"หอบลูกหนีผัว จิตใจทำด้วยอะไร"
"หอบลูกหนีผัว จิตใจทำด้วยอะไร"
“เข้าไม่ได้นะคะคุณ”
“ฉันจะเข้าไปหาเมียฉัน อย่าสะเออะ !!”
“ไม่ได้นะคะคุณ คุณหมอมีคนไข้อยู่นะคะ”
“แล้วโรงบาลนี้มันไม่มีหมอคนอื่นแล้วเหรอว่ะ”
“ขอร้องนะคะคุณ เข้าไม่ได้จริงๆ ค่ะ”
“นาวิน มึงจัดการดิ”
“ครับนาย”
พลั่ก !!
มาเฟียหนุ่มผลักประตูห้องตรวจเข้าไปทำให้แพทย์หญิงเอมมิกาที่กำลังตรวจรักษาอาการของคนไข้อยู่ถึงกับผงะ เธอเงยหน้ามองมาเฟียหนุ่มด้วยสายตาที่แสดงถึงความไม่พอใจ แต่ต้องเก็บอาการไว้เพราะตรงหน้าเธอยังมีคนไข้อยู่
“ฉันห้ามแล้วนะคะคุณหมอ”
เอมมิกาได้แค่พยักหน้าเป็นการบอกพยาบาลสาวเป็นนัยๆ ว่าไม่เป็นไร เธอหันกลับมาส่งยิ้มหวานให้กับคนไข้เพื่อเป็นการขอโทษ
“ขอฉันตรวจคนไข้ก่อนแล้วค่อยคุยกันนะคะ คุณมาร์แชล”
“ไม่ได้ !!”
“ ... ”
“เธอทำฉันแสบมากนะเอมมิกา”
“ถ้าไม่ให้ฉันตรวจคนไข้ก่อน งั้นก็เชิญออกไปรอข้างนอกค่ะ”
น้ำเสียงเยือกเย็นของแพทย์หญิงเอมมิกา ทำให้มาเฟียหนุ่มต้องยอมจำนนยืนเฉยๆ มองการรักษาคนไข้ของแพทย์หญิงเอมมิกาด้วยอารมย์ที่ขุ่นมัว เขามีเรื่องจะคุยกับเธออย่างจริงๆ จังๆ แต่เธอกลับไม่ให้ความร่วมมือเลยสักนิด
เวลาผ่านไปประมาณสิบนาทีเห็นจะได้ มาเฟียหนุ่มเริ่มอยู่ไม่ติดเมื่อการตรวจรักษาครั้งนี้มันนานเกินกว่าที่เขาจะรอได้ ปกติเขาก็ตรวจกันแค่แป๊ปเดียวเท่านั้นเองไม่ใช่เหรอ หรือว่าเธอต้องการจะกลั่นแกล้งเขา
ปัง !!
มาเฟียหนุ่มทุบโต๊ะด้วยเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้แพทย์หญิงเอมมิกา รวมถึงพยาบาล และคนไข้ที่อยู่ในห้องนั้นสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ
“ออกไป !!”
น้ำเสียงกดต่ำของมาเฟียหนุ่มทำให้ทุกคนรู้สึกได้ถึงพลังงานอะไรบางจากที่แผ่รังสีออกมาจากตัวเขา เขาเดินตรงมาที่คนไข้หนุ่มที่ดูแล้วอายุน่าจะราวๆ ยี่สิบปลายๆ เท่านั้น กระชากแขนของคนไข้เต็มแรงให้ลุกขึ้นยืน ก่อนที่จะส่งน้ำเสียงเยือกเย็นออกมาอีกครั้ง
“ออกไป !!”
สายตาเย็นชาที่ถูกถ่ายทอดออกมามันทำให้คนไข้หนุ่มกลืนน้ำลายไม่ทั่วท้อง แพทย์หญิงเอมมิกาลุกขึ้นยืนใช้สองมือล้วงกระเป๋าเสื้อกราวสีขาวสะอาดตาเอาไว้ ก่อนพยักหน้าให้พยาบาลสาวพาคนไข้ออกไป
“คุณมาร์แชล คุณทำอย่างนี้ไม่น่ารักเลยนะ คนไข้เดือดร้อนเขาต้องการความช่วยเหลือ แต่คุณกลับไล่คนไข้ของฉันเหมือนหมู เหมือน มะ ... !!”
คำพูดที่ต้องการจะเปล่งออกมายังไม่ทันได้สุดคำ ก็ถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอเมื่อมาเฟียหนุ่มฉกริมฝีปากหนากระแทกกลีบปากบางของเธออย่างแรง
ดวงตากลมโตเบิกโพลงขึ้นด้วยความตกใจ และไม่ใช่แค่เธอเท่านั้นที่ตกใจ พยาบาลสาวที่ยังพาคนไข้ออกไปไม่พ้นขอบประตูเองก็ตกใจไม่น้อย ฝ่ามือเรียวของแพทย์หญิงเอมมิกากำคอเสื้อยืดสีขาวของมาเฟียหนุ่มไว้แน่นก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นกำกำปั้นทุบลงแผงอกแกร่งหนักๆ
“ทำอะไรของคุณ อะ ... ออกไปเลยนะ อื้ออออ .... !!”
ดวงตากลมโตของเธอเบิกโพลงขึ้นอีกครั้งเมื่อมาเฟียหนุ่มไม่เอื่อนเอ่ยคำใดออกมานอกจากจู่โจมประกบจูบเธอด้วยความรุนแรง สองมือเรียวของเธอทุบลงแผงอกแกร่งของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ลมหายใจเริ่มติดขัดเมื่อถูกมาเฟียหนุ่มช่วงชิงลมหายใจนายเกินไป เขาใช้มือหนาบีบปลายคางมนของคนตัวเล็กให้เผยอขึ้นเพื่อที่จะได้สอดแทรกเรียวลิ้นร้อนเข้าในโพรงปากได้อย่างสะดวก
“ร้ายนักนะ หอบลูกหนีผัว จิตใจเธอทำด้วยอะไร”
น้ำเสียงกดต่ำของมาเฟียหนุ่มทำเอาคนที่ได้ฟังหัวใจสั่นไหวราวกับแผ่นดินไหวก็ไม่ปาน เขาไม่พอใจ เขากำลังไม่พอใจ
“นะ ... นายทำอะไรของนาย ลูกอะไรอย่ามามั่ว ออกไปเลยนะ ออกไป !!”
น้ำตาใสเอ่อรื้นรอบดวงตากลมโต แก้มของเธอแดงระเรือ น้ำเสียงที่เอ่ยไล่สั่นเครือราวกับต้องการระบายบางอย่างออกมา จากกันไปตั้งนานแล้ว ทำไมเขาถึงจะต้องกลับมาวุ่นวายกับเธอด้วย
“หึ !! มั่วงั้นเหรอ”
“ ... ” หญิงสาวกัดปากตัวเองเบาๆ เพื่อต้องการระงับอารมย์อะไรบางอย่าง
“งั้นเธอคงจะคุ้นชื่อนี้ซินะ พี่ขุน พี่เขื่อน”
“นะ ... นั่นมันลูกฉัน ไม่ใช่ลูกคุณ อะ ... ออกไป”
มาเฟียหนุ่มเดินเข้าประชิดร่างบางอย่างช้าๆ จนผู้ที่ถูกคุกคามต้องถอยหลังไปอย่างอัตโนมัติจนหลังไปชนเข้ากับเตียงรักษาผู้ป่วย
“ทำไมละเอม ในเมื่อเราก็รักกันดี แล้วเอมหนีเฮียมาทำไม มีอะไรทำไมไม่พูดไม่บอก หนีเฮียมาแบบนี้ มันไม่น่ารักเลยนะ เพราะเอมกำลังจะทำให้เฮียโกรธ”
มือหนาเลื่อนขึ้นจับปลายคางมนของคนตัวเล็กเอาไว้ เขาออกแรงบีบมันจนคนที่ถูกกระทำเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวด ดวงตากลมโตปล่อยหยาดน้ำตาให้ไหลลงมาเปื้อนมือหนาของเขาจนเปียกแฉะ
มาเฟียหนุ่มโน้มใบหน้าคมคายลงประชิดใบหน้าหวานของคนตัวเล็กจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นที่เป่ารดกัน เขาใช้ลิ้นร้อนเลียน้ำตาของคนตัวเล็กเบาๆ ก่อนส่งเสียงหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยัน
“เป็นอะไร”
“ ... ”
“ทำไมตัวสั่น”
“ ... ”
“กลัว ?”
“ ... ”
หญิงสาวเม้มปากแน่นไม่อยากพูดอะไรออกไป ไม่อยากคุยกับคนอันธพาลอย่างเขา ไม่อยากให้เขาเข้ามายุ่งวุ่นวายในชีวิตของเธออีก
“อะ ... ออกไป กรุณาอย่าทำให้ฉันโกรธ”
“ทำไมละ จะหนีฉันไปอีกงั้นเหรอ”
“เพราะถ้าฉันโกรธ คุณจะไม่ได้เจอหน้าฉันอีกตลอดชีวิต”
“คิดว่าฉันหาตัวเธอไม่ได้งั้นเหรอเอม เธออย่าคิดว่าเธอฉลาดมากกว่าฉัน เพราะสิ่งที่เธอทำอยู่ตอนนี้มันไม่ฉลาดเลย”
มาเฟียหนุ่มจับอุ้มหญิงสาวให้ขึ้นนั่งบนเตียงผู้ป่วย โดยที่เขาแทรกตัวเองเข้ากลางหว่างขาเรียวของเธอ มือหน้าข้างหนึ่งรวบมือของเธอเอาไว้ด้านหลัง ก่อนใช้เรียวลิ้นเลียรอบลำคอระหงเบาๆ
“อย่าคิดทำอะไรโง่ๆ เพราะฉันโหดได้มากกว่าที่เธอรู้”
แฟนเก่า (เคย) ร้าย จะกลับมาง้อขอเธอคืนดี เขาจะขนกลเม็ดเท่าที่คิดได้มาตามตื้อ มารื้อความทรงจำ (ที่ดีๆ) ของเขากับเธอ จะมาทวงเธอคืน และจะมารักษาแผลใจของเธอที่เขาเป็นคนทำไว้ให้หายขาด อย่าคิดหนี เพราะเธอหนีเขาไม่พ้นหรอก ไม่ว่าจะหนีไปไหนครั้งนี้เขาก็จะตามติดเป็นเงาจนเธอต้องยอมคืนดีกับเขาจนได้อย่างแน่นอน
เขาเห็นเธอเป็นเพียงของตายไม่ว่าเขาจะไปทำอะไรที่ไหน กลับมาทีไรก็ยังคงเจอเธอเสมอ เมื่อแรกรักอะไรก็ดี แต่ทำไมตอนนี้ทุกอย่างถึงเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ มันเพราะเขาหมดรักเธอแล้วหรือเพราะเธอเป็นเพียงของที่เขาจะทำอะไรก็ได้งั้นเหรอ เธอเจ็บซ้ำๆ มากขนาดนี้ เธอโง่และไม่เห็นคุณค่าของตัวเองมากขนาดนี้ ควรจะพอได้แล้วใช่ไหม เธอเจ็บพอหรือยัง? เธอยังควรให้โอกาสเขาอยู่ไหม?
เขาเป็นทนายหนุ่มหล่อมากความสามารถที่เพรียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา การศึกษา ฐานะทางบ้าน สังคม เรียกได้ว่าเนื้อหอมในหมู่สาวๆ ไม่ว่าจะโสด ซิง หรือมีคู่ครองแล้วหากเสนอให้เขาก็พร้อมจะสนองทุกเมื่อ สาวๆ ต่างอยากควบคุม และครอบครองเขา แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าคนอย่างเขาน่ะ 'รักสนุก แต่ไม่ผูกพัน' ก็ตาม คนอย่างเขาไม่เคยคิดหยุดอยู่ที่ใคร ความซิงไม่สามารถผูกมัดเขาได้ จนกระทั่ง... เธอเดินเข้ามาในชีวิตเขา
❤ โปรเจกต์สุดฮอตต้อนรับวาเลนไทน์ Match Love Valentines ❤ เรื่องราวของสาวขี้เหงาทั้งสี่คนที่เกิดอาการ เปลี่ยวใจอยากมีใครสักคน เลยต้องเข้าแอปหาคู่อย่าง MATCH LOVE เพื่อตามหาคู่เดตที่มาทำให้วาเลนไทน์ของพวกเธอ ไม่ต้องเหงาใจอีกต่อไป และแอปนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการแมตช์รักของพวกเธอ...แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะสมหวังจากแอปหาคู่สักหน่อย? ไปลุ้นกันว่าแอปนี้จะช่วยให้พวกเธอสละโสดได้ไหม...!!!!
เธอทำให้เขารัก เธอทำให้เขาแค้น และก็เป็นเธอที่กลับมาวนเวียนอยู่ข้างกายเขา เขาที่พยายามลืมความรักของเธอกดความเจ็บแค้นเอาไว้ในส่วนลึกสุดของหัวใจ เธอทำให้เขารู้จักคำว่า "ทั้งรัก ทั้งแค้น" เป็นอย่างดี ในเมื่อเธอเลือกจะกลับมาเขาก็จะสาดความเจ็บแค้นคืนกลับไปให้เธอได้รู้สึก ให้เธอได้รู้สึกถึงความเจ็บช้ำที่ไม่มีวันลืมได้ลง
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
ตอนเด็กถูกทอดทิ้งให้โดดเดี่ยว แม่ถูกทำร้าย ฉือเนี่ยนสาบานว่าจะเอาทุกอย่างที่เป็นของตัวเองกลับคืนมา!ครั้งแรกที่กลับมาที่เมืองจิง เธอถูกมองว่าเป็นผู้หญิงที่ไร้การศึกษาและสำส่อนหลายคนบอกว่าลู่เหยียนสือต้องตาบอดแน่ๆ ถึงได้มาสนใจฉือเนี่ยนแต่มีแค่ลู่เหยียนสือเท่านั้นที่รู้ ว่าเธอที่เขารักและทะนุถนอมนั้นมากความสามารถ สามารถสร้างความวุ่นวายให้ทั้งเมืองจิงได้ด้วยตัวคนเดียวเธอคือหมอมือหนึ่ง เธอคือแฮ็กเกอร์มือทอง และยังเป็นนักปรุงน้ำหอมชั้นยอดที่ได้รับการยกย่องจากบุคคลสำคัญคนภายนอก: "คุณลู่ คุณจะเอาใจภรรยาจนไม่มีขอบเขตเลยเหรอ ทำไมแม้แต่ประชุมยังต้องอุ้มเธอไว้ด้วย!"ลู่เหยียนสือ "ต้องเอาใจภรรยาถึงจะรุ่งเรืองเฟื่องฟู"ต่อมาความลับของเธอถูกเปิดเผย ทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนหันมาชื่นชมและยกย่องเธอ...
ในฐานะที่เธอมีทรัพย์สินนับพันล้านและเป็นลูกสาวที่ได้รับการฝึกฝนอย่างลับๆ โดยรัฐบาล เฉียววานก็ถูกจัดสรรพ่อแม่ให้ในที่สุด แต่ไม่คาดคิด เธอถูกขับออกจากครอบครัวถึงสามครอบครัว การฝึกฝนความสัมพันธ์เป็นญาติพี่น้องก็ล้มเหลวซ้ำๆ จนกระทั่งเธอถูกตระกูลฮั่วรับอุปการะ เฉียววานที่น่าสงสารถูกพ่อแม่บุญธรรมทุ่มเงินให้ตามใจ แสดงความรักอย่างสุดโต่งจนดูเหนือจริง ทำให้บางคนอิจฉาจนบ้าคลั่ง ปล่อยข่าวลือว่า "เฉียววานไม่มีความสามารถใดๆ เลย ต้องอาศัยการทำตัวน่าสนสารเพื่อเรียกร้องความสนใจจากตระกูลฮั่ว!" แต่วันถัดมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศยืนต้อนรับด้วยตัวเอง “ศาสตราจารย์เฉียว ห้องแล็บของคุณเตรียมพร้อมแล้ว” มหาเศรษฐียื่นสัญญาให้ “บอส รายงานการเงินปีนี้กำไรเพิ่มขึ้น 300%!” องค์กรแฮกเกอร์นานาชาติก็เกิดความวุ่นวาย “พี่ใหญ่ ถ้าคุณไม่ออนไลน์ ระบบการเงินจะล่มแล้ว” เมื่อความลับของเฉียววานถูกเปิดเผยทีละอย่าง ทั้งโลกออนไลน์ก็เดือดดาล กู้ซือหาน ผู้ทรงอำนาจและเย็นชาแห่งเมืองจิง จู่ๆ ก็จับเธอไว้ที่มุมกำแพง นิ้วของเขาลูบไล้ริมฝีปากของเธอเบาๆ “คุณนายกู้ เล่นสนุกมากพอหรือยัง? ถึงเวลากลับบ้านไปมีลูกได้แล้ว” เฉียววานหน้าแดงก่ำ “ใคร ใครจะไปมีลูกกับคุณล่ะ” ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ และหยิบบัตรดำวงเงินไม่จำกัดใส่มือเธอ “มีลูกคนหนึ่ง จะมอบเกาะส่วนตัวให้ให้หนึ่งเกาะ”
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
หลินเจียอีหญิงสาวในศตวรรษที่21ตกตายด้วยโรคระบาด วิญญาณของเธอได้ทะลุมิติมาอยู่ในร่างของเด็กสาวอายุ14 ที่มีชื่อเดียวกับเธอซึ่งสิ้นใจตายระหว่างเดินทางกลับบ้านเดิมของมารด ********* หลินเจียอีลืมตาตื่นขึ้นมาในสภาพบ้านที่ไม่คุ้นชิน เธอจำได้ว่าก่อนหน้านี้ได้เข้ารักษาตัวจากอาการติดเชื้อโรคระบาดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เหตุใดถึงมาโผล่ในบ้านทรงโบราณ รอบกายเธอเต็มไปด้วยผู้คนแต่งตัวล้าสมัย ต่อมาเธอค้นพบว่าตนเองได้ทะลุมิติเข้ามาอยู่ในร่างของเด็กสาวอายุ 14 ซึ่งมีชื่อเดียวกันกับเธอ แต่ชะตากรรมของเด็กสาวผู้นี้ช่างน่าสงสารนัก บิดาเพิ่งลาโลก แม่โดนฮุบสมบัติแล้วถูกขับไล่ออกจากตระกูล ต้องระหกระเหินพาเจ้าของร่างที่ถูกทุบตีจนสิ้นใจระหว่างทางกลับมาบ้านเดิมที่แสนยากจนข้นแค้น ****ไม่มีฉากอีโรติก เริ่มล็อกเหรียญตอนที่ 25 ก่อนเข้าไปอ่านเนื้อหานิยายอ่านคำเตือนก่อนนะคะ (สำคัญมาก) 1. กรุณาแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพให้เกียรตินักเขียนและนักอ่านท่านอื่น หากแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำหยาบคายไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในนิยายหรือมุ่งประเด็นด่าทอนักเขียนเพื่อระบายอารมณ์ ความคิดเห็นจะถูกลบออก!! 2. นิยายเรื่องนี้เกิดขึ้นจากจินตนาการของนักเขียน บุคคลและสถานที่ที่เกิดขึ้นไม่มีอยู่จริงในโลก เนื้อหาในนิยายมีทั้งสมเหตุผลและไม่สมเหตุสมผล บางตอนอาจมีฉากที่รุนแรง (ต่อสู้) โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน 3. ตัวละครในนิยายมีทั้งดีและเลวแต่กต่างกันไป โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ห้ามคัดลอกดัดแปลงแก้ไขนิยายเรื่องนี้ทุกกรณี หน่วยเงินตรา 1000 อีแปะ 1 ตำลึงเงิน หน่วยวัดตวงน้ำหนัก 1 ชั่ง 500 กรัม หน่วยเวลา 1 จิบน้ำชา ระยะเวลาที่สั้นมาก ๆ 1 เค่อ 15 นาที 1 ก้านธูป 30 นาที 1 ชั่วยาม 2 ชั่วโมง 12 ชั่วยาม 24 ชั่วโมง ยามจื่อ 23.00-24.59 ยามโฉ่ว 01.00-02.59 ยามอิ๋น 03.00-04.59 ยามเหม่า 05.00-06.59 ยามเฉิน 07.00-08.59 ยามซื่อ 09.00-10.59 ยามอู่ 11.00-12.59 ยามเว่ย 13.00-14.59 ยามเชิน 15.00.16.59 ยาวโหย่ว 17.00-18.59 ยามชวี 19.00-20.59 ยามห้าย 21.00-22.59
© 2018-now MeghaBook
บนสุด