/0/13589/coverbig.jpg?v=d0818245e191ad0db973d33747c48579)
ทันทีที่ลืมตา เธอพบว่าตัวเองได้มาอยู่ในร่าง “นาเซีย” นางร้ายที่กำลังจะพบจุดจบ เพียงแค่อยากมีชีวิตรอดจนกว่าจะหาทางกลับโลกเดิมได้ แต่ทำทุกคนถึงได้มาวุ่นวายกับเธอกันจัง
ทันทีที่ลืมตา เธอพบว่าตัวเองได้มาอยู่ในร่าง “นาเซีย” นางร้ายที่กำลังจะพบจุดจบ เพียงแค่อยากมีชีวิตรอดจนกว่าจะหาทางกลับโลกเดิมได้ แต่ทำทุกคนถึงได้มาวุ่นวายกับเธอกันจัง
~นำนางไปโยนไว้ที่สวน~
เสียงตะคอกที่ดังใกล้โสตประสาท หญิงสาวในชุดราตรีสีครามเธอพยายามที่จะยกเปลือกตาที่แสนจะหนักอึ่งของเธอขึ้นมองดู แต่มันยากเกินไป
‘เกิดอะไรขึ้นกับตัวเรากัน’ ความคิดสงสัยพลันผุดขึ้นในหัวของเธอ
~ นางงดงามราวเทพธิดา แต่นิสัยนางช่างร้ายกาจเกินไป~ เสียงหนึ่งดังขึ้นเช่นเดิม แต่น้ำเสียงกับผิดแผลกไปจากเมื่อครู่
~ในเมื่อองค์รัชทายาทไม่สนใจ งั้นพวกเราก็มอบความสุขนั่นให้นางไม่ดีกว่าเหรอ~
~ ใช่ข้าอยากจะรู้นักว่าท่าทางหยิ่งยโสของนางจะเป็นอย่างไร ในเมื่อพวกเรามอบความสำราญนั้นให้แก่นาง~ สิ้นเสียงพูดนั้น เสียงหัวเราะของเหล่าบุรุษก็ดังขึ้นรอบ ๆ ตัวเธอ
หญิงสาววัยเลยเลขสามเธอเพิ่งจะทิ้งศีรษะลงเตียงเพียงไม่กี่นาทีก่อน กลับได้ยินเสียงของใครบางคนที่ไม่คุ้นเคยดังขึ้นรอบ ๆ ตัวเธอ ทั้งตัวเธอเองยังรู้สึกเหมือนลากดึงจนเจ็บ แต่เธอไม่สามารถลืมตาได้นี่ซิ เธอจึงแยกไม่ออกว่าสิ่งนี้คือความฝัน หรือเธอกำลังถูกลักพาตัว แต่ถ้าถูกลักพาตัวใครกันที่ทำเรื่องแบบนี้ พ่อแม่เธอก็ไม่มีพวกเขาต้องการอะไรกันแน่ หญิงสาวพยายามที่จะลืมตาขึ้น จนในที่สุดความพยายามเธอก็สำเร็จ แต่สิ่งที่เห็นตรงหน้ากลับเป็นเหล่าบุรุษรูปร่างสูงใหญ่สวมเสื้อเกาะราวอัศวิน เธอมองพวกเขาอย่างไม่แน่ใจ
“ขะ..ขอโทษนะคะ พวกคุณเป็นใคร” เธอพยายามเปล่งเสียงเอ่ยถามพวกเขา แต่คนเหล่านั้นกลับหัวเราะใส่กับคำถามของเธอ
“ดูท่าเลดี้คงลืมไปแล้วกระมังว่าได้ทำสิ่งใดไว้ให้กับสตรีขององค์รัชทายาท” หญิงสาวขมวดคิ้วหมุน เธอไม่เข้าใจในสิ่งที่พวกเขาบอก จนเมื่อภาพหนึ่งพุ่งปรากฏในศีรษะเธอ มันเป็นภาพจากเว็บตูนที่เธอเพิ่งอ่านและวางมันลงก่อนหน้านี้ นาเซีย นางร้ายที่มีราชินีเป็นผู้ให้ท้ายนาง กำลังวางยาในแก้วไวน์ของเซลีนนางเอกของเรื่อง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอหรือเพราะเธอเพิ่งอ่านมันไปทำให้เธอเก็บมาอยู่ในฝัน
เธอลองกัดปากตนเองเพียงเล็กน้อย ความเจ็บที่ได้สัมผัสมันดูเกินจริง แววตากลมกวาดมองไปรอบ ๆ สวนดอกไม้ที่ประดับแสงไฟดูเพียง ริบหลี่และมืดจนสามารถช่วยอำพรางบุคคลเหล่านี้ให้กระทำผิดได้ ในความคิดเธอยังคงไม่แน่ชัดแต่เมื่อบุรุษสูงใหญ่นี้วางเธอลงเก้าอี้ตัวยาวในสวน เธอจึงรีบที่จะวิ่งออกจากตรงนั้นทันที
เพลี๊ยะ!! แรงฟาดจากฝ่ามือทำให้ใบหน้าของเธอรู้สึกชาหนึบ เธอแน่ชัดแล้วว่านี่คือสิ่งที่เธอกำลังเผชิญด้วยความจริง
“คิดจะหนีพวกเราไปไหน เลดี้ดาร์เรล” หนึ่งในทหารที่อุ้มเธอออกมากล่าวขึ้น พร้อมสีหน้าที่ดูน่าหวาดกลัว หากนี่คือการสลับร่างหรือทะลุมิติในตอนนี้ ตัวเธอคงอยู่ในร่างของ ดาร์เรล นาเซีย หญิงสาวที่มีใบหน้ายิ่งยโส และนิสัยร้ายกาจ แต่เธอจะทำยังไงดีล่ะ เพราะนิยายเรื่องนี้มันเป็นเรทสิบเก้า เธอคงต้องพยายามครองสติตัวเองให้ดีคิดหาทางออกจากสถานการณ์ที่เลวร้ายนี้เสียก่อน
เพราะแผนการชั่วร้ายของนาเซียคิดหวังจะวางยาปลุกอารมณ์ให้กับเซลีน และนำพาเธอไปมอบให้แก่ดยุกบริกาเอล ลูเซียง มิกาเอล ตัวร้ายชายที่ต้องการครอบครองเซลีนด้วยแต่นาเซียกลับคาดไม่ถึงว่าแผนการของเธอจะถูกองค์รัชทายาทจับได้ในขณะที่กำลังยื่นแก้วให้กับเซลีน องค์รัชทายาทอย่าง แคลบอร์น ลูเซียง ลาฟาซ พระเอกของเรื่องจึงสั่งให้ทหารจับไวน์นั้นกรอกปากนางและนำไปโยนไว้ที่สวน แต่ทหารพวกนั้นกลับลงมือกระทำข่มขืนนาเซีย ทำให้เธอไม่สามารถสู้หน้าในสังคมได้ สุดท้ายนางจึงฆ่าตัวตาย
กลับมายังสถานการณ์ตรงหน้าเหตุการณ์เหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับนาเซียตัวจริง แต่กำลังเกิดขึ้นกับเธอ หญิงสาวมองเหล่าทหารนั้นที่พยายามจะเข้ามาลูบคล่ำเรียวขาเธอ จนรู้สึกขนลุกด้วยความหวาดกลัว เธอนึกได้ว่า นาเซีย นั้นได้นัดหมายดยุกกาบริเอลไว้อีกฝั่งของสวน ที่อยู่ติดกับปราสาทที่พักชั่วคราวของเขา
“..พี่คะ มะ ไม่ พวกท่านช้าก่อน” เธอเอ่ยขึ้นเมื่อนึกแผนที่จะหลบหลีสถานการณ์นี้ขึ้นมาได้ เธอคาดหวังว่ามันจะสำเร็จหากดยุกกาบริเอลพอจะเห็นใจช่วยเหลือนาเซียสักนิด
“ข้าว่าที่นี่มันไม่ค่อยสะดวกนัก หากเป็นเรือนกระจกฝั่งตรงข้ามสวนนี้พวกท่านคิดว่าไม่ดีกว่าหรือ” นาเซียยกมือลูบใบหน้าทหารหนึ่งที่กำลังลูบไล้เรียวขาของเธอ พวกเขายกยิ้มอย่างพอใจ
“ไม่เลว ข้าหวังว่าเลดี้จะสนุกสนานและดื่มด่ำความสุขในค่ำคืนนี้กับพวกเรา” พูดจบพวกเขาก็ประคองร่างที่ดูบอกบางของนาเซียขึ้น เธอรู้สึกถึงความร้อนที่ระบายออกมาจากตัว คงเป็นเพราะฤทธิ์ยาที่เธอดื่มเข้าไป มันช่างรุมร้อนเสียจนอยากจะปลดเปลื้องอาภรณ์เสียออกให้หมด แต่ในตอนนี้เธอต้องฝืนร่างกายนี้ไว้เสียก่อน
เรือนกระจกที่แยกออกมาไกลพอสมควร นาเซียกวาดสายตามองทั่วเรือนกระจก ‘หรือยังไม่ถึงเวลานัด’ เธอกลืนน้ำลายแห้ง ๆ ลงคอ ดูท่าร่างกายนี้จะทนกับฤทธิ์ยาไม่ไหว หากดยุกกาบริเอลยังไม่โผล่มาดูท่า เธอคงถูกทหารพวกนี้เล่นสนุกกับร่างกายของนาเซียเป็นแน่
“อะแฮ่ม เลดี้คาร์เรล ไม่คิดว่าท่านจะต้องพาเหล่าทหารมาอารักขาด้วย” มิกาเอลทักขึ้นจากทางด้านหลังเธอ นาเซียรีบใช้โอกาสนี้วิ่งไปหาเขา และกระซิบบอกมิคาเอลทันที
“ช่วยข้าด้วย” คิ้วหนากระตุกมองเธอ ก่อนจะหันไปมองเหล่าทหารพวกนั้น
“ออกไป ข้ามีธุระที่จะคุยกับเลดี้” เขาตวาดเสียงดังจนทหารเหล่านั้นต้องรีบวิ่งออกจากเรือนกระจก แม้เขาไม่เอ่ยเพียงแค่สายตาทุกคนต่างก็ย่อมหลบหลีกให้ ดยุกกาบริเอล ลูเซียง มิกาเอล ใคร ๆ ต่างก็รู้จักเขาดีในฐานะโล่แห่งจักรวรรดิหลานชายคนโปรดของกษัตริย์แคลบอร์น เดิมบิดาเขาคือกษัตริย์แคลบอร์น แต่เพราะร่างกายที่ไม่แข็งแรงทำให้เสียชีวิตลง อำนาจทุกอย่างจึงตกเป็นของน้องชายเพียงคนเดียวของเขา นั้นก็คือกษัตริย์แคล บอร์นองค์ปัจจุบัน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็รักดยุกกาบริเอลมากพอ ๆ กับบุตรชายของเขา
นาเซียกอดตัวเองที่กำลังรุมร้อนเนื้อตัวเธอราวกับมีไฟอยู่รอบตัว เม็ดเหงื่อมากมายแทรกซึมเต็มใบหน้า เธอทิ้งตัวนั่งลงกองอยู่ที่พื้นก่อนจะใช้กำลังสุดท้ายที่เหลืออยู่เกาะขาของเขา
“ได้โปรด ช่วยพาข้าออกไปจากที่นี่ที” น้ำเสียงที่แหบแห้ง เธอพยายามที่จะเอ่ยขอร้องเขา ใบหน้าหน้าที่ดูเหมือนแสยะยิ้มกำลังจับจ้องท่าทางของเธอ นาเซียยกสองมือถึงขากางเกงของเขาอย่างยากลำบาก
“ขอร้องละ พาข้าออกไปจากที่นี่ก่อนแล้วข้าจะอธิบายให้ท่านดยุกได้ฟัง” เธอขอร้องเขา แววตากลมที่เปื้อนเปรอะไปด้วยคราบน้ำตา เธอพยายามอดทนกับความร้อนที่แผ่ออกมานี้สร้างความทรมานมากนัก
“ข้าเห็นแก่เลดี้ที่เคยช่วยข้าไว้บ้างหลอกนะ มิเช่นนั้นแล้วข้าคงมิคิดที่จะไล่พวกหิวกระหายพวกนั้นแน่” มิกาเอลมองออกตั้งแต่แรก เขารู้ว่านั้นคือเหล่าทหารชั้นล่างที่มักจะถูกเรียกใช้ยามที่ต้องทำงานสกปรก ไม่ต่างกับพวกรับจ้างทั่วไป เขาอุ้มร่างบางขึ้นก่อนจะเดินออกมายังปราสาทรับรองของเขา สถานที่ที่ใกล้ที่สุดในตอนนี้ นาเซียที่ถูกอุ้มขึ้นแนบสัมผัสกับแผลงอกกำยำของเขา ร่างกายเธอก็ยิ่งร้อนมากขึ้น ใบหน้าเรียบนิ่งแววตาคมดุริมฝีปากยักโค้งเหยียดตรง ปลายจมูกที่ดูเชิดรั้น นาเซียจ้องมองราวอยากสัมผัส
“เตรียมน้ำเย็นให้เลดี้” เสียงเขาสั่งสาวใช้ในปราสาทก่อนจะอุ้มเธอเข้าไปยังห้องหนึ่ง ก่อนจะวางตัวเธอไปกับที่นอนกว้าง
“อืมมม” นาเซียใช้โอกาสที่เขากำลังวางตัวเธอลงคว้าคอเขาโน้มลงจูบริมฝีปากยักโค้งนั่น
ผลั๊ก!! ยังไม่ทันที่โน้มน้าวอารมณ์ในตัวเขา ตัวเธอกระเด็นลงที่นอนอย่างเต็มแรง มิกาเอลผลักเธอออกทันทีที่เธอจูบสัมผัสริมฝีปากของเขา
“ไร้มารยาท เลดี้ควรหักห้ามอารมณ์ตนเองด้วย” เขาลุกพรวดขึ้นจ้องมองเธอราวกับจะฉีดเธอออกเป็นชิ้น ๆ แม้เขาจะรู้ดีว่าอาการที่นางกำลังเป็นคงเกิดจากถูกบางสิ่งบางอย่างทำให้เกิดความร้อนขึ้นได้ นาเซียไม่แปลกใจเลยที่เขาผลักไสเธอราวกับรังเกลียด เพราะนาเซียนั้นร้ายกาจไม่น้อยไปกว่าแม่มดชั่วร้าย อีกทั้งต่อให้นาเซียเป็นสตรีที่งดงามแต่กับเขาแล้วความหลงใหลนั้นไม่เคยพลาดผ่านสายตาของเขาเลย มีเพียงเซลีนนางเอกของเรื่องเพียงคนเดียวที่สามารถทำให้มิคาเอลอยากครอบครอง มิกาเอลหลงใหลเซลีนหลังจากงานฉลองครองราชกษัตริย์แคลบอร์นเมื่อปีก่อน เขาพบกับ เซลีนด้วยความบังเอิญในตอนนั้นอาการเจ็บป่วยของเขากำเริบทำให้เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เซลีนที่มีพลังเยียวยาช่วยเหลือเขาให้อาการสงบลง ท่าทางอ่อนโยน และการรักษาอาการเจ็บปวดนั้นได้ทำให้เขาสนใจในตัวเซลีนทันที หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พยายามตามหาว่าเซลีนคือบุตรสาวตระกูลใด แต่พอเขาได้รู้ตอนนั้นเซลีนก็ได้คบหากับ องค์รัชทายาทแคลบอร์น ลูเซียง ลาฟาซ แล้ว เขาโกรธมากที่ลาฟาซแย่งคนที่เขามุ่งหมาย เขาจึงพยายามที่จะเข้าหาเซลีน แม้จะทำให้ลาฟาซไม่พอใจก็ตาม นาเซียที่มองสถานการณ์ระหว่าดยุกมิกาเอล และองค์รัชทายาทแคลบอร์น เธอจึงใช้โอกาสนี้ในการให้ดยุกกาบริเอลเข้าหาเพื่อที่จะให้แย่งเซลีนไป ส่วนเธอก็จะได้ลาฟาซ พร้อมตำแหน่งอนาคตราชินีคนต่อไปมาเช่นกัน
หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”
‘สวรรค์หรือโชคชะตาที่เล่นตลก คนอื่นทะลุมิติมามีแต่คนรุมรัก ทว่าตั้งแต่ข้าฟื้นมามีแต่คนอยากจะฆ่า ในเมื่อข้าอยากเป็นเพียงคุณหนูเสพสุขไปวัน ๆ แต่บารมีไม่ถึงวาสนาไม่อำนวย เช่นนั้นข้าจะทำตามลิขิตฟ้า กลายเป็นนางร้ายอย่างที่สวรรค์ต้องการ’
ในฐานะที่เธอมีทรัพย์สินนับพันล้านและเป็นลูกสาวที่ได้รับการฝึกฝนอย่างลับๆ โดยรัฐบาล เฉียววานก็ถูกจัดสรรพ่อแม่ให้ในที่สุด แต่ไม่คาดคิด เธอถูกขับออกจากครอบครัวถึงสามครอบครัว การฝึกฝนความสัมพันธ์เป็นญาติพี่น้องก็ล้มเหลวซ้ำๆ จนกระทั่งเธอถูกตระกูลฮั่วรับอุปการะ เฉียววานที่น่าสงสารถูกพ่อแม่บุญธรรมทุ่มเงินให้ตามใจ แสดงความรักอย่างสุดโต่งจนดูเหนือจริง ทำให้บางคนอิจฉาจนบ้าคลั่ง ปล่อยข่าวลือว่า "เฉียววานไม่มีความสามารถใดๆ เลย ต้องอาศัยการทำตัวน่าสนสารเพื่อเรียกร้องความสนใจจากตระกูลฮั่ว!" แต่วันถัดมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศยืนต้อนรับด้วยตัวเอง “ศาสตราจารย์เฉียว ห้องแล็บของคุณเตรียมพร้อมแล้ว” มหาเศรษฐียื่นสัญญาให้ “บอส รายงานการเงินปีนี้กำไรเพิ่มขึ้น 300%!” องค์กรแฮกเกอร์นานาชาติก็เกิดความวุ่นวาย “พี่ใหญ่ ถ้าคุณไม่ออนไลน์ ระบบการเงินจะล่มแล้ว” เมื่อความลับของเฉียววานถูกเปิดเผยทีละอย่าง ทั้งโลกออนไลน์ก็เดือดดาล กู้ซือหาน ผู้ทรงอำนาจและเย็นชาแห่งเมืองจิง จู่ๆ ก็จับเธอไว้ที่มุมกำแพง นิ้วของเขาลูบไล้ริมฝีปากของเธอเบาๆ “คุณนายกู้ เล่นสนุกมากพอหรือยัง? ถึงเวลากลับบ้านไปมีลูกได้แล้ว” เฉียววานหน้าแดงก่ำ “ใคร ใครจะไปมีลูกกับคุณล่ะ” ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ และหยิบบัตรดำวงเงินไม่จำกัดใส่มือเธอ “มีลูกคนหนึ่ง จะมอบเกาะส่วนตัวให้ให้หนึ่งเกาะ”
ตระกูลซูล่มสลาย จวนเจิ้นกั๋วทั้งตระกูลถูกประหารชีวิตในคืนเดียว ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งถูกน้องสาวหลอกใช้ ถูกชายเจ้าชู้เล่นตลก ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งใช้ชีวิตอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่แคว้นเป่ยเหลียงสิบกว่าปี แต่กลับถูกกล่าวหาว่าคบคิดกับศัตรู คนทั้งแคว้นเซิ่งถังต่างก็ด่าทอยกใหญ่ ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งต้องยืนมองน้องสาวกับรักแรกของตนสนิทสนมกัน ครองโลก ส่วนตัวเองกลับโดนประหารชีวิต เลือดสาดตะวัน เมื่อตื่นขึ้นอีกครั้ง… ซูเฉิงอิ้งถือดาบกลับมา ฟาดแรก… ตัดสายเลือด ฟันน้องสาวอกตัญญู ฟาดที่สอง… ตัดความรัก ฟันรักแรกที่หน้าเนื้อใจเสือ ฟาดที่สาม… ตัดคำพูด ฟันทุกเสียงนินทาของเป่ยเหลียงที่บิดเบือนความจริง ฟาดที่สี่… ตงฟางไป๋เยว่ “หรือว่าฮูหยินอยากจะฆ่าสามีผู้นี้ด้วยหรือ” ซูเฉิงอิ้ง“หุบปาก…”
ความทะเยอทะยานผลักดันให้นางปีนขึ้นสู่ตำแหน่งฮองเฮาทว่ายังมิทันจะได้เสวยสุข กลับถูกฮ่องเต้ผู้เป็นสวามีสวมข้อหากบฏวางลงบนศีรษะนาง เกิดใหม่คราวนี้นางไม่ขอเป็นฮองเฮาของฮ่องเต้สารเลวผู้นั้น ชีวิตนี้ที่ได้มาใหม่อีกครั้ง นางจะลิขิตเอง
นางไร้หัวใจ ไม่คิดรักองค์ฮ่องเต้แม้เพียงสักครั้ง เขายับยั้งใจ กลับตกอยู่ใต้ห้วงเสน่หาสนมเอกผู้นี้
© 2018-now MeghaBook
บนสุด