เจ้าคือลมหายใจ เจ้าคือทุกสิ่งที่ข้านั้นปรารถนา ขอเพียงมีเจ้า ข้ายินดีผ่าทุกด่านเคราะห์
เจ้าคือลมหายใจ เจ้าคือทุกสิ่งที่ข้านั้นปรารถนา ขอเพียงมีเจ้า ข้ายินดีผ่าทุกด่านเคราะห์
บทที่1
“แม่..”
นางเอ่ยออกมาได้เพียงเท่านั้น ความรู้สึกมากมายตีตื้นขึ้นมาจุกถึงคอหอย ไม่รู้จะต้องพูดเช่นไรให้บุตรชายเข้าใจในสิ่งที่นางทำ
“ข้าอยู่ได้”
เด็กชายพูดตัดบทสนทนา เสียวสั่นแต่ก็พยายามข่มความเจ็บปวดเอาไว้ ดวงตารื้อไปด้วยน้ำตา เขาไม่อยากฟังคำแก้ตัวใด ๆ ในเมื่อสุดท้ายแล้ว มารดาก็ไม่ได้คิดที่จะพาเขาไปด้วย
“เจ้าเข้าใจแม่ด้วย แม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ อยู่ที่นี่จะไม่มีใครหาเจ้าพบ”
โอวหยางฮูหยินน้ำตาคลอ นางพาบุตรชายขึ้นเขามาไกล บอกเขาว่าจะพามาขอพรให้เรื่องเลวร้ายทั้งหมดจบสิ้นลงเสียที แต่ไม่ใช่สำหรับเขา แต่เพื่อนางต่างหาก นางเหนื่อยเต็มทีแล้วกับภาระที่ต้องแบกไว้
เฟยหงแต่งเข้าสกุลโอวหยาง แม้ว่าตระกูลโอวหยางจะทำการเกษตร แต่กลับร่ำรวยที่สุดในเมือง ไม่ว่าเพาะปลูกสิ่งใดก็ได้ผลผลิตมากมาย ขายดิบขายดีทุกฤดูกาล แม้สามีของนางจะหน้าตาขี้เหร่ ผิวกายดำขลับ แต่นางก็ยอมแต่งเข้าไปก็เพื่อไม่ให้ตนต้องลำบาก
แต่แล้วความจริงทุกอย่างก็ถูกเปิดเผย กลางดึกคืนหนึ่ง จวนตระกูลโอวหยางถูกกลุ่มคนในชุดดำจำนวนมากบุกรุกสามีพานางหนีออกมาท่ามกลางความมืด เฟยหงซึ่งกำลังตั้งครรภ์อยู่ห่วงความปลอดภัยของตน ไม่ถามมากความหนีตามออกมาโดยแทบไม่ได้หยิบคว้าสิ่งใดติดมือมาเลย และนางก็ได้รู้ความลับของตระกูลโอวหยาง สามีของนางคือผู้สืบทอดพลังปราณ และลูกในครรภ์ของนางคือผู้สืบทอดคนต่อไป กลุ่มคนที่บุกมาต้องการเด็กในท้องของนาง เพื่อนำไปมอบให้หัวหน้าพรรคมาร
นางและสามีต้องหลบหนีแอบซ่อนตัวมาตลอดหลายปี จนในที่สุดพวกพรรคมารก็หาพวกนางพบ สามีนางต่อสู้กับพวกมันจนในที่สุดก็ต้องจบชีวิตลง เพื่อให้นางและบุตรชายหนีรอดมาได้ แต่นางเป็นเพียงสตรี จะพาบุตรชายอายุเพียงสิบขวบหนีไปแห่งใดได้อีก อยู่อย่างหวาดระแวงอดมื้อกินมื้อ รอนแรมไปตามที่ต่าง ๆ ไม่อาจหยุดพักได้เพราะเกรงว่าจะถูกหาพบและถูกสังหารทิ้งทั้งแม่และลูก
“ไม่ต้องห่วงข้า ท่านลงเขาไปเถอะก่อนที่ฟ้าจะมืด”
“ข้า..ขอโทษ” เฟยหงปาดน้ำตาออกจากดวงหน้า รีบหมุนตัวไปยังทิศทางลงจากเขา สาวเท้าก้าวเดินด้วยความรีบเร่งกลัวว่าโอวหยางเจิ้งหัวจะตามนางลงเขาไปด้วย แล้วสิ่งที่ทำมาทั้งหมดจะเสียเปล่า
นางพบรักใหม่ แต่บุรุษผู้นั้นไม่ต้องการบุตรชายของนาง ใครกันเล่าอยากจะเลี้ยงดูลูกของชายอื่น อีกทั้งหากนางพาโอวหยางเจิ้งหัวไปด้วย ก็ต้องถูกตามล่าไปชั่วชีวิต นางตกระกําลําบากมาสิบกว่าปี เมื่อสวรรค์หยิบยื่นหนทางให้ เหตุใดนางจะต้องทิ้งมัน ทิ้งโอวหยางเจิ้งหัวมิง่ายดายกว่าหรือ
เด็กชายมองมารดาเดินลงเขาจนลับตา น้ำหยดใส ๆ ไหลรินรดดวงหน้า เขาเข้าใจมารดาดี ใครเลยจะอยากแบกตัวภาระเช่นเขาไปด้วย คนที่ไม่มีใครต้องการ มีพลังปราณหลับใหลอยู่ภายในกาย แต่ก็ยังไม่สามารถใช้ได้ พลังยิ่งใหญ่ที่มาพร้อมกับคำสาป ในวันที่เขาถือกำเนิดในครรภ์มารดา คนตระกูลโอวหยางก็แทบสูญสิ้น แม้บิดาของเขาจะดิ้นรนเพื่อให้ครอบครัวมีชีวิตรอด แต่สุดท้ายก็สู้คนเลวไม่ไหว มารดาของเขาเป็นเพียงสตรีนางหนึ่ง จะทนแบกรับชะตากรรมที่ไม่ใช่ของตนไปเพื่ออะไรกัน นางพบบุรุษใหม่ที่พร้อมจะมอบความสบายกายสบายใจให้ แล้วนางจะเอาตัวภาระเช่นเขาไปด้วยทำไม ทิ้งเขาเอาไว้ที่วัดบนเขาห่างไกลผู้คนเช่นนี้ก็คงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว อย่างน้อย ๆ คนพวกนั้นก็จะหาเขาไม่เจอ
‘คนที่ไม่มีใครต้องการเช่นข้า’
มือหนาวางทาบลงไหล่น้อย ๆ
“เจ้าอยู่ที่นี่อย่างน้อย ๆ ก็ยังมีข้าวให้กิน”
“ขอรับหลวงพ่อ” โอวหยางเจิ้งหัวพยักหน้ารับ
“ตั้งใจทำงาน พระรูปอื่น ๆ ในอารามจะได้เอ็นดู” หลวงพ่อแนะนำได้เท่านี้ สงสารก็สงสาร แต่ทำอย่างไรได้ ในเมื่อรับปากโอวหยางฮูหยินว่าจะรับเด็กคนนี้เอาไว้แล้ว อยู่ที่นี่อย่างไรก็ยังมีข้าวกินอิ่มท้องมีที่ซุกหัวนอน ไม่ต้องกลายเป็นเด็กเร่ร่อน ลงไปเป็นขอทานในเมือง เพราะดูแล้วโอวหยางฮูหยินคงไม่คิดจะพาบุตรชายกลับแคว้นจ้าวไปด้วย สามีใหม่ของนางเป็นพ่อค้าในขบวนคาราวาน นางคงทิ้งบุตรชายเอาที่แคว้นซีเป่ยเป็นแน่ หลวงพ่อจึงรับเด็กคนนี้เอาไว้ถือเสียว่าเอาบุญ
“ขอรับหลวงพ่อ”
“เจ้าไปพักผ่อนเถอะ อาตมาจะไปสวดมนต์ที่หัวพระ”
โอวหยางเจิ้งหัวพยักหน้ารับน้ำตาคลอเบ้า เท้าน้อย ๆ เดินโซซัดโซเซไปทรุดลงที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ยกฝ่ามือขึ้นปิดดวงหน้า ปล่อยโฮออกมาสุดเสียง
ไม่เหลือใครอีกแล้ว ข้าไม่เหลือใครอีกแล้ว
เลือกสามีผิดคิดจนตัวตาย!เป็นเช่นไรรู้ก็เมื่อสายไปเสียแล้ว ลูกต้องตายจาก พ่อแม่พี่ชายพลัดพราก ด้วยหน้าที่ของเขาในฐานะเจ้าเมือง ช่วยชีวิตทุกคนไว้ได้ เว้นแต่นาง เว้นแต่ครอบครัวของนาง
โปรยปราย ผู้คนเกลียดชังข้า แต่กลับมิมีผู้ใดรู้เบื้องหลังว่าแท้จริงแล้วข้าต้องโหดร้ายเช่นนี้เป็นเพราะผู้ใด แทงมีดใส่อกคนรักของข้า สังหารตระกูลข้าจนสิ้นแม้แต่เด็กทารกก็มิเว้น ข้าต้องยืนยิ้มแล้วเอ่ยว่า ไม่เป็นไร ข้าให้อภัย นั่นคงมีเพียงพระโพธิสัตว์เสียแล้วมิใช่ข้าคนนี้ คนที่พวกเจ้าหวาดกลัวยิ่งกว่าภูตผี
นางเคยเป็นดั่งดอกบัวขาว บริสุทธิ์ผุดผ่องมองแล้วสบายตา แต่เขาและน้องสาวต่างมารดาของนางกลับมาแต้มหมึกดำลงบนบัวขาวดอกนี้
นางเกิดมาขาพิการแต่หาได้ไร้ใจไม่ มีเพียงคนผู้นั้นที่ไร้หัวใจยิ่งกว่านาง เขามาหลอกให้นางหลงรักแล้วถอนหมั้นอย่างเลือดเย็น หลังนางตายจากไปแล้วยังใช้ความเห็นอกเห็นใจของพี่ชายนางเพื่อหาประโยชน์เข้าตัว โชคดีสวรรค์ไม่ปล่อยให้คนชั่วลอยนวล กลับมาครานี้ ในเมื่อพวกมันรักกันมากนัก ก็เชิญรักกันไปได้เลย ชายชั่วเช่นนี้คิดจนตัวตายก็ไม่เอามาเป็นสามีเด็ดขาด!
ท่านช่างใจดำยิ่งนัก ท่านกับข้าเปรียบดั่งเหมยเขียวม้าไม้ไผ่ ข้าเชื่อว่าสักวันท่านจะกลับมาเข้าพิธีกราบไหว้ฟ้าดินกับข้า แต่ใยท่านจึงพาสตรีอื่นกลับมา แล้วถอนหมั้นข้าอย่างไร้เยื่อใย
เพราะรักนางจึงยอมทุกอย่าง แต่สุดท้ายเขากลับมอบความรักให้สตรีอื่น ในเมื่อเดินมาจนถึงสุดทางแล้วนางก็ไม่คิดจะยื้อไว้อีกต่อไป ไปเถิดข้าปล่อยมือท่านแล้ว ส่วนข้าจะเดินจากไปพร้อมกับบุตรในครรภ์
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
เวินอี่ถงได้เห็นความรักอันลึกซึ้งของเจียงยวี่เหิง แต่ก็ได้สัมผัสกับการทรยศของเขาเช่นกัน เธอเผารูปแต่งงานของพวกเขาต่อหน้าเขา แต่เขากลับมัวแต่ง้อชู้ของเขา ทั้งๆ ที่เขาแค่มองดูแวบหนึ่งก็จะเห็น แต่เขากลับไม่สนใจเวินอี่ถงสุดจะทน ตบหน้าเขาอย่างแรง พร้อมอวยพรให้เขากับชู้ของรักกันยืนยาว แล้วเธอก็หันหลังสมัครเข้ากลุ่มวิจัยลับเฉพาะ ลบข้อมูลประจำตัวทั้งหมด รวมถึงความสัมพันธ์การแต่งงานกับเขาด้วย! ก่อนจากไป เธอยังมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้เขาอีกด้วยเมื่อถึงเวลาที่จะเข้ากลุ่ม เวินอี่ถงก็หายตัวไป บริษัทของเจียงยวี่เหิงประสบปัญหาล้มละลาย เขาจึงออกตามหาเธอด้วยทุกวิถีทาง แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นใบมรณบัตรที่ต้องสงสัยเขาสติแตก “ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่ยอมรับ!”เมื่อพบกันอีกครั้ง เจียงยวี่เหิงต้องตกใจที่พบว่าเวินอี่ถงเปลี่ยนตัวตนใหม่แล้ว โดยข้างกายมีผู้มีอำนาจที่เขาต้องยอมก้มหัวให้เขาอ้อนวอนอย่างสิ้นหวัง “ถงถง ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาเถอะ!”เวินอี่ถงเพียงยิ้มยักคิ้ว จับแขนของผู้มีอำนาจข้างๆ “น่าเสียดาย ตอนนี้ฉันอยู่ในระดับที่นายไม่อาจเอื้อมถึงแล้ว”
อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน
หลินเจียอีหญิงสาวในศตวรรษที่21ตกตายด้วยโรคระบาด วิญญาณของเธอได้ทะลุมิติมาอยู่ในร่างของเด็กสาวอายุ14 ที่มีชื่อเดียวกับเธอซึ่งสิ้นใจตายระหว่างเดินทางกลับบ้านเดิมของมารด ********* หลินเจียอีลืมตาตื่นขึ้นมาในสภาพบ้านที่ไม่คุ้นชิน เธอจำได้ว่าก่อนหน้านี้ได้เข้ารักษาตัวจากอาการติดเชื้อโรคระบาดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เหตุใดถึงมาโผล่ในบ้านทรงโบราณ รอบกายเธอเต็มไปด้วยผู้คนแต่งตัวล้าสมัย ต่อมาเธอค้นพบว่าตนเองได้ทะลุมิติเข้ามาอยู่ในร่างของเด็กสาวอายุ 14 ซึ่งมีชื่อเดียวกันกับเธอ แต่ชะตากรรมของเด็กสาวผู้นี้ช่างน่าสงสารนัก บิดาเพิ่งลาโลก แม่โดนฮุบสมบัติแล้วถูกขับไล่ออกจากตระกูล ต้องระหกระเหินพาเจ้าของร่างที่ถูกทุบตีจนสิ้นใจระหว่างทางกลับมาบ้านเดิมที่แสนยากจนข้นแค้น ****ไม่มีฉากอีโรติก เริ่มล็อกเหรียญตอนที่ 25 ก่อนเข้าไปอ่านเนื้อหานิยายอ่านคำเตือนก่อนนะคะ (สำคัญมาก) 1. กรุณาแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพให้เกียรตินักเขียนและนักอ่านท่านอื่น หากแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำหยาบคายไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในนิยายหรือมุ่งประเด็นด่าทอนักเขียนเพื่อระบายอารมณ์ ความคิดเห็นจะถูกลบออก!! 2. นิยายเรื่องนี้เกิดขึ้นจากจินตนาการของนักเขียน บุคคลและสถานที่ที่เกิดขึ้นไม่มีอยู่จริงในโลก เนื้อหาในนิยายมีทั้งสมเหตุผลและไม่สมเหตุสมผล บางตอนอาจมีฉากที่รุนแรง (ต่อสู้) โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน 3. ตัวละครในนิยายมีทั้งดีและเลวแต่กต่างกันไป โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ห้ามคัดลอกดัดแปลงแก้ไขนิยายเรื่องนี้ทุกกรณี หน่วยเงินตรา 1000 อีแปะ 1 ตำลึงเงิน หน่วยวัดตวงน้ำหนัก 1 ชั่ง 500 กรัม หน่วยเวลา 1 จิบน้ำชา ระยะเวลาที่สั้นมาก ๆ 1 เค่อ 15 นาที 1 ก้านธูป 30 นาที 1 ชั่วยาม 2 ชั่วโมง 12 ชั่วยาม 24 ชั่วโมง ยามจื่อ 23.00-24.59 ยามโฉ่ว 01.00-02.59 ยามอิ๋น 03.00-04.59 ยามเหม่า 05.00-06.59 ยามเฉิน 07.00-08.59 ยามซื่อ 09.00-10.59 ยามอู่ 11.00-12.59 ยามเว่ย 13.00-14.59 ยามเชิน 15.00.16.59 ยาวโหย่ว 17.00-18.59 ยามชวี 19.00-20.59 ยามห้าย 21.00-22.59
เรื่องของอารียาคุณครูสาวใหญ่วัย35กับหนุ่มน้อยลูกติดผัววัย19ที่ชื่อโจ โจเป็นเด็กช่างอาชีวะสายโหดและหื่นกาม เธอมักจะโดนลูกชายแอบลวนลามอยู่บ่อยๆ ทว่าเธอกลับเป็นสาวหัวโบราณที่ไม่กล้าแม้ปริปากบอกสามี ด้วยความกลัวว่าบ้านจะแตกสาแหรกขาดอารียาเลยปล่อยเลยตามเลย แค่คำพูดห้ามปรามทำให้คุณแม่พลาดท่าเสียทีให้ลูกเลี้ยงไปจนได้ เธอโดนโจจับกดจนเสร็จสมอารมณ์หมายไปหลายหนจนตัวเองก็ติดใจเสียดื้อๆ ในที่สุดอารียาก็ต้องจำใจมีผัวถึงสองคนอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน คนแรกคือผัวที่ถูกต้องตามกฏหมาย อีกคนคือลูกติดผัวที่หื่นเสียเหลือเกิน
นางไร้หัวใจ ไม่คิดรักองค์ฮ่องเต้แม้เพียงสักครั้ง เขายับยั้งใจ กลับตกอยู่ใต้ห้วงเสน่หาสนมเอกผู้นี้
© 2018-now MeghaBook
บนสุด