ในเมื่ออยากได้ไตของเขาเธอต้องเอาตัวเข้าแลกเท่านั้น! "ฉันไม่มีเงิน จะให้ทำอะไรก็ได้ช่วยพ่อฉันด้วยนะคะ" "เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา ก็แค่..คุณมานอนกับผมแค่ครั้งเดียวก็น่าจะเกินพอ เพราะผมไม่ชอบกินของอะไรซ้ำ ๆ"
ในเมื่ออยากได้ไตของเขาเธอต้องเอาตัวเข้าแลกเท่านั้น! "ฉันไม่มีเงิน จะให้ทำอะไรก็ได้ช่วยพ่อฉันด้วยนะคะ" "เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา ก็แค่..คุณมานอนกับผมแค่ครั้งเดียวก็น่าจะเกินพอ เพราะผมไม่ชอบกินของอะไรซ้ำ ๆ"
แสนรักอยู่ในชุดซาฟารีสีเข้มจากทีมอาสากู้ภัยทางภาคใต้ ปักชื่อแซ่พร้อมสรรพนั่งมองนักท่องราตรีสาว ๆ ที่แต่งตัวด้วยชุดสั้นเสมอหูจากรถกู้ภัยคันเก่าและแก่ ทางตอนหน้าด้วย แววตาเหนื่อยหน่าย ถ้าไม่ใช่เพราะพวกนางแต่งตัวกันมาเพื่อยั่วยวนกวนกิเลสแบบนี้ คิดว่าสังคมคงไม่เกิดเหตุการณ์เลวร้ายที่มักจะเกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวันแน่ แต่ก็นั่นแหละ ถ้าไม่มีพวกหล่อน อาสาอย่างพวกเธอก็คงจะตกงานเช่นกัน หรือถ้าจะให้เรียกแบบหยาบ ๆ ก็ไม่มีจะแดกจากค่าหัวคิวนั่นแหละ
พยาบาลสาวที่วันนี้มาในคราบอาสากู้ภัยกระตุกมุมปากคล้ายแสยะเล็กน้อยให้กับโชคชะตาของตัวเอง จนอมยิ้มที่อยู่ในปากเกือบหลุด ถ้าโชคดีวันนี้มีเหตุด่วนฉุกเฉินมากกว่าสามราย เธออาจได้ค่าน้ำร้อนน้ำชาจากผู้ประสบภัยหรือไม่ก็ได้จากรพ.ที่นำเคสไปส่งให้ ชื่อขึ้นว่าทำเพื่อการกุศล แต่เบื้องลึกเบื้องหลัง สลับซับซ้อน การกินนอกกินใน กินเส้นไม่กินเส้นกันระหว่างกลุ่มอาสาฯ และแก่งแย่งคนไข้กันระหว่างรพ. เรื่องราวมีเยอะแยะจนน่าปวดหัว ช่างปะไร เธอเป็นมนุษย์หาเงินตัวเป็นเกลียว หัวเป็นน๊อต ใครจะสนความถูกผิด ขอแค่คุ้มค่าเหนื่อยที่อุตส่าห์เอาวันหยุดมารับจ๊อบพิเศษแทนเพื่อนก็เพียงพอแล้ว
จากหัวค่ำจนถึงตอนนี้เจอเคสไม่หนักหนา แค่รถเฉี่ยวชนกันเล็กน้อย ไม่ถึงกับสมองไหล แขนหัก ต้องเข้าผ่าตัดด่วน สองเคสก่อนหน้าสบายชิลล์กันไป พอได้ค่าขนมเก็บสะสมเป็นค่ารักษาพยาบาลให้พ่อที่นอนรอรับความช่วยเหลือด้วยโรคภาวะไตวายเรื้อรังในห้องไอซียู
กริ๊งงงง เสียงเตือนจากโทรศัพท์มือถือรุ่นกลางเก่ากลางใหม่หากมันก็ยังใช้ได้ดี คุ้มค่าและราคาที่ซื้อมาแพงแสนแพงในความรู้สึกตอนนั้น
"เฮ๊ย! ไอ้แสน ว่างหรือยัง ส่งเคสเรียบร้อยแล้วใช่ป่ะ"ปราโมทย์เพื่อนอาสาฯที่ยกโอทีวันนี้ให้เธอเพราะเมียกำลังอยู่ในห้องคลอด รอปากมดลูกเปิดอยู่ คุณพ่อมือใหม่ตื่นเต้นจนไม่รู้จะทำตัวยังไง โทรมาหาเธอทุกสิบนาที จนน่าหงุดหงิด
"เพิ่งส่งไปเมื่อ สิบนาทีที่แล้ว ตอนนี้มานั่งเฝ้าชะนีนุ่งสั้นเสมอหูหน้าผับอยู่" แสนรักพูดกับโทรศัพท์น้ำเสียงเนือย ๆ
"เอ้อ! เมื่อกี้พยาบาลบอก.."
"กี่เซนต์? ปากมดลูกเปิดกี่เซนต์แล้ว!"เธอพูดสวนกลับเพื่อนทันควัน ทั้งที่ไอ้เพื่อนรักพูดไม่ทันจบคำดีด้วยซ้ำ
"มึงรู้ได้ไง ว่ากูจะพูดอะไร"
"กูรู้เพราะมึงรายงาน กูทุกสิบนาที อยู่นี่ไง"ปกติเธอไม่ค่อยนิยมใช้คำไม่สุภาพนักหรอก แต่กับไอ้เพื่อนคนนี้ขอเว้นมันคนหนึ่งก็แล้วกัน
"กูตื่นเต้นนี่มึง"
"มึงก็เก็บอาการหน่อยดิวะ กูเป็นพยาบาลห้องฉุกเฉินนะเว้ย ไม่ใช่พยาบาลห้องคลอด หรือมึงจะให้กูออกเวรตอนนี้ ไปอยู่ให้มึงหายตื่นเต้นตรงหน้าเลยดีไหม"แสนรักตะคอกผ่านโทรศัพท์ กรอกหูไอ้เพื่อนสนิทด้วยความเดือดดาล
"เอ้อ! อย่าให้ถึงคราวมึงคลอดลูก กูจะคอยดูหนังหน้าผัวมึงว่าจะทำตัวยังไงคอยดู แค่นี้แหละ ไอ้เพื่อนไม่รัก"
"ไอ้! ยั้ยยย" ไอ้เพื่อนบ้ามันพูดอวยพรทิ้งท้ายเสียจนเธอขนลุกซู่ ท้องกะผีอ่ะสิไอ้บ้า!
ปึง ปึง!!
"เฮ๊ย!" โทรศัพท์ในมือเกือบหลุด เมื่อได้ยินเสียงทุบหนัก ๆ จากตัวรถด้านนอก
"เปิดประตู!"แสนรักเหลือบสายตาไปมองตามเสียงเข้มดุจากคนที่ทุบกระจกรถฝั่งคนขับที่เธอนั่งอยู่ หากมองจากมุมนี้กลับเห็นใบหน้านั้นไม่ชัดนัก
"ไอ้บ้าที่ไหนกันวะ รนหาที่ตายหรือยังไงกัน จะมาปล้นกู้ภัยเนี่ยนะ สิ้นคิดไปหรือเปล่าพวก"พยาบาลสาวที่ขึ้นชื่อว่าขาโหด เปิดประตูผลัวะใส่ไอ้โจรตาถั่วอย่างตั้งใจ
"อุ๊บ!"และนั่นก็ได้ผล เมื่อมุมประตูปะทะจุดยุทธศาสตร์ของมันอย่างถนัดถนี่เลยทีเดียว ร่างสูงหนาของหมอนั่นถึงกับเสียหลักนั่งคุกเข่าลงไปกุมเป้าตัวเอง คงเจ็บปวดน่าดูล่ะสิท่า..
"เล่นกับใครไม่เล่นไอ้หนู แม่จะเสยด้วยปลายเท้าเป็นของแถมให้ก็แล้วกัน"สายป่านก้าวขาเข้าไปยืนตรงหน้าร่างที่คุดคู้ของไอ้โจรกระจอกหมายจะหวดให้เต็มข้อเสียหน่อย
"ช่วยผม! อยากได้อะไรผมให้คุณได้หมด" เสียงเข้มปนหอบเหนื่อยคล้ายร่างนั้นกำลังต่อสู้กับอะไรบางอย่าง ทำให้พยาบาลสาวหยุดฝีเท้าที่กำลังทำท่าเหวี่ยงใส่เป้าหมายชะงักไว้ได้ทัน แต่ที่ฉุดไม่ให้ปลายเท้าที่สวมด้วยรองเท้าผ้าใบยี่ห้อคอนเวิร์สของแท้ ไว้ได้นั่นก็คือธนบัตรสีทองปึกหนึ่งถูกชูหราขึ้นมาตรงหน้าต่างหากเล่า
"นะ..นายเอาเงินพวกนี้มาจากไหน"ยอมรับว่าใจเธออ่อนยวบไปแล้วตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นเงินนั่น แต่จิตใต้สำนึกอันดีงามของเธอยังอุตส่าห์เปล่งคำถามแบบผู้ดีออกไป
"อย่ามากเรื่อง จะเอาหรือไม่เอา"
"เฮ๊ย! จะใจร้อนไปไหนเฮีย อุ๊บ!"หมอนั่นกระโจนเข้าหาร่างของพยาบาลสาวทันที ฉวยโอกาสตอนที่เธอไม่ได้ตั้งตัว ใช้ร่างกายที่สูงใหญ่กว่าโถมทับร่างเล็กจ้อยให้ล้มลงไปในเบาะรถที่เธอเผลอเปิดประตูทิ้งไว้ พร้อมกับมือหยาบหนาโปะทับมาทั้งใบหน้าของแสนรักจนแทบหายใจหายคอไม่ออก
"เฮ๊ย! แม่งมันหายไปไหนเร็วนักวะ กูเห็นหลังไว ๆ วิ่งมาทางนี้นี่หว่า"
"ก็เออดิวะ เ..ี๊ยเอ๊ย!"
"อ๊วย..อ๊วย!"แสนรักได้ยินเสียงชายวัยฉกรรจ์สองคนวิ่งมาบริเวณที่เธออยู่ จึงร้องเสียงอู้อี้ผ่านมือหนาแม้ไม่รู้ว่าคนเหล่านั้นจะได้ยินเธอหรือไม่ก็ตาม
"ชู่ว์..เงียบไว้ ห้ามส่งเสียง"
"แอ..อะ..อำ..อะ..ไอ.." ฉายาพยาบาลสาวขาโหดไม่ได้มาง่าย ๆ หญิงสาวร่างเล็กหลับหูหลับตาทั้งถีบทั้งดัน ไม่รู้เป้าหมายว่าโดนอะไรไปบ้าง
"บอกให้เงียบยังไงเล่า พูดไม่ฟังเลยใช่ไหมฮึ!"
แม่บอดี้การ์ดสาวจอมเปิ่นจำหน้าหล่อๆของเขาไม่ได้ เบ้าหน้าฟ้าประทานอย่างแดเนียลเฉินนักร้องชื่อดังก้องโลกถูกยัยเด็กนั่นเมินใส่!คอยดูเถอะเขาจะจับเธอให้มาหลงรักจนหัวปักปำเลยคอยดู
นาธานผู้ชายหล่อ ..รวย.. ล่ำ ..น่าปล้ำ..มาทำสามีแห่งชาติ แต่ไหงกลับคลั่งรักสาวไทยหน้าตาบ้านๆ อย่างนางสาวธารใสเอามากๆ หากเจ้าหล่อนกลับชอบถีบหัวส่งเขาตลอดเวลาที่เข้าใกล้มันเพราะอะไรกันเล่า !!!
จะทำอย่างไรดี กับหัวใจดวงน้อย ๆ ของนางสาวจอมขวัญ มงคลเกียรติ ซึ่งเพื่อน ๆ ชอบเรียกว่า “ จอมจุ้น” ตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ที่ดั๊น..ไปตกหลุมรักชายหนุ่มลูกครึ่งไทยอังกฤษ ซึ่งเขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของเพื่อนรักเพื่อนเลิฟของหล่อนเอง ล้อมดาว ก้องกังวาลไกล เข้าจังเบ้อเริ่ม ในงานวันเกิดเพื่อนรัก เพียงแค่แวบเดียวที่ได้เจอหน้าเขาหล่อนก็เผลอพูดออกมาด้วยฤทธิ์กามเทพ หรือเพราะฤทธิ์น้ำส้มก็ไม่รู้ และไม่อาจเดาได้ ถึงได้โพล่งวาจาราวกับจะสาบานกับเบื้องบน “ อยากใช้นามสกุลเดียวกับพี่ชายตัวจังเลยล้อม” และจะด้วยฤทธิ์คำขอส่ง ๆของเธอคงไปถึงหูท่านคิวปิด เลยให้เธอได้เข้าไปทำงานเป็นเบ้ในบริษัทของเขา จับพลัดจับผลู ได้เลื่อนขั้นเป็นถึงเลขาของเจ้านายสุดหล่อ แต่..ความหวังอันเลือนรางของหล่อนจะเป็นจริงขึ้นมาได้อย่างไรล่ะ ก็เจ้านายเธอน่ะสิเจอหน้ากันทีไรเป็นต้องทำหน้ายักษ์ใส่ อย่างกับโกรธกันมาสักร้อยชาติ ทำอะไรก็มีแต่จะคอยส่งสายตาดุ ๆ มาให้อย่างอย่างนั้น แถมยังโดนว่าสารพัดทำอะไรก็ดูเหมือนจะผิดไปหมด เฮ้อ! ชักจะเริ่มท้อแล้วสิ จอมขวัญเพิ่งคิดได้ว่าคนระดับสูงแบบเขาคงไม่มีทางมามองพนักงานธรรมดา ๆ อย่างหล่อนหรอกช่วงหลัง ๆ จึงพยายามที่อยู่ห่าง ๆ จากเจ้านายจอมเฮี้ยบเสีย เพื่อเก็บหัวใจตัวเองไว้ให้รอดปลอดภัยจากคำว่าอกหัก! มัฆวัฒน์ ก้องกังวาลไกล ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง หล่อเหลาเอาการแถมยังอิมพอร์ตมาจากเมืองนอก ด้วยมาดนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง ก้าวเข้ามาบริหารงานอย่างเต็มตัวแทนบิดา ทำให้วงการธุรกิจด้านการโรงแรมและรีสอร์ท ต่างก็ตื่นตัวกับฝีไม้ลายมือ บวกกับความสุขุมรอบคอบ เอาจริงเอาจังกับงานอย่างเขา เป็นที่น่าจับตามองจากคู่แข่งเป็นอย่างมากการงานไปได้สวย แต่เรื่องหัวใจเขากลับไม่มีใครที่จะสามารถทำให้หัวใจอันแข็งแกร่งของเขาหวั่นไหวได้ ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ทำงานมา ชายหนุ่มไม่กล้าที่จะให้ความสนิทสนมกับเพศตรงข้ามเลย ไม่ใช่เพราะว่าเข็ดขยาดเรื่องความรักแต่อย่างใด เพียงแต่เขาต้องการทุ่มเทให้กับงานมากที่สุดเท่าที่มีกำลังจะทำได้ กอปรกับภาระหน้าที่อันหนักหน่วง ทำให้เขาแทบไม่มีเวลาไปกุ๊กกิ๊กกับใคร จนมาพบกับสาวน้อยหน้าตาสดใส ซึ่งในตอนแรกก็ไม่ได้ให้ความสนสนใจอะไรหล่อนมากมายนักหรอก หากพอนานเข้า เขากลับเป็นคนหลงเจ้าหล่อนจนหัวปักหัวปำ แทบถอนตัวไม่ขึ้นเลยทีเดียว แต่ไหงสาวเจ้ากลับมีท่าทีไม่สนในเขา อย่าหวังว่าจะหนีเขาพ้น คนอย่างนายมาร์คลองได้รักแล้วไม่มีวันไม่ปล่อยหล่อนไปง่าย ๆ แน่ "อย่ามายั่วให้รัก แล้วจากไปแบบนี้ ผมไม่ยอมแน่ "
เขา:คัทซึฮิโกะ ฮิโรยูกิ นักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อลูกครึ่งเกาหลี-ญี่ปุ่น พ่อค้าอัญมณีเพชรพลอยที่มีมูลค่ามากมายมหาศาล เดินทางเข้า-ออกประเทศไทยบ่อย จนแทบจะนับได้ว่าเป็นบ้านเกิดของเขาอีกที่หนึ่ง จุดประสงค์หลักที่ทำให้เขาต้องเดินทางมาที่เมืองไทย ไม่ได้เพียงเพื่อนำสินค้ามาแสดงเพียงอย่างเดียว แต่เพื่อตามหาแหวนเพชรอันล้ำค่าทางใจของท่านปู่ของเขา และแล้ว..โชคชะตาก็นำพาให้เขาได้พบของสิ่งนั้นจนได้..แต่น่าแปลกที่ของมีค่าราคาแพงขนาดนั้นกลับตกอยู่ในมือของผู้หญิงไทยตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง หล่อนเป็นใคร? และเกี่ยวข้องอะไรกับแหวนวงนั้น? ที่สำคัญหล่อนได้มันมายังไง? หรือว่า..หล่อนขโมยมันมา.. ไม่ได้การล่ะเขาจะต้องเอาตัวผู้หญิงคนนั้นมาเพื่อพิสูจน์หาความจริงให้จงได้ เธอ:น้ำริน ฤทธิ์รณชัย พยาบาลสาวหน้าใส ที่โดนข้อหาว่าเป็นขโมยแหวนเพชรมูลค่าราคาหลายล้านบาท จากนายหน้าหล่อที่เจอกันบนเครื่องบิน แถมเขายังลักพาตัวหล่อนไปที่ญี่ปุ่นด้วย อะไรกันเนี่ย?! ฉันไม่ได้ขโมยของ ๆ คุณมานะ มีคนให้ฉันมาเอง!..
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...
ชีวิตแต่งงานของฉันพังทลายลงในงานกาลาการกุศลที่ฉันเป็นคนจัดขึ้นมาเองกับมือ วินาทีหนึ่ง ฉันคือภรรยาผู้มีความสุขและกำลังตั้งครรภ์ของเก้า สุวรรณกิจ เจ้าพ่อวงการเทคโนโลยี วินาทีต่อมา หน้าจอโทรศัพท์ของนักข่าวคนหนึ่งก็ประกาศให้โลกรู้ว่าเขากับพราว นิธิวัฒน์ รักแรกในวัยเด็กของเขา กำลังจะมีลูกด้วยกัน ฉันมองข้ามห้องไป เห็นพวกเขาสองคนยืนอยู่ด้วยกัน มือของเก้าวางอยู่บนท้องของพราว นี่ไม่ใช่แค่การนอกใจ แต่มันคือการประกาศต่อสาธารณะที่ลบตัวตนของฉันและลูกในท้องของเราให้หายไป เพื่อปกป้องการเปิดขายหุ้น IPO มูลค่าหลายหมื่นล้านของบริษัท เก้า แม่ของเขา หรือแม้กระทั่งพ่อแม่บุญธรรมของฉันเอง ก็ร่วมมือกันหักหลังฉัน พวกเขาย้ายพราวเข้ามาอยู่ในบ้านของเรา บนเตียงของฉัน ปฏิบัติกับเธอราวกับเป็นราชินี ในขณะที่ฉันกลายเป็นนักโทษ พวกเขาตราหน้าว่าฉันเป็นคนสติไม่ดี เป็นภัยต่อภาพลักษณ์ของครอบครัว พวกเขาใส่ร้ายว่าฉันนอกใจ และกล่าวหาว่าลูกในท้องของฉันไม่ใช่ลูกของเขา คำสั่งสุดท้ายนั้นโหดร้ายเกินกว่าจะคิดฝัน...ให้ฉันไปทำแท้ง พวกเขาขังฉันไว้ในห้องและนัดวันผ่าตัดเรียบร้อย พร้อมขู่ว่าจะลากฉันไปที่นั่นถ้าฉันขัดขืน แต่พวกเขาทำพลาดไปอย่างหนึ่ง... พวกเขายอมคืนโทรศัพท์ให้ฉันเพื่อหวังจะปิดปากฉันไว้ ฉันแสร้งทำเป็นยอมแพ้ แล้วใช้โอกาสสุดท้ายโทรออกไปยังเบอร์ที่ฉันเก็บซ่อนไว้มานานหลายปี... เบอร์โทรศัพท์ของพ่อผู้ให้กำเนิดของฉัน อนันต์ ธีรวงศ์ ประมุขของตระกูลที่ทรงอิทธิพลมากพอที่จะเผาโลกทั้งใบของสามีฉันให้มอดไหม้เป็นจุณได้
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!
“ก่อนทำเรื่องนี้พี่ขอถามน้องภาสักข้อได้ไหม” ธาวิศพูดแล้วก้าวเท้าเข้าไปหาคนบนเตียง “ได้ค่ะ” นิภาก้มหน้ายามตอบ ธาวิศทิ้งสะโพกลงนั่งด้านข้าง พร้อมกับดันปลายคางของหญิงสาวให้ขึ้นมองหน้าเขา “น้องภาเต็มใจใช่ไหม” แววตาของคนถูกถามสั่นระริกไปมา ปากจิ้มลิ้มก็ขยับขึ้นลงเหมือนคนคิดไม่ออกว่าควรตอบอย่างไร “น้องภาพี่ถามว่าเต็มใจใช่ไหม หรือว่าถูกคุณยายบังคับ” คราวนี้ธาวิศเน้นน้ำหนักเสียงมากขึ้นกว่าเดิม “ภาเต็มใจค่ะ” หญิงสาวตอบเขาแล้ว แต่เป็นคำตอบที่เต็มไปด้วยความไม่มั่นใจในตัวเอง “ไม่ได้ถูกบังคับแน่นะ” “ค่ะ ภาไม่ได้ถูกบังคับ ภาเต็มใจค่ะพี่ภูมิ” ธาวิศกัดฟันกรอดในคำตอบที่เขาไม่ปรารถนาจะได้ยิน ออกแรงผลักหน้าอกนิภาจนล้มลงไปนอนอยู่บนเตียง ปลดกระดุมเสื้อนอนของตนเองออกทีละเม็ด โดยที่สายตาก็ยังจดจ้องอยู่กับคนตรงหน้า “ระหว่างเรามันจะไม่มีความผูกพันอะไรกันทั้งนั้น เราทำเรื่องนี้ก็เพื่อคุณยาย เสร็จจากนี้ไปพี่ก็จะกลับกรุงเทพฯ ไปใช้ชีวิตกับคนรักของพี่ตามเดิม ภายังรับได้อยู่ใช่ไหม” ชายหนุ่มพูดจบก็ทิ้งเสื้อนอนลงบนพื้น คนบนเตียงก็ยังเม้มริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่น คำตอบไม่มาสักทีเขาเลยต้องเลิกคิ้วขึงตาใส่ “ค่ะภารับได้” คำพูดที่เปล่งออกมาช่างเบาหวิว คงไม่ต่างไปจากอารมณ์ของคนพูด “รับได้ก็ดี อย่ามาเรียกร้องอะไรทีหลังก็แล้วกัน ไม่งั้นพี่เอาตายแน่” ธาวิศทาบร่างตัวเองลงบนลำตัวของนิภา มองจุดหมายแรกที่จะเริ่มต้นทำรัก ประทับจูบลงบนริมฝีปากนุ่มนิ่มของหญิงสาว สัมผัสแรกของทั้งคู่ช่างตราตรึงในความรู้สึก จากที่จะจูบเพียงแผ่วเบากลายเป็นแทรกลึกดูดดื่มขึ้นตามอารมณ์ (รักซ้ำรอย)
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY