นิรดาเคยมีคนเตือนเธอไว้แล้วว่า เธออย่าคิดที่จะเอาร่างกายเข้าแลกกับเงินตราและการแก้แค้นแทนพี่ชาย เพราะสุดท้ายเธอจะไม่ได้อะไรกลับมานอกจากความเสียใจ หรือเป็นฝ่ายหลงรักซาตานหนุ่มอย่างหมดหัวใจเสียเอง
นิรดาเคยมีคนเตือนเธอไว้แล้วว่า เธออย่าคิดที่จะเอาร่างกายเข้าแลกกับเงินตราและการแก้แค้นแทนพี่ชาย เพราะสุดท้ายเธอจะไม่ได้อะไรกลับมานอกจากความเสียใจ หรือเป็นฝ่ายหลงรักซาตานหนุ่มอย่างหมดหัวใจเสียเอง
“ตะวันเรื่องแต่งงานไม่ใช่เรื่องเล็ก แม่อยากให้ลูกลองคิดทบทวนอีกสักครั้งได้ไหม”
ชม้อยไม่ชอบว่าที่ลูกสะใภ้เสียเท่าไหร่ถึงแม้จะไม่เคยเจอกันแต่ก็ไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรมาขัดลูกชาย “ผมตัดสินใจมาดีแล้วครับคุณแม่ เราสองคนอาจจะคบกันได้ไม่นานแต่เรามั่นใจว่าเราทั้งคู่รักกันมากพอที่จะร่วมสร้างครอบครัว คุณแม่เชื่อใจผมนะครับ” ตะวันโอบกอดมารดาอย่างเอาใจ ตั้งแต่บิดาจากไปครอบครัวชัฏพนาลีก็มีกันอยู่เพียงแค่สามคนแม่ลูก ชม้อยดูแลธุรกิจต่อจากสามีและทำมันได้ดีจนฐานะร่ำรวยส่งลูก ๆ ทั้งสองคนให้ได้เรียนต่อต่างประเทศอย่างที่ลูก ๆ ต้องการ ทุกการตัดสินใจในทุกเรื่องชม้อยจึงเป็นใหญ่ที่สุด “ในเมื่อแม่ห้ามลูกแล้วลูกไม่ฟังก็คงต้องยอมแต่...คงไม่ใช่แต่งภายในปีนี้นะแม่ขอเป็นคนไปดูฤกษ์เอง” “ได้เลยครับแค่เราสองคนได้แต่งงานกัน ผมก็มีความสุขที่สุดแล้ว” คนเป็นแม่ยืดเวลาเพื่อหวังว่างานแต่งงานครั้งนี้จะถูกล้มเลิกก่อนที่วันแต่งงานจะมาถึงเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกของลูก ๆ เธอที่อยากแต่งงานแต่ทุกครั้งสุดท้ายก็มีอันต้องยกเลิกก่อนพอคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาชม้อยก็อดคิดถึงลูกสาวไม่ได้เพราะเมื่อสองปีที่แล้วรุจิรามาปรึกษาเธอเรื่องจะแต่งงานแต่ยังไม่ทันได้แต่งว่าที่เจ้าบ่าวก็มาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตก่อน “ฟ้ากลับมาบ้านบ้างสิลูก แม่กับตะวันอยากกินข้าวเย็นพร้อมหน้ากัน” คนเป็นแม่ทนคิดถึงลูกสาวไม่ไหวจึงตัดสินใจโทรศัพท์หา ตั้งแต่แฟนหนุ่มจากไป ฟ้าก็ย้ายตัวเองไปเปิดร้านอาหารเล็ก ๆ ที่เชียงใหม่ปิดตัวเองจากสังคมชั้นสูงเก็บตัวเงียบนาน ๆ ทีถึงจะกลับมาที่บ้านหลังใหญ่ของครอบครัว “คุณแม่ฟ้าขอเวลาสักพักนะคะตอนนี้เพิ่งเปิดสาขาใหม่ไว้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางจะรีบบินไปเลยนะคะ” คำตอบที่ได้ไม่ได้ทำให้คนคิดถึงแปลกใจอะไรเพราะมันเป็นแบบนี้ทุกครั้ง ชม้อยไม่ค่อยได้รู้เรื่องส่วนตัวของลูกสาวเพราะรุจิราเป็นผู้หญิงที่โลกส่วนตัวสูง วันที่ลูกสาวพาชายหนุ่มมาแนะนำให้ชม้อยรู้จักและบอกว่าเขาคือคนที่เธอจะแต่งงานด้วยวันนั้นชม้อยตกใจมากและพยายามยืดเวลาเหมือนครั้งนี้ที่ตะวันอยากแต่งงานแต่ยังไม่ทันจะได้รู้จักอนาคตลูกเขยก็ได้ข่าวอีกทีว่าเขาเสียชีวิตแล้ว รุจิราไม่ยอมให้คนในครอบครัวไปงานศพของคนรักและนับตั้งแต่เหตุการณ์นั้นหญิงสาวก็ย้ายไปอยู่เชียงใหม่และแทบจะไม่กลับมาบ้านอีกเลย ตะวันลูกชายเพียงคนเดียวดูแลและอยู่เคียงข้างมารดามาตลอดสองปีที่ครอบครัวของเขาเหมือนเหลือกันแค่สองคน ชม้อยจึงรักและหวงลูกชายคนนี้มากจึงเป็นสาเหตุให้การแต่งงานของตะวันต้องพังก่อนทุกครั้งเพราะไม่มีผู้หญิงคนไหนทนกับแม่คนรักที่แสนจะร้ายอย่างชม้อยได้เลยสักคน “คุณคะฉันไม่อยากเสียลูกไปอีกคน วันนี้ตะวันมาขอจะแต่งงานอีกแล้วค่ะ มันผิดใช่ไหมที่ฉันทำลายความรักของลูกแต่ฉันไม่อยากอยู่คนเดียวงานแต่งงานจะต้องไม่เกิดขึ้น” ชม้อยคุยกับรูปของสามีที่ติดอยู่ที่ผนังห้องนอนเพราะตอนนี้เธอกำลังคิดวิธีที่จะทำให้อนาคตลูกสะใภ้ทนไม่ได้และทิ้งลูกชายของเธอไปเหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่ผ่านมา ตะวันรู้สึกโล่งใจที่ได้บอกกับมารดาเรื่องที่เขาจะแต่งงานจึงรีบขับรถมาหาแฟนสาวที่เขาเพิ่งคบหาได้ไม่ถึงปี “วันนี้พี่ตะวันมีอะไรหรือเปล่าคะตั้งแต่มาถึงเอาแต่มองหน้าทรายยิ้มไปยิ้มมาอยู่คนเดียวแบบนี้” นิรดาหรือทรายเป็นคนรักของตะวัน หญิงสาวเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศได้ไม่นานพอกลับมาถึงก็พบรักกับชายหนุ่มทันที “ถ้าพี่บอกรับรองว่าทรายต้องดีใจและอาจจะยิ้มมากกว่าพี่ก็ได้นะ”
เมื่อความรักมันบังตาอารมณ์หึงก็เกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัวเพียงค่ำคืนเดียวที่กวีท่านประธานหนุ่มมองเห็นนักศึกษาฝึกงานที่เขาหลงรักเดินเคียงคู่มากับชายอื่นเขาก็ตัดสินใจมอบความเป็นสามีให้เธอ บัวชมพูอยากจะหนีไปให้ไกลจากคนใจร้าย...แต่เขาดีกับเธอทุกอย่างหนี้บุญคุณครั้งนี้เธอคงไม่มีทางตอบแทนได้หมด ความรักเริ่มก่อตัวขึ้นแต่ทุกอย่างกลับต้องพังลงเมื่อความจริงบางอย่างปรากฏในวันเดียวกับที่เธอรู้ตัวว่ากำลังอุ้มท้องสายเลือดของท่านประธานอยู่ V V V “กล้าทำแบบนี้ในที่ทำงานไม่กลัวว่าใครจะเห็นแล้วเอาไปฟ้องคุณแม่และผู้หญิงที่มากับท่านวันนั้นหรือคะ” บัวชมพูมองจ้องหน้าแบบท้าทายในเมื่อวันนี้เขาดูถูกเธอ กล่าวหาว่าเธอกำลังนอกใจไปมีคนอื่น หญิงสาวก็อยากจะแสดงให้เขารู้เหมือนกันว่าเขาเองก็ไม่ได้มีอะไรดีไปกว่าเธอ “ผมไม่กลัวอะไรทั้งนั้นไม่ว่าผมจะนอนกับใครมันก็สิทธิ์ของผม ใครอยู่ได้ก็อยู่ ใครอยู่ไม่ได้ก็ไปแต่สำหรับคุณ..อย่าลืมที่คุณเคยบอกว่าอยากตอบแทนในสิ่งที่ผมทำให้ถ้าอยากเป็นคนอกตัญญูก็แค่เก็บเสื้อผ้าแล้วไปจากผมก็เท่านั้น” กวีรู้ดีว่าคำขู่นี้ยังได้ผลเพราะครอบครัวของบัวชมพูยังคงต้องการความช่วยเหลือจากเขาซึ่งนับจากวันนั้นวันที่กวีเดินทางไปเยี่ยมแม่ของหญิงสาวที่บ้าน พ่อของบัวชมพูก็พูดคุยติดต่อธุระกับกวีด้วยตัวเองโดยที่ไม่ผ่านลูกสาวอีกเลยบัวชมพูอยากจะห้ามพ่อ แต่เธอก็ไม่รู้จะใช้เหตุผลข้อไหนจึงทำได้แค่ใช้ร่างกายและหัวใจของตัวเองในการตอบแทนทุกอย่างที่กวีทำให้กับครอบครัวของเธอ V v
ภูริดล นักธุรกิจหนุ่ม เขาทำทุกอย่างไม่เคยมีคำว่าไม่สำเร็จยกเว้นเรื่องเดียวคือการมีครอบครัวที่มีความสุขตามที่บิดาต้องการเพราะนั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาปรารถนา พิรฎา สาวน้อยที่ต้องการมีชีวิตอิสระหลุดพ้นจากครอบครัวที่เธอไม่เคยมองว่ามันอบอุ่นและเธอก็ตัดสินใจเดินออกมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการยอมเซ็นสัญญาเป็นภรรยารับจ้าง *************** “ปิดไฟได้แล้ว” คนหล่อร่างใหญ่กึ่งนอนกึ่งนั่งอยู่บนเตียงมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาเจ้าชู้จนคนถูกมองถึงกับอายต้องหลบสายตาทันที “คุณง่วงก็นอนไปก่อนเลยฉันยังไม่ง่วงว่าจะนั่งทำอะไรเพลินๆ” หญิงสาวพยายามหาเรื่องมาถ่วงเวลาเพราะเธอรู้ว่าหลังจากที่ไฟในห้องถูกปิดลงทุกดวงอะไรจะเกิดขึ้นและถึงเวลานั้นเธอก็คงทำได้แค่เพียงยอมเขาเท่านั้น “ปล่อยค่ะคุณดล พิมพ์ว่าเราอย่าเพิ่ง...” หญิงสาวสะดุ้งสุดตัวด้วยความตกใจเมื่อถูกอีกฝ่ายลุกขึ้นจากเตียงนอนมาอุ้มร่างของเธอและโยนลงบนที่นอนก่อนที่เขาจะเอาตัวเองมาค่อมร่างเล็กของเธอไว้พร้อมกับขึงมือทั้งสองข้างของเธอไว้เหนือศีรษะ ******************* “สัญญามันควรจะจบในเมื่อคุณก็ได้ฉันเป็นเมียแล้ว” หญิงสาวในชุดนอนสายเดี่ยวผ้าเบาหวิวกำลังยื้อแย่งกระดาษสัญญาจากมือของชายหนุ่มที่นุ่งเพียงแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว “เด็กก็คือเด็กตอนที่เซ็นไม่เคยคิดจะอ่านทุกอย่างให้ละเอียดอยากรู้ใช่ไหมว่าทำไมสัญญาฉบับนี้ยังต้องมีต่อไป เอาไปอ่าน อ่านให้ดีและหวังว่าจะตาสว่างขึ้นอย่าโวยวายอะไรในสิ่งที่ตัวเองเซ็นไปแล้ว” พิรฎารีบรับสัญญาจากมือของอีกฝ่ายมาอย่างรีบรอน หญิงสาวกวาดสายตาอ่านอย่างละเอียดหัวใจของเธอแทบจะหลุดลงมากองอยู่ที่พื้นเมื่อความจริงคือนอกจากเธอจะต้องเป็นภรรยารับจ้างของเขาแล้วเธอยังจะต้องอุ้มท้องและคลอดลูกของเขาให้สำเร็จสัญญาฉบับนี้ถึงจะเป็นอันสิ้นสุดโดยที่ตัวเธอเองจะไม่มีสิทธิ์ใดๆในตัวเด็กน้อยที่เกิดมา *************************** ความรักเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้มารู้อีกที อีกฝ่ายก็ท้องแล้วทำไงดีล่ะทีนี้ในเมื่อไม่มีใครอยากให้สัญญาสิ้นสุดอยากให้ทุกอย่างเป็นไปแบบนี้ตลอดชีวิตแต่ความจริงบางอย่างที่ภูริดลไม่เคยได้รับรู้มันทำให้ชายหนุ่มเริ่มไม่แน่ใจว่าตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันหญิงสาวที่เขานอนกอดทุกคืนมีอะไรบ้างที่เธอโกหกและอะไรบ้างที่เป็นความจริง ฝากติดตามความรักของชายจอมดุกับสาวจอมเถียงด้วยนะคะ เช้าตรู่ฤดูหนาว
เขาต้องการมีลูกแต่ไม่ต้องการมีครอบครัว การมีภรรยาเป็นเรื่องเลวร้ายสำหรับเขา ความรักนำมาแต่ความทุกข์ และไม่เคยทำให้ใครได้รู้จักความสุขที่แท้จริง ภาคินถูกมารดาใส่ความคิดนี้มาตั้งแต่วัยเยาว์ เพราะพ่อของเขาทิ้งครอบครัวไปแต่งงานใหม่ทำให้แม่ต้องสู้ทนเลี้ยงเขามาด้วยความลำบาก แต่…. วันนี้มารดาของเขากลับยื่นคำขาดต้องการทายาทสืบสกุลด้วยอาการป่วยของผกาทำให้เธอตัดสินใจให้ลูกชายเร่งผลิตทายาทให้ได้ก่อนที่เธอจะจากโลกนี้ไป แล้ว.. ขนมผิงสาวน้อยตกงานเธอไม่มีทางเลือกเท่าไหร่เพราะพ่อของเธอกำลังป่วยหนักต้องการใช้เงินในการรักษาเธอจึงยอมเซ็นสัญญาทั้งที่มันสุดแสนจะเจ็บปวดหัวใจ ***เป็นแม่ของลูกให้เขาที่ไม่ใช่ภรรยาและไม่มีสิทธิ์เป็นกระทั่งคนรัก*** */* รักหวาน ๆ โรแมนติกกับบรรยากาศของสะปันฝากติดตามกันด้วยนะคะ*/* .....เทพพิสุทธิ์...
**กินเด็กเขาว่าอมตะ** เธอหนีจากไฟที่แผดเผามาซบอกกว้างที่แสนอบอุ่น ความรักที่เกิดขึ้นตั้งแต่ค่ำคืนแรก ทุกอย่างมันควรจะจบลงแค่นั้น.....ทว่าสัมผัสรักที่ทั้งคู่มอบให้แก่กันมันมีความสุขเกินกว่าจะตัดใจ ********* “อืม...แดน” ใบหน้าที่คมภายใต้ผิวขาวค่อย ๆ ใช้ปลายลิ้นเลื่อนต่ำลงมาก่อนที่เขาจะจัดการกับเสื้อตัวบางที่ขวางกั้นเส้นทางที่เขาจะได้ใช้สองมือสัมผัสกับเนื้อนุ่มของอกอิ่มของหญิงสาวที่กำลังนอนหลับตาพริ้มในที่สุดอาภรณ์ทั้งส่วนบนและส่วนล่างก็ถูกถอดกองไว้ข้าง ๆ ก่อนที่แดนไตรจะสาละวนกับยอดที่ชูช่อแข็งตั้งรับสัมผัสของลิ้นอุ่นแสนหวานของเขา */* */* */* ความรักครั้งใหม่ทำให้เธอตัดสินใจที่จะเดินออกจากความเจ็บปวด.....ทุกอย่างกำลังจะลงเอยด้วยดี...ถ้าชายหนุ่มที่เธอหวังให้เป็นที่พักใจสุดท้ายเขาไม่ใช่ลูกชายของศัตรูอดีตสามีเธอ จบ Happy นะคะ ปะหนัน
ชายคนเก่าในร่างใหม่ เขากลับมาเพื่อลองใจเธอ การพิสูจน์หัวใจของหญิงสาวมันอาจเป็นการมองหารักแท้สำหรับปองภพ แต่สำหรับดาวิกามันคือความหลอกลวงและทำร้ายหัวใจของคนที่รอเขามาถึง5 ปี ************** “สาแก่ใจแล้วหรือยังกับแผนการพิสูจน์รักแท้ของพี่ แต่สำหรับดามันคือการดูถูก ถึงดาจะจนแต่ก็ไม่ได้กระหายความรวยจนลืมฟังเสียงหัวใจ เสียแรงที่รู้จักกันมาเกือบสิบปี พี่มันก็แค่ผู้ชายที่รักแต่ตัวเอง” ปองภพยืนฟังดาวิกาต่อว่าเขาจนจบ เขายอมรับทุกคำด่าทอของหญิงสาว “ใช่พี่เห็นแก่ตัว พี่คิดแต่ในมุมของตัวเอง ถูกแล้วที่ดาจะโกรธพี่แต่ขอร้องอย่าเกลียดพี่ได้ไหม พี่พร้อมจะทำตามข้อเสนอของดาทุกอย่างที่พูดบนเวที แล้วเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ ว่าผู้ชายคนนี้ใช่พี่ภพคนเดิมไหม” หญิงสาวกำมือแน่น มองสบตาคนรักด้วยดวงตาที่แดงกร่ำ น้ำใส ๆ ไหลคลอตาแต่หญิงแกร่งอย่างดาวิกาไม่มีทางร้องไห้ต่อหน้าใครแน่ ๆ “โอกาสมีแค่ครั้งเดียว ถ้าทำมันไม่ได้ ก็อย่าใช้คำว่าขอโทษเลย เพราะมันคงไม่ใช่ความพลั้งพลาดแต่มันคงเป็นสันดานลึก ๆ ที่เพิ่งแสดงออกมา” ***เมื่อได้รับโอกาส ก็อยู่ที่ตัวเองแล้ว ว่าจะรักษามันไว้หรือปล่อยรักให้หลุดมือไป**** /*/ความเผ็ดเราก็มี ความหวานเราก็เยอะ ฝากผลงานของปะหนันด้วยนะคะ/*/
เหมันต์เจ้าของไร่ชาที่รักในชีวิตโสดเป็นที่สุดแต่กลับดันมามีใจให้กับลูกสาวเพื่อนแม่ ที่รักการทำขนมมากที่สุดในชีวิต แต่เขาก็เลือกที่จะปากแข็งและทำทุกอย่างตรงข้ามหัวใจ ******************************************** ความรักที่ไม่ชัดเจน ก็ไม่มีค่าพอที่รั้งอีกฝ่ายให้อยู่ได้ ถ้ารักเป็นเพียงแค่คำพูดแต่มันไม่เคยถูกแสดงผ่านการกระทำ ***************** “เอาไงเอากันวะ ต้องคุยให้รู้เรื่อง ดูสิถ้าเป็นผัวเมียกันแล้วจะกล้าไปไหนอีกไหม” ห้องนอนที่ปิดไม่สนิทอยู่แล้ว ถูกดันให้เปิดออกกว้างด้วยแรงของชายหนุ่มที่กำลังหึงขึ้นหน้า “ตกลงจะไปจริง ๆ ใช่ไหม” เหมันต์อยู่ดี ๆ ก็ถามคำถามที่คนฟังยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย เพราะทิพย์นารียังไม่ได้พูดเรื่องนี้กับลุลา หญิงสาวหันมามองหน้าคนถามลับหันกลับไปนั่งพับผ้าต่อ ยิ่งสร้างอารมณ์ความโกรธให้กับเหมันต์ให้รุนแรงขึ้น ร่างหนาโถมเข้าใส่คนร่างเล็กที่กำลังนั่งพับผ้าโดยไม่รู้ตัวว่าจะโดนอีกฝ่ายทำรุนแรงใส่ เหมันต์จัดการผลักร่างบางนอนลงกับเตียงนอน โดยที่ตัวเขาเองลืมไปเลยว่าประตูห้องยังปิดไม่สนิท ลุลาได้แต่พยายามใช้มือปัดป้องตัวเองจากการบุรุก โดยที่เธอยังคงไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น อยู่ดี ๆ ทำไมอีกฝ่ายถึงได้ทำท่าโมโหและทำกับเธอแบบนี้ เสื้อเชิ้ตสีขาวถูกดึงออกจากกันกระดุมทุกเม็ดหลุดออกจากตัวเสื้อ กางเกงขาสั้นถูกถอดโดยง่ายทั้งที่เจ้าตัวก็ขัดขืนเต็มกำลัง ชายหนุ่มซุกไซ้ซอกคอยาว สองมือจับมือของลุลาขึงไว้กับที่นอน เมื่อปากหนาสัมผัสกับเรือนร่างของหญิงสาว ลุลาก็เป็นเหมือนเทียนที่ถูกไปแล้วหลอมละลาย เสียงของคนไม่เต็มใจดังจนทิพย์นารีต้องเดินออกจากห้องมาดู แต่ตอนนั้นคนตัวเล็กก็อ่อนระทวยไปหมดแล้ว คนเป็นแม่ที่เคยผ่านรสชาติแบบนี้มาก่อนแล้ว ทำได้แค่ปิดประตูให้สนิทด้วยเสียงที่เบาที่สุด ***หากเปรียบฉากรักของทั้งคู่เป็นเหมือนภาพยนตร์ ก็คงเป็นหนังสงครามที่ยิงกันได้ทั้งวัน***
เมื่อหลุดเข้าไปในนิยาย ได้เป็นถึงนางเอกของเรื่องเรื่อง การจะกลับออกไปคือต้องให้จบแบบ happy ending แต่ทำไม๊ พระเอกกลับบอกว่าฉันจืดชืด ไร้รสนิยม แต่เขาดันไปต้องใจยัยตัวร้ายซะงั้น
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
เขาเหลือบสายตามองแก้มบางที่อยู่ไม่ห่างจากปาก จมูกน้อย ๆ ของนางคลอเคลียอยู่ที่ลำคอของเขาเมื่อก้าวเดิน เขาไม่คิดให้เสียเวลา ลดฝีเท้าในการเดินให้ช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วคิดกำไรด้วยการจูบมุมปากและหอมแก้มของเธออย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ก็แผ่วเบานุ่มนวล เพราะไม่อยากทำให้นางตื่นจนเสียโอกาส มือไม้ก็ลูบไล้ความนุ่มเนียนจนลื่นมือของผิวแท้ ที่มีเพียงผ้าผืนน้อยปิดกั้นไว้ “สตรีขี้เมามันไม่งาม แต่ข้าก็ชอบถ้าเป็นเจ้า” เขาพึมพำชิดริมฝีปากอวบอิ่ม ประทับจูบลงไปแนบแน่นเมื่อวางร่างของนางลงบนเตียงเรียบร้อยแล้ว...
เมื่อเธอโดนนอกใจจากคนที่รัก จึงหนีไปเริ่มต้อนชีวิตใหม่ที่ดูไบ และเธอก็ได้เจอกับหนุ่มอาหรับสุดแซ่บ ที่มายั่วยวนหลอกล่อให้เธอมีเซ็กส์ที่เร่าร้อนกับเขา และเขายังต้องการให้เธอท้องลูกของเขาอีก.... เรื่องย่อ.... “คุณอัสลาน… คุณออกไปห่างๆฉันหน่อยได้ไหม…ห้องครัวนี่มันก็กว้างมากเลยนะคุณ ทำไมคุณต้องมาใกล้ฉันขนาดนี้ด้วย…” “ก็ผมอยากจะดูว่าคุณใส่ยาเสน่ห์อะไรลงไปในอาหารหรือเปล่า เพราะช่วงนี้ผมรู้สึกโหยหาคุณตลอดเลย…” “ใครจะบ้ามาใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกินล่ะ แค่นี้ฉันก็แทบไม่ได้นอนแล้ว… ขืนใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกิน ฉันไม่นอนแกผ้าให้คุณเอาทั้งวันเลยเหรอ…” “หึๆ…ก็คุณมันน่ามั่นเขี้ยวนิ จะจับจะตบตรงไหนก็แน่นไปหมดเลย…แถมกลิ่นตัวก็หอมไปยันหอยเลย…อืม…พูดไปแล้วขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยสิ วันนี้ทำงานมาโคตรเหนื่อยเลย…” “อื้อ…คุณจะทำอะไรน่ะคุณฮัสลาน นี่มันในห้องครัวนะคุณ…เดี๋ยวพวกแม่บ้านเดินเข้ามาจะทำยังไงคะ…ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยค่ะ จะมาดมอะไรตรงนี้” “ก็ผมอยากดมตอนนี้ไงคุณ…เห็นหน้าคุณแล้วผมก็รู้สึกเสี้ยนจนทนไม่ไหวแล้วเนี่ย…ขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยเถอะ” “อ้ะ….คุณอัสลาน….อื้อ….ทำไมคุณมันหื่นแบบนี้เนี่ย….เอามือของคุณออกไปนะ เดี๋ยวคนมาเห็น….อ้ะ…ซี๊ด…อ่าส์….” อัสลาน ราเชด บรูฮัมนี อายุ 37 ปี “อัสลาน...” หนุ่มนักธุรกิจชาวอาหรับที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตรในนิยาย แต่ต้องมาคัดสรรหาเมียเพื่อจะมีลูกสืบทอดวงตระกูลตามคำสั่งของพ่อแม่ ทำให้เขานั้นเลี่ยงไม่ได้กับการที่จะหาเมียสักคนมารับหน้าที่นี้ แต่เขาดันไปถูกใจแม่สาวไทยใจแข็งเข้านี่สิ ไม่ว่าเขาจะเสนออะไรไปเธอก็ไม่ยอมที่จะมาเป็นเมียของเขาเลย เพียงเพราะว่าเขานั้นแก่กว่าเธอไม่กี่ปีเท่านั้น ทำให้เขาต้องใช้เล่ห์กลหลอกล่อเธอให้มาทำงานกับเขา ก่อนจะค่อยๆอ่อยแล้วก็รุกจัดการตะครุบเหยื่ออย่างเธอให้กลายมาเป็นนกน้อยในกรงทองของเขา…. มารียา เวทติวัตร อายุ 27 ปี “มีน มารียา…” สาวไทยหน้าคมที่มีหุ่นอวบอัดเป็นที่ยั่วน้ำลายของพวกหนุ่มนั้น กลับไม่ประสบความสำเร็จเรื่องความรักเอาซะเลย เธอจึงหนีจากความเสียใจแล้วมาหางานทำอยู่ที่ดูไบ...เพื่อจะลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอ และเธอก็ได้เจอกับเจ้านายขี้อ่อย ขี้ยั่ว ที่ไม่ว่าเธอจะทำอะไรหรือไปไหน เขาก็มักจะมายั่วน้ำลายทำให้หัวใจที่บอบช้ำของเธอนั้นปั่นป่วนอยู่เสมอ จนเธอถลำตัวมีอะไรกับเขาอย่างห้ามใจไม่อยู่ และเธอก็ได้รู้ว่าเขานั้นเป็นผู้ชายแก่ที่หื่นสุดๆเลย…แต่จะหื่นแค่ไหนต้องไปตามอ่านในนิยายนะคะ
เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"
นางแบบสาวไทยที่ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขมาโดยตลอด...จนวันหนึ่งได้พบกับเขา เขาที่เป็นพี่ชายสามีของน้องนางแบบที่เคยทำงานด้วยกัน ชีวิตของเธอก็ได้เปลี่ยนไป เพราะนอกจากถูกเขากวนใจแล้ว..เธอยังถูกเขากวนตัวอีกด้วย
© 2018-now MeghaBook
บนสุด