ความสวยสะดุดตา ความสดใสสะดุดใจ ปากที่บอกว่ายังไม่อยากมีใคร แต่ในใจกลับอยากได้เธอมาครอบครอง
ความสวยสะดุดตา ความสดใสสะดุดใจ ปากที่บอกว่ายังไม่อยากมีใคร แต่ในใจกลับอยากได้เธอมาครอบครอง
เรื่อง...คุณหมอเจ้าแผนการ
โปรย
ความสวยสะดุดตา ความสดใสสะดุดใจ ปากที่บอกว่ายังไม่อยากมีใคร แต่ในใจกลับอยากได้เธอมาครอบครอง
แนะนำตัวละคร
กาวิน หรือ หมอวิน อายุ 32 ปี
เขาหล่อ ขาว หน้าเกาหลี เจ้าเล่ห์ แผนสูง ใจดีกับเธอคนเดียวเท่านั้น ส่วนคนอื่นมันก็แค่มารยาท
ข้าวหอม หรือ ใบบัว อายุ 23 ปี
เธอสวย สดใส น่ารัก อุบัติเหตุทำให้เธอความจำเสื่อม แถมยังได้สามีเป็นถึงคุณหมอแบบไม่รู้ตัวอีกด้วย
-------------
พูดคุย
สำหรับเรื่องนี้ (คุณหมอเจ้าแผนการ) เป็นเรื่องต่อ จากเรื่อง...ดวงใจคุณหมอ จากตอนที่ 68 ชื่อตอนว่า...งานแต่ง เป็น ชาย หญิง นิรนามที่มาเจอกันในงานแต่งของคุณหมอนาธานกับน้ำผึ้ง โดยไรท์จะนำตัวละครสองคนนี้จากเรื่อง ดวงใจคุณหมอ มาแต่งให้ฟินกันต่อเนื่องในเรื่องนี้นะคะ (เนื่องจากมีนักอ่านอยากรู้และถามกันเข้ามาเยอะพอสมควร)
ปกหนังสืออาจจะไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ พอดีไรท์ดองไว้นานแล้ว จึงขออนุญาตระบายปกไปในตัวด้วยเลยแล้วกัน เรื่องนี้แต่งขึ้นแบบหมอๆเหมือนเดิม แต่จะไม่มีเรื่องของทางการแพทย์มาเกี่ยวข้องมากนัก เพราะไรท์ไม่มีความรู้ต้องขออภัยด้วยจริงๆค่ะ แต่ความสนุกรับรองไม่ผิดหวังแน่นอน เรื่องนี้พระเอกเป็นคนดีหวงตัวหน่อยๆ ชอบอ่อยเบาๆ ส่วนนางเอกสำหรับเรื่องนี้เธอความจำเสื่อมแล้วได้มาอยู่กับพระเอกค่ะ
----------------------
ตอนที่ 1 งานเลี้ยง
ณ ห้องแต่งตัวภายในบ้านหลังใหญ่แห่งหนึ่งกลางใจเมือง กาวิน คุณหมอหนุ่มวัย 32 ปี ยืนแต่งตัวด้วยชุดสูทหรูดูเรียบร้อย กำลังจะออกไปงานมงคลสมรสเป็นเพื่อนคุณแม่
“ตาวิน...เสร็จหรือยังลูก” คุณสิริโฉม คุณแม่ของกาวินเอ่ยถามลูกชายอยู่หน้าประตูห้อง วันนี้ทั้งสองแม่ลูก ได้รับบัตรเชิญให้ไปเป็นเกียรติในงานมงคลสมรสของผู้ที่มีชื่อเสียงในวงการแพทย์ท่านหนึ่ง
“เสร็จแล้วครับ แต่ผมไม่อยากไปเลย” กาวินเดินออกมาจากห้องของตัวเองด้วยชุดสูทราคาแพง ใบหน้าหล่อเหลาของกาวินมีสีหน้าออกจะเซ็งๆนิดหน่อย เพราะเขาไม่ค่อยชอบออกงานสังคมสักเท่าไหร่
“ลูกต้องหัดไปเจอผู้คนซะบ้างนะ อยู่แต่โรงพยาบาลแบบนี้แล้วเมื่อไหร่ถึงจะมีเมียสักที” คุณสิริโฉมต้องการให้ลูกชายหาเมียเพราะท่านอยากได้หลานไว้เลี้ยงแก้เหงา
คุณสิริโฉมมีลูกสองคน อีกคนเป็นผู้หญิง กำลังเรียนอยู่ต่างประเทศซึ่งเป็นประเทศเดียวกับที่ผู้เป็นสามีทำงานอยู่ ส่วนตัวของคุณสิริโฉมเองก็บินไปๆมาๆระหว่างต่างประเทศกับเมืองไทยเป็นว่าเล่น
“โธ่คุณแม่ครับ ก็ผมยังไม่อยากมีนี่นา” กาวินทำงานเป็นคุณหมอทั่วไปประจำอยู่ที่ห้องฉุกเฉิน งานของเขาค่อนข้างยุ่งไม่ค่อยมีเวลาอยู่บ้าน ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากมี แต่เขาแค่กลัวว่าจะไม่มีเวลาดูแลเธอคนนั้นมากกว่า ดูอย่างคุณพ่อของเขาสิ ทำงานจนไม่มีเวลาให้คุณแม่ แต่ดีที่คุณแม่เข้าใจคุณพ่อดีเสมอมาถึงไม่มีปัญหา แต่ถึงยังไงกาวินก็ไม่อยากให้เธอคนนั้นต้องมาอยู่แบบเหงาๆรอเวลาว่าเมื่อไหร่สามีจะกลับบ้าน ซึ่งบางวันมีเคสคนไข้เยอะ เขาก็นอนที่โรงพยาบาลเลยไม่ได้กลับบ้านซะด้วยซ้ำ ส่วนช่วงที่คุณแม่เดินทางไปต่างประเทศกาวินก็มักจะพักที่คอนโดเพราะว่าที่นั่นมันอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลที่เขาทำงานอยู่มากกว่าที่บ้าน
“ไปๆยังไงงานวันนี้แกก็ต้องหาลูกสะใภ้ให้แม่สักคนให้ได้ อายุก็ไม่ใช่น้อยแล้ว” เรื่องนี้ต้องโทษคุณพ่อที่ทำให้คุณแม่เหงา จนต้องมาบีบบังคับให้ผมหาเมียเพื่อที่ท่านจะได้มีหลานไว้เลี้ยงแก้เหงา คุณพ่อของผมทำงานอยู่ที่สถานทูตและต้องประจำอยู่ที่ต่างประเทศ ท่านมักจะกลับบ้านทุกครั้งที่มีวันหยุด แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเพราะคุณแม่ของผมเดินทางเก่งมาก ไปๆมาๆอย่างกับเป็นเจ้าของสนามบินซะเอง
“เฮ้อ...คุณแม่นะคุณแม่” กาวินบ่นพึมพำพร้อมกับส่ายศีรษะไปมาเบาๆ มองคุณแม่ของเขาเดินนำออกไปที่รถ จากนั้นทั้งสองก็พากันมาถึงที่งาน เมื่อคุณสิริโฉมมาถึงท่านก็รีบพาลูกชายสุดหล่อแถมยังมีดีกรีเป็นถึงคุณหมอ เดินแนะนำเพื่อนๆและเจ้าภาพในงานนี้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มตามแบบฉบับคนใจดี
ทางด้านใบบัว
ใบบัวเป็นเด็กกำพร้า เธอโตมากับสถานเลี้ยงเด็ก พออายุที่สามารถจะทำงานได้แล้ว เธอจึงออกจากที่นั่นมาหางานทำ เธอได้งานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งเจ้าของร้านก็เป็นผู้หญิงที่ทั้งสวยทั้งเก่งและใจดีมากๆ เธอชื่อศิริวรรณ หรือคนทั่วไปเรียกเธอว่าเจ้ศิ เจ้ศิเป็นผู้หญิงเก่งยังไม่มีครอบครัวอายุ 33 ปี
ด้วยความน่ารักและสดใสของใบบัว เจ้ศิจึงชวนใบบัวมาอยู่ด้วยกันที่ร้าน ซึ่งที่พักจะอยู่ชั้นสองของร้าน ส่วนร้านอาหารจะอยู่ชั้นล่าง ใบบัวตกลงมาอยู่กับเจ้ศินานหลายปีแล้ว
ระหว่างที่ใบบัวมาทำงานอยู่ที่ร้านอาหารของเจ้ศิ เจ้ศิได้สอนวิธีทำอาหาร วิธีดูแลลูกค้า ด้านงานบริการ สอนกิริยามารยาทเวลาเข้าสังคม เจ้ศิชุบชีวิตเด็กกำพร้าคนหนึ่งจากที่ไม่มีใครเลย ตอนนี้ใบบัวมีเจ้ศิเป็นเจ้านายและพี่สาวในคนๆเดียวกัน เจ้ศิรักใบบัวเหมือนน้องสาวไปไหนเจ้ศิก็มักจะพาใบบัวไปด้วยเสมอ
เจ้ศิมีบ้านแต่ไม่ค่อยได้กลับบ้าน ชอบอยู่ที่ร้านมากกว่า เธอเป็นผู้หญิงสังคม ออกงานเก่ง เที่ยวก็เก่ง และทุกๆครั้งที่เธอไป เธอก็มักจะชวนใบบัวไปด้วย แล้วตอนนี้ทั้งสองสาววัยต่างกันก็แต่งตัวสวยเดินอยู่ภายในงานแล้ว
เจ้ศิ มีหน้าที่ออกงานสังคมแทนผู้เป็นแม่ที่อยู่ต่างประเทศ หน้าที่ออกงานจึงเป็นหน้าที่ของเจ้ศิมานานแล้ว ส่วนเธอเองก็ชอบออกงานแบบนี้เป็นที่สุด เพราะดูสนุกแถมได้พาน้องสาวอย่างใบบัวออกมาเปิดหูเปิดตาอีกด้วย
ใบบัวหันซ้ายมองขวา เห็นผู้คนรอบข้างมองมาที่เธอกับเจ้ศิเป็นตาเดียว บ้างก็ยิ้มให้ บ้างก็มองเฉยๆ เธอจึงหันไปถามเจ้ศิว่า...
“เจ้ศิคะ...ทำไมคนมองเราสองคนเยอะจังคะ” ใบบัวก้มมองตัวเอง แล้วสำรวจชุดกับใบหน้าให้เจ้ศิด้วยสายตาแต่ก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ
“เถอะน่า...เชิดๆเข้าไว้เชื่อเจ้” เจ้ศิเป็นผู้หญิงมั่นมาก มากจนทำให้ผู้ชายทำได้แค่มองแต่ไม่กล้าเข้าหา จนตอนนี้อายุก็เยอะแล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครกล้าเข้ามาสักที ซึ่งเธอก็ไม่ง้อ แถมยังใช้ชีวิตมีความสุขดีมาตลอดอีกด้วย
“เจ้คะ หน้าบัวมีอะไรติดหรือเปล่า” เธอสำรวจเจ้ศิแล้วปกติดี หรือว่าจะเป็นตัวเธอเองที่ผิดปกติ ใบบัวจึงขอให้เจ้ศิดูให้เธอหน่อย
“มี! ความสวย เหมือนเจ้เลย” เจ้ศิเป็นผู้หญิงอารมณ์ดี เธอพูดไปยิ้มไป แถมยังไม่ได้รู้สึกเกร็งแต่อย่างใด
“โธ่เจ้ พูดเล่นตลอดเลยนะคะ” ถึงอายุของเจ้ศิเข้าเลขสามแล้ว แต่เจ้ศิดูยังไงก็ยังไม่แก่แถมยังสวยวันสวยคืนอีกด้วย
“ทำไม เจ้ไม่สวยเหรอ” เจ้ศิเชิดหน้าขึ้นอย่างมั่นใจ ในความสวยของตัวเอง
“สวยค่ะ เจ้ของบัวสวยไปทั้งตัวเลย” ใบบัวมักจะปากหวานแบบนี้เสมอ ถึงเจ้ศิจะรู้ว่าใบบัวพูดเอาใจเธอแต่นั่นก็ทำให้เจ้ศิพอใจมาก
“บัวของเจ้ก็สวย ป่ะเชิดๆเข้าไว้ เจ้จะพาเราไปหาอะไรอร่อยๆทาน”
“ไปค่ะ บัวหิวพอดีเลย” ทั้งสองสาวพากันเดินไปตักอาหารชิมกันตามประสา เน้นว่าชิม เพราะตักเข้าปากแค่นิดๆหน่อยๆเท่านั้น เจ้ศิเป็นผู้หญิงห่วงสวยแต่ใบบัวเป็นผู้หญิงชอบกิน ใบบัวจึงโดนเจ้ศิควบคุมเรื่องการกินอยู่บ่อยๆ
“อย่างละคำพอเดี๋ยวอ้วน” เจ้ศิรีบห้ามเมื่อเห็นใบบัวกำลังจะตักอาหารมามากเกินไป
“เจ้ขา...ขออย่างละสามคำได้ไหมคะ อันนี้น่าอร่อย”
“ไม่ได้เป็นผู้หญิงต้องสวยห้ามอ้วนเด็ดขาด” ใบบัวจึงวางอาหารชิ้นนั้นลงด้วยใบหน้าเสียดายนิดหน่อย แต่ก็ยอมทำตามที่เจ้ศิบอก
“เป็นผู้หญิงอย่าหยุดสวย กินแค่ชิมๆก็พอ” ยิ่งเจ้ศิพูดใบบัวก็ยิ่งรู้สึกเซ็ง มางานใหญ่โตทั้งทีแต่กลับห้ามกินของอร่อย เอาเข้าปากได้แค่ชิมพอให้รู้รส แต่ผู้หญิงชอบกินอย่างใบบัว เวลาเจ้เผลอเธอก็มีแอบกินเยอะบ้างเป็นบางครั้ง เพราะถึงเจ้ไม่เห็นแต่ถ้าน้ำหนักเธอขึ้น นอกจากจะอดกินของอร่อยยาวๆแล้ว ยังจะถูกเจ้ศิลากเธอไปออกกำลังกายอีกด้วย ซึ่งเป็นอะไรที่ใบบัวไม่ชอบเอาเสียเลย เธอจึงเลือกทานอาหารแต่พอดีเพื่อให้หุ่นยังคงที่เหมือนเดิม
“บัวยังอายุน้อยอยู่ระบบเผาพลาญน่าจะยังดีอยู่ ขออีกคำได้ไหมคะ” สายตาอ้อนวอนของใบบัวก็ไม่ได้ทำให้เจ้ศิสงสารแต่อย่างใด
“มีแต่ของหวานๆทั้งนั้น นี่ถ้าแกกินผู้ชายแทนได้เจ้จะไม่ห้ามเลย”
“โธ่เจ้ เรื่องเดียวกันไหมนี่ ไม่กินก็ไม่กิน เจ้อย่าเผลอก็แล้วกัน” เจ้ศิไม่ได้สนใจที่ใบบัวบ่น เพราะเธอฟังจนชินแล้ว แต่เลือกที่จะสะกิดให้น้องสาวหันไปมองผู้ชายหล่อๆในงานแทน ซึ่งใบบัวก็รู้สึกว่าไม่เห็นมีอะไรน่าดูเลยสักนิด สู้ขนมตรงหน้าก็ไม่ได้
ทางด้านหน้างาน
เมื่อเวลาล่วงเลยมาจนถึงช่วงเวลาสำคัญ นั่นก็คือเจ้าสาวกำลังโยนช่อดอกไม้ เจ้ศิรีบดึงมือใบบัวเดินไปด้วยกันที่หน้าเวที เพื่อจะไปเป็นสาวโสดยืนรอรับช่อดอกไม้ที่เจ้าสาวกำลังจะโยนลงมาจากเวทีนั่นเอง
“เจ้คะ…” ใบบัวทำหน้าไม่อยากเข้าไป แต่สุดท้ายก็ยอมเดินตามเจ้ศิเข้าไปอยู่ดี
“เถอะน่า...ตรงนี้พื้นที่คนโสด เผื่อเจ้จะได้มีผัวกับเขาสักที” ปีนี้เจ้ศิมีอายุได้ 33 ปีแล้ว ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากมีใคร แต่ชีวิตของเธอที่ผ่านมามันไม่มีใครเข้ามาเลยต่างหาก สงสัยเนื้อคู่ของเธอจะยังไม่เกิด
และแล้วสาวโสดที่มีทั้งอายุน้อยอายุมากก็มารวมตัวกันอยู่ที่หน้าเวทีกันเป็นแถว พวกเธอต่างมารอรับช่อดอกไม้ที่เจ้าสาวกำลังจะโยนลงมาในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า
ทางด้านกาวิน เขานั่งอยู่ที่โต๊ะด้านหน้าเวที กำลังมองสาวๆรอรับช่อดอกไม้อยู่ เกิดสะดุดตาเข้ากับหญิงสาว หน้าตาน่ารักสวมชุดกระโปรงสีชมพูอ่อนคนหนึ่ง เธอทำหน้าเหมือนถูกบังคับให้ไปยืนอยู่ตรงนั้น แต่สายตาของกาวินที่นั่งมองเธออยู่กลับรู้สึกถูกใจกับผู้หญิงที่สวมชุดสีชมพูอ่อนคนนี้มาก เธอสดใสในแบบของเธอ ใบหน้าเกลี้ยงเกลาแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางเบา มองดูแล้วน่ารักไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆที่จัดเต็มตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เพราะแบบนั้นเขาเห็นบ่อยจนรู้สึกเบื่อ
ในขณะที่กาวินนั่งมองหญิงสาวคนนั้นอย่างเพลินๆ อยู่ๆช่อดอกไม้ที่เจ้าสาวโยนลงมาจากบนเวทีก็มาตกอยู่ที่หน้าตักของเขาอย่างจัง กาวินตกใจไม่คิดว่าช่อดอกไม้ที่เขาไม่อยากได้จะมาหล่นอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ พร้อมกับสายตาของผู้คนในงานที่มองมาที่เขาเป็นตาเดียว
กาวินรู้สึกว่าสายตาของผู้คนในงานได้จับจ้องมาที่เขานานเกินไปแล้ว เขาจึงลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินเข้าไปหาหญิงสาวในชุดสีชมพูอ่อนคนนั้นที่เขานั่งมองเธออยู่เมื่อสักครู่นี้
“อ่ะผมให้...” กาวินเดินตรงเข้าไปหาหญิงสาวตัวเล็กใบหน้าหวานคนนั้น โดยที่เขาก็ไม่รู้ว่าเธอชื่ออะไร
“แต่คุณเป็นคนรับได้นะคะ” เขาส่ายหน้าเบาๆพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ เขาไม่ได้รับได้แต่มันตกลงมาที่หน้าตักของเขาเองต่างหาก และที่สำคัญเขาไม่ได้อยากได้มันเลยสักนิด ดอกไม้ช่อนี่มันน่าจะเหมาะกับคนสวยๆอย่างเธอมากกว่า
“ผมไม่ได้อยากได้ ให้คุณแล้วกัน” เขายื่นช่อดอกไม้ที่อยู่ในมือให้เธอ ตอนนี้บรรยากาศโดยรอบ ไม่ว่าจะเป็นเสียงเชียร์ หรือแม้นแต่เสียงกดชัตเตอร์รัวๆของช่างกล้อง นักข่าว ที่มาทำข่าวในงาน ต่างเก็บภาพนี้กันอย่างเนืองแน่น
“ขอบคุณค่ะ” ใบบัวยื่นมือไปรับช่อดอกไม้ช่อนั้นเอามาถือไว้แบบงงๆ เธอก็ไม่ได้อยากได้เหมือนกัน เจ้ศิต่างหากที่อยากได้ แล้วเมื่อดอกไม้ช่อนี้ตกมาอยู่ในมือของเธอแล้ว กาวินจึงเดินกลับไปนั่งที่เดิม โดยมีสายตาของคุณแม่มองลูกชายด้วยรอยยิ้ม
“เจ้ศิ บัวให้” ใบบัวเห็นเจ้ศิอยากได้ ก็เลยคิดว่าให้เจ้ศิดีกว่าเพราะเธอก็ไม่ได้อยากได้ ที่รับมาเพราะเป็นมารยาทเท่านั้น
“ถึงเจ้จะรีบ แต่หนุ่มหล่อคนนั้นเขาไม่ได้ให้เจ้ บัวเก็บไว้เถอะ”
แค่เพียงสบตาความปรารถนาอันร้อนแรงของเขาก็ได้ก่อตัวขึ้น ในเมื่อแต่งงานกันแล้ว เขาย่อมมีสิทธิ์ในตัวเธอทุกประการ
คืน One Night Stand ของมาเฟียอิตาลีกับยัยขี้เมา เช้าวันนั้นเธอหายไป เขาจึงออกตามหา แต่เมื่อได้เจอกันเธอกลับจำหน้าเขาไม่ได้
เรื่อง...คุณหมอสะดุดรัก คำโปรย พริ้งพราวเพื่อนลากให้ไปเที่ยวผับแต่เธอดันถูกยาปลุกเซ็กเข้า แล้วบังเอิญมาเจอกับเขา คุณหมอหนุ่มวัย35ปี แล้วคุณหมอจะมีวิธีช่วยเธออย่างไร... แนะนำตัวละคร วายุภักษ์ ภักดีวัฒนากุล (วายุ) อายุ 35 ปี เขาเป็นผู้ชาย ขี้เล่น อารมณ์ดี และที่สำคัญเขายิ้มเก่งมากๆ วายุเป็นผู้บริหารโรงพยาบาลสาขาที่เชียงใหม่และยังพ่วงด้วยตำแหน่งคุณหมอโรคหัวใจ เขาเป็นลูกชายคนโตของ เจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่มีสาขาอยู่หลายแห่งของประเทศไทย วายุมีความจำเป็นต้องย้ายมาจากสาขาที่เชียงใหม่ เพราะน้องชายที่ประจำอยู่เกิดอุบัติเหตุ วายุเลยมาประจำอยู่สาขาที่กรุงเทพแทนเป็นการชั่วคราว กมลเนตร ธนพัฒน์ธาดา (พริ้งพราว) หญิงสาวบริสุทธิ์ อายุ 24 ปี ทำงานในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพ และเหตุการณ์ในวันนั้นทำให้เธอกับเขาอยู่ด้วยกันและค่อยๆ สนิทกัน เหนือเมฆ ภักดีวัฒนากุล (เมฆ) น้องชายคนเดียวของวายุ ตั้งแต่เขาประสบอุบัติเหตุเดินไม่ได้ เขาก็กลายเป็นคนอารมณ์ร้อน พยาบาลพิเศษที่จ้างมาดูแล ไม่มีใครสามารถอยู่กับเขาได้ จนได้มาเจอกับ...ข้าวหอม ศศินาทิพย์ คงเจริญ (ข้าวหอม) พยาบาลจบใหม่ เธออยู่ในช่วงทดลองงาน ถูกทางโรงพยาบาลขอร้องให้ไปดูแลคนป่วยที่บ้านตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีเงื่อนไข และเงื่อนไขนั้นทำให้เธอยอมตอบตกลงรับทำงานนี้ @@@@@@
เรื่อง...พ่อม่ายกับยัยพี่เลี้ยง คำโปรย...นักธุรกิจหนุ่มลูกติด มีปมชีวิตความใสซื่อและความดีของเธอทำให้เขาสนใจ ส่วนลูกชายที่ไม่ยอมไปโรงเรียนเพราะโดนเพื่อนล้อว่าไม่มีแม่ อยากได้เธอมาเป็นแม่ซึ่งเขาก็เห็นด้วยกับลูกชายเช่นกัน แนะนำตัวละคร คุณอาทิตย์ เจริญเดชาพงษ์ (คุณอาทิตย์) หนุ่มหล่อรวย เป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้ากลางใจเมือง และยังมีธุรกิจ ผลิต นำเข้า และส่งออก เกี่ยวกับสิ่งอิเล็กทรอนิกส์ รายใหญ่ที่สุดในประเทศอีกด้วย แต่อาทิตย์เขามีลูกติดชื่อน้องเกียร์เป็นเด็กผู้ชายอายุสามขวบ แม่เสียชีวิตตอนคลอดน้องเกียร์ออกมาได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เพราะเธอเสียเลือดมาก นันทิชา มงคลสวัสดิ์ (มิรา) หญิงสาวที่พึ่งเรียนจบมาใหม่ๆ เธอตกงาน ที่บ้านกำลังลำบาก เธอออกหางานทำเพราะต้องส่งน้องเรียน น้องเธออยู่มัธยมต้น เป็นผู้หญิงชื่อลิลิน พ่อแม่เสียไปนานแล้ว เหลือกันอยู่แค่สองคนพี่น้อง โดยได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านถึงรอดมาถึงทุกวันนี้ได้
เรื่อง...คุณหมออาสากับยัยเด็กบนดอย โปรย...ความรักมันไม่ได้เกี่ยวกับอายุ...แต่มันเกี่ยวอยู่ที่ใจ เขาไม่อยากมีลูกเพราะฉะนั้นเขาก็เลยไม่คิดที่จะมีเมีย ความรักเป็นเรื่องตลกไม่มีเขาก็อยู่ได้ แนะนำตัวละคร แสงเหนือ หรือ หมอแสง อายุ 32 ปี นิสัย ปากร้าย อารมณ์ดี ขี้เล่น อบอุ่นและขี้หึงสุดๆ แต่เขาไม่อยากมีลูกเพราะฉะนั้นเขาก็เลยไม่คิดที่จะมีเมีย ความรักเป็นเรื่องตลกไม่มีเขาก็อยู่ได้ ปิ่นงาม หรือ ปิ่น อายุ 20 ปี เธอสวย เก่ง เธอใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่บนดอยสูง เธอมีความสุขตามอัตภาพของเธอ แต่แล้วชีวิตของเธอก็ได้เปลี่ยนไปเมื่อมีเขาเดินเข้ามา ************* (เรื่องนี้เขียนต่อจากเรื่อง...คุณหมอเจ้าแผนการ) ปล.นิยายเรื่องนี้ทุกเหตุการณ์เป็นการสมมุติขึ้นทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเป็นอยู่ ศาสนา วัฒนธรรม หรืออะไรก็แล้วแต่ในเนื้อหาของเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้แต่งที่สมมุติขึ้นทั้งสิ้น
เมื่อความผิดพลาดของเขาและเธอ ทำให้ทั้งสองได้เด็กมาเลี้ยง เขาได้เลี้ยงเด็กผู้ชาย ส่วนเธอได้เลี้ยงเด็กผู้หญิง แล้วทั้งสองก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย จนกระทั่งสี่ปีผ่านไป ทั้งสองกลับมาเจอกันอีกครั้ง ด้วยเงื่อนไขวุ่นๆของครอบครัว
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
"อ๊ะ..ที่ไหนนี่มืดจัง อึดอัดจังเลย โอ้ย !!ใครถีบหัววะ" "ฮูหยินคลอดแล้วเป็นคุณชายน้อยเจ้าค่ะ ยังมีอีกคนเจ้าค่ะ เบ่งอีกเจ้าคะ " "อุ๊แว" "เป็นคุณหนูเจ้าค่ะฮูหยิน"
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
นางแบบสาวไทยที่ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขมาโดยตลอด...จนวันหนึ่งได้พบกับเขา เขาที่เป็นพี่ชายสามีของน้องนางแบบที่เคยทำงานด้วยกัน ชีวิตของเธอก็ได้เปลี่ยนไป เพราะนอกจากถูกเขากวนใจแล้ว..เธอยังถูกเขากวนตัวอีกด้วย
© 2018-now MeghaBook
บนสุด