กันต์กมลต้องการหย่าจากสามี เมื่อระแคะระคายว่าเขามีคนอื่น แต่เขากลับไม่ยอมหย่าแบบง่าย ๆ เธอจะต้องทำอย่างไรดี
กันต์กมลต้องการหย่าจากสามี เมื่อระแคะระคายว่าเขามีคนอื่น แต่เขากลับไม่ยอมหย่าแบบง่าย ๆ เธอจะต้องทำอย่างไรดี
บนโลกใบนี้หรือโลกใบไหน ๆ ได้เคยทำสถิติเอาไว้บ้างไหม สถิติที่บอกว่าคนสองคนสามารถใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแบบสามีภรรยานานที่สุดกี่วัน กี่เดือน หรือกี่ปี
คำถามทำนองนี้วนเวียนเข้ามาในหัวของเธอบ่อยมาก ยิ่งช่วงสองสามเดือนนี้ มันบ่อยและถี่มากขึ้นเรื่อย
เหตุผลนะหรือ
คงเพราะงานเลี้ยงรวมรุ่นเมื่อหลายเดือนก่อน เพื่อนสองสามคนที่ดูเหมือนจะมีอนาคตที่ดีตั้งแต่ลืมตาเกิดมาบนโลก ได้สามีที่ดีมาก ๆ คบกับผู้ชายที่เลือก แต่งงานกันไม่นานก็มีลูกน่ารัก ๆ แล้วยังไปเที่ยวต่างประเทศกันเป็นว่าเล่น สามีของเพื่อนกลุ่มนั้นดูดี เพอร์เฟคไปหมด คงไม่เคยมีปัญหาหยุมหยิมกันเลยสินะ พูดคุยกันดูดี น่ารัก อบอุ่นมาก ๆ เลย
ส่วนที่เหลืออีกหลายคนที่ไม่ยอมแต่งงาน ก็อยู่กินแบบเงียบ ๆ อย่างเช่นอินทิรากับแฟนที่เป็นอัยการ พวกเขาอายุห่างกันรอบกว่า อินทิราได้แต่บ่นกับเธออยู่เรื่อยทำนองว่า
‘รู้งี้อยู่คนเดียวดีกว่า อยู่คนเดียวสบายตัว สบายใจกว่ากันตั้งเยอะ’
เรื่องนี้เธอเองก็เพิ่งเห็นว่าจริง
นั่นก็เป็นเพราะว่าจิรฐิติทำตัวน่าเบื่อและน่าเกลียดมากขึ้นทุกวัน งานบ้านไม่เคยช่วยเหลือกันเลย วัน ๆ หากไม่ทำงานของเขาไป จิรฐิติก็จะออกไปดื่มกับเพื่อนรุ่นพี่ ไม่ก็รุ่นน้องบ้าง แล้วก็เริ่มกลับบ้านไม่ตรงเวลา บ่อยครั้งที่เมากลับมา แล้วยังพยายามยัดเยียดเซ็กซ์แบบมึน ๆ ให้เธอด้วย เหมือนอย่างตอนนี้ไง
ใบหน้าที่กันต์กมลเคยมองว่าหล่อมาดนิ่ง สุขุมนุ่มลึก กำลังซุกไซ้หน้าของเขาไปตามจุดต่าง ๆ บนร่างกายของเธอ จุดที่เขาคิดว่าเธอจะต้องกระสันซ่านเสียวมีอารมณ์ตามเขาไปด้วย นี่คงนึกว่าเธอเตลิดไปกับสัมผัสของเขาแล้วละมั้ง แต่ไม่เลย ตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์ คนเพิ่งนอนหลับไป จะไปอารมณ์อยากมีเซ็กซ์ได้อย่างไร
กันต์กมลเอียงหน้าหนี พร้อมกับร้องเสียงดุใส่เขา
“โอ๊ย! พี่ติ อูง่วง”
“ง่วงก็นอนสิ พี่เอาเดี๋ยวเดียวก็เสร็จ”
เสียงทุ้มนุ่มนวลที่ใคร ๆ ต่างพากันชื่นชมบอกตอบกลับมาอย่างที่เธอลงความเห็นในวินาทีได้เลย ว่าโคตรเห็นแก่ตัว แล้วยิ่งเวลาที่เลือดของจิรฐิติร้อนรุ่มขึ้นมา เธอรู้ว่าอะไรก็ต้านทานเขาไว้ไม่อยู่
แต่ขอโทษนะ เสร็จคนเดียวหรือ ใครจะไปยอม
กันต์กมลจำต้องลืมตาตื่น แล้วผลักอกของสามีออก เธอหยิกที่ยอดอกของเขาแรง ๆ เพื่อระบายอารมณ์โกรธที่ถูกกวนให้ตื่นตอนที่นอนหลับสนิทอยู่ ก่อนจะบรรเลงลีลาทั้งที่ยังง่วง ๆ อยู่แบบนั้น
จิรฐิติคำรามในคอสลับเสียงซูดปาก มือของเขาบีบลงบนสะโพกของเธอแน่น เขาเด้งสะโพกของเขากระแทกเข้าใส่เธอหนัก ๆ อยู่ไม่กี่ที แล้วรีบยกสะโพกของเธอ
เพราะอะไรนะหรือ ก็เพราะว่าจิรฐิติเสร็จแล้วอย่างไรละ
จิรฐิติกำลังปลดปล่อยก่อนเธอ
เสียงคำรามของเขาครางยาวลั่นห้องคือสัญญาณบอกว่าเขาถึงฟากฝั่งก่อนเธอแล้ว ของเหลวข้นอุ่นจัดที่เขาปลดปล่อยออกมาเปรอะเปื้อนเต็มหน้าท้องและบางส่วนที่ตรงด้านในของขาเธอ
“พี่เสร็จแล้วอู พี่เสร็จแล้วครับ”
จิรฐิติบอกเสียงแผ่วสั่นพร่า หอบปนเหนื่อยอ่อน กลิ่นเหล้าในปากของเขาลอยตามออกมาด้วย แสดงว่าดื่มมาไม่น้อยเลยแหละคืนนี้
“อูยัง” เธอบอกเสียงหงุดหงิด จิรฐิตินอนแผ่หรา แก่นกายของเขาอ่อนตัวลงช้า ๆ ทันทีที่ปลดปล่อยออกมาจนหมดสิ้น เธอเห็นแล้วโมโห เลยฟาดมือตีเขาหนัก ๆ ไปหลายที จิรฐิติเอียงตัวหลบ เขาบอกเสียงหอบปนขำ
“อูปั่นให้พี่สิ เดี๋ยวมันก็ขึ้นอีก ของของพี่มันสู้มือจะตาย”
ถ้าเป็นเมื่อตอนแต่งงานกันใหม่ ๆ เธอคงคึกคักแล้วก็ร้อนวูบวาบไปกับคำเรียกว่า ‘ของของพี่’ อยู่หรอก แต่ตอนนี้นอกจากจะไม่คึกคักแล้วยังนึกเกลียดด้วย
แล้วมันเรื่องอะไรที่จะต้องเป็นเธอที่ลงมือปลุกอารมณ์ให้เขา ก็ให้เมื่อเขาค้างเติ่งมาจากข้างนอก มาถึงก็รุกเธอจนเสร็จไปก่อนแล้วเนี่ย กันต์กมลคิดแล้วจับมือเขาให้ทำเอาเอง “พี่ติก็ปั่นเองสิ”
จิรฐิติทำตัวหมดเรี่ยวหมดแรง เขาปล่อยร่างกายให้นอนแผ่พร้อมกับบอกเสียงเหนื่อย
“พี่หมดแรงแล้วอู ขอพี่นอนพักแพ้บนึงนะค่อยต่ออีกยก”
โคตรน่าเบื่อเลย
กันต์กมลพึมพำแล้วลุกออกจากเตียง เพื่อเข้าห้องน้ำเพื่อล้างคราบต่าง ๆ ที่เลอะอยู่บนเรือนร่างของเธอ ก่อนจะหนีออกไปนอนห้องอื่น
ภาวรีแหงนหน้าขึ้นแล้วยิ้มกวนโมโหใส่หน้าเขา "มาขวางทำไม เชยไม่สนพี่เขื่อนแล้วนะรู้ไหม ให้หย่าก็ได้เลย ไปเลย เพราะไรรู้มะ เพราะพี่เขื่อนสู้หนุ่ม ๆ ในร้านไม่ได้เลยสักคน ในนั้นถึงใจกว่าพี่เขื่อนตั้งเยอะ" ลัพธวิทย์หรี่ตามอง ถามเสียงเรียบ "ถึงใจแบบไหน" "ใหญ่กว่า อึด แล้วก็เอาเก่งกว่าพี่เขื่อน" ได้ยินเสียงตัวเองพูดจาก๋ากั่นออกไปแบบนั้นแล้วก็ให้ตกใจไม่น้อย พอได้ยินคำตอบของเธอที่หลับตาฟังก็รู้ว่าจงใจพูดจายั่วยุเขา ลัพธวิทย์ก็ค่อยหัวเราะออกมาลั่น พร้อมค่อนแคะกลับไป "น้ำหน้าอย่างเราเนี่ยหรือ กล้านอนกับผู้ชายตามบาร์" ภาวรีหน้าชาเมื่อถูกจับไต๋ได้ว่าโกหก เธอลอยหน้าลอยตาแล้วตอบเขากลับ "ทำไมจะไม่กล้า แม่เปิดห้องให้เชยลองแล้วด้วย หนุ่ม ๆ ในบาร์โฮสต์ทำให้เชยรู้แล้วล่ะว่าของพี่เขื่อนนี่เทียบชั้นกันไม่ติด แบบนั้นน่ะ..." ภาวรีพูดแล้วกวาดตาลงมองอย่างหยามเหยียด บอกต่อจนจบประโยค "น่าจะเอาไว้แค่ฉี่มากกว่านะ"
"ถอดชุดบนตัวเธอออกมาเดี๋ยวนี้!" "หนูทำไม่ได้..." ขวัญลดายังพูดไม่จบดีเลยว่าเธอถอดชุดที่ใส่บนตัวออกไม่ได้เพราะมันรัดมาก ๆ นี่ก็นัดกับออยลี่ ลูกของป้าเนืองไว้แล้วให้มาช่วยถอดชุด ไม่รู้น้องคนที่วานให้ช่วยเหลือจะหลับไปแล้วหรือยัง ไม่อย่างนั้นเธอคงต้องฉีกมันออกแทนการถอด แต่เจ้าของห้องลับที่ใคร ๆ พูดปากต่อปากกันว่า ห้องนี้ใครเข้ามาแล้วต้องเสว ก็ปราดเข้ามาปล้ำถอดชุดของเธอออกจนหมด แต่เพราะชุดมันรัดมาก ๆ ดลวรัชญ์ลงมือถอดไปก็สบถไปพลางด้วยอาการหัวเสีย "แต่งตัวเชี่ยอะไรวะ รู้ไหมว่ามันรัดหน้าอก รัดโหนกจนเห็นเป็นเนินนูน นึกว่าลานจอดฮอ" พอชุดถูกถอดออกจนหมด ขวัญลดาค่อยหายใจได้ลึกขึ้นจากเดิม นึกขอบคุณที่เขาช่วยเหลือเธอในครั้งนี้ แม้จะดูเป็นการช่วยที่ไม่ปกตินักก็ตามที "หนูรู้ค่ะ" "รู้แต่ก็ยังใส่" "คุณป้าบอกว่ามันมีชุดเดียว ชุดนี้เมื่อก่อนท่านตัดไว้ให้พี่โรส แต่คุณเล่นพาพี่โรสมานอน หนูก็เลย..." "หึง?" เสียงเข้มถามขัดคำตอบของเธอ ขวัญลดามองเขาแล้วได้แต่ส่ายหน้า เธอยังไม่รู้จักเลยว่า หึง อาการเป็นอย่างไร "ไม่ใช่ค่ะ หนูกำลังอธิบายเรื่องที่ว่าทำไมต้องใส่ชุดนี้" "เธอหึง" คนชอบให้ทุกอย่างหมุนรอบตัวเองอย่างดลวรัชญ์สรุปในสิ่งที่ตัวเองคิดได้ พร้อมด้วยมุมปากที่ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ก่อนจะเกร็งมันไว้ให้เหยียดตรงดังเดิม "และเธอเบี่ยงประเด็นนะลดา" "แล้วแต่คุณเลยค่ะ" ขวัญลดาบอกอย่างยอมแพ้ ++++++ เนื้อหานิยายเน้นอ่านเพลิน ๆ ย่อยง่าย ๆ และจบดี แฮปปี้ค่ะ
ปัญญารัตน์กำแท่งตรวจการตั้งครรภ์ในกระเป๋าไว้จนเหงื่อชุ่มเต็มมือ วันนี้เธอมาเพื่อบอกเขาว่า ท้อง แต่นายแพทย์อนลกลับเอ่ยปาก บอกเลิกความสัมพันธ์ที่มีต่อกัน เพื่อกลับไปคบกับแฟนเก่าของเขาที่กำลังย้อนกลับมาคบกันอีกครั้ง
คำโปรย ปริญญ์เคยบอกว่ารักเธอ แต่เมื่อมีเหตการณ์บางอย่างทำให้ต้องเลิกรากันไป เขาย้อนกลับมาทำดีด้วย และขอเธอแต่งงาน หลังแต่งงานกับจินดาพรรณมาสี่ปี ปริญญ์เที่ยวคบหาผู้หญิงคนใหม่ไปเรื่อย ๆ เพื่อให้เธออับอาย ... นี่น่ะหรือความรักของเขา ตัวอย่างเนื้อหา "เดี๋ยวดา เรื่องที่เราคุยกันไว้ ดาต้องทบทวนดี ๆ ก่อน..." "พรุ่งนี้เลยปิน พรุ่งนี้ไปเจอกันตามที่ตกลงไว้ได้เลย" ปริญญ์มองเธอนิ่งอยู่เป็นนานสองนาน กว่าจะพูดอะไรได้สักคำหนึ่ง ก็ยากเย็นเต็มที "หรือไม่ ปินว่าเราลอง..." "อย่าเอาแต่พูดหลอกล่อกันแบบนี้อยู่อีกเลยปิน เราสองคนจบกันเท่านี้เถอะ ทิ้งทุกอย่างเอาไว้แค่นี้ ขอให้เลิกแล้วต่อกัน เราจะได้ไม่เกลียดกันมากไปกว่านี้ หรือปินอยากให้ดาเกลียด จนไม่ไปเผาผีกันเลย ก็ได้นะปิน" ได้ยินและได้รู้ถึงความคิดของจินดาพรรณแล้ว ในใจของปริญญ์ปวดแปลบ เสียดและเสียวไปทั้งทรวงอก เขาอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก คิดได้ในตอนนั้นเองว่านี่เขาทำอะไรต่อมิอะไรลงไปนั้น มันแย่มาก จินดาพรรณถึงได้บอกว่าเกลียดเขาถึงขนาดนี้ ปริญญ์รู้สึกได้ถึงก้อนขม ๆ ในคอ เขาฝืนที่จะกล้ำกลืนมันลงไป แล้วขยับเท้าเพื่อถอยหลังออกมา มาได้เพียงครึ่งก้าวแล้วก็ทำอะไรไม่ถูก สายตาเจ็บปวดของเขายังคงมองไปยังจินดาพรรณ เปิดปากเพื่อจะพูดบางประโยคออกไป "แต่ดา...ปินระ...ปินรั" จินดาพรรณหมุนตัว เพื่อกลับเข้าห้อง เธอไม่อยากฟังสิ่งที่เขากำลังจะพูด แต่กลับโดนดึงตัวเข้าไปกอดเอาไว้แนบแน่น เธอไม่ได้ออกแรงดิ้น ทำเพียงปิดตาลง ซ่อนความรู้สึกเจ็บปวดเอาไว้ข้างในลึก ๆ บอกตัวเองว่าอย่าได้ถลำตัวและหัวใจไปกับภาพลวงตาของปริญญ์ อย่าได้หลงคารมของเขาอีกเป็นอันขาด บทจะหวาน ปริญญ์ก็ทำให้เชื่อได้ทั้งนั้น และเขาก็ทำเพียงเพราะต้องการให้เธอหลงเชื่อ เขาหลอกเธอซ้ำ ๆ แล้วทิ่มแทงเธอให้ผิดหวัง เจ็บปวดและเสียใจ ครั้งนี้ก็คงเหมือนกัน ปริญญ์สูดดมกลิ่นของภรรยาเข้าจมูกจนลึกสุดปอด ถูไถใบหน้าไปมาอย่างที่โหยหามาโดยตลอด พร้อมกับพึมพำที่ข้างหูของเธอ "ปินให้เวลาดาคิดอีกสามวัน ระหว่างนี้ถ้าดาเปลี่ยนใจ ก็ไม่ต้องไป แต่ถ้าดายังคิดแบบเดิม วันนั้นเราค่อยไปเจอที่บริษัทตามที่คุยไว้ แต่ระหว่างนี้ ดาต้องคิดดูดี ๆ ก่อนนะ อย่าใช้อารมณ์ตัดสินใจเด็ดขาด" จินดาพรรณถอนลมหายใจของตัวเองออกยาว ๆ เธอนี่หรือใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง ตลอดมามีแต่ปริญญ์ที่ทำแบบนั้น และเธอไม่ต้องการเป็นที่รองรับอารมณ์ของเขาอีกแล้ว คิดได้แบบนั้นค่อยเปิดตาขึ้น แล้วออกแรงดันตัวเองจากอ้อมกอดของเขา หันมามองที่เขาด้วยสายตาว่างเปล่า บอกออกไปตามอย่างที่ตัดสินใจเอาไว้แล้วก่อนหน้านี้ "ดาไม่ต้องคิด ไม่ต้องตัดสินใจอะไรอีกแล้วล่ะปิน ถ้าปินว่างพอ พรุ่งนี้เราก็ไปจัดการเรื่องหย่าให้เรียบร้อยได้เลย" ****************************** แนวพระเอกโบ้ ไม่ได้นอกใจ จบดีและไม่มีใครตุยค่ะ
พ่อหายตัวไปอย่างลึกลับ พี่สาวของฉันถูกข่มขืนและจุดไฟเผา พี่ชายถูกทำร้ายจนตายและโยนศพลงแม่น้ำ ใครจะช่วยฉันได้ในสถานการณ์แบบนี้ . "เป็นคนของผม แล้วผมจะช่วยคุณลากคนผิดมาแก้แค้น" เจ้าของคำพูดนั้นคือ รฐนนท์ นิยายไม่เน้นสืบสวน เน้นความสัมพันธ์ของตัวเอก จบดี แฮปปีค่ะ
วันดีคืนดีก็มีมาเฟียมาจอดหน้าบ้าน บอกว่าอยากได้ที่ของผืนสุดท้ายของเธอ มาเฟีย เจ้าของรีสอร์ท ฟาร์มควาย ม้า วัวที่อยู่ตรงรอยต่อของไทยมาเจรจาด้วยตัวเอง ทันทีที่เจอกัน ศศิร์ธาไม่ได้แค่อยากได้ที่ของเธอ ตัวเธอเองเขาก็อยากได้ด้วย เสียแต่ว่าเป็นม่ายลูกติด ไอ้ระยำนั่นมันเอาอะไรคิดถึงได้ถึงผู้หญิงแบบนั้นไป
หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”
เขาปฏิเสธการหมั้นกับเธอเพราะไม่ชอบถูกบังคับ ทั้งที่เธอแอบชอบเขามานาน เมื่อได้มาทำงานด้วยกันเธอจึงยั่วให้เขาหลงรักเพราะอยากจะเอาชนะ แต่ใครจะรู้ว่าเรื่องแบบนี้มันเอาชนะกันได้ง่ายๆเสียเมื่อไหร่ **************** ภายใต้ใบหน้าที่เย็นชานั้นซ่อนไว้ซึ่งตัณหาแล้วพอเจอกับเลขาจอมยั่วมีหรือเขาจะปล่อยไปง่ายๆ
ยัยเด็กขาดสารอาหารคนนี้หรอ คือลูกสาวคนใหม่ของแม่.. เด็กอะไร ขวางหูขวางตาชะมัด เจอหน้ากันเอาแต่ก้มหน้าหลบตา แต่ทำไมยัยเด็กนี่ถึงสวยวันสวยคืน..ถ้าเขาจะแอบกินเด็กของแม่..จะผิดไหม
มีเพียงปาฏิหาริย์เท่านั้นที่ทำให้เธอฟื้นขึ้นมาได้ ซึ่งผู้ที่ทำหน้าที่นั้นได้ดีที่สุดก็คือยมทูตรับส่งวิญญาณ เขารีบตามหาวิญญาณของเธอเพื่อพากลับเข้าร่างโดยเร็วที่สุด แต่ทุกอย่างก็สายเกินแก้เพราะเขาเจอเธอเมื่อร่างของเธอถูกเผาไปแล้ว ทางเดียวที่จะแก้ไขความผิดก็คือต้องส่งเธอกลับไปในร่างของคนอื่นที่เพิ่งหมดลมหายใจ และด้วยเหตุผลที่เธอเรียกร้องบางประการ จึงทำให้เธอได้กลับไปเกิดใหม่ในรัชสมัยของราชวงศ์หมิง ในร่างของหญิงสาววัย 19 ปีนามว่า "เฟิ่งต้าชวี่" แต่ "เฟิ่งต้าชวี่" ไม่ใช่ดรุณีแรกแย้มไร้เจ้าของ นางเป็นพระชายาที่แสนบริสุทธิ์ของแม่ทัพผู้เกรียงไกร "อ๋องใหญ่เกาหรงซาน" พระชายาที่เขาเขียนหนังสือหย่าทิ้งไว้ในห้องหอตั้งแต่วันแรกที่แต่งงาน แต่เพราะความรักและหน้าที่ของสตรีชาวฮั่น นางจึงทนอยู่อย่างปวดร้าวในตำหนักของเขาตลอด 2 ปีก่อนจะตรอมใจตาย
ความสุขในฐานะคุณหนูอันดับหนึ่งของหนานอิงต้องพังลงทันใด เมื่อนางถูกโจรชั่วจับตัวมาและยังกระทำย่ำยี กระทั่งมารดาของนางยังถูกคร่าชีวิต สาวใช้ข้างกายถูกตัดลิ้นจนเสียสติกลายเป็นคนบ้าใบ้ ทั้งหมดด้วยความริษยาของฮูหยินใหญ่ผู้นั้น หนานอิงได้พบกับหานเซียวและลู่หนิงหวังสองอ๋องพี่น้องที่คอยช่วยเหลือนาง อ๋องผู้ป่าเถื่อนโหดร้ายและแสนเย็นชา แม้จะให้การช่วยเหลือแต่นางก็กลายเป็นนางบำเรอของพวกเขาเช่นกัน ไม่ว่าสองอ๋องจะโหดร้ายแต่นางจำต้องอดทน สุดท้ายนางกลายเป็นมือสังหารที่วางชีวิตไว้กับพวกเขาเพื่อแลกกับการแก้แค้น นางถูกฝึกอย่างหนักจนเก่งกาจยิ่ง หนานอิงจะทำเช่นใดเมื่อได้รู้ว่า คนที่ย่ำยีนางและเป็นศัตรูที่นางต้องการสังหารคือ สองอ๋องทั้งสองที่เป็นผู้กระทำย่ำยีนางจนปางตาย ฆ่า หรือ ไม่ฆ่า ล้วนเป็นนางที่ต้องเลือก! หมายเหตุ นิยายเรื่องนี้เป็นความรักแบบ 3P โปรดดาวน์โหลดตัวอย่างก่อนอ่านค่ะ ภาคต่อของนิยายเรื่องนี้คือเรื่อง Trigger warning: 3P
© 2018-now MeghaBook
บนสุด