เรื่องราวความรักของเดย์ บอดี้การ์ดหนุ่มคู่ใจของแทนไท กับสาวน้อยยูมิ เด็กสาวข้างบ้านของพรพระพาย เจอหน้าเป็นต้องทะเลาะกัน กลายเป็นคู่กัดประจำบ้าน จากเรื่อง รักร้าย มาเฟียลูกติด
เรื่องราวความรักของเดย์ บอดี้การ์ดหนุ่มคู่ใจของแทนไท กับสาวน้อยยูมิ เด็กสาวข้างบ้านของพรพระพาย เจอหน้าเป็นต้องทะเลาะกัน กลายเป็นคู่กัดประจำบ้าน จากเรื่อง รักร้าย มาเฟียลูกติด
ยูมิ ยลดา สาวน้อยวัย 17 ปี เท่าที่จำความได้แม่ของเธอมีสามีมาแล้วสองคน ไม่รวมพ่อชาวญี่ปุ่นที่เธอไม่เคยเห็นหน้า มีเพียงคำบอกเล่าของ รตี ผู้เป็นแม่เท่านั้น
...พ่อของเธอกลับประเทศของเขาไปตั้งแต่แม่ตั้งท้องเธอ เธอไม่เคยรู้ว่าทำไมพ่อถึงทิ้งเธอกับแม่ไป เพราะแม่ไม่เคยให้เหตุผล แต่เธอก็ไม่เคยร้องคร่ำครวญหาพ่อ
ตอนยลดาอายุ 5 ขวบ แม่ของเธอพามาเช่าบ้านหลังใหม่ ทำให้เธอได้เจอกับพี่สาวใจดี พาย พรพระพาย เธอมักจะมาเล่นที่บ้านของ พรพระพายเป็นประจำ จริงๆ แล้วแทบจะกินนอนที่บ้านพรพระพายด้วยซ้ำ
แม่ของยลดาไม่ค่อยมีเวลาให้ กลางคืนก็ออกไปทำงานปล่อยให้เธอที่เป็นเด็กนอนหลับอยู่บ้านเพียงลำพัง เธอจึงชอบมานอนกับ พรพระพาย เพราะความที่ยลดาได้ใกล้ชิดกับพรพระพายจึงซึมซับนิสัยดีๆ ของพรพระพายไว้มาก ถ้าไม่มีพรพระพายเธอคงเป็นเด็กใจแตกไปแล้ว แต่แล้ววันหนึ่งพี่พายของเธอก็ต้องไปอยู่ที่อื่นเพราะพ่อแม่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งคู่
แม่ของยลดาทำงานร้านอาหาร จะออกไปทำงานช่วงเย็นกว่าจะกลับก็ดึกดื่น บางวันก็กลับมาในเวลารุ่งเช้า เหมือนดั่งวันนี้ที่แม่ของเธอกลับมาพร้อมผู้ชายคนใหม่
"ยูมิ นี่น้าวุธจะมาอยู่กับเราที่นี่ ไหว้น้าเขาสิ" แม่พาผู้ชายคนใหม่มาแนะนำให้ยลดารู้จัก เธอเพียงปรายตามอง ไม่ให้ความสนใจ นั่งดูทีวีรายการโปรดของเธอต่อ
"นี่แกไม่ได้ยินที่ฉันพูดเหรอ" รตีถามเสียงดังลั่นด้วยความไม่พอใจที่ลูกสาวทำเป็นเฉยเมย
"นี่ลูกสาวพี่เหรอ โตเป็นสาวแล้วนะเนี่ย หน้าเหมือนตุ๊กตาเลย" ผู้ชายของรตีพูดขึ้น แต่สายตาที่เขามองมาทางยลดามันเหมือนเสือที่เจอเหยื่ออันโอชะ
"ทำไม สนใจ?" รตีหันไปมองหน้าชายหนุ่มอย่างไม่พอใจนัก
"พี่ก็รู้ว่าผมไม่ชอบเด็ก ชอบแบบพี่มากกว่า" วุธบอก ก่อนจะก้มลงไปขบเม้มที่ใบหูของรตี
"อายยูมิมันบ้างสิ" รตีพูดด้วยความเขินอายราวกับสาวแรกรุ่น
"ไม่เห็นต้องอายเลยคนรักกัน" วุธพูดพร้อมทั้งซุกไซ้ซอกคอของรตี แต่สายตาของเขายังคงจับจ้องมาที่เด็กสาว
"นี่ พี่จั๊กจี้" รตีเอ่ยว่า แต่ก็ไม่ได้ห้ามปราม ก่อนจะพากันเดินหายเข้าห้องนอนไป
"อื้อ...วุธ...พี่เสียว...อ๊า...ดูดนมพี่แรงๆ...อื้ม...แบบนั้น...อ๊า"
"พี่นี่ร้อนแรงจัง...ผมอยากจะกระแทกพี่แรงๆ แล้ว...อ๊า"
เสียงร้องครวญครางของรตีกับวุธ ทำให้ยลดาไม่อาจทนนั่งฟังอยู่ได้ เธอจำใจต้องเดินหนีออกไปนอกบ้าน ทั้งที่อยากจะนั่งดูทีวีรายการโปรดต่อให้จบ
ทุกครั้งที่รตีไม่อยู่บ้าน วุธมักจะเข้ามาถึงเนื้อถึงตัว พูดจาสองแง่สองง่ามกับยลดา เธอพยายามที่จะหลบเลี่ยงตลอด เธอเคยบอกผู้เป็นแม่ แต่แม่ของเธอไม่เคยเชื่อ กลับกลายเป็นว่าเธอเป็นฝ่ายให้ท่า อยากได้ผัวของแม่ ยลดาจึงไม่เคยบอกอีกเลย ได้แต่คอยระวังตัวเอง อยู่ให้ห่างจากผู้ชายคนนี้
แต่แล้ว ขณะที่ยลดานอนเล่นเกมในสมาร์ตโฟน จู่ๆ วุธก็เปิดประตูห้องนอนของเธอเข้ามา ทั้งที่เธอล็อคประตูแล้ว แต่เขาใช้กุญแจสำรองไขเข้ามา
"เข้ามาทำไม ออกไปนะ" ยลดาเอ่ยปากไล่เสียงดัง
"น้าก็แค่จะเข้ามาถามว่ายูมิกินอะไรหรือยัง" วุธถามราวกับห่วงใยแต่สายตาเหมือนพวกหื่นกาม
"ไม่ต้องมายุ่ง ออกไปจากห้องยูมินะ" ยลดาหวาดกลัวถอยหนีไปชิดหัวเตียง
"อย่าเล่นตัวไปหน่อยเลยน่า น้าจะทำให้ยูมิมีความสุขที่สุด" วุธค่อยๆ เดินเข้ามาหายลดาช้าๆ
"ออกไปนะ ไม่งั้นยูมิจะร้องให้แม่ได้ยิน" ยลดาข่มขู่ น้ำเสียงของเธอแฝงไปด้วยความหวาดกลัว
"เรียกให้คอแตกอีแก่นั่นก็ไม่ได้ยินหรอก"
"แม่! แม่!" ยลดาตะโกนเรียกคนเป็นแม่เสียงสุดเสียง
"น้าบอกแล้วว่าอีแก่มันไม่ได้ยินหรอก อีแก่มันออกไปทำงานแล้ว ไม่มีทางมาขัดขวางความสุขของเราหรอกหนูยูมิ" วุธพูดเหมือนพวกโรคจิต
"แม่!" ยลดาตะโกนเรียกเสียงดังลั่น ก่อนจะรีบวิ่งลงจากเตียงเพื่อจะออกจากห้องนอน
หมับ!
วุธวิ่งตามกระชากแขนของยลดา แล้วจับเธอเหวี่ยงลงไปบนเตียงอย่างแรง จนเธอทั้งเจ็บทั้งจุก
"โอ๊ย! อย่าเข้ามานะ" ยลดาร้องด้วยความเจ็บ พยายามหาทางหนี แต่ก็ถูกดึงข้อเท้าไว้ วุธตามขึ้นมาคร่อมตัวเธอไว้ เธอพยายามดิ้นรนสุดกำลัง แต่ก็โดนเขายึดข้อมือไว้กับเตียง
"เป็นของน้าเถอะนะ น้าจะทำให้ยูมิมีความสุขจนลืมไม่ลงเลย" น้ำเสียงอันหื่นกระหาย พร้อมทั้งพยายามซุกไซ้ซอกคอของเด็กสาว
"ไม่นะ! ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยยูมิด้วย" เสียงร้องขอความช่วยเหลือดังลั่นห้อง
ยลดาพยายามดิ้นหนีสุดชีวิต เธอกระแทกเข่าไปที่กล่องดวงใจของไอ้ผู้ชายบ้ากาม เมื่อได้โอกาสตอนมันนอนตัวงอด้วยความจุก เธอก็คว้าแจกันที่ตู้ข้างเตียงทุ่มไปที่หัวของมัน จนเลือดไหลอาบ
"โอ๊ย! อีเด็กบ้า" เสียงของมันร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด
ยลดาได้ทีรีบวิ่งหนี เธอวิ่งมาถึงหน้าประตูบ้าน ก็เห็นคนเป็นแม่เดินกลับมา เธอจึงวิ่งไปแอบที่ห้องเก็บของ
"ว๊าย! มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมวุธถึงเป็นแบบนี้ เลือด!" รตีร้องลั่นด้วยความตกใจเมื่อเห็นแจกันแตกกระจาย และเลือดสีแดงสดไหลออกมาจากหัวของสามีหนุ่ม
"ก็ฝีมือลูกสาวพี่น่ะสิ ผมแค่เข้ามาเตือนว่าให้อ่านหนังสือบ้าง ไม่ใช่นั่งเล่นแต่เกม คงไม่พอใจ เลยคว้าแจกันมาทุ่มใส่หัวผมเนี่ย พี่รีบพาผมไปหาหมอก่อนเถอะ เลือดจะไหลหมดตัวแล้ว"
"ไปๆ ดูสิเลือดออกเยอะเลย" รตีที่ปักใจเชื่อพูดอย่างเป็นห่วง
"นังลูกไม่รักดี อย่าให้เจอตัวนะ แม่จะเอาให้ตายคามือเลย ดูสิมาทำวุธขนาดนี้" รตีประกาศกร้าว ก่อนจะพยุงวุธออกไป
ยลดาเห็นดังนั้นจึงรีบออกมาจากห้องเก็บของ เธอตัดสินใจหนีออกจากบ้าน เธอรีบเข้าไปเก็บเสื้อผ้าสองสามชุดยัดใส่กระเป๋าเป้ แล้วก็หยิบกระปุกออมสินของเธอไปด้วย รีบออกจากบ้านไปทันที ด้วยกลัวว่าแม่ของเธอจะกลับมาเสียก่อน
มาเฟียหนุ่มมีธุรกิจในเครือมากมาย มีลูกชายวัย 3 ขวบที่เกิดจากผู้หญิงที่เขารัก แต่เธอทิ้งเขากับลูกไปกับผู้ชายที่รวยกว่า เขาจึงกลายเป็นผู้ชายเย็นชา เห็นผู้หญิงเป็นเพียงที่ระบายความใคร่ จนได้มาเจอเธอ... ....................... แทน แทนไท มาเฟียหนุ่มในวัย 29 ปี เจ้าของธุรกิจมากมายทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย มีลูกชายวัย 3 ขวบที่เกิดจากผู้หญิงที่เขารักมาก แต่เธอก็ทิ้งเขากับลูกไปกับผู้ชายคนอื่นที่ในเวลานั้นรวยกว่าเขา ซึ่งในตอนนั้นลูกชายอายุเพียง 1 เดือนเท่านั้น ทำให้เขากลายเป็นผู้ชายเย็นชา เห็นผู้หญิงเป็นเพียงที่ระบายความใคร่ และนั้นก็เป็นแรงผลักดันให้เขาทำทุกวิถีทางที่จะเป็นหนึ่งในด้านธุรกิจ เขาใช้เวลาเพียงแค่ 3 ปี ก็กลายเป็นนักธุรกิจหนุ่มที่มั่งคั่งร่ำรวยที่สุดคนหนึ่ง ทำให้มีผู้หญิงยอมพลีกายให้เขานับไม่ถ้วน พาย พรพระพาย หญิงสาวในวัย 22 ปี พึ่งเรียนจบ ชีวิตของเธอต้องพลิกพลัน จากเด็กที่มีพร้อมทุกอย่าง แต่แล้วอุบัติเหตุทางรถยนต์ก็พากชีวิตของพ่อกับแม่เธอไปตลอดกาล ในตอนที่เธอกำลังเรียนมหาวิทยาลัยปี 2 แต่ยังโชคดีที่พ่อแม่ของเธอยังมีเงินประกันชีวิต ที่จะสามารถส่งเธอเรียนจนจบมหาวิทยาลัยได้ เมื่อเรียนจบเธอได้เข้าทำงานในตำแหน่งเลขานุการของบริษัทในเครือแทนไท คอร์ปอเรชั่น อาชิ ด.ช.อินทัช เด็กชายวัย 3 ขวบ ลูกชายของแทนไทกับดารินเป็นเด็กที่เฉลียวฉลาด ดูโตกว่าเด็กในวัยเดียวกัน แต่มีโลกส่วนตัวสูง ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ได้นิสัยของผู้เป็นพ่อมาเต็มๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วอาชิเป็นเด็กร่าเริง คุยเก่ง อ้อนเก่ง เมื่ออยู่กับพรพระพาย
หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง
ในระยะเวลาสองปีที่แต่งงานกัน เนี่ยเหยียนเซินจู่ๆ ก็เสนอขอหย่า เขาพูดว่า "เธอกลับมาแล้ว เราหย่ากันเถอะ คุณอยากได้อะไรบอกมาได้เลย" ชีวิตการแต่งงานสองปีสู้อีกคนที่หันหลังกลับมาไม่ได้ ตามอย่างที่คนเขาว่ากัน "คนรักเก่าแค่ร้องไห้สักหน่อย คนรักปัจจุบันก็ย่อมแพ้แน่นอน" เหยียนซีไม่ได้โวยวายอะไร เลือกที่จะตอบตกลงและเสนอเงื่อนไขว่า "ฉันต้องการรถซูเปอร์คาร์ที่แพงที่สุดของคุณ" "ได้" "วิลล่าสุดหรูชานเมือง" "ตกลง" "กำไรหลายพันล้านที่หามาในช่วงสองปีนี้ แบ่งคนละครึ่ง" "อะไรนะ"
ครอบครัวเสิ่นเลี้ยงดูเซี่ยซางหนิงเป็นเวลา 20 ปี และเธอเองก็ถูกเอาเปรียบมาเป็นเวลา 20 ปีเช่นกัน วันหนึ่ง พวกเขาตามหาลูกสาวตัวจริงพบ และเซี่ยซางหนิงก็ถูกไล่ออกจากตระกูลเสิ่น ได้ยินมาว่าพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของเธอกำลังเผชิญกับความยากลำบากอย่างหนัก แต่ความเป็นจริง พ่อแม่ทางสายเลือดของเธอเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมืองไห่ เป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดที่ตระกูลเสิ่นไม่สามารถเอื้อมถึงได้ ตระกูลเสิ่นที่คอยดูว่าเซี่ยซางหนิงจะต้องตกอับอย่างน่าสมเพช แต่กลับต้องตกตะลึงซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับตัวตนของเซี่ยซางหนิง ผู้มีอิทธิพลในการเงินระดับโลก วิศวกรระดับแนวหน้า นักแข่งรถอันดับหนึ่งของโลก... เธอยังมีความสามารถที่ซ่อนอยู่อีกกี่อย่างกันแน่ คู่หมั้นยกเลิกการหมั้นกับเซี่ยซางหนิง อย่างไรก็ตาม เมื่อเซี่ยซางหนิงไปออกเดทกับพี่ชายฝาแฝดของเขา เขากลับปรากฏตัวขึ้นและสารภาพรักกับเธอ
หนานซ่งเป็นภรรยาที่ดีมาสามปีแล้ว แต่เธอก็ยังไม่สามารถทำให้หยูจินเหวินตกหลุมรักเธอได้ และยังต้องการหย่ากับเธอเพื่อผู้หญิงตีสองหน้าเก่งคนหนึ่งด้วยซ้ำ ช่างเถอะ จะหย่าก็หย่าเลย ฉันไม่เล่นด้วยแล้ว เธอลบร่องรอยของตัวเองทั้งหมด หายไปจากโลกของเขาโดยสิ้นเชิง จากนั้นพลิกผันกลับอย่างสง่างามและกลายเป็นคู่หูในฝันของเขา หนานซ่งมองสามีเก่าของเธออย่างเย็นชา "อยากร่วมมือกับฉันเหรอ คุณเป็นใครกัน" มีผู้ชายจะมีประโยชน์อะไร ฉันจะโดดเด่นคนเดียว ต่อมาหยูจินก็ตามจีบภรรยาเก่าของเขาจากนั้นพบว่า - หัวหน้าแฮ็กเกอร์คือเธอ เชฟชื่อดังระดับนานาชาติคือเธอ หมอระดับนานาชาติชื่อดังคือเธอ ปรมาจารย์การแกะสลักหยกคือเธอ... ล้วนเป็นเธอ! เมื่อเห็นว่าเส้นทางตามจีบภรรยาของเขายิ่งลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ หยูจินเหวินก็สติแตก! คุณมีตัวตนอีกมากเท่าไรที่ฉันไม่รู้? - - หนานซ่ง: ใจเย็นๆ ฉันเก่งในทุกๆ ด้าน ตามจีบต่อเลย
เวินอี่ถงได้เห็นความรักอันลึกซึ้งของเจียงยวี่เหิง แต่ก็ได้สัมผัสกับการทรยศของเขาเช่นกัน เธอเผารูปแต่งงานของพวกเขาต่อหน้าเขา แต่เขากลับมัวแต่ง้อชู้ของเขา ทั้งๆ ที่เขาแค่มองดูแวบหนึ่งก็จะเห็น แต่เขากลับไม่สนใจเวินอี่ถงสุดจะทน ตบหน้าเขาอย่างแรง พร้อมอวยพรให้เขากับชู้ของรักกันยืนยาว แล้วเธอก็หันหลังสมัครเข้ากลุ่มวิจัยลับเฉพาะ ลบข้อมูลประจำตัวทั้งหมด รวมถึงความสัมพันธ์การแต่งงานกับเขาด้วย! ก่อนจากไป เธอยังมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้เขาอีกด้วยเมื่อถึงเวลาที่จะเข้ากลุ่ม เวินอี่ถงก็หายตัวไป บริษัทของเจียงยวี่เหิงประสบปัญหาล้มละลาย เขาจึงออกตามหาเธอด้วยทุกวิถีทาง แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นใบมรณบัตรที่ต้องสงสัยเขาสติแตก “ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่ยอมรับ!”เมื่อพบกันอีกครั้ง เจียงยวี่เหิงต้องตกใจที่พบว่าเวินอี่ถงเปลี่ยนตัวตนใหม่แล้ว โดยข้างกายมีผู้มีอำนาจที่เขาต้องยอมก้มหัวให้เขาอ้อนวอนอย่างสิ้นหวัง “ถงถง ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาเถอะ!”เวินอี่ถงเพียงยิ้มยักคิ้ว จับแขนของผู้มีอำนาจข้างๆ “น่าเสียดาย ตอนนี้ฉันอยู่ในระดับที่นายไม่อาจเอื้อมถึงแล้ว”
"เธอคือผู้ฝึกสัตว์ร้ายที่มีดวงตาสีม่วงอันเป็นเอกลักษณ์ในศตวรรษที่ 24 เมื่อเธอเกิดใหม่เป็นหญิงตั้งครรภ์ ดวงตาของเธอถูกขุดออก การฝึกฝนของเธอถูกทำลาย ตัวตนของเธอถูกพรากไป และลูกชายของเธอถูกไอ้สารเลวและผู้หญิงใจร้ายแย่งชิงไป! จะทนกับสิ่งนี้ได้อย่างไร! จากนั้นเธอใช้ชีวิตกับลูกสาว ปราบสัตว์ร้ายทั้งหมดด้วยดวงตาสีม่วงของเธอ จัดการทุกคนที่หาเรื่องพวกเขา และในที่สุดก็พบกับราชาเทพชั่วร้ายที่พาลูกชายของเธอไปจนได้ ลูกตัวน้อย ""แม่ มีผู้ชายคนหนึ่งที่บอกว่าตราบใดที่หนูเรียกเขาว่าพ่อ เขาจะมอบภูเขาทองคำให้หนู"" ผู้หญิง ""ถามเขาหน่อยว่าเขามีอีกไหม ฉันสามารถเรียกเขาว่าพ่อได้ด้วยนะ"" ราชาเทพกัดฟัน ""สาวน้อย ลูกทั้งสองเป็นของฉัน และตัวเธอก็เป็นของฉันด้วย"""
© 2018-now MeghaBook
บนสุด