“ที่พูดนี่คิดรึยัง?!” พอพายุ Nightshade พูดมาแบบนั้น ฉันเลยพยักหน้าออกไปช้าๆ แล้วตอบกลับไปอย่างมั่นใจในคำถามนั้นเหมือนกัน “คิดแล้ว...ฉันว่าแย่กว่าการเป็นผู้หญิงของนาย คือเคยรักนายแต่จำมันไม่ได้มากกว่า”
“ที่พูดนี่คิดรึยัง?!” พอพายุ Nightshade พูดมาแบบนั้น ฉันเลยพยักหน้าออกไปช้าๆ แล้วตอบกลับไปอย่างมั่นใจในคำถามนั้นเหมือนกัน “คิดแล้ว...ฉันว่าแย่กว่าการเป็นผู้หญิงของนาย คือเคยรักนายแต่จำมันไม่ได้มากกว่า”
‘รอฉันนะ..นิลลา’
เคร้งงง~
อีกแล้วสินะ.. ครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ที่เสียงของใครบางคนดังขึ้นในหัวฉันซ้ำๆ และตามมาด้วยความรู้สึกบางอย่างที่ฉันเองก็ไม่เข้าใจ น้ำเสียง..ที่แสนจะคุ้นเคย ความรู้สึกบางอย่าง..ที่ดูเลือนรางแต่ก็ชัดเจนจนอธิบายไม่ถูก
“นิล..นิลลา เป็นไรรึเปล่าลูก?”
ฉันสลัดความคิดในหัวออกทันทีที่ถูกแม่เขย่าแขนเรียกสติ พอหันไปเห็นคิ้วสวยที่เริ่มขมวดเข้าหากันของแม่ และช้อนที่กระจัดกระจายอยู่ในจานข้าวก็ทำให้ฉันรู้สึกตัวขึ้นมาว่าคงคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนเหม่อลอยไปอีกแล้ว
“ปะ..เปล่าค่ะแม่ นิลสายแล้วขอตัวก่อนนะคะ”
เพราะรู้ว่าถ้าบอกไปน่าจะเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ ฉันเลยแกล้งทำท่าดูนาฬิกาแล้วเปลี่ยนเรื่องไปเฉยๆ แต่แม่ก็ยังมองมาด้วยสีหน้าแอบเป็นกังวลอยู่ดี
“เดี๋ยวสินิล วันนี้ลูกดู…”
“นิลรักแม่นะคะ”
ฟรืดดด~
ฉันตัดบทด้วยการลุกจากโต๊ะกินข้าวไปหอมแก้มแม่ฟอดใหญ่ แล้วรีบคว้ากระเป๋าเดินออกจากคอนโดทันที ขืนอยู่ต่อก็คงไม่วายทำให้แม่คิดมากอีกเพราะตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุในวันที่ออกจากโรงเรียนประจำตอนเรียนจบ ม.ต้น ชีวิตของฉันมันค่อนข้างสับสนจากเดิมไปหมด บางทีรู้สึกเหมือนติดค้างอะไรกับใครเอาไว้แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก ฉันเองก็ไม่รู้ต้องทำยังไงเหมือนกัน แล้วถ้าแม่รู้ว่าผลจากอุบัติเหตุครั้งนั้นมันยังไม่หายสนิทคงจะกลายเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ พนันได้เลย
ใช่.. ฉันเคยเกิดอุบัติเหตุ
รถตู้ของที่บ้านที่ไปรับฉันกลับจากโรงเรียนประจำเมื่อ 4 ปีก่อน ถูกชนเข้าอย่างแรงด้วยรถทัวร์คันใหญ่ สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้นคือหัวของฉันกระแทกเข้ากับตัวรถจนสติดับวูบไปในทันที พอฟื้นขึ้นมาอีกทีฉันก็พบว่าตัวเองหลับไปนานอาทิตย์หนึ่งเต็มๆ
ช่วงที่ฉันฟื้นบอกตามตรงว่าความทรงจำในโรงเรียนประจำของฉันมันเลือนรางมากจริงๆ จำได้ว่าเคยไปอยู่แต่ก็จำใครไม่ได้ทั้งหมด แต่หลังจากที่พ่อกับแม่ขอความร่วมมือคุณครูที่ดูแลฉัน ให้ลองทดสอบความจำด้วยการชวนเพื่อนๆ แวะเวียนเข้ามาเยี่ยมที่โรงพยาบาล ฉันก็ค่อยๆ จำทุกคนได้ตามลำดับแม้จะยังไม่สนิทใจเท่าไหร่ก็ตาม มันเหมือนรู้ว่าคนนี้เคยเป็นเพื่อน แต่รายละเอียดเชิงลึกไม่ชัดเจน ไม่รู้จะมีใครเข้าใจฉันไหม เหอะๆ =_=^
และหลังจากที่การทดสอบความจำนั่นจบลง หมอก็ได้ข้อสรุปว่าฉันปกติดี แต่แปลก..ที่ฉันก็กลับรู้สึกว่ามีเสียงนิรนามดังขึ้นในหัวอยู่เรื่อยๆ มันไม่ใช่ทุกวัน แต่ก็มีมาบ่อยครั้งตลอดช่วงเรียน ม.ปลาย โดยไม่รู้ว่ามันเป็นเสียงของใคร และนั่นมันชวนให้คิดได้ว่ามีบางอย่างที่อาจจะเลือนหายไปจากความทรงจำของฉัน ทั้งที่คิดว่าจำมันได้ทั้งหมดแล้วแท้ๆ
พอขับรถออกจากคอนโดมาได้ไม่นานฉันก็มาถึงมหาลัย ไม่รู้ทำไมถึงหยุดคิดเรื่องเสียงนั่นไม่ได้เลย ฉันเลยสะบัดหัวไปมาซ้ำๆ อยู่ในรถจนมึนไปหมด.. ตั้งสติหน่อยนิลลา! นี่เพิ่งเปิดเทอมวันแรกเองนะ ฟุ้งซ่านแบบนี้ใช้ได้ที่ไหนกันเล่า!
“นิลลาเพื่อนรักกกกกก~”
ทันทีที่ฉันก้าวขาลงจากรถ น้ำเสียงที่คุ้นเคยของเจด้าก็ดังขึ้นจนแสบแก้วหู แหงล่ะ..ก็ไอ้ด้ามันเล่นแหกปากลั่นจนคนแถวนี้หันมองเป็นตาเดียว
“คือถ้ามึงจะตะโกนขนาดนี้อ่ะนะ!”
ผลัวะ!
“ฮ่ะๆๆ เดี๋ยวดิ ยังใส่อยู่อีกหรอไอ้นี่อ่ะ”
ฉันหยิบกระเป๋าฟาดใส่มันเบาๆ ก่อนที่เราทั้งคู่จะขำออกมา แล้วไอ้ด้ามันก็ชี้มาที่สร้อยคอของฉันพร้อมกับถามออกมาอย่างสงสัย สร้อยที่ดีไซน์ธรรมดาๆ แต่โดดเด่นด้วยจี้เล็กๆ สีฟ้า รูปทรงค่อนข้างแปลก เงาวิบวับเหมือนเพชร แต่จิ๋วๆ แบบนี้ดูคล้ายเศษอัญมณีมากกว่าล่ะมั้ง
“ไม่รู้ดิ ก็ใส่แบบนี้ทุกวันไม่เคยถอด”
ฉันตอบกลับแบบไม่รู้จะอธิบายยังไง ก็มันเป็นแบบนี้จริงๆ นี่นา เวลาเห็นตัวเองในกระจกทีไรก็มีสร้อยเส้นนี้อยู่ด้วยทุกที
“หรือว่าจริงๆ แล้วมึงเป็นทายาทธุรกิจเพชรพลอยเหมือนในซีรี่ย์ที่กูดู เผยตัวตนออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
อืมนะ.. เรื่องแอคติ้งเล่นใหญ่ตะกายดาวไว้ใจยัยนี่ได้เลย เจด้าชี้นิ้วมาที่ฉันแล้วส่งสายตาจับผิดแบบทีเล่นทีจริงออกมา ฉันเลยบ่นๆ กลับไป แต่ก็แอบขำในท่าทางของมันอยู่เหมือนกัน
“เลอะเทอะมึงอ่ะ ไม่เชื่อไปถามแม่ดิ อยู่ที่คอนโดนู่นอ่ะ”
ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะนะ แต่จะว่าไป..ฉันได้สร้อยเส้นนี้มายังไงก็จำไม่ได้แล้วเหมือนกันแฮะ -_-?
“อ้าว แม่มาเยี่ยมหรอ จะมาชวนไปงานประมูลเพชรรึเปล่าน้ารอบนี้~”
ป๊อก!
“งื้อออ >_< อย่าบอกนะว่าตัดชุดราตรีคอยแล้วอ่ะ!”
“เลิกเพ้อ! ไปเรียนได้แล้วไอ้บ้า”
ไอ้ด้ายังคงแซวฉันอยู่แบบนั้นไม่หยุด ฉันเลยเขกหัวมันเบาๆ ไปทีหนึ่งแล้วเดินหนี เรื่องติงต๊องขอให้บอกเถอะ ถึงบางเวลาบุคลิกมันจะดูนิ่งๆ ดุๆ แต่เบื้องหลังก็อย่างที่เห็นอ่ะนะ โคตรจะบ๊อง ฮ่ะๆ
อ้อ..ลืมบอกไปว่าเจด้ากับฉันสนิทกันตั้งแต่ช่วงเรียน ม.ปลาย เอาจริงๆ ทั้งชีวิต เพื่อนสนิทที่เหลืออยู่ก็มีแค่ยัยนี่คนเดียวแหละมั้ง ถึงจะรู้จักกันแค่ 3 ปีแต่เหมือนอยู่ด้วยกันมา 10 ปี รู้ไส้รู้พุงกันหมด เขาว่ากันว่าช่วงเรียน ม.ปลายเป็นช่วงที่มีความสุขที่สุดแล้วก็คงจะจริง
ส่วนเพื่อนคนอื่นๆ ก็อย่างที่บอกว่าฉันเคยอยู่โรงเรียนประจำ ฉันใช้เวลาช่วงวัยเด็กตั้งแต่ประถมจนถึง ม.ต้น อยู่ที่นั่นก็จริง แต่ตอนนี้ความทรงจำมันก็เลือนรางมากพอๆ กับจำนวนเพื่อนที่ค่อยๆ แยกย้ายกันไปคนละทิศคนละทาง แต่มีไอ้ด้าคนเดียวก็เหมือนมีเพื่อนสิบคนอ่ะ ถึงจะพูดมากไปหน่อยก็เถอะนะ แต่โคตรสบายใจเวลาอยู่ด้วย หรือเพราะฉันเป็นคนพูดน้อยอยู่แล้วด้วยก็ไม่รู้สิ
“เออมึง กดไลค์เพจสุดฮอต กับ IG ร้อนฉ่าของเด็ก ม. เรายัง? ไหนเอามือถือมาดูดิ๊”
นั่นไงไม่ทันขาดคำ.. แล้วฉันก็ปลดล็อคมือถือตัวเองส่งให้เจด้าอย่างว่าง่าย ยัยนี่มีความสามารถพิเศษจริงๆ นะ ตาจ้องมือถือกดนั่นกดนี่ไปเรื่อย แต่เดินไม่สะดุดบันไดหัวทิ่มเลยสักขั้น แถมตั้งแต่มันได้มือถือฉันไป หน้าฉันมันยังแทบไม่เงยขึ้นมามองเลยด้วยซ้ำ ส่วนปากก็พูดอะไรงุ้งงิ้งคนเดียวไม่หยุด
“อันนี้เพจหลัก ม. นี่เพจคนหล่อบอกต่อยาวๆ แล้วก็นี่เพจสาว HOT ขวัญใจหนุ่มหล่อพ่อรวย แล้วก็...”
“มึง จองที่ให้หน่อยนะ กูไปห้องน้ำแป๊บ”
ฉันหันไปบอกไอ้ด้าก่อนจะเดินเลี่ยงตรงมาทางห้องน้ำเลย ไอ้ด้ามันก็พยักหน้าหงึกๆ แล้วเดินเลี่ยงไปอีกทาง จริงๆ ก็ไม่ได้ปวดมากหรอกแต่ทำธุระให้เสร็จๆ ไป ก็ยังดีกว่าต้องเดินเข้าเดินออกตอนอาจารย์สอนแหละนะมันเสียสมาธิ
- ปิดปรับปรุงชั่วคราว –
เอิ่ม -_-? พอเดินมาถึงหน้าห้องน้ำ ฉันก็หยุดมองป้ายตั้งเตือนตรงหน้าแบบเอือมๆ ปิดปรับปรุงห้องน้ำเนี่ยนะเอาจริงดิ? ถามจริงใครคิดเนี่ย?! เขามีแต่ Facility ครบครันในวันเปิดเทอมแต่นี่ฉีกกฎด้วยประการทั้งปวง มหาลัยประหลาด!
‘อ๊ะ อ๊าาา อื้อ รุ่นพี่’
‘อืมมม’
พั่บ พั่บ พั่บ~
‘อ๊าาา อื้อ รุ่นพี่ รุ่นพี่พะ พายุคะ อ๊าาา’
พลั่กกก ตึงงง!
‘หุบปาก! กล้าดียังไงมาเรียกชื่อฉัน!’
‘คะ..คือฉัน คือ..’
‘ไสหัวไปซะ!’
‘ตะ..แต่’
‘บอกให้ออกไป!!!’
What?! อย่าบอกนะ O_O?!
แล้วจังหวะที่ฉันกำลังจะเดินกลับ ก็มีน้ำเสียงวาบหวามดังออกมาจากในห้องน้ำหญิงทำให้ฉันเลือกจะหยุดอยู่หน้าประตูห้องน้ำนี้แทนที่จะหมุนตัวกลับไปเข้าเรียน ก็ไม่ได้อยากจะเผือกเรื่องของคนอื่นนักหรอกนะแต่การใช้ห้องน้ำมหาลัยทำเรื่องอย่างว่าแบบโจ่งแจ้งขนาดนี้มันใช้ได้ซะที่ไหนกัน ถ้ามันไม่ไหวทำไมไม่ไปทำกันที่อื่นจะมาเรียนหาสวรรค์วิมานอะไรกันวะเนี่ย?!
แกร๊ก แอ๊ดดด~
ฉันกำลังจะพุ่งตัวเข้าไปฉะพวกคนไม่มีหัวคิดในห้องน้ำ แต่คนข้างในดันเปิดประตูออกมาซะก่อน ผู้หญิงหน้าตาจัดว่าดีแต่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยหัวกระเซิงคนหนึ่งกำลังหัวเสียและดูตกใจพอสมควรที่เจอฉัน ฟังจากเมื่อกี๊ก็พอจะเดาออกว่ายัยนี่คงอายไม่น้อยเลยแหละที่โดนไล่ออกมา
“ธะ..เธอ บ้าเอ๊ย!”
พอผู้หญิงคนนั้นเห็นฉันก็ทำหน้าเลิ่กลั่ก รีบจัดเสื้อผ้าตัวเองให้เข้าที่เข้าทางแล้ววิ่งออกไปโดยไม่หันกลับมามองฉันสักนิด เรียกว่าใส่ตีนผีวิ่งหนีไปเลยก็ว่าได้ ฉันเลยละสายตาจากผู้หญิงคนนั้นและไม่ลังเลที่จะผลักประตูเข้าไปเพื่อฉะคนไม่รู้กาลเทศะอีกคนที่ยังอยู่ในห้องน้ำทันที
แล้วพอประตูเปิดออกก็เจอผู้ชายร่างสูงคนหนึ่งยืนหันหน้าเข้ากับผนังด้วยท่าทีนิ่งเฉย แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้อ้าปากพูดอะไรออกไป ก็มีควันบุหรี่จางๆ ลอยขึ้นมาต่อหน้าต่อตา ฉันเลยได้แต่ยืนอึ้งอย่างทำตัวไม่ถูก O[]O!
ควันบุหรี่ลอยขึ้นมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า.. หมอนี่สูบบุหรี่ในห้องน้ำที่ยังไม่เปิดหน้าต่างระบายอากาศงั้นหรอ?! พอคิดได้แบบนั้นสัญชาตญาณของฉันก็สั่งให้ถอยหลังหนีทันทีแบบไม่ต้องคิด แต่ไม่ทันที่ฉันจะก้าวขาออกจากห้องน้ำ อาการแพ้ควันบุหรี่อย่างรุนแรงก็ทำให้ฉันสำลักออกมาทันที
“แค่กๆ ๆ ๆ ฮึก...”
ทั้งที่มือฉันคว้าลูกบิดประตูได้แล้วแท้ๆ แต่ร่างกายฉันดันหมดแรงไปดื้อๆ มึนหัว อยากจะอาเจียนขึ้นมาแบบฉับพลัน ยิ่งเริ่มรู้สึกหายใจไม่ออก ฉันยิ่งรู้ดีว่าตัวเองกำลังตกที่นั่งลำบาก
“จิ๊ อะไรนักหนาวะ บอกให้ออกไป!”
ผู้ชายคนนั้นตวาดออกมาดังลั่นเพราะคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงที่เขาเพิ่งมีซัมติงด้วยเมื่อกี๊ แค่กๆ โธ่เอ๊ย! ขืนเป็นแบบนี้ฉันได้ตายกันพอดี ถ้าจะมีใครช่วยได้คงมีแต่หมอนี่คนเดียว แต่เขาไม่หันมาชายตามองฉันสักนิดเลยไง
“แค่กๆ ๆ นะ..นาย ช่วย..ด้วย”
พรึ่บบบ!
สิ้นสุดประโยคของฉัน เหมือนแอบเห็นรางๆ ว่าผู้ชายคนนั้นหันกลับมาซึ่งเป็นจังหวะที่ร่างของฉันทรุดฮวบลงกับพื้นพอดี แล้วสติของฉันก็ดับวูบไปทันตาโดยไม่ทันได้เห็นหน้าเขาชัดๆ เลยด้วยซ้ำ...
ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไร ถ้ามันต้องแลกกับการทำไปเพื่อรักษาไว้ซึ่งความเคารพ ศรัทธา และความถูกต้องที่เขามี สำหรับคนที่รักเขาอย่างฉัน...มันยอมแลกได้ทั้งนั้น
ฉัน...สาวน้อยดาวเสาร์กับเรื่องวุ่นๆของ "เทพบุตรดาวพุธ" ผู้ชายถืออาวุธที่แม่หมอทำนายว่าเป็น "เนื้อคู่" ในใจก็คิดมาตลอดเลยนะว่าต้องเป็นคนในเครื่องแบบแน่ๆ แต่แล้วอยู่ๆดันหลงเข้าไปในดงมาเฟียได้ไงไม่รู้...
เพราะมีหน้าที่สำคัญต้องทำ แต่ก็โดนรุ่นน้องจอมป่วนอย่างเลโอ Nightshade มาวุ่นวาย ตามจีบไม่เว้นแต่ละวัน "ทฤษฎี 21 วัน" เลยถูกใช้เป็นไม้ตายเด็ดของฉัน คิดว่ามันจะกันคนกะล่อนอย่างหมอนี่ให้พ้นทางได้มั้ย?!
“เป็นอย่างที่เคยเป็นมันดีแล้ว” ประโยคปฎิเสธสั้นๆ ดังก้องในหัวฉันตลอดเวลาจนถึงนาทีสุดท้ายที่บินกลับมาตามคำสั่งที่เจ้าตัวน่าจะลืมมันไป แต่ใครจะไปรู้ว่าวันนึง คนที่เคยปฏิเสธ..จะเป็นฝ่ายมาขอคบกับฉันซะเอง!
ใช้ชีวิตสงบสุขมาได้ตั้งนาน แต่กลับต้องมาอึมครึมเพราะดันไปมีเอี่ยวกับสมาชิกแก๊งค์เทพเจ้าประจำมหาลัย แถมไอ้บ้านั่นยังพ่วงตำแหน่ง "ว่าที่ผู้นำแก๊งค์มาเฟีย" ที่กำลังโดนตามล่าด้วยไง เหอะๆ แบบนี้ฉันจะมีชีวิตรอดต่อไปมั้ยให้ทาย?
แอบหื่นไปมั้ยถ้าจะบอกว่าวันเกิดปีนี้ ของขวัญอย่างเดียวที่ฉันอยากได้คือจูบที่แสนเต็มใจจากเขา... ♥ รุ่นพี่รันเวย์ของฉัน ♥ แล้วใครจะไปคิดว่าพระเจ้าจะจัดให้ตามนั้น แถมยังไม่ใช่แค่จูบ! ฉันได้รุ่นพี่ตัวเป็นๆเข้ามาอยู่ในชีวิต ยิ่งไปกว่านั้นมันบ้ามากที่จะบอกว่าอยู่ๆฉันก็ได้เป็นผู้หญิงของเขาด้วย!
【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”
เพราะเพื่อน..เธอจึงต้องทำอะไรลับๆ ล่อๆ เป็นเหตุให้เขาเข้าใจผิดคิดว่าเธอแอบชอบ ในขณะเดียวกัน เธอเองก็คิดว่าเขาเป็นเกย์ เพราะสถานการณ์บางอย่างเช่นกัน แล้วความวุ่นวายก็บังเกิด เมื่อเธอดัน…หลงรักเกย์ ‘ฮื่อ! เป็นเกย์นะเว้ยไม่ได้เป็นหวัด รักษาวันเดียวจะหายได้ไง สู้ต่อไปศิศิรา ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ยังไม่มีผัวเป็นตัวเป็นตน เพราะงั้นฉันก็ยังมีหวัง เฮ้อ! อย่างมากก็แค่ผิดหวังล่ะน่า’ ***“สาบานได้ว่าครั้งนี้ผมจะไม่หยุด จนกว่าเรา…จะเป็นของกันและกัน” เขาบอกก่อนจะผละลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ขณะที่สองมือค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อ สองตาก็ยังไม่ยอมเลื่อนไปจากเรือนร่างขาวโพลนตรงหน้า และไอ้สายตาคมกล้าประหนึ่งเสือรอตะครุบเหยื่อของเขาก็ทำให้เธอหนาวๆ ร้อนๆ บอกไม่ถูก “ไม่! เราพวกเดียวกัน เรากินกันไม่ได้” เธอพยายามเตือนสติ เพราะคิดว่าเขาอาจจะกำลังขาดสติ “แต่ผมเคยกินคุณแล้ว แล้วผมก็ชอบกินคุณ” เขาพูดพลางหลุบตามองไปที่แพนตี้ของเธอ ทำเอาเจ้าของแพนตี้ทำตาโต ไม่แน่ใจในคำว่ากินของเขา ที่สำคัญ…กะๆ กินอะไร “มะหมายความว่าไง”
ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
“สวิงของต้นกับอ้อ” ถูกเขียนขึ้นในวันที่ 10 เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2555 โดยลงในเว็บไซต์ Sudswing ที่ปัจจุบันปิดตัวถาวรไปนานแล้ว แต่เชื่อว่ายังอยู่ในความทรงจำของใครหลาย ๆ คน ซึ่งหากนับเวลาแล้วก็ครบรอบ 13 ปี พอดี ณ วันที่กำลังเริ่มต้นลงฉบับพิเศษของนิยายเรื่องนี้ โดยมีการปรับปรุงเนื้อหาในแต่ละตอนให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น รวมถึงการรวมตอนพิเศษและตอนที่หายไปเอามาไว้ในเรื่องนี้ สำหรับไรต์แล้ว “สวิงของต้นกับอ้อ” คือลูกคนโตและลูกรักที่นำพาให้ไรต์ก้าวมาเป็นนักเขียนอย่างเต็มตัวในนิยายสายอีโรติกแนวสวิงกิ้ง NTR, Cuckold, 3P, นิยายแนวเมียสาวเหงารัก รวมถึงแนวที่สามีอยากเห็นภรรยาของตัวเองไปมีอะไรกับชายอื่น ยังไงขอฝากนิยาย “สวิงของต้นกับอ้อ” ฉบับครบรอบ 13 ปีนี้ เอาไว้ให้นักอ่านได้ติดตามกันด้วย ขอบคุณสำหรับทุกการสนับสนุนที่ทำให้ไรต์ยังคงเดินต่อไปได้บนถนนสายตัวอักษรนี้ครับ
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY