รองประธานหนุ่มต้องมาเจรจากับอินฟลูเอนเซอ์ เพื่อให้เธอช่วยแก้ข่าวเรื่องอุบัติเหตุแต่พอได้เจอหน้า เขากลับยื่นข้อเสนอให้เธอเป็นแฟนของเขา
รองประธานหนุ่มต้องมาเจรจากับอินฟลูเอนเซอ์ เพื่อให้เธอช่วยแก้ข่าวเรื่องอุบัติเหตุแต่พอได้เจอหน้า เขากลับยื่นข้อเสนอให้เธอเป็นแฟนของเขา
“คุณธีคะแย่แล้วค่ะ” ทิพย์สุดาเลขาวัยกลางคนรีบพูดทั้งที่ตัวเองยังเดินไม่ถึงโต๊ะทำงานของเจ้านายเลยด้วยซ้ำ
“มีอะไรคุณทิพย์ ใจเย็นค่อยๆ พูดก็ได้”
“ใจเย็นไม่ได้แล้วค่ะคุณธีตอนนี้โรงแรมเรากำลังเป็นข่าวดังในโซเชียลเลยนะคะ”
“ข่าวดังอะไรเหรอคุณทิพย์หรือว่ามีดาราดังจากต่างประเทศเข้ามาพักล่ะ” ธีธวัชพูดแล้วหัวเราะให้กับเลขาหน้าห้องที่ดูท่าทางจะตื่นเต้นกว่าทุกครั้ง
ปกติแล้วโรงแรมหรูระดับห้าดาวของเขาจะมีทั้งดารา นักร้อง เซเลบริตี้และคนที่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะชาวไทยหรือชาวต่างชาติเข้ามาพักอยู่เป็นประจำและเลขาของเขาก็มักจะตื่นเต้นแบบนี้อยู่ทุกครั้ง
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะคุณธีธวัชครั้งนี้ข่าวมันไปในแง่ลบ”
“ข่าวอะไร” พอได้ฟังคำว่าแง่ลบจากปากของเลขาวัยกลางคนธีธวัชก็หน้าเครียดขึ้นมาทันที
“คุณธีดูนี่สิคะ” เลขาสาวส่งแท็บเล็ตในมือตัวเองที่เปิดเพจบันเทิงเพจหนึ่งค้างไว้
‘อินฟลูเอนเซอร์สาวชื่อดังได้รับบาดเจ็บที่ขาขณะเข้าพักโรงแรมหรูย่านทองหล่อ หวังจะพักผ่อนให้สบายใจแต่กลับไม่เป็นอย่างนั้น ขณะที่กำลังนอนหลับอยู่หลอดไฟบริเวณปลายเตียงก็เกิดระเบิดขึ้นมาจนสะเก็ดของหลอดไฟกระเด็นมาบาดข้อเท้าเป็นแผลยาว ซึ่งตอนนี้กำลังเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งไม่รู้ว่าขาสวยๆ ชองเธอจะเป็นแผลเป็นหรือเปล่า’
“เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไงแล้วเกิดตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมไม่มีใครรายงานเรื่องนี้มาเลย” ธีธวัชหันมาถามเลขาด้วยอารมณ์ขุ่นมัวเพราะข่าวนี้มันทำให้โรงแรมของเขาเสียชื่อเสียง ถึงแม้ในข่าวจะไม่ได้บอกชื่อโรงแรมแต่ทุกคนก็รู้เพราะก่อนหน้านั้นอินฟลูเอนเซอร์เช็กอินที่โรงแรมของเขา
“ทิพย์ถามผู้จัดการโรงแรมมาแล้วค่ะเขาบอกว่าคืนวันเกิดเหตุอินฟลูเอนเซอร์คนนั้นไม่ได้บอกเราเลยค่ะว่าเธอมีบาดแผลที่ไหนเธอบอกแค่เธอตกใจและขอเช็กเอาท์ทันที”
“แล้วทำไมข่าวแบบนี้มันถึงหลุดออกไปได้ ไม่มีการเจรจากับคู่กรณีก็เลยเหรอ”
“พนักงานที่ทำงานกะดึกบอกว่าพวกเขาเสนอให้เปลี่ยนห้องแต่เธอก็รีบกลับไปก่อน”
“ตอนนี้เธอรักษาตัวอยู่ที่ไหน มีคนของเราตามไปดูแลหรือเปล่า”
“ตอนนี้น่าจะยังค่ะเพราะข่าวเพิ่งออก”
“คุณไปสืบมาว่าเธอรักษาตัวอยู่ที่ไหน แล้วสั่งกระเช้าของเยี่ยมให้ผมด้วย”
“คุณจะไปเยี่ยมเธอเหรอคะ”
“เรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้วผมไปคุยกับเธอเองน่าจะดีกว่า”
“คุณธีรอสักครู่นะคะเดี๋ยวทิพย์จะตามเรื่องให้”
“อย่าช้านะคุณทิพย์เราต้องจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดและเงียบที่สุด”
“ค่ะคุณธี”
เมื่อเลขาออกไปแล้วธีธวัชก็หยิบแท็บเล็ตของตัวเองขึ้นมาเปิดเพจข่าวที่เลขาบอกเมื่อครู่ ซึ่งตอนนี้ใต้ข่าวนั้นมีคนเข้ามาวิจารณ์กันอย่างสนุกปาก
เรื่องนี้มันก็ฟังดูเหมือนเป็นแค่อุบัติเหตุธรรมดาเท่านั้น ถ้าหากคนที่มาเข้าพักไม่ใช่อินฟลูเอนเซอร์ที่มีคนตามหลักล้าน การเจรจาตกลงค่าเสียหายและรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลก็น่าจะเป็นอะไรที่ง่ายมาก แต่ตอนนี้ข่าวมันแพร่กระจายไปเป็นวงกว้าง หลายคอมเมนต์ที่พูดถึงความไม่ปลอดภัยของโรงแรม ซึ่งมันอาจจะส่งผลกระทบกับโรงแรมในเครือ Mega Heaven Plus อีกหลายสาขาทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศก็ได้
ธีธวัชคิดว่าเขาจะต้องรีบไปเยี่ยมหญิงสาวให้เร็วที่สุดเพราะถ้าหากช้าข่าวก็คงกระจายไปถึงสาขาต่างประเทศแน่ๆ
เมื่อเจอเธอแล้วเขาจะขอโทษเธอ และแสดงความรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องค่ารักษาพยาบาลและค่าเสียเวลารวมถึงค่าทำขวัญชายหนุ่มคิดว่าถ้าเขาขอโทษและแสดงความรับผิดชอบอย่างจริงใจเรื่องนี้ก็จะจบลงโดยง่าย
การที่มีข่าวแบบนี้เกิดขึ้นในโรงแรมมันไม่เป็นผลดีเลยเพราะตอนนี้กำลังจะเปิดตัวโรงแรมแห่งใหม่ ธีธวัชคิดว่าบางทีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันจะอาจจะไม่ใช่อุบัติเหตุเพราะเขาเคยเจอเหตุการณ์ลักษณะคล้ายกันแบบนี้และพอสืบลึกลงไปก็พบว่าคู่แข่งทางธุรกิจเป็นคนจ้างให้คนเข้ามาทำลายชื่อเสียง ซึ่งเขาจะนิ่งเฉยไม่ได้เพราะสมัยนี้ข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้นทางโซเชียลมันมีผลกระทบและกระจายไปอย่างรวดเร็ว บางคนแทบจะไม่ฟังความจริงด้วยซ้ำ พวกเขาเชื่อแค่สิ่งที่ได้อ่านครั้งแรกและเมื่อแถลงข่าวแก้ตัวหรืออธิบายเหตุผลพวกเขาก็แทบจะไม่สนใจเพราะได้เชื่ออะไรไปแล้วก็จะเชื่อไปตามนั้น
ระหว่างรอข้อมูลจากทิพย์สุดาธีธวัชก็ดูข้อมูลของผู้หญิงคนที่เกิดอุบัติเหตุเธอมีคนติดตามในแต่ละแพลตฟอร์มเยอะมากซึ่งเขาเองเป็นคนไม่สนใจสื่อพวกนี้เลยแค่ทำงานเวลาในแต่ละวันก็เกือบจะไม่พอ
ธีธวัชตัดสินใจสมัครบัญชีเฟชบุ๊กเพื่อจะได้ตามเข้าไปดูเพจที่หญิงสาวเป็นเจ้าของ
เขาเผลอยิ้มโดยไม่รู้ตัวเมื่อเห็นคลิปที่หญิงสาวรีวิวคาแฟ่แห่งหนึ่งซึ่งดูแล้วเธอมีความสุขกับการถ่ายรูปและการรับประทานอาหารเอามากๆ
นอกจากหญิงสาวจ๊ะรีวิวร้านอาหารคาเฟ่แล้วยังขายสินค้าออนไลน์ลงช่อง TikTok อีกทั้งบางครั้งก็สวมชุดว่ายน้ำถ่ายรูปอีกด้วย
สายตาเจ้าชู้ของธีธวัชมองรูปมองผู้หญิงตัวเล็กผิวขาวที่สวมบิกินี่น้อยชิ้นด้วยนัยน์ตาเป็นประกาย เธอเป็นผู้หญิงที่ไม่สูงมากแต่สัดส่วนของเธอนี่สิคือสิ่งที่สะดุดตาเขา เอวหญิงสาวคอดเล็กหากแต่สะโพกผาย หน้าอกที่แทบจะล้นทะลักออกจากบีกินี่ตัวจิ๋ว
เพียงแค่เห็นมันก็ทำให้เลือดในกายของชายหนุ่มพลุ่งพล่านนานแล้วที่ไม่เคยถูกใจใครเพียงแค่เห็นรูปแบบนี้มาก่อนผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่น่าสนใจมากๆ และเขาแทบจะทนรอที่จะพบเธอไม่ไหว
ความผิดพลาดในคืนนั้นทำให้ชีวิตของวิรัลพัชรเปลี่ยนไปเมื่อรู้ว่าตัวเองตั้งท้อง เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำใครคือผู้ชายคนนั้นเป็นใคร แต่เขาจำได้และเมื่อรู้ว่าเธอกำลังท้องลูกของเขาชายหนุ่มก็ก้าวเข้ามาในชีวิตเพียงเพื่อต้องการลูกของเธอเท่านั้น
นานนับปีแล้วที่อรณิชาไม่ได้รับความสุขจากสามี เขาอ้างว่าเพราะงานแต่จริงๆ แล้วเขามีคนอื่นโดยที่อรณิชาไม่รู้ หญิงสาวจึงให้เวลาเขาและเธอหนึ่งเดือนเพื่อจัดสินใจว่าจะเอายังไงต่อกับชีวิตคู่ หญิงสาวจึงกลับมาที่เมืองไทย และได้เจอกับอดีตคน รักความสุขความผูกพัน ทางใจในอดีตกับกลายเป็นความสัมพันธ์ทางกายในปัจจุบัน ความใกล้ชิดในช่วงเวลาสั้นๆ ทำให้ทั้งสองเผลอใจก้าวข้ามเส้นที่ขีดไว้ไม่สนใจทถูกผิดมองแค่บนเตียงเพียงอย่างเดียว
ความสัมพันธ์ระหว่างนายหัวหนุ่มและนักศึกษาสาว ที่ห่างกันทั้งอายุและระยะทางนายหัวหนุ่มจะทำให้เธอรักเขาได้อย่างที่เขารักเธอหรือไม่คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
ในคืนที่โดนแฟนเอายาปลุกเซ็กซ์ใส่เครื่องดื่ม เธอขอให้ชายคนหนึ่งช่วย พอเช้ามาถึงได้รู้ว่าเขาคือเพื่อนสมัยเรียนเขาขู่ให้เธอยอมเป็นคู่นอนของเขาโดยบอกว่ามีคลิปในคืนนั้นเธอยอมเพราะคำขู่แต่เมื่อรู้ว่าเขาไม่มีคลิปทุกอย่างระหว่างเขากับเธอก็จบแต่เขาไม่ยอมจบเพราะตอนนี้คิดกับเธอมากไปกว่าคู่นอนไปแล้ว
สายตาที่ประสานกันมันบอกอย่างชัดเจนว่าตอนนี้ชายหนุ่มนั้นลืมคำว่าผู้ปกครองกับเด็กในปกครองไปแล้ว **************** หญิงชายสมัยนี้มันเท่าเทียมกันนะบัว เธอคิดว่าจะนอนกับฉันและทิ้งฉันไปง่ายๆ แบบนั้นเหรอ ไม่มีทางหรอก เธอต้องรับผิดชอบทั้งตัวฉันและความรู้สึกของฉัน
เพราะคู่หมั้นของเธอเป็นต้นเหตุทำให้น้องสาวของเขาเสียชีวิต เธอจึงเป็นหมากตัวสำคัญในการแก้แค้นของเขา แต่ทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คิด กลายเป็นเขาที่รู้สึกผิดและทำทุกอย่างให้หมากตัวนี้เป็นของตนเอง
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
“สวิงของต้นกับอ้อ” ถูกเขียนขึ้นในวันที่ 10 เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2555 โดยลงในเว็บไซต์ Sudswing ที่ปัจจุบันปิดตัวถาวรไปนานแล้ว แต่เชื่อว่ายังอยู่ในความทรงจำของใครหลาย ๆ คน ซึ่งหากนับเวลาแล้วก็ครบรอบ 13 ปี พอดี ณ วันที่กำลังเริ่มต้นลงฉบับพิเศษของนิยายเรื่องนี้ โดยมีการปรับปรุงเนื้อหาในแต่ละตอนให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น รวมถึงการรวมตอนพิเศษและตอนที่หายไปเอามาไว้ในเรื่องนี้ สำหรับไรต์แล้ว “สวิงของต้นกับอ้อ” คือลูกคนโตและลูกรักที่นำพาให้ไรต์ก้าวมาเป็นนักเขียนอย่างเต็มตัวในนิยายสายอีโรติกแนวสวิงกิ้ง NTR, Cuckold, 3P, นิยายแนวเมียสาวเหงารัก รวมถึงแนวที่สามีอยากเห็นภรรยาของตัวเองไปมีอะไรกับชายอื่น ยังไงขอฝากนิยาย “สวิงของต้นกับอ้อ” ฉบับครบรอบ 13 ปีนี้ เอาไว้ให้นักอ่านได้ติดตามกันด้วย ขอบคุณสำหรับทุกการสนับสนุนที่ทำให้ไรต์ยังคงเดินต่อไปได้บนถนนสายตัวอักษรนี้ครับ
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!
ในชาติก่อน ซูเยว่ซีถูกอวิ๋นถังยวี่ทำร้ายจนตาย ทำผิดต่อครอบครัวของท่านตา และตัวเองยังถูกทรมานจนตาย เกิดใหม่ครั้งนี้ นางตั้งใจจะจัดการกับพวกผู้ชายชั่วและหญิงเลวจัดการพ่อชั่ว เพื่อปกป้องแม่และครอบครัวของท่านตาให้ปลอดภัย พวกผู้ชายชั่วเข้ามาใกล้งั้นเหรอ นางจะใช้แผนให้เขาเสียชื่อเสียง หญิงตีสองหน้าเก่งชอบทำตัวอ่อนแองั้นเหรอ นางจะเปิดโปงธาตุแท้อีกฝ่ายและไล่นางออกจากจวนซู! ในชาตินี้ สิ่งที่นางต้องทำคือการจัดการพวกปลวกที่แอบแฝงอยู่ในราชสำนัก แก้แค้นคนทรยศ เพื่อปกป้องท่านตาที่เป็นคนซื่อสัตย์ นางใช้มือเรียวเป็นเครื่องมือ ก่อให้เมืองจิงเกิดความวุ่นวาย แต่ท่ามกลางความโกลาหล นางได้พบกับองค์ชาย ผู้ที่ทุกคนเล่าลือว่าเป็นคนพิการ “อวิ๋นเฮิง เจ้าจะมาขวางข้าหรือ” อวิ๋นเฮิงยิ้มเบาๆ “ไม่ ข้าตั้งใจจะมาช่วยเจ้า”
เมื่อผู้หญิงที่เพื่อนๆ ตั้งสมญานามว่าแม่ชีอย่างเธอจับพลัดจับผลูต้องมาเจอกับผู้ชายหน้านิ่งที่เอะอะกอด เอะอะจูบอย่างเขา อา…แล้วพ่อคุณก็ดันเป็นโรคนอนไม่หลับ จะต้องนอนกอดเธอเท่านั้นด้วย แบบนี้เธอจะเอาตัวรอดได้ยังไงล่ะ “ชอบอาหารเหนือไหม” “ชอบมากเลยคุณ ให้กินทุกวันยังได้เลย” “มากพอจะอยู่ที่นี่ไหม” “แค่กๆๆ” …………… …………………………………………………………………………………………………………………………. “คุณ! เอากระบอกไฟฉายออกไปวางที่อื่นก่อนได้ไหม มันดันหลังฉัน ฉันนอนไม่หลับ” คนที่ใกล้จะหลับบอกเสียงอู้อี้ “เอ้อ! ไม่มีนี่” เขาบอกเสียงอึกอัก “มันจะไม่มีได้ไง ก็มันดันหลังฉันอยู่เนี่ย” เธอมั่นใจว่ามีแน่ๆ ก็หลักฐานมันทนโท่ขนาดนี้ “อืม! นอนเถอะ ไม่มีหรอก” “จะไม่มีได้ไง ก็นี่ไง” คุณเธอยืนยันด้วยการคว้าหมับเข้าให้ พร้อมหันกลับมา หวังงัดหลักฐานที่อยู่ในมือมาพิสูจน์ให้ได้เห็นกันจะๆ คาตา แต่… ตึก ตึก ตึก อา…! ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่คาตา แต่ยังคามือเธอด้วย เธออ้าปากตาค้างราวกับกำลังตกตะลึงสุดขีด ก่อนจะก้มมองไอ้ที่คิดว่าเป็นกระบอกไฟฉายในมือสลับกับเงยหน้ามองเขา จากนั้นก็… “กรี๊ด…!” เธอร้องลั่นพร้อมกับยื่นเท้าถีบออกไปสุดแรง ตุบ! คนไม่ทันตั้งตัวร่วงตุ้บลงไปบนพื้น ครั้นพอจะลุกขึ้น คุณเธอก็ตะโกนเสียงดังลั่นขึ้นมาอีก “หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะไอ้คนลามก คนเลว คุณมันทุเรศที่สุด คุณให้ฉันจับไอ้นั่นของคุณ มัน…อี๋…! เธอพูดพลางทำท่าขยะแขยง แล้วมาส่องกระบอกไฟฉายพ่อเลี้ยงพร้อมกันนะคะ
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY