แค่เห็นหน้ากันครั้งแรกก็ไม่ถูกชะตาซะแล้ว แต่ด้วยคำมั่นสัญญาของผู้ใหญ่ทำให้เขาและเธอต้องมาแต่งงานกัน
แค่เห็นหน้ากันครั้งแรกก็ไม่ถูกชะตาซะแล้ว แต่ด้วยคำมั่นสัญญาของผู้ใหญ่ทำให้เขาและเธอต้องมาแต่งงานกัน
“ณ ไร่ภูอนันท์”
วันนี้ทั้งวันปานชีวันทำงานอยู่ในสวนส้มท่ามกลางแสง แดดที่ร้อนระอุ ช่วงนี้เป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิต ส้มของไร่ภูอนันท์เป็นส้มคุณภาพดีเกรดส่งออก ช่วงนี้หล่อนเลยต้องมาคุมคนงานเอง เพื่อให้ได้งานตามออเดอร์ที่ลูกค้าสั่ง
หล่อนเรียนจบปริญญาตรีด้านการบริหารมา แต่หล่อนก็มาช่วยงานในไร่ของบิดามารดา เพราะหล่อนอยากแบ่งเบาภาระของบิดามารดา และหล่อนก็ไม่อยากอยู่ห่างจากบิดามารดา
ปีนี้ปานชีวันอายุครบ 22 ปีบริบูรณ์แล้ว ถึงเวลาที่จะต้องแต่งงานกับหลานชายของเพื่อนรักตามคำมั่นสัญญาที่เคยมีให้กัน แต่นายอนันท์ก็คิดไม่ตกว่าทำอย่างไรหลานสาวจอมดื้อรั้นของเขาถึงจะยอมแต่ง
เดิมทีการแต่งงานครั้งนี้จะเกิดขึ้นระหว่างลูกของนายอนันท์กับนายมงคลซึ่งทั้งสองคนเป็นเพื่อนรักกัน เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา ท่านทั้งสองสัญญากันว่าเมื่อภรรยาตั้งท้องและคลอดลูกออกมาถ้าเป็นผู้ชายกับผู้หญิงจะให้แต่งงานกัน แต่ถ้าเป็นผู้ชายทั้งคู่จะให้รุ่นหลานแต่งงานกันแทน ถ้ารุ่นหลานเป็นชายทั้งสองบ้านจะถือว่าข้อตกลงนี้จะเป็นโมฆะทันที
ปีนี้นายมงคลได้ทวงถามถึงสัญญาที่เพื่อนรักทั้งสองเคยให้กันไว้ แต่ว่านายอนันท์คุณปู่ของปานชีวันยังไม่รู้จะบอกหลาน สาวอย่างไรดี เนื่องด้วยปานชีวันเป็นหลานสาวคนเดียว บางครั้งหล่อนก็ว่าง่ายแต่ถ้าเป็นเรื่องที่หล่อนไม่เห็นด้วยหล่อนก็จะเถียงหัวชนฝาเหมือนกัน นายอนันท์จึงได้เรียกลูกชายและลูกสะใภ้มาปรึกษา ว่าจะทำอย่างไรดี
สองสามีภรรยาไม่รู้ว่าจะใช้แผนอะไรดี แต่ทั้งสองรู้จุด อ่อนของบุตรสาวคือปานชีวันรักคุณปู่มาก ทั้งสองจึงให้ผู้เป็นพ่อแกล้งป่วย เพราะเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้ลูกสาวยอม
พลบค่ำปานชีวันกลับมาถึงบ้าน เห็นคนงานวิ่งวุ่น หล่อนจึงรีบเข้าไปถามว่ามีเรื่องอะไร พอหล่อนรู้ว่าคุณปู่ไม่สบาย หล่อนรีบเข้าไปดูคุณปู่ในห้องทันที
นายกิตติศักดิ์และนางปานชนกซึ่งแอบดูอยู่หลังต้นไม้เห็นว่าเป็นไปตามแผนที่ตนวางไว้ก็รีบตามเข้าไปในห้องของนายอนันท์ทันที
พอปานชีวันเข้าไปในห้องเห็นคุณปู่นอนซมหล่อนก็ใจไม่ดี หล่อนถามพลางร้องไห้
“คุณปู่คะ…คุณปู่เป็นอะไรคะ เมื่อเช้าปานเห็นคุณปู่ยังแข็งแรงอยู่เลย”
“คนแก่ก็แบบนี้แหละปาน ไม่รู้ว่าจะตายวันตายพรุ่ง”
“คุณปู่อย่าพูดแบบนี้นะคะ คุณปู่ต้องอยู่กับปานนานๆ”
“ปาน! ก่อนปู่จะตาย ปู่ขอร้องอะไรปานได้ไหมลูก”
“คุณปู่จะให้ปานทำอะไร ปานจะทำให้ทุกอย่างเลยค่ะ”
“ปานจะต้องแต่งงานกับหลานชายของปู่มงคลนะลูก”
“ได้ยังไงคะคุณปู่ ปานไม่เคยเห็นหน้าเขาด้วยซ้ำจะให้แต่งงานกันได้ยังไง” ปานชีวันโวยวาย
แม้ว่าหล่อนจะรู้จักปู่มงคลเพราะเขาเคยมาเที่ยวที่ไร่บ่อยๆ แต่ปานชีวันไม่เคยเห็นหน้าค่าตาของหลานชายท่านเลย
“ให้ปานทำเรื่องอื่นเถอะค่ะคุณปู่ เรื่องนี้ปานทำให้ไม่ได้จริงๆ”
“ถ้าปู่จะตายจริงๆ ก็เหลือแต่เรื่องนี้แหละที่ปู่อยากจะทำก่อนตาย ปานก็รู้ว่าปู่ยึดถือคำมั่นสัญญาสัญญามากแค่ไหน ปานจะให้ปู่ผิดคำพูดเหรอ ถ้าปานไม่ช่วยปู่คงนอนตายตาไม่หลับ”
“คุณปู่” หล่อนโอดครวญ พร้อมหันหน้าไปขอความเห็นใจจากบิดามารดา
“แต่งๆ ไปเถอะลูก...ถือเสียว่าทำเพื่อคุณปู่นะ” นายกิตติศักดิ์เอ่ยขึ้น
เดิมทีสัญญาการแต่งงานนี้ต้องเป็นนายกิตติศักดิ์แต่งกับลูกคุณปู่มงคล แต่ลูกคุณปู่มงคลกลับเป็นผู้ชายเหมือนกัน ทำให้การแต่งงานตามคำมั่นสัญญาจึงตกมาอยู่ที่รุ่นหลานอย่างปานชีวัน
“ถือว่าทำเพื่อคุณปู่สักครั้งนะลูก”
“คุณพ่อคะ! นี่มันสมัยไหนแล้วคะ มันยังมีการคลุมถุงชนกันอีกเหรอ รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่นเลยนะคะ ปานขอร้องเถอะค่ะ เห็นใจปานเถอะ ถ้าปานจะแต่งงานจริงๆ ปานก็อยากแต่งกับคนที่ปานรักเท่านั้นค่ะ” หล่อนพูดแล้วเดินออกจากห้อง
ผู้ใหญ่ทั้งสามคนได้แต่มองหน้ากัน ไม่รู้ว่าจะเกลี้ยกล่อม
ปานชีวันด้วยวิธีไหน
รุ่งขึ้น....
นางปานชนกได้ทำข้าวต้มแล้วให้บุตรสาวยกเข้าไปให้คุณปู่ในห้องนนอน พอปานชีวันเข้ามาในห้อง คุณปู่ก็หันหลังให้หล่อนทันที และไม่ยอมทานอาหารที่หล่อนยกเข้ามาให้ แม้หล่อนจะเกลี้ยกล่อมแค่ไหนคุณปู่ก็ไม่ยอมทาน หล่อนได้แต่อ่อนอกอ่อนใจ
“ปานออก ไปทำงานเถอะ ไม่ต้องมาสนใจคนแก่อย่างปู่หรอก อีกอย่างปู่ก็ทานอะไรไม่ลง”
“งั้นปานวางข้าวต้มไว้ตรงนี้นะคะ ปานออกไปทำงานก่อน” หล่อนเอ่ยกับชายสูงวัยก่อนจะวางชามข้าวต้มไว้บนโต๊ะ
พอปานชีวันออกไปคุณปู่ก็ออกจากห้องมาเดินเล่นอยู่ข้างนอก หลังจากที่ทนอุดอู้อยู่ในห้องมานาน พอใกล้ถึงเวลาหลานสาวกลับ ท่านก็รีบกลับเข้าห้องแล้วแกล้งนอนซมเหมือน เดิม
เกือบอาทิตย์ที่คุณปู่อนันท์แกล้งป่วยอยู่แบบนั้น แต่ปานชีวันก็ยังใจแข็ง งานนี้คงต้องวางแผนใหม่เสียแล้วคุณปู่อนันท์คิด ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาหมอประจำตระกูล
ตกเย็นปานชีวันกลับมาจากสวนส้มเห็นคุณหมอประจำตระกูลนั่งคุยอยู่กับบิดามารดา หล่อนรู้สึกใจคอไม่ดีจึงรีบเดินเข้าไปในห้องรับแขก
“สวัสดีค่ะลุงหมอ มาดูอาการคุณปู่เหรอคะ”
“ครับผม” หมอตอบพร้อมทำหน้าครุ่นคิด
หล่อนมองหน้าทุกคนสลับกันไปมา ทุกคนต่างมีสีหน้าไม่สู้ดีสักเท่าไหร่ ยิ่งทำให้หล่อนรู้สึกกังวลมากขึ้น
“คุณปู่เป็นอะไรคะ” หล่อนถามออกไปในที่สุด
“เอาไว้หนูปานคุยกับคุณพ่อคุณแม่เองนะ วันนี้ลุงกลับก่อน” คุณหมอกล่าวก่อนจะขอตัวกลับ
ปานชีวันมองหน้าบิดามารดาสลับกันไปมา ก็เห็นว่าท่านทั้งสองมีความกังวลปรากฏอยู่บนใบหน้าอย่างเห็นได้ชัด
“คุณปูท่านอาการไม่ค่อยดีน่ะลูก ตอนนี้อาการของคุณปู่ทรุดลงเร็วมากจนลุงหมอเองก็ตกใจ ลุงหมอบอกว่าคุณปู่อาจจะอยู่ได้ไม่นาน” นายกิตติศักดิ์เอ่ยกับบุตรสาว พอได้ยินบิดาพูดแบบนั้นปานชีวันก็ร้องไห้ออกมาทันที หล่อนสงสารคุณปู่จับใจ
“อีกอย่างคุณปู่ก็แก่แล้วนะลูก สำหรับคนแก่กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ แม่ว่าถ้าปานยอมทำตามคำขอร้องของคุณปู่ อาจจะทำให้ท่านมีกำลังใจและก็อยู่กับเราได้นานขึ้น ลุงหมอย้ำว่าถ้าทำอะไรให้ท่านสบายใจได้ให้รีบทำ ปานพอจะทำเพื่อคุณปู่ได้ไหมลูก” นางปานชนกเอ่ยเสริม
“ปานต้องทำอย่างนั้นจริงๆ หรือคะคุณพ่อคุณแม่ ปานว่ามันน่าจะมีวิธีอื่นนะคะ”
“พ่อปรึกษาลุงหมอแล้ว ที่คุณปู่ล้มป่วยเพราะเป็นโรคของคนแก่นะลูก รักษาไม่หายหรอกได้แต่ประคับประคองอาการไป”
“งั้นก็ได้ค่ะ...แต่งก็แต่ง ปานขอตัวเข้าไปหาคุณปู่ในห้องก่อนนะคะ” พูดจบปานชีวันก็รีบเดินไปที่ห้องของคุณปู่
นายกิตติศักดิ์และนางปานชนกมองหน้ากันแล้วอมยิ้ม ปานชีวันเป็นห่วงนายอนันท์มากจนลืมสังเกตปฏิกิริยาของพ่อกับแม่ว่าดีใจมากแค่ไหนที่หล่อนตอบตกลง
ปานชีวันเข้าไปในห้องของนายอนันท์ หล่อนโผเข้ากอดคุณปู่ พลางร้องไห้เสียใจ
“คุณปู่คะ...ปานตกลงจะแต่งงานกับหลานคุณปู่มงคลแล้วนะคะ แต่คุณปู่ต้องสัญญานะคะว่าจะอยู่กับปานไปนานๆ”
“จริงเหรอปาน หนูรับปากกับปู่แล้วนะลูก” นายอนันท์ถามย้ำเพื่อความแน่ใจ พลางขยิบตาให้กับลูกชายลูกสะใภ้ที่กำลังเดินเข้ามาในห้อง
“จริงค่ะคุณปู่! คุณปู่ต้องแข็งแรงไวๆ นะคะ” หล่อนเอ่ยทั้งนำตา
“ปู่ต้องขอบใจหนูมากนะลูก” นายอนันท์เอ่ยพลางกอดหลานสาวแน่นด้วยความดีใจ
เตชินท์ไม่เคยคิดมาก่อนว่ามัจจุราชจะพรากพิมพ์ชนกไปจากเขาเร็วขนาดนี้ ผู้หญิงอันเป็นที่รักต้องจากไปด้วยอุบัติเหตุ ด้วยหัวใจรักที่มั่นคงของเธอและปาฏิหาริย์แห่งรัก ทำให้พิมพ์ชนกไปอยู่ในร่างผู้หญิงอีกคน แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับเป็นคนที่เตชินท์เกลียดที่สุด เธอจะสามารถเอาชนะใจเขาได้อีกครั้งมั้ย เพราะเจ้าของร่างคือคนที่เป็นต้นเหตุทำให้พิมพ์ชนกต้องตาย นับตั้งแต่วันที่พิมพ์ชนกไม่อยู่บนโลกใบนี้ เตชินท์ก็สัญญากับตัวเอง เขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ฟ้าลดาเจ็บปวดที่สุด การแก้แค้นจึงเริ่มต้นขึ้น
จากที่ต้องมาเป็นไม้กันหมาให้กับเจ้านายอย่างธีรวัฒน์ อิงดาวกลับเป็นฝ่ายตกหลุมรักเขาซะเอง หล่อนจะทำยังไงกับความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้ คนที่ทั้งหล่อทั้งรวยอย่างเขา มีผู้หญิงสวยๆเข้าหาไม่เว้นแต่ละวัน โอกาสที่เขาจะหันมามองคนที่ทั้งเฉิ่มทั้งเชยอย่างหล่อนแทบไม่มีเลย
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...
“ก่อนทำเรื่องนี้พี่ขอถามน้องภาสักข้อได้ไหม” ธาวิศพูดแล้วก้าวเท้าเข้าไปหาคนบนเตียง “ได้ค่ะ” นิภาก้มหน้ายามตอบ ธาวิศทิ้งสะโพกลงนั่งด้านข้าง พร้อมกับดันปลายคางของหญิงสาวให้ขึ้นมองหน้าเขา “น้องภาเต็มใจใช่ไหม” แววตาของคนถูกถามสั่นระริกไปมา ปากจิ้มลิ้มก็ขยับขึ้นลงเหมือนคนคิดไม่ออกว่าควรตอบอย่างไร “น้องภาพี่ถามว่าเต็มใจใช่ไหม หรือว่าถูกคุณยายบังคับ” คราวนี้ธาวิศเน้นน้ำหนักเสียงมากขึ้นกว่าเดิม “ภาเต็มใจค่ะ” หญิงสาวตอบเขาแล้ว แต่เป็นคำตอบที่เต็มไปด้วยความไม่มั่นใจในตัวเอง “ไม่ได้ถูกบังคับแน่นะ” “ค่ะ ภาไม่ได้ถูกบังคับ ภาเต็มใจค่ะพี่ภูมิ” ธาวิศกัดฟันกรอดในคำตอบที่เขาไม่ปรารถนาจะได้ยิน ออกแรงผลักหน้าอกนิภาจนล้มลงไปนอนอยู่บนเตียง ปลดกระดุมเสื้อนอนของตนเองออกทีละเม็ด โดยที่สายตาก็ยังจดจ้องอยู่กับคนตรงหน้า “ระหว่างเรามันจะไม่มีความผูกพันอะไรกันทั้งนั้น เราทำเรื่องนี้ก็เพื่อคุณยาย เสร็จจากนี้ไปพี่ก็จะกลับกรุงเทพฯ ไปใช้ชีวิตกับคนรักของพี่ตามเดิม ภายังรับได้อยู่ใช่ไหม” ชายหนุ่มพูดจบก็ทิ้งเสื้อนอนลงบนพื้น คนบนเตียงก็ยังเม้มริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่น คำตอบไม่มาสักทีเขาเลยต้องเลิกคิ้วขึงตาใส่ “ค่ะภารับได้” คำพูดที่เปล่งออกมาช่างเบาหวิว คงไม่ต่างไปจากอารมณ์ของคนพูด “รับได้ก็ดี อย่ามาเรียกร้องอะไรทีหลังก็แล้วกัน ไม่งั้นพี่เอาตายแน่” ธาวิศทาบร่างตัวเองลงบนลำตัวของนิภา มองจุดหมายแรกที่จะเริ่มต้นทำรัก ประทับจูบลงบนริมฝีปากนุ่มนิ่มของหญิงสาว สัมผัสแรกของทั้งคู่ช่างตราตรึงในความรู้สึก จากที่จะจูบเพียงแผ่วเบากลายเป็นแทรกลึกดูดดื่มขึ้นตามอารมณ์ (รักซ้ำรอย)
【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”
ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก
เพราะเพื่อน..เธอจึงต้องทำอะไรลับๆ ล่อๆ เป็นเหตุให้เขาเข้าใจผิดคิดว่าเธอแอบชอบ ในขณะเดียวกัน เธอเองก็คิดว่าเขาเป็นเกย์ เพราะสถานการณ์บางอย่างเช่นกัน แล้วความวุ่นวายก็บังเกิด เมื่อเธอดัน…หลงรักเกย์ ‘ฮื่อ! เป็นเกย์นะเว้ยไม่ได้เป็นหวัด รักษาวันเดียวจะหายได้ไง สู้ต่อไปศิศิรา ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ยังไม่มีผัวเป็นตัวเป็นตน เพราะงั้นฉันก็ยังมีหวัง เฮ้อ! อย่างมากก็แค่ผิดหวังล่ะน่า’ ***“สาบานได้ว่าครั้งนี้ผมจะไม่หยุด จนกว่าเรา…จะเป็นของกันและกัน” เขาบอกก่อนจะผละลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ขณะที่สองมือค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อ สองตาก็ยังไม่ยอมเลื่อนไปจากเรือนร่างขาวโพลนตรงหน้า และไอ้สายตาคมกล้าประหนึ่งเสือรอตะครุบเหยื่อของเขาก็ทำให้เธอหนาวๆ ร้อนๆ บอกไม่ถูก “ไม่! เราพวกเดียวกัน เรากินกันไม่ได้” เธอพยายามเตือนสติ เพราะคิดว่าเขาอาจจะกำลังขาดสติ “แต่ผมเคยกินคุณแล้ว แล้วผมก็ชอบกินคุณ” เขาพูดพลางหลุบตามองไปที่แพนตี้ของเธอ ทำเอาเจ้าของแพนตี้ทำตาโต ไม่แน่ใจในคำว่ากินของเขา ที่สำคัญ…กะๆ กินอะไร “มะหมายความว่าไง”
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY