ความเข้าใจผิดทำให้เขามีค่ำคืนอันเร่าร้อนกับเธอ..เขาจะถือว่าเธอเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์ แม้ว่าเธอจะไม่เต็มใจก็ตาม และของที่เป็นของเขา จะไม่มีวันปล่อยให้ใครหน้าไหนได้เชยชมทั้งนั้น อย่าฝันจะเป็นอิสระ
ความเข้าใจผิดทำให้เขามีค่ำคืนอันเร่าร้อนกับเธอ..เขาจะถือว่าเธอเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์ แม้ว่าเธอจะไม่เต็มใจก็ตาม และของที่เป็นของเขา จะไม่มีวันปล่อยให้ใครหน้าไหนได้เชยชมทั้งนั้น อย่าฝันจะเป็นอิสระ
ตอนที่ 1 สบตา
พชร คลาร์ก มาเฟียหนุ่มลูกครึ่งไทยอเมริกัน ผู้มีเรือนร่างสูงใหญ่ ผิวพรรณขาวเนียนละเอียด ใบหน้ารูปไข่ สันกรามโค้งมนเด่นชัด คิ้วเข้ม ดวงตาคมกริบสีน้ำตาล จมูกโด่งจัด รับกับริมฝีปากหยักได้รูปสีแดงสดราวผู้หญิง ทุกสิ่งที่กล่าวมาล้วนทำให้มาเฟียหนุ่มหล่อเหลาราวเทพเจ้าปั้นแต่ง จนทำให้เป็นที่หมายปองของสาวๆครึ่งค่อนประเทศ ยังไม่รวมถึงการเป็นทายาทคนที่สองของตระกูลคลาร์ก ตระกูลมาเฟียที่เก่าแก่ของอเมริกา ผู้เป็นเจ้าของโรงแรมและกาสิโนชื่อดังอย่าง แกรนด์ คลาร์ก
และการที่ผู้หญิงเข้ามาให้เขาเลือกมากมาย มันทำให้เขากลายเป็นคาสโนว่า เปลี่ยนคู่นอนเป็นว่าเล่น และไม่ยอมคบกับใครจริงจังเลยสักคน แม้ปีนี้เขาจะอายุย่างเข้า 27 ปีแล้วก็ตามที
มาเฟียหนุ่มยืนมองความยิ่งใหญ่และหรูหราของกาสิโนที่พ่อของตัวเองบุกเบิกสร้างขึ้นมาอย่างยากลำบากด้วยความภาคภูมิใจ และสองปีที่เขารับหน้าที่บริหารแทนพ่อ เขาสามารถทำให้มันเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก นำมาซึ่งเม็ดเงินมหาศาลจนต่อยอดความยิ่งใหญ่เพิ่มขึ้นไปอีก
“รถพร้อมแล้วครับนาย”
หลุยส์ และลูคัส บอดี้การ์ดคนสนิท โค้งตัวให้เจ้านายหนุ่ม ก่อนจะพากันขึ้นรถยนต์คันหรู เพื่อมุ่งหน้าไปยังร้านอาหารไทยชื่อดังของลาสเวกัส เพื่อทานข้าวกับนางแบบสาวชื่อดังของประเทศไทย ที่เป็นหนึ่งในคู่ควงของเขาในอดีต ซึ่งตอนนี้เธอเดินทางมาทำงานที่นี่ เลยหาโอกาสมากระชับความสัมพันธ์กับเขาอีกนิด เพราะหวังที่จะได้เป็นตัวจริงของเขาหากเธอปรนนิบัติเขาได้ถูกใจ
“แพท วิกกี้คิดถึงจังเลยค่ะ”
ร่างบางในชุดเดรสสั้นแสนเซ็กซี่สีแดง ตรงเข้าสวมกอดเขาทันทีที่เขาเข้ามาในร้านอาหารไทยแห่งนี้ เธอสื่อสารกับเขาด้วยภาษาอังกฤษที่เธอถนัด เพราะเธอเองก็เป็นลูกครึ่ง และที่เธอได้เจอและมีความสัมพันธ์กับเขา เพราะเธอเรียนปริญญาโทคลาสเดียวกับเขาที่อเมริกานั่นเอง
หนุ่มหล่อกอดเธอตอบ ก่อนที่ทั้งคู่จะผละออกจากกัน และเป็นสาวสวยคนนั้นที่เขย่งตัวขึ้น ใช้แขนตวัดรอบลำคอหนา แล้วจูบเขาอย่างเร่าร้อนโหยหาซึ่งเขาเองก็จูบตอบเธอเสียเร่าร้อนพอกัน โดยที่ไม่ได้สนใจสายตาอยากรู้อยากเห็นนับสิบคู่ที่มองตรงมาที่เขาและเธอเลย
“อืม พอก่อนครับวิกกี้ ผมมีเวลาไม่มากนะ ต้องไปประชุมต่อที่แคลิฟอร์เนียอีกสามวัน”
เขาผละออกมาจากอ้อมกอดของเธอ แล้วประคองเธอลงนั่งเคียงข้างกันโดยที่สาวสวยก็กอดกระชับแขนของเขาเอาไว้แน่น
“อะไรกันคะ อย่างนั้นคืนนี้เราก็ไม่ได้นอนด้วยกันสิ”
เมื่อไม่ได้เจอกันนาน ทำให้เธอต้องการที่จะกลับมาทวงบัลลังก์คนโปรดที่เคยเป็นของเธอคืน ความห่างไกลทำให้เธอต้องปล่อยให้เขามีอะไรกับผู้หญิงมากหน้าหลายตา และแน่นอนว่าข่าวการควงดารานางแบบชื่อดังของที่นี่ ทำให้เธออดจะหวาดกลัวไม่ได้ว่าเขาจะติดใจผู้หญิงคนอื่นมากกว่าเธอ
“คุณจะไปด้วยกันไหมล่ะ แต่ผมไม่มีเวลาว่างเลยนะ”
เขาทำทีชวนแบบแบ่งรับแบ่งสู้ เพราะรู้ดีว่าเธอไม่สามารถติดตามเขาไปได้ ด้วยเธอเองก็มาที่นี่เพื่อมาทำงานตามตารางที่อัดแน่นเหมือนกัน
“วิกกี้ติดงานค่ะ กระดิกตัวไปไหนไม่ได้เลย แพทไม่เห็นบอกวิกกี้เลยว่าจะไปทำงาน ไม่งั้นวิกกี้ไม่รับงานนี้หรอก มาอยู่ใกล้คุณแค่นี้แล้ว แต่ไม่มีโอกาสได้อยู่ด้วยกัน”
สาวสวยที่แต่งตัวเสียเปรี้ยวเข็ดฟันทำทีแง่งอน หวังให้เขาง้อเธอด้วยถ้อยคำหวานหูอย่างที่เธออยากได้ยิน
“ทำงานเสร็จก็อยู่เที่ยวก่อนสิครับ กลับมาจากแคลิฟอร์เนียผมว่างหลายวันเลยนะ”
สาวสวยตาโต ที่มีโอกาสงามๆ มารออยู่ตรงหน้า แต่ก็ต้องทำหน้าสลดลงเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเธอรับงานเอาไว้ต่อเนื่องเลย และงานนี้สำคัญระดับประเทศที่จะเบี้ยวไม่ได้
“วิกกี้ติดงานค่ะ สำคัญมากด้วยสิ ถ้าเบี้ยวนี่หมดอนาคตในวงการเลยค่ะ”
“งั้นเอาไว้คราวหน้าแล้วกันครับ อีกไม่นานผมอาจกลับไทย ค่อยไปเจอกันที่นั่นก็ได้”
“สัญญานะคะ”
นางแบบสาวจูบที่แก้มของเขาแรงๆ จนลิปสติกสีสวยติดแก้มเขาอย่างชัดเจน แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไร โบกมือเรียกพนักงานมารับออเดอร์อาหาร เพราะเขามีเวลามาโอ้เอ้กับแม่สาวเซ็กซี่ที่เขาเคยควบขี่มาหลายครั้งคนนี้อีกไม่มาก
“สวัสดีค่ะ รับอะไรดีคะ”
เสียงหวานใสดังขึ้นเบื้องหน้า ทำให้มาเฟียหนุ่มรูปหล่อเงยหน้าขึ้นจากเล่มเมนูเพื่อมองไปยังต้นเสียงว่าเจ้าของเสียงหวานๆ คนนี้ จะสวยหวานเหมือนกับเสียงหรือไม่ แล้วก็ต้องเบิกตากว้าง ใจแกร่งเต้นกระตุก แทบลืมหายใจ เมื่อผู้หญิงเอเชียที่อยู่ตรงหน้า ทั้งสวยงามและน่ารักสมกับเสียงหวานๆและสำเนียงภาษาอังกฤษเพราะๆของเธอจริงๆ
ดวงตาคมกริบกวาดมองร่างบางแบบชาวเอเชียตรงหน้า เธอมีดวงหน้ารูปไข่ หน้าผากโหนกนูน คิ้วเข้มที่ถูกกันแต่งเป็นทรง จมูกโด่งปลายเชิดรั้น ริมฝีปากกระจับอวบอิ่มจิ้มลิ้มสีแดงน่ารัก ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้ม มีแพขนตางอนหนาล้อมรอบ ยิ่งทำให้ดวงตาคู่นั้นแสนหวาน จนเขาตกอยู่ในภวังค์ จ้องมองร่างบางที่สมส่วนกลมกลึงตรงหน้าตาไม่กะพริบ
เขากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่เมื่อพิจารณาเรือนร่างบอบบางในชุดเสื้อยืดแขนยาวพอดีตัวกับกางเกงยีนรัดรูป เธอผอมเพรียว เอวคอดกิ่ว หน้าท้องแบนราบ สะโพกผาย ต้นขาเรียวงาม และเมื่อมองย้อนกลับขึ้นมาที่หน้าอกอวบอิ่มด้วยวัยสาวก็ต้องลอบกลืนน้ำลายอีกครั้ง เมื่อพบว่ามันใหญ่โตเกินตัวเหลือเกิน ป้ายชื่อป้ายน้อยบนหน้าอกของเธอ ทำเอาเขาตกอยู่ในภวังค์อีกครั้ง
“Pearl” เพิร์ล แปลว่า ไข่มุก ชื่อช่างน่ารักสมตัวจริงๆ เพราะผิวพรรณของเธอทั้งขาวสว่างเนียนละเอียด เหมือนผิวไข่มุกจริงๆด้วย
ในขณะที่สาวสวยนามว่าไข่มุก เมื่อสบตากับชายหนุ่มรูปงามตรงหน้า ก็ต้องเบิกตากว้างขึ้น ก็เขาหล่อเหลาราวเทพบุตรก็มิปาน ทั้งใบหน้า รูปร่าง ผิวพรรณ ทำให้เขาดูโดดเด่นสะดุดตากว่าใคร จนหัวใจดวงน้อยเต้นกระตุกคร่อมจังหวะไปหมด
“แพท ทานอะไรดีคะ”
เสียงภาษาอังกฤษที่ดังขึ้นจากสาวสวยข้างกายทำเอาเขาหลุดจากภวังค์ จึงกระแอมแก้เก้อหนึ่งครั้ง แล้วก้มหน้าก้มตาดูเมนูอาหารที่ภาพเหล่านั้นไม่ได้อยู่ในหัวเขาเลย
“เอ่อ ผมเอาต้มยำกุ้ง กับเนื้อผัดน้ำมันหอยครับ ที่เหลือคุณสั่งเลยนะวิกกี้”
เมื่อเขากับคู่ควงสาวสั่งอาหารเสร็จ พนักงานสาวสวยคนนั้นก็เดินกลับเข้าไปในครัว เขามองเธอจนลับสายตา เพราะสงสัยว่าเธอเป็นคนประเทศอะไรกันแน่ จะใช่คนไทยเหมือนกับเขาไหม แต่ความสงสัยนั้นก็ต้องพับเก็บไปเมื่อสาวสวยข้างกายคอยชวนเขาพูดคุยและออดอ้อนออเซาะเขาเสียจนเริ่มอึดอัด
“เป็นยังไงบ้างเพิร์ล มิสเตอร์คลาร์ก เจ้าของโรงแรมชื่อดัง แถมยังเป็นคาสโนว่าหนุ่มรูปงาม มองใกล้ๆ เขาหล่อไหม”
ทันทีที่เธอเดินกลับมาที่ครัวเพื่อรอรับอาหารไปเสิร์ฟ สาวๆพนักงานเสิร์ฟ ทั้งผมดำผมทอง ต่างร้องถามเธอด้วยความตื่นเต้นที่ได้ไปรับออเดอร์ของมาเฟียหนุ่มรูปหล่อ ที่เป็นที่หมายปองของสาวๆค่อนประเทศ
“อะไร เขาหรือ มิสเตอร์คลาร์ก”
พราวมุก หรือ เพิร์ล สาวน้อยวัย 21 ปี เอ่ยถามด้วยความงุนงง เธอไม่ได้ติดตามข่าวดาราเซเลบอะไร วันๆ นักศึกษาทุนอย่างเธอ ต้องตั้งใจเรียน และตั้งหน้าตั้งตาทำงานทุกชนิดหลังเลิกเรียน เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย และเป็นเงินเก็บ เพราะหลังจากที่เธอจะเรียนจบในอีกไม่กี่วันนี้ เธอจะได้กลับประเทศไทย เพื่อหางานทำและจะรับยายที่อยู่ต่างจังหวัด มาอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพทันที เพราะครอบครัวเธอเหลือเพียงแค่ยายคนเดียวเท่านั้น
“ใช่น่ะสิ อย่าบอกนะว่าเธอไม่รู้จักเขา”
“อืม ฉันไม่รู้จัก เคยได้ยินแต่ชื่อ ไม่รู้ว่าหน้าตาเป็นแบบนี้”
“ตายแล้วเพิร์ล เธอไปอยู่ที่ไหนมา เขาออกจะฮอต มีแต่คนอยากเป็นคู่เดตเขาทั้งนั้น”
คนสวยเบะปาก ถึงแม้เขาจะหล่อมากราวเทพบุตรก็จริง แต่คาสโนว่าแบบนั้น ให้ไปเป็นคู่ควงและนอนกับเขาตามประสาคู่เดตเขาทำกัน เธอไม่เอาดีกว่า แถมข้าวสารให้สิบกระสอบเลยด้วยเอ้า ยังไงก็ไม่ยอม
“แต่ไม่ใช่ฉัน เขาหล่อนะ หล่อมาก แต่เป็นคาสโนว่า มองผู้หญิงเป็นสินค้าแบบนั้น ฉันขอบาย”
“ย่ะ แม่ชี หล่อระดับเขา ได้นอนด้วยแค่คืนเดียวก็ถือว่าได้ขึ้นสวรรค์แล้วจ้ะ”
เธอส่ายหน้าระอากับสาวๆ ทั้งหลาย ที่มักกรี๊ดกร๊าดเวลาเจอลูกค้าหล่อๆ เซเลบคนดัง หรือดาราฮอลลีวูด ซึ่งถ้าไม่ดังจริง เธอจะแทบไม่รู้จักเลย
“ถ้าอย่างนั้น จะออกไปช่วยฉันเสิร์ฟไหม”
คนสวยเจ้าเล่ห์ ถ้าเพื่อนสาวคลั่งผู้ชายแถวนี้ออกไปช่วยเสิร์ฟ เธอก็จะเดินไปเจอเขาแค่รอบเดียวเท่านั้น และเธออยากให้เป็นแบบนั้น เพราะเวลาที่อยู่ต่อหน้าเขา สบตากับเขา เธอรู้สึกไม่เป็นตัวเองยังไงก็ไม่รู้
“ไปสิ ขอบคุณมากนะเพิร์ล”
เมื่อพราวมุกออกมาเสิร์ฟอาหารที่โต๊ะของเขา ก็ได้รับสายตาที่อ่านไม่ออกจากเขาอีกแล้ว และมันทำให้เธอรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั่วร่าง เธอไม่ชอบเลยที่เขามองเธอด้วยสายตาแปลกๆแบบนี้ จึงรีบวางอาหารลงที่โต๊ะของเขา และไม่โผล่หน้าออกมาให้เขาเห็นอีกเลย
เมื่อทานอาหารเสร็จ เขาก็ต้องตัดใจเดินทางไปประชุมงานที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ไม่ใช่ว่าต้องตัดใจจากสาวเซ็กซี่ข้างกายหรอกนะ แต่ต้องตัดใจจากสาวน้อยนามว่าเพิร์ลคนนั้นต่างหาก
จะให้คนของเขาไปสืบประวัติของเธอในตอนนี้ก็ยังทำไม่ได้ เมื่อเวลามันรัดตัวขนาดนี้ เลยทำได้แค่หมายมาดไว้ในใจ เมื่อกลับมาจากการสะสางธุระแล้ว เขาจะรีบมาสอยเธอไปนอนเคียงข้างให้เร็วที่สุดเลย
เธอ..เป็นของต้องห้ามสำหรับเขา..คุณหนูผู้เอาแต่ใจ ลูกสาวเจ้านายผู้มีพระคุณ เขา..เป็นของร้อนสำหรับเธอ อยู่ใกล้แล้วมันร้อนรุ่ม บอดี้การ์ดหน้าโหดที่ขัดใจเธอไปเสียทุกอย่าง และแม้ว่าบอดี้การ์ดอย่างเขา จะอยากขย้ำเธอให้จมเขี้ยวสักเท่าไร แต่ก็ทำได้เพียงอดทน..จนกว่าจะถึงวันที่เขา..คู่ควร
ยัยเด็กขาดสารอาหารคนนี้หรอ คือลูกสาวคนใหม่ของแม่.. เด็กอะไร ขวางหูขวางตาชะมัด เจอหน้ากันเอาแต่ก้มหน้าหลบตา แต่ทำไมยัยเด็กนี่ถึงสวยวันสวยคืน..ถ้าเขาจะแอบกินเด็กของแม่..จะผิดไหม
หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม
จ้าวเฉียน อายุ23ปี พนักงานกินเงินเดือนธรรมดา รายได้เดือนละแค่5,000หยวน ทุกคนในบริษัทต่างดูถูกดูแคลนเขา เพราะเจ้านี่ขี้เหนียวเหลือเกิน แม้แต่แฟนเก่ายังทนเขาไม่ไหว และหันมาแอบคบชู้กับผู้จัดการของเขาแทน
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
ข้าคือวิญญาณที่มาเกิดใหม่ในร่างของอันจิ่งเถียนที่ถูกคู่หมั้นถอนหมั้นอย่างไม่ไยดี ข้ารังเกียจบุรุษผู้นี้นักแต่เขากลับมีปราณมังกรที่ข้าต้องการ ดังนั้นข้าจึงต้องพยายามยั่วยวนให้เขาตกหลุมรักให้จงได้ เรื่องย่อ ข้าเป็นวิญญาณที่มาเกิดใหม่ในร่างของอันจิ่งเถียน สตรีที่น่าสงสารที่ถูกคู่หมั้นถอนหมั้น ข้ารังเกียจบุรุษผู้นั้นนักแต่เขากลับมีสิ่งที่ข้าต้องการนั่นก็คือปราณมังกรที่จะช่วยประคองวิญญาณของข้าให้อยู่รอดปลอดภัย ดังนั้นข้าจึงต้องทุ่มเทความสามารถหาทางใกล้ชิดเขาเพื่อเอาเขามาเป็นสามี แต่ปราณมังกรผู้นี้ร้ายกาจ แสดงออกอย่างชัดเจนว่ารังเกียจข้า และไม่ยินยอมแต่งกับข้าแต่โดยดี หึ หึ ไก่อ่อนเช่นเจ้าคิดจะต่อต้านเสน่ห์อันร้ายกาจของข้าหรือ หวงเจี่ยวหลงเจ้ารู้จัก เจ้ามารยาตัวแม่อย่างข้าน้อยไปเสียแล้ว! แนะนำตัวละคร อันจิ่งเถียน เดิมทีนางเป็นเพียงวิญญาณเร่ร่อนความจำเสื่อมที่ไม่สามารถไปผุดไปเกิดได้เพราะมีห่วงผูกเอาไว้ ซึ่งนางก็ไม่รู้ว่าคือสิ่งใด กระทั่งวันหนึ่งนางได้รับรางวัลจากท่านพญายมจึงได้เกิดใหม่ในร่างของอันจิ่งเถียน สตรีที่อาภัพตายก่อนอายุไขแต่นางเป็นคนดีจึงได้ลอยขึ้นสวรรค์ไปแล้ว อันจิ่งเถียนคนใหม่ต้องตามหาว่าตนเองแท้จริงคือผู้ใด โดยต้องอาศัยปราณมังกรจากบุรุษเพื่อล่อเลี้ยงวิญญาณให้คงสภาพอยู่ในร่างนี้ให้นานที่สุด กระทั่งนางได้พบกับหวงเจี่ยวหลงอดีตคู่หมั้นของอันจิ่งเถียนที่ขอถอนหมั้นไปแล้ว อันจิ่งเถียนคนใหม่จึงพยายามยั่วยวนและใช้เล่ห์กลเพื่อให้เขาตกหลุมรักและยอมแต่งงานกับนาง แม้ว่าเขาจะปากร้ายและไม่เต็มใจก็ตาม หวงเจี่ยวหลง อดีตคู่หมั้นของอันจิ่งเถียนที่ขอถอนหมั้นกับนางเพราะชอบสตรีอื่น และเขาก็ต้องมึนงงเมื่ออันจิ่งเถียนที่เขาพบผิดแผกไปจากที่เขาได้ยินมาอย่างสิ้นเชิง นางมิใช่สตรีอ่อนหวานและเป็นคุณหนูในห้องหอ ตรงกันข้ามนางกับมารยาสาไถยยังเรียนรู้อาคมมาอย่างผิด ๆ พยายามจับเขาและใช้วิธีการอันน่ารังเกียจสารพัดเพื่อให้เขาแต่งกับนาง เขาไม่ได้ชอบนางบัดนี้ยังรังเกียจ เขาจึงไม่ยอมแต่งกับนางผู้ชั่วช้าคนนั้นเด็ดขาด ไป๋ซี วิญญาณความจำเสื่อมที่ฝากตัวรับใช้อันจิ่งเถียนเพราะนางสามารถมองเห็นเขา อีกทั้งอันจิ่งเถียนยังสัญญาว่าจะช่วยเหลือเขาเพื่อตามหาว่าตัวเขาเป็นเช่นไร ไป๋ซีจึงซื่อสัตย์และภักดีกับอันจิ่งเถียนยิ่งนัก เหรินชุน คนที่อยู่ในใจของหวงเจี่ยวหลง และยังเคยมีใจให้หวงเจี่ยวหลงอยู่ช่วงหนึ่ง เป็นบุตรสาวของผู้นำสำนักผู้บำเพ็ญเพียรที่ร่ำรวยที่สุด เป็นสำนักที่หวงเจี่ยวหลงไปร่ำเรียนและบำเพ็ํญเพียรมาตั้งแต่เด็ก นางถูกเลี้ยงดูมาอย่างตามใจและฟุ้งเฟ้อ มองไม่เห็นหัวคนอื่น แต่จริง ๆ แล้วเป็นคนจิตใจดี อ่านก่อนค่ะ นิยายเรื่องนี้เป็นแนวตลกขบขันสุขนิยม พล็อตเรื่องไม่หวือหวา เบาสบาย เนื้อหาจะเป็นแนวแฟนตาซี โลกของภูติผี เทพเซียน และเวทย์มนต์คาถา ทั้งหมดไม่ได้เกิดขึ้นจริงนะคะ ขอให้อ่านอย่างสนุกสนานคลายเครียดจ้า
© 2018-now MeghaBook
บนสุด