ความเกลียดชิงชังทำให้เขาทิ้งให้เธออยู่ในสถานะ เมียในนาม แต่เมื่อเธอต้องการหย่าขาดจากเขา ชายหนุ่มผู้หยิ่งผยองเช่นเขากลับต้องการกักขังเธอไว้ตลอดไปและหลอกล่อเธอด้วยเพลิงสวาทร้ายที่เร่าร้อนเกินห้ามใจ...
ความเกลียดชิงชังทำให้เขาทิ้งให้เธออยู่ในสถานะ เมียในนาม แต่เมื่อเธอต้องการหย่าขาดจากเขา ชายหนุ่มผู้หยิ่งผยองเช่นเขากลับต้องการกักขังเธอไว้ตลอดไปและหลอกล่อเธอด้วยเพลิงสวาทร้ายที่เร่าร้อนเกินห้ามใจ...
ในค่ำคืนอันมืดมิดซึ่งพายุฝนกำลังพัดกระหน่ำ ในห้องนอนเล็กๆ ของบ้านหลังน้อยกำลังร้อนระอุด้วยเพลิงพิศวาสที่เต็มไปด้วยความร้อนแรงและเอาแต่ใจของชายนุ่มรูปงามราวเทพบุตรที่สาดใส่ร่างบอบบางของสาวน้อยหน้าแฉล้มซึ่งนอนน้ำตารินด้วยความเจ็บปวดราวร่างจะแตกปริเมื่อเขารุกล้ำร่างบอบบางราวแก้วใสด้วยร่างแกร่งใหญ่โตของเขาโดยไม่สนใจว่าคนตัวเล็กใต้ร่างจะรู้สึกอย่างไร สิ่งที่เขาต้องการคือทำให้เธอเจ็บปวดมากที่สุด เจ็บปวดเท่าที่เขาเจ็บ...
อัคนี ดีแลนด์ เทพบุตรเลือดผสมไทย เยอรมัน วัยยี่สิบแปดปีซึ่งกลายร่างเป็นซาตานร้ายก้มลงบดขยี้เรียวปากกระด้างลงบนกลีบปากบางที่บวมเจ่อแทบแตกปรินั้นอย่างลงทัณฑ์ไม่สนใจว่าเธอจะเจ็บปวดเพราะน้ำมือเขาแค่ไหน เขาสนใจเพียงอย่างเดียวคือเชยชมร่างกายงดงามนี้ให้สมกับความแค้นในใจ ชายหนุ่มสาวสะโพกสอบเข้าใส่ร่างบอบบางด้วยแรงอารมณ์ แม้ความคับแน่นจะบีบรัดจนเขาปวดหนึบแทบจะขยับไม่ได้ก็ตาม
“ได้โปรด ออกไป บีเจ็บ ฮือออ...”
บารนี สาวน้อยวัยสิบแปดปีหมาดๆ ซึ่งตกเป็นเหยื่อและกลายเป็นผู้รับโทษทัณฑ์จากเขาวอนขอทั้งน้ำตา ความเจ็บปวดราวร่างจะฉีกออกจากกันทำให้เธอแทบขาดใจตายไปเสียเดี๋ยวนี้...
“ไม่หรอก เธอจะไม่ตายแค่นี้หรอกสาวน้อยแต่เธอจะต้องตายทั้งเป็น... หึหึ”
ชายหนุ่มไม่เมตตาแต่กลับเสือกสวนกายแกร่งเข้าหาหาร่างบอบบางอย่างบ้าคลั่งโดยไม่สนใจอะไรอีกต่อไปเมื่อร่างสาวบีบรัดจนเขาปวดร้าวไปทั้งกายและเขาต้องการปลดปล่อยความทรมานนี้ออกไป
อัคนีบดสะโพกแกร่งรัวเร็วโยกคลึงด้วยลีลาร้อนแรงจนสาวน้อยหอบหายใจสะท้านเมื่อความเจ็บแปลบค่อยคลายลงและความเสียวซ่านแปลกใหม่แทรกเข้ามาแทนที่แม้จะพยายามต้านทานความรู้สึกนั้นแต่ดูเหมือนมันจะไร้ค่า เพราะเธอกลับเผลอตอบสนองเขาด้วยการแอ่นร่างขึ้นเผลอยกสะโพกเคลื่อนไหวไปตามจังหวะที่เขาเป็นผู้นำ แม้เงอะงะแต่ก็ทำให้คนตัวโตพอใจ ก้มลงมาจูบริมฝีปากระเรื่อบวมเจ่อเพราะฤทธิ์จุมพิตลงทัณฑ์จากเขาในคราแรกอย่างอดไม่ไหว และรู้สึกอิ่มเอิบในใจเมื่อเขารู้ว่าตนเป็นผู้ชายคนแรกของเธอ
น้องสาวของศัตรูหัวใจ น้องสาวของคนที่แย่งคนรักของเขาไปอย่างหน้าไม่อาย และเมื่อนึกถึงข้อนี้อัคนีก็สอดเสยร่างแกร่งเขาหาคนตัวเล็กอย่างร้อนแรงและเต็มไปด้วยความหิวกระหายฟอนเฟ้นทรวงสาวแรกผลิอย่างไร้ความปราณีจนสาวน้อยเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวดที่เริ่มทำร้ายเธออีกครั้ง...
“เธอให้ความรู้สึกดีเหลือเกินสาวน้อย อา... โอ้ว... สุดๆ ไปเลย ฉันเริ่มทนไม่ไหวแล้ว...”
ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่าก่อนจะกระแทกกายหนักๆ เข้าหาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะปลดปล่อยธารสวาทเร่าร้อนเข้าสู่กายบางจนหมดสิ้นด้วยความลืมตัว...
อัคนีแหงนเงยสุดปากด้วยความสุขสมเมื่อเขาสามารถไปถึงฝั่งฝันได้อย่างไม่น่าเชื่อว่าน้องสาวศัตรูหัวใจจะให้ความรู้สึกดีขนาดนี้ สาวน้อยร่างบางก็ครางกระเส่าด้วยความรู้สึกสุขสมที่ไม่เคยได้รับรู้มาก่อนว่าการกระทำเช่นนี้ของชายหญิงจะให้ความรู้สึกซ่านเสียวและเป็นสุขอย่างนี้...
ปัง! เสียงประตูห้องนอนเล็กๆ ของเธอเปิดออกอย่างแรงจนประตูกระแทกผนังห้องพร้อมกับร่างสูงไม่แพ้ชายหนุ่มบนร่างเธอยืนจังก้าอยู่หน้าห้องพร้อมกับภรรยาสาวซึ่งเป็น อดีตคนรัก ของอัคนีนั่นก็คือ ภัทรา
“น้องบี คุณอัคนี...”
บริบูรณ์ พี่ชายของเธอตะลึงมองภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อสายตา ความเจ็บปวดไหล่บ่าเข้าจู่โจมหัวใจแกร่งเมื่อเห็นสภาพของน้องสาวที่ดูก็รู้ว่าถูกอัคนีย่ำยีบารนีไปถึงไหนต่อไหนแล้ว...
“คุณจะต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นคุณอัคนี...”
สี่ปีผ่านไป...
“น้องบูมครับมาทานผลไม้เร็วครับคุณแม่บีปอกมาให้แล้วครับ” บารนีในวัยยี่สิบสองปีร้องเรียก น้องบูม หรือ เด็กชายอัศวิน ดีแลนด์ บุตรชายผู้เป็นแก้วตาดวงใจเสียงใส ไม่นานเด็กชายตัวอ้วนกลมผิวสีน้ำตาลทองแก้มยุ้ยก็วิ่งตึกๆ มาหาผู้เป็นมารดาด้วยรอยยิ้มกว้างขวาง แก้มยุ้ยๆ นั้นแดงปลั่งเพราะวิ่งเล่นจนเหนื่อยเหงื่อท่วมตัว
“คุงแม่ค้าบ น้องบูมอยากว่ายน้ำ” เด็กชายอ้อนมารดามือป้อมๆ นั้นหยิบแอ๊ปเปิ้ลของโปรดเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆเมื่อมารดาจับมือน้อยไปล้างที่ก๊อกน้ำไม่ไกลกันนั้น
“คุณแม่บอกว่าเวลากินอย่าพูดไงครับ มันไม่สุภาพและจะทำให้อาหารที่เราทานติดคอรู้ไหมคะ”
“ค้าบคุงแม่บี”
“แล้วก็ต้องพูดว่า คุณแม่บี ไม่ใช่คุงแม่บีนะครับลูกรัก”
หญิงสาวบอกลูกรักเพื่อให้เขาพูดได้ถูกต้องอย่างที่ส่วนใหญ่ผู้ที่เลี้ยงเด็กๆ ในวัยนี้เช่นคนที่เป็นปู่ย่าตายายมักจะหัวเราะชอบใจเมื่อหลานๆ พูดไม่ชัดมองว่าเป็นเรื่องตลกขบขันและไม่คิดว่ามันจะส่งผลให้กับเด็กเมื่อโตพอจะเข้าโรงเรียน และเรื่องแบบนี้เธอเคยเห็นมาก่อนสมัยเด็กๆ เพราะเพื่อนวัยเดียวกันกว่าจะพูดชัดก็เกือบจะจบชั้นประถมหก
“ค้าบ คุณ แม่ บี” เด็กชายพูดอย่างตั้งใจพร้อมกับยิ้มให้มารดาจนตาหยี บารนีมองลูกชายตัวน้อยด้วยความรักและพอใจที่น้องบูมเป็นเด็กฉลาดและว่านอนสอนง่ายคุณปู่และคุณย่าซึ่งเดินมาดูหลานรักเล่นปั่นจักรยานอยู่ในสวนมองสองแม่ลูกที่คุยกันด้วยเหตุผลอย่างแสนรัก บารนีกับน้องบูมคือแก้วตาดวงใจของบ้านนี้นั่นคือสิ่งผู้สูงวัยทั้งสองเห็นอยู่ในสายตามาเสมอ...
“มาทานข้าวเที่ยงกันได้แล้วจ้ะน้องบูม ลูกบี”
คุณดารา ร้องเรียกลูกสะใภ้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเอ็นดูสองแม่ลูก คุณดาราในวัยห้าสิบหกนั้นดูงดงามเปล่งปลั่งด้วยการดูแลตัวเองอย่างดีทำให้นางดูอ่อนกว่าวัยและมองแล้วสดชื่นสบายด้วยการแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีสดใสทันสมัยซึ่งทุกชุดที่นางสวมก็ล้วนแล้วแต่เป็นการออกแบบจากลูกสะใภ้สุดที่รักของนางนั่นเองและฝีมือการออกแบบและตัดเย็บของบารนียังเป็นผลงานที่สร้างชื่อให้กับ ดีแลนด์ซิลด์ หนึ่งในธุรกิจสร้างรายได้มหาศาลให้กับตระกูลดังอย่างตระกูลดีแลนด์ และคุณอีริคดีแลนด์ ประมุขใหญ่ของครอบครัวก็เป็นนักธุรกิจอาวุโสที่มีคนนับหน้าถือตาและถือเป็นแบบอย่างในการดำเนินธุรกิจอีกด้วย แต่นอกจากครอบครัวดีแลนด์จะทำธุรกิจสิ่งทอแล้วยังมีอีกหลายกิจการที่สร้างรายได้ให้กับคนตระกูลนี้มานานแสนนานนั่นคือธุรกิจสายการบินและการโรงแรม...
เจ้าสาวคาวโลกีย์สำหรับเขา เพราะหวงชีวิตหนุ่มโสดที่ยังใช้ไม่คุ้ม เพราะไม่ต้องการแต่งงานตามคำสั่งของมารดาที่ทั้งเจ้ายศเจ้าอย่างและจุ้นจ้านวุ่นวาย ทำให้เขาต้องหาไม้กันหมาที่ต้องแสบแซบเร้าใจเพื่อคานอำนาจของมารดา...สำหรับเธอ มีเงินท่วมหัว ไม่ต้องมีผัวก็ได้ จึงต้องมารับอาชีพไม้กันหมาให้ชายหนุ่ม แต่เมื่อหลวมตัวรับงานนี้ ณดา ก็แทบมอดไหม้ด้วยไฟเสน่หาอันร้อนแรง
เขาหล่อเขาร้ายและร้อนแรงดังเปลวเพลิงที่พร้อมจะละลายน้ำแข็งอย่างเธอ ให้เดือดพล่านด้วยไฟเสน่หา.. ++++++++++ “คนบ้าปล่อยนะ พี่แสน อ๊ายย” หญิงสาวหวีดร้องเสียงหลงเมื่อภาสกรก้มลงหอมแก้มใสหนักๆ อย่างมันเขี้ยวและอยากแกล้ง “แก้มน้ำแข็งหอมจัง” “พี่แสนคนบ้า รังแกน้ำแข็ง คอยดูนะน้ำแข็งจะฟ้องพี่ธาร” หญิงสาวหน้าแดงก่ำทั้งโกรธทั้งอาย “ฟ้องไอ้ธารคนเดียวเหรอ ฟ้องคุณอาด้วยสิ และฟ้องให้หมดด้วยนะว่าพี่ทำอะไรบ้าง” “พี่แสนจะทำอะไร ว้าย.. ปล่อยนะ คนบ้า พี่แสน กรี๊ดดด..” ทิพย์ธาราหวีดร้องเสียงหลงเมื่อตกอยู่ในวงแขนที่รัดแน่นของเขาแล้วทิพย์ธาราก็รู้ได้ทันทีว่าตนตกเป็นรองเขาหญิงสาวดิ้นเร่าอย่างโมโหฉุนเฉียวเกรี้ยวกราด ความเยือกเย็นที่มีก่อนหน้าหายไปสิ้น เพราะเมื่อปะทะกับเขาทีไรเธอก็มักจะเป็นเช่นนี้และไม่สามารถควบคุมตัวเองให้สงบเยือกเย็นได้นานเลยสักครั้ง
CEO,เมียเก็บ,การเบรรยายแบบมัลติเธรด,สัญญารัก,โรแมนติก,นิยายอีโรติก,ความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ซับซ้อน,การมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก
“นอน.. นอนบนเตียงเดียวกันนี่นะ” ธีธัชไม่ตอบแต่พยักหน้ารับช้าๆ “แล้ว.. แล้วทำไมคุณไม่ใส่เสื้อล่ะ” ใบหน้านวลแดงก่ำมองเขาอย่างระแวง ธีธัชซ่อนยิ้มในหน้า “ก็เพราะว่า... เธอเป็นคนถอดน่ะสิ” “เหลวใหล..” วีรนุชตาเหลือกไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน “นอกจากเธอจะเป็นคนที่ถอดเสื้อผ้าฉันแล้ว เธอก็ยังกอดฉันไว้ทั้งคืนอีกด้วย ยังไม่พอ เธอยัง..” “พอๆๆ ไม่ต้องพูด ไม่อยากฟัง ถอยออกไปเลย” หญิงสาวหลับตาลงพร้อมทั้งปิดหูทั้งสองข้าง ใบหน้าแดงก่ำ ธีธัชหัวเราะชอบใจ แต่ไม่อยากแกล้งให้เธออายมากไปกว่านี้จึงลุกขึ้นแต่โดยดี และเมื่อร่างสูงใหญ่ลุกไปยืนข้างเตียง วีรนุชก็ต้องรีบปิดหน้าหวีดร้องออกมาอีกรอบเมื่อเขารั้งเอาผ้าห่มไปด้วย และเธอก็พบว่า ตัวเองก็เปลือยเปล่าไม่แพ้กัน “กรี๊ดดดด คนบ้า คุณทำอะไรฉันเนี่ย..” และเธอก็ได้ยินเสียงหัวเราะชอบอกชอบใจของเขาดังเข้าหูมาให้ได้อับอาย “อยากฟังไหมล่ะว่าเมื่อคืนเราทำอะไรกันบ้าง” “ไม่ ไม่ฟัง.. คนบ้า อ๊ายยยย... เอาผ้าห่มคืนมานะ ว้ายยยยย...” วีรนุชกรีดร้องออกมาเมื่อธีธัชกระชากผ้าห่มที่เธอใช้คลุมร่างกายอยู่ออกไปเหมือนแกล้ง... ส่วนคนที่แกล้งจนเธอได้อายนั้นก็หัวเราะชอบอกชอบใจ
เพื่อจัดการกับคนไข้ที่แสนเอาแต่ใจและดื้อรั้น เธอจึงต้องงัดกลยุทธ์ต่างๆ ออกมาใช้ เพื่อปราบคนดื้อรั้น แต่ ไปๆ มาๆ กลายเป็นว่าเธอกับเขากลายเป็นสามีภรรยากันได้อย่างไร
“บูมถามจริงๆ เถอะค่ะ บูมทำอะไรให้พี่เกลียดนักหนาหรือคะถึงได้ทำกับบูมเหมือนบูมไม่มีหัวใจไร้ค่าขนาดนี้ ทำไมพี่วีไม่ปล่อยบูมไปล่ะคะถ้าเกลียดบูมนัก...” เมื่อตัดสินใจว่าจะเข้มแข็ง จะเด็ดเดี่ยวแล้วบุษกรจึงถามออกไปแม้ในใจจะอ่อนแอเหลือเกิน และกลัวว่าคำตอบจากเขาจะทำให้หัวใจเธอสลายก็ตาม “ตอนนี้ฉันยังไม่เบื่อ ยังอยากได้เธออยู่อยากได้มีคนมาสนองความใคร่อยู่เธอก็ต้องอยู่ในฐานะนางบำเรอของฉันต่อไปจนกว่าฉันจะแต่งงานกับคนที่ฉันรัก...” คำตอบจากเขาเหมือนมีดกรีดลงบนหัวใจบางๆ ของเธอ แม้จะทำใจไว้แล้วว่าจะต้องเจอกับคำตอบที่ไม่รื่นหูและอาจจะทำร้ายจิตใจอย่างแน่นอนแต่บุษกรก็อดที่จะยอกแสลงในอกไม่ได้ นาวีช่างเป็นดั่งพญามารที่ใจร้ายใจดำเสียเหลือเกิน
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
เธอเป็นหมอเก่งๆ ระดับสากล เป็นประธานของบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง ผู้บังคับบัญชาหารรับจ้างที่แข็งแกร่งที่สุด และผู้คลั่งไคล้เทคโนโลยีอันดับหนึ่ง... ไม่นานมานี้ เจี่ยนอู่ ผู้มีความสามารถแข็งแกร่งกลับปกปิดตัวตนของนางและแต่งงานกับชายหนุ่มยากจนคนหนึ่ง โดยไม่คาดคิดก่อนวันแต่งงาน คู่หมั้นของเธอกลายเป็นนายน้อยที่หายไปจากครอบครัวที่ร่ำรวย เขาไม่เพียงเสียใจกับการหมั้นหมายเท่านั้น แต่ยังปราบปรามและทำให้เธออับอายด้วยทุกวิถีทางอีกด้วย เมื่อความจริงถูกเปิดเผย อดีตคู่หมั้นของเธอตกตะลึง และขอร้องให้กลับมาคืนดีกัน ผู้คนใหญ่โตที่ร่ำรวยและน่านับถือคนหนึ่งยืนอยู่ต่อหน้าเจี่ยนอู่ "นี่คือภรรยาของผม ใครกล้าหวังกับเธอ"
เมื่อเพื่อนรักที่ไว้ใจแอบทรยศคบกับชายที่ตนรัก และชายที่ตนรักกลับรังเกียจตนจนไม่แม้แต่จะแตะต้องเนื้อตัวเธอ สิ่งที่เธอทำได้คือต่างคนต่างอยู่ แต่ในวังหลังแห่งนี้เธอจะทำอย่างนั้นได้จริงหรือ? ตัวอย่างเนื้อเรื่อง “เจ้ามีอันใดจะกล่าวหรือไม่... สนมหลี่กุ้ยเฟย” น้ำเสียงราบเรียบก่อนจะเน้นที่ละคำในประโยคท้ายอย่างหนักแน่น “ฮองเฮาแน่ใจแล้วหรือเพคะ ว่าจะให้หม่อมฉันทูลทุกอย่างต่อหน้าข้าราชบริพารเหล่านี้ หากมีข่าวแพร่ออกไปอีก ฮองเฮาทรงทนฟังคำนินทาเหล่านั้นได้หรือไม่” หลี่ฟางซินกล่าวพร้อมยิ้มอ่อนๆ หลี่ฟางซินย่อมรู้ดีว่าเย่วลี่อิงคงได้ยินคำนินทาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วจึงได้พูดเน้นย้ำ หวังจะกระตุ้นให้นางลงมือทำร้ายตน “คำนินทาเรื่องใดกัน เรื่องที่เจ้าเป็นนางอสรพิษนะหรือ เหตุใดเราจะทนฟังไม่ได้เล่า” เย่วลี่อิงตรัสพร้อมยักไหล่อย่าไม่แยแส มีหรือเย่วลี่อิงจะดูไม่ออกว่า ข่าวลือที่แพร่ออกไปนั้นมาจากผู้ใด หากเป็นแต่ก่อนนางย่อมไม่คิดว่าเป็นสหายคนสนิทของนางเป็นแน่ แต่บัดนี้นางรู้แล้วว่าหญิงที่ยืนตรงหน้านางหาใช่สตรีอ่อนหวานแสนดีอย่างที่นางรู้จักไม่ “หม่อมฉันเป็นนางอสรพิษตั้งแต่เมื่อใดกันเพคะ หม่อมฉันและฝ่าบาทมีใจรักใคร่กันมาเนิ่นนาน หากไม่ใช่เพราะฮองเฮาใช้ความดีของท่านแม่ทัพทูลขอให้ฮ่องเต้องค์ก่อนพระราชทานงานแต่ง วันนี้ตำแหน่งฮองเฮาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นของใคร” “เจ้านางแพศยา หากเจ้ามีใจให้ฝ่าบาท แล้วทำไมไม่บอกข้า ยังแสดงแกล้งเป็นแม่สื่อนำของที่ข้ามอบให้ฝ่าบาท ฝากผ่านพี่ชายเจ้าช่วยมอบของให้ฝ่าบาทแทนข้า” เย่วลี่อิงเริ่มพูดด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “ของอันใดกันเพคะ หม่อมฉันไม่เคยนำของ ของพระองค์มอบให้ฝ่าบาทเลยนะเพคะ ยิ่งให้พี่ชายช่วยส่งแทนให้ยิ่งมิเคย” น้ำเสียงเยาะเย้ยบวกกับรอยยิ้มยียวนของหลี่ฟางซินทำให้เย่วลี่อิงหัวเสียมากขึ้น “นี้เจ้าเอาของของเราไปทิ้งอย่างนั้นหรือ” “ฮองเฮาพูดถึงเรื่องอะไรเพคะ หม่อมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย พระองค์อย่าได้ใส่ความหม่อมฉันสิเพคะ” “นี้เจ้า”
"เธอคือผู้ฝึกสัตว์ร้ายที่มีดวงตาสีม่วงอันเป็นเอกลักษณ์ในศตวรรษที่ 24 เมื่อเธอเกิดใหม่เป็นหญิงตั้งครรภ์ ดวงตาของเธอถูกขุดออก การฝึกฝนของเธอถูกทำลาย ตัวตนของเธอถูกพรากไป และลูกชายของเธอถูกไอ้สารเลวและผู้หญิงใจร้ายแย่งชิงไป! จะทนกับสิ่งนี้ได้อย่างไร! จากนั้นเธอใช้ชีวิตกับลูกสาว ปราบสัตว์ร้ายทั้งหมดด้วยดวงตาสีม่วงของเธอ จัดการทุกคนที่หาเรื่องพวกเขา และในที่สุดก็พบกับราชาเทพชั่วร้ายที่พาลูกชายของเธอไปจนได้ ลูกตัวน้อย ""แม่ มีผู้ชายคนหนึ่งที่บอกว่าตราบใดที่หนูเรียกเขาว่าพ่อ เขาจะมอบภูเขาทองคำให้หนู"" ผู้หญิง ""ถามเขาหน่อยว่าเขามีอีกไหม ฉันสามารถเรียกเขาว่าพ่อได้ด้วยนะ"" ราชาเทพกัดฟัน ""สาวน้อย ลูกทั้งสองเป็นของฉัน และตัวเธอก็เป็นของฉันด้วย"""
แต่งงานกับมู่หนานจือมาเป็นเวลาสามปี ซูป้านเซี่ยคอยดูแลและเอาใจเขามาโดยตลอด แต่สุดท้ายสิ่งที่ได้รับจากเขาคือความเย็นชาและความรังเกียจ เมื่อคนรักของมู่หนานจือกลับมา เธอก็รู้สึกว่าสามีของเธอยิ่งห่างเหินจากเธอ ในที่สุด เธอไม่สามารถทนต่ออีกต่อไปและเป็นฝ่ายเสนอให้หย่ากัน มู่หนานจือมองตามหลังซูป้านเซี่ยที่กำลังลากกระเป๋าเดินทางออกจากบ้าน ก็พนันกับเพื่อนว่า "ดูเอาเถอะ สักวันหนึ่งเธอจะต้องเสียใจและกลับมาอ้อนวอนแน่ ๆ " ซูป้านเซี่ยได้ยินก็ยิ้มอย่างเย็นชา"มู่หนานจือ ฝันไปเถอะ" ผ่านไปหลายวัน มู่หนานจือบังเอิญพบว่าอดีตภรรยาของตนฉลองการหย่าร้างในบาร์ และจากนี้ไปอีกไม่นาน เธอก็มีแฟนหนุ่มใหม่แล้วด้วย เวลานี้เอง มู่หนานจือถึงเริ่มกระวนกระวายใจขึ้นมา เพราะเขาพบว่าผู้หญิงที่เคยรักเขาอย่างเอาเป็นเอาตายนั้น ตอนนี้ดูเหมือนไม่ได้สนใจเขาอีกต่อไปแล้ว แล้วเขาควรจะทำอย่างไร
ตอนเด็กถูกทอดทิ้งให้โดดเดี่ยว แม่ถูกทำร้าย ฉือเนี่ยนสาบานว่าจะเอาทุกอย่างที่เป็นของตัวเองกลับคืนมา!ครั้งแรกที่กลับมาที่เมืองจิง เธอถูกมองว่าเป็นผู้หญิงที่ไร้การศึกษาและสำส่อนหลายคนบอกว่าลู่เหยียนสือต้องตาบอดแน่ๆ ถึงได้มาสนใจฉือเนี่ยนแต่มีแค่ลู่เหยียนสือเท่านั้นที่รู้ ว่าเธอที่เขารักและทะนุถนอมนั้นมากความสามารถ สามารถสร้างความวุ่นวายให้ทั้งเมืองจิงได้ด้วยตัวคนเดียวเธอคือหมอมือหนึ่ง เธอคือแฮ็กเกอร์มือทอง และยังเป็นนักปรุงน้ำหอมชั้นยอดที่ได้รับการยกย่องจากบุคคลสำคัญคนภายนอก: "คุณลู่ คุณจะเอาใจภรรยาจนไม่มีขอบเขตเลยเหรอ ทำไมแม้แต่ประชุมยังต้องอุ้มเธอไว้ด้วย!"ลู่เหยียนสือ "ต้องเอาใจภรรยาถึงจะรุ่งเรืองเฟื่องฟู"ต่อมาความลับของเธอถูกเปิดเผย ทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนหันมาชื่นชมและยกย่องเธอ...
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY