เมื่อได้รับมอบหมายจากท่านประธาน ให้ฝึกงานบอสใหม่ และเฝ้ายามเขาไม่ให้ริ้นไต่ไรตอม แต่ยังไง๊ ยังไง เธอดันไปงาบเขาซะเอง แง๊! บอสคะ เรื่องระหว่างเรามันจะต้องเป็นความลับนะคะ
เมื่อได้รับมอบหมายจากท่านประธาน ให้ฝึกงานบอสใหม่ และเฝ้ายามเขาไม่ให้ริ้นไต่ไรตอม แต่ยังไง๊ ยังไง เธอดันไปงาบเขาซะเอง แง๊! บอสคะ เรื่องระหว่างเรามันจะต้องเป็นความลับนะคะ
“ก็อยากจะเมาให้ลืมเธอ ลืมความรักที่แสนห่วยยยยย ความรักเหมือนควายยยย ทำไมฉันถึงโง่เป็นควายยย”
เสียงร้องเพลงที่ไม่ตรงกับเนื้อ แถมยังลากยาวกว่าทำนอง บอกได้ว่าคนร้องนั้น กำลังสติไม่อยู่กับตัวมากขนาดไหน แต่เจ้าหล่อนก็ยังไม่ปล่อยไมโครโฟน ยังคงพร่ำร้องเพลงต่อไป ไม่สนว่าเพื่อนรักสองคนตอนนี้ กำลังเอามืออุดหู และต่างมองหน้ากัน ขยิบตาให้กัน เหมือนเป็นสัญญาณว่า ใครก็ได้ ช่วยห้ามเธอที!
อย่ามาห้ามอะไรเธอตอนนี้
ไม่! เธอไม่ฟังอะไรใครทั้งนั้น เพราะเธอจะร้องเพลง ร้อง ร้องและร้อง ร้องให้มันระบาย
เธอถูกคนรักบอกเลิก!
ไอ้ห่านั่นหนีเธอไป มันบอกว่ามันจะแต่งงาน
ฮือ! ไม่ใช่เธอหรือยังไงกันที่จะต้องแต่งงานกับมัน
โอ๊ย! ช้ำใจ
แล้วแถมด้วยการแท็คภาพงานแต่งมาให้ดูยิ่งตอกย้ำความช้ำไปอีก
อื้อหือ...
จะมีอะไรเจ็บไปกว่านี้อีกไหมนะ ประกาศโต้งๆ ออกสื่อขนาดนี้ ปู้ยี้ปู้ยำหัวใจกันได้ขนาดนี้
อยากจะร้อง แต่ก็ร้องไปหมดแล้วเมื่อสองวันก่อน ร้องจนต้องลางานเพราะไปทำงานสภาพนั้นไม่ไหว เป็นการลางานครั้งแรกในรอบหลายปีของเธอตั้งแต่ทำงานมาก็ว่าได้ ลาเพราะแฟนทิ้ง เหอๆ ร้องไห้หนัก รู้ไปถึงไหน ก็อายไปถึงนั่นล่ะ
“ก็อยากจะเมาให้ลืมเธอ”
“พอแล้วยัยวาววา ร้องเป็นรอบที่ร้อยแล้ว เพลงของฉันล่ะยะ แบ่งกันมั่งสิ” ริญญารับอาสาเป็นหน่วยกล้า แย่งฉกไมโครโฟนออกมาจากคนอกหัก และเมากึ่มๆ อชิรญาส่งตาขวางให้ทันที แล้วทำท่าจะโผนมาแย่งไมค์กลับ เลยกลายเป็นศึกชิงไมค์วิ่งกันไปวนกันมารอบห้องคาราโอเกะวีไอพี ที่วันนี้ริญญาเป็นคนพาเพื่อนสาวมาเหมาเลี้ยง ในโอกาสฉลองวันแต่งงาน...
วันแต่งงานของแฟนเก่าของอชิรญา
“เอาไมค์มา เอามา แกมันคนใจร้าย ใจดำ ฮือๆ” แย่งไม่ได้เข้า หนนี้คนเมาก็ทำท่าจะร้องไห้ จนทองอุไรเพื่อนสนิทอีกคน ต้องดึงไมโครโฟนคืนมาจากริญญาแล้วส่งให้กับเธอ
“เอ้าๆ เอาคืนไป แต่พอก่อนนะเพลงนี้ แบบฉันฟังจนเบลอไปหมดแล้ว ขอนะเพื่อนนะ”
“เอ่อ...ไม่ร้องแล้วก็ได้ ไม่ให้ร้องเพลง ร้องไห้แทนได้ไหมล่า” สองสาวมองสบตากัน ก่อนที่ริญญา จะร้องเฮ้อ แล้วดึงเพื่อน มานั่งกอดคอให้เพื่อนรักอยู่ตรงกลางระหว่างเธอกับทองอุไร
“อย่าร้องไห้วาววา เพื่อนเลิฟ พอทีพอเถอะ กับไอ้ผู้ชายขี้เก๊กแบบนั้นอะ แกลืมๆ มันไปเหอะ”
“อยากลืม แต่เจ็บใจงะ มันเจ็บใจ” ว่าแล้วก็ตบไปที่หน้าอกของตัวเอง ดังปึกๆ ริญญารีบห้ามด้วยการเบรกเพื่อนเสียงนิ่งๆ
“อย่าตบแรงแก นมยิ่งน้อยๆ อยู่ เดี๋ยวยุบไปกันใหญ่”
“ยัยหญิง ยัยเพื่อนใจร้าย ฮือๆ มิ้นช่วยด้วย เพื่อนโดนรังแกเรื่องขนาดนม” ว่าแล้วก็โผไปซบทองอุไร ที่ทำทีขยับแว่นตาที่สวม มองดูริญญาที่ทำท่าไม่รู้ไมชี้ แต่อมยิ้มด้วยสายตาดุๆ
“แกนี่...แทนที่จะพูดดีๆ กับเพื่อนมั่ง ปลอบใจอะไรมั่ง ตั้งแต่แย่งไมค์มันแล้วนะ เพื่อนกำลังเศร้าอยู่ด้วย”
“พูดดีก็แล้ว ด่าก็แล้ว มันก็ยังร้องไม่เลิก จนแบบว่านี่ชักจะปวดหัวงะ” ริญญากอดอก มองดูคนที่กำลังซบอยู่กับอกของทองอุไร แล้วก็สั่นหน้า
“เศร้าโศกาอะไรขนาดนั้นหะ ยัยวาววา อีตาเดย์แฟนเก่าหล่อน มันก็ไม่ได้วิเศษอะไรนักไม่ใช่หรือไงอะ ขี้เก๊ก ขี้อวด สารพัดขี้ อ้อ...มันขี้เอาลับหลังแกด้วย มันเอาไปเรื่อย ขนาดฉันมันยังเคยคิดจะมาเอา”
“แล้วให้มันไหมล่ะ” หนนี้คนถามคือทองอุไร คนตั้งใจฟังจนหูผึ่งคืออชิรญา รู้กันในหมู่เพื่อนสนิท ที่คบกันมายาวนานในหมู่พวกเธอสามคนว่า ริญญานั้น เป็นสาวแรด และแรงเบอร์ไหน หล่อนเป็นสาวไฮโซ นามสกุลดัง ที่บิดามารดาเสียชีวิตไปในอุบัติเหตุเครื่องบินตก เรื่องนี้พวกเธอก็พึ่งเคยได้ยินริญญาหลุดปากออกมานี่แหละ เจ้าหล่อนรีบเอามือปิดปาก แล้วทำตาโต
“อุ๊บ”
“ตกลงว่า หล่อนเคยได้กับไอ้เดย์ไหมน่ะ”
“แรดขนาดไหนก็ไม่เอาปะวะ ผัวเพื่อนอะ” ริญญารีบโวย “แถมเอาก็ไม่คุ้ม อี๋ หนอนน้อยอะ”
คำพูดของหล่อน เล่นเอาอชิรญาหน้าแดง ก่อนจะขำก๊าก ส่วนทองอุไร คนที่เรียกได้ว่าใสๆ ที่สุดในกลุ่ม ทำตาปริบๆ แล้วถามหน้าซื่อ
“อะไรอะหนอนน้อย”
“แหม...แรดแล้วคุ้มค่า เสี่ยงผิดใจกับเพื่อนแล้วคุ้มกับปริมาณก็ดีอยู่หรอก แต่แบบ” ริญญายักไหล่ ก่อนจะยกมือไหว้เพื่อน ที่ตอนนี้ยังเปลี่ยนอารมณ์ขำไม่หยุดกับคำพูดว่าหนอนน้อยของเธอ
“ขอโทษนะยัยวาววา แต่แบบบังเอิญไปโดนงะ ไม่ได้เคยเห็นนะ ไม่ได้อยากเห็น ไม่ได้อยากเย เย้ พ่อคนหล่อของหล่อนแต่อย่างใด”
“อดีตแล้วย่ะ เหอๆ ใช่อย่างที่แกพูด ไอ้ผู้ชายกระเจี๊ยวเล็ก ทำก็ไม่เคยจะเสร็จ ถ่มถุยมากเหลือเกินชีวิต พวกแกคิดดูสิ๊ ฉันอะมีมันเป็นแฟน ไม่เคยนอกใจมัน ตั้งใจจะแต่งงานกับมันเพราะเสียจิ้นให้มันตอนอายุ 25 แล้วแบบ...อะไรอะ มันคืออะไร นี่คือสิ่งที่ฉันควรได้รับไหม ผู้ชายจอมทรยศ แถมยังไม่ได้เรื่อง มาพรากชีวิตวัยสาวของฉันไป ที่ผ่านมาฉันทำอะไรกับตัวเองวะ ฉันน่าจะเลิกกับมันไปตั้งแต่มันนอกใจฉันหนแรกแล้วด้วยซ้ำ ไม่น่าจะรอมาจนสามสิบกว่า ปูนนี้แล้วจะหาผัวใหม่ได้ปะละ”
ไฟร้ายอย่างเขา ไม่เคยเชื่อมั่นในความรัก ความสุขจากเซ็กส์แลกได้จากร่างกายอันแข็งแกร่ง และเงินตรา ผู้หญิงหน้าไหนก็อยากได้เขาเพราะสองสิ่งนี้ จนมาเจอกับเธอ หญิงสาวคนแรกที่กล้าสะบัดหน้าหนีเขา ฉีกเงินของเขาทิ้ง แล้วบอกให้ว่าเขาช่างไร้เสน่ห์สิ้นดี! กล้าดีแบบนี้ เกมล่าใจจึงเริ่มต้นขึ้น “ไม่ได้นะคะ เราไม่ควรทำแบบนี้ คุณอาร์ตมีคู่หมั้นแล้วนะคะ ปล่อยปลาไปนะ ถ้าไม่อย่างนั้นปลาจะไปฟ้องคู่หมั้นคุณ” เห็นว่าไม้นวมไม่ได้ผล ปราณปรียาก็ชักไม้แข็งขึ้นมาขู่ เธอหวังว่าเขาจะยอมปล่อยเธอไปแต่โดยดี โดยไม่รู้เสียเลยว่าคำพูดคำนั้น มันยิ่งจุดเพลิงให้ไฟที่กำลังจะสงบ กลับลุกโพลงขึ้นมาอีก “คู่หมั้น เหอะ ! ใครจะหมั้นกับใครกัน” เขาจับต้นแขนเธอแล้วดันเธอให้ผละออกจากอกกว้างเพื่อจะมองเผชิญหน้ากัน ปราณปรียาถึงกับอ้าปากค้าง เขาเปลี่ยนไวจริงๆ วันนี้ อารมณ์เดี๋ยวร้ายเดี๋ยวดี แล้วเธอจะทำอย่างไรดีนะ กับไฟร้อนที่กำลังคลุ้มคลั่งตรงหน้า สมองน้อยๆ เริ่มคิดถึงทางรอดอย่างว่องไว แต่ก็คิดไม่ออกเพราะความกลัวเขา “ผมไม่มีพันธะ ผมไม่ยอมให้ใครมาจับผมทั้งนั้น จำไว้นะปลา ผมจะไม่มีวันแต่งงาน” “ตะ แต่ว่า” หญิงสาวเอ่ยตะกุกตะกัก เนื้อตัวเริ่มสั่นเพราะความกลัว แต่อัคคีห้ามตัวเองไม่ได้เสียแล้ว เขากำลังร้อน กำลังพาลไปเสียทุกอย่าง เขามองจ้องหน้าเธอด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว ยิ้มเหี้ยม เมื่อเอ่ยเสียงเย็น “ผู้หญิง...หึๆ ชอบเล่นเกมใช่ไหมปลา เหมือนที่ปลากำลังเล่นเกมกับผม เกมใจแลกใจอะไรนั่น ผมไม่เล่นด้วยแล้ว ผมจะทำตามใจตัวเอง แล้วอย่าหวังว่าจะจับผมไปแต่งงานมีพันธะได้นะ ไม่มีทาง!”
ชายหนุ่มที่ผิดหวังในความรักเข้าขั้นสาหัส จนอาการหนักแอนตีผู้หญิงไปแล้วทั้งโลกอย่างเพลิง มีอันต้องป่วนหัวใจ เมื่อเธอก้าวเข้ามาวุ่นวายในสวนส้มตะวันฉาย ผู้หญิงอะไรน่ารักน่าหยิก แถมมาด้วยเป้าหมายไม่ธรรมดา อย่างนี้ต้องแกล้ง...เสียให้เข็ด เมื่อถูกยื่นข้อเสนอให้ไปเป็นสปายสายลับจับเกย์ ในสวนส้มตะวันฉาย ตวงรักจึงตะครุบงานนี้ไว้อย่างรวดเร็ว แต่ทว่าตั๋วเครื่องบินไปสวิส พร้อมกับพอกเก็ตมันนี่ มันจะคุ้มไหมนะ ถ้าเจอกับคนเจ้าเล่ห์แสนเนียนอย่างอีตาเพลิง! “ไม่มีครายเข้าใจผมเลยสักคน รู้ไหม คุณตวงรัก” น้ำเสียงยานคาน แฝงแววน้อยอกน้อยใจนั่น ทำเอาตวงรักหยุดดิ้นรนได้ชั่วครู่ เมื่อสัมผัสได้ว่า คนตัวโตที่กำลังกอดเธอไว้ กำลังทำเหมือนคนขาดความอบอุ่น จึงไขว่คว้าหามันจากเธอ ตวงรักเงยหน้ามองเขา แล้วสบกับสายตาคมกริบที่กำลังฉายแววตัดพ้อ ตวงรักมองเขานิ่ง หยุดดิ้นไปแล้ว มือนิ่มโอบตอบร่างหนา แถมลูบหลังให้เขาเบาๆ อีกต่างหากเหมือนจะปลอบโยน อาการของเธอทำให้เพลิงเกือบจะหลุดยิ้มออกมาเสียแล้ว ชายหนุ่มแกล้งทำเสียงเศร้าและนัยน์ตาโศกมากกว่าเดิม “ทำไมผมถึงเป็นแบบนี้กันนะ” “คุณเพลิงเป็นอะไรไปเหรอคะ บอกตวงก็ได้นะ” เธอกล่าวอย่างปลอบประโลม ใจอ่อนยวบไปเสียแล้ว กับคนที่เธอกำลังลูบหลังไหล่ให้อยู่นี่ เขาเป็นอะไรไปกันนะ ทำไมถึงต้องเมามามากขนาดนี้ แล้วก็ทำท่าเหมือนกำลังเศร้าโศกอย่างหนักด้วย “ผมบอกใครไม่ได้” เพลิงส่ายหน้าเบาๆ ถือโอกาสโอบร่างเพรียวเข้าหาตัว และซบหน้าลงกับกลุ่มผมหอมกรุ่น แอบสูดกลิ่นหอมน่าชื่นใจนั่นเข้าปอด ตวงรักถึงกับครวญออกมาอย่างสงสารคนตัวโต ที่วันนี้ทำท่าท้อแท้ หมดแรงต่อสู้อย่างน่าประหลาด “โธ่...บอกตวงได้นะคะ ถึงเราจะรู้จักกันได้ไม่นานนัก แต่คุณเพลิงก็ไว้ใจตวงได้นะ เล่าให้ตวงฟังได้ทุกอย่างเลยค่ะ ตวงยินดี” “มันเป็นเรื่องน่าอายมากเลยครับ” ชายหนุ่มทำเสียงเศร้า แล้วแอบยิ้มกับกลุ่มผมของเธอ “อย่าเก็บไว้เลยนะคะ ตวงไม่เคยเห็นคุณเพลิงเป็นแบบนี้สักที มีอะไรอัดอั้นตันใจ ก็เล่าให้ตวงฟังได้เลยค่ะ” ยิ่งฟังน้ำเสียงของเขา ตวงรักก็ยิ่งสงสารเขา มือเรียวยังคงลูบหลังให้อย่างปลอบใจ เธอลืมไปสนิทว่า เธอกำลังกอดกับเขาอยู่ อย่างแนบชิดเสียด้วย เพราะมัวแต่จะปลอบโยนเขาให้คลายเศร้า “คือว่า ฟังแล้วคุณตวงอย่ารังเกียจผมนะครับ” เพลิงผละออกจากร่างนุ่มอย่างเสียดาย นัยน์ตาคมกริบที่สบกับตวงรัก มีประกายประหลาด ขณะที่เขาสารภาพเสียงอ่อน “ผมกำลังคิดว่า ผมคงจะเป็นเกย์ ผมชอบผู้ชาย จะทำยังไงดีครับ คุณตวงรัก” “หา!”
เพราะว่า...การช่วยตัวเอง...ในที่ทำงานมันผิด!! “โดนของจริงดีกว่าไหมครับ...แค่นิ้ว...มันคงไม่อาจจะสนองความต้องการของคุณได้” นี่จึงเป็นบทลงโทษที่เธอต้องรับมันไป...โทษฐานที่ทำให้ท่านประธานอย่างเขาจับได้...!!
เพราะรักเขาตั้งแต่แรกเห็น หล่อนจึงยินยอมแต่งงานกับเขา เพราะถูกบังคับเขาจึงเห็นหล่อนเป็นเศษธุลีดินไร้ค่า แม้เป็นเมียแต่ง หล่อนคิดว่าสักวันหนึ่งเขาอาจจะรักหล่อนตอบกลับมา ไม่มาก... ก็น้อย แต่ไม่นึกว่าเมื่อเขาหลอกให้หล่อนรักเขาสุดหัวใจ เขากลับขับไล่หล่อนออกมาจากชีวิตด้วยเหตุผลว่า เขาไม่รักหล่อน... "เธอเข้ามาในชีวิตฉันง่ายๆ ก็ช่วยออกไปง่ายๆ ด้วยเถอะ" ถ้อยคำเจ็บปวดทำร้ายที่ตามมาหลอกหลอน แม้ในยามที่หล่อนหลีกลี้จากเขามาได้นานเนิ่น ในวันที่หล่อนเข้มเเข็งและอยู่ได้โดยไม่มีเขา ลูกในท้องที่หล่อนปกปิดเขาเอาไว้ กำลังจะทำให้หล่อนกับเขาหวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ในวันที่หล่อนไม่ได้รักเขาอีกต่อไปแล้ว ................................................................ “การแต่งงานของเราเกิดขึ้นเพราะฉันถูกบังคับ การที่ฉันไม่ได้รักเธอ มันไม่ใช่ความผิดของฉัน ฉันหวังว่าเธอจะเข้าใจ” ธีภพ วิชญ์วิศิษฐ์ “ความรักของมนอาจจะดูไร้ค่าแต่มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสิ่งเดียวที่มนพอจะให้คุณธีร์ได้ ที่ผ่านมาคุณธีร์แสดงออกเสมอว่าคุณธีร์ไม่ต้องการและทิ้งขว้างมันมาตลอด มันก็ไม่ใช่ความผิดของมนที่สุดท้ายมนจะหมดรัก มนหวังว่าคุณธีร์จะเข้าใจ เหมือนที่มนเคยเข้าใจคุณธีร์” มนพัทธ์ สว่างโชติ
ตั้งแต่เกิดมา ฉันรู้สึกมีความสุขมากที่สุดก็ตอนนี้.. ก่อนหน้าที่ฉันจะมีความสุข ชีวิตคู่ฉันเกือบจะแตกสลาย.. สามีฉันไม่ค่อยยอมร่วมรักกับฉัน... ในที่สุดฉันก็มีชู้.. และพอสามีฉันรู้.. เขาจะหาทางออกยังไง..
นางแบบสาวไทยที่ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขมาโดยตลอด...จนวันหนึ่งได้พบกับเขา เขาที่เป็นพี่ชายสามีของน้องนางแบบที่เคยทำงานด้วยกัน ชีวิตของเธอก็ได้เปลี่ยนไป เพราะนอกจากถูกเขากวนใจแล้ว..เธอยังถูกเขากวนตัวอีกด้วย
หลินเจียอีหญิงสาวในศตวรรษที่21ตกตายด้วยโรคระบาด วิญญาณของเธอได้ทะลุมิติมาอยู่ในร่างของเด็กสาวอายุ14 ที่มีชื่อเดียวกับเธอซึ่งสิ้นใจตายระหว่างเดินทางกลับบ้านเดิมของมารด ********* หลินเจียอีลืมตาตื่นขึ้นมาในสภาพบ้านที่ไม่คุ้นชิน เธอจำได้ว่าก่อนหน้านี้ได้เข้ารักษาตัวจากอาการติดเชื้อโรคระบาดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เหตุใดถึงมาโผล่ในบ้านทรงโบราณ รอบกายเธอเต็มไปด้วยผู้คนแต่งตัวล้าสมัย ต่อมาเธอค้นพบว่าตนเองได้ทะลุมิติเข้ามาอยู่ในร่างของเด็กสาวอายุ 14 ซึ่งมีชื่อเดียวกันกับเธอ แต่ชะตากรรมของเด็กสาวผู้นี้ช่างน่าสงสารนัก บิดาเพิ่งลาโลก แม่โดนฮุบสมบัติแล้วถูกขับไล่ออกจากตระกูล ต้องระหกระเหินพาเจ้าของร่างที่ถูกทุบตีจนสิ้นใจระหว่างทางกลับมาบ้านเดิมที่แสนยากจนข้นแค้น ****ไม่มีฉากอีโรติก เริ่มล็อกเหรียญตอนที่ 25 ก่อนเข้าไปอ่านเนื้อหานิยายอ่านคำเตือนก่อนนะคะ (สำคัญมาก) 1. กรุณาแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพให้เกียรตินักเขียนและนักอ่านท่านอื่น หากแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำหยาบคายไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในนิยายหรือมุ่งประเด็นด่าทอนักเขียนเพื่อระบายอารมณ์ ความคิดเห็นจะถูกลบออก!! 2. นิยายเรื่องนี้เกิดขึ้นจากจินตนาการของนักเขียน บุคคลและสถานที่ที่เกิดขึ้นไม่มีอยู่จริงในโลก เนื้อหาในนิยายมีทั้งสมเหตุผลและไม่สมเหตุสมผล บางตอนอาจมีฉากที่รุนแรง (ต่อสู้) โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน 3. ตัวละครในนิยายมีทั้งดีและเลวแต่กต่างกันไป โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ห้ามคัดลอกดัดแปลงแก้ไขนิยายเรื่องนี้ทุกกรณี หน่วยเงินตรา 1000 อีแปะ 1 ตำลึงเงิน หน่วยวัดตวงน้ำหนัก 1 ชั่ง 500 กรัม หน่วยเวลา 1 จิบน้ำชา ระยะเวลาที่สั้นมาก ๆ 1 เค่อ 15 นาที 1 ก้านธูป 30 นาที 1 ชั่วยาม 2 ชั่วโมง 12 ชั่วยาม 24 ชั่วโมง ยามจื่อ 23.00-24.59 ยามโฉ่ว 01.00-02.59 ยามอิ๋น 03.00-04.59 ยามเหม่า 05.00-06.59 ยามเฉิน 07.00-08.59 ยามซื่อ 09.00-10.59 ยามอู่ 11.00-12.59 ยามเว่ย 13.00-14.59 ยามเชิน 15.00.16.59 ยาวโหย่ว 17.00-18.59 ยามชวี 19.00-20.59 ยามห้าย 21.00-22.59
ตระกูลซูล่มสลาย จวนเจิ้นกั๋วทั้งตระกูลถูกประหารชีวิตในคืนเดียว ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งถูกน้องสาวหลอกใช้ ถูกชายเจ้าชู้เล่นตลก ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งใช้ชีวิตอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่แคว้นเป่ยเหลียงสิบกว่าปี แต่กลับถูกกล่าวหาว่าคบคิดกับศัตรู คนทั้งแคว้นเซิ่งถังต่างก็ด่าทอยกใหญ่ ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งต้องยืนมองน้องสาวกับรักแรกของตนสนิทสนมกัน ครองโลก ส่วนตัวเองกลับโดนประหารชีวิต เลือดสาดตะวัน เมื่อตื่นขึ้นอีกครั้ง… ซูเฉิงอิ้งถือดาบกลับมา ฟาดแรก… ตัดสายเลือด ฟันน้องสาวอกตัญญู ฟาดที่สอง… ตัดความรัก ฟันรักแรกที่หน้าเนื้อใจเสือ ฟาดที่สาม… ตัดคำพูด ฟันทุกเสียงนินทาของเป่ยเหลียงที่บิดเบือนความจริง ฟาดที่สี่… ตงฟางไป๋เยว่ “หรือว่าฮูหยินอยากจะฆ่าสามีผู้นี้ด้วยหรือ” ซูเฉิงอิ้ง“หุบปาก…”
© 2018-now MeghaBook
บนสุด