อดีตที่ยากจน แม่เลี้ยงสามีที่เอาเปรียบบ้านใหญ่ บ้านรอง ของพวกเธอต้องชดใช้!
อดีตที่ยากจน แม่เลี้ยงสามีที่เอาเปรียบบ้านใหญ่ บ้านรอง ของพวกเธอต้องชดใช้!
บรรยากาศภายในห้องทำงานเย็นเฉียบท่ามกลางอากาศภายนอกที่ร้อนระอุ
“อีกแค่ 10 วันเองเหอเสี่ยวหง” หญิงสาวพึมพัมกับตัวเองหลังเปิดดูปฏิทินประจำปีที่ตั้งไว้บนโต๊ะทำงาน
อีกแค่สิบวันก็จะถึงวันเกิดที่เธอเกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ เป็นเวลาเกือบสามสิบปีที่รอคอยมันใกล้จะมาถึงแล้ว
เหอเสี่ยวหงใช้มือที่ถือปากกาเช็ดน้ำตาที่กำลังจะไหล “ฉันใกล้จะได้กลับไปหาทุกคนแล้ว” เธอยิ้มอย่างยินดี
ก๊อก! ก๊อก!
‘คุณเหอคะ! หยาดฟ้าเองค่ะ’
“เข้ามา!”
เสียงรองเท้าส้นสูงกระแทกกับพื้นห้องดังขึ้น ทำให้เหอเสี่ยวหงที่เหม่ออยู่ เงยหน้าขึ้นมองคนที่เดินเข้ามาภายในห้อง
“มีอะไร” เหอเสี่ยวหงถามเสียงเรียบ พลางก้มหน้าอ่านเอกสารต่อ
“กลีเซอรีนจำนวน 10,000,000 ก้อน ขี้ผึ้งสีขาวจำนวน 3,000,000 ก้อน เทียนคละสีจำนวน 5,000,000 เล่ม หยาดได้สั่งซื้อจากโรงงานให้ไปส่งที่สวนแล้วนะคะ ไม่เกิน 2 วัน ทางโรงงานน่าจะส่งถึง” หยาดฟ้าที่ก้มหน้าอ่านใบเสร็จเงยหน้าขึ้นบอกแล้วพูดต่อ
“แล้วก็ของที่คุณเหอซื้อมันเป็นจำนวนมาก ทางโรงงานเลยแถมน้ำมันรำข้าวกับน้ำมันมะพร้าวให้ชนิดละ 1,000 ลิตรค่ะ” ว่าจบก็ยื่นใบเสร็จให้ผู้เป็นเจ้านาย
เหอเสี่ยวหงปิดแฟ้มเอกสารแล้วหยิบใบเสร็จขึ้นตรวจก่อนจะถามต่อ “อืม แล้ววันนี้มีอะไรอีกไหม”
“อ๋อ! เมื่อกี้คุณนายเหอให้เลขาโทรมานัดคุณเหอ ไปกินข้าวกับครอบครัวที่ร้านคุณเหอหลินหลินค่ะ” หยาดฟ้าเอ่ยรายงาน
“ฮึ คุณแม่อยากเจอลูกสาวนอกคอกคนนี้ด้วยหรือยังไง” เหอเสี่ยวหงหลุดขำด้วยใบหน้าที่นิ่ง
หยาดฟ้าเห็นท่าทีไม่ดีจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง “แล้วคุณเหอต้องการสั่งอะไรเพิ่มไหมคะ หยาดจะได้ไปเตรียมให้”
“เธอไปพักเถอะ เย็นนี้ฉันคงจะต้องเข้าห้างไปซื้อของสักหน่อย” หลังว่าจบก็เปิดแฟ้มเอกสารขึ้นมาอ่าน
“ได้เลยค่ะ ถ้ามีอะไรโทรเรียกหยาดได้ตลอดเลยนะคะ”
“อือ บอกให้คนงานที่ไร่เอารถไปจอดรอหลังห้างเลยนะ”
“ได้เลยค่ะ ฉันจะโทรบอกหัวหน้าคนงาน”
เสียงประตูปิดลงพร้อมกับเหอเสี่ยวหงที่วางปากกา ก่อนที่เธอจะหลับตาลงแล้วเอนตัวพิงเก้าอี้ตัวโปรด
เหอเสี่ยวหงเป็นลูกสาวคนโตของท่านายพลทหารยศใหญ่และคุณนายร้านเพชรชื่อดัง ปีนี้เหอเสี่ยวหงจะอายุครบสามสิบปีแล้ว เธอมีน้องสาวที่อายุห่างกันเป็นสิบ ๆ ปี ชื่อเหอหลินหลิน ปีนี้หล่อนก็เพิ่งจะยี่สิบปีเหมือนกัน แต่หล่อนนั้นเป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของคนเป็นพ่อและแม่ ช่างแตกต่างกับเหอเสี่ยวหงผู้เป็นพี่สาว
แต่ก่อนในตอนที่เหอเสี่ยวหงยังเด็ก พ่อของเธอยังเป็นเพียงพลทหารตัวเล็ก ๆ ในกองทัพ และแม่ของเธอก็เป็นเพียงพนักงานในร้านเพชรที่เป็นของแม่เธอในปัจจุบัน จึงทำให้ไม่มีเวลาดูลูกสาวคนโต เหอเสี่ยวหงจึงถูกส่งให้ไปอยู่กับผู้เป็นย่าตั้งแต่จำความได้
และเมื่อเหอเสี่ยวมีอายุสิบขวบ มีแม่เฒ่าชรามาอ้างว่าเป็นหมอดูมาทำนายว่าลูกสาวผู้หนึ่งจะเป็นใหญ่ และลูกสาวอีกคนจะเป็นน้อย ซึ่งในเวลานั้นครอบครัวของเหอเสี่ยวหงยังไม่เชื่อมากนัก แต่แล้วพอผ่านไปสองเดือนคุณนายเหอกลับตั้งครรภ์ขึ้นมาอีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่หลังจากคลอดเหอเสี่ยวหง คุณนายเหอไม่มีท่าทีว่าจะตั้งครรภ์อีกครั้ง
และเมื่อคุณนายเหอตั้งครรภ์ได้ห้าเดือน ท่านนายพลเหอที่เป็นเพียงทหารปลายแถว กลับได้รับโอกาสให้ขึ้นเป็นทหารยศสูง จึงทำให้ท่านทั้งสองเชื่อว่าเด็กในท้องจะขึ้นเป็นใหญ่ ลูกสาวคนโตที่ละเลยอยู่แล้วยิ่งละเลยไปอีก ยิ่งเมื่อคลอดลูกสาวคนเล็กออกมาผู้เป็นเจ้านายของคุณนายเหอก็ย้ายตามสามีไปอยู่ต่างประเทศ ร้านเพชรเล็ก ๆ จึงถูกยกให้คนสนิทที่ทำงานมาตั้งแต่ที่เปิดร้านอย่างคุณนายเหอ
ยิ่งพอมีหน้ามีตาในสังคม ไม่ต้องคอยวิ่ง คอยเดินตามหัวหน้า ทำให้ทั้งสองมีเวลาว่างจากการทำงาน
มาเลี้ยงเหอหลินหลิน ส่วนเหอเสี่ยวหงที่อายุครบสิบปีก็ถูกส่งกลับไปให้ผู้เป็นย่าเลี้ยง ทั้ง ๆ ที่เพิ่งจะมาอยู่กับพ่อแม่ไม่กี่ปี
เมื่อเหอเสี่ยวหงอายุได้ยี่สิบปีคุณย่าเหอก็เสียชีวิตลงด้วยโรคชรา ตอนนั้นเหอเสี่ยวหงที่เรียนมัธยมควบคู่ปริญญาตรีเพิ่งจะจบพอดี จากที่ต้องพักผ่อนก่อนทำงานเป็นปี สองปี ก็ต้องมาบริหารไร่หลายร้อยหมู่ ในนามทายาทคนเดียวของคุณย่าเหอ
นายพลเหอกับคุณนายเหอที่คิดว่าจะได้รับมรดกจากผู้เป็นแม่ก็รีบไปเรียกหาทนายผู้จัดการมรดกทันที แต่แล้วก็ทำให้ตกใจเพราะคุณย่าเหอยกทุกอย่างให้กับเหอเสี่ยวหง และให้เงินสดเหอหลินหลินผู้เป็นหลานสาวอีกคนเพียงหนึ่งแสนหยวน
เมื่อชื่อผู้รับมรดกมีเพียงเหอเสี่ยวหง เธอก็ถูกบิดามารดาต่อว่า ที่เป่าหูคุณย่าเหอให้ยกทรัพย์สินทุกอย่างให้คนเดียว ทั้ง ๆ ที่เหอเสี่ยวหงไม่รับรู้อะไรในส่วนนี้เลย
ต่างจากเหอหลินหลินที่แทบจะกระโดดดีใจที่ได้เงินเป็นแสนหยวน
และแล้วเวลาล่วงเลยมาหลายสิบปีก็ทำให้นายพลเหอกับคุณนายเหอรู้ซึ้งกันเลยว่าใครเป็นใหญ่ ใครเป็นน้อย เหอหลินหลินที่ทุกคนภูมิใจนักหนาได้ขอเงินไปเปิดร้านอาหาร ลูกสาวสุดรักสุดหวงขอทั้งทีทำไมจะไม่ให้ล่ะ แต่ผ่านไปไม่ถึงเดือนเหอหลินหลินก็ได้กลับมาขอเงินไปอีกหลายล้านหยวน ซึ่งหากคนขอเป็นลูกสาวคนโตอย่างเหอเสี่ยวหงทั้งสองคงจะไม่ให้ แต่นี่เป็นเหอหลินหลินลูกสาวที่ไม่กล้าขัดใจ
ยังไม่พอ! เมื่อลูกสาวที่พวกเขาทะนุถนอมมาอย่างดีกลับตั้งครรภ์ขึ้นมาในวัยยังไม่ถึงสิบแปดปี ยิ่งพ่อของเด็กเป็นวัยรุ่นเสเพลกินเหล้าข้างบ้านก็ทำให้พวกเขาแทบกระอักเลือด
เหอหลินหลินที่เรียนยังไม่จบมัธยมปลายจึงต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน ทั้งนายพลเหอกับคุณนายเหอจึงต้องแบกหน้ามาขอให้เหอเสี่ยวหง
ลูกสาวที่พวกเขาแทบจะไม่ได้เลี้ยง เซ็นรับลูกของน้องสาวเป็นลูกบุญธรรม เพราะต้องการส่งเหอหลินหลินเรียนแพทย์ แต่เพราะกลัวจะมีประวัติไม่ดี ซึ่งเหอเสี่ยวหงก็ปฏิเสธ
นายพลเหอกับคุณนายเหอที่บังคับลูกสาวคนโตไม่ได้ก็ต้องกลับบ้านมือเปล่า พอกลับมาถึงบ้านเห็นลูกสาวสุดที่รักท้องป่องก็ต้องคิดหนัก ลูกสาวคนโตที่พวกเขาละเลยกลับได้ดิบได้ดี แต่ลูกสาวที่เลี้ยงมาอย่างดีกลับกำลังแย่ลง
เงินเกือบสี่ล้านหยวนที่เหอหลินหลินได้ขอไปตอนแรกและบอกจะเปิดร้านอาหาร หล่อนเอาไปปรนเปรอให้ผู้ชายจนหมดตัว! เงินสี่ล้านหยวนหายวับไปกับตา ไหนจะไม่รับผิดชอบลูกสาวกับหลานในท้องอีก
เหอหลินหลินกลัวว่าจะถูกด่าจึงไม่กล้าบอกว่าตั้งครรภ์ พอเรื่องแดงขึ้นมาก็ไม่สามารถเอาเด็กออกได้แล้ว เพราะคนเป็นแม่จะเป็นอันตราย นายพลเหอกับคุณนายเหอจึงต้องให้ลูกสาวเก็บหลานเอาไว้ แต่ตอนนี้เงินที่บ้านเหลือไม่ถึงหนึ่งแสนหยวนเลย
นายพลเหอไม่มีทางเลือกจึงเช่าร้านอาหารที่กำลังจะเจ๊งให้ลูกสาวดูแล แต่เขาคงจะลืมไปว่าลูกสาวของตัวเองเป็นคนแบบไหน ต้องจ่ายค่าเช่า ค่าพนักงาน รายได้ที่ได้มาในแต่ละวันไม่เพียงพอให้หล่อนใช้จ่าย
คุณนายเหอจึงหาทางมาพบลูกสาวคนโตที่กำลังเป็นนักธุรกิจที่กำลังเติบโต เพื่อให้เหอเสี่ยวหงเอาเสี่ยวตงผู้เป็นหลานชายมาเลี้ยง อีกอย่างถ้าเหอเสี่ยวหงเสียชีวิตอย่างน้อยมรดกก็ต้องถูกส่งให้หลานชายที่รับเลี้ยงอยู่แล้ว แต่ก็ถูกเหอเสี่ยวหงปฏิเสธอยู่ดี
ก๊อก! ก๊อก
‘คุณเหอคะ! คุณนายเหอโทรมาค่ะ!”
เหอเสี่ยวหงยกยิ้ม ทั้งสองคนรักเหอหลินหลินมาก เมื่อลูกสาวสุดที่รักไม่มีเงินใช้ก็ต้องบากหน้าไปหายืมเงิน แต่อีกไม่กี่วันต้องหาเงินจ่ายดอกเบี้ยเงินที่มีมันก็ไม่พอ ทางเลือกสุดท้ายจึงต้องเข้าหาเหอเสี่ยวหง
“ไม่ต้องรับ!” เหอเสี่ยวหงตะโกนลั่นห้องทำงาน
จริง ๆ แล้วเหอเสี่ยวคือคนปี1960 ในเวลานั้นเธอแท้งลูกเพราะถูกแม่เลี้ยงสามีโขกสับ เพราะสามีของเธอที่ทำงานเป็นยามในอำเภอถูกส่งไปทำงานที่มณฑลอื่น พ่อสามีก็เสียแล้ว แม่เลี้ยงสามีจึงได้ใจ
เหอเสี่ยวหงเป็นคนรักลูกกับสามีมาก พอรู้ตัวว่าแท้งลูกก็เอาหัวโขกเตียงเตาเสียชีวิต นี่คงจะเป็นตราบาปของเธอที่ทำให้ไม่ลืมเรื่องราวในชาติก่อน
เหอเสี่ยวหงได้เกิดใหม่ในเด็กที่ต้องออกจากท้องแม่ เธอเกิดมาโดยใช้ชื่อและแซ่เดียวกับชาติก่อน ไหนจะเกิดมาพร้อมกับของวิเศษอย่างมิติ
ตึก! ตึก!
“คุณหยาด!”
“เฮ้ย! ตกใจหมด”
เหอเสี่ยวหงหัวเราะคิกคักเมื่อเห็นท่าทางตกใจของเลขาคนสนิท เธอหยิบเอกสารที่เซ็นมาวางให้กับหล่อนพร้อมบอกว่าจะออกจากบริษัทแล้ว
“ฉันจะไปแล้วนะคะ”
“จะไปแล้วเหรอคะ” หล่อนรีบลุกจากเก้าอี้ที่นั่ง “หยาดขอตัวเก็บของก่อน” อาจเพราะมีเอกสารหลายอย่างที่สำคัญ เหอเสี่ยวหงจึงได้เห็นภาพวุ่นวายตรงหน้าที่เห็นแทบจะทุกวัน
“งั้นฉันจะไปรอที่รถนะ” ก่อนจะเดินตรงไปยังลิฟท์
“รอด้วยค่าาาา”
เหอเสี่ยวหงหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข หยาดฟ้าเป็นลูกสาวคนสนิทของคุณย่าเหอ เมื่อแม่ของหล่อนป่วยและเสียชีวิต จึงถูกคุณย่าเหอรับหล่อนเป็นหลานบุญธรรม
ทั้งเหอเสี่ยวหงและหยาดฟ้ามีอายุเท่ากัน ทั้งสองจึงสนิทสนมกันและคุยกันได้ทุกเรื่อง โดยเฉพาะความลับของเหอเสี่ยวหงที่หยาดฟ้าบังเอิญได้รู้ เหอเสี่ยวหงจึงต้องบอกหล่อน แต่หล่อนก็เก็บเป็นความลับมาตลอด
ปรื้น ปรื้น ปรื้นนน
เสียงรถยนต์ รถเครื่องดังขึ้นในเวลาเลิกงานของชาวออฟฟิศ เหอเสี่ยวหงที่นั่งข้างคนขับเหม่อมองข้างนอกอย่างไร้จุดหมาย ทั้ง ๆ ที่มันเต็มไปด้วยกลุ่มควัน
“ยัยหง หง เสี่ยว… หงหง ยัยหง!” เสียงตะโกนของหยาดฟ้าดังลั่นรถยนต์
“อะไรยัยฟ้า!” เหอเสี่ยวหงสะดุ้งตกใจ
ตอนนี้เป็นเวลาเลิกงานทั้งสองคนจึงพูดกันด้วยความสนิทสนม ต่างจากเวลาทำงานเพราะหยาดฟ้าเป็นลูกน้องจึงต้องให้เกียรติเจ้านาย หากมีคนอื่นมาว่าหล่อนตีตนเสมอนาย เหอเสี่ยวหงจะมีปัญหา
“ของที่เตรียมไว้แล้วมีอะไรบ้าง” เรื่องการที่เธอต้องย้อนกลับอดีตที่ผ่านมา หยาดฟ้าก็รู้เช่นกัน!
“ก็มียาสามัญประจำบ้านแล้วก็ยาสำคัญที่ต้องใช้ ผักผลไม้หลายสิบอย่าง สบู่ผลไม้รวมตระกูลเบอร์รีแล้วก็แยกหลายสิบล้านก้อน จักรเย็บผ้าเครื่องเล็ก 10 ตัว จักรยานที่แกไปเอฟมาหลายเดือนก่อน 10 คัน กล่องใส่อาหาร แก้วพลาสติก กะละมัง หม้อดิน หม้อเหล็ก กระทะ” เหอเสี่ยวหงบอกรายการบางส่วนที่จำได้ บางอย่างก็ถูกเธอเก็บใส่มิติเป็นสิบ ๆ ปี เธอจำได้ก็เก่งเกินไปแล้ว
“โห้! แกสบายเลยสิ” หยาดฟ้าอุทาน
เหอเสี่ยวหงหัวเราะ “ก็ตอนนั้นมันลำบากมาก พอมีโอกาสใครไม่อยากคว้าไว้ล่ะ”
“อ๋อจริงสิ ฉันสั่งผลไม้ตระกูลเบอร์รีทั้งแบบสดแล้วก็แห้งจากต่างประเทศมาให้ด้วย แต่ไม่แน่ใจว่าจะได้เยอะมากไหมเพราะเขาบอกของตีกลับเยอะมากต้องจำกัด” หยาดฟ้าว่าพลางเลี้ยวรถหาที่จอด
เหอเสี่ยวหงที่เห็นว่าเพื่อนจอดรถแล้วก็เอ่ยบอก “ถ้าลุงฟ่านมาแล้วก็บอกให้แกขึ้นไปรอเลย”
ชีวิตของลิลลี่เป็นชีวิตที่ใครหลาย ๆ คนใฝ่ฝันอยาจะเป็นแบบเธอ แต่คนอื่นไม่เคยรู้เลยว่ามันโดดเดี่ยวมากแค่ไหน เกิดในตระกูลหมื่นล้านครอบครัวค่อย ๆ จากไปทีละคน อายุเพียงยี่สิบอาชายผู้ที่เป็นญาติผู้ใหญ่คนสุดท้ายที่เหลืออยู่ดวลจากไป ลิลลี่ ลลิลิล จึงกลายเป็นทายามเพียงคนเดียวของตระกูล มีแล้วอย่างไรสุดท้ายคนเราต้องจากไป มีเงินหมื่นล้านยื้อชีวิตใครไม่ได้สักคน ลิลลี่ในวัยยี่สิบปีเธอรู้ว่าธุรกิจของตระกูลไม่อาจสานต่อได้ ขายหุ้นให้คนอื่นรอรับเพียงเงินปันผลก็เพียงพอ ยี่สิบสามเรียนจบปริญญาตรีด้านแฟชั่นก่อนเรียนต่อปริญาเอก ปริญญาโท ในปีที่สามสิบของชีวิตลิลลี่ประสบความสำเร็จในด้านดีไซเนอร์ เป็นดีไซเนอร์ที่มีชื่อเสียง ยังไม่ทันได้ใช้ชีวิตหลังเรียนจบก็เสียชีวิตจากความเครียดที่สะสมมาตลอด คิดว่าหลังความตายคงจะถูกบรรพบุรุษสาปแช่งที่ดูแลตระกูลไม่ได้ ใครจะรู้ว่าลืมตาแล้วจะมาอยู่ในร่างของคนอื่น วันที่เจ็ดเดือนมกราคมปี 1980 ลิลลี่ตื่นขึ้นในในร่างของลูกสาวคนโตของบ้านฉิน ฉินเสี่ยวหราน มีน้องสาวหนึ่งคน พ่อเป็นทหารหารเพิ่งได้รับเลื่อนขั้นเป้นพันตรี แม่เป็นหญิงในชนบท ฉินเสี่ยวหรานเป็นนักเรียนมัธยมปลายชั้นปีสุดท้าย ส่วนฉินเสี่ยวหลิงเป็นนักเรียนมัธยมต้นชั้นปีสุดท้ายที่จะขึ้นมัธยมปลาย
แป้งร่ำสาวใหญ่วัยสี่สิบ ชีวิตของเธอเต็มไปด้วยงานจนกระทั่งเพิ่งรู้ตัวว่าไม่มีใครเคียงข้าง หลังจากทบทวนชีวิตดีแล้วจึงยื่นขอลาออกจากบริษัท และนับตั้งแต่นั้นมาชีวิตของเธอก็เปลี่ยน ระบบเส็งเคร็งนี่คืออะไร!
เป็นเพียงขยะไร้ค่าของตระกูลจะสู้หลานชายสุดที่รักของคุณปู่ได้อย่างไร ติณณ์เดินออกจากตระกูลไปยังประเทศเกรย์ดัชตามคำบอกเล่าของเพื่อนสาว แต่เข้าประเทศเขาวันแรกดันปากดีใส่องค์รัชทายาทจนโดนหมายหัว
แป้งร่ำสาวใหญ่วัยสี่สิบ ชีวิตของเธอเต็มไปด้วยงานจนกระทั่งเพิ่งรู้ตัวว่าไม่มีใครเคียงข้าง หลังจากทบทวนชีวิตดีแล้วจึงยื่นขอลาออกจากบริษัท และนับตั้งแต่นั้นมาชีวิตของเธอก็เปลี่ยน ระบบเส็งเคร็งนี่คืออะไร! .
ซุนลี่เป็นหนึ่งเกรียงไกร แผ่นดินยิ่งยงไพศาล ใต้หล้าสยบชั่วกาล ว่านอี้ครองราชย์...ประชาร่มเย็น ว่านอี้ครองราชย์...ประชาร่มเย็น คำนี้มีความจริงเจือจางอยู่กี่มากน้อยกันแน่? เรื่องเหล่านี้คงเป็นเพียงบทเรียนในวังหลังที่จารึกให้คนท่องจำ ไปอย่างสูญเปล่า เพราะสำหรับตัวนางแล้ว คำกล่าวนี้ดูห่างไกลความจริง จนสุดหล้าทีเดียว
ตายด้วยเงื้อมมือของเพื่อนร่วมสาขา เนเน่ เนตรนภา จึงทะลุมิติมาอยู่ในร่างเด็กน้อยวัยสิบหนาวที่ป่วยตาย นามเซี่ยซูเหยา มีบิดา พี่สาว พี่ชายที่เป็นห่วงนางมากกว่าสิ่งใด
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
ครอบครัวเสิ่นเลี้ยงดูเซี่ยซางหนิงเป็นเวลา 20 ปี และเธอเองก็ถูกเอาเปรียบมาเป็นเวลา 20 ปีเช่นกัน วันหนึ่ง พวกเขาตามหาลูกสาวตัวจริงพบ และเซี่ยซางหนิงก็ถูกไล่ออกจากตระกูลเสิ่น ได้ยินมาว่าพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของเธอกำลังเผชิญกับความยากลำบากอย่างหนัก แต่ความเป็นจริง พ่อแม่ทางสายเลือดของเธอเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมืองไห่ เป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดที่ตระกูลเสิ่นไม่สามารถเอื้อมถึงได้ ตระกูลเสิ่นที่คอยดูว่าเซี่ยซางหนิงจะต้องตกอับอย่างน่าสมเพช แต่กลับต้องตกตะลึงซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับตัวตนของเซี่ยซางหนิง ผู้มีอิทธิพลในการเงินระดับโลก วิศวกรระดับแนวหน้า นักแข่งรถอันดับหนึ่งของโลก... เธอยังมีความสามารถที่ซ่อนอยู่อีกกี่อย่างกันแน่ คู่หมั้นยกเลิกการหมั้นกับเซี่ยซางหนิง อย่างไรก็ตาม เมื่อเซี่ยซางหนิงไปออกเดทกับพี่ชายฝาแฝดของเขา เขากลับปรากฏตัวขึ้นและสารภาพรักกับเธอ
ยัยเด็กขาดสารอาหารคนนี้หรอ คือลูกสาวคนใหม่ของแม่.. เด็กอะไร ขวางหูขวางตาชะมัด เจอหน้ากันเอาแต่ก้มหน้าหลบตา แต่ทำไมยัยเด็กนี่ถึงสวยวันสวยคืน..ถ้าเขาจะแอบกินเด็กของแม่..จะผิดไหม
ในระยะเวลาสองปีที่แต่งงานกัน เนี่ยเหยียนเซินจู่ๆ ก็เสนอขอหย่า เขาพูดว่า "เธอกลับมาแล้ว เราหย่ากันเถอะ คุณอยากได้อะไรบอกมาได้เลย" ชีวิตการแต่งงานสองปีสู้อีกคนที่หันหลังกลับมาไม่ได้ ตามอย่างที่คนเขาว่ากัน "คนรักเก่าแค่ร้องไห้สักหน่อย คนรักปัจจุบันก็ย่อมแพ้แน่นอน" เหยียนซีไม่ได้โวยวายอะไร เลือกที่จะตอบตกลงและเสนอเงื่อนไขว่า "ฉันต้องการรถซูเปอร์คาร์ที่แพงที่สุดของคุณ" "ได้" "วิลล่าสุดหรูชานเมือง" "ตกลง" "กำไรหลายพันล้านที่หามาในช่วงสองปีนี้ แบ่งคนละครึ่ง" "อะไรนะ"
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
แค่ทะลุมิติมาในโลกยุคโบราณก็นับว่าแย่มากพอแล้ว แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด เธอต้องมาแต่งงานกับท่านอ๋องที่ขึ้นชื่อว่าอำมหิตมากที่สุดในเมืองหลวง แล้วจางอวิ๋นซีจะเอาตัวรอดจากเงื้อมมือของท่านอ๋องจอมโฉดได้อย่างไร
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY