เขาเก็บ "เด็กหลง" มาจากกลางถนน เธอทั้งน่ารักแสนซนและโดนใจ จนหนุ่มใหญ่อย่างเขาอดใจไม่หวั่นไหวไม่ได้ แต่จะทำไงให้เธอรู้นี่สิ! หรือต้องรุกสักครั้งให้เธอพาเขาลงจากคานสักที แต่งานนี้ไม่รู้ว่าใครจะพาใครลงก่อนกันน่ะสิ!
เขาเก็บ "เด็กหลง" มาจากกลางถนน เธอทั้งน่ารักแสนซนและโดนใจ จนหนุ่มใหญ่อย่างเขาอดใจไม่หวั่นไหวไม่ได้ แต่จะทำไงให้เธอรู้นี่สิ! หรือต้องรุกสักครั้งให้เธอพาเขาลงจากคานสักที แต่งานนี้ไม่รู้ว่าใครจะพาใครลงก่อนกันน่ะสิ!
“ผมบอกว่าอย่ามายุ่งกับผมไงสิตา”
ชายหนุ่มร่างสูงกำยำส่งเสียงกราดเกรี้ยวขณะถูกหญิงสาวในชุดราตรีสีแดงเพลิงยื้อยุดฉุดกระชาก เขาเอือมระอาอย่างบอกไม่ถูกกับการกระทำของหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังเมาไวน์ได้จนเผลอทำอะไรตามใจตนเองไม่สนใจผู้ใด
อะไรไม่ว่า แต่นี่เธอถึงกับขาดสติจนแสดงกิริยาไม่งามต่อหน้าธารกำนัลและนักข่าวเป็นร้อยอีกด้วย
“วันนี้วันวาเลนไทน์ จบงานนี้เราไปต่อที่อื่นกันนะคะริค”
“ไม่ได้!”
“วันนี้วันพิเศษตาอยากอยู่กับคุณนะคะ ริค”
สิตาที่ออกอาการเมาแล้วรุ่มร่ามอย่างที่ไม่เคยเป็นส่งเสียงดังจนเป็นจุดสนใจคนเดินผ่านไปมาตามทางเดิน ทำให้ริครู้สึกอับอาย เขาเลิกกับสิตาไปนานแล้วแต่เธอยังคงไม่วายยุ่มย่ามกับเขา
“ไม่เอานะ สิตา หยุด!”
“ม่าย” หญิงสาวลากเสียงยาว
“ยืนดีๆ หน่อย คนมองหมดแล้ว” ริคเค้นเสียงดุไม่พอแต่มือแกะปลายนิ้วที่เกาะเกี่ยวต้นแขนของตนอย่างเอือมระอา
“มองก็มองสิคะ ตาไม่สน”
“แต่ผมสน”
“งั้นคุณก็พาตาไปจากที่นี่ทีสิคะ”
“พูดเป็นเล่นไปได้ นี่มันงานฉลองรายได้หนังของคุณนะ” ริคพูดพลางหันรีหันขวาง ดวงตาคมกริบสีเทาหม่นลึกล้ำจับจ้องไปทั่วด้วยความเกรงใจ ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่ใส่ใจยังคงทำตามใจปรารถนาไม่สนสายตาใคร
“ถ้างั้นก็อย่าเพิ่งกลับเลยค่ะ ริค อยู่ดื่มเป็นเพื่อนสิตาก่อนนะคะ งานน่าเบื่อจะตาย ตาเบื่อ”
“คุณเบื่อก็เรื่องของคุณ ผมจะกลับ”
“ไม่นะ! หรือว่าคุณรังเกียจตาเพราะไอ้ข่าวบ้าๆ นั่น”
“ไม่เกี่ยวเลยสิตา”
“ตาไม่ได้เป็นกิ๊กกับผู้กำกับจริงๆ คุณอย่าเข้าใจผิดตานะ”
“แล้วคุณมาบอกผมทำไม เราไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันตั้งนานแล้วนะสิตา”
“แต่ตายังชอบคุณ” หญิงสาวอ้อนวอน
ริคก้มมองดวงหน้าแต้มเครื่องสำอางฉูดฉาดที่กำลังออดอ้อนราวกับคนไร้สติแล้วได้แต่ส่ายหน้าระอา ขณะนั้นแสงแฟลชสว่างวาบขึ้นวูบหนึ่ง
“เห็นนั่นไหม! หยุดได้แล้วสิตา”
“ตาไม่หยุด!”
“แต่มันจะเป็นข่าวแล้วคุณเองนั่นแหละที่จะเดือดร้อน”
“ไม่ค่ะ ตาไม่แคร์หากคนที่เป็นข่าวกับตาจะเป็นคุณไม่ใช่ไอ้แก่ตัณหากลับนั่น”
“อย่าพูดให้ตัวเองดูสวยเลย ผมรู้ว่าคุณแคร์” ริค ถึงกับสบถ
เขารู้ดีว่าสิตาเป็นคนทะเยอทะยานแค่ไหน หากพรุ่งนี้สร่างเมาแล้วเห็นข่าว ไม่แคล้วคำพูดของหญิงสาวจะกลับดำเป็นขาวอีกตามเคย
เขาเข็ด...
เข็ดที่ถูกหญิงสาวใช้เป็นบันไดไต่เต้าขึ้นสู่อาชีพที่ใฝ่ฝันแล้วถีบหัวส่งลงมาเช่นเคย
ริคแกะมือเหนียบหนึบราวกับกาวตราช้างของสิตาได้ก็รีบผลุนผลันออกไปไม่ฟังคำทักท้วง ใครจะอยากถูกลากเข้าไปเอี่ยวเป็นมือที่สามของคนอื่นให้ยุ่งอีรุงตุงนังกัน
แต่ไม่ทันที่ริคจะได้ก้าวออกไป ไอ้แก่ตัณหากลับที่สิตาพูดถึงก็พุ่งพรวดเข้ามาดึงแขนหญิงสาวกระชากทันที “ตา!”
“อุ๊ย! ที่รัก!”
แหวะ!
สาวหุ่นนางแบบสะดุ้งเฮือกที่ได้ยินเสียงไม่พึงประสงค์จากริคที่จ้องเธอราวกับสมเพชเสียเต็มประดา หญิงสาวรีบปล่อยมือแล้วหันไปหาที่มาของเสียงด้วยสีหน้าปั้นยิ้มแต่แววตาบ่งบอกว่าเอือมระอาสุดๆ
“ทำไมมาเงียบๆ ล่ะคะที่รัก”
“ผมบอกแล้วว่าอย่ายุ่งกับมัน”
“ตาก็แค่คุยกับเพื่อนเก่า ไม่ได้อะไรนะคะที่รักขา”
“แล้วที่ผมเห็นเมื่อกี้ล่ะ” ผู้กำกับหนุ่มไม่วายถามเคืองๆ ทั้งที่กิริยาฮึดฮัดเมื่อครู่อ่อนลงมากแล้วเพราะหญิงสาวเอาใจ
นางเอกสาวที่รู้นิสัยหนุ่มใหญ่ดีจึงผละจากริคไปเกาะแขนซบหน้าก่อนตอบ “ก็ตาเมา ริคก็เลยช่วยประคองแค่นั้นเอง อย่าคิดมากนะคะที่รัก”
“อย่าให้ผมรู้ก็แล้วกันว่าจะรีเทิร์นไปหามัน”
สิตาย่นจมูกทันทีที่ฟังจบ แต่หญิงสาวผู้ถนัดเอาใจหนุ่มใหญ่เป็นที่หนึ่งก็อาศัยร้อยกลมารยาหญิงออดอ้อน จนกระทั่งถูกผู้กำกับหนุ่มใหญ่คว้าเอวเดินโอบกลับเข้าไปในงานในที่สุด
ริคที่ออกอาการกรึ่มๆ เพราะกระดกไวน์ในงานไปสามแก้วถึงกับส่ายหน้ากระตุกยิ้มเยาะ
เหอะ...
นึกแล้วว่าต้องเข้าอีหรอบเดิม...
ชายหนุ่มได้แต่ครุ่นคิดขณะมองตามแผ่นหลังหญิงสาวในชุดเดรสแดงเพลิงเว้าหลังถึงบั้นเอวเดินเคียงคู่แบบสนิทสนมไปกับหนุ่มใหญ่ร่างหมีในชุดสูทไป
ที่รักของสิตาเป็นผู้กำกับหนุ่มใหญ่ร่างอวบ หน้าตาดีที่แม้หุ่นใหญ่ไม่สมาร์ทนักแต่ก็มิใช่ว่าจะดูไม่ได้ในสายตาคนนอก เท็ดดี้ หรือทองภูมิ เป็นผู้กำกับนามกระเดื่องที่ร่วมงานกับริคได้เป็นอย่างดีในละครและหนังหลายต่อหลายเรื่อง
อันที่จริงเขาก็ชื่นชมฝีมือคนคนนี้ไม่น้อย ถ้าไม่ติดว่าจะมีเรื่องขัดใจกันในหนังเรื่องล่าสุดเพราะสิตาเป็นสาเหตุ ทำให้เกิดเปลี่ยนตัวคนเขียนบทกะทันหัน เป็นความรู้สึกเจ็บปวดในอาชีพของริคที่ประเมินค่ามิได้
หากเป็นเพราะฝีมืออ่อนด้อยเขาจะไม่ว่าเลยสักคำ แต่นี่คือการกลั่นแกล้งทางอาชีพที่คนอย่างเขารับไม่ได้อย่างแรง
ริคขับรถกลับคอนโดมิเนียมที่อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมด้วยอาการปกติ เขาแม้จะเริ่มมึนเล็กน้อยเพราะฤทธิ์ไวน์แต่ก็ไมได้หมายความว่าจะควบคุมสติไม่ได้
เพราะประมาทหรือขาดสติเขาก็ไม่อาจรู้ได้ เพราะทันทีที่รถพ้นทางโค้งถนนใหญ่เข้าสู่ถนนสายรองที่ไฟทางน้อยกว่าสายหลัก ระดับการมองเห็นเส้นทางก็ต่ำเตี้ย
ไม่นานเขาก็ต้องตกใจแทบสิ้นสติ!
“อีกหน่อยฉันจะพามินไปแต่งงานบนลอนดอนอาย” “หืม... นี่โอมกำลังฝันอยู่รึเปล่า” “ไม่ ๆ ฉันคิดอย่างนั้นจริง ๆ” “งั้นวันแต่งงาน โอมต้องเล่นเพลงโปรดของเราด้วยนะ มินจะรอฟัง” “ได้สิ... Kiss in the Rain เนอะ ฉันจะซ้อมตั้งแต่วันนี้เลยเป็นไง” ยังจำได้ว่าเขารับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ ว่าสักวันจะพาหล่อนมาที่นี่มายังสถานที่ที่เป็นเหมือนสัญญารักของเขากับหล่อน ความฝันของหล่อนอยู่ที่นี่... ความรักของเขาก็อยู่ที่นี่... ที่ ‘ลอนดอนอาย’ ดวงตาของ... ลอนดอน เมืองแห่งฝนผู้คนเหงาและเรื่องราวความรักที่มีความทรงจำของเขากับหล่อน ซึ่งครั้งหนึ่งเป็นคนที่รักกันสุดหัวใจ แต่ตอนนี้หล่อนจากเขาไปนานแสนนานแล้วและไม่เคยได้พบกันอีกเลย... +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ เรื่องของอดีตคู่รักที่เคยคบหากันตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย แต่มีอันต้องแยกจากไปเพราะเหตุการณ์บางอย่าง หลายปีต่อมา อธิปก หมดพันธะจึงกลับมาเพื่อทวงสัญญารักที่เขาเคยให้ไว้แต่กลับพบว่า สิมิลัน มีคนรักแล้ว เขาคนนั้นไม่ใช่ใครแต่คือ พฤกษ์ รุ่นพี่ที่นับถือและฝากให้ช่วยดูแล พฤกษ์เก็บจดหมายฉบับนั้นไว้และดูแลสิมิลันด้วยความรักทั้งหมดที่มีจนลืมนึกถึง รินลดา พี่สาวของสิมิลันที่เป็นเพื่อนสนิทและหลงรักเขาอยู่ สองคนกลับมาเจอกันในวันที่สิมิลันเข้าใจว่าเขาไม่โสด เธอจึงวิ่งหนีหัวใจตัวเอง แต่สุดท้ายทุกอย่างยิ่งเลวร้ายเพราะเมื่อพบแล้วว่าต่างก็ยังรักกันแต่มีเหตุให้อธิปกประสบอุบัติเหตุเป็นเจ้าชายนิทรา สิมิลันตัดสินใจไปลอนดอนโดยไม่รู้เลยว่ามีเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาติดไปด้วย วันนั้นเองอธิปกก็ฟื้นขึ้นมาโดยไม่มีเธอในชีวิตอีก เขาเก็บความเสียใจไว้จนกระทั่งสองปีต่อมาทั้งสองจึงได้พบกันอีกครั้ง...
ตั้งแต่เกิดกระทั่งจำความได้ จินซิงซิน รับรู้แค่ว่านางเป็นเพียงบุตรสาวกำพร้าของพ่อค้าตระกูลใหญ่ ชั่วชีวิตน้อยๆ มีเพียงท่านยาย พี่สาวต่างมารดาเท่านั้นที่คอยห่วงใย จนกระทั่งได้เจอกับ หลี่หลานหมิง ผู้มีสมญานามว่าอ๋องพยัคฆ์ที่ผู้คนโจษขานกันว่าโหดร้ายยิ่งนัก สังหารผู้คนเป็นผักปลา แสนเย็นชาดั่งน้ำค้างแข็งจนมิอาจมีผู้ใดใต้หล้าหาญกล้าต่อกร ทั้งสองต้องแต่งงานกันตามบัญชาของโอรสสวรรค์ท่ามกลางอุปสรรคมากมาย หลี่หลานหมิงจะทำเช่นใดในเมื่อสตรีที่ร่วมหัวจมท้ายด้วยอย่างชายากระต่ายน้อยกลับเติบโตเพียงแค่ร่างกาย ส่วนสภาพจิตใจนั้นอ่อนด้อยราวกับเด็กน้อยก็ไม่ปาน... +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ หลี่หลานหมิงที่รู้สึกตัวและพลิกตัวจากอาการเมื่อยขบแต่พบว่าไม่สามารถทำได้ แค่บิดตัวเล็กน้อยก็รู้สึกร่างกายแข็งค้างราวกับไร้เรี่ยวแรง ไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน... ที่แท้เพราะเมื่อคืนเขาถูกกระต่ายหลงทางกอดก่ายเอาเป็นสมบัติตนจนกระดิกไปไหนไม่ได้ นางคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน! น่าโมโหนัก! อ๋องสี่หลี่หลานหมิงกระดิกตัวแทบไม่ได้คล้ายเป็นตะคริวเพราะกระต่ายหลงตัวโตไม่ยอมคลายกอด กว่าร่างจะกลับฟื้นกำลังวังชาก็นานพอควร กระทั่งมีเสียงฝีเท้าดังสวบสาบจากหน้ากระโจมดังเล็ดลอดเข้ามา หลี่หลานหมิงจึงรู้สึกตัวว่าอยู่ในสภาพไม่น่ามอง รีบผุดลุกนั่งเอื้อมคว้ากระบี่คู่ใจข้างกายกระชับมั่น แต่เพราะความเคลื่อนไหวของเขาทำให้เตียงไหวสั่นจนคนที่นอนเริ่มขยับตัวและวาดมือมาคว้าเอวเขาเอาไว้อีกครา “อย่าไปตุ้งตุ้ง...” “นี่เจ้า! ข้ามิใช่ตุ้งตุ้งของเจ้า ปล่อย!” หลี่หลานหมิงคำรามแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายไร้ซึ่งความรับรู้ใดๆ “ซิงซินยังไม่อยากตื่นเลย...ท่านยาย” ดี... ดีแท้! เมื่อครู่เปรียบเขาเป็นกระต่ายหูเทา คราวนี้กลับกลายเป็นท่านยายของนางอีก หลี่หลานหมิงปรายตามองดวงหน้าดรุณีน้อยที่ยังหลับพริ้มในห้วงนิทราแล้วถึงกับนิ่งงัน นางช่างงดงามปานเทพธิดามาจุติ ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อของนางที่กดลงบนซอกคอของเขาตามจังหวะหายใจทั้งยังแก้มหอมกรุ่นที่เผลอจูบลูบไล้และเรือนร่างนุ่มนิ่มที่คอยเบียดยามหนาวเหน็บตลอดคืน หึ! มารดาเจ้าเถอะ! กระต่ายน้อยเอ๋ย... เขาควรสั่งสอนนางไม่ควรปล่อยให้หลุดรอดจากกรงเล็บเพชฌฆาตไปได้จริงๆ อ๋องสี่หลี่หลานหมิงผู้ซึ่งมิได้อ่อนต่อโลกแต่ไม่เคยแสวงหาสตรีงามสักคนข้างกายถึงคราวหนาวยะเยือกในใจ เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเขามาก่อนเลยสักครั้งในชีวิตที่นึกอยากได้สตรีมาครอบครองเป็นสมบัติของตัวบังเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ความรู้สึกนี้เมื่อเกิดขึ้นแล้ว กระต่ายน้อยหลงทางตัวนี้ต้องรับผิดชอบ!
เพราะคนเคยรักกำลังจะแต่งงานกับเพื่อน เธอจึงพลาดพลั้งขึ้นห้องกับผู้ชายหล่อร้ายแถมอันตราย แต่ให้ตายเถอะ! สาบานได้ว่าเธอไม่ได้มีอะไรกับผู้ชายขี้ตื๊อดื้อด้านน่ารำคาญคนนี้จริงๆ แล้วเขาต้องการอะไรจากเธอกันแน่นะ... ไม่มีใครเหมือนหญิงสาวเมื่อคืนสักคน... หล่อนทำยังไงให้เขายังคงไม่ลืมกันนะ หรือเพราะเรือนร่างหอมกรุ่นกลิ่นอะไรบางอย่างที่ไม่น่าใช่น้ำหอมราคาแพงแบบสาวสมัยใหม่นิยม ทำให้เขาเคลิ้มและหลงใหลจนอยากเชยชมหล่อนตามแรงยุ แต่... เขาไม่เคยฝืนใจใคร โดยเฉพาะกับคนที่แรกพบก็ตกหลุมรักอย่างหล่อนคนนั้น ตกหลุมรัก! สารินสะบัดหน้าพรืด ก่อนจะยอมรับกับตัวเองในใจ เออหนอ... อยู่มาสามสิบหกปี มีสาวน้อยคนนี้แหละที่ทำให้เขาอยากเลวทั้งที่รู้ตัว!
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก
ในชาติก่อน ซูเยว่ซีถูกอวิ๋นถังยวี่ทำร้ายจนตาย ทำผิดต่อครอบครัวของท่านตา และตัวเองยังถูกทรมานจนตาย เกิดใหม่ครั้งนี้ นางตั้งใจจะจัดการกับพวกผู้ชายชั่วและหญิงเลวจัดการพ่อชั่ว เพื่อปกป้องแม่และครอบครัวของท่านตาให้ปลอดภัย พวกผู้ชายชั่วเข้ามาใกล้งั้นเหรอ นางจะใช้แผนให้เขาเสียชื่อเสียง หญิงตีสองหน้าเก่งชอบทำตัวอ่อนแองั้นเหรอ นางจะเปิดโปงธาตุแท้อีกฝ่ายและไล่นางออกจากจวนซู! ในชาตินี้ สิ่งที่นางต้องทำคือการจัดการพวกปลวกที่แอบแฝงอยู่ในราชสำนัก แก้แค้นคนทรยศ เพื่อปกป้องท่านตาที่เป็นคนซื่อสัตย์ นางใช้มือเรียวเป็นเครื่องมือ ก่อให้เมืองจิงเกิดความวุ่นวาย แต่ท่ามกลางความโกลาหล นางได้พบกับองค์ชาย ผู้ที่ทุกคนเล่าลือว่าเป็นคนพิการ “อวิ๋นเฮิง เจ้าจะมาขวางข้าหรือ” อวิ๋นเฮิงยิ้มเบาๆ “ไม่ ข้าตั้งใจจะมาช่วยเจ้า”
【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY