เมื่อไฟสวาทลุกพึ่บพั่บก็รวดเร็วไม่ต่างจากเปิดสัญญาณความเสียวเมื่อความเสียวที่กระจายออกไปสัญญาณความร้อนแรงก็เชื่อมกันและกันในทันที เร่าร้อนรุนแรงเพราะความอยากไม่เคยปรานีใคร
เมื่อไฟสวาทลุกพึ่บพั่บก็รวดเร็วไม่ต่างจากเปิดสัญญาณความเสียวเมื่อความเสียวที่กระจายออกไปสัญญาณความร้อนแรงก็เชื่อมกันและกันในทันที เร่าร้อนรุนแรงเพราะความอยากไม่เคยปรานีใคร
ผมชื่อ ‘วิท’ ครับ ส่วนเมียผมเธอชื่อ ‘แตงกวา’ ผมกับแตงกวาแต่งงานมาแล้วร่วม 2 ปีแล้วครับ ผมเป็นพนักงานติดตั้งสายเคเบิ้ลให้กับบริษัทผู้ให้บริการระบบโทรคมนาคมรายหนึ่ง งานลำบากหน่อยครับเพราะการแข่งขันสูง
ผมซึ่งอยู่ในตำแหน่งหัวหน้าทีม ก็ต้องพยายามทำยอดขายให้ได้เยอะๆ ล่ะครับ ก็หวังโบนัสนั่นแหละจะหวังอะไรล่ะชีวิตนี้ ผมจึงต้องพาลูกน้องออกไปหาลูกค้าตามที่ต่างๆ และเป้าหมายของผมก็คือ กลุ่มโรงงานในย่านนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ นั่นแหละครับ
เพราะถ้าได้ติดตั้งบริษัทที่ 1 บริษัทที่ 2 และ 3 ก็จะตามมาโดยง่าย ที่สำคัญคืองานติดตั้งในโรงงานไม่ได้ทำแค่จุดเดียวนี่ครับ ถ้าโรงงานต้องการเอกสารการว่าจ้างอย่างถูกต้อง ผมก็นำเข้าระบบบริษัทให้ทางโรงงานติดต่อกับฝ่ายขายโดยตรง
ซึ่งแน่นอนครับว่าราคาต้องคิดทุกจุดที่ติดตั้ง ก็คูณไปครับ จุดละเท่าไหร่ เข้าโปรแกรมออกใบเสนอราคาปุ๊บ ราคาก็เด้งออกมาให้พิจารณากันได้เลย
แต่หากโรงงานไหนต้องการประหยัด ผมก็รับเองสิครับ หรือไม่ก็แบ่งกันกินกับบริษัทบ้าง เช่น แจ้งฝ่ายขายลง 10 จุด แต่ผมกับลูกน้องทำเองอีก 10 จุด
โรงงานผู้ว่าจ้างประหยัดเงิน บริษัทของผมได้เงินส่วนหนึ่ง และผมกับลูกน้องก็ได้เงินอีกส่วนหนึ่ง แบ่งๆ กันไปแบบนี้ล่ะครับให้ผมกับลูกน้องมีเงินใช้จ่ายในระหว่างเดือนบ้าง ไม่ต้องรอให้ถึงวันเงินเดือนออก เพราะคิดดูสิครับ ทำทั้งเดือนได้เงินวันเดียว จะไปพอใช้อะไรกันล่ะ
งานที่ผมทำก็จัดว่า ‘งานดีเงินดี’ ล่ะครับ เพราะผมน่ะมีเงินซื้อทุกสิ่งทุกอย่างตามที่แตงกวาต้องการ เรียกได้ว่า เงินเดือนพนักงานบัญชีที่แตงกวาได้รับอยู่ทุกเดือนนั้น เธอไม่ต้องถอนออกมาใช้เลยครับ
ก็ผัวแสนดีอย่างผม ดูแลเมียที่แสนจะน่ารักได้อย่างดีเยี่ยม แตงกวาเธอก็เลยเอาอกเอาใจผมสารพัด จนเพื่อนๆ ต่างอิจฉาผมกันทั้งนั้น
ที่สำคัญ หุ่น ‘เนื้อ นม ไข่’ แบบเมียผม ใครเห็นก็น้ำลายไหลกันทั้งนั้นแหละครับ
ไม่ใช่ว่าผมไม่หึงนะ ผมน่ะหึงมากเลย แต่ยิ่งเห็นคนอื่นมองเมีย ผมก็ยิ่งเกิดอารมณ์อย่างว่ามากขึ้น และแตงกวาเธอก็รู้ครับว่าผมต้องการอะไร เธอจึงขยันหาเสื้อผ้ามาสวมใส่ให้ผมเกิดอารมณ์ ‘หึง’ ปน ‘หื่น’ ได้บ่อยครั้ง
เพราะวันไหนที่ผมหึงมาก วันนั้นแตงกวาจะถูกจัดหนักจนแทบจะคลานไปทำงานเลยล่ะครับ แต่จะโทษผมก็ไม่ได้ เพราะเธอชอบร่ำร้องว่า
‘พี่วิทขา! แรงอีก! แรงอีก! กระแทกแรงๆ ค่ะ กระแทกให้แหกไปเลย กรี๊ดดดดด... พี่วิท! แรงอีก! กรี๊ดดดดด... แรงอีก!’
นั่นแหละครับ แรงผมมีเท่าไหร่ผมก็กระเด้าเข้าไปไม่ยั้งน่ะสิ และก็ได้รับเสียงกรีดร้องของแตงกวาเป็นรางวัล ตามมาด้วยครั้งต่อไปที่เธอจะเป็นฝ่ายขึ้นคร่อมขย่มผมซะเอง
ใช่ครับ... แตงกวาเธอชอบความรุนแรง
ยามเผชิญศึกกับผมบนเตียง แตงกวาเธอฉีกทุกกฎของความสวยใสไร้เดียงสาเลยครับ
ผมกับแตงกวาเรามีเซ็กซ์กันบ่อยครับ เอ่อ... เรียกได้บ่อยได้ไหม ถ้าบอกว่า ‘ทุกวัน’ บางวันคึกหน่อยก็ 2-3 รอบ
นั่นแหละครับผมถึงไม่อยากไปไหนที่ห่างจากเมียเลย เพราะความอยากจนใจจะขาด ผมไม่อยากสัมผัสมันเลย แต่ก็เลี่ยงไม่ได้นี่ครับ
ครั้งไหนต้องไปติดตั้งที่ต่างจังหวัด แบบที่วิ่งรถไป-กลับไม่ได้ วันนั้นผมงี้แทบลงแดงเลยครับ ทำงานเสร็จ กลับถึงบ้านปุ๊บ ผมนี่จับแตงกวาหันก้นแล้วซอยไม่ยั้ง แน่นอนว่าแตงกวาก็อยากจนเป็นฝ่ายรูดกางเกงในลงไปกองกับพื้นและหันก้นให้ผมเด้าด้วยตัวเอง
แตงกวาเธอเร็วกับเรื่องนี้มากครับ หัวไว สอนง่าย ท่าไหนก็ตามเถอะ สอนครั้งเดียว แตงกวาก็จดจำได้หมดครับ แถมยังเปิดปุ๊บติดปั๊บ แค่เลิกเสื้อแล้วแลบลิ้นเลียยอดอก แตงกวาก็ดิ้นพล่านจนฉ่ำเยิ้มไปหมดแล้วครับ
จนผมมีชื่อเล่นให้เธอยามเย่อกันอย่างเมามันว่า ‘เมีย Wi-fi’ เพราะแตงกวาน่ะเธอต่อติดง่ายจริงๆ ครับ แค่สัญญาณความเสียวของผมส่งออกไป เธอก็พร้อมอ้าต้นขาออกเพื่อเชื่อมต่อสัญญาณความเสียวในทันที
แต่วันนี้สิครับ ผมต้องมาติดตั้งสายเคเบิ้ลที่ระยองหลายจุดซะด้วย กว่าจะเสร็จก็คงจะดึกมาก ดีไม่ดีขับรถไม่ไหวต้องหานอนที่แถวระยองนี่อีก เพราะนี่ปาเข้าไป 6 โมงเย็นแล้วก็ยังไม่ถึงครึ่ง ป่านนี้แตงกวาจะไม่อยากเต็มที่แล้วเหรอ
“พี่วิท โทรหาเมียหรือยัง”
ไอ้น้อยลูกน้องผมมันถามครับ ก็เรื่องเย่อกับเมียทุกวันของผมน่ะ กระจายไปในหมู่ลูกน้อง ก็คนมันมีดีก็อยากจะโชว์นี่ครับ ผมก็คุยซะหน่อยว่าเย่อเมียทุกวัน เพราะเมียผมน่าเย่อที่สุด
“ยังเลยว่ะ เดี๋ยวติดตัวนี้เสร็จก็ว่าจะโทรหาซะหน่อย ป่านนี้ชะเง้อรอแล้ว” ผมตอบพลางขันสกรูให้ตรงล็อค
“พี่ไปโทรหาเมียเถอะ ทางนี้ผมดูเอง สงสารเจ๊แตงกวา ป่านนี้คงอยาก เอ่อ... คงคิดถึงพี่แย่แล้ว”
ผมยิ้มครับไม่ตอบว่าอะไรแต่พอขันสกรูตัวนั้นเสร็จผมก็รีบแยกตัวออกมาคุยโทรศัพท์ทันทีเลยครับ พนักงานติดตั้งเคเบิ้ลอย่างผมก็ต้องลองความไวของอุปกรณ์กันสักหน่อย
ห้องน้ำพนักงานชั้น 2 ก็คือจุดหมายของผมครับ เพราะเลิกงานแล้ว ชั้น 2 นั่นไม่มีคนอยู่ เงียบ สงบ แบบนั้นผมก็ต้องลองความเร็วทั้งภาพและเสียง
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด... ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด..
เสียงสัญญาณจากโทรศัพท์ดังขึ้น และเพียงอึดใจ เสียงใสๆ แสนจะน่ารักของเมียผมก็ส่งออกมาตามสาย
“พี่วิท... จะกลับหรือยังคะ แตงกวารอตั้งนานแล้วนะ เนี่ยรอจนเหงื่อเหนียวไปทั้งง่าม”
“เก็บไว้รอพี่นะ”
“ไม่เอาอ่ะ ใครจะอยู่รอ เน่ากันพอดี ร้อนทนไม่ไหวแล้วอ่ะ แตงกวาอาบน้ำก่อนนะ”
หากนาไม่แล้ง ข้าวไม่แห้งตาย ‘เดช’ ก็ไม่คิดจะหอบเอา ‘ฟ้า’ เมียรักเข้ามาทำงานในเมืองกรุง แต่ความจนทำให้เลือกไม่ได้ และงานดี เงินดี เจ้านายเห็นใจ ก็เป็นเส้นทางที่ดีที่สุด ทว่า... หากรู้ว่ามาแล้วจะต้องเสียเมียให้นายฝรั่ง เดชเลือกที่จะไม่มาเสียยังดีกว่า แต่... เสียแล้วคือเสียเลย สิ่งเดียวที่จะชดเชยความแค้นก็คือ ‘เมียนาย’ คุณผู้หญิงเร่าร้อน เร่งเร้า รุนแรง และมากครั้งเท่าที่ต้องการ เดชไม่รู้แล้วว่านั่นคือการแก้แค้นหรือรางวัล +++++ ‘เดช’ พา ‘ฟ้า’ เมียรักมาทำงานที่บ้านนายฝรั่ง แต่ ‘คริส’ นายฝรั่งกินเมียเขาไปแล้ว และยังเอาดุ้นยาวใหญ่มาล่อให้ฟ้าติดใจ จนฟ้ากินไม่อิ่มไม่พอ อยากได้อะไรที่เทียบเท่า เขาก็เลยแอบกิน ‘โรส’ เมียของนายฝรั่ง แก้แค้นให้สาสม แต่แค้นช่างแสนหวานและฉ่ำชุ่ม จนเขาต้องกินซ้ำๆ ยิ่งได้กินพร้อมๆ กับพี่โชค เขาก็ยิ่งเมามัน และแน่นอนว่าโรสชอบ ในขณะที่นายฝรั่งกระหยิ่มยิ้มที่ได้กินเมียเขา เดชกลับสุขและยิ้มกว้างยิ่งกว่า เพราะเขาได้กิน ‘คุณหนูแพทตี้’ คุณหนูช่างร่านร้อนไม่ต่างจากแม่ แน่นอนว่าเขาชวนพี่โชคมากินด้วย
‘หากหัวใจปราศจากความแค้น คงไร้แล้วซึ่งลมหายใจ’ สำหรับหล่อน เขาคือชายชุดดำ บอดี้การ์ดหน้านิ่งของพ่อ เคร่งขรึม เก๊กหล่อ หมางเมินใส่ราวหล่อนไม่สำคัญ ก็แน่ล่ะ เพราะพี่สาวเขากำลังจะมาเป็นเมียใหม่ของพ่อ แต่มีเหรอที่หล่อนจะยอม นารีมีรูปเป็นทรัพย์ฉันใด หล่อนก็พร้อมจะลงทุนเพื่อสิ่งที่ได้มา ภายใต้แว่นดำนั้น หล่อนต้องรู้ให้ได้ว่า ‘หัวใจ’ หรือเปล่าที่ซุกซ่อนอยู่ แต่สำหรับเขา... หล่อนคือ เหยื่อ! ที่ความแค้นจะได้เอาคืน
ความรักหรือเพียงความปรารถนาแค่ข้ามคืน พบกับนิยายสุดเร่าร้อน 3 เรื่อง 1.คืนเคาท์ดาวน์ 2.คืนฝนฉ่ำรัก 3.คืนเหงาสาวข้างบ้าน
#มาดามทรายกับชายเลี้ยงม้า เปิดประสบการณ์รักร้อนในฟาร์มม้ากันสักครั้ง หรือจะลองกลิ่นฟางแห้งบ่มแดดอุ่นๆ ในโรงนาก็ไม่เลวนะ +++++ เคิร์กรู้ว่าฉันชอบขี่ม้า เขาจึงสอนให้ฉันขี่ม้าจริงๆ หลังจากขี่เขาจนช่ำชองมาหลายครั้ง และฉันก็หัวไวสอนง่ายซะด้วย เพราะเมื่อฝึกหัดขี่ม้าจริงตอนเย็นเสร็จ พอตกกลางคืนฉันก็ซ้อมขี่กับม้าเทียมอย่างเคิร์กอยู่ทุกวัน ไม่ได้ว่างเว้น และก็มีบ้างเป็นบางวันที่ฉันทนไม่ไหวและเคิร์กก็อดไม่ได้ เมื่อฟางใหม่หอมกลิ่นแดดเร่งเร้าความกำหนัดของเราเหลือเกิน เคิร์กก็จะพาฉันไปซ้อมขี่กันที่คอกม้าในโรงนาซะหลายครั้ง และความตื่นเต้นก็ทำให้ฉันกับเคิร์กคึกคักกันมากเป็นพิเศษ ยามที่ฉันควบขี่เคิร์กอยู่ในโรงนา กลิ่นฟางแห้งที่รองรับร่างกายยิ่งใหญ่ของเขาอยู่นั้น เร้าใจจนฉันควบขี่เขาได้ไวกว่าที่เคยทำได้ บั้นเอวและช่วงบั้นท้ายทำหน้าที่โยกตัวไปข้างหน้าและโย้มาข้างหลัง ทว่าปากก็ร่ำร้องบอกถึงความเสียวซ่านที่ดุ้นบังเหียนกระทำกับร่องลึกลับของฉันอยู่ตลอดเวลา
พี่หนึ่งจะทำยังไงถ้าต้องเจอหน้า ‘พี่ชมพู่’ อยู่ทุกวัน รุ่นพี่สาวสวยที่เขาเคยไปสารภาพรัก แต่เธอกลับปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใยด้วยข้อหา ‘เด็กไป’ ครั้งนี้ พี่หนึ่งตั้งใจจะลบคำสบประมาทให้ได้ พี่ชมพู่จะได้รู้ว่า ‘รุ่นน้อง’ ก็ทำอะไรได้หลายๆ อย่างไม่แพ้รุ่นพี่ โดยเฉพาะพี่หนึ่งน่ะจบด็อกเตอร์สาขา ‘เซ็กซ์ศาสตร์’ มาซะด้วย ‘เด็กกว่าแล้วไง’ รุ่นพี่ถ้ามาเจอ ‘รุ่นน้อง... สายดาร์ก’ จะทนได้เหรอ พี่หนึ่งจะพิสูจน์เอง
เพราะเป็นคนสวน 'เมฆ' จึงต้องรดน้ำดอกไม้ของ 'คุณนายชวนชม' ทั้งวัน...ทั้งคืน ‘คุณนายครับ’ เป็นเรื่องราวความเร่าร้อนของ ‘เมฆ’ คนสวนหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผิวกายดำแดง ตามแบบฉบับคนท้องไร่ท้องนาเต็มขั้น เมื่อเมฆต้องมาทำสวนที่บ้านของ ‘คุณนายชวนชม’ เมฆก็เลยต้องเป็นคนสวนที่ดีที่สุด ดังนั้นดอกไม้ในบ้านของคุณนายไม่ว่าจะมีกี่ดอก เมฆก็ต้องทำหน้าที่รดน้ำดอกไม้เหล่านั้นให้ชุ่มฉ่ำ ทั้งวันและทั้งคืน
ในคืนวันเกิดอายุยี่สิบสองปี ลี่เฉี่ยนโลว่ถูกแฟนหนุ่มวางยา และไปมีอะไรกันกับซือจิ้นเหิง ผู้ชายลึกลับคนหนึ่งตลอดทั้งคืน วันรุ่งขึ้นเธอพบว่าครอบครัวเธอถูกทำลายจนไม่มีอะไรเหลือ เธอแต่งงานกับจิ้นเหิง ได้รับการคุ้มครองจากเขา และใช้เขาเพื่อแก้แค้น "ฉันเป็นภรรยาที่ถูกกฎหมายของเขา" แม้ว่าแม่สามีของเธอจะไม่ยอมรับ แม้ว่าแฟนสาวที่เป็นซุปเปอร์สตาร์ของเขาจะตามมาอยู่ด้วยกัน เธอก็ยังคงยืนยันอยู่อย่างนั้น เธอแท้งโดยบังเอิญ แต่เขากลับเข้าใจผิดว่าเธอไม่อยากมีลูกกับเขา และด้วยความเข้าใจผิดต่าง ๆ อีกหลายหย่าง เธอเลือกที่จะกระโดดลงทะเลเพื่อฆ่าตัวตาย หลายปีต่อมา เมื่อเธอกลับเข้ามาในชีวิตของเขาอีกครั้ง เขาถึงกับตกตะลึง ชายคนนี้ได้สิ่งที่ต้องการจากเธอแล้ว แต่เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงยังรังควานและทรมานเธอต่อไป
“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง
เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"
จ้าวเฉียน อายุ23ปี พนักงานกินเงินเดือนธรรมดา รายได้เดือนละแค่5,000หยวน ทุกคนในบริษัทต่างดูถูกดูแคลนเขา เพราะเจ้านี่ขี้เหนียวเหลือเกิน แม้แต่แฟนเก่ายังทนเขาไม่ไหว และหันมาแอบคบชู้กับผู้จัดการของเขาแทน
ก็เลิกกันไปแล้ว ไม่รักกันแล้ว ไม่มีสิทธิ์ทำตัวเป็นหมาหวงก้าง ขุนพลแฟนเก่าของนาเดียพยายามเข้าใกล้เธอเหมือนมีเจตนาแอบแฝง นาเดียไม่ไว้ใจเขาทั้งยังรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่ได้พบหน้า เธอพยายามถอยห่าง เขาพยายามรุกคืบ และการกระทำนั้นทำให้เธอเริ่มสั่นคลอนลงทุกวัน เขายังทำตัวเป็นหมาหวงก้าง และระรานคนไปทั่ว ผู้ชายเฮ็งซวยที่เลิกกันไปหลายปีแล้วกำลังทำให้เธอเจอกับเรื่องยุ่งเหยิงที่ยิ่งแก้ก็เหมือนยิ่งพันตัวเธอจนติดหนึบกับเขา คำแนะนำ นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นนะคะ หากชื่นชอบรบกวนผู้อ่านทุกท่านกดหัวใจเพื่อเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยนะคะ และซื่อในเว็บหรือแอนดรอยจะราคาถูกกว่า แอปเปิ้ลนะคะ ขอบพระคุณมากค่ะ
หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”
© 2018-now MeghaBook
บนสุด