คุณเชื่อเรื่องบาปบุญมากแค่ไหน.... คุณเชื่อเรื่องการกลับมาแก้แค้นมากแค่ไหน... คุณเชื่อเรื่องผีหรือไม่... หรือจริงๆแล้วสิ่งที่ร้ายที่สุด คือสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า 'คน'
คุณเชื่อเรื่องบาปบุญมากแค่ไหน.... คุณเชื่อเรื่องการกลับมาแก้แค้นมากแค่ไหน... คุณเชื่อเรื่องผีหรือไม่... หรือจริงๆแล้วสิ่งที่ร้ายที่สุด คือสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า 'คน'
ทริปไปเที่ยวทริปน้ำตกของกลุ่มนักศึกษาทริปหนึ่งเริ่มขึ้น ระหว่างทางเต็มไปด้วยธรรมชาติรายล้อมมากมาย ทั้งสัตว์ป่านานาพันธุ์ ต้นไม้อีกหลายชนิด เขียวชอุ่มทำให้ใจที่ร้อนเร่ากลับเย็นลงได้ นักศึกษามหาวิทยาลัยกลุ่มนี้เป็นนักศึกษาปีสี่คณะศิลปศาสตร์ที่ออกทริปก่อนจะแยกย้ายกันไปทำงานที่ตัวเองใฝ่ฝันเอาไว้
“ฉันว่า ถ้าจบไปแล้วจะไปทำงานแปลหนังสือว่ะ ได้ตังค์เยอะดี” ผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มได้พูดขึ้น แล้วหันหน้าไปหาผู้ชายอีกคน “แล้วแกอะ จบไปอยากทำอะไร อย่าบอกนะว่า...”
“ถ้าฉันจบไปฉันจะไปเป็นนักเขียน และจะเก็บตังค์เพื่อทำสำนักพิมพ์เป็นของตัวเอง ฉันชอบตัวอักษร ชอบกลิ่นของหนังสือใหม่” เสียงที่ตอบขึ้นคือ ‘โชติ’ ผู้ชายที่มีความมุ่งมั่นและความฝันที่เต็มเปี่ยม เขารักงานเขียน งานหนังสือมาก ความฝันของเขาไม่เคยเปลี่ยนไปเลย ทุกครั้งที่มีคนถามถึงนิยายหรือหนังสือที่เขาเขียน ตาเขาจะเป็นประกายและพร้อมที่จะเล่าให้ฟังเสมอ
“แกอยากทำอะไรก็ง่ายไปหมดเนาะ น่าอิจฉาจัง คนที่มีพ่อกับแม่เป็นคนที่คอยซัพพอร์ตเนี่ย” ‘ก้อง’ เพื่อนคนสนิทของโชติที่นั่งในกลุ่มเอ่ยขึ้นด้วยอารมณ์ที่น้อยใจตัวเอง
“ไม่ง่ายหรอกเว้ย พ่อฉันเขาไม่ค่อยเห็นด้วยหรอกเพราะว่าในยุคนี้ทุกคนหันไปอ่านหนังสือออนไลน์กันหมดแล้ว เขาไม่อ่านหนังสือเล่มหรอก และที่ฉันจะทำมันต้องเป็นน้ำพักน้ำแรงของฉันทั้งหมด ไม่ได้หวังจะเป็นสำนักพิมพ์ใหญ่อะไร ขอแค่มีชื่อเสียงพอให้มีคนเขาลือกันบ้างก็พอแล้ว ยังไงก็ตามฉันก็ต้องพึ่งตัวเองอยู่ดีแหละ” โชติพูดออกไปด้วยอารมณ์ที่หมองเศร้าหน่อยๆ เพราะรู้ว่าความฝันมักต้องแลกมาด้วยความเหนื่อยเสมอ เขาเหม่อมองน้ำตกที่ไหลเอื่อยๆ พร้อมกับคำถามในหัวว่า ในอนาคตชีวิตของเขาจะเป็นอย่างไร ได้ทำงานอย่างที่หวังรึเปล่า น้ำวนเล็กๆ ที่เกิดขึ้นอยู่ตรงหน้าของโชติมันทำให้จิตใจของโชติลอยไปไกล สายน้ำกับชีวิตก็ไม่ได้ต่างกัน แม่จะมีน้ำวน แต่สุดท้ายมันจะหายไป และกลายเป็นน้ำที่ไหลต่อไป
ในขณะที่โชติได้นั่งเหม่อลอยปล่อยใจไปกับบรรยากาศอันแสนสงบเขาจึงหยิบเอาสมุดบันทึกของเขาออกมาเพื่อที่เขียนนิยายเรื่องหนึ่ง
“นี่ แต่งนิยายหรอ” เพื่อนสนิทของโชติเดินเข้ามานั่งข้างๆ
“ใช่ บรรยากาศกำลังได้เลย ฉันอยากจะเขียนงานมาสเตอร์พีซสักชิ้นน่ะ” โชติหันไปคุยด้วยอย่างภูมิใจ
“ฉันจะแต่งมั่ง อยากมีผลงานที่ดีที่สุดไว้ซักชิ้นเหมือนกัน ถ้ามันเขียนเสร็จและทำเงินได้ จะให้นายครึ่งหนึ่งเพราะถือว่ามันเป็นผลสำเร็จของนายที่ปลุกความตั้งใจของฉันขึ้นมา” เพื่อนสนิทที่แสนดี ลงมือเขียนพล๊อตนิยายที่ดีที่สุดของเขาขึ้นมาพร้อมกับโชติ ความตั้งใจของทั้งคู่แรงกล้ากว่าน้ำตกที่ไหลตรงหน้า ความฝันของสองหนุ่มที่คุ้งกระจายไปทั่ว โชติเขียนนิยายสืบสวนสุดระทึกและน่าตื่นเต้น “สืบสวนศพสวน” ส่วนเพื่อนของโชติที่มุ่งมั่นไม่แพ้กันเขียนนิยายสยองขวัญเรื่อง “ตราบาปของความเชื่อใจ”
เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
ด้วยภาระหนี้สินก้อนโตของบิดา ทำให้เคียงเดือนต้องวิ่งรอกรับงานทั่วราชอาณาจักรเพื่อหาเงิน นางแบบสาวต้องวิ่งรอกรับงานจนไปถึง เบเดน ดินแดนแห่งทะเลทราย หล่อนไม่คาดคิดว่าจะได้พบกับคนที่ปากร้าย บ้าอำนาจ ชอบยัดเยียด จอมใส่ร้ายเป็นที่สุดอย่างนาคินเลย แค่เขาหลงคิดเข้าใจผิดว่าหล่อนเป็นคนใช้ ก็น่าโมโหพออยู่แล้ว... แต่เขาก็อาจหาญหาว่าหล่อนเป็นนางนกต่อของผู้ก่อการร้าย และยังจับหล่อนไปขังเพื่อสอบสวน... เขาชักจะทำกับหล่อนมากเกินไปแล้ว... เคียงเดือนจะไม่ขอทน !
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"
เผิงฟู่หลิน บุตรสาวราชครูเผิงผู้ยิ่งใหญ่ นางทั้งรูปงาม ทั้งเพียบพร้อมด้วยความสามารถ แต่ผู้คนกลับตราหน้าว่านางเป็นคุณหนูใจโฉด ทั้งร้ายกาจ ทั้งเอาแต่ใจ ในเมื่อนางรักมั่นทั้งหัวใจ แต่กลับได้รับเพียงความว่างเปล่า เช่นนั้นนางจะหันหลังให้บุรุษทุกคน....
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
© 2018-now MeghaBook
บนสุด