"เธอมันก็แค่นางบำเรอคอยสนองความต้องการบนเตียงเพราะฉะนั้นอย่าสะเออะมาสั่งสอนฉันจำเอาไว้!!!"
"เธอมันก็แค่นางบำเรอคอยสนองความต้องการบนเตียงเพราะฉะนั้นอย่าสะเออะมาสั่งสอนฉันจำเอาไว้!!!"
ใบบัว...
"บัว ขึ้นไปตามตาฟิวมาให้อาที"
"ค่ะคุณเฟื่อง" ฉันรับคำของคุณเฟื่องผู้เป็นเจ้านายและเป็นเจ้าของบ้านที่ฉันอาศัยอยู่ก่อนจะพาตัวเองขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านเพื่อไปตามคุณฟิว คุณฟิวคือลูกชายคนเล็กของคุณเฟื่องกับคุณท่านแต่จริงๆแล้วคุณฟิวไม่ใช่ลูกแท้ๆหรอกค่ะ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"คุณ...." ฉันเคาะประตูห้องและกำลังจะเรียกชื่อเจ้าของห้องแต่ไม่ทันได้เรียกประตูก็ถูกเปิดออกโดยเจ้าของห้องนั่นก็คือคุณฟิว คุณฟิวมองหน้าฉันเหมือนกับสงสัยว่าฉันมาเรียกเขาทำไม วันนี้เขาอยู่ในชุดนักศึกษาถูกระเบียบฉันเผลอมองเขาโดยไม่รู้ตัวอยู่นานเพราะวันนี้คุณฟิวดูดีดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าแต่ก่อนที่ฉันเห็นเขาใส่แต่ชุดนักเรียนชายมัธยม
"มองอะไร" เขาถามฉันเสียงต่ำจนฉันรู้สึกตัวว่าตัวเองเสียมารยาทที่เผลอมองเขาตาไม่กะพริบ
"เอ่อคือบัว...ขอโทษค่ะ คือว่า่คุณ..." ฉันรีบตอบก่อนจะก้มหน้าลงเพราะกลัวว่าเขาจะอารมณ์เสียใส่แต่ไม่ทันที่จะได้บอกสาเหตุว่าฉันมาเคาะห้องเขาทำไมเขาก็เดินผ่านหน้าฉันไปเรียบร้อยแล้ว
ตึก ตึก ตึก เสียงฝีเท้าของคุณฟิวที่เดินผ่านหน้าฉันไปทำให้ฉันรู้ว่าเขากำลังเดินลงไปข้างล่างฉันจึงก้มหน้าก้มตาเดินตามเขาลงไป ทำให้ฉันได้มองเขาแบบระยะประชิด แค่ได้มองเขาจากทางด้านหลังแค่นี้ฉันก็มีความสุขแล้ว ความสุขที่ได้แอบมองแอบรักคนที่เราคิดว่าชาตินี้ทั้งชาติอย่าหวังว่าเขาจะมาสนใจเพราะฉันมันเป็นแค่เด็กรับใช้ส่วนเขาเป็นถึงลูกเจ้าของบ้านแม้จะไม่ใช่ลูกที่แท้จริงก็เถอะแต่ถึงยังไงสำหรับฉันเขาคือสิ่งที่ฉันไม่อาจเอื้อมถึง
ฟิว.....
"ลงมาแล้วเหรอลูกมาทานอาหารเช้าก่อนสิ"
"ผมไม่ชอบทานอาหารเช้าแม่ก็รู้ ยังไงผมขอตัวไปมหาลัยก่อนละกันนะครับมันสายมากแล้ว"
"ฟิว...อย่าลืมเรื่องที่แม่ขอร้องนะลูก"
"ครับ....ผมไม่ลืมหรอกว่าที่ผมต้องเรียนที่มหาลัยนี้แทนที่จะได้ไปเรียนต่อต่างประเทศเป็นเพราะอะไร" ผมพูดกับแม่เพื่อให้ท่านรู้ว่าผมไม่ได้เต็มใจที่จะต้องไปเรียนที่มหาลัยแห่งนี้แต่เป็นเพราะท่านขอร้องผมถึงยอม
ผมขับรถออกมาจากบ้าน...บ้านที่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่บ้านของผม คนในบ้านก็ไม่มีใครเกี่ยวข้องหรือเป็นญาติกับผมเลยแม้แต่คนเดียวคนที่ผมเรียกว่าแม่ท่านก็ไม่ได้เป็นแม่แท้ๆ ของผมท่านเพียงแค่เลี้ยงผมมาเพราะถูกขอร้องจากพ่อแม่ที่แท้จริงของผมเท่านั้น พ่อแม่ที่แท้จริงของผมที่ผมก็ไม่รู้ว่าเป็นใครหน้าตาท่านเป็นยังไงหรือแม้แต่ชื่อผมก็ยังไม่รู้ ถามว่าผมเคยถามแม่เฟื่องไหมว่าพ่อแม่ผมเป็นใครชื่ออะไร แต่คำตอบที่ได้รับจากแม่ก็คือ รอให้ผมโตก่อนตอนนี้ท่านยังบอกไม่ได้ซึ่งผมก็ไม่เคยเข้าใจว่าทำไมถึงบอกไม่ได้ หรือกลัวว่าผมจะตามหาพ่อกับแม่งั้นเหรอ ผมยอมรับนะว่าผมเคยคิดที่จะออกไปตามหาพ่อกับแม่ของผมแต่มันคือความคิดในวัยเด็กเท่านั้นแต่พอเวลาผ่านไปจนมาถึงตอนนี้มันก็เกือบยี่สิบปีแล้วที่ผมล้มเลิกความคิดเหล่านั้นไปเพราะในเมื่อพวกเขาไม่ต้องการผมก็ไม่ต้องการพวกเหมือนกัน ผมไม่ต้องการคนที่ไม่เคยรักผมไม่เคยคิดถึงผมที่เป็นลูกทุกวันนี้คำถามที่อยู่ในใจของผมก็คือถ้าไม่ต้องการผมแล้วจะใฟ้ผมเกิดมาทำไมเกิดมาให้เป็นภาระของคนอื่นทำไม ถามว่าแม่เฟื่องกับป๊าท่านดีกับผมไหมท่านดีกับผมมากรักผมมากรักด้วยใจจริงซึ่งผมก็รักท่านมากเหมือนกันเพราะถ้าไม่มีท่านผมก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองจะเป็นยังไง อาจจะเป็นเด็กเร่ร่อนอยู่ที่ไหนสักที่อาจจะติดยาหรือไปวิ่งชิงทรัพย์ปล้นฆ่าใครอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลกใบนี้คงไม่มีชีวิตที่สุขสบายอย่างทุกวันนี้ ถ้าให้ผมเลือกผมขอเลือกแม่เฟื่องกับป๊ามากกว่าพ่อแม่ที่แท้จริงของผม เพราะเหตุนี้ผมถึงไม่เคยขัดใจแม่เฟื่องเลยสักครั้งท่านขออะไรหรือต้องการให้ผมทำอะไรผมก็ทำให้ท่านได้ทุกอย่างแม้ว่าใจจริงแล้วผมไม่อยากทำเลยก็ตามรวมถึงเรื่องนี้ด้วย...
ปล.ใครที่มาอ่านเรื่องนี้ เรื่องนี้เป็นภาคต่อจากเรื่อง ก็แค่เมียเก่า(ฮันเตอร์&ข้าวฟ่าง) นะคะใครที่ยังไม่ได้อ่านไปอ่านก่อนได้เพราะจะได้รู้ที่มาที่ไปของคู่นี้
แจ้งก่อนอ่าน.....เรื่องนี้มีคำหยาบคายและมีการกระทำที่รุนแรงในบางEPเพราะฉะนั้นใครโลกสวยหรือไม่ชอบนิยายแนวนี้โปรดเลื่อนผ่านXX เขาเอื้อมมือไปที่หัวเตียงแล้วหยิบซองสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่ฉันคุ้นตาออกมาเพราะฉันเคยเก็บเศษซากของมันมาก่อน มันคือถุงยางอนามัย "คุณธามคะ อย่า!!!" ฉันกำลังจะบอกกับเขาว่าอย่าทำเพราะฉันรู้ว่าเขากำลังจะทำอะไรแต่เขากลับเข้าใจไปอีกอย่าง "ทำไม หรืออยากเอาสดกับกู อย่าหวังเลยว่ากูจะยอมสดกับคนอย่างมึง" สวบ!!!! ปึ่ก!!!!! "ไม่ กรี๊ดดดดดดด" ฉันกรีดร้องออกมาอย่างสุดเสียงเมื่อเขาสอดใส่ท่อนเอ็นเข้าไปจนสุดทางฉันเจ็บแปลบไปทั้งร่างกาย จนน้ำตาไหลออกมาด้วยความเจ็บปวด "เชี่ย!!! มึง ไม่เคยเหรอวะ" คุณธามก้มมองดูจุดเชื่อมต่อแล้วอุทานออกมา
เรื่องนี้เป็นเรื่องของพี่บอมคนดีเพื่อนสนิทอัยวาคุณแม่ของน้องเอิงซึ่งมีคุณพ่ออย่างพี่ภูที่หวงลูกสาวยิ่งกว่าอะไร มาลุ้นความรักต่างวัยของคู่นี้กันนะคะใครชอบแนวโคแก่กินหญ้าอ่อนห้ามพลาดเด็ดขาด ภูผาอัยวาอยู่ในเรื่อง กลลวงร้ายซ่อนรัก นะคะ
"เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนฉันจะไม่รับผิดชอบอะไรทั้งนั้น" "ค่ะ" ฉันฝืนความรู้สึกแล้วตอบออกไป ฉันไม่คิดว่าพี่ภูจะรับผิดชอบอะไรอยู่แล้วคำพูดของเขาเมื่อคืนฉันยังจำขึ้นใจ "และฉันก็หวังว่าเธอจะไม่เอาเรื่องที่เกิดขึ้นไปฟ้องแม่ฉันอีกว่าฉันรังแกเธอ" "ค่ะ" "สรุปก็คือเธอห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกใครเด็ดขาดเพราะไม่อย่างนั้นฉันจะเอาเรื่องที่เธอเคยโกหกไปบอกพ่อเธอรวมถึงย่าเธอด้วยว่าเธอโกหกสร้างเรื่องหาว่าฉันล่วงเกินเธอทั้งที่ตอนนั้นฉันไม่ได้ทำ เธอคิดเอาก็แล้วกันว่าย่าเธอจะผิดหวังแค่ไหนที่หลานสาวสุดที่รักของท่านสร้างเรื่องโกหกหน้าด้านๆ เพื่อจับผู้ชาย" ฉันก้มหน้าแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอีกครั้ง "เข้าใจที่พูดใช่ไหม" "อื้มมม" ฉันตอบเขาได้แค่นั้นเพราะพูดอะไรไม่ออกกลัวเขาจะรู้ว่าตอนนี้ฉันกำลังร้องไห้อยู่ "แต่ความผิดของเธอยังไม่หมดฉันยังไม่พอใจเพราะฉะนั้นเธอต้องมาที่นี่ทุกครั้งที่ฉันต้องการ แต่ถ้าเธอดื้อไม่ยอมมาฉันจะไปลากตัวเธอถึงบ้านไม่เชื่อก็คอยดู" "พี่ติดใจอัยก็บอกว่าเถอะไม่ต้องเอาเรื่องผิดไม่ผิดมาเป็นข้ออ้างหรอก" ฉันโต้กลับเพราะฉันไม่อยากให้พี่ภูคิดว่าฉันกลัวเขา "เธอพูดว่าไงนะฉันเนี่ยนะติดใจเธอ เหอะพูดผิดพูดใหม่ได้นะ"
"เพลง ฮึก ฮึกเพลง" น้ำเสียงสะอื้นด้วยความเจ็บปวดเมื่อเห็นคนที่ตัวเองรักอยู่ในสภาพนี้ "พะ พี่ไทม์เหรอคะ" มือบางลูบไปที่ใบหน้าของชายหนุ่มอย่างสะเปะสะปะ "พี่เองครับ ฮือออ เพลงพี่ขอโทษพี่ขอโทษพี่มันเหี้ยพี่มันเลวเพลงให้อภัยพี่ได้มั้ย" เขาจับมือคนรักแล้วนำมาแนบแก้มที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา "พี่รู้ได้ยังไงว่าเพลงอยู่ที่นี่" "พี่รู้ได้ยังไงไม่สำคัญ แต่พี่จะพาเพลงไปรักษาต่างประเทศที่นั่นหมอเก่งมากเพลงต้องหาย"
"เธอชอบเพื่อนฉันเหรอวะ เหอะดูสารรูปตัวเองซะก่อนเหอะยัยอ้วนก่อนจะมาบอกรักใครไอ้คิมมันหล่อขนาดนั้นเธอคิดว่ามันจะมาชอบผู้หญิงที่ทั้งอ้วนทั้งขี้เหร่แบบเธองั้นเหรอห๊ะ อย่างเธอมันไม่มองให้เปลืองลูกกะตาหรอกตัดใจจากมันซะเถอะ" "แต่...ฉันชอบคิมจริงๆนะ" "อย่างเธอถ้าอยากให้ไอ้คิมชอบมันก็พอมีวิธีอยู่นะอยากรู้มั้ยฉันจะบอก" "บอกมาสิ" "ข้อหนึ่งเธอคงต้องไปตายแล้วเกิดใหม่" "ห๊ะนายว่าอะไรนะ!!!" "ฟังฉันยังพูดไม่จบ ฉันยังมีข้อสองให้เธอเลือกนั่นก็คือเธอต้องไปศัลยกรรมให้มันดูดีกว่านี้ไม่แน่ไอ้คิมมันอาจจะหันมาสนใจเธอก็ได้ แต่..ฉันว่าเบ้าหน้าอย่างเธอคงไปไม่รอดทำไปก็แค่นั้นเปลืองเงินเปลืองแรงหมอเปล่าๆ เพราะฉะนั้นเธอตัดใจจากมันซะ" เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของชมจันทร์พยาบาลสาวสวยกับอาร์ตเพื่อนสนิทของคิมหันต์จากเรื่อง ชังรักเมียรับใช้ นะคะ
"ลิล ลิลจำพี่ได้มั้ย" "พี่ พี่เหรอ" "ครับพี่เอง พี่คิมไงสามีของลิล" "สามี สามี" แววตาว่างเปล่าจ้องผมไม่วางตาก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัว "ไม่ ไม่ กรี๊ดดดด ไม่ออกไป ฮืออออ ออกไป ฮืออออ"
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก
กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...
ชีวิตแต่งงานของฉันพังทลายลงในงานกาลาการกุศลที่ฉันเป็นคนจัดขึ้นมาเองกับมือ วินาทีหนึ่ง ฉันคือภรรยาผู้มีความสุขและกำลังตั้งครรภ์ของเก้า สุวรรณกิจ เจ้าพ่อวงการเทคโนโลยี วินาทีต่อมา หน้าจอโทรศัพท์ของนักข่าวคนหนึ่งก็ประกาศให้โลกรู้ว่าเขากับพราว นิธิวัฒน์ รักแรกในวัยเด็กของเขา กำลังจะมีลูกด้วยกัน ฉันมองข้ามห้องไป เห็นพวกเขาสองคนยืนอยู่ด้วยกัน มือของเก้าวางอยู่บนท้องของพราว นี่ไม่ใช่แค่การนอกใจ แต่มันคือการประกาศต่อสาธารณะที่ลบตัวตนของฉันและลูกในท้องของเราให้หายไป เพื่อปกป้องการเปิดขายหุ้น IPO มูลค่าหลายหมื่นล้านของบริษัท เก้า แม่ของเขา หรือแม้กระทั่งพ่อแม่บุญธรรมของฉันเอง ก็ร่วมมือกันหักหลังฉัน พวกเขาย้ายพราวเข้ามาอยู่ในบ้านของเรา บนเตียงของฉัน ปฏิบัติกับเธอราวกับเป็นราชินี ในขณะที่ฉันกลายเป็นนักโทษ พวกเขาตราหน้าว่าฉันเป็นคนสติไม่ดี เป็นภัยต่อภาพลักษณ์ของครอบครัว พวกเขาใส่ร้ายว่าฉันนอกใจ และกล่าวหาว่าลูกในท้องของฉันไม่ใช่ลูกของเขา คำสั่งสุดท้ายนั้นโหดร้ายเกินกว่าจะคิดฝัน...ให้ฉันไปทำแท้ง พวกเขาขังฉันไว้ในห้องและนัดวันผ่าตัดเรียบร้อย พร้อมขู่ว่าจะลากฉันไปที่นั่นถ้าฉันขัดขืน แต่พวกเขาทำพลาดไปอย่างหนึ่ง... พวกเขายอมคืนโทรศัพท์ให้ฉันเพื่อหวังจะปิดปากฉันไว้ ฉันแสร้งทำเป็นยอมแพ้ แล้วใช้โอกาสสุดท้ายโทรออกไปยังเบอร์ที่ฉันเก็บซ่อนไว้มานานหลายปี... เบอร์โทรศัพท์ของพ่อผู้ให้กำเนิดของฉัน อนันต์ ธีรวงศ์ ประมุขของตระกูลที่ทรงอิทธิพลมากพอที่จะเผาโลกทั้งใบของสามีฉันให้มอดไหม้เป็นจุณได้
ทุกคนต่างรู้ดีว่าเจียงว่านหนิงรักเย่เชินมานานหลายปี เธอที่มักจะว่านอนสอนง่ายและน่ารักเสมอ ได้สักลายเพื่อเขาและยอมทนอยู่ใต้อำนาจผู้อื่น เมื่อเธอถูกทุกคนใส่ร้ายจนโดนตำหนิ เขากลับนิ่งเฉยและยังถึงขั้นให้เธอคุกเข่าให้แฟนเก่าของเขาอีกด้วย เธอที่รู้สึกอับอาย ในที่สุดก็หมดหวัง หลังจากยกเลิกการหมั้น เธอก็หันไปแต่งงานกับทายาทพันล้านทันที คืนนั้นเอง ใบทะเบียนสมรสของทั้งคู่ก็กลายเป็นข่าวฮิตบนโลกออนไลน์ เย่เชินที่เคยคิดว่าตัวเองเก่งกาจที่สุดก็เริ่มวิตกและพูดออกมาด้วยความโกรธว่า "อย่าเพ้อฝันไปเลย นายคิดว่าเธอรักนายจริงๆ งั้นเหรอ เธอแค่ต้องการใช้พลังอำนาจของตระกูลฟู่เพื่อแก้แค้นฉันเท่านั้นเอง" ฟู่จิงเซินจูบหญิงสาวในอ้อมกอดและตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจว่า "แล้วจะเป็นไรไปล่ะ ก็พอดีว่าฉันมีทั้งเงินและอำนาจนี่"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY