คำว่ารัก...ไม่ควรจำกัดไว้แค่คำว่าเพศ เพราะโลกใบนี้ไม่มีใครเลือกเกิดได้ แต่ทุกคนเลือกที่จะเป็นได้ เหมือนกับเขาสองคน ที่คิดว่า ความรักคือสิ่งที่สวยงามยิ่งกว่าสิ่งใด
คำว่ารัก...ไม่ควรจำกัดไว้แค่คำว่าเพศ เพราะโลกใบนี้ไม่มีใครเลือกเกิดได้ แต่ทุกคนเลือกที่จะเป็นได้ เหมือนกับเขาสองคน ที่คิดว่า ความรักคือสิ่งที่สวยงามยิ่งกว่าสิ่งใด
"กรี๊ด..... พี่แบมสู้ๆ พี่แบมสู้ๆ"
เสียงเชียร์ดังขึ้นมาไม่ขาดสายจากรอบๆสนามบาสเกตบอลของโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง วันนี้มีการแข่งขันกีฬาบาสเกตบอลระดับเขต แน่นอนว่าทีมของโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ต้องเจอกับคู่แข่งจากต่างโรงเรียน
เสียงกรีดร้องที่ดังขึ้นมาไม่ใช่เพราะว่ากีฬามันน่าสนุก หรือน่าสนใจ แต่เป็นตัวนักกีฬาต่างหากที่น่าสนใจ ร่างสูงโปร่งที่มีผิวขาวราวกับน้ำนมกำลังวิ่งเลี้ยงลูกไปใกล้ห่วง
จากนั้นเขาก็กระโดดสูงชู๊ตลูกบาสเข้าไปในห่วงได้อย่างแม่นยำ เสียงกรี๊ดพร้อมกับเสียงปรบมือดังขึ้นเพราะลูกนี้คือลูกตัดสินของการแข่งขันในวันนี้แล้ว
"แบม มึงนี่เก่งว่ะ"
เพื่อนในทีมเดินมาจะตบบ่าหนา แต่ทว่าชายหนุ่มหน้าหล่อกลับเบี่ยงกายหนี ใครๆก็รู้ว่านักบาสหน้าหล่อแถมฝีมือดีคนนี้ไม่ชอบให้ใครมาสัมผัสร่างกาย โดยเฉพาะพวกผู้ชายด้วยกัน
แบม ภูวดลเป็นนักกีฬาและนักเรียนดีเด่นของโรงเรียน สาวๆต่างชื่นชอบและชื่นชม หรือแม้แต่พวกผู้ชายเหมือนกันแบม หรือภูวดล ปรีชารักษ์ก็สามารถทำให้หวั่นไหวไปกับเขาได้
"อืม...มึงก็เก่ง"
ชายหนุ่มเอ่ยออกมาก่อนที่จะเดินไปที่ข้างสนามที่มีเพื่อนสนิทคนสวยรออยู่ ใครๆก็บอกว่าเขาและเธอเป็นแฟนกันแต่ความจริงมันไม่ใช่แบบนั้นเลย
"เหนื่อยไหม"
มือบางยื่นผ้ามาเช็ดหน้าให้เพื่อนสนิท แบม ภูวดลไม่หลบเหมือนกับตอนที่เพื่อนนักบาสในทีมมาตบบ่า เธอเป็นคนเดียวที่สามารถสัมผัสร่างกายเขาได้
เสียงกรี๊ดดังขึ้นเมื่อจีน่า เจนจิราใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดเหงื่อที่บนใบหน้าหล่อเหลาของนักบาสหนุ่มที่สาวๆยกให้เป็นหนุ่มฮอตของรุ่นมัธยมศึกษาปีที่หก
"ฮอตตลอด"
ตั้ม อนุพงษ์ เพื่อนที่สนิทกับแบมอีกคนเอ่ยแซวขึ้น
"ฮอตขนาดนี้อย่าแย่งจีน่าของกูไปจริงๆก็พอ กูแค่ให้ยืมควง"
"อยากโดนตบให้ปากฉีกหรือไง ใครเป็นของนาย ฉันมีแบมคนเดียวก็พอแล้วย่ะ"
จีน่า สาวสวยลูกครึ่งเยอรมันเอ่ยขึ้นก่อนที่จะจูงมือแบม ภูวดลเดินออกจากสนามไปท่ามกลางสายตาอิจฉาจากสาวๆ หนุ่มๆเองก็อิจฉาหนุ่มฮอตของโรงเรียนไม่น้อย
ถ้าแบม ภูวดลเป็นหนุ่มฮอตของโรงเรียน เช่นนั้นฝ่ายหญิงก็คงไม่พ้นจีน่า เจนจิรา ริกเตอร์คนนี้ ตั้ม อนุพงษ์หัวเราะออกมาก่อนที่จะวิ่งตามเพื่อนทั้งสองไป
หนุ่มหล่อต่างโรงเรียนที่มาดูการแข่งขันในวันนี้ด้วยมองตามนักกีฬาที่ทำผลงานได้โดดเด่นในเกมวันนี้ไปอย่างสนใจ ดูๆแล้วเขากับนายหน้าหล่อคนนั้นคงจะได้พบกันในไม่ช้า
สายตาคมมองตามสองหนุ่มกับหนึ่งสาวไปอย่างสนใจ แต่ทว่าคนที่เขาให้ความสนใจและรู้สึกสนใจจริงๆคือไอ้หนุ่มนักกีฬาหน้าหล่อนั่นต่างหากหาใช่สาวสวยที่ดูเหมือนจะเป็นแฟนของนายคนนั้นเหมือนที่เพื่อนเขาเข้าใจ
"ชอบคนนั้นหรอวะ ไม่ต้องหวังหรอก เพราะคนที่เธอเช็ดหน้าให้น่ะ เป็นแฟนของเธอ โรงเรียนนี้ดีว่ะ มีเทวดากับนางฟ้าบนดินเรียนอยู่ด้วย พอกลับไปดูโรงเรียนเรามีแต่มึงนี่แหละมั้งที่หน้าตาดีอยู่คนเดียวหึๆ"
บอส ภาณุเอ่ยออกมาทันทีที่เห็นสายตาของเพื่อนกำลังมองตามสาวสวยที่เพิ่งเดินจับมือกับนักกีฬาตัวเต็งของทีมที่เพิ่งแข่งขันจบไป
แต่บอสหารู้ไม่ว่าคนในสายตาของเพื่อนสนิทคือนักกีฬาที่ชอบทำหน้าเย็นชาคนนั้นต่างหาก เขาอยากได้คนนั้นเป็นเพื่อนและเขาจะต้องได้เป็น
สองหนุ่มสาวเดินจูงมือกันมาจนถึงรถรับส่งของที่บ้าน วันนี้ครอบครัวปรีชารักษ์ส่งคนขับรถมารอรับบุตรชายคนเล็กกลับบ้านและแน่นอนว่าครอบครัวริกเตอร์ที่เป็นทั้งเพื่อนบ้านและเพื่อนสนิทก็ให้บุตรสาวคนโตกลับไปพร้อมกัน
แบม ภูวดลทำหน้าที่เป็นสุภาพบุรุษกับเพื่อนสนิทเสมอ ทั้งสองคนรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ต่างคนต่างรู้ความชอบและตัวตนของกันและกัน
“ร้อนไหมครับคุณหนู”
คนขับรถเอ่ยถามเจ้านายน้อยของบ้าน
ครอบครัวของปรีชารักษ์มีทายาททั้งหมดสามคนคือ บอม ภูวนาถ บี๋ พิชสินีย์ และคนสุดท้ายคือ แบม ภูวดล พี่คนโตเรียนจบปริญญาโทเมื่อปีก่อนจะมีก็แต่พี่คนกลาง และน้องคนเล็กที่ยังเรียนอยู่
“เย็นแล้วครับลุงโชติ”
เด็กหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพ
ถึงลุงโชติจะเป็นเพียงคนขับรถ แบม ภูวดลหรือแม้แต่คนในบ้านก็ไม่เคยมีใครดูถูกแก ทุกอาชีพมีเกียรติและศักดิ์ศรี ตราบใดที่งานนั้นเป็นงานที่ทำอย่างสุจริต
“ลุงโชติขา.... พาจีน่าแวะร้านไอติมหน่อยได้ไหมคะ จีน่าร้อนข้างใน”
ความต้องการของคุณหนูใหญ่ของครอบครัวริกเตอร์ลุงโชติย่อมไม่ขัด ชายวัยกลางคนฉีกยิ้มออกมาเพราะรู้ว่าคุณหนูเล็กก็ไม่ขัดใจหญิงสาวข้างๆเช่นกัน
รถตู้คันหรูขับเคลื่อนมาจอดที่หน้าร้านไอศกรีมที่ตกแต่งได้อย่างน่ารัก มือบางกุมมือหนาให้ลงไปจากรถด้วยกัน แบม ภูวดลไม่อิดออด เขาตามเพื่อนสนิทไปแต่โดยดี และเขาก็รู้ดีว่าทำไมเธอถึงอยากมาร้านนี้ เพราะนอกจากไอศกรีมแล้วคงจะมีเจ้าของร้านนี่แหละที่ดึงดูดให้จีน่าติดอกติดใจ
“สวัสดีค่ะ ไอซ์สวีท ยินดีต้อนรับค่ะ”
เสียงห้าวหวานเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มที่ส่งมาให้สองหนุ่มสาวซึ่งนับได้ว่าเป็นลูกค้าประจำของร้านไอศกรีมร้านนี้เลยก็ว่าได้
“พี่ไอซ์...มีอะไรแนะนำเราสองคนไหมคะ”
เสียงหวานเอ่ยถามพร้อมส่งสายตาวิบวับไปให้รุ่นพี่สาวที่พอเรียนจบก็หันมาเปิดร้านไอศกรีมและขนมหวานตามความชอบส่วนตัว
“พี่ว่าเราสองคนมาบ่อยเกิน พี่คิดเมนูไม่ทันแล้วค่ะ”
แบม ภูวดลถึงกับหัวเราะออกมากับคำพูดของรุ่นพี่
ก็มันคือเรื่องจริง จีน่าเพื่อนของเขานั้นแวะมาร้านนี้ทุกวันหลังเลิกเรียน ไม่ว่าจะอากาศร้อน หนาว หรือฝนตก จีน่าก็มาอุดหนุนจนชิมขนม ไอศกรีม หรือแม้แต่เมนูน้ำไปหมดทุกเมนูแล้ว
“หัวเราะอะไร”
เสียงหวานดังขึ้นพร้อมสายตาดุๆส่งมา ชายหนุ่มถึงกับกลั้นขำเอาไว้เพราะกลัวเพื่อนโกรธ
“เอาเหมือนเมื่อวานก็ได้ค่ะ”
ก่อนที่จะหันไปสั่งเมนูที่ต้องการด้วยน้ำเสียงที่แตกต่างจากถามเพื่อนสนิท แบม ภูวดลถึงกับมองบน
ระหว่างที่สองหนุ่มสาวกำลังนั่งรอเมนูที่สั่งไปก็มีนักเรียนรุ่นน้องโรงเรียนเดียวกันเข้ามาภายในร้าน สาวๆที่เพิ่งเข้ามาแทบจะกรีดร้องออกมาเมื่อพบว่าใครกำลังนั่งอยู่
สาวๆเดินเข้าทักทายรุ่นพี่ก่อนที่จะขอถ่ายภาพด้วยโดยให้พี่สาวคนสวยเป็นผู้ถ่ายให้ แบม ภูวดลอยากจะปฏิเสธเพราะเขาไม่อยากเป็นคนเด่นหรือคนดังอะไร แต่ทว่าสายตาของเพื่อนสนิทที่มองมาทำให้เขายอมถ่ายรูปกับพวกน้องๆแต่โดยดี
‘หล่อเวอร์ แกดูดิ หน้านี่อย่างขาว’
‘กลิ่นเหงื่อไม่มีเลย ขนาดเพิ่งแข่งบาสมานะเนี่ย’
‘หน้าใสกว่าก้นเด็กอีก พี่แบมใช้ครีมอะไรวะ’
‘ใดๆคืออิจฉาพี่จีน่าเวอร์ เมื่อกี้ฉันโดนตัวพี่เค้า โอ้โห...โคตรแน่น’
และคำพูดเหล่านี้ก็หลุดออกมาจากปากสาวๆรุ่นน้อง แบม ภูวดลเป็นหนุ่มฮอตของโรงเรียน แน่นอนว่าเขาย่อมเป็นที่สนใจของบรรดาสาวๆ
แม้แต่พวกผู้ชายด้วยกันก็ยังอยากจะสัมผัสร่างกายของแบม ภูวดลสักครั้ง เขาไม่ใช่ผู้ชายที่หล่อแบบใสๆ แต่เขาดูหล่อแบบน่าค้นหา
“ฮอตจริงๆเลยเนี่ย ขนาดมากินไอติมร้านไกลโรงเรียนขนาดนี้ยังมีรุ่นน้องมาเจอได้อีก”
จีน่าเอ่ยแซวเพื่อนสนิทที่กำลังจะตักไอศกรีมใส่ปาก
“หึๆ คิดว่าฉันอยากจะฮอตหรือไง มันเป็นไปตามธรรมชาติต่างหาก ว่าแต่ฉัน เธอเองก็เหมือนกันแหละจีน่า แม่สาวฮอตของโรงเรียน”
คนที่เพิ่งตักไอศกรีมเข้าปากตอบกลับเพื่อนสนิท เขาก็พยายามที่จะทำตัวไม่ให้เด่นแล้ว แต่มันก็เป็นไปตามธรรมชาติ
“หนุ่มฮอตสาวฮอต เหมาะสมกันดีนะคะ”
เจ้าของร้านที่นำขนมมาเสิร์ฟถึงกับเอ่ยแซว สองหนุ่มสาวยิ้มแหยๆออกมา จะเหมาะสมกันได้อย่างไรก็ในเมื่อเขาและเธอไม่ได้ชอบกันเอง
ร่างสูงโปร่งสาวเท้าเดินเข้าไปในบ้านหลังโต ครอบครัวปรีชารักษ์นั้นมีอาชีพเป็นหมอและเจ้าของบริษัทยา โดยบิดาเป็นประธานบริษัท พีมาร์ฟามาซีซูติคอล จำกัด และมารดาเป็นศัลยแพทย์ทรวงอกอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังในกรุงเทพฯ
พี่ชายกำลังเข้ารับช่วงต่อแทนบิดาตอนนี้อยู่ในขั้นตอนเรียนรู้และฝึกงาน ส่วนพี่สาวคนกลางเรียนอยู่คณะนิเทศศาสตร์ปีสองที่มหาวิทยาลัยชื่อดังอีกทั้งกำลังกลายเป็นนักแสดงหน้าใหม่ของวงการบันเทิงเพราะมีความสวยและความสามารถที่โดดเด่น ส่วนตัวเขาก็กำลังจะเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในอีกหนึ่งภาคเรียนข้างหน้า
“พี่บี๋... ไม่ไปเรียนหรือครับ”
เด็กหนุ่มที่เพิ่งเดินเข้าไปภายในบ้านเจอพี่สาวนั่งอ่านบางสิ่งบางอย่างอยู่ภายในห้องนั่งเล่น
“ไปมาแล้ว กำลังอ่านบทละครอยู่”
บี๋ หรือพิชสินีย์ ปรีชารักษ์ พี่สาวคนกลางตอบผู้เป็นน้องชายคนเล็กของบ้าน
“ได้แสดงแล้วหรอ”
เสียงทุ้มเอ่ยถามออกมาอย่างตื่นเต้น
“อืม... อย่าลืมพาน้องๆที่โรงเรียนมาเป็นแฟนคลับให้พี่ด้วย”
ว่าที่นักแสดงสาวฉีกยิ้ม ก่อนที่จะบอกน้องชาย
“หึ! ได้สิ ว่าแต่เล่นบทอะไร” เขาเดินไปนั่งลงข้างๆ
“ทำไม... สนใจหรอ แต่พี่ว่า... ว่าที่คุณหมออย่างนายไม่น่าจะสนใจเส้นทางสายบันเทิงนะ”
ใช่สิ... เขามีความสนใจที่จะเรียนแพทย์ และต้องเป็นศัลยแพทย์หัวใจเท่านั้น สมัยเด็กๆเขามีปมเกี่ยวกับเด็กน้อยคนหนึ่งอายุน่าจะอ่อนกว่าเขาไปถึงสองปี ตอนนั้นเขาเพิ่งจะอายุเจ็ดขวบและได้ติดตามมารดาไปทำงานที่โรงพยาบาล
เขาได้รู้จักเด็กคนนั้นเพราะเป็นคนไข้ของโรงพยาบาล เด็กน้อยมารักษาโรคลิ้นหัวใจรั่ว และเสียชีวิตหลังจากที่เขารู้จักได้เพียงสามวัน เขารู้สึกสงสารคนที่ป่วยเกี่ยวกับโรคหัวใจ
เพราะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ในประเทศมีน้อย เขาจึงอยากเป็นอีกหนึ่งกำลังที่จะช่วยดูแลรักษาชีวิตของคนที่กำลังสิ้นหวังด้วยโรคเกี่ยวกับหัวใจในอนาคต
“พี่ก็รู้คำตอบของผมอยู่...แล้วจะถามผมทำไม ขอตัวขึ้นห้องก่อน เหนียวตัว วันนี้แข่งบาสมา”
แบม ภูวดลบอกก่อนที่จะเดินจากไป บี๋ พิชสินีย์เข้าใจดีว่าถึงอย่างไรก็ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนใจน้องชายของเธอให้เลือกเดินบนเส้นทางอื่นได้ เพราะความเป็นหมอมันอยู่ในสายเลือด
ในเมื่อทั้งเธอและพี่ชายไม่มีใครได้มารดา ก็คงจะมีน้องชายนี่แหละที่รับช่วงต่อ เธอเลิกสนใจน้องชายแล้วหันมาสนใจบทละครที่เพิ่งได้รับมา เธอเพิ่งจะเข้าวงการจึงต้องพยายามให้มากกว่าใคร
เพราะความเมตตาจากสวรรค์ ทำให้นางผู้ซึ่งสิ้นอายุขัยในวันที่คลอดลูก ได้กลับมาเกิดใหม่ ในร่างของคุณหนูสามผู้โง่เขลา บุตรีของท่านเจ้าสำนักศึกษาตระกูลหลี่
นางแบบสาวไทยที่ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขมาโดยตลอด...จนวันหนึ่งได้พบกับเขา เขาที่เป็นพี่ชายสามีของน้องนางแบบที่เคยทำงานด้วยกัน ชีวิตของเธอก็ได้เปลี่ยนไป เพราะนอกจากถูกเขากวนใจแล้ว..เธอยังถูกเขากวนตัวอีกด้วย
เพราะความเข้าใจผิด ทำให้ต่างคนต่างก็แสดงท่าทีเย็นชาใส่กัน ทำให้ต่างคนต่างก็พลาดช่วงเวลาแห่งความสุขไป กว่าจะรู้ตัวว่าอีกฝ่ายมีความสำคัญในชีวิตของตนมากแค่ไหน อีกฝ่ายก็ได้จากไปตลอดกาลเสียแล้ว...
คงเป็นเพราะสวรรค์เมตตา ให้นางที่ตายไปแล้วด้วยน้ำมือคนที่รัก ได้ย้อนอดีตกลับมาเมื่อห้าปีก่อน ก่อนที่นางจะกลายเป็นสตรีที่โง่งมให้เขาหลอกลวงจนมีจุดจบที่น่าเวทนา มีหรือครานี้นางจะยอมเจ็บปวดเพราะเขาอีก...
ในชาติภพก่อนนางคือวีรสตรีของแผ่นดินสยาม ปกป้องบ้านเมืองจากข้าศึกศัตรูจนตัวตาย เกิดชาติภพใหม่ในยุคจีนโบราณ นางนั้นเติบโตขึ้นเป็นสตรีที่งดงามแต่ทว่าภายใต้ใบหน้าที่งดงามนั้นกลับมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่
ฉินเซี่ยหรู คุณหนูใหญ่แห่งสกุลฉิน นางสิ้นอายุขัยจากการถูกสามีอย่าง หวงจิงอวี่ทำร้ายจิตใจด้วยการรับอนุเข้ามาอยู่ในจวนมากมาย เขามิเคยร่วมเตียงกับนางเลยสักครั้งจนอนุที่รับมานั้นตั้งครรภ์ อำนาจในการดูแลเรือนของนางจึงดูไร้ค่า เพราะแม่ของสามีก็ดูถูกที่นางมิสามารถมีทายาทสืบสกุลได้ นางจะมีได้เช่นไรกัน ในเมื่อสามีที่แต่งนางมานั้นมิเคยร่วมเตียงกับนางเลยสักครา จนนางตรอมใจและดับสูญไปในที่สุด ผู้ใดจะรู้เรื่องราวหลังจากนั้น ฉินเซี่ยหรูได้กลับชาติไปเกิดในร่างของหลานสาวขี้โรคของนาง แต่ทว่าการได้เกิดใหม่ในครั้งนี้ทำให้ร่างกายของหลานสาวนั้นกลับมาแข็งแรงราวปาฏิหารย์ สตรีที่เคยมีอายุยี่สิบสามปี แต่บัดนี้กลับกลายมาอยู่ในร่างของเด็กหญิงอายุเจ็ดขวบ นางตั้งมั่นเอาไว้แล้วว่าในอนาคต นางจะมิยอมแต่งงานอีกต่างหาก แต่เมื่อได้พบเจอกับเขา นักปราชญ์หนุ่มที่เพิ่งย้ายมา นางจึงเปิดใจและอยากแต่งงาน นั่นเป็นเพราะเขาทำให้นางได้รู้จักความรักที่แท้จริง... ความรักที่ไม่เคยได้รับรักตอบจากชาติภพก่อน
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
ลู่หลีเคยได้รับการช่วยชีวิตจากสามีของเธอ แต่หลังจากเขาสูญเสียความทรงจำ เขากลับลืมเธอเสียสนิท สามปีหลังจากแต่งงาน เพ่ยซือหานถึงกับนอกใจต่อหน้าผู้คน ทำให้เธอรู้สึกอับอายขายหน้าอย่างมาก ลู่หลีรู้สึกผิดหวังมาก จากนั้นก็เซ็นเอกสารหย่าทันที ตั้งแต่นั้นมา เธอได้กลับมาเป็นหญิงสาวที่มีอำนาจอีกครั้ง หมอผีที่มีชื่อเสียงโด่งดังคือเธอ ตำนานนักแข่งรถคือเธอ แฮกเกอร์ระดับโลกคือเธอ และนักออกแบบอัจฉริยะก็เป็นเธอเช่นกัน ต่อมา เพ่ยซือหานไม่เพียงแต่เสียใจจนสุดขีด แต่ยังฟื้นความทรงจำได้อีกด้วย เขาถึงกับบุกเข้าไปในงานแต่งงาน “เสี่ยวหลี ขอร้องเถอะ ให้โอกาสผมอีกครั้ง!” แต่เอวของลู่หลีถูกโอบกอดไว้โดยใครอีกคนหนึ่งที่มีอำนาจ เขาหัวเราะในลำคอว่า “ที่รัก มีคนที่กำลังเล่นกับไฟ”
อนลควรจะทำยังไง เมื่อจู่ๆ แม่เลขาเฉิ่มของพี่ชาย เข้ามาในห้องพักของเขาด้วยความเมามาย และก็ชักชวนให้เขาเป็นคนแรกของเธอ...!!! เขาควรปฏิเสธ หรือว่าเดินหน้าขย่มแม่สาวแว่นให้จมเตียงดีล่ะ?!!! “อ๊ะ... อย่า... คุณอนล... อื้อ...” เขาไม่สนใจการต่อต้านของหล่อนเลย เพราะวินาทีต่อจากนั้น ปากร้อนจัดก็กลืนกินทุกเสียงต่อต้าน พร้อมกับความเป็นชายที่ถูกปลดปล่อยจากเป้ากางเกง และพุ่งทะยานเข้ามาในกายสาว ทุกอย่างมันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และเต็มไปด้วยความเร่าร้อนรุนแรง การต่อต้านขัดขืนจางหายไป เมื่อปากถูกจูบดูดดื่ม พร้อมกับบั้นเอวแกร่งที่โยกคลึงเข้าหาอย่างหนักหน่วง อา... สติของหล่อนจางหายไปหมดแล้ว ตอนนี้สิ่งเดียวที่หล่อนรับรู้ถึงมันได้ ก็คือความแข็งแกร่งที่กำลังดำผุดดำว่ายอยู่ภายในร่องสาวเท่านั้น แต่พอเช้าวันต่อมา แม่เจ้าประคุณดันหนีหน้าหายไป แถมพอเจอกันก็บอกให้ลืมๆ เรื่องเร่าร้อนเมื่อคืนไปซะ เหอะ!!! คิดว่าเขาจะยอมหรือไง ในเมื่อแม่สาววัตถุโบราณ หวานฉ่ำไปทั้งตัวทั้งตัวแบบนี้...
รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
พิตตนันท์ถอยร่นจนแผ่นหลังชิดกับผนังปูน โดยมีร่างของชายหนุ่มที่ก้าวย่างเข้ามาใกล้ดั่งมัจจุราช แววตาของเขาทำให้เธอกลัวอย่างบอกไม่ถูก กลัวจนเธอไม่สามารถบรรยายออกมาได้ “อย่าทำอะไรต้นข้าวเลย..ต้นข้าวกลัวแล้ว” เธอพูดทั้งน้ำตา ตอนนี้กัณติพัฒน์หาได้มีความสงสารและเมตตาไม่ เพราะว่าเขาถูกความโกรธและแรงโทสะ รวมทั้งความหึงหวงครอบงำ “มานี่” มือแกร่งกระชากร่างบางของเธออย่างแรง ลากจูงไปที่ห้องนอนของเขาก่อนจะโยนร่างบางไปบนเตียงกว้าง โดยมีร่างของเขาทาบทับอยู่ “เธอจะได้รู้จักความสุขจนแทบกระอัก ได้รู้จักความเจ็บปวดและทรมานอย่างที่ไม่เคยเจอ และนี่คือการตอบแทนที่เธอทอดร่างกายให้คนอื่นเชยชม” เขากัดฟันพูด ดวงตาลุกโชนด้วยความโกรธ มือหนากระชากชุดคลุมของเธอออก แม้ว่ามันจะหนาแต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับเขา เพราะเพียงครู่เดียวเสื้อคลุมตัวสวยถูกฉีกขาดกระจุยลงไปอยู่ที่พื้น ตามด้วยชุดนอนตัวบางของเธอเป็นชิ้นต่อไป “ไม่..อย่า..คุณกันไม่ม่ม่ม่ม่ม่ม่” เธอกรีดร้องเสียงดังเมื่อความแข็งแกร่งของเขาคืบคลานเข้าไปในร่างกายเธออย่างรุนแรง กัณติพัฒน์ไม่สนใจเสียงที่แผดร้องและเสียงสะอื้นของพิตตนันท์ เพราะตอนนี้เขานึกเพียงสิ่งเดียวคือต้องการลงโทษเธอให้สาสม กับความเสียใจและผิดหวังของเขา แรงเคลื่อนไหวเริ่มทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ตามอารมณ์ของเขา ร่างกายสาวแทบแหลกสลาย ไม่ว่าจะเป็นทรวงอกอวบที่ถูกเขาบีบเคล้นจนแหลกคามือ ปลายถันที่เขาดูดกลืนและกัดมันเจ็บจนเธอน้ำตาเล็ด รอยฝากรักตามร่างกายกระจายไปทั่ว พิตตนันท์ไม่รู้ว่าเวลาที่โหดร้ายผ่านไปนานเท่าไหร่ หญิงสาวเองไม่อยากสนใจไม่อยากรับรู้ ขอเพียงเขาหยุดการกระทำที่ป่าเถื่อนนี้เร็วๆ ก็พอ
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY