เธอก็เป็นได้แค่ตัวแทนแฟนเก่าของเขาเท่านั้นแหละ
เธอก็เป็นได้แค่ตัวแทนแฟนเก่าของเขาเท่านั้นแหละ
มัดหมี่แต่งงานเข้ามาเป็นภรรยาของหมอวีร์ หมอศัลยกรรมแพทย์อันดับหนึ่งของเมืองไทยได้สามเดือนแล้ว แม้ว่าการแต่งงานครั้งนี้จะไม่ได้เกิดขึ้นมาด้วยความรักของคนทั้งสองคน ถึงแม้ว่าจะแต่งงานเพราะแม่ของหมอวีร์บังคับเขา แต่หมอวีร์ก็ยอมแต่งงานกับมัดหมี่ด้วยความเต็มใจและดูแลเธอเป็นอย่างดีหลังแต่งงาน ให้เกียรติและยกย่องเธอเป็นภรรยาออกหน้าออกตา
เสื้อผ้า การแต่งกาย การกินการนอน หมอวีร์ดูแลใส่ใจมัดหมี่ดีทุกอย่าง เลือกของทุกชิ้นให้มัดหมี่ด้วยตัวเองอย่างดี แม้ว่างานของตัวเองก็วุ่น มีทั้งงานที่โรงพยาบาลและคลินิกที่เขาเปิดเอง แต่หมอวีร์ก็หาเวลาว่างมาดูแลใส่ใจเธอเป็นอย่างดี ทำหน้าที่สามีที่ดีให้เธอทุกระเบียบนิ้ว ไม่มีขาดตกบกพร่อง แม้แต่เรื่องบนเตียงเขาก็มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเธอทุกวัน ตั้งแต่ที่แต่งงานมาคืนแรก จนตอนนี้หมอวีร์กับมัดหมี่แต่งงานมาได้สามเดือนแล้ว เขาก็ไม่เคยเว้นว่างเรื่องบนเตียงเลยสักครั้ง แม้แต่คืนนี้หมอวีร์ก็ปรนเปรอให้เธออย่างมีความสุข
“อ๊าส์ พี่วีร์” เธอนอนส่ายหน้าไปมาบนหมอน ผมของเธอก็ปลิวสยายออก ส่วนปากของมัดหมี่ก็ครวญครางไม่หยุดปาก เมื่อเขากระแทกกระทั้งเข้ามา จนเธอรู้สึกเสียวซ่านแล้วเสียวซ่านอีก จนแทบขาดใจ
สองมือของเธอกำจิกผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่ไปหมด ทว่าความเสียวซ่านในกายของเธอมันก็ไม่หายไปไหน มันกลับเสียวซ่านทวีคูณมากขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับว่ารอการระเบิดออกมา แต่กระนั้นมันก็ยังไม่ระเบิดออกมา มันยังเสียวซ่านจนเธอแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว ได้แต่แอ่นรับความใหญ่โตของเขาที่กระแทกเข้ามาในตัวของเธอไม่หยุดหย่อน ยิ่งในตัวของเธออยากจะระเบิดมามากเท่าไร ร่างกายของเธอก็แอ่นไปรับแรงกระแทกของเขามากเท่านั้น จนร่างกายมันสั่นเกร็งแบบควบคุมไม่อยู่และในที่สุดร่างกายของเธอก็เบาสบายอย่างมีความสุข เมื่อได้ระเบิดออกมาอย่างสุขสม
ความสุขสมผ่านไปไม่เกินห้าวินาทีเขาก็จับเธอพลิกตัว โดยมีเขาอยู่ด้านหลัง จับบั้นท้ายเร่งกระหนำบดขยี้ไปที่จุดรัญจวนใจ สาวเจ้าก็ร้องครวญครางออกมาไม่ขาดปาก ส่วนเขาก็สูดปากซีดซาดตามไปด้วย
เขาทั้งจับบั้นท้าย ทั้งจับเอวของเธอ กระแทกกระทั้งใส่เข้าไปไม่หยุด เธอเองก็เสียวซ่านไปกับสัมผัสที่เขากระหน่ำมอบมาให้ จนเธอเองก็สุขสมไปอีกครั้งและอีกครั้งแต่เขาก็ยังอึดทึกทน ไม่มีวี่แววว่าเขาจะสุขสมเสียที จนน้ำในตัวของมัดหมี่แทบจะหมดตัวแล้ว ร่างกายเกร็งสั่นแล้วสั่นอีก ทว่าสุดท้ายหมอวีร์ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะสุขสม จนเวลาผ่านไปเนิ่นนานและผ่านไปหลายท่าทาง เขาถึงได้ปล่อยสายธารแห่งรักออกมา หลังจากเสร็จบทรักเร่าร้อนกันทั้งสองก็นอนกอดกันอย่างมีความสุขแบบนี้กันทุกครั้ง
สามวันต่อมาญาตาวีเพื่อนสนิทของมัดหมี่มาจากต่างจังหวัด ยังหาที่พักใหม่ไม่ได้ จึงขอมาพักด้วยกับมัดหมี่สักสองสามคืน โดยระหว่างนี้จะหาที่อยู่ไปด้วย มัดหมี่ก็โทรขอเรื่องที่เพื่อนจะเข้ามาอยู่ด้วยสักสองสามวัน หมอวีร์ก็ใจดีอนุญาตและบอกว่าก่อนเข้าบ้านจะซื้อของอร่อย ๆ เข้าไปกินด้วยกัน
ญาตาวีเป็นเพื่อนสนิทสมัยตอนอยู่มัธยมด้วยกัน มาห่างกันก็ตอนไปเรียนต่อที่มหาลัย มัดหมี่เลือกมาเรียนที่กรุงเทพฯและแม่มาลีของเธอก็ฝากให้วิไลลักษณ์ แม่ของหมอวีร์ดูแลเธอตอนที่เข้ามาเรียนที่กรุงเทพฯ เนื่องจากแม่ทั้งสองคนเป็นเพื่อนกัน เคยเรียนด้านคณะบริหารเหมือนกัน แต่แม่มาลีได้สามีที่เชียงใหม่จึงไม่ได้ทำงานด้วยกันกับวิไลลักษณ์ที่กรุงเทพฯ
ตั้งแต่ได้ขึ้นมาอยู่ที่กรุงเทพฯและได้เจอหมอวีร์เป็นครั้งแรก ตั้งแต่นั้นมัดหมี่ก็ตกหลุมรักเขาแล้ว แม้จะรู้ว่าเขามีแฟนอยู่แล้ว แต่เรื่องของหัวใจมันก็ห้ามกันไม่ได้ มัดหมี่ก็ได้แต่แอบรักหมอวีร์อยู่เพียงข้างเดียว โดยที่เธอจะเอาเรื่องที่แอบรักเขาไปเล่าให้ญาตาวีฟังอยู่เสมอ
“หาบ้านยากไหมญาตาวี มัดหมี่บอกแล้วว่าเดี๋ยวออกไปรับที่สนามบิน” เธอเดินออกมาเปิดประตูรับเพื่อนสาว ที่โทรเข้ามาว่าถึงหน้าบ้านแล้ว
“ยากอะไร ก็แค่ส่งให้คนขับรถดูเขาก็พามาได้แล้วเนี่ย บ้านไม่ได้ลึกลับซับซ้อนเสียหน่อย”
“จ้า...คิดถึงจังเลยญาตาวี” มัดหมี่โผล่เข้าไปกอดญาตาวีเอาไว้แน่น ทั้งสองสาวก็ยืนกอดกันห้านาที ก่อนจะปล่อยกอดกันออกมา “ญาก็คิดถึงมัดหมี่เหมือนกัน อิจฉามัดหมี่สุด ๆ ไปเลยที่ได้แต่งงานกับคนที่ตนเองแอบรักมาตั้งสีปี สุดท้ายก็สมหวังแล้วนะ”
“อืม” มัดหมี่ยิ้มให้ญาตาวีทว่าสายตาของมัดหมี่ไม่ได้ยิ้มไปด้วย ความเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มัธยมต้นจวบจนมัธยมปลาย แม้ว่าตอนเรียนมหาลัยจะห่าง ๆ กันไปบ้าง แต่เวลามัดหมี่กลับไปบ้านก็ได้เจอกันทุกครั้ง ทำให้ญาตาวีรู้สึกว่ามัดหมี่กำลังมีเรื่องอะไรอยู่ภายในใจแน่ ๆ
“เป็นอะไรหรือเปล่ามัดหมี่” ญาตาวีถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นอะไร ไป ๆ เข้าบ้านกันเถอะ เดี๋ยวมัดหมี่ช่วยถือกระเป๋านะ มีแค่นี้เองเหรอ” มัดหมี่เข้าไปช่วยถือกระเป๋าสองใบของญาตาวี
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวญาถือเอง เกรงใจคุณนายสามีหมอนะ เดี๋ยวจะเหนื่อยเอาเปล่า ๆ”
“บ้า ไม่เหนื่อยอะไรขนาดนั้น มาช่วยถือ...ว่าแต่มีของมาแค่นี้เองเหรอ” มัดหมี่ลงไปแย่งกระเป๋าออกจากเพื่อนมาหนึ่งใบ ถามย้ำประโยคเดิมอีกครั้ง
“อืม เอามาแค่นี้ก่อน ขาดเหลืออะไรเดี๋ยวค่อยหาซื้อเอาข้างหน้า หรือไม่ก็ให้แม่ส่งตามมาให้อีกที”
หลังจากทั้งสองเดินคุยกันไปก็เข้ามาถึงในบ้านจนได้ บ้านของหมอวีร์เป็นบ้านสองชั้นทรงโมเดิร์น มีพื้นที่สวนกว้างขวาง หน้าบ้านสามารถจอดรถยนต์ได้สองคัน ส่วนในบ้านก็ตบแต่งได้อย่างเรียบหรูดูแพง ทุกอย่างจะเป็นสีโทนเดียวกัน สีขาว ดำ เทา และมีการเพิ่มมิติความอ่อนเข้มสลับกันไป ส่วนพวกเฟอร์นิเจอร์ก็ดูเรียบง่ายแต่มีลูกเล่นสะดุดตามากนัก
“โฮ มัดหมี่บ้านสวยมากเลย นี่มัดหมี่ตบแต่งเองหรือเปล่าเนี่ย” ที่ถามเพราะไม่คิดว่าเพื่อนจะชอบสไตล์แบบนี้เพราะทั้งบ้านคุมโทนไปด้วยขาวดำเทาทั้งหมด แม้ว่าจะมีสีอื่นมาประดับตบแต่งอยู่บ้างให้ดูมีสีสันขึ้นมาบ้างทว่าดูยังไงก็ไม่ใช่สไตล์ของเพื่อนรัก
“อ้อ ตั้งแต่เข้ามา บ้านก็เป็นแบบนี้แล้ว”
“อืม...พี่หมอวีร์ชอบโทนแบบนี้นี่เอง” ญาตาวีพยักหน้าอย่างเข้าใจ มองบ้านไปรอบ ๆ อีกครั้ง โดยไม่ได้สังเกตสีหน้าของเพื่อนว่ากำลังทำสายตาเศร้าอยู่
เขายอมแต่งงานกับเธอเพราะเงื่อนไขบางอย่าง ส่วนเธอแต่งงานกับเขาเพราะความรัก
【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”
"พี่เจี๋ยข้าอยากได้อีกจุมพิตเพิ่มพลังของท่าน" ฉีเย่ว์กล่าวงึมงำบนริมฝีปากของเขา นางเป็นฝ่ายดูดกลีบปากของหยางเจี๋ยเบา ๆ ซุกไซร้ซอกซอนแหย่ลิ้นเข้าไปในปากของเขา สัมผัสอ่อนนุ่มในคราแรกเริ่มโหมกระหน่ำร้อนแรงมากขึ้น ฉีเย่ว์ปลดสายรัดเอวของเขาออกสอดมือล้วงเข้าไปในกางเกงของหยางเจี๋ยพบเนื้อร้อนของเขาแข็งแกร่งขึ้นเต็มลำ นางขยำแรง ๆ พร้อมกับรูดมือเบา ๆ "อ๊า คนดีของพี่" หยางเจี๋ยมือหนึ่งประคองศีรษะของนางให้แนบชิดกับปากของเขาอีกมือล้วงเข้าไปในสาบเสื้อของนาง ฉีเย่ว์ไร้อาภรณ์กางกั้นด้านในนางใส่เพียงเสื้อคลุมนอนสีขาวเท่านั้น เขาลูบแผ่นหลังเปลือยเปล่าของนางไล้นิ้วลงไปจนถึงแก้มก้มแล้วขยำเบา หนัก สลับกัน "พี่เจี๋ยให้ข้ารักท่านเถิด" ฉีเย่ว์กัดปากข่มเสียงครางเอาไว้ นางดึงกางเกงของเขาออกโดยมีหยางเจี๋ยคอยช่วยเหลือ นางขึ้นคร่อมเขาอย่างกระหายไม่บัดนี้ตื่นอย่างเต็มตาในขณะที่ควงเอวควบขี่เขาเป็นจังหวะ หยางเจี๋ยขยับรับจังหวะที่องค์ราชินีของตนเองควบขี่ เขาเด้งสะโพกขึ้นรับนางมือดึงผ้ารัดเอวของนางออกแล้วทิ้งไว้ด้านข้าง แหวกสาบเสื้อของนางแล้วผวาศีรษะขึ้นมาอ้าปากดูดรับเนื้ออวบของนางที่กระเด้งเป็นจังหวะ ฉีเย่ว์ดันร่างของตนเองเข้าหาปากเขามือช่วยประคองศีรษะของหยางเจี๋ยให้แนบชิด หยางเจี๋ยดูดปทุมถันคู่งามอย่างกระหาย เสียงหอบหายใจของฉีเย่ว์สั่นสะท้านหัวใจแทบจะหลุดออกมาจากอก เขาคือหัวหน้าหน่วยจู่โจมที่ตายในสงคราม และได้ย้อนเวลากลับมาหลายร้อยปีกระทั่งฟื้นขึ้นมาในร่างเด็กน้อยนาม หยางเจี๋ย เด็กผู้อาภัยจากตระกูลใหญ่ ที่บิดาและมารดาถูกใส่ความว่าทุจริตจนต้องจบชีวิตลง หยางเจี๋ยเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกเลี้ยงดูให้เติบโตในจวนราชครู สหายของบิดา และที่นี่เขาได้พบกับเด็กน้อยผู้หนึ่งนาม ฉีเย่ว์ ธิดาของท่านราชครูฉีผู้สูงส่ง พวกเขาเติบโตมาด้วยกัน ความใกล้ชิดทำให้เขาหวั่นไหว หยางเจี๋ยจะทำเช่นไรเมื่อได้พบว่า ตัวเอง ตกหลุมรักคุณหนูผู้สูงส่งจนหมดหัวใจไปเสียแล้ว เขารักนาง ต้องการทำให้นางตกเป็นของเขา และทำลายขวากหนามทุกอย่างที่ขัดขวางให้หมดสิ้นไป เพื่อนางเพียงคนเดียว
“สวิงของต้นกับอ้อ” ถูกเขียนขึ้นในวันที่ 10 เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2555 โดยลงในเว็บไซต์ Sudswing ที่ปัจจุบันปิดตัวถาวรไปนานแล้ว แต่เชื่อว่ายังอยู่ในความทรงจำของใครหลาย ๆ คน ซึ่งหากนับเวลาแล้วก็ครบรอบ 13 ปี พอดี ณ วันที่กำลังเริ่มต้นลงฉบับพิเศษของนิยายเรื่องนี้ โดยมีการปรับปรุงเนื้อหาในแต่ละตอนให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น รวมถึงการรวมตอนพิเศษและตอนที่หายไปเอามาไว้ในเรื่องนี้ สำหรับไรต์แล้ว “สวิงของต้นกับอ้อ” คือลูกคนโตและลูกรักที่นำพาให้ไรต์ก้าวมาเป็นนักเขียนอย่างเต็มตัวในนิยายสายอีโรติกแนวสวิงกิ้ง NTR, Cuckold, 3P, นิยายแนวเมียสาวเหงารัก รวมถึงแนวที่สามีอยากเห็นภรรยาของตัวเองไปมีอะไรกับชายอื่น ยังไงขอฝากนิยาย “สวิงของต้นกับอ้อ” ฉบับครบรอบ 13 ปีนี้ เอาไว้ให้นักอ่านได้ติดตามกันด้วย ขอบคุณสำหรับทุกการสนับสนุนที่ทำให้ไรต์ยังคงเดินต่อไปได้บนถนนสายตัวอักษรนี้ครับ
เวินอี่ถงได้เห็นความรักอันลึกซึ้งของเจียงยวี่เหิง แต่ก็ได้สัมผัสกับการทรยศของเขาเช่นกัน เธอเผารูปแต่งงานของพวกเขาต่อหน้าเขา แต่เขากลับมัวแต่ง้อชู้ของเขา ทั้งๆ ที่เขาแค่มองดูแวบหนึ่งก็จะเห็น แต่เขากลับไม่สนใจเวินอี่ถงสุดจะทน ตบหน้าเขาอย่างแรง พร้อมอวยพรให้เขากับชู้ของรักกันยืนยาว แล้วเธอก็หันหลังสมัครเข้ากลุ่มวิจัยลับเฉพาะ ลบข้อมูลประจำตัวทั้งหมด รวมถึงความสัมพันธ์การแต่งงานกับเขาด้วย! ก่อนจากไป เธอยังมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้เขาอีกด้วยเมื่อถึงเวลาที่จะเข้ากลุ่ม เวินอี่ถงก็หายตัวไป บริษัทของเจียงยวี่เหิงประสบปัญหาล้มละลาย เขาจึงออกตามหาเธอด้วยทุกวิถีทาง แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นใบมรณบัตรที่ต้องสงสัยเขาสติแตก “ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่ยอมรับ!”เมื่อพบกันอีกครั้ง เจียงยวี่เหิงต้องตกใจที่พบว่าเวินอี่ถงเปลี่ยนตัวตนใหม่แล้ว โดยข้างกายมีผู้มีอำนาจที่เขาต้องยอมก้มหัวให้เขาอ้อนวอนอย่างสิ้นหวัง “ถงถง ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาเถอะ!”เวินอี่ถงเพียงยิ้มยักคิ้ว จับแขนของผู้มีอำนาจข้างๆ “น่าเสียดาย ตอนนี้ฉันอยู่ในระดับที่นายไม่อาจเอื้อมถึงแล้ว”
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
ชีวิตแต่งงานของฉันพังทลายลงในงานกาลาการกุศลที่ฉันเป็นคนจัดขึ้นมาเองกับมือ วินาทีหนึ่ง ฉันคือภรรยาผู้มีความสุขและกำลังตั้งครรภ์ของเก้า สุวรรณกิจ เจ้าพ่อวงการเทคโนโลยี วินาทีต่อมา หน้าจอโทรศัพท์ของนักข่าวคนหนึ่งก็ประกาศให้โลกรู้ว่าเขากับพราว นิธิวัฒน์ รักแรกในวัยเด็กของเขา กำลังจะมีลูกด้วยกัน ฉันมองข้ามห้องไป เห็นพวกเขาสองคนยืนอยู่ด้วยกัน มือของเก้าวางอยู่บนท้องของพราว นี่ไม่ใช่แค่การนอกใจ แต่มันคือการประกาศต่อสาธารณะที่ลบตัวตนของฉันและลูกในท้องของเราให้หายไป เพื่อปกป้องการเปิดขายหุ้น IPO มูลค่าหลายหมื่นล้านของบริษัท เก้า แม่ของเขา หรือแม้กระทั่งพ่อแม่บุญธรรมของฉันเอง ก็ร่วมมือกันหักหลังฉัน พวกเขาย้ายพราวเข้ามาอยู่ในบ้านของเรา บนเตียงของฉัน ปฏิบัติกับเธอราวกับเป็นราชินี ในขณะที่ฉันกลายเป็นนักโทษ พวกเขาตราหน้าว่าฉันเป็นคนสติไม่ดี เป็นภัยต่อภาพลักษณ์ของครอบครัว พวกเขาใส่ร้ายว่าฉันนอกใจ และกล่าวหาว่าลูกในท้องของฉันไม่ใช่ลูกของเขา คำสั่งสุดท้ายนั้นโหดร้ายเกินกว่าจะคิดฝัน...ให้ฉันไปทำแท้ง พวกเขาขังฉันไว้ในห้องและนัดวันผ่าตัดเรียบร้อย พร้อมขู่ว่าจะลากฉันไปที่นั่นถ้าฉันขัดขืน แต่พวกเขาทำพลาดไปอย่างหนึ่ง... พวกเขายอมคืนโทรศัพท์ให้ฉันเพื่อหวังจะปิดปากฉันไว้ ฉันแสร้งทำเป็นยอมแพ้ แล้วใช้โอกาสสุดท้ายโทรออกไปยังเบอร์ที่ฉันเก็บซ่อนไว้มานานหลายปี... เบอร์โทรศัพท์ของพ่อผู้ให้กำเนิดของฉัน อนันต์ ธีรวงศ์ ประมุขของตระกูลที่ทรงอิทธิพลมากพอที่จะเผาโลกทั้งใบของสามีฉันให้มอดไหม้เป็นจุณได้
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY