ลี่เยี่ยนซิวแอบมีความสัมพันธ์กับรักแรกของเขา โดยทั้งสองไปเปิดห้องพักในโรงแรมด้วยกัน
เสิ่นจาวหนิงเห็นกับตาของตัวเองเลย
ผู้หญิงที่เป็นรักแรกของเขาคนนั้นหน้าตาคล้ายกับเธอมาก
ตอนที่อยู่ห่างจากเขาสิบเมตร เธอได้โทรไปหาเขาและถามว่า “คุณย่าให้พวกเราไปตรวจร่างกายเพื่อเตรียมตัวตั้งครรภ์ไม่ใช่เหรอคะ? ตอนนี้คุณว่างไหม?”
“ตอนนี้ผมกำลังอยู่ในงานเลี้ยงสังสรรค์น่ะ ไม่มีเวลาเลย เอาไว้คราวหน้าแล้วกันนะ”
“ได้ค่ะ” เสิ่นจาวหนิงวางสายทันที
ไปงานเลี้ยงสังสรรค์กับผู้หญิงคนอื่นจนมาที่โรงแรมกันขนาดนี้แล้ว ยังคิดว่าจะมีคราวหน้าอีกเหรอ?
เสิ่นจาวหนิงเดินตามพวกเขาไปจนถึงหน้าประตูห้อง แล้วเธอก็ได้ยินเสียงพูดคุยปนหัวเราะกันอย่างมีความสุขจากในห้อง เธออยากจะบุกเข้าไปจับพวกเขาให้ได้คาหนังคาเขาเสียจริงๆ
แต่สุดท้าย เธอก็จากไป
ตอนนี้ความรู้สึกสิ้นหวังเย็นชามันมากกว่าความโกรธในตอนแรกแล้ว เสิ่นจาวหนิงจึงจึงตัดสินใจที่จะปล่อยไป
เธอรีบติดต่อทนายความเพื่อร่างข้อตกลงการหย่าขึ้นมาในทันที หลังจากที่เซ็นชื่อตัวเองเสร็จ หลินซูเยว่ผู้เป็นแม่ของลี่เยี่ยนซิวก็มาหาเธอ
พวกเธอนัดพบกันในร้านกาแฟ
“เสิ่นจาวหนิง เธอคงยังไม่รู้สินะว่า ซูม่านกลับมาแล้ว”
ซูม่านคือรักแรกของลี่เยี่ยนซิว แถมหลินซูเยว่ยังชอบเธอมากด้วย
“เธอเสนอเงื่อนไขมาได้เลย ต้องทำยังไงเธอถึงจะยอมไปจากอาซิวของพวกเรา” จากน้ำเสียงประโยคท้ายๆ ของหลินซูเยว่นั้นดูเหมือนจะเน้นย้ำ ฟังออกเลยว่าเธอดูมีความสุขมาก
เธอไม่เคยพอใจเลยที่ได้เสิ่นจาวหนิงมาเป็นลูกสะใภ้ เพราะครอบครัวของเสิ่นจาวหนิงมีฐานะปานกลาง เธออยากจะหาลูกสะใภ้ที่มีฐานะเท่าเทียมกันให้กับลูกชาย เพื่อให้ตระกูลลี่สามารถยิ่งใหญ่และพัฒนาต่อไปได้
“ตกลงค่ะ โอนทรัพย์สินทั้งหมดภายใต้ชื่อของคุณมาให้ฉันซะ แล้วฉันจะหย่ากับลูกชายอันเป็นที่รักของคุณให้เลย” เสียงของเสิ่นจาวหนิงเรียบเฉยมาก
หลินซูเยว่ชอบการเก็งกำไรในอสังหาริมทรัพย์ เธอมีสินทรัพย์ที่เป็นชื่อของตนเองหลายหลังมาก มูลค่าตลาดรวมทั้งหมดหลายพันล้านเลยทีเดียว
“เธอพูดจริงใช่ไหม?” หลินซูเยว่ไม่คาดคิดว่าเสิ่นจาวหนิงจะตรงไปตรงมาขนาดนี้
เธอกับอาซิวแต่งงานกันอย่างลับๆ มาตั้งห้าปีแล้ว เธอยอมลาออกจากงานและยอมมาเป็นแม่บ้านเพื่อคอยดูแลลี่เยี่ยนซิว
ทุกคนต่างก็คิดว่าเสิ่นจาวหนิงรักลี่เยี่ยนซิวมาก
“ค่ะ ฉันเบื่อแล้ว แล้วก็รำคาญด้วย ฉันอยากหย่าแล้ว” เมื่อนึกถึงใบหน้าของซูม่าน เสิ่นจาวหนิงก็รู้สึกหนาวไปทั้งตัว
ที่ลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอ ไม่ใช่เพราะเขารักเธอ แต่เพราะว่าเธอมีหน้าตาที่คล้ายคลึงกับรักแรกของเขามาก
มิน่าล่ะ หลังจากที่เธอจีบลี่เยี่ยนซิวติดแล้ว ทุกครั้งเวลาที่เสิ่นจาวหนิงถามเขา ‘คุณรักฉันไหม’ เขาจะตอบแบบคลุมเครือตลอด
เสิ่นจาวหนิงรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งใจ แต่ก็ไม่อยากที่จะร้องไห้ออกมา
ก็แค่ผู้ชายคนหนึ่งที่เหมือนขยะไม่มีผิด แค่โยนเขาทิ้งไปก็สิ้นเรื่องแล้ว
หลินซูเยว่ดีใจมาก เธอไม่ชอบเสิ่นจาวหนิงมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ด้วยความที่อีกฝ่ายมีภูมิหลังทางครอบครัวที่ธรรมดา กิริยามารยาทและการวางตัวก็ดูไม่เรียบร้อยเอาซะเลย
“ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา วันนี้เธอดูมีไหวพริบที่สุดแล้ว ฉันขอเพิ่มเงื่อนไขอีกข้อหนึ่ง เธอห้ามนำเรื่องการแต่งงานอย่างลับๆ นี้ไปบอกใครเด็ดขาด แล้วก็ห้ามให้อาซิวรู้ว่าฉันมาเจรจากับเธอด้วย”
“ตกลงค่ะ”
เสิ่นจาวหนิงพูดด้วยรอยยิ้มเย้ยหยันว่า “หลังจากที่ฉันหย่าให้แล้ว อสังหาริมทรัพย์ทั้งสิบหลังที่อยู่ภายใต้ชื่อของคุณจะต้องเป็นของฉันทั้งหมด”
“ห้าหลังก็พอแล้ว ยังไงเราก็เป็นแม่สามีกับลูกสะใภ้กันนะ เธอควรจะเหลือเอาไว้ให้ฉันบ้างสิ”
“ขอโทษนะคะ ห้ามขาดไปแม้แต่หลังเดียว”
เสิ่นจาวหนิงยืนขึ้นพลางพูดว่า “ไม่เช่นนั้น ฉันจะไม่ยอมสละตำแหน่งคุณนายลี่ให้เด็ดขาด คุณน่าจะทราบดีนะคะว่า ตำแหน่งคุณนายลี่มีค่ามากกว่าบ้านสิบหลังมากขนาดไหน”
“ก็ได้” หลินซูเยว่ตอบตกลงไปอย่างไม่เต็มใจ
หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงออกไปแล้ว เธอก็เดินผ่านน้ำพุไปก่อนจะไปหยุดยืนอยู่เป็นเวลานาน
หลังจากคิดอะไรหลายๆ อย่างแล้ว ในที่สุดเธอก็ถอดแหวนแต่งงานออก แล้วก็โยนลงสระน้ำ จากนั้นก็เดินไปโดยไม่หันกลับมามองอีกเลย
นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เธอไม่ได้กลับบ้าน แต่กลับไปที่บาร์ แถมยังเรียกหนุ่มบาร์โฮสต์สองสามคนมานั่งเป็นเพื่อนอีกด้วย
หนุ่มบาร์โฮสต์มีหน้าตาหล่อเหลา ฟันขาว พูดจาไพเราะ ทุกคนมีกล้ามหน้าท้องที่สวยงามมาก
เธอสามารถสัมผัสใครก็ได้ตามที่เธอต้องการ ซึ่งดีกว่าสามีที่เย็นชาเหมือนภูเขาน้ำแข็งนับพันปีที่ชอบไม่สนใจเธอเป็นไหนๆ
ในบาร์มีคนที่สนิทกับลี่เยี่ยนซิวนั่งอยู่ด้วย เซียวเป่ยเฉินเห็นแค่แวบแรกก็จำได้ทันทีว่าคือเสิ่นจาวหนิง……ผู้หญิงที่มักจะคอยตามลี่เยี่ยนซิวอยู่บ่อยๆ แต่กลับไม่มีสถานะ แม้แต่แฟนก็ยังไม่ได้เป็น
เมื่อเห็นท่าทางที่จับเนื้อจับตัวหนุ่มบาร์โฮสต์พวกนั้น เซียวเป่ยเฉินก็โทรไปหาลี่เยี่ยนซิวทันที
“ว่าไง?” น้ำเสียงของลี่เยี่ยนซิวเย็นชาเช่นเคย
“นายทะเลาะกับผู้ติดตามสาวคนนั้นเหรอ?”
ลี่เยี่ยนซิวไม่ได้พูดอะไร
เซียวเป่ยเฉินจึงพูดต่ออีกว่า “ฉันเห็นเธอที่บาร์น่ะ เธอเข้าไปในห้องส่วนตัวกับหนุ่มบาร์โฮสต์หลายคนเลยล่ะ”
“นายส่งที่อยู่บาร์และเบอร์ห้องส่วนตัวมาให้ฉันที”