รับส่งขึ้นสวรรค์ทั่วทุก ‘ซอย’ โดยเฉพาะ ‘ซอยถี่ๆ ซอยลึกๆ’ ผมยิ่งชอบ ‘ซอยตัน’ วิ่งไปชนจึ๊กๆ ผมก็รับนะครับสนใจใช้บริการนี่นามบัตรผม กด 6969 เรียก ‘ผัวเบอร์ 1’ รับประกันส่งถึงสวรรค์ไม่มีหยุด สะดุด ให้เสียเซลฟ์
รับส่งขึ้นสวรรค์ทั่วทุก ‘ซอย’ โดยเฉพาะ ‘ซอยถี่ๆ ซอยลึกๆ’ ผมยิ่งชอบ ‘ซอยตัน’ วิ่งไปชนจึ๊กๆ ผมก็รับนะครับสนใจใช้บริการนี่นามบัตรผม กด 6969 เรียก ‘ผัวเบอร์ 1’ รับประกันส่งถึงสวรรค์ไม่มีหยุด สะดุด ให้เสียเซลฟ์
สวัสดีครับ พี่ๆ นักอ่านทุกท่าน ผมชื่อ ‘หนึ่ง’ ครับ หนึ่งที่แปลว่า ที่หนึ่งนั่นแหละครับ ต้องขอบคุณพ่อแม่ผมนะครับที่ตั้งชื่อผมได้เหมาะสมกับความจริงมาก เพราะตั้งแต่เกิดจนจำความได้ ชีวิตผมก็มักเกี่ยวข้องกับ ‘เลข 1’ เสมอ พี่ๆ อยากรู้แล้วใช่ไหมครับว่ามีอะไรบ้างน้า... ที่ตัวผมไปเกี่ยวพันกับ ‘1’ อย่างนั้นก็ตามผมมาเลยครับ...
‘ฉันเกิดอยู่แดนอีสาน... ถิ่นกันดารที่เขาดูหมิ่นดูแคลน’ แอบเอาเพลงน้าหมู พงษ์เทพ มาร้องเสียเลย
ใช่ครับ ผมเป็นคนอีสานโดยกำเนิด จังหวัดที่ผมเกิดก็คือ 101 เห็นไหมละครับ ชีวิตผมเกี่ยวพันกับเลข 1 จริงๆ จังหวัดในประเทศไทยมีตั้ง 77 จังหวัด ไหงผมตกช่องมาเกิดที่ 101 ได้ละเนี่ย อิอิ... อันนั้นต้องไปถามพ่อและแม่ผมต่อ
พอโตเข้าโรงเรียนได้พ่อแม่ก็พาผมมาฝากเข้าเรียนอนุบาล 1 ผมก็ได้เลขที่ 1 อยู่ห้อง อ.1/1 ยังไม่หมดนะครับ ก็ผมน่ะมันเรียนเก่ง ได้เป็นหัวหน้าชั้นตลอด ก็ไต่เต้าขึ้นมาอยู่ ป.1/1 – 6/1 พอเรียนมัธยมก็ได้อยู่ห้อง ม.1/1 อีกนั่นแหละครับตามประสาเด็กเรียนดี กีฬาเด่น บวกกับหน้าตาเอ็นเตอร์เทนคนอื่นเสมอ เรียกภาษาบ้านๆ ว่า ‘หน้าตารับแขก’ นั่นแหละครับ เพราะผมก็มักจะได้รับเลือกให้เป็นประธานชมรมนู้นนี้โน้นตลอดๆ เวลามีกิจกรรมอะไรก็แล้วแต่ ผมนี่แหละได้รับเลือกเป็นคนแรกเลย
จนเรียน ม.6 ความภาคภูมิใจแรกในชีวิตวัยรุ่นของผมก็มาเยือน ผมได้รับเลือกให้เป็นประธานนักเรียนครับพี่น้อง ชีวิตผมในตอนนั้นดีงามมาก... เรียกได้ว่าเดินไปทางไหน สาวๆ รุ่นน้องก็มักจะมากรี๊ดกร๊าดเรียกผมว่า
‘พี่หนึ่งคะ พี่หนึ่งขา...’ ผมนี่ตัวลอยเลยครับ แต่มันไม่เป็นอย่างนั้นตลอดน่ะสิครับ เรื่องราวดราม่าเริ่มเข้ามาในชีวิตผมอย่างลางๆ จนผมเกิด ‘สภาวะทิ้งตัว’ อย่างแรงก็ตอนตัดสินใจไม่เอ็นทรานซ์นี่แหละครับ
ไม่ใช่ว่าผมกลัวจะสอบเข้าไม่ได้นะครับ เพราะผมก็ถือว่าเป็นเด็กเรียนคนหนึ่งเลยล่ะ และจากแนวข้อสอบที่ผมหมั่นทบทวนอยู่ตลอดนั้นก็ทำให้ผมมั่นใจว่า ผมสามารถสอบเข้าเรียนในสาขาที่ผมอยากเรียนได้สบาย แต่เพราะผมเป็นเด็กดียังไงล่ะครับ ผมรักพ่อแม่ รักครอบครัวครับ ‘งงล่ะสิ... ว่าทำไมผมไม่เอ็นทรานซ์’
ก็ผมน่ะเป็นลูกชายคนโต ที่บ้านก็ไม่ได้มีเงินทองมากมายอะไร แค่พ่อแม่ส่งเสียผมได้จบ ม.6 นี่ก็ถือว่าท่านเก่งมากแล้ว ผมเองความที่เป็นพี่ชายคนโตของน้องๆ อีกหลายคน ผมก็ควรจะเสียสละมาช่วยพ่อแม่ทำงานส่งเสียน้องๆ นั่นแหละครับเส้นทางโลดแล่นในเมืองใหญ่จึงมาเยือนผมจนได้
ใช่ครับ เด็กอีสานอย่างผมจะทำงานทั้งทีก็ต้องโน่น ‘กรุงเทพมหานคร’ เมืองฟ้าเมืองสวรรค์ที่เด็กบ้านนอกคอกนาอย่างผมใฝ่ฝันว่าจะได้มาสูดดมกลิ่นเมืองศิวิไลซ์สักครั้งในชีวิต
‘จากแดนอีสานบ้านเกิดเมืองนอน มาเล่นละครบทชีวิตนัก’ ผมชอบพี่ไมค์ครับ และรักในเส้นทางเสียงเพลงลูกทุ่งมาก แต่ผมไม่ได้มาเป็นนักร้องนะครับ โธ่! พี่ๆ คิดดูสิครับ เด็กหนุ่มวัยละอ่อนอย่างผม ใครจะผลักจะดันเข้าวงการล่ะครับ
แม้หน้าตาผมจะดีเข้าขั้น ‘ณเดชน์ + เจมส์จิ’ ก็เหอะ แต่หากผมต้องไปเสนอตัวให้เก้ง กวาง บ่าง ชะนี ผมก็ไม่กล้าหรอกครับ ผมน่ะยังซิงนะครับพี่ ทั้งทวนแท่งและช่องแคบมะละกาของผม ยังซิงทั้งสองทาง แหม... แต่มันก็ซิงไม่นานนักหรอกครับ
ใช่ครับ ผมเข้ามากรุงเทพฯ ได้ไม่นาน เส้นทางเปิดบริสุทธิ์ผมก็เริ่มขึ้น อายจังที่ต้องเล่าเรื่องตัวเองแบบนี้ แต่มันอดภูมิใจไม่ได้นี่ครับ เพราะไม่ว่าจะสาวแก่ แม่ม่าย คุณน้าข้างบ้าน หรือแม้แต่น้องหมวยในร้านก็บอกว่าของผมน่ะ ‘ใหญ่’ กว่าใครทั้งนั้น แถมทุกคนยังการันตีว่าผมน่ะเป็นที่หนึ่งสมชื่อจริงๆ
ผมเริ่มต้นงานแรกด้วยการเป็นลูกจ้างในร้านขนมปังแถวบางบัวทองครับ แต่ผมไม่ทิ้งการเรียนนะครับ ผมน่ะลงเรียนรามฯ เอาไว้ สาขาที่ผมเลือกน่ะหรือครับ ‘รัฐศาสตร์ การเมืองการปกครอง’ ที่เลือกสาขานี้ก็เพราะผมอยากนำความรู้ที่ผมได้รับไปพัฒนาชุมชนของผมครับ ก็บอกแล้วไงครับว่าผมน่ะเด็กรักเรียน และผมก็ยังสำนึกรักบ้านเกิดของตัวเองอย่างแรงเสียด้วย
แต่เส้นทางอาชีพของผมก็ทำให้ผมมีปัญหากับการเรียนบ้างเล็กน้อย จะว่าไปก็คงไม่เล็กไม่น้อยสักเท่าไร แต่ผมมันลูกคนไม่รวยครับ ผมก็ต้องเลือกอาชีพไว้ก่อนล่ะ กลางวันทำงาน กลางคืนแบ่งเวลาอ่านหนังสือครับ โดยผมน่ะจะทำตารางเรียนเองเหมือนตอนเรียนมัธยมเลยครับ ผมจะเขียนไว้ว่าวันไหนจะอ่านวิชาอะไร เริ่มกี่โมงถึงกี่โมง ถ้าไม่ทำอย่างนี้มีหวังผมคงเรียนไม่จบหรอกครับ ยิ่งทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย เรื่องยากสำหรับผมเลยนะเนี่ย
พี่ๆ อย่าเบื่อเรื่องเล่าของผมเสียก่อนล่ะ ว่าเอ... ฉันจะอ่านเรื่องเสียวหรือมาตามอ่านอัตชีวประวัติของผมกันแน่ เอาเป็นว่าผมรับประกันความเสียวด้วยอาวุธยาวใหญ่ประจำกายของผมแน่นอน แต่ผมอยากให้พี่ๆ รู้จักตัวผมให้ดีกว่านี้น่ะครับ
ถึงผมจะสร้างความเสียวให้สาวๆ ไม่จำกัดเวลา แต่ผมก็เป็นคนหนักเอาเบาสู้นะครับ งานหนักหนาแค่ไหนผมก็ไม่เกี่ยงหรอก ขอแค่ให้ได้เงินมาส่งเสียครอบครัวและไม่ทำให้ใครเดือดร้อน แต่หากจะสร้างความสุขให้ทุกๆ คน ผมก็แสนจะยินดี เริ่มเสียวแล้วล่ะสิ ฮ่า ฮ่า ฮ่า... อย่างนั้นมาเริ่มประสบการณ์เสียวครั้งแรกไปกับผมได้เลยครับ
หากนาไม่แล้ง ข้าวไม่แห้งตาย ‘เดช’ ก็ไม่คิดจะหอบเอา ‘ฟ้า’ เมียรักเข้ามาทำงานในเมืองกรุง แต่ความจนทำให้เลือกไม่ได้ และงานดี เงินดี เจ้านายเห็นใจ ก็เป็นเส้นทางที่ดีที่สุด ทว่า... หากรู้ว่ามาแล้วจะต้องเสียเมียให้นายฝรั่ง เดชเลือกที่จะไม่มาเสียยังดีกว่า แต่... เสียแล้วคือเสียเลย สิ่งเดียวที่จะชดเชยความแค้นก็คือ ‘เมียนาย’ คุณผู้หญิงเร่าร้อน เร่งเร้า รุนแรง และมากครั้งเท่าที่ต้องการ เดชไม่รู้แล้วว่านั่นคือการแก้แค้นหรือรางวัล +++++ ‘เดช’ พา ‘ฟ้า’ เมียรักมาทำงานที่บ้านนายฝรั่ง แต่ ‘คริส’ นายฝรั่งกินเมียเขาไปแล้ว และยังเอาดุ้นยาวใหญ่มาล่อให้ฟ้าติดใจ จนฟ้ากินไม่อิ่มไม่พอ อยากได้อะไรที่เทียบเท่า เขาก็เลยแอบกิน ‘โรส’ เมียของนายฝรั่ง แก้แค้นให้สาสม แต่แค้นช่างแสนหวานและฉ่ำชุ่ม จนเขาต้องกินซ้ำๆ ยิ่งได้กินพร้อมๆ กับพี่โชค เขาก็ยิ่งเมามัน และแน่นอนว่าโรสชอบ ในขณะที่นายฝรั่งกระหยิ่มยิ้มที่ได้กินเมียเขา เดชกลับสุขและยิ้มกว้างยิ่งกว่า เพราะเขาได้กิน ‘คุณหนูแพทตี้’ คุณหนูช่างร่านร้อนไม่ต่างจากแม่ แน่นอนว่าเขาชวนพี่โชคมากินด้วย
‘หากหัวใจปราศจากความแค้น คงไร้แล้วซึ่งลมหายใจ’ สำหรับหล่อน เขาคือชายชุดดำ บอดี้การ์ดหน้านิ่งของพ่อ เคร่งขรึม เก๊กหล่อ หมางเมินใส่ราวหล่อนไม่สำคัญ ก็แน่ล่ะ เพราะพี่สาวเขากำลังจะมาเป็นเมียใหม่ของพ่อ แต่มีเหรอที่หล่อนจะยอม นารีมีรูปเป็นทรัพย์ฉันใด หล่อนก็พร้อมจะลงทุนเพื่อสิ่งที่ได้มา ภายใต้แว่นดำนั้น หล่อนต้องรู้ให้ได้ว่า ‘หัวใจ’ หรือเปล่าที่ซุกซ่อนอยู่ แต่สำหรับเขา... หล่อนคือ เหยื่อ! ที่ความแค้นจะได้เอาคืน
ความรักหรือเพียงความปรารถนาแค่ข้ามคืน พบกับนิยายสุดเร่าร้อน 3 เรื่อง 1.คืนเคาท์ดาวน์ 2.คืนฝนฉ่ำรัก 3.คืนเหงาสาวข้างบ้าน
#มาดามทรายกับชายเลี้ยงม้า เปิดประสบการณ์รักร้อนในฟาร์มม้ากันสักครั้ง หรือจะลองกลิ่นฟางแห้งบ่มแดดอุ่นๆ ในโรงนาก็ไม่เลวนะ +++++ เคิร์กรู้ว่าฉันชอบขี่ม้า เขาจึงสอนให้ฉันขี่ม้าจริงๆ หลังจากขี่เขาจนช่ำชองมาหลายครั้ง และฉันก็หัวไวสอนง่ายซะด้วย เพราะเมื่อฝึกหัดขี่ม้าจริงตอนเย็นเสร็จ พอตกกลางคืนฉันก็ซ้อมขี่กับม้าเทียมอย่างเคิร์กอยู่ทุกวัน ไม่ได้ว่างเว้น และก็มีบ้างเป็นบางวันที่ฉันทนไม่ไหวและเคิร์กก็อดไม่ได้ เมื่อฟางใหม่หอมกลิ่นแดดเร่งเร้าความกำหนัดของเราเหลือเกิน เคิร์กก็จะพาฉันไปซ้อมขี่กันที่คอกม้าในโรงนาซะหลายครั้ง และความตื่นเต้นก็ทำให้ฉันกับเคิร์กคึกคักกันมากเป็นพิเศษ ยามที่ฉันควบขี่เคิร์กอยู่ในโรงนา กลิ่นฟางแห้งที่รองรับร่างกายยิ่งใหญ่ของเขาอยู่นั้น เร้าใจจนฉันควบขี่เขาได้ไวกว่าที่เคยทำได้ บั้นเอวและช่วงบั้นท้ายทำหน้าที่โยกตัวไปข้างหน้าและโย้มาข้างหลัง ทว่าปากก็ร่ำร้องบอกถึงความเสียวซ่านที่ดุ้นบังเหียนกระทำกับร่องลึกลับของฉันอยู่ตลอดเวลา
พี่หนึ่งจะทำยังไงถ้าต้องเจอหน้า ‘พี่ชมพู่’ อยู่ทุกวัน รุ่นพี่สาวสวยที่เขาเคยไปสารภาพรัก แต่เธอกลับปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใยด้วยข้อหา ‘เด็กไป’ ครั้งนี้ พี่หนึ่งตั้งใจจะลบคำสบประมาทให้ได้ พี่ชมพู่จะได้รู้ว่า ‘รุ่นน้อง’ ก็ทำอะไรได้หลายๆ อย่างไม่แพ้รุ่นพี่ โดยเฉพาะพี่หนึ่งน่ะจบด็อกเตอร์สาขา ‘เซ็กซ์ศาสตร์’ มาซะด้วย ‘เด็กกว่าแล้วไง’ รุ่นพี่ถ้ามาเจอ ‘รุ่นน้อง... สายดาร์ก’ จะทนได้เหรอ พี่หนึ่งจะพิสูจน์เอง
เพราะเป็นคนสวน 'เมฆ' จึงต้องรดน้ำดอกไม้ของ 'คุณนายชวนชม' ทั้งวัน...ทั้งคืน ‘คุณนายครับ’ เป็นเรื่องราวความเร่าร้อนของ ‘เมฆ’ คนสวนหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผิวกายดำแดง ตามแบบฉบับคนท้องไร่ท้องนาเต็มขั้น เมื่อเมฆต้องมาทำสวนที่บ้านของ ‘คุณนายชวนชม’ เมฆก็เลยต้องเป็นคนสวนที่ดีที่สุด ดังนั้นดอกไม้ในบ้านของคุณนายไม่ว่าจะมีกี่ดอก เมฆก็ต้องทำหน้าที่รดน้ำดอกไม้เหล่านั้นให้ชุ่มฉ่ำ ทั้งวันและทั้งคืน
แต่งงานกับมู่หนานจือมาเป็นเวลาสามปี ซูป้านเซี่ยคอยดูแลและเอาใจเขามาโดยตลอด แต่สุดท้ายสิ่งที่ได้รับจากเขาคือความเย็นชาและความรังเกียจ เมื่อคนรักของมู่หนานจือกลับมา เธอก็รู้สึกว่าสามีของเธอยิ่งห่างเหินจากเธอ ในที่สุด เธอไม่สามารถทนต่ออีกต่อไปและเป็นฝ่ายเสนอให้หย่ากัน มู่หนานจือมองตามหลังซูป้านเซี่ยที่กำลังลากกระเป๋าเดินทางออกจากบ้าน ก็พนันกับเพื่อนว่า "ดูเอาเถอะ สักวันหนึ่งเธอจะต้องเสียใจและกลับมาอ้อนวอนแน่ ๆ " ซูป้านเซี่ยได้ยินก็ยิ้มอย่างเย็นชา"มู่หนานจือ ฝันไปเถอะ" ผ่านไปหลายวัน มู่หนานจือบังเอิญพบว่าอดีตภรรยาของตนฉลองการหย่าร้างในบาร์ และจากนี้ไปอีกไม่นาน เธอก็มีแฟนหนุ่มใหม่แล้วด้วย เวลานี้เอง มู่หนานจือถึงเริ่มกระวนกระวายใจขึ้นมา เพราะเขาพบว่าผู้หญิงที่เคยรักเขาอย่างเอาเป็นเอาตายนั้น ตอนนี้ดูเหมือนไม่ได้สนใจเขาอีกต่อไปแล้ว แล้วเขาควรจะทำอย่างไร
เวินอี่ถงได้เห็นความรักอันลึกซึ้งของเจียงยวี่เหิง แต่ก็ได้สัมผัสกับการทรยศของเขาเช่นกัน เธอเผารูปแต่งงานของพวกเขาต่อหน้าเขา แต่เขากลับมัวแต่ง้อชู้ของเขา ทั้งๆ ที่เขาแค่มองดูแวบหนึ่งก็จะเห็น แต่เขากลับไม่สนใจเวินอี่ถงสุดจะทน ตบหน้าเขาอย่างแรง พร้อมอวยพรให้เขากับชู้ของรักกันยืนยาว แล้วเธอก็หันหลังสมัครเข้ากลุ่มวิจัยลับเฉพาะ ลบข้อมูลประจำตัวทั้งหมด รวมถึงความสัมพันธ์การแต่งงานกับเขาด้วย! ก่อนจากไป เธอยังมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้เขาอีกด้วยเมื่อถึงเวลาที่จะเข้ากลุ่ม เวินอี่ถงก็หายตัวไป บริษัทของเจียงยวี่เหิงประสบปัญหาล้มละลาย เขาจึงออกตามหาเธอด้วยทุกวิถีทาง แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นใบมรณบัตรที่ต้องสงสัยเขาสติแตก “ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่ยอมรับ!”เมื่อพบกันอีกครั้ง เจียงยวี่เหิงต้องตกใจที่พบว่าเวินอี่ถงเปลี่ยนตัวตนใหม่แล้ว โดยข้างกายมีผู้มีอำนาจที่เขาต้องยอมก้มหัวให้เขาอ้อนวอนอย่างสิ้นหวัง “ถงถง ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาเถอะ!”เวินอี่ถงเพียงยิ้มยักคิ้ว จับแขนของผู้มีอำนาจข้างๆ “น่าเสียดาย ตอนนี้ฉันอยู่ในระดับที่นายไม่อาจเอื้อมถึงแล้ว”
เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"
นางขอสมรสพระราชทานเพราะรัก แต่คืนแต่งงาน เขารังเกียจนางและทิ้งไป ห้าปีผ่านไปพระชายาที่ถูกลืม กลับเป็นสตรีที่เขาต้องตามจีบ และศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดของเขาก็คือลูกชายของตนเอง
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
หยุนม่านชิง บุตรสาวของฮูหยินเอกจากจวนโหวหวยอัน ซึ่งถูกสลับตัวตอนอายุยังน้อย และเติบโตในชนบท เมื่อนางได้กลับมาที่จวนท่านโหวหวยอัน นางคาดหวังความรักและความอบอุ่นจากครอบครัว แต่ไม่คาดคิดว่าเป็นเพียงภาพลวงตาจวนโหวถูกยึดครองโดยหยุนโหรวเจียที่เป็นลูกสาวปลอม ในการวางแผนของลูกสาวปลอมและคู่หมั้นของนาง หยุนม่านชิงต้องแต่งงานในฐานะอนุภรรยา ต้องทำตัวนอบน้อมและก้มหัวให้ทุกคนเพื่อเอาใจคนในบ้าน นางคิดว่าจะได้ความรักและความสามัคคีในครอบครัว แต่กลับต้องถูกทำร้ายอย่างต่อเนื่องจนถึงแก่ชีวิตเมื่อนางลืมตาขึ้นอีกครั้ง นางกลับมาสู่วันที่เปลี่ยนโชคชะตาของนาง หยุนม่านชิงไม่ยอมอดทนอีกต่อไป นางค่อยๆ เผยโฉมหน้าที่แท้จริงของลูกสาวปลอม ไม่ได้ต้องการความรักที่เป็นเพียงภาพลวงอีก และได้เรียกคืนทุกสิ่งที่เป็นของนางทีละนิดเมื่อนางตัดสินใจที่จะตัดขาดจากจวนท่านโหวอย่างสิ้นเชิง คนทั้งจวนกลับคุกเข่าขอร้องไม่ให้นางจากไป!
© 2018-now MeghaBook
บนสุด