วิญญาณสาวร่างกายเปียกปอน คอยติดตามอดีตว่าที่สามี เธอไม่รู้ว่าตนเองตายเพราะอะไร อุบัติเหตุ หรือฆาตกรรม มีเพียงแฟนสาวของอดีตสามีที่จะช่วยเธอได้ แต่เธอก็เกลียดผู้หญิงคนนี้ เกลียดที่สุด
วิญญาณสาวร่างกายเปียกปอน คอยติดตามอดีตว่าที่สามี เธอไม่รู้ว่าตนเองตายเพราะอะไร อุบัติเหตุ หรือฆาตกรรม มีเพียงแฟนสาวของอดีตสามีที่จะช่วยเธอได้ แต่เธอก็เกลียดผู้หญิงคนนี้ เกลียดที่สุด
“นังพิม นังพิ๊ม แกอยู่ไหนแล้วเนี่ย พวกชั้นรอจนจะได้ผัวเป็นตัวเป็นตนกันแล้วนะ”
เสียงสาวประเภทสองนามว่าแนทซี่ดังออกมจากลำโพงรถเสียงดังลั่น
“ถึงแล้ว ถึงแล้ว กำลังจะถอยรถจอด แค่นี้ก่อนนะแก”
หญิงสาววางสายพร้อมกับถอยรถเข้าที่จอดและรีบร้อนเปิดประตูออกมาโดยไม่ทันได้ระวัง ปึก เสียงประตูรถของเธอกระแทกกับที่จอดรถคันข้างๆอย่างแรง
“ตายๆ ตายแล้วนังพิม กระแทกแรงด้วยรถเค้าจะบุบไหมวะเนี่ย”
รำพึงรำพันพลางถลาลงมาจากรถแล้วค่อยๆเอามือลูบรถคันที่โดนกระแทก
“ฮือ รถแพงด้วย ใหม่กริ๊บเลย ฮือ บุบเลย ยี่ห้ออะไรเนี่ย” พิมพ์ใจก้มหน้าก้มตาเดินไปดูข้างท้ายรถ
“บีเอ็ม ป้ายแดงด้วย นังพิมตายแน่ เงินทั้งเดือนจะพอค่าซ่อมรถเค้าหรือเปล่าก็ไม่รู้ ฮือ”
ชายหนุ่มที่ยืนตรงประตูด้านคนขับของรถบีเอ็มดับเบิ้ลยู แปดซีรี่ส์ นิ่วหน้าใส่หญิงสาวที่กำลังรำพึงรำพันอยู่คนเดียวด้วยความระอาพลางนึกในใจว่าเดี๋ยวก็คงรีบถอยรถไปจอดที่อื่นหรือไม่ก็หนีเข้าร้านทำไม่รู้ไม่ชี้แน่ๆ แต่ผิดคาดเมื่อเขาเห็นหญิงสาวมุดกลับเข้าไปในรถแล้วหยิบกระดาษกับปากกาออกมาเขียนอะไรบางอย่าง ชายหนุ่มจึงเริ่มพิจารณาหญิงสาวตรงหน้าด้วยความละเอียดอีกครั้ง ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนรูปร่างตามแบบสมัยนิยม เธอไม่ใช่คนผอมขาวหุ่นดีแบบที่ผู้หญิงทั่วๆไปนิยมมีแต่เธอเป็นคนผิวสีน้ำผึ้งที่มีเนื้อมีหนังดูกลมมนไปทั้งตัว เอวไม่ได้เล็กแต่ก็มีเอว ไม่ได้ผอมบางแต่ก็ไม่ได้อวบอ้วน ความสูงไม่เกินหัวไหล่เขาน่าจะสูงร้อยหกสิบกว่าๆ หน้ากลมใส่แว่นกระจกสีฟ้าแบบตัดแสงเวลาต้องใช้คอมพิวเตอร์นานๆ จูมกกับปากเล็กนิดเดียว คงแบบนี้กระมังที่เค้าเรียกกันว่าปากนิดจมูกหน่อย เธอรวบผมไปเกล้าเป็นหางม้าที่ด้านหลังจนหมด แถมยังติดกิ๊บดอกไม้สีส้มไว้ทั้งด้านซ้ายขวา คงเป็นคนขี้รำคาญไม่ชอบให้ลูกผมมะระหน้าตาแน่ๆ ชายหนุ่มยืนพิจารณาหญิงสาวในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์จนเพลินกระทั่งได้ยินเสียง
“อุ๊ย คุณเป็นเจ้าของรถคันนี้หรือเปล่าคะ”
หญิงสาวตกใจเมื่อกำลังจะนำกระดาษที่เขียนชื่อและเบอร์โทรพร้อมทั้งคำขอโทษและขอชดใช้ไปเหน็บกับที่ปัดน้ำฝนแล้วพบว่าชายหนุ่มยืนจ้องเธอผ่านแว่นกันแดดสีดำอยู่ เธอส่งยิ้มเก้อๆไปให้เขาพลางนึกในใจ
‘ต้องอ่อนน้อมเข้าไว้ เค้าจะได้ลดค่าซ่อมให้เรา’
“สะ สวัสดีค่ะ ชั้นชื่อพิมนะคะ พิมพ์ใจค่ะ นี่เป็นเบอร์โทรของชั้น ถ้าคุณเอารถไปซ่อมแล้วเค้าคิดค่าเสียหายเท่าไหร่ก็โทรมาบอกนะคะ ชั้นยินดีชดใช้”
พูดพร้อมกับยื่นกระดาษส่งให้ชายหนุ่ม
“แล้วก็ต้องขอโทษคุณอีกครั้งนะคะที่ไม่ระวังทำรถคุณบุบ เสียเวลาคุณต้องไปซ่อมอีก ขอโทษนะคะ”
หญิงสาวยกมือไหว้สวยงามแล้วอ้าปากค้าง เมื่อเธอมองเห็นหญิงสาวใส่ชุดสีฟ้าเนื้อตัวผมเผ้าเปียกน้ำจนน้ำหยดลงมาตามเส้นผมยืนอยู่ด้านหลังชายหนุ่มเจ้าของรถ เธอพยายามไม่มองสบตาผีสาวตนนั้นแล้วหันหลังกลับวิ่งเข้าร้านไปทันที อลันมองตามหลังหญิงสาวที่จู่ๆก็ยืนมองเค้าอ้าปากค้างแล้ววิ่งหนีเข้าร้านไปดื้อๆพลางส่ายหัวแล้วขึ้นรถขับออกไป โดยไม่รู้เลยว่ามีวิญญานสาวตัวเปียกน้ำตามเขาอยู่ตลอดเวลา
“แก นังพิม ทางนี้ๆ”
พิมพ์ใจมองตามเสียงที่เรียกและมือที่โบกไหวๆตรงโต๊ะด้านใน วันนี้เธอมีนัดกับกลุ่มสาวแซ่บ เพื่อสนิทมากสมัยเรียนมหาวิทยาลัยและยังคงสนิทมากแม้จะเรียนจบมาได้สองปีแล้ว เพื่อนของเธอทั้งสี่มีเพียงเธอกับน้ำฝนที่เป็นผู้หญิงแท้ ที่เหลืออีกสามเป็นผู้ชายทางร่างกายแต่จิตใจเป็นสาวอ่อนไหวเสียยิ่งกว่าเธอกับน้ำฝนเสียอีก
“ไงหล่อนกว่าจะเสด็จมาได้นะ พวกชั้นนั่งรอจนจะมีผัวคนที่สองแล้ว”
“เกินไปย่ะนังเยลลี่ ผู้เค้านั่งกินข้าวของเค้าอยู่เฉยๆ แกน่ะพยายามจะหันไปอ่อยเค้าเอง เดี๋ยวชั้นจะฟ้องผัวแก”
“หยุดกัดกันได้แล้วนังเยลลี่กับนังฝน แกสองคนกัดกันตั้งแต่ปีหนึ่งจนตอนนี้พวกแกไม่เบื่อกันมั่งรึไงฮึ”
แนทซี่ทนเห็นทั้งคู่แหย่กันไปมาไม่ไหว
“ไม่เบื่อ ชั้นมีความสุขทุกครั้งที่เห็นนังเยลลี่มันแพ้ราบคาบให้แก่ความเก่งกล้าของชั้น” น้ำฝนลอยหน้าลอยตาตอบ
“จ้า แกมันเก่ง แกมันฉลาด แกมันเริ่ด เก่งแต่กับพวกชั้น แต่พออยู่กับพี่พฤกษ์นะแหม อยากจะแหมไปให้ถึงเชียงใหม่”
“นังเยลลี่ แกจะแหมไปตอนนี้เลยก็ได้นะ ชั้นไม่ว่าอะไร”
“นังฝน แกจะไล่ชั้นไปเหรอห๊ะ นังเพื่อนทรยศ”
“ทำ……”
“โอ๊ย พอๆ พอทีแกจะกัดกันจนร้านปิดเลยไหมฮะ”
น้ำฝนกับเยลลี่ได้แต่ทำปากหมุบหมิบเมื่อโดนแนทซี่เบรค
“แล้วทำไมแกถึงมาช้าล่ะนังพิม” โรสเพื่อนผู้เกือบมีสาระที่สุดในกลุ่มเอ่ยปากถาม
“ชั้นเพิ่งเคลียร์บัญชีที่ผู้จัดการสุมมาให้เสร็จน่ะสิ ต้องรีบทำเพราะพรุ่งนี้ต้องส่งให้ผู้จัดการแล้ว”
“แล้วเค้าให้มาตั้งแต่วันไหนล่ะ ปกติแกไม่เคยดองงานไม่ใช่เหรอ”
“ให้มาเมื่อวันศุกร์น่ะโรส แต่มันจัดมาไม่เป็นระเบียบเลย ชั้นต้องมาจัดเรียงใหม่อีกทีด้วยเลยช้ากันไปใหญ่”
เพื่อนในโต๊ะส่ายหัวด้วยรู้ว่าผู้จัดการแผนกบัญชีบริษัทที่พิมพ์ใจทำอยู่นั้นแย่แค่ไหน เมื่อเห็นเพื่อนเริ่มเครียดแนทซี่เลยเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อไม่ให้งานกร่อย
“แต่ผู้คนเมื่อกี้แซ่บมากจริงๆนะแก น่าจะเป็นพวกลูกครึ่ง หน้าตาออกฝรั่งหล่อเวอร์ อร๊าย ใจชั้นจะละลาย”
“นังแนทซี่ แกมีผัวแล้ว ให้โอกาสชั้นมั่งก็ได้นะหล่อน” พิมพ์ใจขัดเพื่อนขึ้นมาด้วยความหมั่นไส้
แหม กี่คนๆมันก็จะเอาซะหมดแล้วอย่างนี้เมื่อไหร่เธอถึงจะได้ผู้มาครอบครองมั่งล่ะ
“เอ แต่หน้าฝรั่ง ตัวสูงๆใส่เสื้อยืดสีน้ำเงินใช่มะ”
“ใช่ นังพิมแกรู้ได้ไงอย่าบอกนะว่าแกแจกเบอร์ให้เค้าไปแล้ว”
“ช่าย แล้วแกจะทำไมมีปัญหาไรป่ะ”
“อ๊าย นังพิม เดี๋ยวนี้แกใจกล้าหน้าด้านขนาดนี้เลยเหรอ กลัวมีผัวไม่ทันเพื่อนๆหรือไงแก แหม ไวไฟนะเดี๋ยวนี้”
แนทซี่กรีดร้องท่ามกลางอาการตกตะลึงของเพื่อนๆที่เห็นพิมพ์ใจกล้าให้เบอร์ผู้ชาย
“ไม่ได้แรดโว้ย แค่ชั้นรีบลงจากรถจนเปิดประตูรถไปกระแทกรถเค้าบุบน่ะสิ พูดแล้วเศร้า รถบีเอ็มป้ายแดงด้วยชั้นยังไม่รู้เลยว่าต้องจ่ายค่าซ่อมเท่าไหร่ เครียดเลยโว้ย” หญิงสาวคร่ำครวญโวยวายจนเพื่อนๆเบ้ปาก
“ไม่ใช่แผนแกที่เห็นคนหล่อเลยอยากจะมีปฏิสัมพันธ์ต่อเนื่องกับเขาหรอกนะ”
“แกจะบ้าเหรอนังเยลลี่ ใครอยากจะต่อเนื่องด้วยชั้นไม่เอาหรอกแก มีเจ้าของตามมาซะขนาดนั้นชั้นไม่ขอสู้” พิมพ์ใจส่ายหน้าเป็นพัลวัน
“แต่พวกเราเห็นเค้ามานั่งกินข้าวอยู่คนเดียวนะ แกรู้ได้ไงว่ามีเจ้าของ”
“ก็ชั้นเห็นไง ยืนตัวเปียกน้ำอยู่ข้างหลังเค้า หรือแกอยากจะได้เอาไม๊ล่ะนังโรส ถ้าเค้าโทรมาเรียกค่าซ่อมชั้นจะได้ติดต่อให้แก” “อ๊าย ไม่เอา โรสสู้คนแต่ไม่สู้ผีค่ะ แกหยุดพูดหยุดเล่าเลยนะนังพิม โธ่ หมดกันผู้ชายในฝันของโรส” โรสทำท่ารำพันช้ำใจยกผ้าเช็ดปากขึ้นมาซับน้ำตาทิพย์ที่ไม่ได้ไหลสักหยด
“ไม่มีใครอยากได้งั้นสั่งข้าวเหอะ หิวใส้จะขาดละ”
ตอนที่พูดไปพิมพ์ใจไม่เคยจะคิดแม้สักนิดว่าตนเองจะต้องมีปฏิสัมพันธ์ต่อเนื่องกับหนุ่มหล่ออีกหลายเรื่อง ไม่เคยคิดเลยจริงๆ
“ก่อนทำเรื่องนี้พี่ขอถามน้องภาสักข้อได้ไหม” ธาวิศพูดแล้วก้าวเท้าเข้าไปหาคนบนเตียง “ได้ค่ะ” นิภาก้มหน้ายามตอบ ธาวิศทิ้งสะโพกลงนั่งด้านข้าง พร้อมกับดันปลายคางของหญิงสาวให้ขึ้นมองหน้าเขา “น้องภาเต็มใจใช่ไหม” แววตาของคนถูกถามสั่นระริกไปมา ปากจิ้มลิ้มก็ขยับขึ้นลงเหมือนคนคิดไม่ออกว่าควรตอบอย่างไร “น้องภาพี่ถามว่าเต็มใจใช่ไหม หรือว่าถูกคุณยายบังคับ” คราวนี้ธาวิศเน้นน้ำหนักเสียงมากขึ้นกว่าเดิม “ภาเต็มใจค่ะ” หญิงสาวตอบเขาแล้ว แต่เป็นคำตอบที่เต็มไปด้วยความไม่มั่นใจในตัวเอง “ไม่ได้ถูกบังคับแน่นะ” “ค่ะ ภาไม่ได้ถูกบังคับ ภาเต็มใจค่ะพี่ภูมิ” ธาวิศกัดฟันกรอดในคำตอบที่เขาไม่ปรารถนาจะได้ยิน ออกแรงผลักหน้าอกนิภาจนล้มลงไปนอนอยู่บนเตียง ปลดกระดุมเสื้อนอนของตนเองออกทีละเม็ด โดยที่สายตาก็ยังจดจ้องอยู่กับคนตรงหน้า “ระหว่างเรามันจะไม่มีความผูกพันอะไรกันทั้งนั้น เราทำเรื่องนี้ก็เพื่อคุณยาย เสร็จจากนี้ไปพี่ก็จะกลับกรุงเทพฯ ไปใช้ชีวิตกับคนรักของพี่ตามเดิม ภายังรับได้อยู่ใช่ไหม” ชายหนุ่มพูดจบก็ทิ้งเสื้อนอนลงบนพื้น คนบนเตียงก็ยังเม้มริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่น คำตอบไม่มาสักทีเขาเลยต้องเลิกคิ้วขึงตาใส่ “ค่ะภารับได้” คำพูดที่เปล่งออกมาช่างเบาหวิว คงไม่ต่างไปจากอารมณ์ของคนพูด “รับได้ก็ดี อย่ามาเรียกร้องอะไรทีหลังก็แล้วกัน ไม่งั้นพี่เอาตายแน่” ธาวิศทาบร่างตัวเองลงบนลำตัวของนิภา มองจุดหมายแรกที่จะเริ่มต้นทำรัก ประทับจูบลงบนริมฝีปากนุ่มนิ่มของหญิงสาว สัมผัสแรกของทั้งคู่ช่างตราตรึงในความรู้สึก จากที่จะจูบเพียงแผ่วเบากลายเป็นแทรกลึกดูดดื่มขึ้นตามอารมณ์ (รักซ้ำรอย)
เมื่อผู้หญิงที่เพื่อนๆ ตั้งสมญานามว่าแม่ชีอย่างเธอจับพลัดจับผลูต้องมาเจอกับผู้ชายหน้านิ่งที่เอะอะกอด เอะอะจูบอย่างเขา อา…แล้วพ่อคุณก็ดันเป็นโรคนอนไม่หลับ จะต้องนอนกอดเธอเท่านั้นด้วย แบบนี้เธอจะเอาตัวรอดได้ยังไงล่ะ “ชอบอาหารเหนือไหม” “ชอบมากเลยคุณ ให้กินทุกวันยังได้เลย” “มากพอจะอยู่ที่นี่ไหม” “แค่กๆๆ” …………… …………………………………………………………………………………………………………………………. “คุณ! เอากระบอกไฟฉายออกไปวางที่อื่นก่อนได้ไหม มันดันหลังฉัน ฉันนอนไม่หลับ” คนที่ใกล้จะหลับบอกเสียงอู้อี้ “เอ้อ! ไม่มีนี่” เขาบอกเสียงอึกอัก “มันจะไม่มีได้ไง ก็มันดันหลังฉันอยู่เนี่ย” เธอมั่นใจว่ามีแน่ๆ ก็หลักฐานมันทนโท่ขนาดนี้ “อืม! นอนเถอะ ไม่มีหรอก” “จะไม่มีได้ไง ก็นี่ไง” คุณเธอยืนยันด้วยการคว้าหมับเข้าให้ พร้อมหันกลับมา หวังงัดหลักฐานที่อยู่ในมือมาพิสูจน์ให้ได้เห็นกันจะๆ คาตา แต่… ตึก ตึก ตึก อา…! ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่คาตา แต่ยังคามือเธอด้วย เธออ้าปากตาค้างราวกับกำลังตกตะลึงสุดขีด ก่อนจะก้มมองไอ้ที่คิดว่าเป็นกระบอกไฟฉายในมือสลับกับเงยหน้ามองเขา จากนั้นก็… “กรี๊ด…!” เธอร้องลั่นพร้อมกับยื่นเท้าถีบออกไปสุดแรง ตุบ! คนไม่ทันตั้งตัวร่วงตุ้บลงไปบนพื้น ครั้นพอจะลุกขึ้น คุณเธอก็ตะโกนเสียงดังลั่นขึ้นมาอีก “หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะไอ้คนลามก คนเลว คุณมันทุเรศที่สุด คุณให้ฉันจับไอ้นั่นของคุณ มัน…อี๋…! เธอพูดพลางทำท่าขยะแขยง แล้วมาส่องกระบอกไฟฉายพ่อเลี้ยงพร้อมกันนะคะ
“สวิงของต้นกับอ้อ” ถูกเขียนขึ้นในวันที่ 10 เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2555 โดยลงในเว็บไซต์ Sudswing ที่ปัจจุบันปิดตัวถาวรไปนานแล้ว แต่เชื่อว่ายังอยู่ในความทรงจำของใครหลาย ๆ คน ซึ่งหากนับเวลาแล้วก็ครบรอบ 13 ปี พอดี ณ วันที่กำลังเริ่มต้นลงฉบับพิเศษของนิยายเรื่องนี้ โดยมีการปรับปรุงเนื้อหาในแต่ละตอนให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น รวมถึงการรวมตอนพิเศษและตอนที่หายไปเอามาไว้ในเรื่องนี้ สำหรับไรต์แล้ว “สวิงของต้นกับอ้อ” คือลูกคนโตและลูกรักที่นำพาให้ไรต์ก้าวมาเป็นนักเขียนอย่างเต็มตัวในนิยายสายอีโรติกแนวสวิงกิ้ง NTR, Cuckold, 3P, นิยายแนวเมียสาวเหงารัก รวมถึงแนวที่สามีอยากเห็นภรรยาของตัวเองไปมีอะไรกับชายอื่น ยังไงขอฝากนิยาย “สวิงของต้นกับอ้อ” ฉบับครบรอบ 13 ปีนี้ เอาไว้ให้นักอ่านได้ติดตามกันด้วย ขอบคุณสำหรับทุกการสนับสนุนที่ทำให้ไรต์ยังคงเดินต่อไปได้บนถนนสายตัวอักษรนี้ครับ
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
"พี่เจี๋ยข้าอยากได้อีกจุมพิตเพิ่มพลังของท่าน" ฉีเย่ว์กล่าวงึมงำบนริมฝีปากของเขา นางเป็นฝ่ายดูดกลีบปากของหยางเจี๋ยเบา ๆ ซุกไซร้ซอกซอนแหย่ลิ้นเข้าไปในปากของเขา สัมผัสอ่อนนุ่มในคราแรกเริ่มโหมกระหน่ำร้อนแรงมากขึ้น ฉีเย่ว์ปลดสายรัดเอวของเขาออกสอดมือล้วงเข้าไปในกางเกงของหยางเจี๋ยพบเนื้อร้อนของเขาแข็งแกร่งขึ้นเต็มลำ นางขยำแรง ๆ พร้อมกับรูดมือเบา ๆ "อ๊า คนดีของพี่" หยางเจี๋ยมือหนึ่งประคองศีรษะของนางให้แนบชิดกับปากของเขาอีกมือล้วงเข้าไปในสาบเสื้อของนาง ฉีเย่ว์ไร้อาภรณ์กางกั้นด้านในนางใส่เพียงเสื้อคลุมนอนสีขาวเท่านั้น เขาลูบแผ่นหลังเปลือยเปล่าของนางไล้นิ้วลงไปจนถึงแก้มก้มแล้วขยำเบา หนัก สลับกัน "พี่เจี๋ยให้ข้ารักท่านเถิด" ฉีเย่ว์กัดปากข่มเสียงครางเอาไว้ นางดึงกางเกงของเขาออกโดยมีหยางเจี๋ยคอยช่วยเหลือ นางขึ้นคร่อมเขาอย่างกระหายไม่บัดนี้ตื่นอย่างเต็มตาในขณะที่ควงเอวควบขี่เขาเป็นจังหวะ หยางเจี๋ยขยับรับจังหวะที่องค์ราชินีของตนเองควบขี่ เขาเด้งสะโพกขึ้นรับนางมือดึงผ้ารัดเอวของนางออกแล้วทิ้งไว้ด้านข้าง แหวกสาบเสื้อของนางแล้วผวาศีรษะขึ้นมาอ้าปากดูดรับเนื้ออวบของนางที่กระเด้งเป็นจังหวะ ฉีเย่ว์ดันร่างของตนเองเข้าหาปากเขามือช่วยประคองศีรษะของหยางเจี๋ยให้แนบชิด หยางเจี๋ยดูดปทุมถันคู่งามอย่างกระหาย เสียงหอบหายใจของฉีเย่ว์สั่นสะท้านหัวใจแทบจะหลุดออกมาจากอก เขาคือหัวหน้าหน่วยจู่โจมที่ตายในสงคราม และได้ย้อนเวลากลับมาหลายร้อยปีกระทั่งฟื้นขึ้นมาในร่างเด็กน้อยนาม หยางเจี๋ย เด็กผู้อาภัยจากตระกูลใหญ่ ที่บิดาและมารดาถูกใส่ความว่าทุจริตจนต้องจบชีวิตลง หยางเจี๋ยเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกเลี้ยงดูให้เติบโตในจวนราชครู สหายของบิดา และที่นี่เขาได้พบกับเด็กน้อยผู้หนึ่งนาม ฉีเย่ว์ ธิดาของท่านราชครูฉีผู้สูงส่ง พวกเขาเติบโตมาด้วยกัน ความใกล้ชิดทำให้เขาหวั่นไหว หยางเจี๋ยจะทำเช่นไรเมื่อได้พบว่า ตัวเอง ตกหลุมรักคุณหนูผู้สูงส่งจนหมดหัวใจไปเสียแล้ว เขารักนาง ต้องการทำให้นางตกเป็นของเขา และทำลายขวากหนามทุกอย่างที่ขัดขวางให้หมดสิ้นไป เพื่อนางเพียงคนเดียว
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY