ผอ. หนุ่มสุดหื่น พ่อปลาไหลตัวพ่อ รักและหวงความโสดยิ่งกว่าชีวิต ใช้เงินแก้ปัญหาทุกอย่างจนมาเจอเธอ หญิงสาวที่เขาจ่ายเท่าไหร่ก็ไม่เคยได้ใจเธอสักที ความอยากเอาชนะของเขามันเป็นบ่อเกิดความรักที่ก่อขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
ผอ. หนุ่มสุดหื่น พ่อปลาไหลตัวพ่อ รักและหวงความโสดยิ่งกว่าชีวิต ใช้เงินแก้ปัญหาทุกอย่างจนมาเจอเธอ หญิงสาวที่เขาจ่ายเท่าไหร่ก็ไม่เคยได้ใจเธอสักที ความอยากเอาชนะของเขามันเป็นบ่อเกิดความรักที่ก่อขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
ตึก... ตึก... ตึก...
นิ้วหนากระทบลงบนโต๊ะไม้ภายในห้องทำงานที่หรูหราราวกับว่าเจ้าของนิ้วหนานั้นกำลังคิดอะไรบางอย่างจนคิดไม่ออกเลยต้องเคาะนิ้วช่วยให้ตระกอนความคิดของเขาแล่นไปดังใจนึก
ชายหนุ่มผิวขาวเหลืองใบหน้าเกลี่ยงเกลาราวกับหนุ่มลูกครึ่งเกาหลีริมฝีปากของเขาสีออกจะคล้ำนิดหน่อยอาจจะเกิดมาจากผลกระทบของการสูบบุหรี่จัด จมูกโด่งเป็นสัน อีกทั้งดวงตาสีเทาสว่างคู่นั่นหากใครได้เผลอจ้องมองก็คงจะหลงเขาจนโงหัวไม่ขึ้น
มือหนาเลื่อนขึ้นขยับแว่นตาฟูลออฟชั่นที่สั่งตัดมาแบบพิเศษ เขาเม้มปากแน่นกลืนน้ำลายลงคออย่างพยายามระงับอารมณ์อะไรบางอย่าง
"ทำไมดื้ออย่างนี้วะ"
เมื่อหลายสัปดาห์ก่อนเขาพยายามยัดเงินหนึ่งหมื่นบาทให้กับดาราสาวดาวรุ่งพุ่งแรงในขณะนี้ บอกให้เธอไปดูหนังกับเขาในรอบของวันนี้ตอนสามทุ่มครึ่ง แล้วดูสิ ดูเธอตอบมาสิ
Line
พาเพลิน : ขอบคุณสำหรับเงิน แต่ฉันไม่ว่าง
ยัยตัวแสบ! แน่สิเธอน่ะไม่อยากไปกับเขาต่างหากไม่ใช่ไม่ว่างอย่างที่ปากพูดสักหน่อย เขาพยายามทำทุกวิถีทางให้ได้ใกล้ชิดเธอแต่เธอก็พยายามสร้างกำแพงออกห่างจากเขา คำพูดเจ็บปวดที่เธอมักใช้ปฏิเสธเขาก็คือ 'เพลินไม่ชอบคนแก่ค่ะ'
ผอ. หนุ่มผุดลุกผุดนั่งหลายต่อหลายครั้งก็ยังคิดไม่ออก เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เขาต้องการจะกินแล้วไม่ได้กิน ปกติเขาจ่ายให้ใครไม่เคยเกินหมื่นด้วยซ้ำ นี่อะไร จ่ายให้เธอไปเป็นหมื่นๆ แล้วก็ไม่ค่อยได้ใกล้ชิดเธอเลย
เสียเป็นแสน แขนไม่ได้จับ
ถ้าไม่มัดมือชก เธอก็จะไม่แม้แต่ชายตามองเขาด้วยซ้ำ นี่เขาไม่หล่อตรงไหนวะ เขานี่รูปหล่อพ่อรวยขับเบนซ์ มือถือถ่ายรูปได้ แถมเปย์เก่งขนาดนี้ใครๆ ก็ต้องอยากได้เขารึเปล่าวะ ผอ.หนุ่มเดินไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ในห้องทำงานของตัวเอง เขาส่องกระจกมองดูตัวเอง
ก็หล่อนี่หว่า
ก็แค่อายุมากกว่าเธอไม่กี่สิบปีเองมันจะอะไรนักหนาวะ ปกติดาราที่เขาอยากนอนด้วยจ่ายไปไม่ถึงหมื่นก็ได้นอนแล้ว ถ้าตัวท็อปหน่อยก็ไม่เกินสามหมื่น นี่อะไรชวนไปกินข้าวเขาจ่ายเธอก็ไม่ไป ส่งแก้ว แหวน เงิน ทอง ไปให้ก็ไม่เอา
Rrrrrr~ Rrrrrr~ Rrrrrr~
โทรศัพท์ภายในดังขึ้นไทก้าเดินกลับไปรับสายที่โต๊ะ เขาสลัดอาการหมกมุ่นที่มีทิ้งแล้วรีบรับสายทันที
"ครับ"
"ท่านผู้อำนวยการคะ น้องพาเพลินมาถึงแล้วค่ะ"
มุมปากหนากระตุกยิ้มเมื่อได้ยินเสียงปลายสายจากเลขาส่วนตัว เขาใช้มือข้างที่ว่างจัดแจงเสื้อผ้าของตัวเอง อีกทั้งยังปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตเม็ดบนออกสามสี่เม็ด ตามด้วยเสยผมขึ้นลวกๆ
"ให้เข้ามาได้เลย"
"ค่ะท่าน"
ผอ. หนุ่มใช้สะโพกพิงกับขอบโต๊ะยืนรอคอยเธออย่างใจจดใจจ่อ ไม่นานนักเสียงสวรรค์ก็ดังเข้ามาพร้อมกับประตูไม้บานใหญ่ถูกเปิดออก
แกร่ก~
"เชิญด้านในได้เลยค่ะน้องพาเพลิน"
หญิงสาวในชุดนักศึกษากระโปรงทรงเอสีดำสั้นเหนือเข่าประมาณสองคืบครึ่งกับเสื้อนักศึกษาขนาดพอดีตัว แต่ไม่รู้มันพอดีเกินไปไหมสองเต้าอวบของเธอถึงได้เด่นซะขนาดนั้น
"ผอ. เรียกเพลินมาทำไมเหรอคะ"
แม้จะรู้อยู่แล้วว่าเขาเรียกมาทำไมแต่หญิงสาวก็ขัดไม่ได้เพราะท่านผู้อำนวยการสั่งตรงไปถึงอาจารย์ประจำชั้นและอาจารย์ประจำวิชาของเธอ ให้เธอมาพบหากเธอไม่มาแน่นอนว่าอาจารย์ทั้งสองของเธอต้องซวยแน่ๆ
"วันนี้เธอว่าง ทำไมไม่ไปดูหนังกับฉัน"
"เพลินไม่ว่างค่ะ"
"ฉันเช็กกับคุณแป้งแล้ว เธอว่าง"
"โอเคค่ะ เพลินไม่อยากไป เรียกเพลินมาด้วยเรื่องแค่นี้เหรอคะ"
หญิงสาวทำท่าจะหมุนตัวกลับแต่ไทก้าที่เร็วกว่าก็คว้าแขนของเธอเอาไว้ได้ทัน เขาดึงตัวเธอให้เข้าใกล้เขาก่อนจะแอบกดจมูกสูดดมเรือนผมของเธอในตอนที่เธอเซถลาลงมาโดนแผงอกแกร่ง
"อ่ะ นี่คุณเล่นอะไรเนี่ย"
"ไปดูหนังกับฉัน"
พาเพลินเอี้ยวหน้าไปมองเขาแต่ในขณะนั้นเขาก็ก้มหน้าลงมาพอดีทำให้ปลายจมูกโด่งของเขาสัมผัสเข้ากับพวงแก้มนวลของเธอเต็มๆ หญิงสาวพยายามสะบัดตัวออกจากมือหนาที่คว้าแขนของเธอเอาไว้ แต่มันก็ไม่หลุด
ผอ. หนุ่มแลบลิ้นเลียริมฝีปากก่อนจะกระตุกยิ้มอย่างมีเลศนัยแล้วจับตัวเธอให้หันหน้าเข้าหากัน
"ไปดูหนังกับฉัน"
"ไม่ไป"
"นี่เธอ อย่าลืมนะว่าเธอเป็นแค่ดาราไม่ใช่นางฟ้าเทวดา อย่าเล่นตัวให้มันมากนัก"
"ก็ฉันไม่ไปไงเล่า!"
พลั่ก!
พาเพลินดันแผงอกแกร่งของ ผอ.หนุ่มให้ออกห่างในจังหวะที่ไทก้ายังไม่ทันได้ตั้งตัวเขาก็เซไปสองสามเก้า เมื่อตั้งหลักได้ก็คว้าแขนของเธอไว้อีกครั้ง
"เล่นตัวมาก ราคาเธอก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมาหระ ...!"
เพี้ยะ!
พูดยังไม่ทันจบประโยคฝ่ามือเรียวก็กระทบที่แก้มสากของเขาเต็มแรงจนใบหน้าหล่อเหลาราวกับหนุ่มลูกครึ่งเกาหลีหันไปตามแรงตบ
"นี่! เธอ ..."
"ล่ามหมาในปากคุณด้วย ไม่งั้นฉันจะเอาน้ำร้อนราด"
หญิงสาวสะบัดตัวจนหลุดออก เธอรีบเดินออกจากห้องของท่านผู้อำนวยการหนุ่มทันทีสร้างความงุนงงให้กับเลขาสาวหน้าห้องไม่น้อย
มือหนายกขึ้นจับใบหน้าซีกขวาที่เพิ่งถูกฝ่ามือเรียวกระทบไปเมื่อครู่เขายกยิ้มราวกับคนบ้า พาเพลินเป็นผู้หญิงคนแรกที่กล้าทำกับเขาแบบนี้ เป็นผู้หญิงคนแรกที่กล้าท้าทายอำนาจเงิน ไม่ยอมสยบให้กับเขาและคอยดูเถอะ เขาจะทำทุกทางเพิ่งซื้อเธอมาให้ได้
เราได้เห็นดีกันแน่!
"ไอ้บ้าเอ้ย ไอ้โรคจิต"
หญิงสาวเดินสะบัดก้นงอนของตัวเองไปนั่งที่ใต้ตึกคณะ เธอยังรู้สึกหัวเสียไม่หายกับไอ้ ผอ.บ้ากามนั้น นี่มันเวรกรรมอะไรของเธอนักหนาไม่เข้าใจทำไมเธอต้องมาเจอกับคนแบบนี้ด้วย
เกลียดนัก!
Rrrrrr~ Rrrrrr~ Rrrrrr~
เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้นเธอหยิบมันขึ้นมาจากกระเป๋าสะพายข้างสีดำใบเล็กหน้าจอมือถือแสดงชื่อ 'พี่แป้ง' แป้งร่ำเป็นผู้จัดการส่วนตัวของเธอส่วนแม่ของแป้งร่ำก็เคยเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้แม่ของเธอซึ่งตอนนี้แน่นอนว่าแม่เธอไม่อยู่ในโลกใบนี้แล้ว ส่วนพ่อก็ส่งเงินมาให้เธออย่างเดียวเธอไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าพ่อเธอหน้าตาเป็นยังไง
"ค่ะพี่แป้ง" เธอสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอดก่อนตอบรับสายเสียงหวานกลับไป
"น้องเพลินวันนี้ค่ำๆ มีงานด่วนนะคะ"
"งานอะไรเหรอคะพี่แป้ง"
"งานโชว์ตัวน่ะ พี่ลืมบอกคิวหนูเจอกันที่ห้างนะคะสามทุ่ม"
"ค่ะ" งานด่วน เห้อ ... ก็ยังดีกว่าต้องไปนั่งดูหนังกับไอบ้าโรคจิตนั่นแล้วกัน
แฟนเก่า (เคย) ร้าย จะกลับมาง้อขอเธอคืนดี เขาจะขนกลเม็ดเท่าที่คิดได้มาตามตื้อ มารื้อความทรงจำ (ที่ดีๆ) ของเขากับเธอ จะมาทวงเธอคืน และจะมารักษาแผลใจของเธอที่เขาเป็นคนทำไว้ให้หายขาด อย่าคิดหนี เพราะเธอหนีเขาไม่พ้นหรอก ไม่ว่าจะหนีไปไหนครั้งนี้เขาก็จะตามติดเป็นเงาจนเธอต้องยอมคืนดีกับเขาจนได้อย่างแน่นอน
เขาเห็นเธอเป็นเพียงของตายไม่ว่าเขาจะไปทำอะไรที่ไหน กลับมาทีไรก็ยังคงเจอเธอเสมอ เมื่อแรกรักอะไรก็ดี แต่ทำไมตอนนี้ทุกอย่างถึงเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ มันเพราะเขาหมดรักเธอแล้วหรือเพราะเธอเป็นเพียงของที่เขาจะทำอะไรก็ได้งั้นเหรอ เธอเจ็บซ้ำๆ มากขนาดนี้ เธอโง่และไม่เห็นคุณค่าของตัวเองมากขนาดนี้ ควรจะพอได้แล้วใช่ไหม เธอเจ็บพอหรือยัง? เธอยังควรให้โอกาสเขาอยู่ไหม?
เขาเป็นทนายหนุ่มหล่อมากความสามารถที่เพรียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา การศึกษา ฐานะทางบ้าน สังคม เรียกได้ว่าเนื้อหอมในหมู่สาวๆ ไม่ว่าจะโสด ซิง หรือมีคู่ครองแล้วหากเสนอให้เขาก็พร้อมจะสนองทุกเมื่อ สาวๆ ต่างอยากควบคุม และครอบครองเขา แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าคนอย่างเขาน่ะ 'รักสนุก แต่ไม่ผูกพัน' ก็ตาม คนอย่างเขาไม่เคยคิดหยุดอยู่ที่ใคร ความซิงไม่สามารถผูกมัดเขาได้ จนกระทั่ง... เธอเดินเข้ามาในชีวิตเขา
❤ โปรเจกต์สุดฮอตต้อนรับวาเลนไทน์ Match Love Valentines ❤ เรื่องราวของสาวขี้เหงาทั้งสี่คนที่เกิดอาการ เปลี่ยวใจอยากมีใครสักคน เลยต้องเข้าแอปหาคู่อย่าง MATCH LOVE เพื่อตามหาคู่เดตที่มาทำให้วาเลนไทน์ของพวกเธอ ไม่ต้องเหงาใจอีกต่อไป และแอปนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการแมตช์รักของพวกเธอ...แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะสมหวังจากแอปหาคู่สักหน่อย? ไปลุ้นกันว่าแอปนี้จะช่วยให้พวกเธอสละโสดได้ไหม...!!!!
เธอทำให้เขารัก เธอทำให้เขาแค้น และก็เป็นเธอที่กลับมาวนเวียนอยู่ข้างกายเขา เขาที่พยายามลืมความรักของเธอกดความเจ็บแค้นเอาไว้ในส่วนลึกสุดของหัวใจ เธอทำให้เขารู้จักคำว่า "ทั้งรัก ทั้งแค้น" เป็นอย่างดี ในเมื่อเธอเลือกจะกลับมาเขาก็จะสาดความเจ็บแค้นคืนกลับไปให้เธอได้รู้สึก ให้เธอได้รู้สึกถึงความเจ็บช้ำที่ไม่มีวันลืมได้ลง
แม่บ้านอย่างฉัน.. มีสามีก็เหมือนไม่มี.. เพราะเขาเป็นพวกนกกระจอกไม่ทันกินน้ำ.. ปล่อยให้ฉันอารมณ์ค้างตลอด.. จนฉันเริ่มจะทนไม่ไหว... แต่แล้ว.. เราทั้งสองก็ค้นพบทางออกอย่างไม่คาดฝัน..
หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
เพราะรักเขาตั้งแต่แรกเห็น หล่อนจึงยินยอมแต่งงานกับเขา เพราะถูกบังคับเขาจึงเห็นหล่อนเป็นเศษธุลีดินไร้ค่า แม้เป็นเมียแต่ง หล่อนคิดว่าสักวันหนึ่งเขาอาจจะรักหล่อนตอบกลับมา ไม่มาก... ก็น้อย แต่ไม่นึกว่าเมื่อเขาหลอกให้หล่อนรักเขาสุดหัวใจ เขากลับขับไล่หล่อนออกมาจากชีวิตด้วยเหตุผลว่า เขาไม่รักหล่อน... "เธอเข้ามาในชีวิตฉันง่ายๆ ก็ช่วยออกไปง่ายๆ ด้วยเถอะ" ถ้อยคำเจ็บปวดทำร้ายที่ตามมาหลอกหลอน แม้ในยามที่หล่อนหลีกลี้จากเขามาได้นานเนิ่น ในวันที่หล่อนเข้มเเข็งและอยู่ได้โดยไม่มีเขา ลูกในท้องที่หล่อนปกปิดเขาเอาไว้ กำลังจะทำให้หล่อนกับเขาหวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ในวันที่หล่อนไม่ได้รักเขาอีกต่อไปแล้ว ................................................................ “การแต่งงานของเราเกิดขึ้นเพราะฉันถูกบังคับ การที่ฉันไม่ได้รักเธอ มันไม่ใช่ความผิดของฉัน ฉันหวังว่าเธอจะเข้าใจ” ธีภพ วิชญ์วิศิษฐ์ “ความรักของมนอาจจะดูไร้ค่าแต่มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสิ่งเดียวที่มนพอจะให้คุณธีร์ได้ ที่ผ่านมาคุณธีร์แสดงออกเสมอว่าคุณธีร์ไม่ต้องการและทิ้งขว้างมันมาตลอด มันก็ไม่ใช่ความผิดของมนที่สุดท้ายมนจะหมดรัก มนหวังว่าคุณธีร์จะเข้าใจ เหมือนที่มนเคยเข้าใจคุณธีร์” มนพัทธ์ สว่างโชติ
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
© 2018-now MeghaBook
บนสุด