เธอคือภรรยา...ที่หาแต่เรื่องให้สามีต้องหมดเรี่ยวแรงทุกวัน
เธอคือภรรยา...ที่หาแต่เรื่องให้สามีต้องหมดเรี่ยวแรงทุกวัน
“ทำไมพวกเราสามคนต้องมาเผชิญชะตากรรมแบบนี้ด้วยวะ” อิงนรีเอ่ยขึ้นหลังยกแอลกอฮอล์ในแก้วตัวเองสาดลงคอไปจนหมดเกลี้ยง เพื่อนสาวอีกสองคนก็ได้ตั่งมองตาแป๋ว อีกคนก็หัวเสียไม่แพ้กัน ส่วนอีกคนด้วยความที่เป็นคนหัวอ่อนเธอไม่ได้ร้อนใจกับเรื่องที่เพิ่งจะระบายกันสักเท่าไหร่
“แกยังดีหยาด อย่างน้อยก็เคยเห็นหน้าค่าตากันบ้าง ว่าเจ้าบ่าวเป็นใครมาจากไหน ฉันสิ...จนจะต้องบินไปหาเขาที่เชียงใหม่แล้ว ฉันยังไม่รู้เลยว่า ว่าที่ผัวเนี่ยชื่ออะไร” อิงนรีเอ่ยขึ้นก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าเอาแก้วเหล้าของเพื่อนที่ดูไม่มีวี่แววจะยกขึ้นดื่มมาสาดลงคอ
“อิงใจเย็น ๆ” เจ้าของแก้วรีบร้องห้าม
“ไม่ต้องมาห้ามฉันเลยนะยายแก้ว แกมัวแต่นั่งฟังฉันกับยายหยาดไม่ยอมยกสักที จนมันจืดหมดแล้วเนี่ย”
“แกจะมาบอกว่าฉันดีกว่าแก เพราะรู้จักกันกับไอ้หมอสิบนั่นก็ไม่ได้หรอกนะ ลืมไปแล้วหรือไงว่าฉันกับมันไม่ถูกกันมาตั้งแต่มัธยม คนเกลียดกันจะแต่งงานกันได้ยังไง” หยาดฟ้าโวยขึ้นบ้าง
“อย่างน้อยแกก็มั่นใจได้ ว่าหมอสิบทิศน่ะหล่อ แล้วก็ร่างกายครบสามสิบสองส่วน เป็นคนแข็งแรงสมบูรณ์ดี ฉันสิ...พิการหรือเปล่าก็ไม่รู้ ไม่อย่างนั้นก็ต้องขี้ริ้วขี้เหร่จนไม่มีใครเอาแน่ แม่ถึงต้องมาหาจับผู้หญิงไปคลุมถุงชนกับลูกชายแบบนี้”
“อิง...ใจเย็น ๆ เขาอาจจะไม่ได้แย่แบบนั้นก็ได้ ดูพวกเราสิ ก็แค่ไม่มีแฟนเลยโดนบังคับแต่งงาน เขาเองก็อาจจะไม่มีแฟนสักที แม่เลยบังคับแต่งงานก็ได้” มาลาแก้วที่ดูจะใจเย็นที่สุดกับเรื่องนี้พูดขึ้น ทั้งอิงนรีและหยาดฟ้าต่างหันไปฟาดสายตาลงที่คนพูดพร้อมกัน
“อย่ามาโลกสวยแถวนี้นะยายแก้ว คนอย่างไอ้หมอสิบน่ะ ถ้ามันจะไม่มีแฟนก็เพราะปากกับนิสัยมันนั่นแหละ ใครจะเอา”
“นี่ไง อย่างน้อยแกก็ยังรู้ ว่าหมอสิบทิศเขาเป็นคนยังไง ฉันไม่รู้อะไรเลยนะ” อิงนรีแทรกขึ้น
“เหอะ ถ้าฉันเลือกได้นะ ขอแต่งกับคนที่ไม่รู้จักแบบแกดีกว่า ไปเรียนรู้กันใหม่ ไม่ใช่รู้อยู่แล้วว่ามันไม่ดี แบบนี้ เป็นตายยังไงฉันก็ไม่ยอมแต่งหรอก แกล่ะ”
“ฉันจะไปขัดป้าได้ยังไง อีกอย่างคิดไปคิดมาก็ดีเหมือนกัน แต่งแล้วก็ต้องไปอยู่ที่โน่น ป้าจะได้ไม่มาบ่นอะไรฉันอีก” อิงนรีปลงเสียแล้ว เรื่องถูกป้าจับคลุมถุงชน เธอเหนื่อยหน่ายที่จะต้องถูกลากไปดูตัวอยู่บ่อย ๆ แล้ว แต่ง ๆ ไปให้มันจบ ๆ ดีกว่า ไม่แต่งกับคนนี้ ป้าของเธอก็ต้องหาคนนั้น คนโน้น มาบังคับให้เธอแต่งเหมือนเดิม
“แล้วแกล่ะยายแก้ว ยังไง” หยาดฟ้าหันไปถามเพื่อนอีกคน
“ก็คิดเหมือนอิง ว่าแต่ง ๆ ไปให้มันจบ ๆ ก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร แม่เลือกมาแล้วว่าดี มันก็น่าจะดีแหละ”
“แกดูใจเย็นกับเรื่องนี้มากนะ เฮ้อ!!!” หยาดฟ้าถอนหายใจ ก่อนจะยกแก้วที่อิงนรีเพิ่งเทน้ำสีทองเติมให้ซดจนหมด
“เบา ๆ แกขับรถกลับเองไม่ใช่หรือไง” คนรินว่าพร้อมกับดึงแก้วออกมาจากมือของเพื่อนสนิท
“ก็ฉันเครียดนี่"
"เครียดน่ะรู้ แต่มันอันตราย พอเลยนะแกไม่ต้องกินแล้ว" อิงนรีว่าพร้อมกับหันไปเทน้ำสีทองที่เหลือใส่แก้วตัวเองจนหมด
"แล้วนี่แกจะไปเชียงใหม่เมื่อไหร่" มาลาแก้ว คนที่ดื่มน้อยที่สุดในโต๊ะเอ่ยถามขึ้น
"น่าจะอีกไม่กี่วันนี้แหละ เห็นป้าโทรคุยกับเพื่อนทุกวัน"
"อ๋อ..."
"กลับยัง? แม่โทรตามแล้ว" หยาดฟ้าเอ่ยถามขึ้น เธอดูจะเมามากแล้ว อิงนรีหันไปมองหน้าเพื่อนอีกคนเพื่อขอความเห็น แต่มาลาแก้วก็ทำได้เพียงส่ายศีรษะไปมาเท่านั้น
"เดี๋ยวฉันไปส่งแกดีกว่า รถก็จอดไว้นี่แหละ ฉันว่าแกขับรถไม่ไหวแล้วนะหยาด" อิงนรีเสนอขึ้น
"ไม่ต้อง!! ฉันไหว พรุ่งนี้ต้องไปทำงาน จอดรถไว้นี่แล้วฉันจะไปทำงานยังไง แกไม่ต้องห่วงฉันหรอก ระดับหยาด กินได้ก็กลับบ้านได้ สบายใจหายห่วง"
"จะไม่ห่วงยังไง นั่งยังไม่ตรงเลยเนี่ย"
ครืดดด ครืดดด
-คุณป้าขา-
"ป้าโทรตามแล้ว รีบกลับเถอะ ฉันขี้เกียจจะโดนบ่นอีก" อิงนรีหันไปบอกกับมาลาแก้ว ซึ่งเธอก็พยักหน้าตอบรับว่าเห็นด้วย สามสาวพากันเดินออกมาจากร้านอย่างทุลักทะเลเพราะต้องคอยประคองคนเมา
"แกกลับไม่ไหวหรอกหยาด เชื่อฉันเถอะ กลับแท็กซี่กับยายแก้ว แล้วจอดรถไว้นี่ซะ"
"ไม่!! ฉันไหว"
"หยาดอย่าดื้อได้ไหม เป็นอะไรขึ้นมามันไม่คุ้มหรอกนะ"
"นี่พวกแกจำวันเกิดพี่ต้อมแฟนเก่าฉันไม่ได้เหรอ เมายิ่งกว่านี้อีกฉันยังกลับถึงบ้านปลอดภัยเลย ไม่ต้องห่วงหรอกน่า กลับบ้านดี ๆ นะ บ๊ายบาย"
"เอ้า!! หยาด!! เฮ้ยเปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ" เผลอแวบเดียวเท่านั้นหยาดฟ้าก็เปิดประตูรถแล้วหนีเพื่อน ๆ สองคนเข้าไปนั่งในรถเรียบร้อย ทิ้งให้อิงนรีและมาลาแก้วยืนงุนงงกับเหตุการณ์กันสองคน
"คงไม่มีอะไรต้องห่วงแล้วมั้ง อิงก็ขับรถกลับดี ๆ นะ"
"แล้วแกล่ะ"
"แก้วนั่งแท็กซี่แป๊บเดียวก็ถึงบ้านแล้ว ไม่ต้องห่วงหรอก ถ้าถึงแล้วจะไลน์บอกนะ"
"อืม ๆ กลับดี ๆ" หลังล่ำลากันเรียบร้อยแล้ว ทั้งสามสาวก็แยกย้ายกันกลับ ส่วนอิงนรีนั้นขับรถไม่ค่อยจะเป็นสุขเท่าไหร่ เพราะมีเสียงโทรศัพท์สั่นตามจิกจนถึงบ้าน
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
“เคลวิน อาร์มันโด” มหาเศรษฐีผู้ไม่เคยเชื่อในพรหมลิขิต ไม่คิดเลยว่าการมาเยี่ยมเยียนมารดาและน้องสาวที่เมืองไทยในครั้งนี้จะได้มาเจอกับกวางน้อยแสนสวยที่เคยทำเขาหัวใจแทบหยุดเต้นมาแล้วครั้งหนึ่ง! เขาวางแผนการบางอย่างเพื่อต้อนกวางน้อยเข้าสู่กรงทองแล้วครอบครองได้อย่างที่จะไม่ทำให้ต้องเสียหน้า แต่กลายเป็นว่านักล่าอย่างเขาพลาดท่าตกลงไปในกับดักนั้นเสียเอง เพราะหนีผู้ปกครองเที่ยวแท้เชียว เธอถึงต้องมาเจอเขาอีกครั้ง ผู้ชายวาจาร้ายกาจกับสถานการณ์น่าอับอาย “มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ ผมยินดีและเต็มใจ” “มีค่ะ” ตอบกลับเสียงแข็ง “เสร็จธุระแล้วก็ช่วยออกไปจากห้องด้วย เชิญค่ะ” ว่าพลางชี้ไปทางประตูห้องด้วยหางตา “เรื่องแค่นี้เองหรือที่ต้องการให้ช่วย” เคลวินหันมาถามหลังจากเดินมาถึงหน้าประตู คิ้วทรงดาบเลิกขึ้นสูง “ผมนึกว่าคุณอยากให้ช่วยแบบว่า... ช่วยติดขอเสื้อในนี่ให้ฉันทีสิคะฉันติดไม่ถึง อะไรแบบนี้เสียอีก” ว่าพลางส่งยิ้มยียวน ดวงตาพราวระยับจ้องนิ่งตรงทรวงอกที่กระเพื่อมขึ้นลงเร็วแรง สาบานได้ว่านี่คือคำพูดของคนเพิ่งเจอกัน เขาเข้ามาในห้องเธอโดยไม่ได้รับอนุญาต แถมยังจ้องเธออย่างเสียมารยาทในขณะที่เธออยู่ในสภาพ... ล่อแหลม! “ลัลน์นารา” หวังอย่างยิ่งว่านั่นจะเป็นครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายในชีวิตกับความอับอายและผู้ชายแสนยียวน แต่โชคชะตาช่างเล่นตลกกับเธอ ให้กงล้อหมุนเวียนพาเธอกับเขามาเจอกันอีกครั้งและกลายเป็นผูกพันกันไปตลอดกาล... “พี่เค นี่มันบนเรือนะคะ” "บนเรือแล้วแปลกตรงไหน หาอะไรแปลกใหม่บ้าง ชีวิตจะได้มีสีสัน” “เรือจะล่มไหมคะ” คนถามออกอาการหวาดหวั่น เคลวินหัวเราะในลำคอกึ่งขบขันกึ่งสงสาร “พี่จะพยายามเบามือที่สุดค่ะ หยาดเองก็อย่ารุนแรงนักนะคะ”
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
ดีแลนถอนหายใจแรงๆ รีบเดินเข้าไปในคลับชั้นสูง สถานที่นัดหมายเพื่อเจรจาธุรกิจ และคู่ค้าของเขา เลือกสถานที่แห่งนี้สำหรับการเจรจา รอยยิ้มเย็นชาประทับอยู่บนมุมปากได้รูป ตลอดทางที่เดินเข้าไปด้านในบรรยากาศเหมือนเดิม คลับไหนๆ ก็เหมือนกันหมด เป็นแหล่งที่คนรุ่นใหม่ใช้เป็นที่ปลดปล่อย หาความสนุกใส่ตัวเอง แตกต่างที่เฟอร์นิเจอร์และการตบแต่ง ที่เหมือนกันจนแยกไม่ออก ทุกๆ คลับจะต้องมีผู้หญิงสาว สวยไว้คอยให้บริการ สำหรับสกายล์ฮอลล์ แห่งนี้ ตัวเจ้าของคือณรงค์ ดีแลนรู้จักเป็นอย่างดี เมื่อสองหนุ่มเรียนมาด้วยกัน ตั้งแต่ประถม จนถึงระดับวิทยาลัย’ มีผู้หญิงสาวสวยหลายคนพยายามส่งสายตาให้ จนดีแลนเริ่มรำคาญ “Hi!” มีใครบางคนโบกมือเรียก ชายผู้นั้นลุกขึ้นยืนและส่งเสียงทัก ดีแลนเพ่งมอง เขาส่งยิ้มให้ เมื่อคนคนนั้นคือคู่ค้าคนสำคัญของเขานั่นเอง อดัม เทียร่า นักธุรกิจลุกครึ่งจีน-โปรตุเกต ชายผู้นี้กำลังสนใจ และอยากร่วมทุนในโครงการใหม่เอี่ยมของ หวังเทียนกรุป เกี่ยวกับโครงการพัฒนาพลังงานทางเลือกใหม่ ชายหนุ่มโบกมือรับ เขามองฝ่าความมืด เพื่อหาทางเดินไปยังโต๊ะ VIP เพลงคลาสสิคดังเบาๆ บรรยากาศสลัวๆ เหมาะสำหรับทำอย่างอื่นมากกว่าการเจรจาทางธุรกิจ แต่เมื่อคู่ค้ามีความต้องการแบบนี้ ดีแลนก็เลี่ยงไม่ได้ เขาไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลย... เหม็นทั้งควันบุหรี่ และกลิ่นเหม็นหืนอื่นๆ จนแทบจะสำลัก “คุณมาช้า” อดัมบ่น เขาเสือกแก้วบรั่นดีให้กับคนมาใหม่ “ขอโทษครับ ผมไม่ชินทางนักเลยหลงทางเพราะต้องใช้ตัวช่วย” ดีแลนไม่ได้ขยาย เขาหลงทางเพราะวิ่งตามคำชี้นำของแอพพิเคชั่นตัวหนึ่ง กว่าจะรู้ตัวว่าออกนอกเส้นทาง ก็เตลิดไปไกลเกินกว่าจะวกรถกลับมา สาเหตุเพราะเขาทิ้งร้างการขับรถยนต์มาหลายปี ดีแลนมีคนขับรถให้แต่เมื่อมีนัดกะทันหัน เขาเลยจำเป็นต้องขับรถมาเอง “คุณจริงจังกับชีวิตเกินไป ผมเลยอยากให้คุณผ่อนคลายบ้าง” อดัมเกิดมาบนกองเงินกองทอง ไม่ต้องทำงานก็มีกิน เขาเลยใช้ชีวิตได้เต็มที่ ดีทว่าเขามีหัวธุรกิจ ถึงจะผลาญสมบัติของตระกูลไปบ้าง ก็ไม่ทำให้เทียร่าสะเทือน สาวสวยสามนางเดินมายืนขนาบข้างเขา ดีแลนขยับตัวหนี เขาส่งสายตาปราม เมื่อตนเองไม่ชอบผู้หญิงบริการเหล่านี้ “มาสนุกกันเถอะ สาวๆ พวกนี้ผมจัดไว้ให้คุณเลยนะ”
หล่อนถูกส่งมาบรรณาการในฐานะทาสบำเรอความใคร่ เพื่อแลกกับหนี้สินก้อนโต นอนกับเขาจนกว่าเขาจะเบื่อ แล้วเมื่อนั้นแหละหน้าที่บำเรอบนเตียงของหล่อนจึงจะหมดไป พะแพง ถูกส่งตัวมาเป็นนางบำเรอให้กับมหาเศรษฐีเจ้าของบ่อนคาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในลาสเวกัส หน้าที่ของหล่อนคือทำให้เดมอน ลินการ์ด มีความสุขที่สุดยามอยู่บนเตียง หล่อนก้มหน้าก้มตาทำทุกอย่างเพื่อให้เขาพึงพอใจ แต่ไม่นานเขาก็เบื่อหน่าย ขับไล่ไสส่งหล่อนออกไปจากชีวิต ข่าวงานแต่งงานของเขากับผู้หญิงคนใหม่ที่ทั้งสวยและแสนคู่ควรดังก้องคับแผ่นฟ้า ในขณะที่หล่อนต้องหลบอยู่ในซอกหลืบของความมืดมิดเพื่อซ่อนเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาเอาไว้อย่างรวดร้าวทรมาน
หลิวชิวเยว่จบชีวิตจากชาติภพปัจจุบัน เมื่อฟื้นขึ้นมาก็อยู่ในร่างของหญิงอ้วน ชื่อเดียวกับตัวเอง อีกทั้งตัวเธออยู่ในเกี้ยวเจ้าสาวกำลังจะไปแต่งงานกับแม่ทัพเสิ่นมู่ฉือ แม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นชิงเป่ย จากซีอีโอสาวแสนสวย ผู้ทระนงตนว่า ฉันสวย รวยและเริ่ดในปฐพี ต้องกลายมาเป็นหญิงอ้วน น้ำหนักร่วมสองร้อยจิน (100กิโลกรัม) แถมด้วยฉายา สตรีกาลกิณี ! แล้วข่าวลือที่ว่าแม่ทัพหนุ่มสามีของเธอ เป็นพวกชอบตัดแขนเสื้อ (ชอบผู้ชาย) นั้นเป็นจริงหรือไม่...จำต้องพิสูจน์ให้กระจ่าง! ทว่า... ยามจันทร์เต็มดวง หลิวชิวเยว่กลับค้นพบความลับของสามี เมื่อเขากลายร่างเป็น หมีแพนด้า ! หลิวชิวเยว่จะใช้ชีวิตในยุคจีนโบราณอย่างไรให้แฮปปี้ เมื่อต้องมีสามีเป็น หมีแพนด้าผู้คลั่งรัก !
© 2018-now MeghaBook
บนสุด