เคยมีสหายต่างเพศไหม สหายที่ไม่รู้อะไรของกันและกันเลย รู้แค่ว่า...สุขใจที่ได้ร่ำสุรา และเล่นหมากล้อมกัน อย่างไม่มีวันเบื่อ...
เคยมีสหายต่างเพศไหม สหายที่ไม่รู้อะไรของกันและกันเลย รู้แค่ว่า...สุขใจที่ได้ร่ำสุรา และเล่นหมากล้อมกัน อย่างไม่มีวันเบื่อ...
สมัยราชวงศ์ฮั่นรุ่งเรืองเมื่อ ประมาณ 206 ปี ก่อน ค.ศ. ………………..
ณ แคว้นไท่เหยี่ยน…หัวเมืองทางตอนเหนือของจงหยวน เป็นแคว้นชายแดนที่ห่างไกล ยังไม่มีเชื้อพระวงศ์ไปปกครองเป็นเจ้าเมือง มีเพียงแม่ทัพที่รักษาเมืองหลังกำจัดเจ้าผู้ครองแคว้นองค์ก่อนได้แล้วเท่านั้น เป็นเสมือนตำแหน่งรักษาการแทนเจ้าผู้ครองแคว้น
แม่ทัพหลิวหย่งซื่อ….เป็นแม่ทัพใหญ่ที่รักษาการณ์ในตำแหน่งผู้ปกครองดูแลความสงบเรียบร้อยของแคว้น…เนื่องจากติดชายแดน ต้องทำสงครามบ่อยครั้ง มีความเก่งกล้าสามารถปราบศัตรูพ่าย 10 ปีให้หลังนี้ยังไม่เคยแพ้สงครามเลย แม้ว่าจะมีการทำศึกกับใกล้เคียง และชนเผ่าเร่ร่อนอยู่เนืองๆ
3 ปีที่ผ่านมาแม่ทัพหลิวหย่งซื่อนำทัพทำศึกได้รับชัยชนะ จนสามารถรวบรวมนครขนาดเล็ก 2 นครเป็นแคว้นเดียว องค์จักรพรรดิมีพระราชโองการพระราชทานรางวัล โดยพระราชทานองค์หญิงลี่เหลียนพระราชธิดาองค์โตที่เกิดจากซุนฟู่เหรินให้รองแม่ทัพซ้าย …นามหลิวไป๋กวนบุตรชายคนรองของแม่ทัพหลิวหย่งซื่อ…เป็นสมรสพระราชทาน และแต่งตั้งให้เป็น ‘เลี่ยโหว ’….ซึ่งเป็นตำแหน่งราชบุตรเขย
ตามกฎการปกครองบ้านเมือง หัวเมืองใดปกครองนครมากกว่า 1 แห่ง ต้องมี ' จูโหวหวัง ' ซึ่งเป็นตำแหน่งของอ๋อง…พระราชโอรสขององค์จักรพรรดิไปครองเมืองดังกล่าว ด้วยเหตุนี้ …จึงทำการส่งเชื้อพระวงศ์ไปเชื่อมสัมพันธไมตรีไว้ก่อน
แม่ทัพหลิวหย่งซื่อมีบุตรที่เกิดจากหลิวฮูหยินทั้งสิ้น 4 คน เป็นบุตรชาย 3 คนและบุตรสาว 1 คน บุตรชายล้วนเก่งกล้าสามารถไม่แพ้บิดาของตน ส่วนบุตรสาวเป็นกลุสตรีที่เพียบพร้อม มีเพียงบุตรชายคนโตที่แต่งงานมีภรรยาแล้ว รางวัลสมรสพระราชทานนี้…..จึงตกเป็นของบุตรชายคนรองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เรื่องนี้แม่ทัพหลิวหย่งซื่อทราบดี ไม่ปรารถนาจะเป็นเจ้าครองแคว้นแต่แรก เพราะเข้าใจในเล่ห์กลของวังหลวง ที่ต้องการให้เชื้อพระวงศ์เท่านั้นที่ปกครองแคว้น มิฉะนั้นอาจถูกใส่ร้ายและกล่าวหาว่าเป็นกบฎจนไม่อาจรักษาชีวิตของตนและครอบครัวได้
เป็นเหตุให้ท่านแม่ทัพหลิวหย่งซื่อต้องจัดหา 'องครักษ์หญิง' จากแคว้นทางตะวันออก เพื่อมาดูแลความปลอดภัยให้กับองค์หญิงลี่เหลียนโดยเฉพาะ จึงได้ส่งสาส์นขอความช่วยเหลือจากแม่ทัพหวังเหว่ยผู้เป็นสหายรัก ผู้ที่มีตำแหน่งรักษาการแคว้นยู่ที่แคว้นจิ้น …แคว้นทางตะวันออก
เพราะต้องการหลีกเลี่ยงข้อครหาเรื่องการก่อกบฎ จึงคิดยืมมือคนนอกแคว้นที่ไว้ใจได้ เข้ามาเป็นคนกลาง
แคว้นจิ้น…เป็นเมืองชายแดนขนาดใหญ่ทางตะวันออกของจงหยวน ใหญ่กว่าแคว้นไท่เหยี่ยนเดิมก่อนรวม 2 นคร
แม่ทัพหวังเหว่ยปกครองด้วยความสามารถร่วมกับฮูหยินหวัง และบุตรกว่า 20 คนที่เชี่ยวชาญการรบ มีกองทหารหญิง จัดเป็นกองกำลังพิเศษสำหรับหวังฮูหยินบัญชาการโดยเฉพาะ
สืบเนื่องจากนานมาแล้ว มีครั้งหนึ่ง….ระหว่างที่ท่านแม่ทัพนำทัพออกศึก ถูกข้าศึกย้อนกลับเข้ามาบุกทำลายในเมือง ดีที่ฮูหยินและบุตรชาย-หญิงเก่งกล้า สามารถสู้ศึกรอดพ้นวิกฤตนั้นมาได้ ต่อมาจึงตั้งกองทหารหญิงโดยฝึกมาสาวใช้ในเรือนให้มีความสามารถใกล้เคียงกับทหารชายที่สุด ทำงานในจวนพร้อมทั้งดูแลคุ้มครองฮูหยินและลูกหลานไปด้วย
เมื่อได้รับสาส์นขอความช่วยเหลือ ขณะนั้นท่านแม่ทัพหวังเหว่ยไปออกรบที่แคว้นใกล้เคียง ในเมืองอำนาจสิทธิ์ขาดจึงเป็นของหวังฮูหยิน นางพิจารณาส่งสาวใช้ที่ฉลาดและไว้ใจได้ไป 10 คน โดยใช้พิราบสื่อสารแจ้งกับท่านแม่ทัพหลังจากที่เหล่าทหารหญิงได้ออกเดินทางไปแล้ว
การเดินทางไปแคว้นไท่เหยี่ยน ซึ่งเป็นเมืองทางตอนเหนือใช้เวลาในการเดินทางยาวนาน ถ้าเป็นพ่อค้าใช้เวลาเดินทางเกือบ 30 วัน แต่นี่เป็นกองกำลังหน่วยรบพิเศษจึงใช้เวลาเพียง 15 วันเท่านั้น
โรงเตี๊ยมที่พวกนางไปพัก มักเป็นโรงเตี๊ยมขนาดใหญ่ ไม่เป็นที่สนใจกับผู้คนมากนัก การแต่งกายเป็นชายใส่อาภรณ์สีดำแดงที่มีหน้ากากหนังสัตว์ชนิดพิเศษอำพรางใบหน้า
“ คุณหนู!!! ทำเช่นนี้ข้าจะถูกท่านฮูหยินตำหนิได้ ” หลี่หนิงซาหัวหน้าหน่วยรบพิเศษชุดนี้ เอ่ยขึ้นหลังจากที่สำรวจผู้ติดตาม ซึ่งจำนวนครบจริง แต่ไม่ใช่คนตามรายชื่อ… ที่ผ่านมา 4-5 วันนั้น ทั้งหมดไม่ได้พักม้ายาวนานเช่นวันนี้ แม้จะรู้ว่ามีเรื่องผิดปกติ แต่ก็เบาใจว่า เป็นคนที่นางรู้จักเป็นอย่างดี จึงได้ปล่อยผ่าน จนมาถึงที่โรงเตี๊ยมก่อนจึงสะสาง
“ พี่หนิงซาก็… ข้าว่างพอดี อยู่จวนน่าเบื่อ” ใช่แล้วคนที่ไม่ใช่คนนี้คือคุณหนู 19 บุตรสาวคนเล็กของท่านแม่ทัพหวังเหว่ย…นามว่า หวังหยูจี อายุย่างเข้า 15 หนาว
“ เพลานี้คุณหนูควรอยู่ที่กองทัพใช่หรือไม่” น้ำเสียงฟังดุเข้มงวด แต่ไม่มากนัก เพราะรู้ว่าบุตรสาวคนเล็กของท่านแม่ทัพหวังผู้นี้ เป็นที่รักยิ่งของท่านแม่ทัพและหวังฮูหยิน ทั้งรักและตามใจ โชคดีที่นางมีนิสัยส่วนตัวเป็นมิตร มีเมตตาและคุณธรรม ใฝ่ศึกษาหาความรู้ในศาสตร์ทุกแขนงที่ท่านทั้ง 2 คนสอนบุตรธิดา จึงยิ่งเป็นที่โปรดปราน
ปกติจะรบเคียงบ่าเคียงไหล่บิดาและพี่ๆ ไฉนนางจึงมาอยู่ที่นี่เล่า….
“ ท่านพ่อให้ข้ากลับมาก่อน เพราะข้าต้องเตรียมตัวเข้าพิธีปักปิ่นในอีก 3 - 4 เดือนข้างหน้า ” น้ำเสียงนั้นแสดงถึงความเบื่อหน่ายอย่างปิดไม่มิด
“ นั่นสิเจ้าคะ ทำไมมาอยู่นี่ ” ทำไมหลี่หนิงซาจะไม่รู้ว่า คู่หมั้นของหวังหยูจีเป็นใคร
“ ก็ยังไม่ถึงเวลา แต่ข้าอยากมาเปิดหูเปิดตาที่แคว้นไท่เหยี่ยนบ้างนี่ ” ยังคงเป็นเด็กสาวที่เฉไฉเช่นเดิม
ด้วยความที่หลี่หนิงซา เป็นพี่เลี้ยงดูแลคุณหนูของตัวเองมาตั้งแต่เล็ก รู้ถึงพื้นนิสัยของนางดี จึงหยุดเซ้าซี้ให้เด็กสาวไม่พอใจ เกรงว่าถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว เด็กสาวอาจจะหาทางไปที่จวนแม่ทัพหลิวเอง…ก็เป็นได้
ยิ่งถ้าให้กลับจวนเองแล้วล่ะก็ เป็นไปไม่ได้ว่า….คนที่ตั้งใจแน่วแน่อย่างหวังหยูจีจะทำตามคำสั่ง ดังนั้นนางจึงหาทางประนีประนอม เพื่อให้สถานการณ์นี้ควบคุมได้
“ แคว้นไท่เหยี่ยน มีคู่หมั้นของท่านอยู่ คุณหนูทราบหรือไม่ ”
“ โอ๊ะ!!!!….จริงหรือ ” …เป็นอาการแสร้งทำ…ที่ทำให้หลี่หนิงซาอมยิ้มและส่ายหน้า …เพราะไม่มีทางเป็นไปได้ที่หวังหยูจีจะไม่ทราบ
“ คุณหนูไม่ควรเจอคู่หมั้นก่อนพิธีแต่งงาน ยิ่งยังไม่ได้ปักปิ่น ยิ่งไม่เหมาะ”
“ ทำไมล่ะ ” น้ำเสียงนั้นดูเหมือนเด็กน้อยที่เอาแต่ใจ
“ ไม่มีชายคนใดที่ดีที่สุดหรอก สิ่งที่คุณหนูพบเจอก่อนการแต่งงาน อาจทำให้คุณหนูไม่สบายใจ ส่งผลทำให้ชีวิตแต่งงานไม่ราบรื่น” นางเตือนอย่างคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อน
“ ดีสิ ข้าจะได้ยกเลิกการหมั้นหมาย หรือไม่ก็พยายามปรับตัวเข้ามาเขา ” เป็นคำตอบที่…ชาตินี้คนอย่างหวังหยูจีไม่อาจทำใจยอมรับได้ …โดยเฉพาะเรื่องการปรับตัวเข้าหา เพราะด้วยฐานะที่เท่าเทียมกัน การยอมให้อีกฝ่าย….กับคนอื่นคงสบาย แต่นี่คือหวังหยูจี …. ไม่มีทาง
“ เอาล่ะ ข้าคงเถียงกับท่านไม่ชนะเป็นแน่ ” นางบอกพร้อมกับยกยิ้ม
“ ข้าสัญญาจะเป็นเด็กดี ” หวังหยูจีเข้าไปโอบกอดรอบเอวพี่เลี้ยงจากเอาใจ
“ ถ้าเช่นนั้น ต้องปลอมตัวเป็นคนที่ท่านมาแทน ” เพราะรายชื่อขององครักษ์หญิงถูกส่งมาก่อนหน้านี้แล้วโดยนกพิราบสื่อสาร ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงระหว่างทางได้ เนื่องจากภารกิจนี้คือการถวายการคุ้มครองพระราชธิดาขององค์จักรพรรดิ การกระทำใดๆต้องชัดเจน และตรวจสอบได้
“ ได้สิ ข้าเตรียมตัวมาแล้ว ท่านหัวหน้าเรียกข้าว่า ‘เสี่ยวซิง’ได้เลย " มาจากนาม ‘ซ่านเจียวซิง’ เป็นนามขององครักษ์หญิงคนที่นางเปลี่ยนตัวมา
“ ข้าจะยอมให้คุณหนูอยู่ที่นี่ได้ 3 เดือนเท่านั้นนะเจ้าคะ ” เพราะพิธีปักปิ่นของจวนแม่ทัพหวังยิ่งใหญ่ หัวหน้าหน่วยทุกหน่วยต้องไปเข้าร่วมพิธี …เพลานั้นนางต้องกลับแคว้นจิ้นอยู่แล้ว การกำหนดเวลาล่วงหน้าจะทำให้หวังหยูจีเตรียมใจยอมรับคำสั่งได้
“ เจ้าค่ะท่านหัวหน้า ” เป็นคำตอบที่เด็กสาวอายุอานาม 14 ย่าง 15 หนาวดีใจยิ่งนัก ส่วนหลี่หนิงซาได้แต่อมยิ้มและส่ายหน้าให้ตัวเอง นางไม่เคยใจแข็งกับคุณหนูตัวน้อยของนางได้สักครั้ง เพราะเด็กสาวฉลาดที่จะยอมผ่อนสั้นผ่อนยาวเพื่อให้ได้ตามที่ตนเองต้องการ มิใช่เอาแต่ใจฝ่ายเดียว
เมื่อเจรจาเป็นที่เรียบร้อยแล้วลูกทีมอีก 8 คนก็ต้องมาซักซ้อมเรื่องการปลอมตัวของบุตรสาวคนเล็กท่านแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่แห่งแควันจิ้นด้วย ปกติในระหว่างออกรบ นางจะไม่ถือยศถือศักดิ์เท่าไหร่นัก เป็นที่สบายใจของคนติดตามใกล้ชิด ทำให้ครั้งนั้นการแฝงตัวเข้ามาในจวนแม่ทัพแคว้นไท่เหยี่ยนจึงง่ายดังพลิกฝ่ามือ
อีกฟากหนึ่งของโรงเตี๊ยม …มีกลุ่มขบวนคาราวานที่เข้ามาพักค้างแรมที่นี่เช่นกัน เพราะเป็นทางเดียวที่จะเข้าสู่แคว้นไท่เหยี่ยน ที่นี่เป็นที่พักม้า พักคน และแลกเปลี่ยนสินค้า จึงมีคนเดินทางกันขวักไขว่
“ เรียนองค์หญิง เป็นเอ่อ……..จริงๆพะยะค่ะ” หัวหน้าองครักษ์มารายงานด้วยน้ำเสียงเบาและมีท่าทีลำบากใจ เพราะขบวนสมรสพระราชทานนี้ เดินทางหลังจากที่องค์หญิงลี่เหลียนอวยพรคู่บ่าวสาวเสร็จสิ้น …
แต่เจ้าบ่าว….ปรากฎตัวที่ด่านชายแดน แล้วเจ้าสาวล่ะ?!! แล้วผู้คนทางนู้นล่ะ
--------
ฝากติดตามด้วยค่ะ
ณิณี แซ่ลิ้ม
ในระยะเวลาสองปีที่แต่งงานกัน เนี่ยเหยียนเซินจู่ๆ ก็เสนอขอหย่า เขาพูดว่า "เธอกลับมาแล้ว เราหย่ากันเถอะ คุณอยากได้อะไรบอกมาได้เลย" ชีวิตการแต่งงานสองปีสู้อีกคนที่หันหลังกลับมาไม่ได้ ตามอย่างที่คนเขาว่ากัน "คนรักเก่าแค่ร้องไห้สักหน่อย คนรักปัจจุบันก็ย่อมแพ้แน่นอน" เหยียนซีไม่ได้โวยวายอะไร เลือกที่จะตอบตกลงและเสนอเงื่อนไขว่า "ฉันต้องการรถซูเปอร์คาร์ที่แพงที่สุดของคุณ" "ได้" "วิลล่าสุดหรูชานเมือง" "ตกลง" "กำไรหลายพันล้านที่หามาในช่วงสองปีนี้ แบ่งคนละครึ่ง" "อะไรนะ"
ตระกูลซูล่มสลาย จวนเจิ้นกั๋วทั้งตระกูลถูกประหารชีวิตในคืนเดียว ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งถูกน้องสาวหลอกใช้ ถูกชายเจ้าชู้เล่นตลก ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งใช้ชีวิตอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่แคว้นเป่ยเหลียงสิบกว่าปี แต่กลับถูกกล่าวหาว่าคบคิดกับศัตรู คนทั้งแคว้นเซิ่งถังต่างก็ด่าทอยกใหญ่ ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งต้องยืนมองน้องสาวกับรักแรกของตนสนิทสนมกัน ครองโลก ส่วนตัวเองกลับโดนประหารชีวิต เลือดสาดตะวัน เมื่อตื่นขึ้นอีกครั้ง… ซูเฉิงอิ้งถือดาบกลับมา ฟาดแรก… ตัดสายเลือด ฟันน้องสาวอกตัญญู ฟาดที่สอง… ตัดความรัก ฟันรักแรกที่หน้าเนื้อใจเสือ ฟาดที่สาม… ตัดคำพูด ฟันทุกเสียงนินทาของเป่ยเหลียงที่บิดเบือนความจริง ฟาดที่สี่… ตงฟางไป๋เยว่ “หรือว่าฮูหยินอยากจะฆ่าสามีผู้นี้ด้วยหรือ” ซูเฉิงอิ้ง“หุบปาก…”
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
เพราะรักเขาตั้งแต่แรกเห็น หล่อนจึงยินยอมแต่งงานกับเขา เพราะถูกบังคับเขาจึงเห็นหล่อนเป็นเศษธุลีดินไร้ค่า แม้เป็นเมียแต่ง หล่อนคิดว่าสักวันหนึ่งเขาอาจจะรักหล่อนตอบกลับมา ไม่มาก... ก็น้อย แต่ไม่นึกว่าเมื่อเขาหลอกให้หล่อนรักเขาสุดหัวใจ เขากลับขับไล่หล่อนออกมาจากชีวิตด้วยเหตุผลว่า เขาไม่รักหล่อน... "เธอเข้ามาในชีวิตฉันง่ายๆ ก็ช่วยออกไปง่ายๆ ด้วยเถอะ" ถ้อยคำเจ็บปวดทำร้ายที่ตามมาหลอกหลอน แม้ในยามที่หล่อนหลีกลี้จากเขามาได้นานเนิ่น ในวันที่หล่อนเข้มเเข็งและอยู่ได้โดยไม่มีเขา ลูกในท้องที่หล่อนปกปิดเขาเอาไว้ กำลังจะทำให้หล่อนกับเขาหวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ในวันที่หล่อนไม่ได้รักเขาอีกต่อไปแล้ว ................................................................ “การแต่งงานของเราเกิดขึ้นเพราะฉันถูกบังคับ การที่ฉันไม่ได้รักเธอ มันไม่ใช่ความผิดของฉัน ฉันหวังว่าเธอจะเข้าใจ” ธีภพ วิชญ์วิศิษฐ์ “ความรักของมนอาจจะดูไร้ค่าแต่มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสิ่งเดียวที่มนพอจะให้คุณธีร์ได้ ที่ผ่านมาคุณธีร์แสดงออกเสมอว่าคุณธีร์ไม่ต้องการและทิ้งขว้างมันมาตลอด มันก็ไม่ใช่ความผิดของมนที่สุดท้ายมนจะหมดรัก มนหวังว่าคุณธีร์จะเข้าใจ เหมือนที่มนเคยเข้าใจคุณธีร์” มนพัทธ์ สว่างโชติ
เรื่องของอารียาคุณครูสาวใหญ่วัย35กับหนุ่มน้อยลูกติดผัววัย19ที่ชื่อโจ โจเป็นเด็กช่างอาชีวะสายโหดและหื่นกาม เธอมักจะโดนลูกชายแอบลวนลามอยู่บ่อยๆ ทว่าเธอกลับเป็นสาวหัวโบราณที่ไม่กล้าแม้ปริปากบอกสามี ด้วยความกลัวว่าบ้านจะแตกสาแหรกขาดอารียาเลยปล่อยเลยตามเลย แค่คำพูดห้ามปรามทำให้คุณแม่พลาดท่าเสียทีให้ลูกเลี้ยงไปจนได้ เธอโดนโจจับกดจนเสร็จสมอารมณ์หมายไปหลายหนจนตัวเองก็ติดใจเสียดื้อๆ ในที่สุดอารียาก็ต้องจำใจมีผัวถึงสองคนอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน คนแรกคือผัวที่ถูกต้องตามกฏหมาย อีกคนคือลูกติดผัวที่หื่นเสียเหลือเกิน
© 2018-now MeghaBook
บนสุด