ถึงเขาจะไม่ใช่ชายในสเปก แต่เรื่อง S-E-X เขาก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง
ถึงเขาจะไม่ใช่ชายในสเปก แต่เรื่อง S-E-X เขาก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง
พิมพ์พันดาวยืนนั่งมองแปลนร้านขายยาที่บิดาเป็นคนรับอาสาจะติดต่อช่างและคนงานแล้วก็นึกขัดใจเพราะดูแล้วแบบที่ได้มามันไม่ทันสมัยเอาเสียเลย เธออยากได้ร้านขายยาที่โดนเด่นทันสมัยใครเห็นก็จะต้องอยากเข้ามาซื้อแต่ที่ได้มานั้นเป็นร้านแบบเรียบง่าย มีห้องน้ำเล็กๆ อยู่ด้วยซึ่งเธอคิดว่ามันไม่จะเป็นเลยเพราะเธอเดินเข้ามาใช้ห้องน้ำที่อยู่ห่างจากหน้าบ้านไม่ถึง 20 เมตรได้สบายอยู่แล้ว
“พ่อค่ะพิมพ์ว่ามันไม่โอเคเลยแบบมันเรียบเกินไปนะคะ ที่พิมพ์บอกพ่อคือให้เขาออกแบบให้ทันสมัยที่สุดดูแล้วน่าเข้าที่สุด”
“พ่อก็บอกเขาไปแบบนั้นแหละ”
“แต่ที่ได้มามันไม่ใช่เลยนะคะ”
“คนออกแบบเขาบอกว่าคนแถวนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นชาวบ้านทั่วไป เขาไม่กล้าเข้าร้านหรูๆ หรอกนะลูกเขากลัวราคาจะแพง”
“แต่พิมพ์ไม่คิดจะขายราคาแพงเลย พิมพ์ว่าจะขายเท่าร้านในเมืองเลยนะคะพ่อ”
“แต่คนอื่นเข้าไม่รู้กับเรานะ กว่าเขาจะรู้ก็คงอีกนานแล้วพิมพ์บอกพ่อเองไม่ใช่เหรอว่าอยากขายยาถูกคุณภาพดีมาให้ชาวบ้านเขาจะได้ไม่ต้องไปซื้อในเมือง แต่ถ้าร้านดูหรูหรามากๆ ชาวบ้านไม่เชื่อหรอกว่าราคาจะถูก พ่อว่าเน้นเรียบง่ายแต่ดูสะอาดดีกว่านะ พิมพ์ก็จะได้ไม่ต้องจ่ายเงินเยอะด้วย”
“แต่พิมพ์ไม่ชอบเลยมันดูเชยมาก”
“ถ้าไม่ชอบพ่อจะบอกเขาเปลี่ยนแบบให้ก็ได้แต่ก็รอนานหน่อยนะช่วงนี้งานเขาเยอะ แล้ววันนี้ช่างก็นัดเขาเอาของมาส่งแล้วด้วยนะ”
“เราไปจ้างคนอื่นก็ได้นี่คะพ่อ”
“ช่างที่พ่อติดต่อให้เขาเป็นช่างมีฝีมือ ถ้าไปติดต่อคนอื่นพ่อก็กลัวว่างานจะออกมาไม่ดีนะลูก พ่อว่าหนูลองคิดตามที่พ่อพูดดูสิว่ามันจริงไหม” เพิ่มศักดิ์พยายามพูดให้ลูกสาวได้คิดเพราะเขาเองก็เห็นด้วยกับความคิดเห็นของคนออกแบบ
พิมพ์พันดาวนั่งนิ่งและคิดทบทวนคำพูดของบิดาแล้วเธอก็เริ่มจะเห็นด้วยเพราะจุดประสงค์ที่เธอเปิดร้านขายยาก็เพื่อให้ชาวบ้านได้ซื้อยาในราคาถูก ที่เธอทำแบบนี้ได้ก็เพราะตอนอยู่ที่โรงพยาบาลใหญ่ในกรุงเทพตนเองรู้จักเซลล์ขายยาหลายคนจึงรู้ดีว่าจะติดต่อซื้อของพวกนี้ได้ที่ไหน อีกทั้งพี่สาวและพี่เขยก็เป็นหมอทั้งคู่เรื่องหายาราคาถูกจึงไม่ใช่เรื่องยาก
“แล้วห้องน้ำล่ะคะพิมพ์ว่ามันไม่จำเป็นเลยค่ะ”
“พ่อบอกเขาให้ทำเผื่อไว้นะ บางทีลูกค้าเขาออกมาจากบ้านแวะซื้อของมาหลายที่ว่าจะมาซื้อยาเขาอาจจะอยากใช้ห้องน้ำก็ได้ คนแถวนี้ก็รู้จักกันทั้งนั้นบางทีเวลาพ่อไปตลาดยังไปขอเขาห้องน้ำที่ร้านเขาเลย ส่วนเรื่องทำความสะอาดพ่อจะให้แป้งไปทำให้พิมพ์จะได้ไม่ต้องเหนื่อย”
“พิมพ์แล้วแต่พ่อเลยค่ะ แต่ถ้าคนไหนพิมพ์ไม่รู้จักพิมพ์ก็ไม่ให้ใช้ห้องน้ำนะ”
“ถ้าอย่างนั้นห้องน้ำคงไม่มีคนใช้หรอกคนแถวนี้ไม่ค่อยมีใครรู้จักลูกเลย”
พิมพ์พันดาวนั้นออกจากบ้านไปเรียนมหาวิทยาลัยตั้งแต่อายุ 19 พอเรียนจบเภสัชกรก็สอบบรรจุและทำงานที่กรุงเทพมาตลอด จนตอนนี้หญิงสาวอายุ 29 ย่าง 30 จึงขอย้ายงานมาทำที่โรงพยาบาลในตัวอำเภอที่อยู่ห่างจากบ้านเพียงสามกิโลเมตร
“เดี๋ยวอยู่ไปพิมพ์ก็คงรู้จักคนเพิ่มมากขึ้นเองค่ะพ่อ”
“ช่วงที่พิมพ์เปิดร้านใหม่พ่อจะไปช่วยด้วยดีไหมล่ะ พ่อรู้จักคนเยอะนะ”
“ก็แน่สิคะพ่อเป็นครูสอนที่โรงเรียนประจำอำเภอตั้งสามสิบกว่าปีมีใครบ้างที่ไม่รู้จักพ่อ”
“ถ้าหนูอยากรู้จักคนเยอะก็ตื่นเช้าไปตลาดกับพ่อสิ”
“เอาไว้รอให้พิมพ์ว่าง นะคะพิมพ์ค่อยไปกับพ่อตอนนี้พิมพ์เพิ่งย้ายมางานที่โรงพยาบาลยังไม่เข้าที่เท่าไหร่เลยค่ะ”
“แค่ไปตลาดตอนเช้าใช้เวลาไม่นานหรอก เราจะได้บอกคนอื่นเข้าด้วยไงล่ะว่าตอนนี้กำลังจะปิดร้านขายยา พ่อว่าลูกค้าของหนูต้องเยอะแน่ๆ”
“ก็ดีเหมือนกันนะคะ การตลาดแบบนี้น่าจะเข้ากับคนที่นี่ดี แต่ว่าตอนนี้พิมพ์ขอตัวไปหน้าบ้านก่อนนะคะเหมือนได้ยินเสียงรถเอาของมาส่งแล้ว”
“วันนี้ของแค่มาส่งอีกสองวันคนงานถึงจะเริ่มเข้ามาทำ”
“ทำไมล่ะคะพ่อพิมพ์นึกว่าจะเริ่มเลยจะได้เสร็จไวๆ”
“วันมะรืนเป็นวันมงคล พ่อไปให้พระที่วัดท่านดูให้”
พิมพ์พันดาวไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี่เท่าไหร่แต่เห็นว่าอีกสองวันก็ไม่ช้าจนเกินไปเลยไม่ได้ว่าอะไรแต่ถ้าให้รอนานกว่านี่ก็คงไม่ยอมเพราะเธออยากจะรีบทำทุกอย่างให้เสร็จตามกำหนดที่วางแผนไว้
รถหกล้อจอดที่หน้าบ้านขนขับลงมาจากรถเมื่อสอบถามแล้วว่าส่งที่บ้านหลังนี้เขาก็กลับขึ้นไปบนรถอีกครั้งก่อนจะถอยเข้ามาในบริเวณรั้วบ้านซึ่งพื้นบริเวณที่จะทำเป็นร้านขายนั้นอยู่ภายในรัวแต่ด้านหน้าจะติดกับถนนใหญ่
คนงานสองคนช่วยกันเอาของลงจากรถขณะที่ชายอีกคนที่เพิ่งลงมาจากรถได้แต่ยืนมอง
“นายไม่คิดจะช่วยเพื่อนหน่อยเหรอ”
“ผมเหรอ”
“ก็นายนั่นแหละ เอาแต่ยืนดูเพื่อทำงานแล้วอย่างนี้เมื่อไหร่จะเอาของลงรถหมดล่ะ ตัวก็โตกว่าเขายังจะเอาเปรียบอีก” พิมพ์พันดาวเป็นคนไม่ชอบเห็นใครถูกเอาเปรียบจึงบอกชายสวมหมวกแก๊ปที่ยืนนิ่งให้มาช่วยชายอีกสองคนที่ตัวเล็กกว่าเขา
“ผมเพิ่งลงมาจากรถยังไม่ทันได้ยืดเส้นยืดสายเลย”
“สองคนนั้นไม่เห็นจะต้องยืดเส้นยืดสายอะไรเลย นายเอาเปรียบมากกว่าเดี๋ยวฉันจะบอกเถ้าแก่ที่ร้านว่านายอู้งาน”
“อย่าบอกนะครับคุณผมไม่อยากตกงาน” เขารีบเดินไปยังด้านหนังรถที่คนงานสองคนกำลังช่วยกันเอาของลงอยู่
“พี่ไม่ต้องช่วยหรอกกลับบ้านไปเถอะครับ”
“ไม่เป็นไร ฉันว่าช่วยก็สนุกดีเหมือนกันนะ” เขาหัวเราะแล้วหันไปทางลูกสาวเจ้าของบ้านที่เพิ่งเห็นตัวจริงก็วันนี้เพราะส่วนใหญ่แล้วจะเห็นแต่ในรูปที่บิดาเธอมักจะเอาไปอวดเขาอยู่บ่อยๆ
“ถ้าคุณตะวันรู้ล่ะครับ”
“เรามากันสามคนนะถ้านายสองคนไม่บอกเขาก็ไม่รู้หรอก ไม่ดีเหรอที่ได้ฉันมาช่วยอีกคน”
“ดีสิครับ มีคุณมาช่วยงานจะได้เสร็จเร็วเย็นนี้พวกผมนัดกันไปงานวัดด้วย”
“งานวันมีถึงวันไหน”
“คืนนี้คืนสุดท้ายแล้วครับ ผมจะไปป่าลูกโป่งเอาตุ๊กตามาให้สาว”
“เอาแค่ให้สองสามตัวก็พอนะ อย่าเอาเยอะพวกนายเล่นซ้อมกันทุกวันฉันกลัวเจ้าของร้านจะเจ๊งเอา”
“คุณไม่น่าดักคอผมเลยผมกะจะเอาหลายๆ ตัวสักหน่อย”
ทั้งสามคนหัวเราะเสียงดังจนหญิงสาวที่กลับเข้าไปในบ้านแล้วต้องเดินออกมาดูและทำหน้าดุใส
ความผิดพลาดในคืนนั้นทำให้ชีวิตของวิรัลพัชรเปลี่ยนไปเมื่อรู้ว่าตัวเองตั้งท้อง เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำใครคือผู้ชายคนนั้นเป็นใคร แต่เขาจำได้และเมื่อรู้ว่าเธอกำลังท้องลูกของเขาชายหนุ่มก็ก้าวเข้ามาในชีวิตเพียงเพื่อต้องการลูกของเธอเท่านั้น
นานนับปีแล้วที่อรณิชาไม่ได้รับความสุขจากสามี เขาอ้างว่าเพราะงานแต่จริงๆ แล้วเขามีคนอื่นโดยที่อรณิชาไม่รู้ หญิงสาวจึงให้เวลาเขาและเธอหนึ่งเดือนเพื่อจัดสินใจว่าจะเอายังไงต่อกับชีวิตคู่ หญิงสาวจึงกลับมาที่เมืองไทย และได้เจอกับอดีตคน รักความสุขความผูกพัน ทางใจในอดีตกับกลายเป็นความสัมพันธ์ทางกายในปัจจุบัน ความใกล้ชิดในช่วงเวลาสั้นๆ ทำให้ทั้งสองเผลอใจก้าวข้ามเส้นที่ขีดไว้ไม่สนใจทถูกผิดมองแค่บนเตียงเพียงอย่างเดียว
ความสัมพันธ์ระหว่างนายหัวหนุ่มและนักศึกษาสาว ที่ห่างกันทั้งอายุและระยะทางนายหัวหนุ่มจะทำให้เธอรักเขาได้อย่างที่เขารักเธอหรือไม่คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
ในคืนที่โดนแฟนเอายาปลุกเซ็กซ์ใส่เครื่องดื่ม เธอขอให้ชายคนหนึ่งช่วย พอเช้ามาถึงได้รู้ว่าเขาคือเพื่อนสมัยเรียนเขาขู่ให้เธอยอมเป็นคู่นอนของเขาโดยบอกว่ามีคลิปในคืนนั้นเธอยอมเพราะคำขู่แต่เมื่อรู้ว่าเขาไม่มีคลิปทุกอย่างระหว่างเขากับเธอก็จบแต่เขาไม่ยอมจบเพราะตอนนี้คิดกับเธอมากไปกว่าคู่นอนไปแล้ว
สายตาที่ประสานกันมันบอกอย่างชัดเจนว่าตอนนี้ชายหนุ่มนั้นลืมคำว่าผู้ปกครองกับเด็กในปกครองไปแล้ว **************** หญิงชายสมัยนี้มันเท่าเทียมกันนะบัว เธอคิดว่าจะนอนกับฉันและทิ้งฉันไปง่ายๆ แบบนั้นเหรอ ไม่มีทางหรอก เธอต้องรับผิดชอบทั้งตัวฉันและความรู้สึกของฉัน
เพราะคู่หมั้นของเธอเป็นต้นเหตุทำให้น้องสาวของเขาเสียชีวิต เธอจึงเป็นหมากตัวสำคัญในการแก้แค้นของเขา แต่ทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คิด กลายเป็นเขาที่รู้สึกผิดและทำทุกอย่างให้หมากตัวนี้เป็นของตนเอง
【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”
ในชาติก่อน ซูเยว่ซีถูกอวิ๋นถังยวี่ทำร้ายจนตาย ทำผิดต่อครอบครัวของท่านตา และตัวเองยังถูกทรมานจนตาย เกิดใหม่ครั้งนี้ นางตั้งใจจะจัดการกับพวกผู้ชายชั่วและหญิงเลวจัดการพ่อชั่ว เพื่อปกป้องแม่และครอบครัวของท่านตาให้ปลอดภัย พวกผู้ชายชั่วเข้ามาใกล้งั้นเหรอ นางจะใช้แผนให้เขาเสียชื่อเสียง หญิงตีสองหน้าเก่งชอบทำตัวอ่อนแองั้นเหรอ นางจะเปิดโปงธาตุแท้อีกฝ่ายและไล่นางออกจากจวนซู! ในชาตินี้ สิ่งที่นางต้องทำคือการจัดการพวกปลวกที่แอบแฝงอยู่ในราชสำนัก แก้แค้นคนทรยศ เพื่อปกป้องท่านตาที่เป็นคนซื่อสัตย์ นางใช้มือเรียวเป็นเครื่องมือ ก่อให้เมืองจิงเกิดความวุ่นวาย แต่ท่ามกลางความโกลาหล นางได้พบกับองค์ชาย ผู้ที่ทุกคนเล่าลือว่าเป็นคนพิการ “อวิ๋นเฮิง เจ้าจะมาขวางข้าหรือ” อวิ๋นเฮิงยิ้มเบาๆ “ไม่ ข้าตั้งใจจะมาช่วยเจ้า”
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!
เมื่อผู้หญิงที่เพื่อนๆ ตั้งสมญานามว่าแม่ชีอย่างเธอจับพลัดจับผลูต้องมาเจอกับผู้ชายหน้านิ่งที่เอะอะกอด เอะอะจูบอย่างเขา อา…แล้วพ่อคุณก็ดันเป็นโรคนอนไม่หลับ จะต้องนอนกอดเธอเท่านั้นด้วย แบบนี้เธอจะเอาตัวรอดได้ยังไงล่ะ “ชอบอาหารเหนือไหม” “ชอบมากเลยคุณ ให้กินทุกวันยังได้เลย” “มากพอจะอยู่ที่นี่ไหม” “แค่กๆๆ” …………… …………………………………………………………………………………………………………………………. “คุณ! เอากระบอกไฟฉายออกไปวางที่อื่นก่อนได้ไหม มันดันหลังฉัน ฉันนอนไม่หลับ” คนที่ใกล้จะหลับบอกเสียงอู้อี้ “เอ้อ! ไม่มีนี่” เขาบอกเสียงอึกอัก “มันจะไม่มีได้ไง ก็มันดันหลังฉันอยู่เนี่ย” เธอมั่นใจว่ามีแน่ๆ ก็หลักฐานมันทนโท่ขนาดนี้ “อืม! นอนเถอะ ไม่มีหรอก” “จะไม่มีได้ไง ก็นี่ไง” คุณเธอยืนยันด้วยการคว้าหมับเข้าให้ พร้อมหันกลับมา หวังงัดหลักฐานที่อยู่ในมือมาพิสูจน์ให้ได้เห็นกันจะๆ คาตา แต่… ตึก ตึก ตึก อา…! ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่คาตา แต่ยังคามือเธอด้วย เธออ้าปากตาค้างราวกับกำลังตกตะลึงสุดขีด ก่อนจะก้มมองไอ้ที่คิดว่าเป็นกระบอกไฟฉายในมือสลับกับเงยหน้ามองเขา จากนั้นก็… “กรี๊ด…!” เธอร้องลั่นพร้อมกับยื่นเท้าถีบออกไปสุดแรง ตุบ! คนไม่ทันตั้งตัวร่วงตุ้บลงไปบนพื้น ครั้นพอจะลุกขึ้น คุณเธอก็ตะโกนเสียงดังลั่นขึ้นมาอีก “หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะไอ้คนลามก คนเลว คุณมันทุเรศที่สุด คุณให้ฉันจับไอ้นั่นของคุณ มัน…อี๋…! เธอพูดพลางทำท่าขยะแขยง แล้วมาส่องกระบอกไฟฉายพ่อเลี้ยงพร้อมกันนะคะ
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY