เมียเพื่อนที่สนิทกันมาก บ้านอยู่ใกล้กัน เห็นหน้ากันเกือบทุกวัน ความใกล้ชิด สนิทสนม และเป็นกันเอง อาจทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นได้
เมียเพื่อนที่สนิทกันมาก บ้านอยู่ใกล้กัน เห็นหน้ากันเกือบทุกวัน ความใกล้ชิด สนิทสนม และเป็นกันเอง อาจทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นได้
ในตำบลเล็กๆ ของจังหวัดแถบภาคอีสาน ซึ่งยังไม่เจริญมากนัก มีชาวบ้านอาศัยอยู่กันหลายหลังคาเรือน แต่ที่สนิทกันมากเพราะปลูกบ้านใกล้กัน มีอยู่ 3 หลัง แต่ละหลังก็มีผู้อยู่อาศัยรุ่นราวคราวเดียวกัน
บ้านหลังแรกอยู่กันสองคนผัวเมีย คนเป็นผัวชื่อพันธ์ อายุ 28 ปี ส่วนคนเป็นเมียชื่อยุ้ย อายุ 25 ปี มีอาชีพทำไร่ทำสวน ช่วยกันทำมาหากินตามประสาคนชนบท
บ้านหลังที่สองก็อยู่กัน 2 คนผัวเมีย คนเป็นผัวชื่อเทียน อายุ 29 ปี คนเป็นเมียชื่ออ้อย อายุ 26 ปี เปิดร้านขายของชำเลี้ยงชีพ
ส่วนบ้านหลังที่สาม ฐานะดีกว่าเพื่อน ดูจากบ้านที่หลังใหญ่ มีเฟอร์นิเจอร์หลายชิ้น และมีรถปิ๊กอัพไว้ใช้งาน อยู่กันสองคนผัวเมีย เพิ่งแต่งงานกัน และเข้ามาปลูกบ้านอยู่ทีหลังสุด ประมาณ 6 เดือน
บ้านหลังนี้อยู่กันสองคนผัวเมีย ผัวชื่อชาติ อายุ 27 ปี เมียชื่อจุ๋ม อายุ 24 ปี อาชีพออกเงินกู้ให้ชาวบ้านแถวนั้น เพราะชาติได้มรดกจากทางบ้านเป็นเงินก้อนหนึ่ง จึงมีทุนออกเงินกู้
บ้านทั้งสามหลังอยู่ละแวกเดียวกัน จึงเห็นหน้ากันบ่อย สังคมคนชนบทมักจะมีน้ำใจต่อกัน ใครทำอาหารเยอะ ก็จะเผื่อแผ่บ้านใกล้เรือนเคียง จึงสนิทสนมกันมากกว่าสังคมคนเมือง
ความที่มีวัยใกล้กันทั้งผัวและเมีย และมีนิสัยคล้ายๆกัน ทำให้สามครอบครัวนี้สนิทกันเป็นพิเศษ มีอะไรก็แบ่งปันกัน ไปมาหาสู่กันตลอด พูดกูๆมึงๆอย่างสนิทสนม
วันนี้ก็เหมือนเช่นทุกวัน นายพันธ์กับนางยุ้ยที่มีอาชีพทำสวน โดยยุ้ยถือหม้อแกงเดินเข้ามาในบ้านนายชาติและนางจุ๋มที่ออกเงินกู้
“เฮ้ยพันธ์ วันนี้ให้เมียถือหม้ออะไรมาวะ”
นายชาติถามอย่างเป็นกันเอง
“วันนี้มีแกงป่ากบว่ะ ยุ้ยทำมาเยอะ เลยเอามาแบ่งให้มึงลองชิมดู รับรองแซ่บถึงใจ”
“ดีๆ กำลังอยากกินพอดี แต่หม้อใหญ่มาก ไม่แบ่งให้ไอ้เทียนกับอ้อยชิมบ้าง กูกลัวกินไม่หมด”
“มันไม่อยู่บ้าน น่าจะไปซื้อของในเมืองมาใส่ร้านชำมั้ง เดี๋ยวถ้ามันมาค่อยแบ่งไปให้มัน ที่บ้านยังมีอีกเยอะ”
ทักทายจบนายพันธ์นางยุ้ยเดินเข้ามาในบ้านนายชาติ เห็นจุ๋มเมียนายชาตินอนเล่นโทรศัพท์ ก็ทักทายกันตามมารยาท นายชาติเห็นยุ้ยถือหม้อแล้วมองหาที่วาง เลยบอก
“วางไว้บนโต๊ะกินข้าวเลย เออ..พันธ์.. วันนี้มึงว่างรึเปล่า นี่ก็ 4 โมงเย็นแล้ว น้ำลายเหนียวว่ะ ดื่มกันหน่อยมั้ย ได้แกงป่ามึงซดน้ำคงจะคล่องคอดี”
“ได้ แต่ไม่นานนะ วันนี้กูทำสวนกลางแดด กูเพลีย อยากรีบนอน”
นายพันธ์ตอบด้วยน้ำเสียงไม่จริงจังนัก เพราะรู้ว่าถ้าเหล้าเข้าปาก ก็อาจติดลมได้
“เออน่า จะกลับกี่โมงก็แล้วแต่มึง บ้านอยู่แค่นี้เอง”
นายชาติพูดจบก็เดินเข้าครัว หยิบขวดเหล้ากับน้ำแข็งโซดามาวางที่พื้น ส่วนนางจุ๋มเมียชาติเอาจานชามมาแจกทุกคน แล้วตักแกงป่าใส่ถ้วยมาวางพื้นบ้าน คนชนบทชอบกินกับพื้น ไม่ชอบนั่งโต๊ะกินข้าว เพราะไม่เคยชิน
ทั้งสี่คนนั่งล้อมวงกินเหล้ากับแกงป่า แล้วก็คุยกันตามประสาเพื่อนบ้านที่สนิทกัน
“เป็นไง แกงป่าฝีมือยุ้ย แซ่บถึงใจรึเปล่า”
นายพันธ์ถามเมื่อเห็นนายชาติซดน้ำแกงป่า แล้วซู๊ดปาก
“จัดจ้านดีว่ะ ยุ้ยทำอาหารแซ่บจริงๆ ว่างๆทำมาอีกนะ”
“ได้จ้ะพี่ชาติ วันไหนยุ้ยทำเยอะๆ จะแบ่งมาให้พี่อีก พี่พันธ์เค้าก็ชอบกินเหมือนกัน”
นางจุ๋มเห็นผัวชิมแล้วชอบ ก็ตักชิมบ้าง
“อืม.. รสชาติเข้มข้นจริงๆ ยุ้ยทำแกงป่าอร่อย สงสัยจุ๋มต้องขอไปฝึกทำกับยุ้ยบ้างแล้ว”
“ได้เลยจ้ะจุ๋ม วันไหนยุ้ยทำแกงป่า จะไปเรียกนะ”
ทั้งสี่คนนั่งดื่มไป คุยกันไปจนมืด แต่ละคนเริ่มมีอาการเมาเพราะฤทธิ์สุรา เสียงอ้อแอ้ ก็เป็นอย่างนี้ประจำ ถือเป็นเรื่องปกติ
แต่วันนี้ดูเหมือนนางจุ๋มจะเมามากกว่าปกติ เธอใส่ผ้าถุง และนั่งชันเข่า ผ้าถุงร่นขึ้นมาถึงหัวเข่า ทำให้เกิดช่องว่างตรงกลาง ภาษาชาวบ้านเรียกนั่งหวอออก แล้วเธอนั่งตรงข้ามกับพันธ์ นายพันธ์เห็นแวบนึงแล้วรีบหันหน้าไปทางอื่น เพราะกลัวเสียมารยาท
แต่ในใจนายพันธ์เริ่มว้าวุ่น อยากมองก็อยากมอง แต่กลัวนายชาติเห็นแล้วไม่พอใจที่ไปมองข้างในผ้าถุงของเมีย จึงข่มใจไว้
ความชื่นชอบในเรื่องเพศของคนไม่เหมือนกัน.. บางคนชอบแบบเรียบง่าย บางคนชอบแบบโลดโผน จึงคิดค้นหาวิธีเพื่อให้ตัวเองมีความสุขในแบบที่ตัวเองต้องการ..
หมอทำเสน่ห์ที่เป็นผู้หญิง ทั้งสาวและสวย จะสามารถทำเสน่ห์ได้จริงหรือ.. หรือมีอย่างอื่นแอบแฝง หาคำตอบได้ใน.. หมอเสน่ห์สาวฉาวรัก
หมวยเป็นสาวสวยสุดเซ็กซี่ มีผัวแล้ว แต่รายได้ไม่พอใช้ จึงขายขนมหวานหน้าบ้าน เพื่อหารายได้ช่วยผัวอีกทางหนึ่ง.. ความที่หมวยมีรูปร่างหน้าตายั่วยวน และชอบแต่งตัวโชว์เนื้อหนังมังสา ทำให้มีลูกค้าผู้ชายแวะเวียนมาอุดหนุนไม่ขาดสาย.. และแล้วก็มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น.. นายหมวยได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต.. สำคัญที่สุดคือ..ผัวที่ไม่ค่อยทำการบ้าน กลับมาลุ่มหลงเธออย่างโงหัวไม่ขึ้น..
อาจารย์เรืองได้เปิดสำนักหมอเสน่ห์ และตั้งตนเป็นหมอเสน่ห์... ผู้ที่มาหามักจะโดนเล่ห์เหลี่ยมอันแยบยลของหมอเสน่ห์หลอกละเมิดทางเพศเกือบทั้งสิ้น... เรื่องจะได้ผลหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับบุญกรรมของแต่ละคน
ฉันได้มีโอกาสเล่นเกมสวิงอีกครั้งหนึ่ง... ยอมรับเลยว่าครั้งนี้สนุกกว่าทุกครั้ง... เพราะรอบนี้พี่วิทย์คนคิดเกม... และที่สำคัญ มีสามีภรรยาชาวต่างชาติคู่ใหม่มาร่วมด้วย... โดยเฉพาะสามีของคู่ใหม่ เพียงแค่เห็นครั้งแรกฉันก็แอบหลงใหลจนสุดหัวใจ...
ฉันแอบปลื้มหนุ่มหล่อข้างบ้านมานาน... แต่ก็ได้แค่มอง เพราะทั้งฉันและเขาต่างมีคู่ของตัวเองอยู่แล้ว.. อยู่ๆ ก็มีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อคู่ฉันและคู่เขาได้มาร่วมเต้นแอโรบิค ความเร้าใจจึงได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเหลือเชื่อ...
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
"พี่เจี๋ยข้าอยากได้อีกจุมพิตเพิ่มพลังของท่าน" ฉีเย่ว์กล่าวงึมงำบนริมฝีปากของเขา นางเป็นฝ่ายดูดกลีบปากของหยางเจี๋ยเบา ๆ ซุกไซร้ซอกซอนแหย่ลิ้นเข้าไปในปากของเขา สัมผัสอ่อนนุ่มในคราแรกเริ่มโหมกระหน่ำร้อนแรงมากขึ้น ฉีเย่ว์ปลดสายรัดเอวของเขาออกสอดมือล้วงเข้าไปในกางเกงของหยางเจี๋ยพบเนื้อร้อนของเขาแข็งแกร่งขึ้นเต็มลำ นางขยำแรง ๆ พร้อมกับรูดมือเบา ๆ "อ๊า คนดีของพี่" หยางเจี๋ยมือหนึ่งประคองศีรษะของนางให้แนบชิดกับปากของเขาอีกมือล้วงเข้าไปในสาบเสื้อของนาง ฉีเย่ว์ไร้อาภรณ์กางกั้นด้านในนางใส่เพียงเสื้อคลุมนอนสีขาวเท่านั้น เขาลูบแผ่นหลังเปลือยเปล่าของนางไล้นิ้วลงไปจนถึงแก้มก้มแล้วขยำเบา หนัก สลับกัน "พี่เจี๋ยให้ข้ารักท่านเถิด" ฉีเย่ว์กัดปากข่มเสียงครางเอาไว้ นางดึงกางเกงของเขาออกโดยมีหยางเจี๋ยคอยช่วยเหลือ นางขึ้นคร่อมเขาอย่างกระหายไม่บัดนี้ตื่นอย่างเต็มตาในขณะที่ควงเอวควบขี่เขาเป็นจังหวะ หยางเจี๋ยขยับรับจังหวะที่องค์ราชินีของตนเองควบขี่ เขาเด้งสะโพกขึ้นรับนางมือดึงผ้ารัดเอวของนางออกแล้วทิ้งไว้ด้านข้าง แหวกสาบเสื้อของนางแล้วผวาศีรษะขึ้นมาอ้าปากดูดรับเนื้ออวบของนางที่กระเด้งเป็นจังหวะ ฉีเย่ว์ดันร่างของตนเองเข้าหาปากเขามือช่วยประคองศีรษะของหยางเจี๋ยให้แนบชิด หยางเจี๋ยดูดปทุมถันคู่งามอย่างกระหาย เสียงหอบหายใจของฉีเย่ว์สั่นสะท้านหัวใจแทบจะหลุดออกมาจากอก เขาคือหัวหน้าหน่วยจู่โจมที่ตายในสงคราม และได้ย้อนเวลากลับมาหลายร้อยปีกระทั่งฟื้นขึ้นมาในร่างเด็กน้อยนาม หยางเจี๋ย เด็กผู้อาภัยจากตระกูลใหญ่ ที่บิดาและมารดาถูกใส่ความว่าทุจริตจนต้องจบชีวิตลง หยางเจี๋ยเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกเลี้ยงดูให้เติบโตในจวนราชครู สหายของบิดา และที่นี่เขาได้พบกับเด็กน้อยผู้หนึ่งนาม ฉีเย่ว์ ธิดาของท่านราชครูฉีผู้สูงส่ง พวกเขาเติบโตมาด้วยกัน ความใกล้ชิดทำให้เขาหวั่นไหว หยางเจี๋ยจะทำเช่นไรเมื่อได้พบว่า ตัวเอง ตกหลุมรักคุณหนูผู้สูงส่งจนหมดหัวใจไปเสียแล้ว เขารักนาง ต้องการทำให้นางตกเป็นของเขา และทำลายขวากหนามทุกอย่างที่ขัดขวางให้หมดสิ้นไป เพื่อนางเพียงคนเดียว
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
“สวิงของต้นกับอ้อ” ถูกเขียนขึ้นในวันที่ 10 เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2555 โดยลงในเว็บไซต์ Sudswing ที่ปัจจุบันปิดตัวถาวรไปนานแล้ว แต่เชื่อว่ายังอยู่ในความทรงจำของใครหลาย ๆ คน ซึ่งหากนับเวลาแล้วก็ครบรอบ 13 ปี พอดี ณ วันที่กำลังเริ่มต้นลงฉบับพิเศษของนิยายเรื่องนี้ โดยมีการปรับปรุงเนื้อหาในแต่ละตอนให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น รวมถึงการรวมตอนพิเศษและตอนที่หายไปเอามาไว้ในเรื่องนี้ สำหรับไรต์แล้ว “สวิงของต้นกับอ้อ” คือลูกคนโตและลูกรักที่นำพาให้ไรต์ก้าวมาเป็นนักเขียนอย่างเต็มตัวในนิยายสายอีโรติกแนวสวิงกิ้ง NTR, Cuckold, 3P, นิยายแนวเมียสาวเหงารัก รวมถึงแนวที่สามีอยากเห็นภรรยาของตัวเองไปมีอะไรกับชายอื่น ยังไงขอฝากนิยาย “สวิงของต้นกับอ้อ” ฉบับครบรอบ 13 ปีนี้ เอาไว้ให้นักอ่านได้ติดตามกันด้วย ขอบคุณสำหรับทุกการสนับสนุนที่ทำให้ไรต์ยังคงเดินต่อไปได้บนถนนสายตัวอักษรนี้ครับ
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY