ปิ่นมึงรู้ไหมว่ากูแม่งโคตรเกลียดมึงเลยเกลียดทั้งแม่มึงทั้งตัวมึง กูจะทำให้มึงอยู่อย่างไม่มีความสุขไม่เชื่อมึงก็คอยดู
ปิ่นมึงรู้ไหมว่ากูแม่งโคตรเกลียดมึงเลยเกลียดทั้งแม่มึงทั้งตัวมึง กูจะทำให้มึงอยู่อย่างไม่มีความสุขไม่เชื่อมึงก็คอยดู
15ปีก่อน....
"คุณสุนีย์คะรีบลงไปดูข้างล่างเถอะค่ะ" น้อยแม่บ้านคนสนิทของสุนีย์วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในห้องของผู้เป็นนายแล้วพูดด้วยน้ำเสียตื่นเต้น
"มีอะไรเหรอน้อยค่อยๆพูด" สุนีย์พยุงตัวเองลุกจากที่นอนหลังจากที่เธอเพิ่งได้นอนไม่กี่นาทีนี้เองเพราะเธอป่วยมานานเธอจึงต้องกินยาตลอดและต้องนอนพักในช่วงกลางวัน
"คุณผู้ชายค่ะคุณผู้ชายพาใครก็ไม่รู้ค่ะเข้ามาในบ้านเป็นผู้หญิงกับเด็กค่ะ"
"แม่บ้านคนใหม่หรือเปล่า"
"ไม่น่าใช่นะคะเพราะว่าดูคุณผู้ชายท่าน เอ่อคือ"
"มีอะไรก็พูดมาน้อย"
"เอ่อน้อยว่าคุณสุนีย์ลงไปดูเองดีกว่าค่ะ มาค่ะเดี๋ยวน้อยจะพยุงลงไปนะคะ น้อยค่อยๆพยุงสุนีย์เดินลงบันไดอย่างช้าๆและระมัดระวัง พอสุนีย์เดินลงมาก็เจอสามีของตนเองกำลังนั่งคุยหยอกล้อกับเด็กผู้หญฺิงอายุราวๆสามขวบและมีหญิงสาววัยกลางคนนั่งอยู่ข้างๆด้วยใบหน้ายิ้มแย้มมีความสุข
"คุณชาตินี่มันอะไรกันแล้วผู้หญิงคนนี้กับเด็กคนนั้นเป็นใคร" สุนีย์ถามสามีของเธอด้วยน้ำเสียงที่สั่นและไม่มีแรง
"เธอลงมาก็ดีแล้วฉันจะได้แนะนำให้เธอรู้จัก นี่ปานวาดเมียของฉันอีกคนส่วนนี่หนูปิ่นปักลูกสาวของฉันเองแกเพิ่งจะอายุได้สามขวบวันนี้"
"อะไรนะคะ คุณพูดใหม่ซิ"สุนีย์คิดว่าตัวเองหูฝาดหลังจากที่สามีบอกว่าคนแปลกหน้าทั้งสองคนที่เธอเห็นคือเมียกับลูก
"สวัสดีค่ะพี่นีย์น้องชื่อปานวาดนะคะเป็นภรรยาอีกคนของพี่ชาติ ยินดีที่ได้เจอกันนะคะ" ปานวาดมองสุนีย์ด้วยสายตาเยาะเย้ยอย่างเห็นได้ชัดมิหนำซ้ำยังเกาะแขนสามีของสุนีย์อย่างสนิทชิดเชื้อไม่เกรงใจเธอผู้เป็นภรรยาเลย
"ใครอยากจะรู้จักผู้หญิงอย่างเธอกันเธอมันนังผู้หญิงหน้าด้านนังนังเมียน้อย เธอพาลูกของเธอออกไปจากบัานหลังนี้เดี่ยวนี้ ไป๊!!!!" สุนีย์ไล่ปานวาดด้วยความโกรธ เธอไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยว่าสามีที่อยู่กินด้วยกันมานานเกือบสิบปีจะทำกับเธอได้ขนาดนี้
"เธอไม่มีสิทธิ์มาไล่ปานวาดในเมื่อปานวาดก็เป็นเมียของฉันเหมือนที่เธอเป็น"
"ทำไมคุณพูดแบบนี้"
"ฉันจะพูดในเมื่อมันคือความจริง ปานวาดคือเมียของฉันเหมือนกันกับเธอส่วนหนูปิ่นก็คือลูกของฉันเหมือนกับตานนท์นั่นแล่ะ"
"ฮือออ ฮืออออคุณทำแบบนี้กับฉันได้ยังไงคุณชาติ คุณใจร้ายกับฉันเกินไป ฮืออออ จิตใจคุณทำด้วยอะไรทำไมคุณถึงทำร้ายฉันแบบนี้" สุนีย์ร้องไห้ออกมาอย่างหนักด้วยความเสียใจ
"ทำไมจะทำไม่ได้ในเมื่อเธอให้ความสุขกับฉันไม่ได้ฉันก็ต้องหาคนมาทำหน้าที่แทนเธอและคนๆนั้นก็คือปานวาด ปานวาดเค้าดีกับฉันมากเขาดูแลปรนนิบัติฉันดีกว่าเธอซะอีก ไหนจะมีลูกสาวที่น่ารักให้ฉันอีกหนึ่งคน เธอน่าจะรู้ว่าฉันอยากได้ลูกสาวแต่เธอก็มีให้ฉันไม่ได้เพราะอาการป่วยของเธอ"
"ฉันผิดงั้นเหรอคะที่ป่วยฉันผิดเหรอคะที่ทำหน้าที่บนเตียงให้คุณไม่ได้ ฮือออ ฮืออออ"
"ใช่เธอผิดเพราะฉันเป็นผู้ชายฉันมีความต้องการในเมื่อเธอทำหน้าที่เมียไม่ได้เธอก็ไม่มีสิทธิ์มาหึงมาหวงฉันหรือมาห้ามฉัน"
"ถ้าคุณจะเอาผู้หญฺิงคนนี้เข้ามาอยู่ในบ้านงั้นเราหย่ากัน"
"ได้ฉันรอฟังคำนี้มานานแล้ว"
"คุณชาติ!!!!" สุนีย์ไม่คิดเลยว่าสามีของเธอจะเลือกผู้หญิงคนนั้นแทนเธอที่อยู่กินกันมานานหลายสิบปี
"จะหย่าเมื่อไหร่ล่ะวันนี้เลยไหม" ชาติมองหน้าภรรยาที่อยู่ร่วมกันมาด้วยความรู้สึกเฉยชาเพราะเขาหมดรักภรรยาคนนี้แล้วตอนนี้เขารักปานวาดภรรยาใหม่ของเขารวมทั้งปิ่นปักลูกสาวของเขาที่เขารักยิ่งกว่าแก้วตาดวงใจ
"แม่!!!! แม้ร้องไห้ทำไมใครทำอะไรแม่" เด็กชายชานนท์หรือนนท์วัยห้าขวบวิ่งเข้าบ้านมาหลังจากคนขับรถไปรับมาจากโรงเรียนพอเข้าบ้านมาเขาก็เห็นแม่ของตนเองยืนร้องไห้เขารีบถามด้วยความเป็นห่วง
"นนท์ ฮือออ พ่อของลูกพาเมียน้อยเข้ามาในบ้านของเรา ฮืออ ฮืออออ"
"ปานวาดไม่ใช่เมียน้อยเธอบอกลูกให้มันดีๆ" ชาติโมโหภรรยาที่เธอบอกกับลูกชายว่าปานวาดเป็นเมียน้อย เขาไม่อยากให้ปานวาดรู้สึกไม่ดีรวมถึงลูกสาวของเขาด้วย
"จะไม่ใช่ได้ยังไงในเมื่อคุณจดทะเบียนแต่งงานกับฉันแล้วมันก็ต้องเป็นเมียน้อย"
"คุณพ่อมีเมียน้อยเหรอครับ"
"ตานนท์แกห้ามเรียกน้าปานวาดว่าเมียน้อยเป็นอันขาดไม่อย่างงั้นฉันจะทำโทษแกจำไว้"
ปล.เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของชานนท์จากเรื่อง เพื่อนร้ายทวงคืนรัก นะคะ
แจ้งก่อนอ่าน.....เรื่องนี้มีคำหยาบคายและมีการกระทำที่รุนแรงในบางEPเพราะฉะนั้นใครโลกสวยหรือไม่ชอบนิยายแนวนี้โปรดเลื่อนผ่านXX เขาเอื้อมมือไปที่หัวเตียงแล้วหยิบซองสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่ฉันคุ้นตาออกมาเพราะฉันเคยเก็บเศษซากของมันมาก่อน มันคือถุงยางอนามัย "คุณธามคะ อย่า!!!" ฉันกำลังจะบอกกับเขาว่าอย่าทำเพราะฉันรู้ว่าเขากำลังจะทำอะไรแต่เขากลับเข้าใจไปอีกอย่าง "ทำไม หรืออยากเอาสดกับกู อย่าหวังเลยว่ากูจะยอมสดกับคนอย่างมึง" สวบ!!!! ปึ่ก!!!!! "ไม่ กรี๊ดดดดดดด" ฉันกรีดร้องออกมาอย่างสุดเสียงเมื่อเขาสอดใส่ท่อนเอ็นเข้าไปจนสุดทางฉันเจ็บแปลบไปทั้งร่างกาย จนน้ำตาไหลออกมาด้วยความเจ็บปวด "เชี่ย!!! มึง ไม่เคยเหรอวะ" คุณธามก้มมองดูจุดเชื่อมต่อแล้วอุทานออกมา
เรื่องนี้เป็นเรื่องของพี่บอมคนดีเพื่อนสนิทอัยวาคุณแม่ของน้องเอิงซึ่งมีคุณพ่ออย่างพี่ภูที่หวงลูกสาวยิ่งกว่าอะไร มาลุ้นความรักต่างวัยของคู่นี้กันนะคะใครชอบแนวโคแก่กินหญ้าอ่อนห้ามพลาดเด็ดขาด ภูผาอัยวาอยู่ในเรื่อง กลลวงร้ายซ่อนรัก นะคะ
"เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนฉันจะไม่รับผิดชอบอะไรทั้งนั้น" "ค่ะ" ฉันฝืนความรู้สึกแล้วตอบออกไป ฉันไม่คิดว่าพี่ภูจะรับผิดชอบอะไรอยู่แล้วคำพูดของเขาเมื่อคืนฉันยังจำขึ้นใจ "และฉันก็หวังว่าเธอจะไม่เอาเรื่องที่เกิดขึ้นไปฟ้องแม่ฉันอีกว่าฉันรังแกเธอ" "ค่ะ" "สรุปก็คือเธอห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกใครเด็ดขาดเพราะไม่อย่างนั้นฉันจะเอาเรื่องที่เธอเคยโกหกไปบอกพ่อเธอรวมถึงย่าเธอด้วยว่าเธอโกหกสร้างเรื่องหาว่าฉันล่วงเกินเธอทั้งที่ตอนนั้นฉันไม่ได้ทำ เธอคิดเอาก็แล้วกันว่าย่าเธอจะผิดหวังแค่ไหนที่หลานสาวสุดที่รักของท่านสร้างเรื่องโกหกหน้าด้านๆ เพื่อจับผู้ชาย" ฉันก้มหน้าแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอีกครั้ง "เข้าใจที่พูดใช่ไหม" "อื้มมม" ฉันตอบเขาได้แค่นั้นเพราะพูดอะไรไม่ออกกลัวเขาจะรู้ว่าตอนนี้ฉันกำลังร้องไห้อยู่ "แต่ความผิดของเธอยังไม่หมดฉันยังไม่พอใจเพราะฉะนั้นเธอต้องมาที่นี่ทุกครั้งที่ฉันต้องการ แต่ถ้าเธอดื้อไม่ยอมมาฉันจะไปลากตัวเธอถึงบ้านไม่เชื่อก็คอยดู" "พี่ติดใจอัยก็บอกว่าเถอะไม่ต้องเอาเรื่องผิดไม่ผิดมาเป็นข้ออ้างหรอก" ฉันโต้กลับเพราะฉันไม่อยากให้พี่ภูคิดว่าฉันกลัวเขา "เธอพูดว่าไงนะฉันเนี่ยนะติดใจเธอ เหอะพูดผิดพูดใหม่ได้นะ"
"เพลง ฮึก ฮึกเพลง" น้ำเสียงสะอื้นด้วยความเจ็บปวดเมื่อเห็นคนที่ตัวเองรักอยู่ในสภาพนี้ "พะ พี่ไทม์เหรอคะ" มือบางลูบไปที่ใบหน้าของชายหนุ่มอย่างสะเปะสะปะ "พี่เองครับ ฮือออ เพลงพี่ขอโทษพี่ขอโทษพี่มันเหี้ยพี่มันเลวเพลงให้อภัยพี่ได้มั้ย" เขาจับมือคนรักแล้วนำมาแนบแก้มที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา "พี่รู้ได้ยังไงว่าเพลงอยู่ที่นี่" "พี่รู้ได้ยังไงไม่สำคัญ แต่พี่จะพาเพลงไปรักษาต่างประเทศที่นั่นหมอเก่งมากเพลงต้องหาย"
"เธอชอบเพื่อนฉันเหรอวะ เหอะดูสารรูปตัวเองซะก่อนเหอะยัยอ้วนก่อนจะมาบอกรักใครไอ้คิมมันหล่อขนาดนั้นเธอคิดว่ามันจะมาชอบผู้หญิงที่ทั้งอ้วนทั้งขี้เหร่แบบเธองั้นเหรอห๊ะ อย่างเธอมันไม่มองให้เปลืองลูกกะตาหรอกตัดใจจากมันซะเถอะ" "แต่...ฉันชอบคิมจริงๆนะ" "อย่างเธอถ้าอยากให้ไอ้คิมชอบมันก็พอมีวิธีอยู่นะอยากรู้มั้ยฉันจะบอก" "บอกมาสิ" "ข้อหนึ่งเธอคงต้องไปตายแล้วเกิดใหม่" "ห๊ะนายว่าอะไรนะ!!!" "ฟังฉันยังพูดไม่จบ ฉันยังมีข้อสองให้เธอเลือกนั่นก็คือเธอต้องไปศัลยกรรมให้มันดูดีกว่านี้ไม่แน่ไอ้คิมมันอาจจะหันมาสนใจเธอก็ได้ แต่..ฉันว่าเบ้าหน้าอย่างเธอคงไปไม่รอดทำไปก็แค่นั้นเปลืองเงินเปลืองแรงหมอเปล่าๆ เพราะฉะนั้นเธอตัดใจจากมันซะ" เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของชมจันทร์พยาบาลสาวสวยกับอาร์ตเพื่อนสนิทของคิมหันต์จากเรื่อง ชังรักเมียรับใช้ นะคะ
"ลิล ลิลจำพี่ได้มั้ย" "พี่ พี่เหรอ" "ครับพี่เอง พี่คิมไงสามีของลิล" "สามี สามี" แววตาว่างเปล่าจ้องผมไม่วางตาก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัว "ไม่ ไม่ กรี๊ดดดด ไม่ออกไป ฮืออออ ออกไป ฮืออออ"
“ก่อนทำเรื่องนี้พี่ขอถามน้องภาสักข้อได้ไหม” ธาวิศพูดแล้วก้าวเท้าเข้าไปหาคนบนเตียง “ได้ค่ะ” นิภาก้มหน้ายามตอบ ธาวิศทิ้งสะโพกลงนั่งด้านข้าง พร้อมกับดันปลายคางของหญิงสาวให้ขึ้นมองหน้าเขา “น้องภาเต็มใจใช่ไหม” แววตาของคนถูกถามสั่นระริกไปมา ปากจิ้มลิ้มก็ขยับขึ้นลงเหมือนคนคิดไม่ออกว่าควรตอบอย่างไร “น้องภาพี่ถามว่าเต็มใจใช่ไหม หรือว่าถูกคุณยายบังคับ” คราวนี้ธาวิศเน้นน้ำหนักเสียงมากขึ้นกว่าเดิม “ภาเต็มใจค่ะ” หญิงสาวตอบเขาแล้ว แต่เป็นคำตอบที่เต็มไปด้วยความไม่มั่นใจในตัวเอง “ไม่ได้ถูกบังคับแน่นะ” “ค่ะ ภาไม่ได้ถูกบังคับ ภาเต็มใจค่ะพี่ภูมิ” ธาวิศกัดฟันกรอดในคำตอบที่เขาไม่ปรารถนาจะได้ยิน ออกแรงผลักหน้าอกนิภาจนล้มลงไปนอนอยู่บนเตียง ปลดกระดุมเสื้อนอนของตนเองออกทีละเม็ด โดยที่สายตาก็ยังจดจ้องอยู่กับคนตรงหน้า “ระหว่างเรามันจะไม่มีความผูกพันอะไรกันทั้งนั้น เราทำเรื่องนี้ก็เพื่อคุณยาย เสร็จจากนี้ไปพี่ก็จะกลับกรุงเทพฯ ไปใช้ชีวิตกับคนรักของพี่ตามเดิม ภายังรับได้อยู่ใช่ไหม” ชายหนุ่มพูดจบก็ทิ้งเสื้อนอนลงบนพื้น คนบนเตียงก็ยังเม้มริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่น คำตอบไม่มาสักทีเขาเลยต้องเลิกคิ้วขึงตาใส่ “ค่ะภารับได้” คำพูดที่เปล่งออกมาช่างเบาหวิว คงไม่ต่างไปจากอารมณ์ของคนพูด “รับได้ก็ดี อย่ามาเรียกร้องอะไรทีหลังก็แล้วกัน ไม่งั้นพี่เอาตายแน่” ธาวิศทาบร่างตัวเองลงบนลำตัวของนิภา มองจุดหมายแรกที่จะเริ่มต้นทำรัก ประทับจูบลงบนริมฝีปากนุ่มนิ่มของหญิงสาว สัมผัสแรกของทั้งคู่ช่างตราตรึงในความรู้สึก จากที่จะจูบเพียงแผ่วเบากลายเป็นแทรกลึกดูดดื่มขึ้นตามอารมณ์ (รักซ้ำรอย)
หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”
ซ่งจิ่งถังรักฮั่วอวิ๋นเซินอย่างลึกซึ้งนานถึงสิบห้าปี แต่ในวันที่เธอคลอดลูกกลับตกอยู่ในอาการโคม่า ขณะที่ฮั่วอวิ๋นเซินกระซิบข้างหูเธออย่างอ่อนโยนว่า "ถังถัง อย่าฟื้นขึ้นมาอีกเลย สำหรับฉัน เธอไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว" ซ่งจิ่งถังเคยคิดว่าสามีของเธอเป็นคนอ่อนโยนและรักใคร่ตัวเอง แต่จริงๆ แล้วเขามีแต่ความเกลียดชังและใช้ประโยชน์จากเธอเท่านั้น และลูกๆ ที่เธอเสี่ยงชีวิตให้กำเนิด กลับเรียกหญิงสาวคนอื่นว่า 'แม่' ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนต่อหน้าที่เตียงคนไข้ของเธอ เมื่อซ่งจิ่งถังฟื้นขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอทำคือการตัดสินใจหย่าขาดอย่างเด็ดขาด! แต่หลังจากหย่าแล้ว ฮั่วอวิ๋นเซินจึงเริ่มตระหนักว่า ชีวิตที่ผ่านมาของเขาเต็มไปด้วยเงาของซ่งจิ่งถัง หญิงคนนี้กลายเป็นความเคยชินของเขา เมื่อพบกันอีกครั้ง ซ่งจิ่งถังปรากฏตัวในที่ประชุมในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เธอเปล่งประกายจนทุกคนต้องหันมามอง หญิงคนนี้ที่เคยมีแต่เขาในใจ บัดนี้กลับไม่แม้แต่จะมองเขาอีก ฮั่วอวิ๋นเซินคิดว่าเธอแค่ยังโกรธอยู่ ถ้าเขาเอ่ยปากพูดนิดหน่อย ซ่งจิ่งถังจะต้องกลับไปหาเขาแน่นอน เพราะเธอรักเขาหมดหัวใจ แต่ต่อมา ในงานหมั้นของผู้นำคนใหม่ของตระกูลเพ่ย เขาเห็นซ่งจิ่งถังสวมชุดแต่งงานหรูหรา ยิ้มอย่างเปี่ยมสุขและกอดแน่นเพ่ยตู้พร้อมสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ ฮั่วอวิ๋นเซินอิจฉาจนแทบคลั่ง เขาตาแดงก่ำและบีบแก้วจนแตก เลือดไหลไม่หยุด...
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!
กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY