เธอก็เป็นได้แค่ตัวแทนแฟนเก่าของเขาเท่านั้นแหละ
เธอก็เป็นได้แค่ตัวแทนแฟนเก่าของเขาเท่านั้นแหละ
มัดหมี่แต่งงานเข้ามาเป็นภรรยาของหมอวีร์ หมอศัลยกรรมแพทย์อันดับหนึ่งของเมืองไทยได้สามเดือนแล้ว แม้ว่าการแต่งงานครั้งนี้จะไม่ได้เกิดขึ้นมาด้วยความรักของคนทั้งสองคน ถึงแม้ว่าจะแต่งงานเพราะแม่ของหมอวีร์บังคับเขา แต่หมอวีร์ก็ยอมแต่งงานกับมัดหมี่ด้วยความเต็มใจและดูแลเธอเป็นอย่างดีหลังแต่งงาน ให้เกียรติและยกย่องเธอเป็นภรรยาออกหน้าออกตา
เสื้อผ้า การแต่งกาย การกินการนอน หมอวีร์ดูแลใส่ใจมัดหมี่ดีทุกอย่าง เลือกของทุกชิ้นให้มัดหมี่ด้วยตัวเองอย่างดี แม้ว่างานของตัวเองก็วุ่น มีทั้งงานที่โรงพยาบาลและคลินิกที่เขาเปิดเอง แต่หมอวีร์ก็หาเวลาว่างมาดูแลใส่ใจเธอเป็นอย่างดี ทำหน้าที่สามีที่ดีให้เธอทุกระเบียบนิ้ว ไม่มีขาดตกบกพร่อง แม้แต่เรื่องบนเตียงเขาก็มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเธอทุกวัน ตั้งแต่ที่แต่งงานมาคืนแรก จนตอนนี้หมอวีร์กับมัดหมี่แต่งงานมาได้สามเดือนแล้ว เขาก็ไม่เคยเว้นว่างเรื่องบนเตียงเลยสักครั้ง แม้แต่คืนนี้หมอวีร์ก็ปรนเปรอให้เธออย่างมีความสุข
“อ๊าส์ พี่วีร์” เธอนอนส่ายหน้าไปมาบนหมอน ผมของเธอก็ปลิวสยายออก ส่วนปากของมัดหมี่ก็ครวญครางไม่หยุดปาก เมื่อเขากระแทกกระทั้งเข้ามา จนเธอรู้สึกเสียวซ่านแล้วเสียวซ่านอีก จนแทบขาดใจ
สองมือของเธอกำจิกผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่ไปหมด ทว่าความเสียวซ่านในกายของเธอมันก็ไม่หายไปไหน มันกลับเสียวซ่านทวีคูณมากขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับว่ารอการระเบิดออกมา แต่กระนั้นมันก็ยังไม่ระเบิดออกมา มันยังเสียวซ่านจนเธอแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว ได้แต่แอ่นรับความใหญ่โตของเขาที่กระแทกเข้ามาในตัวของเธอไม่หยุดหย่อน ยิ่งในตัวของเธออยากจะระเบิดมามากเท่าไร ร่างกายของเธอก็แอ่นไปรับแรงกระแทกของเขามากเท่านั้น จนร่างกายมันสั่นเกร็งแบบควบคุมไม่อยู่และในที่สุดร่างกายของเธอก็เบาสบายอย่างมีความสุข เมื่อได้ระเบิดออกมาอย่างสุขสม
ความสุขสมผ่านไปไม่เกินห้าวินาทีเขาก็จับเธอพลิกตัว โดยมีเขาอยู่ด้านหลัง จับบั้นท้ายเร่งกระหนำบดขยี้ไปที่จุดรัญจวนใจ สาวเจ้าก็ร้องครวญครางออกมาไม่ขาดปาก ส่วนเขาก็สูดปากซีดซาดตามไปด้วย
เขาทั้งจับบั้นท้าย ทั้งจับเอวของเธอ กระแทกกระทั้งใส่เข้าไปไม่หยุด เธอเองก็เสียวซ่านไปกับสัมผัสที่เขากระหน่ำมอบมาให้ จนเธอเองก็สุขสมไปอีกครั้งและอีกครั้งแต่เขาก็ยังอึดทึกทน ไม่มีวี่แววว่าเขาจะสุขสมเสียที จนน้ำในตัวของมัดหมี่แทบจะหมดตัวแล้ว ร่างกายเกร็งสั่นแล้วสั่นอีก ทว่าสุดท้ายหมอวีร์ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะสุขสม จนเวลาผ่านไปเนิ่นนานและผ่านไปหลายท่าทาง เขาถึงได้ปล่อยสายธารแห่งรักออกมา หลังจากเสร็จบทรักเร่าร้อนกันทั้งสองก็นอนกอดกันอย่างมีความสุขแบบนี้กันทุกครั้ง
สามวันต่อมาญาตาวีเพื่อนสนิทของมัดหมี่มาจากต่างจังหวัด ยังหาที่พักใหม่ไม่ได้ จึงขอมาพักด้วยกับมัดหมี่สักสองสามคืน โดยระหว่างนี้จะหาที่อยู่ไปด้วย มัดหมี่ก็โทรขอเรื่องที่เพื่อนจะเข้ามาอยู่ด้วยสักสองสามวัน หมอวีร์ก็ใจดีอนุญาตและบอกว่าก่อนเข้าบ้านจะซื้อของอร่อย ๆ เข้าไปกินด้วยกัน
ญาตาวีเป็นเพื่อนสนิทสมัยตอนอยู่มัธยมด้วยกัน มาห่างกันก็ตอนไปเรียนต่อที่มหาลัย มัดหมี่เลือกมาเรียนที่กรุงเทพฯและแม่มาลีของเธอก็ฝากให้วิไลลักษณ์ แม่ของหมอวีร์ดูแลเธอตอนที่เข้ามาเรียนที่กรุงเทพฯ เนื่องจากแม่ทั้งสองคนเป็นเพื่อนกัน เคยเรียนด้านคณะบริหารเหมือนกัน แต่แม่มาลีได้สามีที่เชียงใหม่จึงไม่ได้ทำงานด้วยกันกับวิไลลักษณ์ที่กรุงเทพฯ
ตั้งแต่ได้ขึ้นมาอยู่ที่กรุงเทพฯและได้เจอหมอวีร์เป็นครั้งแรก ตั้งแต่นั้นมัดหมี่ก็ตกหลุมรักเขาแล้ว แม้จะรู้ว่าเขามีแฟนอยู่แล้ว แต่เรื่องของหัวใจมันก็ห้ามกันไม่ได้ มัดหมี่ก็ได้แต่แอบรักหมอวีร์อยู่เพียงข้างเดียว โดยที่เธอจะเอาเรื่องที่แอบรักเขาไปเล่าให้ญาตาวีฟังอยู่เสมอ
“หาบ้านยากไหมญาตาวี มัดหมี่บอกแล้วว่าเดี๋ยวออกไปรับที่สนามบิน” เธอเดินออกมาเปิดประตูรับเพื่อนสาว ที่โทรเข้ามาว่าถึงหน้าบ้านแล้ว
“ยากอะไร ก็แค่ส่งให้คนขับรถดูเขาก็พามาได้แล้วเนี่ย บ้านไม่ได้ลึกลับซับซ้อนเสียหน่อย”
“จ้า...คิดถึงจังเลยญาตาวี” มัดหมี่โผล่เข้าไปกอดญาตาวีเอาไว้แน่น ทั้งสองสาวก็ยืนกอดกันห้านาที ก่อนจะปล่อยกอดกันออกมา “ญาก็คิดถึงมัดหมี่เหมือนกัน อิจฉามัดหมี่สุด ๆ ไปเลยที่ได้แต่งงานกับคนที่ตนเองแอบรักมาตั้งสีปี สุดท้ายก็สมหวังแล้วนะ”
“อืม” มัดหมี่ยิ้มให้ญาตาวีทว่าสายตาของมัดหมี่ไม่ได้ยิ้มไปด้วย ความเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มัธยมต้นจวบจนมัธยมปลาย แม้ว่าตอนเรียนมหาลัยจะห่าง ๆ กันไปบ้าง แต่เวลามัดหมี่กลับไปบ้านก็ได้เจอกันทุกครั้ง ทำให้ญาตาวีรู้สึกว่ามัดหมี่กำลังมีเรื่องอะไรอยู่ภายในใจแน่ ๆ
“เป็นอะไรหรือเปล่ามัดหมี่” ญาตาวีถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นอะไร ไป ๆ เข้าบ้านกันเถอะ เดี๋ยวมัดหมี่ช่วยถือกระเป๋านะ มีแค่นี้เองเหรอ” มัดหมี่เข้าไปช่วยถือกระเป๋าสองใบของญาตาวี
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวญาถือเอง เกรงใจคุณนายสามีหมอนะ เดี๋ยวจะเหนื่อยเอาเปล่า ๆ”
“บ้า ไม่เหนื่อยอะไรขนาดนั้น มาช่วยถือ...ว่าแต่มีของมาแค่นี้เองเหรอ” มัดหมี่ลงไปแย่งกระเป๋าออกจากเพื่อนมาหนึ่งใบ ถามย้ำประโยคเดิมอีกครั้ง
“อืม เอามาแค่นี้ก่อน ขาดเหลืออะไรเดี๋ยวค่อยหาซื้อเอาข้างหน้า หรือไม่ก็ให้แม่ส่งตามมาให้อีกที”
หลังจากทั้งสองเดินคุยกันไปก็เข้ามาถึงในบ้านจนได้ บ้านของหมอวีร์เป็นบ้านสองชั้นทรงโมเดิร์น มีพื้นที่สวนกว้างขวาง หน้าบ้านสามารถจอดรถยนต์ได้สองคัน ส่วนในบ้านก็ตบแต่งได้อย่างเรียบหรูดูแพง ทุกอย่างจะเป็นสีโทนเดียวกัน สีขาว ดำ เทา และมีการเพิ่มมิติความอ่อนเข้มสลับกันไป ส่วนพวกเฟอร์นิเจอร์ก็ดูเรียบง่ายแต่มีลูกเล่นสะดุดตามากนัก
“โฮ มัดหมี่บ้านสวยมากเลย นี่มัดหมี่ตบแต่งเองหรือเปล่าเนี่ย” ที่ถามเพราะไม่คิดว่าเพื่อนจะชอบสไตล์แบบนี้เพราะทั้งบ้านคุมโทนไปด้วยขาวดำเทาทั้งหมด แม้ว่าจะมีสีอื่นมาประดับตบแต่งอยู่บ้างให้ดูมีสีสันขึ้นมาบ้างทว่าดูยังไงก็ไม่ใช่สไตล์ของเพื่อนรัก
“อ้อ ตั้งแต่เข้ามา บ้านก็เป็นแบบนี้แล้ว”
“อืม...พี่หมอวีร์ชอบโทนแบบนี้นี่เอง” ญาตาวีพยักหน้าอย่างเข้าใจ มองบ้านไปรอบ ๆ อีกครั้ง โดยไม่ได้สังเกตสีหน้าของเพื่อนว่ากำลังทำสายตาเศร้าอยู่
เขายอมแต่งงานกับเธอเพราะเงื่อนไขบางอย่าง ส่วนเธอแต่งงานกับเขาเพราะความรัก
นางขอสมรสพระราชทานเพราะรัก แต่คืนแต่งงาน เขารังเกียจนางและทิ้งไป ห้าปีผ่านไปพระชายาที่ถูกลืม กลับเป็นสตรีที่เขาต้องตามจีบ และศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดของเขาก็คือลูกชายของตนเอง
"ท่านครับ คนยังไม่ตาย ต้องการชนอีกทีไหมครับ" "จัดการเลย" เสิ่นอันหยูซึ่งกำลังจมอยู่ในกองเลือด ได้ยินคำสั่งของสามีกับหู เธอกับเขาไม่เคยเป็นสามีภรรยาที่แท้จริง และด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่เคยมีลูก อย่างไรก็ตาม การแต่งงานที่ไม่มีบุตรทำให้แม่สามีกล่าวหาว่าเสิ่นอันหยูมีบุตรยาก ตอนนี้ สามีของเธอไม่เพียงนอกใจเธอเท่านั้น แต่เขาต้องการให้เธอตายด้วย! เขาก็หย่ากับเธอได้ แต่นี่เขาพยายามจะฆ่าเธอ... ในวันที่หย่ากัน เสิ่นอันหยูที่เคยรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิดนั้นก็แต่งงานกับชายอีกคนหนึ่งทันที สามีคนที่สองของเธอเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดในเมือง เธอสาบานว่าจะใช้อำนาจของเขาให้เป็นประโยชน์และแก้แค้นคนที่เคยทำร้ายเธอ! เดิมทีการแต่งงานของพวกเขาในครั้งนี้ควรเป็นเพียงข้อตกลงที่หาประโยชน์สำหรับทั้งสองฝ่ายเท่านั้น แต่สุดท้าย เธอกลับถูกชายที่ดื้อรั้นคนนี้ตรึงไว้กับกำแพง "เอาจริงเลยได้ไหม ผมอยากอยู่กับคุณตลอดไป"
เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"
หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”
เจียนเยว่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากจนกระทั่งพบอาของเธอ แต่เธอก็ตกหลุมรักอาของเธออย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ น่าเสียดายที่อาคนนั้นกำลังจะแต่งงาน เลยจัดให้เธอไปต่างประเทศ เพื่อแก้แค้น เธอจึงเรียนวิชาบุรุษวิทยาและหลังจากกลับมาอีกครั้ง เธอก็กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านบุรุษวิทยาที่มีชื่อเสียงที่สุด เชี่ยวชาญการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ การหลั่งเร็ว ภาวะมีบุตรยาก... คราวนี้คุณอาดันเธอไว้ในห้องนอน "ถ้าอยากดูร่างกายของผู้ชายมาก ก็ช่วยตรวจให้ผมหน่อยสิ" เธอยิ้มอย่างชั่วร้าย และใช้มือปลดเข็มขัดของเขา "มิน่าเล่าขนาดอามีคู่หมั้นแล้ว แต่กลับไม่แต่งงานสักที ที่แท้มันใช้งานไม่ได้สินะ" "จะได้หรือไม่ได้ คุณก็ลองดูเองสิ" "ไม่เลย อาไปหาคนอื่นช่วยดูให้เถอะ"
วิโมกข์คือชายหนุ่มวัยยี่สิบเจ็ดที่ผิดหวังจากความรักอย่างรุนแรง เขากลายเป็นคนอ่อนแอไร้หลัก หมกมุ่นอยู่กับสุรานานนับเดือน แต่หลังจากนั้นก็ได้สติเพราะคำพูดแทงใจของเด็กสาววัยสิบเจ็ดปีคนหนึ่ง เจ็ดปีต่อมาเขาได้กลายเป็นนายหัวผู้ทรงอิทธิพลในธุรกิจค้าหอยเป๋าฮื้อ และต้องเผชิญหน้ากับอดีตคนรักที่เข้ามาอยู่ในบ้านของเขาอีกครั้ง... ชาร์มมิ่งในวัยยี่สิบสี่ปีเดินทางจากนิวยอร์กสู่สงขลาอีกครั้งหลังจากเจ็ดปีผ่านไป เพราะถูกเพื่อนรักขอร้องให้มาแสดงละครขัดขวางอดีตคนรักของพี่ชาย เธอไม่อยากทำแบบนี้เลยเพราะพอใจที่จะแอบรักเขาไปแบบนี้มากกว่า แต่จะทำไงได้ล่ะ.. ในเมื่อเธอก็ถูกผู้เป็นย่าคอยจับคู่อยู่เรื่อยไป จึงตัดสินใจเลือกในสิ่งที่หัวใจปรารถนา... การแสดงที่มาจากส่วนลึกของจิตใจจริงๆ จึงเริ่มต้นขึ้นนับตั้งแต่วินาทีที่เธอเจอหน้าเขา
© 2018-now MeghaBook
บนสุด