เพราะพ่อของเธอคิดใช้เล่ห์เหลี่ยมจับเขาให้แต่งงานกับลูกสาวของตัวเอง เขาจึงแก้แค้นคืนกลับไปอย่างสาสม ผู้หญิงที่เขาหลงรักกลับเป็นคนที่เขาเคยเกลียดและทำลายเขาควรทำเช่นไรให้ได้นางฟ้าอย่างเธอและลูกกลับคืนมา
เพราะพ่อของเธอคิดใช้เล่ห์เหลี่ยมจับเขาให้แต่งงานกับลูกสาวของตัวเอง เขาจึงแก้แค้นคืนกลับไปอย่างสาสม ผู้หญิงที่เขาหลงรักกลับเป็นคนที่เขาเคยเกลียดและทำลายเขาควรทำเช่นไรให้ได้นางฟ้าอย่างเธอและลูกกลับคืนมา
ณ กรุงเทพมหานคร
ตึกสูงสามสิบชั้นใจกลางเมืองของกรุงเทพ บริษัทนพดลการค้า จำกัด บริษัทด้านการส่งออกสินค้าอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย ชั้นบนสุดของอาคารห้องท่านประธานบริษัทตอนนี้กำลังเต็มไปด้วยความไม่พอใจ และโกรธเคืองที่ลูกน้องทำงานไม่สำเร็จ
"ขอโทษครับนาย คุณชาร์ลปฎิเสธที่จะร่วมหุ้นกับเราครับ" สิงห์มือขวาและเลขาส่วนตัวของนพดลกล่าวด้วยใบหน้าสำนึกผิด
"ฉันไม่คิดเลย ว่ามันจะหยิ่งขนาดนี้ถ้าไม่ใช่เพราะมันเป็นถึงอภิมหาเศรษฐีและนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ฉันคงไม่ง้อมันมาถึงขนาดนี้หรอก"
นพดลกล่าวด้วยความไม่พอใจปนผิดหวังตลอดสามเดือนที่ผ่านมาเขาพยายามที่จะเชิญชวน ชาร์ล เวลล็อค มาร่วมหุ้นด้วยตลอดแต่ก็ต้องผิดหวัง
"นายไม่ลองชวนนักธุรกิจคนอื่นดูล่ะครับ" สิงห์กล่าวแนะด้วยใบหน้าที่เกรงกลัวนิด ๆ เผื่อนายท่านจะเปลี่ยนใจ
"แกคิดว่าดีแล้วหรือถึงกล้าแนะนำฉันแบบนี้ แกก็รู้ว่าฐานะการเงินของบริษัทเป็นยังไง ถ้าฉันได้ร่วมหุ้นกับไอ้หนุ่มนั่นชื่อเสียงและเงินร่วมหุ้นของมันก็จะทำให้บริษัทมั่นคงขึ้น นักธุรกิจคนอื่นก็ล้วนแล้วอยากจะร่วมหุ้นกับมัน เพราะมันจับต้องอะไรก็ประสบความสำเร็จหมด อีกอย่างฉันอยากให้ยัยหนูมีคนเก่ง ๆ แบบนี้เคียงข้างในวันข้างหน้าด้วย" นพดลกล่าวด้วยใบหน้าที่ยิ้มย่องและเจ้าเล่ห์
"นายท่านคงไม่ได้คิดที่จะจับคู่ให้คุณหนูด้วยหรอกนะครับ" สิงห์กล่าวด้วยใบหน้าอยากรู้และตกใจ
"ฮึ ฮึ ฮึ แกคิดว่าฉันพยายามขนาดนี้เพื่ออะไรล่ะ ยัยอันอ่อนเกินไปคงสานต่อธุรกิจของฉันไม่ได้แน่ ว่างจากเรียนสนใจแต่ทำอาหารและขนมอย่างเดียว แล้วแบบนี้สิ่งที่ฉันสร้างมากับมือจะให้พังลงไปง่าย ๆ งั้นเหรอ"
"แต่คุณหนูอายุห่างจากคุณชาร์ลเป็นรอบเลยนะครับ อีกอย่างคุณหนูก็อ้วนมากด้วย ผู้หญิงที่รายล้อมรอบคุณชาร์ลก็ล้วนแล้วแต่สวยๆทั้งนั้น คุณชาร์ลจะสนใจและยอมให้จับง่าย ๆ เหรอครับ" สิงห์กล่าวด้วยใบหน้าที่เป็นกังวล
"ถ้าพูดถึงความสวยฉันคิดว่า ถ้ายัยอันผอมขึ้นมาก็ต้องสวยไม่แพ้ใครแน่นอน " นพดลกล่าวถึงบุตรสาวด้วยความภาคภูมิใจ
คฤหาสน์อมรพิพัฒน์รัตนกุล
"คุณหนูยังไม่กลับมาอีกเหรอคุณนมสาย" นพดลถามด้วยความสงสัย
"คุณหนูกลับมาแล้วค่ะ สงสัยคงอาบน้ำอยู่ค่ะคุณท่าน เดี๋ยวนมให้มะลิไปตามให้ค่ะ" แม่นมสายตอบด้วยความนอบน้อม
"ไม่ต้องไปตามหนูอันหรอกค่ะ หนูอันมาแล้วคิดถึงคุณพ่อจังเลยค่ะ” สาวน้อยทรงอวบอ้วนตอบบิดาและวิ่งเข้ามากอดด้วยใบหน้าที่มีความสุข
เมื่อสิบห้าปีก่อน
สาวน้อยต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าแม่เพราะโรคหัวใจ ทำให้นมสายสาวใช้คนสนิทของคุณญาดาผู้เป็นภรรยาของคุณนพดล ต้องผันตัวเองมาเป็นคนเลี้ยงคุณหนูอันในวัยสามขวบแทน นมสายเก่งด้านทำอาหารกับขนมมาก ดังนั้นคุณหนูอันจึงติดนิสัยชอบเข้าครัวทำอาหารและชอบชิมชอบทานไปด้วย จึงเป็นสาเหตุอย่างหนึ่งที่ทำให้คุณหนูอันอวบอ้วนอย่างทุกวันนี้
"ปีนี้หนูอายุสิบแปดแล้วนะหนูอัน ตอนนี้หนูน้ำหนักเท่าไรแล้ว พ่อว่าปิดเทอมนี้หนูควรเข้าคอร์สลดน้ำหนักอย่างจริง ๆ จัง ๆ ซะที ไม่งั้นพ่อคงอดได้ลูกเขยกับคนอื่นเค้าแน่"นพดลกล่าวด้วยสีหน้าล้อเลียนลูกสาว
"โถ...คุณพ่อขาไม่อยากเลี้ยงหนูอันแล้วหรือคะ หนูอันยังเรียนไม่จบเลยนะคะ แถมอายุยังไม่ถึงยี่สิบด้วยไม่มีผู้ชายมาจีบหนูอันก็ดีแล้วนี่คะหนูอันจะได้อยู่กับคุณพ่อไปนาน ๆ ไงคะ หรือคุณพ่อเบื่อหนูอันแล้วคะถึงอยากให้หนูอันไปอยู่กับคนอื่นค่ะ" สาวน้อยแต่ร่างอวบอ้วนกล่าวด้วยใบหน้าแสนงอนบิดานิด ๆ
"ไม่ใช่ยังงั้น หนูก็รู้นี่ว่าพ่อรักหนูแค่ไหนแถมพ่อก็มีโรคประจำตัวอีกไม่รู้จะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน พ่อก็แค่อยากให้หนูและธุรกิจของเรามีคนดูแลต่อจากพ่อ ถ้าพ่อเป็นอะไรไปและพ่อเชื่อว่าถ้าหนูผอมได้หนูต้องสวยมากแน่เพราะทุกวันนี้ถึงจะอวบอ้วนแต่ผิวพรรณขาวเนียนราวผิวเด็กทารก และโครงหน้ากลับสวยหวานอ่อนโยน ดวงตากลมโตแพขนตายาวงอนเรียกได้ว่าแทบไม่ต้องใส่ขนตาปลอมเลยทีเดียว" นายนพดลพยายามพูดให้กำลังใจบุตรสาว
"คุณพ่ออย่าพูดอย่างงี้สิคะ หนูอันเชื่อว่าคุณพ่อต้องได้อยู่กับหนูอันอีกนานค่ะ รอปิดเทอมแล้วหนูอันจะไปเข้าคอร์สอย่างที่คุณพ่อบอกก็ได้ค่ะ ตอนนี้หนูอันก็ลดเรื่องกินไปเยอะแล้วนะคะ แต่ไม่รู้ทำไมไม่ผอมลงสักทีค่ะ เฮ่อ..." อันนาดากล่าวและถอนหายใจอย่างเริ่มปลง
เพื่อนที่มหาลัยของเธอแต่ละคนก็หุ่นดี ๆ ทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่อยากได้หุ่นที่ดีผอมบางหุ่นเพรียว ที่ผ่านมาทั้งออกกำลังกายลดอาหารแต่สุดท้ายก็ลงแค่นิดเดียวเอง จนบางครั้งเธอยังรู้สึกว่าตัวเองพยายามน้อยเกินไปหรือเปล่า
"พ่อว่าเราไปทานอาหารเย็นกันเถอะ"
"ค่ะคุณพ่อ"
หนึ่งเดือนต่อมา
ก๊อก... เสียงเคาะประตูเพื่อขออนุญาตเข้าห้องหน้าห้องท่านประธานบริษัท
"เข้ามา"
"นายครับ ผมได้ข่าวมาว่าคุณชาร์ลมาที่เมืองไทยได้สามวันแล้วครับ"
"แล้วทำไมแกพึ่งมาบอกฉันตอนนี้ห้ะ" นพดลพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจปนหงุดหงิดเล็กน้อย
"ขอโทษครับนาย" สิงห์ตอบอย่างสำนึกผิด
ณ กรุงเทพมหานคร
ตึกสูงสามสิบชั้นใจกลางเมืองของกรุงเทพ บริษัทนพดลการค้า จำกัด บริษัทด้านการส่งออกสินค้าอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย ชั้นบนสุดของอาคารห้องท่านประธานบริษัทตอนนี้กำลังเต็มไปด้วยความไม่พอใจ และโกรธเคืองที่ลูกน้องทำงานไม่สำเร็จ
"ขอโทษครับนาย คุณชาร์ลปฎิเสธที่จะร่วมหุ้นกับเราครับ" สิงห์มือขวาและเลขาส่วนตัวของนพดลกล่าวด้วยใบหน้าสำนึกผิด
"ฉันไม่คิดเลย ว่ามันจะหยิ่งขนาดนี้ถ้าไม่ใช่เพราะมันเป็นถึงอภิมหาเศรษฐีและนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ฉันคงไม่ง้อมันมาถึงขนาดนี้หรอก"
นพดลกล่าวด้วยความไม่พอใจปนผิดหวังตลอดสามเดือนที่ผ่านมาเขาพยายามที่จะเชิญชวน ชาร์ล เวลล็อค มาร่วมหุ้นด้วยตลอดแต่ก็ต้องผิดหวัง
"นายไม่ลองชวนนักธุรกิจคนอื่นดูล่ะครับ" สิงห์กล่าวแนะด้วยใบหน้าที่เกรงกลัวนิด ๆ เผื่อนายท่านจะเปลี่ยนใจ
"แกคิดว่าดีแล้วหรือถึงกล้าแนะนำฉันแบบนี้ แกก็รู้ว่าฐานะการเงินของบริษัทเป็นยังไง ถ้าฉันได้ร่วมหุ้นกับไอ้หนุ่มนั่นชื่อเสียงและเงินร่วมหุ้นของมันก็จะทำให้บริษัทมั่นคงขึ้น นักธุรกิจคนอื่นก็ล้วนแล้วอยากจะร่วมหุ้นกับมัน เพราะมันจับต้องอะไรก็ประสบความสำเร็จหมด อีกอย่างฉันอยากให้ยัยหนูมีคนเก่ง ๆ แบบนี้เคียงข้างในวันข้างหน้าด้วย" นพดลกล่าวด้วยใบหน้าที่ยิ้มย่องและเจ้าเล่ห์
"นายท่านคงไม่ได้คิดที่จะจับคู่ให้คุณหนูด้วยหรอกนะครับ" สิงห์กล่าวด้วยใบหน้าอยากรู้และตกใจ
"ฮึ ฮึ ฮึ แกคิดว่าฉันพยายามขนาดนี้เพื่ออะไรล่ะ ยัยอันอ่อนเกินไปคงสานต่อธุรกิจของฉันไม่ได้แน่ ว่างจากเรียนสนใจแต่ทำอาหารและขนมอย่างเดียว แล้วแบบนี้สิ่งที่ฉันสร้างมากับมือจะให้พังลงไปง่าย ๆ งั้นเหรอ"
"แต่คุณหนูอายุห่างจากคุณชาร์ลเป็นรอบเลยนะครับ อีกอย่างคุณหนูก็อ้วนมากด้วย ผู้หญิงที่รายล้อมรอบคุณชาร์ลก็ล้วนแล้วแต่สวยๆทั้งนั้น คุณชาร์ลจะสนใจและยอมให้จับง่าย ๆ เหรอครับ" สิงห์กล่าวด้วยใบหน้าที่เป็นกังวล
"ถ้าพูดถึงความสวยฉันคิดว่า ถ้ายัยอันผอมขึ้นมาก็ต้องสวยไม่แพ้ใครแน่นอน " นพดลกล่าวถึงบุตรสาวด้วยความภาคภูมิใจ
คฤหาสน์อมรพิพัฒน์รัตนกุล
"คุณหนูยังไม่กลับมาอีกเหรอคุณนมสาย" นพดลถามด้วยความสงสัย
"คุณหนูกลับมาแล้วค่ะ สงสัยคงอาบน้ำอยู่ค่ะคุณท่าน เดี๋ยวนมให้มะลิไปตามให้ค่ะ" แม่นมสายตอบด้วยความนอบน้อม
"ไม่ต้องไปตามหนูอันหรอกค่ะ หนูอันมาแล้วคิดถึงคุณพ่อจังเลยค่ะ” สาวน้อยทรงอวบอ้วนตอบบิดาและวิ่งเข้ามากอดด้วยใบหน้าที่มีความสุข
เมื่อสิบห้าปีก่อน
สาวน้อยต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าแม่เพราะโรคหัวใจ ทำให้นมสายสาวใช้คนสนิทของคุณญาดาผู้เป็นภรรยาของคุณนพดล ต้องผันตัวเองมาเป็นคนเลี้ยงคุณหนูอันในวัยสามขวบแทน นมสายเก่งด้านทำอาหารกับขนมมาก ดังนั้นคุณหนูอันจึงติดนิสัยชอบเข้าครัวทำอาหารและชอบชิมชอบทานไปด้วย จึงเป็นสาเหตุอย่างหนึ่งที่ทำให้คุณหนูอันอวบอ้วนอย่างทุกวันนี้
"ปีนี้หนูอายุสิบแปดแล้วนะหนูอัน ตอนนี้หนูน้ำหนักเท่าไรแล้ว พ่อว่าปิดเทอมนี้หนูควรเข้าคอร์สลดน้ำหนักอย่างจริง ๆ จัง ๆ ซะที ไม่งั้นพ่อคงอดได้ลูกเขยกับคนอื่นเค้าแน่"นพดลกล่าวด้วยสีหน้าล้อเลียนลูกสาว
"โถ...คุณพ่อขาไม่อยากเลี้ยงหนูอันแล้วหรือคะ หนูอันยังเรียนไม่จบเลยนะคะ แถมอายุยังไม่ถึงยี่สิบด้วยไม่มีผู้ชายมาจีบหนูอันก็ดีแล้วนี่คะหนูอันจะได้อยู่กับคุณพ่อไปนาน ๆ ไงคะ หรือคุณพ่อเบื่อหนูอันแล้วคะถึงอยากให้หนูอันไปอยู่กับคนอื่นค่ะ" สาวน้อยแต่ร่างอวบอ้วนกล่าวด้วยใบหน้าแสนงอนบิดานิด ๆ
"ไม่ใช่ยังงั้น หนูก็รู้นี่ว่าพ่อรักหนูแค่ไหนแถมพ่อก็มีโรคประจำตัวอีกไม่รู้จะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน พ่อก็แค่อยากให้หนูและธุรกิจของเรามีคนดูแลต่อจากพ่อ ถ้าพ่อเป็นอะไรไปและพ่อเชื่อว่าถ้าหนูผอมได้หนูต้องสวยมากแน่เพราะทุกวันนี้ถึงจะอวบอ้วนแต่ผิวพรรณขาวเนียนราวผิวเด็กทารก และโครงหน้ากลับสวยหวานอ่อนโยน ดวงตากลมโตแพขนตายาวงอนเรียกได้ว่าแทบไม่ต้องใส่ขนตาปลอมเลยทีเดียว" นายนพดลพยายามพูดให้กำลังใจบุตรสาว
"คุณพ่ออย่าพูดอย่างงี้สิคะ หนูอันเชื่อว่าคุณพ่อต้องได้อยู่กับหนูอันอีกนานค่ะ รอปิดเทอมแล้วหนูอันจะไปเข้าคอร์สอย่างที่คุณพ่อบอกก็ได้ค่ะ ตอนนี้หนูอันก็ลดเรื่องกินไปเยอะแล้วนะคะ แต่ไม่รู้ทำไมไม่ผอมลงสักทีค่ะ เฮ่อ..." อันนาดากล่าวและถอนหายใจอย่างเริ่มปลง
เพื่อนที่มหาลัยของเธอแต่ละคนก็หุ่นดี ๆ ทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่อยากได้หุ่นที่ดีผอมบางหุ่นเพรียว ที่ผ่านมาทั้งออกกำลังกายลดอาหารแต่สุดท้ายก็ลงแค่นิดเดียวเอง จนบางครั้งเธอยังรู้สึกว่าตัวเองพยายามน้อยเกินไปหรือเปล่า
"พ่อว่าเราไปทานอาหารเย็นกันเถอะ"
"ค่ะคุณพ่อ"
หนึ่งเดือนต่อมา
ก๊อก... เสียงเคาะประตูเพื่อขออนุญาตเข้าห้องหน้าห้องท่านประธานบริษัท
"เข้ามา"
"นายครับ ผมได้ข่าวมาว่าคุณชาร์ลมาที่เมืองไทยได้สามวันแล้วครับ"
"แล้วทำไมแกพึ่งมาบอกฉันตอนนี้ห้ะ" นพดลพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจปนหงุดหงิดเล็กน้อย
"ขอโทษครับนาย" สิงห์ตอบอย่างสำนึกผิด
"แด๊ดดี้ตกเครื่องบินตายไปแล้วล่ะ อย่าถามถึงอีกเลยนะคะเด็กดี" "ถ้าแด๊ดดี้ตายไปแล้ว แด๊ดดี้นิสัยดีหรือเปล่าคะคุณครูบอกว่านิสัยดีได้ขึ้นสวรรค์ นิสัยไม่ดีตกนรกค่ะ สรุปแล้วแด๊ดดี้หนูอยู่สวรรค์หรือนรกคะ"
อยากแต่งงานกับฉันเธอต้องทนทุกอย่างได้แพรลตา ต่อให้เธอทำงานจนล้มตายไปต่อหน้าฉันก็จะไม่สน เพราะเธอก็เหมือนต้นหญ้าเล็กๆคอยรองเท้าเวลาที่ฉันเหยียบย่ำเท่านั้น
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
ในชาติก่อน ซูเยว่ซีถูกอวิ๋นถังยวี่ทำร้ายจนตาย ทำผิดต่อครอบครัวของท่านตา และตัวเองยังถูกทรมานจนตาย เกิดใหม่ครั้งนี้ นางตั้งใจจะจัดการกับพวกผู้ชายชั่วและหญิงเลวจัดการพ่อชั่ว เพื่อปกป้องแม่และครอบครัวของท่านตาให้ปลอดภัย พวกผู้ชายชั่วเข้ามาใกล้งั้นเหรอ นางจะใช้แผนให้เขาเสียชื่อเสียง หญิงตีสองหน้าเก่งชอบทำตัวอ่อนแองั้นเหรอ นางจะเปิดโปงธาตุแท้อีกฝ่ายและไล่นางออกจากจวนซู! ในชาตินี้ สิ่งที่นางต้องทำคือการจัดการพวกปลวกที่แอบแฝงอยู่ในราชสำนัก แก้แค้นคนทรยศ เพื่อปกป้องท่านตาที่เป็นคนซื่อสัตย์ นางใช้มือเรียวเป็นเครื่องมือ ก่อให้เมืองจิงเกิดความวุ่นวาย แต่ท่ามกลางความโกลาหล นางได้พบกับองค์ชาย ผู้ที่ทุกคนเล่าลือว่าเป็นคนพิการ “อวิ๋นเฮิง เจ้าจะมาขวางข้าหรือ” อวิ๋นเฮิงยิ้มเบาๆ “ไม่ ข้าตั้งใจจะมาช่วยเจ้า”
กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...
ทุกคนต่างรู้ดีว่าเจียงว่านหนิงรักเย่เชินมานานหลายปี เธอที่มักจะว่านอนสอนง่ายและน่ารักเสมอ ได้สักลายเพื่อเขาและยอมทนอยู่ใต้อำนาจผู้อื่น เมื่อเธอถูกทุกคนใส่ร้ายจนโดนตำหนิ เขากลับนิ่งเฉยและยังถึงขั้นให้เธอคุกเข่าให้แฟนเก่าของเขาอีกด้วย เธอที่รู้สึกอับอาย ในที่สุดก็หมดหวัง หลังจากยกเลิกการหมั้น เธอก็หันไปแต่งงานกับทายาทพันล้านทันที คืนนั้นเอง ใบทะเบียนสมรสของทั้งคู่ก็กลายเป็นข่าวฮิตบนโลกออนไลน์ เย่เชินที่เคยคิดว่าตัวเองเก่งกาจที่สุดก็เริ่มวิตกและพูดออกมาด้วยความโกรธว่า "อย่าเพ้อฝันไปเลย นายคิดว่าเธอรักนายจริงๆ งั้นเหรอ เธอแค่ต้องการใช้พลังอำนาจของตระกูลฟู่เพื่อแก้แค้นฉันเท่านั้นเอง" ฟู่จิงเซินจูบหญิงสาวในอ้อมกอดและตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจว่า "แล้วจะเป็นไรไปล่ะ ก็พอดีว่าฉันมีทั้งเงินและอำนาจนี่"
“ก่อนทำเรื่องนี้พี่ขอถามน้องภาสักข้อได้ไหม” ธาวิศพูดแล้วก้าวเท้าเข้าไปหาคนบนเตียง “ได้ค่ะ” นิภาก้มหน้ายามตอบ ธาวิศทิ้งสะโพกลงนั่งด้านข้าง พร้อมกับดันปลายคางของหญิงสาวให้ขึ้นมองหน้าเขา “น้องภาเต็มใจใช่ไหม” แววตาของคนถูกถามสั่นระริกไปมา ปากจิ้มลิ้มก็ขยับขึ้นลงเหมือนคนคิดไม่ออกว่าควรตอบอย่างไร “น้องภาพี่ถามว่าเต็มใจใช่ไหม หรือว่าถูกคุณยายบังคับ” คราวนี้ธาวิศเน้นน้ำหนักเสียงมากขึ้นกว่าเดิม “ภาเต็มใจค่ะ” หญิงสาวตอบเขาแล้ว แต่เป็นคำตอบที่เต็มไปด้วยความไม่มั่นใจในตัวเอง “ไม่ได้ถูกบังคับแน่นะ” “ค่ะ ภาไม่ได้ถูกบังคับ ภาเต็มใจค่ะพี่ภูมิ” ธาวิศกัดฟันกรอดในคำตอบที่เขาไม่ปรารถนาจะได้ยิน ออกแรงผลักหน้าอกนิภาจนล้มลงไปนอนอยู่บนเตียง ปลดกระดุมเสื้อนอนของตนเองออกทีละเม็ด โดยที่สายตาก็ยังจดจ้องอยู่กับคนตรงหน้า “ระหว่างเรามันจะไม่มีความผูกพันอะไรกันทั้งนั้น เราทำเรื่องนี้ก็เพื่อคุณยาย เสร็จจากนี้ไปพี่ก็จะกลับกรุงเทพฯ ไปใช้ชีวิตกับคนรักของพี่ตามเดิม ภายังรับได้อยู่ใช่ไหม” ชายหนุ่มพูดจบก็ทิ้งเสื้อนอนลงบนพื้น คนบนเตียงก็ยังเม้มริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่น คำตอบไม่มาสักทีเขาเลยต้องเลิกคิ้วขึงตาใส่ “ค่ะภารับได้” คำพูดที่เปล่งออกมาช่างเบาหวิว คงไม่ต่างไปจากอารมณ์ของคนพูด “รับได้ก็ดี อย่ามาเรียกร้องอะไรทีหลังก็แล้วกัน ไม่งั้นพี่เอาตายแน่” ธาวิศทาบร่างตัวเองลงบนลำตัวของนิภา มองจุดหมายแรกที่จะเริ่มต้นทำรัก ประทับจูบลงบนริมฝีปากนุ่มนิ่มของหญิงสาว สัมผัสแรกของทั้งคู่ช่างตราตรึงในความรู้สึก จากที่จะจูบเพียงแผ่วเบากลายเป็นแทรกลึกดูดดื่มขึ้นตามอารมณ์ (รักซ้ำรอย)
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY