างสูงออกเสียงสั่งตามใจตน ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ มือหนาคว้าร่มดำ
เดินออกไปจากร้านในทันที
“ทำไมล่ะครับนายท่าน?” เวเฟียสไม่สนใจเสียงร้องถามของเลขาจอร์นแม้แต่น้อย ทิ้งไว้เพียงความงุนงง เลขาหันไปมองตามนายของตัวเองที่เดินออกไปจากร้าน
‘เมื่อกี้เขาพูดผิดหรือผมฟังผิดกันแน่ ศูนย์ยูโรเนี่ยนะ เขาจะได้อะไร?' สถานการณ์พลิกผัน และพฤติกรรมของเจ้านายที่แปลกไปจากที่เคย ทำให้ชายสูงวัยแบบเขาไม่สบายใจเพราะกลัวที่จะทำงานผิดพลาด เลขาจอร์นได้แต่คิดก่อนจะหลุดจากภวังค์เมื่อมีเสียงชายหนุ่มอีกคนกล่าวทักทาย
"สวัสดีครับ คุณจอร์นทำไมมาคนเดียวล่ะครับ ไหนว่าเราจะเซ็นสัญญากันไม่ใช่เหรอครับ" ผมเดินเข้ามาเห็นเขานั่งอยู่คนเดียว ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเขาแจ้งว่าจะมีการเซ็นสัญญาฉบับจริงเมื่อเจ้านายของเขามาด้วย
"ครับคุณโอเชี่ยน พอดีนายท่านติดประชุม เขาแจ้งว่าให้คุณเซ็นสัญญาฉบับนี้ได้เลยครับ" เลขาจอร์นพูดขึ้นพร้อมจัดวางเอกสารลงบนโต๊ะด้านหน้าของผม
"คือว่า...ยอดเงินผิดหรือเปล่าครับ" ผมมองจ้องที่ช่องตัวเลขอยู่ครู่ใหญ่ มันมีเพียงตัวเลขกลม ๆ หนึ่งหน่วยในช่องประนั้น
"ถูกแล้วครับ" เลขาจอร์นยิ้มบาง ๆ ให้กับผม
‘มีแบบนี้ด้วยเหรอ ให้เช่าตึกฟรี’
“มันจะดีเหรอครับ ช่วยบอกเหตุผลหน่อยได้ไหมครับ”
“ผมแค่ทำตามหน้าที่ครับ เรื่องเหตุผลผมไม่ทราบ อย่าทำให้ผมเดือดร้อนเลยนะครับ” เจ้าของเส้นผมสีหวานนั่งนิ่งไป เพราะไม่เคยเจอเรื่องราวแบบนี้มาก่อน และคิดไปว่ามันจะเป็นผลดีกับธุรกิจของเขาในระยะยาวจริง ๆ งั้นเหรอ
“นายท่านรวยมาก เขาอาจจะอยากช่วยคุณ ยังไงก็ช่วยลงนามให้ผมด้วยนะครับ” เลขาจอร์นสังเกตเห็นความกังวลของโอเชี่ยนจึงพูดเพื่อให้เขาสบายใจ แม้ตนจะไม่รู้ถึงเหตุผลที่แท้จริงด้วยเช่นกัน
'ไม่เซ็นคงไม่ได้ เลขาจอร์นเขาจริงจังกับงานไม่น้อยเลย' โอเชี่ยนเซ็นชื่อลงก่อนจะเลื่อนกระดาษส่งคืน'
“ขอบคุณครับ เรื่องสัญญาเรียบร้อยแล้วนะครับ” ชายในชุดสูทรีบจัดเก็บเอกสารใส่ซองทันที
"ขอบคุณที่มาอุดหนุนทางร้านของเรา ยังไงเมนูนี้ผมฝากให้เจ้านายของคุณลองชิมด้วยนะครับเป็นเมนูใหม่ที่ผมทดลองทำ" โอเชี่ยนกล่าวขอบคุณพร้อมยื่นถุงอาหารให้กับเขา
‘ผมไม่รู้ว่าเจ้านายของเขาเป็นคนยังไง ทำไมรูปแบบสัญญาดูเหมือนจะเป็นผมที่ได้ประโยชน์อยู่ฝ่ายเดียว หรือเขาอาจจะเป็นคนที่ใจดีมากคนหนึ่งนะ’
ว่ากันว่าคนตายไปแล้วจะกลายเป็นเถ้าถ่าน กลายเป็นปุ๋ยอินทรีย์ให้ต้นไม้ใบหญ้า สิ้นสุดวงจรชีวิต ไม่มีวัฏสงสาร ไม่มีการเวียนว่ายตายเกิด ถ้านั่นเป็นความเชื่อในทางวิทยาศาสตร์น่ะนะ สายลมเคยเชื่อแบบนั้น ด้วยเป็นเด็กเรียนด้านวิทยามากระทั่งวันนี้ความคิดของเขาถึงได้เปลี่ยนไป “เจ้าเม่นน้อย ตื่นได้แล้วลูก” นั่นแหละครับ สายลมที่ควรจะตายไปตั้งแต่รถชนกระเด็นอัดเสาไฟฟ้าแม้เดินอยู่บนทางม้าลาย ...เช้านี้กลับได้ยินน้ำเสียงหวาน ๆ ปลุกให้ตื่นแล้วเรียกเขาว่าลูกอีกครั้ง...
สนุกมากไหมเรย์! ปั่นหัวพี่สนุกมากไหมครับ? แล้วถ้ายังดื้ออีกระวังน้ำหมดตัว!
ชายบาดเจ็บคนหนึ่งที่ผมช่วยไว้ หนีไปพร้อมหม้อข้าวต้มหมู วันต่อมาผมกลับได้เจอเขาอีกครั้งที่มหาวิทยาลัย มันประหลาด "คืนเดียวแผลหายได้ยังไง คนเดียวกันจริงงั้นเหรอ?"
ใครจะไปคิดว่าผู้ชายที่วิ่งมาหลบหลังฉัน เพราะหนีสาว ๆ ของตัวเองจะกลายมาเป็นเจ้านายของฉันกันล่ะ แถมยัง... ปากร้าย แต่ยังน้อยไป เจอฉันหน่อยแล้วกัน จะลอกคราบเสือให้สิ้นลายไปเลย “คนอย่างเธอแค่เงินก็พอสินะ งั้นมาเป็นเด็กในการดูแลของฉันสิ” “ฉันยอมทำงานไปจนตายดีกว่าเป็นเด็กของคุณ!” “เธอนี่... ไม่อ่อนโยนเหมือนผู้หญิงคนอื่นเลยนะ” “คนอื่นที่หมายถึงคือผู้หญิงของคุณน่ะเหรอคะ งั้นก็ขอโทษด้วยท่านประธาน ฉันไม่ใช่คนของคุณ ถ้าโหยหาความอ่อนโยนก็ไปหาสาว ๆ ของคุณ! แล้วช่วยเลิกยุ่งกับฉันสักที!”
“อิงฟ้า นี่คือองศา ต่อไปนี้เธอจะมาเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของลูก ไปไหนมาไหนก็จะไปพร้อมกับลูกยกเว้นแค่เวลานอนหลังจากที่ส่งลูกถึงคฤหาสน์ของเราแล้ว องศาจะต้องกลับบ้านไปและก็จะกลับมาในเช้าวันใหม่เพื่อรอรับลูกไปโรงเรียนแล้วเรียนรู้ธุรกิจ ทำกิจกรรม activity อะไรต่างๆ ก็จะต้องมีเขาไปด้วยตลอด” “แต่พ่อคะ อิงบอกแล้วไงว่าไม่เอาบอดี้การ์ด” “ลูกบอกแค่ว่ายังไงก็ไม่เอาบอดี้การ์ดผู้ชายเด็ดขาด ก็นี่ไงองศา ไม่ใช่ผู้ชาย ก็ตรงตามเงื่อนไขที่เราตกลงกันแบบนี้จะมาโวยวายไม่ได้นะอิงฟ้า” 'ชิ คนอะไรหน้าบูดบึ้งขนาดนั้น ถูกบังคับให้มาเป็นบอดี้การ์ดรึไง ทำให้เหม็นขี้หน้าตั้งแต่แรกเจอเลยจริง ๆ'
“ฟังเรานะ เราบอกว่า เลิกกันเถอะ เราไม่ได้รักเธอแล้ววิน…จบกันแค่นี้นะ” จากเพื่อนสนิทกลายเป็นคนรัก แต่เพราะความห่างเหินบางอย่างทำให้ความสัมพันธ์ของวินเทอร์และอบอุ่นเปลี่ยนไป แม้จะยอมปล่อยมือจนอบอุ่นไปคบใครอื่น ทว่าวินเทอร์กลับยังคงรักฝังใจ เป็นใครคนหนึ่งที่อบอุ่นคอยปรึกษาอยู่เสมอ เพียงแต่... อยู่ในสถานะลับ วินเทอร์เฝ้ามองอบอุ่นอยู่เสมอ ไม่กล้าเปิดเผยตัวตน ไม่กล้าพูดว่ายังรัก ในขณะที่อบอุ่นค้นพบหัวใจตัวเองในวันที่สาย ไม่รู้เลยว่าวินเทอร์จะให้โอกาสเธอได้อีกไหม เพราะเธอรู้ตัวว่าคนผิดคือเธอมาโดยตลอด เป็นเธอที่โยนทิ้งความรักดี ๆ
เมื่อความเสียใจมันทำให้เธออยากลอง!!! "เรามาลอง...กันไหมค่ะ" ประโยคบ้าระห่ำที่ฉันพูดกับคนแปลกหน้าในคืนนั้น ฉันไม่นึกว่ามันจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของชีวิต... เส้นทางชะตาชีวิตที่เล่นตลก เพราะคำพูดเพียงประโยคเดียว... การโดนทรยศ และ การเจอกันโดยบัญเอิญ จนทำให้เกิดการเดิมพันท้าทายเล่นเกมบ้าๆ กันขึ้นมา โดยที่สาวเจ้าไม่รู้ตัวเลยว่า...มันจะนำพาให้ชีวิตเธอเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล!!! ------------------------------------------------------------------------------------------------ ...เธอจำต้องอยู่ต่อไป หรือ ตายเพื่อชดใช้เวรกรรม...ที่ตัวเองเป็นคนสร้างขึ้น ------------------------------------------------------------------------------------------------ เรื่องย่อ: เอลิซ : หญิงสาวแสนสวยที่แสนซื่อจนถูกคนที่รัก "หักหลัง" จนทำให้ชีวิตของเธอปัดเป๋ และเพียงเพราะเธอแค่ต้องการที่จะประชดชีวิตเท่านั้น แต่การกระทำนั้นก็ดันพาเธอหลงเข้าไปยังเกมสวาทที่เธอเป็นผู้เดิมพัน เซฟ : ชายหนุ่มผู้มั่งคั่งร่ำรวยติดอันดับต้นๆ ของประเทศ เจ้าของธุรกิจทั้งขาวและเทา เบื้องหลังเขาคือมาเฟียอันดับหนึ่ง เขาที่โชคชะตานำพามาให้เจอกับหญิงสาวคนนั้นแถมยังถูกท้าทายจากเกมเดิมพันอันล่อแหลม และมีหรือที่ผู้ชายอย่างเขาจะยอมปฏิเสธ ฝากกดติดตามและเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ ⚠️คำเตือน⚠️ เนื้อเรื่องนี้เหมาะสำหรับคนที่อายุ 18 ปีขึ้นไป มีฉากติดเรท เนื้อหาไม่เหมาะสม ความรุนแรงเพศ และการใช้ภาษา ซึ่งต้องใช้วิจารณญาณในการอ่าน ที่สำคัญเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น!!!
หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”
เธอถูกบังคับแต่งเข้าตระกูลเสิ่น ทุกคนต่างก็คาดหวังว่าเย่ชิงซีจะสามารถให้กำหนดลูกของคุณชายเสิ่น เสิ่นเซียวเหยาได้ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในอาการหมดสติ เดิมที่เธอคิดว่าเธอคงจะต้องอยู่เป็นหม้ายไปแบบนี้ตลอดชีวิตนี้แล้ว แต่ไม่คิดว่าสามีเจ้าชายนิทราของเธอกลับฟื้นขึ้นมาได้! ชายหนุ่มลืมตาขึ้น จ้องมองไปยังเธอด้วยสายตาที่เย็นชา "คุณเป็นใคร?" "ฉันเป็นภรรยาของคุณ..." เสิ่นเซียวเหยามีสีหน้างุนงง "ทำไมผมถึงจำไม่ได้ว่าผมมีภรรยาแล้ว ผมไม่ยอมรับการแต่งงานนี้ พรุ่งนี้ผมจะให้ทนายมาจัดการเรื่องหย่า" ถ้าไม่ใช่เพราะคนในตระกูลเสิ่นเข้ามาหยุดเขาไว้ เธอคงจะกลายเป็นภรรยามหาเศรษฐีที่โดนทิ้งในวันที่สองหลังจากการแต่งงานไปแล้ว ต่อมาเธอตั้งครรภ์และวางแผนว่าจะออกไปจากตระกูลเสิ่นอย่างเงียบๆ แต่ชายหนุ่มกลับไม่ยอมปล่อยเธอไป เย่ชิงซียืนยัน"เสิ่นเซียวเหยา คุณรังเกียจฉันมากนักไม่ใช่เหรอ ฉันต้องการหย่า!" เขาลดท่าทีที่เย่อหยิ่งมาโดยตลอดลงและเข้าไปกอดเธอไว้ในอ้อมแขน "ในเมื่อคุณแต่งงานกับผมแล้ว คุณก็เป็นคนของผม คิดจะหย่างั้นเหรอไม่มีทางน่ะ!"
ร้อยดาวตะวันเดียว [My DayLight] ------------------------------------------------ ‘ร้อยดาวตะวันเดียว’ ได้แรงบันดาลใจจากคนกลุ่มหนึ่งในเมืองหลวงอันแสนจะทันสมัย เจริญด้วยสรรพสิ่งรอบด้าน และคนกลุ่มหนึ่งที่ประกาศให้สังคมรับรู้ว่าได้พลีกายใจให้กับงานด้านสังคมสงเคราะห์ ซึ่งถือเป็นเปลือกนอกที่สวยงาม เป็นที่น่าชื่นชมแกผู้พบเห็น แต่น้อยคนนักที่จะมองถึงแก่นแท้ภายใจว่าแอบซุกซ่อนอะไรเอาไว้บ้าง บางคนหวังจะได้ชื่อเสียงอันเลื่องลือตามติดมา บางคนหวังให้ได้ผลประโยชน์ทางอ้อมทางธุรกิจ บางคนหวังส่งตัวเองให้ขยับสูงขึ้นอีกชั้น อีกชั้น และอีกชั้น หรือถ้ามีก็น้อยคนนักที่จะกล้าป่าวประกาศให้คนเหล่านี้ได้รู้ แต่กลับทำเป็นเมิน ทำเป็นมองไม่เห็น ทำเป็นไม่สนใจในความทุเรศทุรังของสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่นี้ อาทิตยา พุทธิรักษุ์ ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคนดังกล่าวด้วย และพยายามดิ้นรนให้หลุดพ้นจากผู้คนในสังคมนี้ ทุกวิถีทาง แต่ก็ไปไม่รอด หลีกหนีไม่ได้ เมื่อมีบ่วงบุญคุณเข้ามาค้ำคออยู่ หญิงสาวได้แต่บอกับตัวเองว่าจะหันหลังให้คนกลุ่มนี้เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสมจริงๆ เท่านั้น ทว่ากลับทำอย่างที่คิดไว้ไม่ได้ เมื่อมีบ่วงอย่างเช่น จิณณวัตร วัชราเวโรจน์ บุตรชายคนโตของเจ้านายที่เป็นหนึ่งในหลายคนของสังคมไฮโซจอมปลอมนี้ และเขาจะเป็นบ่วงเป็นโซ่ล่ามเธอไว้ให้ติดแหงกอยู่ในที่ๆ เธออยากหลีกหนีหรือไม่ และเธอจะลบเลี่ยงหรือถอนตัวออกจากวังวนบุญคุณได้ได้ยังไง เพราะอะไรเธอจึงต้องหนี เพราะอะไรเขาจึงต้องอยากล่ามเธอไว้ เธอจะหนีไปได้ยังไง ด้วยเหตุผลกลใด เขาจะต้องทำยังไง จะต้องใช้อะไรเพื่อจะเก็บเธอไว้ให้ได้อยู่ข้างกายตลอดกาล คำตอบทั้งหมดมีใน ‘ร้อยดาวตะวันเดียว’ เล่มนี้ที่ผ่านผู้อ่านถืออยู่ในมือแล้วค่ะ ขอขอบคุณนักอ่านทุกท่านค่ะ สำหรับกำลังใจที่มีให้ ‘กันเกรา’ ด้วยดีเสมอมาและจะตลอดไป สัญญาค่ะว่าจะใช้มันสมองและสองมือกลั่นกรองผลงานดีๆ ออกมาให้ท่านได้ติดตามต่อไปค่ะ แม้ในโลกความเป็นจริงจะต่างจากความฝัน แต่โลกในนิยายรักนั้นจะสรรค์สร้างรอยยิ้มให้คุณได้
ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก
เผิงฟู่หลิน บุตรสาวราชครูเผิงผู้ยิ่งใหญ่ นางทั้งรูปงาม ทั้งเพียบพร้อมด้วยความสามารถ แต่ผู้คนกลับตราหน้าว่านางเป็นคุณหนูใจโฉด ทั้งร้ายกาจ ทั้งเอาแต่ใจ ในเมื่อนางรักมั่นทั้งหัวใจ แต่กลับได้รับเพียงความว่างเปล่า เช่นนั้นนางจะหันหลังให้บุรุษทุกคน....
© 2018-now MeghaBook
บนสุด