เขาเก็บ "เด็กหลง" มาจากกลางถนน เธอทั้งน่ารักแสนซนและโดนใจ จนหนุ่มใหญ่อย่างเขาอดใจไม่หวั่นไหวไม่ได้ แต่จะทำไงให้เธอรู้นี่สิ! หรือต้องรุกสักครั้งให้เธอพาเขาลงจากคานสักที แต่งานนี้ไม่รู้ว่าใครจะพาใครลงก่อนกันน่ะสิ!
เขาเก็บ "เด็กหลง" มาจากกลางถนน เธอทั้งน่ารักแสนซนและโดนใจ จนหนุ่มใหญ่อย่างเขาอดใจไม่หวั่นไหวไม่ได้ แต่จะทำไงให้เธอรู้นี่สิ! หรือต้องรุกสักครั้งให้เธอพาเขาลงจากคานสักที แต่งานนี้ไม่รู้ว่าใครจะพาใครลงก่อนกันน่ะสิ!
“ผมบอกว่าอย่ามายุ่งกับผมไงสิตา”
ชายหนุ่มร่างสูงกำยำส่งเสียงกราดเกรี้ยวขณะถูกหญิงสาวในชุดราตรีสีแดงเพลิงยื้อยุดฉุดกระชาก เขาเอือมระอาอย่างบอกไม่ถูกกับการกระทำของหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังเมาไวน์ได้จนเผลอทำอะไรตามใจตนเองไม่สนใจผู้ใด
อะไรไม่ว่า แต่นี่เธอถึงกับขาดสติจนแสดงกิริยาไม่งามต่อหน้าธารกำนัลและนักข่าวเป็นร้อยอีกด้วย
“วันนี้วันวาเลนไทน์ จบงานนี้เราไปต่อที่อื่นกันนะคะริค”
“ไม่ได้!”
“วันนี้วันพิเศษตาอยากอยู่กับคุณนะคะ ริค”
สิตาที่ออกอาการเมาแล้วรุ่มร่ามอย่างที่ไม่เคยเป็นส่งเสียงดังจนเป็นจุดสนใจคนเดินผ่านไปมาตามทางเดิน ทำให้ริครู้สึกอับอาย เขาเลิกกับสิตาไปนานแล้วแต่เธอยังคงไม่วายยุ่มย่ามกับเขา
“ไม่เอานะ สิตา หยุด!”
“ม่าย” หญิงสาวลากเสียงยาว
“ยืนดีๆ หน่อย คนมองหมดแล้ว” ริคเค้นเสียงดุไม่พอแต่มือแกะปลายนิ้วที่เกาะเกี่ยวต้นแขนของตนอย่างเอือมระอา
“มองก็มองสิคะ ตาไม่สน”
“แต่ผมสน”
“งั้นคุณก็พาตาไปจากที่นี่ทีสิคะ”
“พูดเป็นเล่นไปได้ นี่มันงานฉลองรายได้หนังของคุณนะ” ริคพูดพลางหันรีหันขวาง ดวงตาคมกริบสีเทาหม่นลึกล้ำจับจ้องไปทั่วด้วยความเกรงใจ ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่ใส่ใจยังคงทำตามใจปรารถนาไม่สนสายตาใคร
“ถ้างั้นก็อย่าเพิ่งกลับเลยค่ะ ริค อยู่ดื่มเป็นเพื่อนสิตาก่อนนะคะ งานน่าเบื่อจะตาย ตาเบื่อ”
“คุณเบื่อก็เรื่องของคุณ ผมจะกลับ”
“ไม่นะ! หรือว่าคุณรังเกียจตาเพราะไอ้ข่าวบ้าๆ นั่น”
“ไม่เกี่ยวเลยสิตา”
“ตาไม่ได้เป็นกิ๊กกับผู้กำกับจริงๆ คุณอย่าเข้าใจผิดตานะ”
“แล้วคุณมาบอกผมทำไม เราไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันตั้งนานแล้วนะสิตา”
“แต่ตายังชอบคุณ” หญิงสาวอ้อนวอน
ริคก้มมองดวงหน้าแต้มเครื่องสำอางฉูดฉาดที่กำลังออดอ้อนราวกับคนไร้สติแล้วได้แต่ส่ายหน้าระอา ขณะนั้นแสงแฟลชสว่างวาบขึ้นวูบหนึ่ง
“เห็นนั่นไหม! หยุดได้แล้วสิตา”
“ตาไม่หยุด!”
“แต่มันจะเป็นข่าวแล้วคุณเองนั่นแหละที่จะเดือดร้อน”
“ไม่ค่ะ ตาไม่แคร์หากคนที่เป็นข่าวกับตาจะเป็นคุณไม่ใช่ไอ้แก่ตัณหากลับนั่น”
“อย่าพูดให้ตัวเองดูสวยเลย ผมรู้ว่าคุณแคร์” ริค ถึงกับสบถ
เขารู้ดีว่าสิตาเป็นคนทะเยอทะยานแค่ไหน หากพรุ่งนี้สร่างเมาแล้วเห็นข่าว ไม่แคล้วคำพูดของหญิงสาวจะกลับดำเป็นขาวอีกตามเคย
เขาเข็ด...
เข็ดที่ถูกหญิงสาวใช้เป็นบันไดไต่เต้าขึ้นสู่อาชีพที่ใฝ่ฝันแล้วถีบหัวส่งลงมาเช่นเคย
ริคแกะมือเหนียบหนึบราวกับกาวตราช้างของสิตาได้ก็รีบผลุนผลันออกไปไม่ฟังคำทักท้วง ใครจะอยากถูกลากเข้าไปเอี่ยวเป็นมือที่สามของคนอื่นให้ยุ่งอีรุงตุงนังกัน
แต่ไม่ทันที่ริคจะได้ก้าวออกไป ไอ้แก่ตัณหากลับที่สิตาพูดถึงก็พุ่งพรวดเข้ามาดึงแขนหญิงสาวกระชากทันที “ตา!”
“อุ๊ย! ที่รัก!”
แหวะ!
สาวหุ่นนางแบบสะดุ้งเฮือกที่ได้ยินเสียงไม่พึงประสงค์จากริคที่จ้องเธอราวกับสมเพชเสียเต็มประดา หญิงสาวรีบปล่อยมือแล้วหันไปหาที่มาของเสียงด้วยสีหน้าปั้นยิ้มแต่แววตาบ่งบอกว่าเอือมระอาสุดๆ
“ทำไมมาเงียบๆ ล่ะคะที่รัก”
“ผมบอกแล้วว่าอย่ายุ่งกับมัน”
“ตาก็แค่คุยกับเพื่อนเก่า ไม่ได้อะไรนะคะที่รักขา”
“แล้วที่ผมเห็นเมื่อกี้ล่ะ” ผู้กำกับหนุ่มไม่วายถามเคืองๆ ทั้งที่กิริยาฮึดฮัดเมื่อครู่อ่อนลงมากแล้วเพราะหญิงสาวเอาใจ
นางเอกสาวที่รู้นิสัยหนุ่มใหญ่ดีจึงผละจากริคไปเกาะแขนซบหน้าก่อนตอบ “ก็ตาเมา ริคก็เลยช่วยประคองแค่นั้นเอง อย่าคิดมากนะคะที่รัก”
“อย่าให้ผมรู้ก็แล้วกันว่าจะรีเทิร์นไปหามัน”
สิตาย่นจมูกทันทีที่ฟังจบ แต่หญิงสาวผู้ถนัดเอาใจหนุ่มใหญ่เป็นที่หนึ่งก็อาศัยร้อยกลมารยาหญิงออดอ้อน จนกระทั่งถูกผู้กำกับหนุ่มใหญ่คว้าเอวเดินโอบกลับเข้าไปในงานในที่สุด
ริคที่ออกอาการกรึ่มๆ เพราะกระดกไวน์ในงานไปสามแก้วถึงกับส่ายหน้ากระตุกยิ้มเยาะ
เหอะ...
นึกแล้วว่าต้องเข้าอีหรอบเดิม...
ชายหนุ่มได้แต่ครุ่นคิดขณะมองตามแผ่นหลังหญิงสาวในชุดเดรสแดงเพลิงเว้าหลังถึงบั้นเอวเดินเคียงคู่แบบสนิทสนมไปกับหนุ่มใหญ่ร่างหมีในชุดสูทไป
ที่รักของสิตาเป็นผู้กำกับหนุ่มใหญ่ร่างอวบ หน้าตาดีที่แม้หุ่นใหญ่ไม่สมาร์ทนักแต่ก็มิใช่ว่าจะดูไม่ได้ในสายตาคนนอก เท็ดดี้ หรือทองภูมิ เป็นผู้กำกับนามกระเดื่องที่ร่วมงานกับริคได้เป็นอย่างดีในละครและหนังหลายต่อหลายเรื่อง
อันที่จริงเขาก็ชื่นชมฝีมือคนคนนี้ไม่น้อย ถ้าไม่ติดว่าจะมีเรื่องขัดใจกันในหนังเรื่องล่าสุดเพราะสิตาเป็นสาเหตุ ทำให้เกิดเปลี่ยนตัวคนเขียนบทกะทันหัน เป็นความรู้สึกเจ็บปวดในอาชีพของริคที่ประเมินค่ามิได้
หากเป็นเพราะฝีมืออ่อนด้อยเขาจะไม่ว่าเลยสักคำ แต่นี่คือการกลั่นแกล้งทางอาชีพที่คนอย่างเขารับไม่ได้อย่างแรง
ริคขับรถกลับคอนโดมิเนียมที่อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมด้วยอาการปกติ เขาแม้จะเริ่มมึนเล็กน้อยเพราะฤทธิ์ไวน์แต่ก็ไมได้หมายความว่าจะควบคุมสติไม่ได้
เพราะประมาทหรือขาดสติเขาก็ไม่อาจรู้ได้ เพราะทันทีที่รถพ้นทางโค้งถนนใหญ่เข้าสู่ถนนสายรองที่ไฟทางน้อยกว่าสายหลัก ระดับการมองเห็นเส้นทางก็ต่ำเตี้ย
ไม่นานเขาก็ต้องตกใจแทบสิ้นสติ!
“อีกหน่อยฉันจะพามินไปแต่งงานบนลอนดอนอาย” “หืม... นี่โอมกำลังฝันอยู่รึเปล่า” “ไม่ ๆ ฉันคิดอย่างนั้นจริง ๆ” “งั้นวันแต่งงาน โอมต้องเล่นเพลงโปรดของเราด้วยนะ มินจะรอฟัง” “ได้สิ... Kiss in the Rain เนอะ ฉันจะซ้อมตั้งแต่วันนี้เลยเป็นไง” ยังจำได้ว่าเขารับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ ว่าสักวันจะพาหล่อนมาที่นี่มายังสถานที่ที่เป็นเหมือนสัญญารักของเขากับหล่อน ความฝันของหล่อนอยู่ที่นี่... ความรักของเขาก็อยู่ที่นี่... ที่ ‘ลอนดอนอาย’ ดวงตาของ... ลอนดอน เมืองแห่งฝนผู้คนเหงาและเรื่องราวความรักที่มีความทรงจำของเขากับหล่อน ซึ่งครั้งหนึ่งเป็นคนที่รักกันสุดหัวใจ แต่ตอนนี้หล่อนจากเขาไปนานแสนนานแล้วและไม่เคยได้พบกันอีกเลย... +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ เรื่องของอดีตคู่รักที่เคยคบหากันตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย แต่มีอันต้องแยกจากไปเพราะเหตุการณ์บางอย่าง หลายปีต่อมา อธิปก หมดพันธะจึงกลับมาเพื่อทวงสัญญารักที่เขาเคยให้ไว้แต่กลับพบว่า สิมิลัน มีคนรักแล้ว เขาคนนั้นไม่ใช่ใครแต่คือ พฤกษ์ รุ่นพี่ที่นับถือและฝากให้ช่วยดูแล พฤกษ์เก็บจดหมายฉบับนั้นไว้และดูแลสิมิลันด้วยความรักทั้งหมดที่มีจนลืมนึกถึง รินลดา พี่สาวของสิมิลันที่เป็นเพื่อนสนิทและหลงรักเขาอยู่ สองคนกลับมาเจอกันในวันที่สิมิลันเข้าใจว่าเขาไม่โสด เธอจึงวิ่งหนีหัวใจตัวเอง แต่สุดท้ายทุกอย่างยิ่งเลวร้ายเพราะเมื่อพบแล้วว่าต่างก็ยังรักกันแต่มีเหตุให้อธิปกประสบอุบัติเหตุเป็นเจ้าชายนิทรา สิมิลันตัดสินใจไปลอนดอนโดยไม่รู้เลยว่ามีเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาติดไปด้วย วันนั้นเองอธิปกก็ฟื้นขึ้นมาโดยไม่มีเธอในชีวิตอีก เขาเก็บความเสียใจไว้จนกระทั่งสองปีต่อมาทั้งสองจึงได้พบกันอีกครั้ง...
ตั้งแต่เกิดกระทั่งจำความได้ จินซิงซิน รับรู้แค่ว่านางเป็นเพียงบุตรสาวกำพร้าของพ่อค้าตระกูลใหญ่ ชั่วชีวิตน้อยๆ มีเพียงท่านยาย พี่สาวต่างมารดาเท่านั้นที่คอยห่วงใย จนกระทั่งได้เจอกับ หลี่หลานหมิง ผู้มีสมญานามว่าอ๋องพยัคฆ์ที่ผู้คนโจษขานกันว่าโหดร้ายยิ่งนัก สังหารผู้คนเป็นผักปลา แสนเย็นชาดั่งน้ำค้างแข็งจนมิอาจมีผู้ใดใต้หล้าหาญกล้าต่อกร ทั้งสองต้องแต่งงานกันตามบัญชาของโอรสสวรรค์ท่ามกลางอุปสรรคมากมาย หลี่หลานหมิงจะทำเช่นใดในเมื่อสตรีที่ร่วมหัวจมท้ายด้วยอย่างชายากระต่ายน้อยกลับเติบโตเพียงแค่ร่างกาย ส่วนสภาพจิตใจนั้นอ่อนด้อยราวกับเด็กน้อยก็ไม่ปาน... +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ หลี่หลานหมิงที่รู้สึกตัวและพลิกตัวจากอาการเมื่อยขบแต่พบว่าไม่สามารถทำได้ แค่บิดตัวเล็กน้อยก็รู้สึกร่างกายแข็งค้างราวกับไร้เรี่ยวแรง ไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน... ที่แท้เพราะเมื่อคืนเขาถูกกระต่ายหลงทางกอดก่ายเอาเป็นสมบัติตนจนกระดิกไปไหนไม่ได้ นางคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน! น่าโมโหนัก! อ๋องสี่หลี่หลานหมิงกระดิกตัวแทบไม่ได้คล้ายเป็นตะคริวเพราะกระต่ายหลงตัวโตไม่ยอมคลายกอด กว่าร่างจะกลับฟื้นกำลังวังชาก็นานพอควร กระทั่งมีเสียงฝีเท้าดังสวบสาบจากหน้ากระโจมดังเล็ดลอดเข้ามา หลี่หลานหมิงจึงรู้สึกตัวว่าอยู่ในสภาพไม่น่ามอง รีบผุดลุกนั่งเอื้อมคว้ากระบี่คู่ใจข้างกายกระชับมั่น แต่เพราะความเคลื่อนไหวของเขาทำให้เตียงไหวสั่นจนคนที่นอนเริ่มขยับตัวและวาดมือมาคว้าเอวเขาเอาไว้อีกครา “อย่าไปตุ้งตุ้ง...” “นี่เจ้า! ข้ามิใช่ตุ้งตุ้งของเจ้า ปล่อย!” หลี่หลานหมิงคำรามแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายไร้ซึ่งความรับรู้ใดๆ “ซิงซินยังไม่อยากตื่นเลย...ท่านยาย” ดี... ดีแท้! เมื่อครู่เปรียบเขาเป็นกระต่ายหูเทา คราวนี้กลับกลายเป็นท่านยายของนางอีก หลี่หลานหมิงปรายตามองดวงหน้าดรุณีน้อยที่ยังหลับพริ้มในห้วงนิทราแล้วถึงกับนิ่งงัน นางช่างงดงามปานเทพธิดามาจุติ ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อของนางที่กดลงบนซอกคอของเขาตามจังหวะหายใจทั้งยังแก้มหอมกรุ่นที่เผลอจูบลูบไล้และเรือนร่างนุ่มนิ่มที่คอยเบียดยามหนาวเหน็บตลอดคืน หึ! มารดาเจ้าเถอะ! กระต่ายน้อยเอ๋ย... เขาควรสั่งสอนนางไม่ควรปล่อยให้หลุดรอดจากกรงเล็บเพชฌฆาตไปได้จริงๆ อ๋องสี่หลี่หลานหมิงผู้ซึ่งมิได้อ่อนต่อโลกแต่ไม่เคยแสวงหาสตรีงามสักคนข้างกายถึงคราวหนาวยะเยือกในใจ เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเขามาก่อนเลยสักครั้งในชีวิตที่นึกอยากได้สตรีมาครอบครองเป็นสมบัติของตัวบังเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ความรู้สึกนี้เมื่อเกิดขึ้นแล้ว กระต่ายน้อยหลงทางตัวนี้ต้องรับผิดชอบ!
เพราะคนเคยรักกำลังจะแต่งงานกับเพื่อน เธอจึงพลาดพลั้งขึ้นห้องกับผู้ชายหล่อร้ายแถมอันตราย แต่ให้ตายเถอะ! สาบานได้ว่าเธอไม่ได้มีอะไรกับผู้ชายขี้ตื๊อดื้อด้านน่ารำคาญคนนี้จริงๆ แล้วเขาต้องการอะไรจากเธอกันแน่นะ... ไม่มีใครเหมือนหญิงสาวเมื่อคืนสักคน... หล่อนทำยังไงให้เขายังคงไม่ลืมกันนะ หรือเพราะเรือนร่างหอมกรุ่นกลิ่นอะไรบางอย่างที่ไม่น่าใช่น้ำหอมราคาแพงแบบสาวสมัยใหม่นิยม ทำให้เขาเคลิ้มและหลงใหลจนอยากเชยชมหล่อนตามแรงยุ แต่... เขาไม่เคยฝืนใจใคร โดยเฉพาะกับคนที่แรกพบก็ตกหลุมรักอย่างหล่อนคนนั้น ตกหลุมรัก! สารินสะบัดหน้าพรืด ก่อนจะยอมรับกับตัวเองในใจ เออหนอ... อยู่มาสามสิบหกปี มีสาวน้อยคนนี้แหละที่ทำให้เขาอยากเลวทั้งที่รู้ตัว!
เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"
นางไร้หัวใจ ไม่คิดรักองค์ฮ่องเต้แม้เพียงสักครั้ง เขายับยั้งใจ กลับตกอยู่ใต้ห้วงเสน่หาสนมเอกผู้นี้
มีเพียงปาฏิหาริย์เท่านั้นที่ทำให้เธอฟื้นขึ้นมาได้ ซึ่งผู้ที่ทำหน้าที่นั้นได้ดีที่สุดก็คือยมทูตรับส่งวิญญาณ เขารีบตามหาวิญญาณของเธอเพื่อพากลับเข้าร่างโดยเร็วที่สุด แต่ทุกอย่างก็สายเกินแก้เพราะเขาเจอเธอเมื่อร่างของเธอถูกเผาไปแล้ว ทางเดียวที่จะแก้ไขความผิดก็คือต้องส่งเธอกลับไปในร่างของคนอื่นที่เพิ่งหมดลมหายใจ และด้วยเหตุผลที่เธอเรียกร้องบางประการ จึงทำให้เธอได้กลับไปเกิดใหม่ในรัชสมัยของราชวงศ์หมิง ในร่างของหญิงสาววัย 19 ปีนามว่า "เฟิ่งต้าชวี่" แต่ "เฟิ่งต้าชวี่" ไม่ใช่ดรุณีแรกแย้มไร้เจ้าของ นางเป็นพระชายาที่แสนบริสุทธิ์ของแม่ทัพผู้เกรียงไกร "อ๋องใหญ่เกาหรงซาน" พระชายาที่เขาเขียนหนังสือหย่าทิ้งไว้ในห้องหอตั้งแต่วันแรกที่แต่งงาน แต่เพราะความรักและหน้าที่ของสตรีชาวฮั่น นางจึงทนอยู่อย่างปวดร้าวในตำหนักของเขาตลอด 2 ปีก่อนจะตรอมใจตาย
เรื่องของอารียาคุณครูสาวใหญ่วัย35กับหนุ่มน้อยลูกติดผัววัย19ที่ชื่อโจ โจเป็นเด็กช่างอาชีวะสายโหดและหื่นกาม เธอมักจะโดนลูกชายแอบลวนลามอยู่บ่อยๆ ทว่าเธอกลับเป็นสาวหัวโบราณที่ไม่กล้าแม้ปริปากบอกสามี ด้วยความกลัวว่าบ้านจะแตกสาแหรกขาดอารียาเลยปล่อยเลยตามเลย แค่คำพูดห้ามปรามทำให้คุณแม่พลาดท่าเสียทีให้ลูกเลี้ยงไปจนได้ เธอโดนโจจับกดจนเสร็จสมอารมณ์หมายไปหลายหนจนตัวเองก็ติดใจเสียดื้อๆ ในที่สุดอารียาก็ต้องจำใจมีผัวถึงสองคนอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน คนแรกคือผัวที่ถูกต้องตามกฏหมาย อีกคนคือลูกติดผัวที่หื่นเสียเหลือเกิน
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
เมื่อเธอโดนนอกใจจากคนที่รัก จึงหนีไปเริ่มต้อนชีวิตใหม่ที่ดูไบ และเธอก็ได้เจอกับหนุ่มอาหรับสุดแซ่บ ที่มายั่วยวนหลอกล่อให้เธอมีเซ็กส์ที่เร่าร้อนกับเขา และเขายังต้องการให้เธอท้องลูกของเขาอีก.... เรื่องย่อ.... “คุณอัสลาน… คุณออกไปห่างๆฉันหน่อยได้ไหม…ห้องครัวนี่มันก็กว้างมากเลยนะคุณ ทำไมคุณต้องมาใกล้ฉันขนาดนี้ด้วย…” “ก็ผมอยากจะดูว่าคุณใส่ยาเสน่ห์อะไรลงไปในอาหารหรือเปล่า เพราะช่วงนี้ผมรู้สึกโหยหาคุณตลอดเลย…” “ใครจะบ้ามาใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกินล่ะ แค่นี้ฉันก็แทบไม่ได้นอนแล้ว… ขืนใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกิน ฉันไม่นอนแกผ้าให้คุณเอาทั้งวันเลยเหรอ…” “หึๆ…ก็คุณมันน่ามั่นเขี้ยวนิ จะจับจะตบตรงไหนก็แน่นไปหมดเลย…แถมกลิ่นตัวก็หอมไปยันหอยเลย…อืม…พูดไปแล้วขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยสิ วันนี้ทำงานมาโคตรเหนื่อยเลย…” “อื้อ…คุณจะทำอะไรน่ะคุณฮัสลาน นี่มันในห้องครัวนะคุณ…เดี๋ยวพวกแม่บ้านเดินเข้ามาจะทำยังไงคะ…ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยค่ะ จะมาดมอะไรตรงนี้” “ก็ผมอยากดมตอนนี้ไงคุณ…เห็นหน้าคุณแล้วผมก็รู้สึกเสี้ยนจนทนไม่ไหวแล้วเนี่ย…ขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยเถอะ” “อ้ะ….คุณอัสลาน….อื้อ….ทำไมคุณมันหื่นแบบนี้เนี่ย….เอามือของคุณออกไปนะ เดี๋ยวคนมาเห็น….อ้ะ…ซี๊ด…อ่าส์….” อัสลาน ราเชด บรูฮัมนี อายุ 37 ปี “อัสลาน...” หนุ่มนักธุรกิจชาวอาหรับที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตรในนิยาย แต่ต้องมาคัดสรรหาเมียเพื่อจะมีลูกสืบทอดวงตระกูลตามคำสั่งของพ่อแม่ ทำให้เขานั้นเลี่ยงไม่ได้กับการที่จะหาเมียสักคนมารับหน้าที่นี้ แต่เขาดันไปถูกใจแม่สาวไทยใจแข็งเข้านี่สิ ไม่ว่าเขาจะเสนออะไรไปเธอก็ไม่ยอมที่จะมาเป็นเมียของเขาเลย เพียงเพราะว่าเขานั้นแก่กว่าเธอไม่กี่ปีเท่านั้น ทำให้เขาต้องใช้เล่ห์กลหลอกล่อเธอให้มาทำงานกับเขา ก่อนจะค่อยๆอ่อยแล้วก็รุกจัดการตะครุบเหยื่ออย่างเธอให้กลายมาเป็นนกน้อยในกรงทองของเขา…. มารียา เวทติวัตร อายุ 27 ปี “มีน มารียา…” สาวไทยหน้าคมที่มีหุ่นอวบอัดเป็นที่ยั่วน้ำลายของพวกหนุ่มนั้น กลับไม่ประสบความสำเร็จเรื่องความรักเอาซะเลย เธอจึงหนีจากความเสียใจแล้วมาหางานทำอยู่ที่ดูไบ...เพื่อจะลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอ และเธอก็ได้เจอกับเจ้านายขี้อ่อย ขี้ยั่ว ที่ไม่ว่าเธอจะทำอะไรหรือไปไหน เขาก็มักจะมายั่วน้ำลายทำให้หัวใจที่บอบช้ำของเธอนั้นปั่นป่วนอยู่เสมอ จนเธอถลำตัวมีอะไรกับเขาอย่างห้ามใจไม่อยู่ และเธอก็ได้รู้ว่าเขานั้นเป็นผู้ชายแก่ที่หื่นสุดๆเลย…แต่จะหื่นแค่ไหนต้องไปตามอ่านในนิยายนะคะ
© 2018-now MeghaBook
บนสุด