บุญคุณครั้งแรก แลกด้วยพรหมจรรย์ บุญคุณครั้งที่สอง แลกด้วยหัวใจ
บุญคุณครั้งแรก แลกด้วยพรหมจรรย์ บุญคุณครั้งที่สอง แลกด้วยหัวใจ
เรื่อง...หัวใจเมียน้อย
คำโปรย...บุญคุณครั้งแรก แลกด้วยพรหมจรรย์ บุญคุณครั้งที่สอง แลกด้วยหัวใจ
แนะนำตัวละคร
คาลอส เกลนดาลอร์ท (คุณคาร์) อายุ 39 ปี
เขาเป็นนักลงทุนชาวต่างชาติ จำพวกธุรกิจอหังสาริมทรัพย์ เขาหล่อ รวย ผู้มีใบหน้าคมเข้ม ดวงตาสีฟ้าอ่อน รูปร่างสูงใหญ่ อายุ 39 ปี
ละอองดาว (แป้งฝุ่น) อายุ 24 ปี
นักเรียนทุนฝึกงานปีสุดท้าย เธอเป็นเด็กกำพร้า เธอเรียนเก่งจึงสอบชิงทุนเรียนแพทย์ได้สำเร็จ เธอสวย ตัวเล็ก ผิวขาว นิสัย อ่อนหวาน เจ้าน้ำตา อ่อนแอ ขี้อ้อน น่าทะนุถนอม
@@@@@@
นิยายเรื่องนี้เป็นแนวรักโรแมนติก มีดราม่าช่วงแรกๆ พระเอกอบอุ่นใจดี
ตอนที่ 1 เกิดเหตุ
รถเบนซ์ตัวท๊อปรุ่นใหม่ล่าสุดคันสีดำเงาวับ แล่นมาตามท้องถนนเวลาดึกสงัด ท่ามกลางฝนตกปรอยๆ รถจึงแล่นไปไม่ค่อยไวนัก เพราะคนขับเน้นความปลอดภัยของผู้เป็นเจ้านายที่สุด แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เหมือนมีเหตุการณ์อะไรบางอย่างเกิดขึ้นด้านหน้า เมื่อรถแล่นเข้าไปใกล้ แสงไฟสาดส่อง แต่ก็ยังมองไม่ค่อยชัดอยู่ดี เพราะสายฝนเริ่มเทลงมาหนักขึ้นอีก แต่ก็พอจะรู้ว่าด้านหน้ากำลังเกิดเรื่อง
“ข้างหน้ามีอะไรน่ะเจส” เสียงเข้มเอ่ยถามลูกน้องคนสนิทที่กำลังทำหน้าที่ขับรถ
คาลอสมีลูกน้องคนสนิทสองคน ชื่อเจสกับดราฟ ทั้งสองมีความสำคัญพอๆกัน ไปไหนไปด้วยกัน ทั้งสองจะผลัดกันทำหน้าที่ขับรถให้เจ้านายนั่ง
“เหมือนจะมีเรื่องครับนาย” ดราฟที่นั่งอยู่ด้านหน้า ข้างคนขับเอ่ยขึ้น ดราฟกำลังมองเหตุการณ์ตรงหน้ามาแต่ไกล ภาพที่เห็น มีผู้ชายห้าคนกำลังรุมล้อมผู้หญิงหนึ่งคน ซึ่งแทบจะมองผู้หญิงไม่เห็นเลยด้วยซ้ำ เพราะผู้ชายที่กำลังรุมล้อมอยู่นั้นบดบังผู้หญิงจนมิด แต่เสียงร้องที่ดังออกมานั้น ทำให้คนที่อยู่ในรถรู้แล้วว่าเหตุการณ์ข้างหน้าเกิดอะไรขึ้น
“หุบปากถ้ามึงยังไม่อยากตาย ก็ไปกับพวกกูดีๆ” ชายหนึ่งในห้าคนเอ่ยขึ้นเสียงดัง ข่มขวัญผู้หญิงที่กำลังนั่งอยู่ที่พื้นถนน เสื้อผ้าเปียกปอน สภาพดูไม่ได้
“ไม่! ไอ้บ้า อย่าทำอะไรหนูเลยนะ หนูกลัวแล้ว ขอร้องล่ะ” เสียงสั่นๆยกมือไหว้ร้องขอชีวิตจากผู้ชายห้าคนตรงหน้า
“อีนี่ มึงพูดไม่รู้เรื่องหรือไง ยอมเป็นของพวกกูซะดีๆ แล้วพรุ่งนี้มึงก็จะได้เป็นอิสระ” หนึ่งในห้าคน นั่งลงข้างหน้าเธอ เอ่ยขึ้นเสียงเข้มหน้าตาดุดัน สกปรกตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า สิ่งที่หญิงสาวเห็นภาพตรงหน้าเธอทั้งหวาดกลัวทั้งขยะแขยง
“ปัก!! ช่วยด้วย ช่วยด้วย” เท้าเล็กๆของเธอถีบเข้าที่แผงอกของผู้ชายที่กำลังพูดอยู่ตรงหน้าเธอ เธอไม่มีทางยอมเป็นของพวกมันแน่ ถึงตายเธอก็ยอม
“ช่วยด้วยค่า...ช่วยด้วย...” เมื่อรถแล่นเข้าไปใกล้ขึ้น เสียงร้องของผู้หญิงดังขึ้นท่ามกลางสายฝน ทั้งเสียงฝนที่กำลังตกอยู่ กับเสียงผู้หญิงที่กำลังร้องขอความช่วยเหลือ ดังปนๆกันไป แต่คนที่ได้ยินเพราะลดกระจกรถลง ขมวดคิ้วเข้มเข้าหากันแน่น เพราะเขาเกลียดเรื่องแบบนี้เป็นที่สุด นั่นจึงทำให้เขาต้องสั่งให้รถจอดกะทันหัน
“จอด...” เสียงเข้มเอ่ยบอกลูกน้องมาจากทางด้านหลัง เจสเหยียบเบรค เมื่อมีคำสั่งของผู้เป็นเจ้านายดังขึ้น
“ไอ้ดราฟมึงลงไปดูสิว่าเกิดอะไรขึ้น” เพราะภาพที่เห็นเหมือนผู้หญิงกำลังจะถูกทำร้าย และนั่นเป็นสิ่งที่คาลอสรู้สึกไม่ชอบใจเอามากๆ แถมผู้ชายยังมีกันถึงห้าคน ส่วนผู้หญิงคนเดียว แต่ก็ยังมองไม่ชัดอยู่ดี เพราะชายพวกนั้นรุมเธอจนมิด
ดราฟเปิดประตูรถลงไปตามที่เจ้านายสั่งทันที พร้อมกับอาวุธคู่กายที่พกติดมือเอาลงไปด้วย
“เจส มึงรออยู่ในนี้” พูดจบผู้เป็นนายก็เปิดประตูรถลงไปด้วยทันที เมื่อเขาเห็นภาพแบบนี้ คาลอสไม่สามารถทนดูได้จริงๆ
“แต่ นายครับ” เจสยังไม่ทันได้พูดอะไร เสียงประตูรถก็ปิดดังปัง เจสแค่กำลังจะบอกว่าเขาจะลงไปให้เอง แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว คนที่ก้าวเท้าลงไปเดินฉับๆอย่างไว
“นี่หยุดเดี๋ยวนี้นะ พวกมึงกำลังทำอะไรกัน” เสียงภาษาไทยเอ่ยขึ้นแปร่งหู ภาพที่เห็นหญิงสาวตัวเล็กสภาพเปียกปอน ต่อสู้อยู่สุดกำลัง เธอทั้งร้องทั้งสู้อย่างไม่กลัวตาย เสื้อผ้าหลุดลุ่ย เห็นแล้วทำให้คาลอสยิ่งทนมองไม่ได้
“ช่วยด้วย ช่วยหนูด้วย พวกมันจะข่มขืนหนู” เมื่อเห็นสภาพหญิงสาวตรงหน้ายังคงยื้อยุดฉุดกระชากในสภาพดูไม่ได้
“หุบปาก เพี๊ยะ!!” แรงตบด้วยฝ่ามือของผู้ชาย ทำให้หญิงสาวถึงกลับหน้าหันไปอีกทาง
“อย่ามาแส่หาเรื่องดีกว่า ถ้าไม่อยากตายจะไปไหนก็ไป” หนึ่งในห้าคนเอ่ยขึ้นมา เมื่อเห็นว่ามีผู้เข้ามาขัดขวาง
“พวกมึงสิอยากตายหรือไง ปล่อยผู้หญิงเดี๋ยวนี้!” เสียงกร้าวเอ่ยขึ้นอย่างดุดัน เมื่อเห็นผู้หญิงตัวเล็กถูกทำร้าย
“ปั้ง!!”
ทันใดนั้นเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด เป็นกระบอกที่อยู่ในมือของดราฟที่ยิ่งขู่ขึ้นฟ้า พลันเท้าหนักๆของคาลอสถีบเข้าที่ด้านหลังของผู้ชายคนใดคนหนึ่งในห้าคน หวังจะช่วยหญิงสาวผู้นั้นออกมาก่อน ทั้งหมดเกิดการต่อสู้กัน ดีที่เจสลงมาช่วยอีกแรง คาลอสรีบเข้าไปดูหญิงสาวที่ตอนนี้เธอได้สลบไปแล้ว
“นายพาผู้หญิงขึ้นรถเลยครับ ทางนี้พวกผมจะจัดการเอง”
“ฝากด้วยแล้วกัน เธอ...เธอ...โธ่โว้ย” เสียงสถบดังขึ้นเมื่อหญิงสาวตัวเล็กตรงหน้าหมดสติไปแล้ว ที่มุมปากของเธอมีเลือดสดๆไหลออกมา ท่ามกลางสายฝนเนื้อตัวเปียกปอน เสื้อผ้าหลุดลุ่ย คาลอสรีบอุ้มหญิงสาวตัวเล็กขึ้นรถ ในขณะที่เจสกับดราฟกำลังต่อสู้อย่างสุดกำลัง ปกป้องผู้เป็นเจ้านายด้วยชีวิต
เสียงปืนยิงขู่ดังขึ้นเป็นระยะ เพราะดราฟไม่อยากทำร้ายใครถ้าไม่จำเป็น อีกอย่างทางฝ่ายโน้น ถึงจะมีกันถึงห้าคนแต่พวกมันก็ไม่ได้มีอาวุธ
“ปั้ง!! โอ้ย!!”
“ไอ้เข้มถูกยิง!”
“ถอยโว้ย ฝากไว้ก่อนเถอะมึง” หลังจากที่ต่อสู้กันอยู่สักครู่ ทางโน้นถูกยิงไปหนึ่งนัด พวกมันจึงยอมถอย ที่จริงดราฟไม่อยากยิงโดนเลยด้วยซ้ำ เขาแค่ต้องการจะยิ่งขู่เท่านั้น แต่กระสูนเจ้ากรรมมันดันทำหน้าที่ของมันเอง แต่ก็ไม่ได้จะกลัวกฎหมายแต่อย่างใด เพราะกล้องหน้ารถได้บันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว
“นายครับจะให้พาเธอไปโรงพยาบาลก่อนไหมครับ” เจสเอ่ยขึ้นถามคนเป็นเจ้านายที่นั่งอยู่ด้านหลังกับผู้หญิงตัวเล็กที่ได้ช่วยไว้
“กลับบ้าน” สำหรับคาลอสที่สั่งให้ลูกน้องขับรถกลับบ้านนั้น เขาคิดว่าถ้าไปโรงพยาบาล หญิงสาวคนนี้ก็จะต้องถูกสอบประวัติ ซึ่งเขาไม่รู้จักเธอเลย แล้วตอนนี้เธอก็สลบอยู่ แต่ถ้าเธอฟื้นคุณหมอก็ต้องสอบถามหาความจริงอีกอยู่ดี แล้วเรื่องก็คงต้องถึงตำรวจ เขาไม่รู้ว่าเธอหวาดกลัวหรือเสียขวัญขนาดไหน เขาก็เลยพาเธอกลับบ้านก่อนดีกว่า
ทั้งสองที่ได้ยินคำตอบของผู้เป็นเจ้านาย ถึงกลับงงในคำตอบ เพราะแทนที่จะตอบว่าให้พาไปโรงพยาบาล แต่เจ้านายกลับสั่งให้กลับบ้านซะอย่างนั้น สายตาของลูกน้องทั้งสองมองกันแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรต่อ เจสทำหน้าที่ขับรถเหมือนเดิม ไม่นานรถก็แล่นเข้ามาจอดที่คฤหาสน์หลังงาม
แค่เพียงสบตาความปรารถนาอันร้อนแรงของเขาก็ได้ก่อตัวขึ้น ในเมื่อแต่งงานกันแล้ว เขาย่อมมีสิทธิ์ในตัวเธอทุกประการ
คืน One Night Stand ของมาเฟียอิตาลีกับยัยขี้เมา เช้าวันนั้นเธอหายไป เขาจึงออกตามหา แต่เมื่อได้เจอกันเธอกลับจำหน้าเขาไม่ได้
เรื่อง...คุณหมอสะดุดรัก คำโปรย พริ้งพราวเพื่อนลากให้ไปเที่ยวผับแต่เธอดันถูกยาปลุกเซ็กเข้า แล้วบังเอิญมาเจอกับเขา คุณหมอหนุ่มวัย35ปี แล้วคุณหมอจะมีวิธีช่วยเธออย่างไร... แนะนำตัวละคร วายุภักษ์ ภักดีวัฒนากุล (วายุ) อายุ 35 ปี เขาเป็นผู้ชาย ขี้เล่น อารมณ์ดี และที่สำคัญเขายิ้มเก่งมากๆ วายุเป็นผู้บริหารโรงพยาบาลสาขาที่เชียงใหม่และยังพ่วงด้วยตำแหน่งคุณหมอโรคหัวใจ เขาเป็นลูกชายคนโตของ เจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่มีสาขาอยู่หลายแห่งของประเทศไทย วายุมีความจำเป็นต้องย้ายมาจากสาขาที่เชียงใหม่ เพราะน้องชายที่ประจำอยู่เกิดอุบัติเหตุ วายุเลยมาประจำอยู่สาขาที่กรุงเทพแทนเป็นการชั่วคราว กมลเนตร ธนพัฒน์ธาดา (พริ้งพราว) หญิงสาวบริสุทธิ์ อายุ 24 ปี ทำงานในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพ และเหตุการณ์ในวันนั้นทำให้เธอกับเขาอยู่ด้วยกันและค่อยๆ สนิทกัน เหนือเมฆ ภักดีวัฒนากุล (เมฆ) น้องชายคนเดียวของวายุ ตั้งแต่เขาประสบอุบัติเหตุเดินไม่ได้ เขาก็กลายเป็นคนอารมณ์ร้อน พยาบาลพิเศษที่จ้างมาดูแล ไม่มีใครสามารถอยู่กับเขาได้ จนได้มาเจอกับ...ข้าวหอม ศศินาทิพย์ คงเจริญ (ข้าวหอม) พยาบาลจบใหม่ เธออยู่ในช่วงทดลองงาน ถูกทางโรงพยาบาลขอร้องให้ไปดูแลคนป่วยที่บ้านตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีเงื่อนไข และเงื่อนไขนั้นทำให้เธอยอมตอบตกลงรับทำงานนี้ @@@@@@
เรื่อง...พ่อม่ายกับยัยพี่เลี้ยง คำโปรย...นักธุรกิจหนุ่มลูกติด มีปมชีวิตความใสซื่อและความดีของเธอทำให้เขาสนใจ ส่วนลูกชายที่ไม่ยอมไปโรงเรียนเพราะโดนเพื่อนล้อว่าไม่มีแม่ อยากได้เธอมาเป็นแม่ซึ่งเขาก็เห็นด้วยกับลูกชายเช่นกัน แนะนำตัวละคร คุณอาทิตย์ เจริญเดชาพงษ์ (คุณอาทิตย์) หนุ่มหล่อรวย เป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้ากลางใจเมือง และยังมีธุรกิจ ผลิต นำเข้า และส่งออก เกี่ยวกับสิ่งอิเล็กทรอนิกส์ รายใหญ่ที่สุดในประเทศอีกด้วย แต่อาทิตย์เขามีลูกติดชื่อน้องเกียร์เป็นเด็กผู้ชายอายุสามขวบ แม่เสียชีวิตตอนคลอดน้องเกียร์ออกมาได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เพราะเธอเสียเลือดมาก นันทิชา มงคลสวัสดิ์ (มิรา) หญิงสาวที่พึ่งเรียนจบมาใหม่ๆ เธอตกงาน ที่บ้านกำลังลำบาก เธอออกหางานทำเพราะต้องส่งน้องเรียน น้องเธออยู่มัธยมต้น เป็นผู้หญิงชื่อลิลิน พ่อแม่เสียไปนานแล้ว เหลือกันอยู่แค่สองคนพี่น้อง โดยได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านถึงรอดมาถึงทุกวันนี้ได้
เรื่อง...คุณหมออาสากับยัยเด็กบนดอย โปรย...ความรักมันไม่ได้เกี่ยวกับอายุ...แต่มันเกี่ยวอยู่ที่ใจ เขาไม่อยากมีลูกเพราะฉะนั้นเขาก็เลยไม่คิดที่จะมีเมีย ความรักเป็นเรื่องตลกไม่มีเขาก็อยู่ได้ แนะนำตัวละคร แสงเหนือ หรือ หมอแสง อายุ 32 ปี นิสัย ปากร้าย อารมณ์ดี ขี้เล่น อบอุ่นและขี้หึงสุดๆ แต่เขาไม่อยากมีลูกเพราะฉะนั้นเขาก็เลยไม่คิดที่จะมีเมีย ความรักเป็นเรื่องตลกไม่มีเขาก็อยู่ได้ ปิ่นงาม หรือ ปิ่น อายุ 20 ปี เธอสวย เก่ง เธอใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่บนดอยสูง เธอมีความสุขตามอัตภาพของเธอ แต่แล้วชีวิตของเธอก็ได้เปลี่ยนไปเมื่อมีเขาเดินเข้ามา ************* (เรื่องนี้เขียนต่อจากเรื่อง...คุณหมอเจ้าแผนการ) ปล.นิยายเรื่องนี้ทุกเหตุการณ์เป็นการสมมุติขึ้นทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเป็นอยู่ ศาสนา วัฒนธรรม หรืออะไรก็แล้วแต่ในเนื้อหาของเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้แต่งที่สมมุติขึ้นทั้งสิ้น
ความสวยสะดุดตา ความสดใสสะดุดใจ ปากที่บอกว่ายังไม่อยากมีใคร แต่ในใจกลับอยากได้เธอมาครอบครอง
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
เพราะความใจดีทำให้เธอตกอยู่ในอันตราย หลังจากที่ยื่นมือเข้าไปช่วยนายน้อยแห่งตระกูลยากูซ่า
“แหวนไปไหน” “คะ” หญิงสาวรีบหดมือหนีในทันที “พี่ถามว่าแหวนไปไหน” คริษฐ์ยังย้ำคำถามเดิมแล้วจ้องหน้าคู่หมั้นสาวแบบไม่พอใจ “คืออยู่ที่ออฟฟิศมันต้องล้างแก้วกาแฟบ่อย ๆ รุ้งก็เลยถอดเก็บเอาไว้ค่ะกลัวมันจะสึกเสียก่อน” คำตอบของหญิงสาวค่อยทำให้คริษฐ์รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย “ถ้าถอดออกพี่จะถือว่ารุ้งขอถอนหมั้นพี่นะ” “ก็ไม่ได้ถอนสักหน่อย แค่ถอดเก็บเอาไว้เฉย ๆ” “งั้นก็ใส่เสียสิ เดี๋ยวนี้เลย” คริษฐ์ถลึงตาใส่แกมบังคับ “ใส่ก็ใส่ค่ะ” คนพูดตัดพ้อเล็กน้อย แล้วหันไปหยิบกระเป๋าด้านข้างมาเปิดเพื่อหยิบแหวนหมั้นของตนออกมาสวมใส่ จากนั้นก็หันหลังมือให้เขาดู “พอใจหรือยังคะ” “ดี” “ว่าแต่พี่คริษฐ์มานั่งรอรุ้งทำไมคะ มีธุระสำคัญหรือเปล่า” หญิงสาววกมาหาคำถามแรกที่เธออยากรู้ แต่เขาดันจุดประเด็นเรื่องแหวนขึ้นมาแทรกเสียก่อน “แม่ให้พี่มาหาคู่หมั้นตัวเองบ้าง” ฟังเขาพูดแล้วรุ้งพรายชักเครียดขึ้นมาหน่อย ๆ “ถ้าคุณป้าพิมพ์ไม่บอกพี่คริษฐ์ก็คงไม่มาหารุ้งใช่ไหมคะ” “แล้วทำไมรุ้งถึงไม่ไปหาพี่เองบ้างล่ะ” “ก็รุ้งกลัวพี่คริษฐ์รำคาญ” บทสนทนาสิ้นสุดลงด้วยความเงียบด้วยกันทั้งสองฝ่าย คริษฐ์ถอนหายใจเบา ๆ ส่วนรุ้งพรายก็ก้มหน้าต่ำลง ทำไมถึงได้รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก “พี่ไลน์หาอ่านแล้วทำไมไม่ตอบ” คริษฐ์เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อนหลังจากเงียบมาเกือบหนึ่งนาที “พอดีรุ้งมาอ่านตอนดึกแล้วไม่อยากรบกวนพี่คริษฐ์ค่ะ” “ตอบมาสักคำก็ยังดี อย่าทำเหมือนพี่ไม่มีตัวตนนะรุ้ง จำเอาไว้ด้วยว่าพี่เป็นคู่หมั้นของรุ้ง” “มันไม่น่าจะเป็นแบบนี้นะคะพี่คริษฐ์” “อะไรกันที่ว่าไม่น่าจะเป็นแบบนี้” “รุ้งว่าเราถอนหมั้นกันดีกว่าไหมคะ ดูพี่คริษฐ์อึดอัดกับการหมั้นของเราเหลือเกิน ขนาดจะมาหารุ้งก็ต้องให้คุณป้าพิมพ์บังคับมาเลย” “แม่ไม่ได้บังคับพี่” “ไม่บังคับก็เหมือนบังคับนั่นแหละค่ะ ตั้งแต่ตอนเด็กแล้วพี่ คริษฐ์แทบไม่เคยขัดใจคุณป้าพิมพ์ได้เลย ถ้ามันเหนื่อยและยุ่งยากมากรุ้งขอถอนหมั้นไปเลยก็ได้ค่ะ” รุ้งพรายดึงแหวนออกจากนิ้วนางข้างซ้าย แล้ววางแหมะอยู่ตรงหน้าของเขา คริษฐ์มองแหวนมองคนแล้วอารมณ์ของเขาก็เดือดดาลขึ้น บทจะอยากได้ก็วิ่งตามติดเป็นเงา บทจะสลัดทิ้งก็ง่าย ๆ แบบนี้เหรอรุ้งพราย “ใส่กลับไปเดี๋ยวนี้” ชายหนุ่มแทบจะกัดฟันพูดออกมา “ไม่ค่ะ อ๊ะ! พี่คริษฐ์จะทำอะไรรุ้งไม่ใส่” รุ้งพรายถูกคริษฐ์กระชากมือมาแล้วจัดการสวมแหวนกลับที่เดิม “ใส่แล้วห้ามถอด ห้ามทำให้แม่พี่เสียใจรู้ไหม” “พี่คริษฐ์!” (รักร้ายจอมทระนง)
หลังจากดูแลสามีมาเป็นเวลาสามปี เมื่อเห็นสามีสอบติดขุนนาง เฉียวชูเยว่ก็นึกว่าชีวิตดีๆ จะมาแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าสามีเป็นคนโลภ และเจ้าชู้ เพื่อจัดการปัญหาให้สามี เฉียวชูเยว่เสียตัวให้กับจักรพรรดิโหดร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อชีวิตและอนาคตของสามี นางได้แต่อดทนเอาไว้ จากนั้น สามีของนางก็ได้รับการยกย่องจากจักรพรรดิ และถูกเลื่อนตำแหน่งเรื่อยๆ เมื่อสามีของนางกำลังเพลิดเพลินอำนาจและสาวสวยนั้น นางกำลังรับใช้กับจักรพรรดิอย่าง้อยใจ แต่ไม่คาดคิดว่าความพยายามของนางได้แลกกับใบหย่าจากสามี ในวันแต่งงานของสามี นางถูกฆาตกรไล่ตามและตกลงไปในโคลน เมื่อนางหมดหวังนั้น จักรพรรดิก็มายืนอยู่ตรงหน้านาง "มาเป็นคนของข้าสิ และจะไม่มีใครกล้ารังแกเจ้าอีก!"
กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...
เมื่อสามปีก่อน ครอบครัวมัวร์ได้คัดค้านการแต่งงานของชาร์ลสกับไรลีย์ผู้หญิงที่เขารัก และบังคับเขาให้แต่งงานกับสการ์เล็ตต์ แต่ชาร์ลสไม่ได้รักสการ์เล็ตต์ อันที่จริงเขาไม่ชอบหน้าเธอด้วยซ้ำไป ไม่นานหลังจากที่พวกเขาแต่งงานกัน สการ์เล็ตต์ก็ได้รับจดหมายตอบรับจากทางมหาวิทยาลัยที่เธอใฝฝัน ซึ่งทำให้เธอปลื้มปิติเป็นอย่างมาก สามปีต่อมาไรลีย์ป่วยหนัก ชาร์ลส์ตัดสินใจเรียกสการ์เล็ตต์ให้กลับมา และขอหย่ากับเธอเพื่อทำตามความปรารถนาสุดท้ายของไรลีย์ การตัดสินใจอย่างกะทันหันของชาร์ลส์ทำให้สการ์เล็ตต์ปวดใจเป็นอย่างมาก แต่เธอก็เลือกที่จะเซ็นใบหย่า และปล่อยเขาไป ทว่าชาร์ลส์กลับชะลอการหย่า ทำให้สการ์เล็ตต์รู้สึกสับสน และไม่พอใจ ขณะนี้ความลังเลของชาร์ลส์ ทำให้สการ์เล็ตต์ยังไม่ได้รับอิสระ เธอจะหลุดพ้นจากเขาได้หรือไม่? แล้วสุดท้ายชาร์ลส์จะรู้ตัว และสามารถเผชิญหน้ากับความรู้สึกที่แท้จริงของตนเองได้หรือไม่?
© 2018-now MeghaBook
บนสุด