เขายอมแต่งงานกับเธอเพราะเงื่อนไขบางอย่าง ส่วนเธอแต่งงานกับเขาเพราะความรัก
เขายอมแต่งงานกับเธอเพราะเงื่อนไขบางอย่าง ส่วนเธอแต่งงานกับเขาเพราะความรัก
“พี่คิรินอย่าคะ เจ้าปวดหัวมากเลย”จันทร์เจ้าเอ่ยบอกเสียงอ่อนล้ากับผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี ทว่าคิรินกับไม่ฟังคำของจันทร์เจ้า เขาเอาแต่ไซ้ซอกคอขาวของเธออย่างเอาแต่ใจ ทั้งที่เธอนอนหลับไปแล้ว แต่ผู้เป็นสามีก็มาปลุกเธอกลางดึก หลังจากที่เขาพึ่งจะกลับมาจากด้านนอก
กลิ่นกายของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์ ยิ่งทำให้เธอรู้สึกวิงเวียนหัวเป็นอย่างมาก พยายามผลักไสชายหนุ่มให้ออกไป ทว่าแรงน้อยนิดของเธอก็ไม่สามารถสู้แรงผู้ชายอย่างเขาได้
“พี่คิริน เจ้าปวดหัวจริง ๆ นะคะ”
“อยากเป็นเมียพี่ ก็อย่ามาทำตัวสำออยแบบนี้”เขาซุกไซ้ลงซอกคอของเธออย่างหนัก พร้อมกับมือของเขาที่ลูบไล้ไปตามเนื้อตัวของเธอ
เธอพยายามผลักเขาออก พยายามหลบหลีกใบหน้าของเขาที่เอาแต่ซุกไซ้ซอกคอขาวของเธอ ทว่าเหมือนเธอยิ่งปฏิเสธเขา ชายหนุ่มก็เริ่มทำรุนแรงกับเธอมากขึ้น คิรินจับมือทั้งสองข้างของเธอบีบตึงเอาไว้กับที่นอน พร้อมกับกัดซอกคอลามไปยังบ่าของเธอสุดแรง
“อื้อ พี่คิรินเจ้าเจ็บ” จันทร์เจ้าถึงกับน้ำตาไหลออกมาด้วยความเจ็บ ทว่าเขาก็ไม่ได้ส่งสารแม้แต่น้อย
“ถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็ยอมให้พี่เอาเจ้าดี ๆ อย่ามาทำเป็นเล่นตัวไปหน่อยเลย” เขาลุกขึ้นมาตอบเธอ ทำเสียงไม่สบอารมณ์ใส่ พร้อมกับเขาที่กำลังปลดเม็ดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกไปที่ล่ะเม็ด จวบจนถอดกางเกงของเขาทุกชิ้นด้วย เผยให้เห็นความใหญ่โตที่ผงาดมาต่อหน้าหญิงสาว
“เจ้าบอกว่าเจ้าปวดหัว เจ้าไม่ได้เล่นตัวเสียหน่อย” เธอลุกขึ้นมาพยายามกระเถิบถอยหนีเขา จนไปชนกับหัวเตียง
“หึ ไม่ได้เล่นตัวก็ยอมให้เอาดี ๆ สิวะ” หญิงสาวร้องออกมาด้วยความตกใจ เมื่อเขาลากขาของเธอให้มานอนอ้าขาอยู่ใต้อาณัติของเขา
ชายหนุ่มเปิดกระโปรงชุดนอนสีขาวลายลูกไม้ของเธอให้เปิดออก พร้อมกับพยายามจะดึงแพทตี๋ตัวจิ๋วภายใน ทว่าหญิงสาวขัดขืนไม่ยอมให้เขาถอดเสื้อผ้าของเธอได้ คิรินจึงเกิดอาการโมโหหนักมากขึ้น จึงดึงแพทตี๋ตัวจิ๋วออกอย่างไม่ไยดี จนบาดผิวเป็นรอยแดง พร้อมกับที่เขากำลังจับความใหญ่โตมาจ่อที่ปากถ้ำดอกไม้ แต่ยังไม่ได้ทันใส่เข้ามา หญิงสาวก็พยายามดันตัวเขาเอาไว้ก่อน
“ทุกครั้งที่พี่ต้องการ เจ้าก็ยอมพี่คิรินทุกครั้ง มีครั้งไหนบ้างที่จะปฏิเสธ แต่ครั้งนี้เจ้าปวดหัวมากเลยค่ะ ปวดตั้งแต่เย็นแล้ว”
“แล้วยังไง” เขาตวาดใส่
“เจ้าไม่มีอารมณ์ด้วย!!” เธอตวาดเขากลับบ้าง
“ใครสนกันล่ะ!” เขามองใบหน้าของผู้หญิงที่เขาเกลียดที่สุดด้วยความไม่พอใจ พร้อมกับดันความเป็นชายของเขาใส่เข้าไปสุดลึก
“อื้อ พี่คิริน เจ้าเจ็บนะคะ” เธอร้องโวยวาย พร้อมกับพยายามดิ้นหนีเขา ทว่ามันไม่เป็นผล เขาจับขาทั้งสองข้างของเธอล็อกเอาไว้ พร้อมกับอัดกระแทกเข้าไปสุดแรง แม้จะรู้ว่าภายในของเธอมันฝืดมากเพียงใด
“อ๊าส์ อ๊าส์ พี่คิรินเจ้าเจ็บ” แรงกระแทกของเขาไม่เพียงแต่ถ้ำดอกไม้ของเธอที่เจ็บทว่ามันกระเทือนมาถึงศีรษะของเธอ จนมันแทบจะระเบิดออกมา
“เจ็บนะสิดี” เขาทำหน้าซะใจพร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดนอนออกจากตัวของเธอให้พ้นทางโดยที่เธอไม่สามารถที่จะขัดขืนเขาได้แม้แต่น้อย แม้กระทั่งบราเซียของเธอก็โดนเขากระชากออกหมด
ชายหนุ่มก้มลงไปครอบครองยอดปทุมถันเอาไว้เต็มปากอย่างแรง ทั้งดูดดึง ทั้งกัด โดยที่ไม่คิดจะทะนุถนอมเธอเลยสักนิด จนอกอวบอิ่มของเธอมีแต่รอยแดงเป็นจ้ำ ๆ ด้วยฝีมือของเขาทั้งนั้น แม้ว่าหญิงสาวจะร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ทว่าเขาก็ไม่แม้แต่จะปรานีกับเธอเลยสักนิด ทว่าเธอยิ่งร้องออกมาด้วยความเจ็บเขาก็ยิ่งซะใจมากขึ้น โยกใส่เธอเต็มที่ พร้อมกับเขาที่กัดตามร่างกายของเธอเต็มไปหมด
“อ๊าส์ พี่คิรินเบากับเจ้าหน่อย” ไม่รู้ว่าเธอขอร้องเขาครั้งที่เท่าไรแล้ว ทว่ามันก็ไร้ความปรานีจากเขาเหมือนเดิม “พี่คิรินไปอารมณ์ไม่ดีอะไรมากันคะ ถึงมาลงกับเจ้าแบบนี้”
“เลิกกับพี่สิ พี่ถึงจะอารมณ์ดี” เขาบอกเธอ ทั้งที่ก็ยังกระแทกกระทั้งเข้ามาสุดแรงตามเดิม
“พี่คิริน”
“ทำไม่ได้ก็อย่ามาพูดมาก” เขาว่าพร้อมกับก้มลงไปจูบปากปิดเสียงของเธอ คิรินมีแต่มอบจูบที่รุนแรงมาให้ ไม่มีแม้แต่จะจูบแสนหวาน ในปากของเธอเต็มไปด้วยกลิ่นคาวคละคลุ้งของเลือดเต็มไปหมด จนเธอที่ปวดหัวมากอยู่แล้ว ตอนนี้รู้สึกเวียนหัวเพิ่มเข้าไปอีก
แม้ว่าเธอจะร้องไห้เจียนตายแค่ไหน ทว่าเขาก็ไม่คิดจะสงสาร ทำราวกับว่าเธอเป็นเพียงหุ่นยนต์ที่ไม่มีหัวใจ ที่เขาจะทำอะไรกับร่างกายของเธอก็ได้ แม้ว่าเธอจะทำดีแค่ไหน ปรนนิบัติเขาดีมากเพียงใด ทว่าเขาก็ไม่เคยเห็นความดีของเธอเลยสักครั้ง ทุกครั้งมีแต่จะทำร้ายจิตใจของเธอเสมอ
“อื้อ ฟาฟา ดีมากเลย มันดีมากเลย แน่นฉิบ” เขาสบถคำต่าง ๆ นานาออกมา ทว่าชื่อผู้หญิงที่เขาเอ่ยมากเล่นทำหัวใจของเธอที่เจ็บมากอยู่แล้วเจ็บมากกว่าเดิมไปอีก
แม้แต่เสียงที่จะเรียกเขาออกมามันแทบไม่มีเลย มันเจ็บจนจุกอก ทั้งที่เธอก็พอรู้ว่าเขามีผู้หญิงอีกคน แต่เธอก็พยายามหลับหูหลับตาไม่รับรู้ ทว่าครั้งนี้มันมากไป เขาเห็นเพียงเธอเป็นตัวแทนของผู้หญิงอีกคน ถึงกระทั่งเรียกชื่อผู้หญิงคนนั้นออกมา
“อ๊าส์ ฟาฟา พี่จะแตกแล้ว อ๊าส์ ฟาฟาพี่รักฟาฟา อ๊ากกกก” เขาบอกพร้อมกับหลับตาซอยเข้าออกละรั่ว จนในที่สุดชายหนุ่มก็ปล่อยน้ำกามาเข้าไปในตัวของเธอมากมาย
ตอนนี้ไม่ใช่แค่ร่างกายของเธอที่เจ็บปวด หัวใจของเธอมันก็เจ็บปวดมากไม่แพ้กัน ทั้งที่รู้ว่าเขาไม่รัก แต่ก็พยายามจะทนเพื่อรักษาคู่ชีวิตให้ถึงที่สุด แม้ว่าเขาจะมอบความเจ็บปวดมาไม่รู้กี่ครั้ง ถึงแม้ว่าทุกครั้งเขาจะมอบน้ำตามาให้เธอ ทว่าจันทร์เจ้าก็พร้อมที่จะรับมันไว้ขอเพียงได้กอดเขาไว้แน่น ๆ ก็พอ
ค่ำคืนนี้จันทร์เจ้าก็ได้แต่เป็นตัวแทนของผู้หญิงอีกคน ยอมให้เขาทำรักได้แต่ตามแก่ใจ แม้ว่าจะทำรุนแรงมากเพียงไหน เธอก็ทำได้เพียงกอดเขาแน่น ๆ อย่างเช่นเคย จวบจนเขาได้ปลดปล่อยอย่างพอใจ เธอถึงเป็นอิสระจากเขาได้ ทว่าพอเขาทำรักเสร็จก็ไม่คิดจะดูแลทะนุถนอม ใส่เสื้อผ้าให้เลยสักนิด เขากลับล้มลงไปนอนอย่างสบายใจ ทิ้งให้คนที่ปวดหัวเจียนตายนอนหนาวสั่นอยู่ใต้ผ้าห่ม เรี่ยวแรงจะลุกขึ้นไปใส่เสื้อผ้าหายามากิน เธอยังไม่มี และจะหวังพึ่งพาเขารายนั้นก็หลับสนิทเป็นตายไปแล้ว
จันทร์เจ้าได้แต่นอนหนาวสั่นอยู่ใต้ผ้านวม จนกระทั่งหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า
【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”
เวินอี่ถงได้เห็นความรักอันลึกซึ้งของเจียงยวี่เหิง แต่ก็ได้สัมผัสกับการทรยศของเขาเช่นกัน เธอเผารูปแต่งงานของพวกเขาต่อหน้าเขา แต่เขากลับมัวแต่ง้อชู้ของเขา ทั้งๆ ที่เขาแค่มองดูแวบหนึ่งก็จะเห็น แต่เขากลับไม่สนใจเวินอี่ถงสุดจะทน ตบหน้าเขาอย่างแรง พร้อมอวยพรให้เขากับชู้ของรักกันยืนยาว แล้วเธอก็หันหลังสมัครเข้ากลุ่มวิจัยลับเฉพาะ ลบข้อมูลประจำตัวทั้งหมด รวมถึงความสัมพันธ์การแต่งงานกับเขาด้วย! ก่อนจากไป เธอยังมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้เขาอีกด้วยเมื่อถึงเวลาที่จะเข้ากลุ่ม เวินอี่ถงก็หายตัวไป บริษัทของเจียงยวี่เหิงประสบปัญหาล้มละลาย เขาจึงออกตามหาเธอด้วยทุกวิถีทาง แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นใบมรณบัตรที่ต้องสงสัยเขาสติแตก “ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่ยอมรับ!”เมื่อพบกันอีกครั้ง เจียงยวี่เหิงต้องตกใจที่พบว่าเวินอี่ถงเปลี่ยนตัวตนใหม่แล้ว โดยข้างกายมีผู้มีอำนาจที่เขาต้องยอมก้มหัวให้เขาอ้อนวอนอย่างสิ้นหวัง “ถงถง ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาเถอะ!”เวินอี่ถงเพียงยิ้มยักคิ้ว จับแขนของผู้มีอำนาจข้างๆ “น่าเสียดาย ตอนนี้ฉันอยู่ในระดับที่นายไม่อาจเอื้อมถึงแล้ว”
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
ซ่งจิ่งถังรักฮั่วอวิ๋นเซินอย่างลึกซึ้งนานถึงสิบห้าปี แต่ในวันที่เธอคลอดลูกกลับตกอยู่ในอาการโคม่า ขณะที่ฮั่วอวิ๋นเซินกระซิบข้างหูเธออย่างอ่อนโยนว่า "ถังถัง อย่าฟื้นขึ้นมาอีกเลย สำหรับฉัน เธอไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว" ซ่งจิ่งถังเคยคิดว่าสามีของเธอเป็นคนอ่อนโยนและรักใคร่ตัวเอง แต่จริงๆ แล้วเขามีแต่ความเกลียดชังและใช้ประโยชน์จากเธอเท่านั้น และลูกๆ ที่เธอเสี่ยงชีวิตให้กำเนิด กลับเรียกหญิงสาวคนอื่นว่า 'แม่' ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนต่อหน้าที่เตียงคนไข้ของเธอ เมื่อซ่งจิ่งถังฟื้นขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอทำคือการตัดสินใจหย่าขาดอย่างเด็ดขาด! แต่หลังจากหย่าแล้ว ฮั่วอวิ๋นเซินจึงเริ่มตระหนักว่า ชีวิตที่ผ่านมาของเขาเต็มไปด้วยเงาของซ่งจิ่งถัง หญิงคนนี้กลายเป็นความเคยชินของเขา เมื่อพบกันอีกครั้ง ซ่งจิ่งถังปรากฏตัวในที่ประชุมในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เธอเปล่งประกายจนทุกคนต้องหันมามอง หญิงคนนี้ที่เคยมีแต่เขาในใจ บัดนี้กลับไม่แม้แต่จะมองเขาอีก ฮั่วอวิ๋นเซินคิดว่าเธอแค่ยังโกรธอยู่ ถ้าเขาเอ่ยปากพูดนิดหน่อย ซ่งจิ่งถังจะต้องกลับไปหาเขาแน่นอน เพราะเธอรักเขาหมดหัวใจ แต่ต่อมา ในงานหมั้นของผู้นำคนใหม่ของตระกูลเพ่ย เขาเห็นซ่งจิ่งถังสวมชุดแต่งงานหรูหรา ยิ้มอย่างเปี่ยมสุขและกอดแน่นเพ่ยตู้พร้อมสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ ฮั่วอวิ๋นเซินอิจฉาจนแทบคลั่ง เขาตาแดงก่ำและบีบแก้วจนแตก เลือดไหลไม่หยุด...
"พี่เจี๋ยข้าอยากได้อีกจุมพิตเพิ่มพลังของท่าน" ฉีเย่ว์กล่าวงึมงำบนริมฝีปากของเขา นางเป็นฝ่ายดูดกลีบปากของหยางเจี๋ยเบา ๆ ซุกไซร้ซอกซอนแหย่ลิ้นเข้าไปในปากของเขา สัมผัสอ่อนนุ่มในคราแรกเริ่มโหมกระหน่ำร้อนแรงมากขึ้น ฉีเย่ว์ปลดสายรัดเอวของเขาออกสอดมือล้วงเข้าไปในกางเกงของหยางเจี๋ยพบเนื้อร้อนของเขาแข็งแกร่งขึ้นเต็มลำ นางขยำแรง ๆ พร้อมกับรูดมือเบา ๆ "อ๊า คนดีของพี่" หยางเจี๋ยมือหนึ่งประคองศีรษะของนางให้แนบชิดกับปากของเขาอีกมือล้วงเข้าไปในสาบเสื้อของนาง ฉีเย่ว์ไร้อาภรณ์กางกั้นด้านในนางใส่เพียงเสื้อคลุมนอนสีขาวเท่านั้น เขาลูบแผ่นหลังเปลือยเปล่าของนางไล้นิ้วลงไปจนถึงแก้มก้มแล้วขยำเบา หนัก สลับกัน "พี่เจี๋ยให้ข้ารักท่านเถิด" ฉีเย่ว์กัดปากข่มเสียงครางเอาไว้ นางดึงกางเกงของเขาออกโดยมีหยางเจี๋ยคอยช่วยเหลือ นางขึ้นคร่อมเขาอย่างกระหายไม่บัดนี้ตื่นอย่างเต็มตาในขณะที่ควงเอวควบขี่เขาเป็นจังหวะ หยางเจี๋ยขยับรับจังหวะที่องค์ราชินีของตนเองควบขี่ เขาเด้งสะโพกขึ้นรับนางมือดึงผ้ารัดเอวของนางออกแล้วทิ้งไว้ด้านข้าง แหวกสาบเสื้อของนางแล้วผวาศีรษะขึ้นมาอ้าปากดูดรับเนื้ออวบของนางที่กระเด้งเป็นจังหวะ ฉีเย่ว์ดันร่างของตนเองเข้าหาปากเขามือช่วยประคองศีรษะของหยางเจี๋ยให้แนบชิด หยางเจี๋ยดูดปทุมถันคู่งามอย่างกระหาย เสียงหอบหายใจของฉีเย่ว์สั่นสะท้านหัวใจแทบจะหลุดออกมาจากอก เขาคือหัวหน้าหน่วยจู่โจมที่ตายในสงคราม และได้ย้อนเวลากลับมาหลายร้อยปีกระทั่งฟื้นขึ้นมาในร่างเด็กน้อยนาม หยางเจี๋ย เด็กผู้อาภัยจากตระกูลใหญ่ ที่บิดาและมารดาถูกใส่ความว่าทุจริตจนต้องจบชีวิตลง หยางเจี๋ยเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกเลี้ยงดูให้เติบโตในจวนราชครู สหายของบิดา และที่นี่เขาได้พบกับเด็กน้อยผู้หนึ่งนาม ฉีเย่ว์ ธิดาของท่านราชครูฉีผู้สูงส่ง พวกเขาเติบโตมาด้วยกัน ความใกล้ชิดทำให้เขาหวั่นไหว หยางเจี๋ยจะทำเช่นไรเมื่อได้พบว่า ตัวเอง ตกหลุมรักคุณหนูผู้สูงส่งจนหมดหัวใจไปเสียแล้ว เขารักนาง ต้องการทำให้นางตกเป็นของเขา และทำลายขวากหนามทุกอย่างที่ขัดขวางให้หมดสิ้นไป เพื่อนางเพียงคนเดียว
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY