เงารัก เพลิงเสน่หา เขา...ไม่อาจหยุดไฟแค้นที่จะทำลายหัวใจเธอได้ และเธอ...ก็ไม่อาจหยุดหัวใจรักเขา แม้ถูกแผดเผาจนเหลือเพียงเถ้าธุลีด้วยเพลิงเสน่หา
เงารัก เพลิงเสน่หา เขา...ไม่อาจหยุดไฟแค้นที่จะทำลายหัวใจเธอได้ และเธอ...ก็ไม่อาจหยุดหัวใจรักเขา แม้ถูกแผดเผาจนเหลือเพียงเถ้าธุลีด้วยเพลิงเสน่หา
ไอแดดบางเบาลอดผ่านม่านเมฆที่คลี่ตัวอยู่เหนือแผ่นฟ้าสีครามในยามสาย ร่างบอบบางในชุดกระโปรงผ้าชีฟองเนื้อเบาหิ้วกระเป๋าเดินทางใบเล็กเดินเลียบไปตามเส้นทางซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้าและโรงแรมในย่านการท่องเที่ยวริมหาดนพรัตน์ธารา ที่ซึ่งหญิงสาวมุ่งตรงมายังจังหวัดกระบี่อย่างตั้งใจหากก็ไร้จุดหมายอันแน่นอน เรือนผมยาวเหยียดตรงสีน้ำตาลถูกมุ่นไว้ด้านหลังภายใต้หมวกปีกกว้าง
ดวงตากลมโตหลังแว่นกันแดดกรอบใหญ่มองไปข้างหน้าราวกับยังมองไม่เห็นสิ่งที่คาดหวัง บ่อยครั้งที่หญิงสาวเสียสมาธิหันไปมองของฝากสวยงามภายในร้านริมทางพลางคิดไปเรื่อยเปื่อย เมลิดาเฝ้าบอกตัวเองว่าตอนนี้เธอไม่ใช่นางแบบชื่อดังที่เจ้าของงานโชว์ตัวและงานเดินแบบเที่ยวตามหากันให้ควั่ก ทั้งยามนี้เธอก็ห่างไกลจากบ้านมาอยู่ในสถานที่ ๆ ดูเหมือนสงบสุขไกลจากเมืองหลวงและไกลจากความต้องการไร้สาระของทั้งบิดาและมารดาซึ่งยืนกรานให้เธอเข้าพิธีวิวาห์กับผู้ชายที่เธอไม่เคยเห็นหน้าค่าตา ไม่เคยแม้แต่จะได้ยินชื่อ เพียงรู้ว่าเป็นเจ้าของบริษัททำเหมืองทองคำและเจ้าของไร่องุ่นกว้างใหญ่ที่ต่างจังหวัด
“เขาชื่อ ทศภาค ภควัตณ์ เป็นเจ้าของเหมืองทองและไร่ภควัตณ์ที่ใหญ่มาก ๆ พ่อกับแม่ไม่ขออะไรเมย์นะลูก แค่รับปากว่าจะแต่งงานกับเขาเท่านั้นเอง”
“อะไรนะคะพ่อ!”
เมลิดายังได้ยินเสียงแหลมสูงของตนเองที่ตั้งคำถามกับสมพงษ์ผู้เป็นบิดาอย่างไม่เชื่อหูในสิ่งที่ได้ยินอยู่ในความคิด
“ตลกหรือคะพ่อ?.....เมย์ไม่รู้ว่าคุณพ่อล้ออะไรเมย์เล่น นี่มันเรื่องสำคัญนะคะ จะให้เมย์แต่งงานกับผู้ชาย...ชื่ออะไรนะคะ?....ทศภาค เมย์ไม่เคยรู้จักกับเขามาก่อน หน้าก็ไม่เคยเห็น จู่ ๆ คุณพ่อจะให้หนูแต่งงานกับเขา ถึงเมย์จะเป็นนางแบบ ใช้ชีวิตสมัยใหม่ แต่เมย์ถือความรักเป็นเรื่องใหญ่ ไม่เคยทำตัวง่ายเรื่องผู้ชายนะคะพ่อ”
“เมย์ฟังเหตุผลของคุณพ่อก่อนสิลูก”
ปานระวีมารดาของเธอรีบเข้ามาไกล่เกลี่ยเมื่อเห็นว่าเมลิดาเริ่มฉุนเรื่องการแต่งงาน
“คุณพ่อก็มีเหตุผล อยากให้ลูกมีคนคอยดูแล แม่ว่า....มันก็ไม่ได้เลวร้ายหรอกนะ คุณทศภาคเป็นถึงเจ้าของบริษัททำเหมืองทองคำ ไร่ภควัตณ์ก็ใหญ่โตมาก เขายินดีที่จะ....เอ้อ...รับเมย์เป็นเจ้าสาว”
“ไม่ค่ะแม่!....คุณทศภาคอะไรของแม่นั่นน่ะเป็นประเภทเสี่ยหื่นกามหรือเปล่า อาจจะเห็นว่าเมย์เป็นนางแบบเลยอยากดัง พวกเศรษฐีเดี๋ยวนี้เขาชอบดารา แต่เมย์ไม่เอาด้วยนะคะ ยังไงเมย์ก็ไม่แต่ง เมย์เกลียดคนพวกนี้ที่สุด มีเงินก็ชอบใช้เงินซื้อผู้หญิง เมย์รับไม่ได้ค่ะ”
“แต่แกต้องแต่งงานกับเขา ยัยเมย์!”
บิดาของเธอลั่นเสียงใส่ทำให้เมลิดาถึงกับสติขาดกระเด็น เธอร้องไห้ออกมาและขึ้นเสียงตอบอย่างไม่ลดละ
“เมย์ไม่แต่งค่ะพ่อ!...อย่ามาบังคับเมย์!”
“แกคิดว่าชีวิตแกเหมือนเมื่อก่อนรึไง ถ้าฉันพูดออกไปแกอาจไม่เชื่อ ครอบครัวเรากำลังติดลบ ทุกอย่างที่มีกำลังจะกลายเป็นศูนย์ แกมันดื้อนัก แค่รับปากว่าจะแต่งงานกับผู้ชายคนหนึ่งแกคงไม่ถึงกับต้องตาย แกก็ดีแต่ใช้ชีวิตหรูหราฟู่ฟ่า ไม่เคยรู้ว่าตอนนี้ครอบครัวเราเป็นยังไง ถึงยังไงแกก็ต้องแต่งงานกับคุณทศภาค เพราะเขาเตรียมงานทุกอย่างไว้หมดแล้ว!”
เมลิดาไม่รู้ว่าป่านนี้บิดาของเธอจะเป็นเช่นไรบ้างหลังจากยื่นคำขาดและเธอก็ตัดสินใจให้ตัวเองอย่างเด็ดขาดเช่นเดียวกันว่าเธอจะไม่เข้าพิธีวิวาห์กับผู้ชายคนนั้น คนที่เธอไม่เคยรู้จัก และไม่อยากรู้จักไปตลอดชีวิต
“อุ๊ย!”
ความคิดของหญิงสาวต้องสะดุดลงเมื่อไหล่บางไปกระแทกกับร่างหนาของใครคนหนึ่งที่เดินสวนมาจนกระเป๋าในมือหล่นลงบนพื้น
“ขอโทษครับ....ผมเดินไม่ดูเอง”
เสียงทุ้มหนักทำให้เมลิดามองลอดผ่านแว่นกันแดดอันโตเพื่อดูหน้าเจ้าของเสียงชัด ๆ เขาเป็นชายร่างสูง ใบหน้าคมคาย นัยน์ตาเข้ม หนวดเคราบาง ๆ ขับเน้นความหล่อเหลาแม้ยู่ภายใต้เสื้อเชิ้ตแขนยาวและกางเกงยีนส์สีซีด รอยยิ้มจาง ๆ ระบายบนเรียวปากหนาได้รูปและเรือนผมดำขลับยาวระต้นคอขับเสน่ห์ของความเป็นบุรุษจนเธอสงสัยว่าใยลึก ๆ จึงรู้สึกร้อนขึ้นมาอย่างประหลาด ชายหนุ่มก้มลงหยิบกระเป๋าให้เธอก่อนจะพูดขึ้น
“ไม่ทราบว่าคุณมาจากไหนหรือครับ....พลัดหลงกับคณะทัวร์หรือเปล่า?”
“มาเรียสจะไม่เป็นอะไร เขาจะไม่บาดเจ็บอาการสาหัสและต้องตายถ้าคนที่ขับรถพาเขาไปคืนนั้น ไม่ใช่คุณ!” เบน คริสเตียนเซน จะไม่ยอมสูญเสียน้องชายฝาแฝดของเขาไปโดยไม่ได้ลากตัวคนผิดมาลงโทษ เขาล่อหลอก พลอยพิชญา มายังสกรูวา แห่งหมู่เกาะโลโฟเตนเพื่อจองจำเธอไว้กับอเวจีชั่วนิรันดร์ในสวรรค์ของชาวไวกิ้ง เขาคือมัจจุราชที่จะลากเธอลงสู่ห้วงลึกที่สุดของมหาสมุทรแห่งความสิ้นหวัง ทว่าเธอกลับยินดีชดใช้ความผิดแม้แลกด้วยวิญญาณที่ถูกร้อยรัดจากความชิงชัง หากแต่พิศวาสเถื่อนนั้นคือการลงทัณฑ์หรือเสน่หาที่พันธนาการตัวเขาไว้จนดิ้นไม่หลุด
ความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนกับผู้ชายแปลกหน้า อาจผ่านพ้นไปจากชีวิตของมีนา ถ้าหากว่า เขา ไม่ใช่เจ้านายคนใหม่ของเธอ และไม่ใช่พี่ชายของแฟนเก่าที่เคยตัดความสัมพันธ์ ต้นเหตุของความอัปยศในคืนนั้นที่เธอกินเหล้าจนเมามายแทบไม่ได้สติ "“มีน่า...ผมไม่รู้เลยว่าคุณเป็นใคร บ้านของคุณอยู่ที่ไหน แต่...โอ...พระเจ้า...คุณกำลังทำให้ผมคลั่ง”"
เพราะไม่ได้ตั้งใจได้เธอเป็นเมีย เขาจึงยื่นคำขาดว่าจะทำหน้าที่สามีแค่ปีเดียว แต่เขาเองกลับต้องทบทวนสัญญาใหม่ เพราะดันมีโซ่ทองคล้องใจที่เขาไม่อาจปล่อยเธอได้ในท้ายที่สุด ไตรทศ – หทัยภัทร ไตรทศ พ่อเลี้ยงหนุ่มหล่อแต่ดุดัน กินเหล้าเมาและเข้าห้องผิดในคืนนั้น ทำให้เขาต้องรับผิดชอบ หทัยภัทร ตามความต้องการของพ่อแม่ฝ่ายหญิง ทั้งที่เขารักกับ รติมา ลูกพี่ลูกน้องของหล่อนมาก่อน เขาจำใจรับเธอเป็นเมียถูกต้องตามกฎหมาย แต่ตลอดเวลากลับแสดงออกและย่ำยีให้เธอเจ็บช้ำเจียนตาย หทัยภัทรต้องทนอยู่กับความเกลียดชังจากสามีที่ไม่เคยรัก หากแต่เธอยอมจำทนมีชีวิตอยู่เพื่อเยื่อใยสุดท้าย ลูก ข้อโซ่บอบบางที่เธอจะไม่มีวันทำลายอย่างเด็ดขาด
ชีวิตคู่จะเป็นยังไง ถ้าสามีอยู่อย่างไร้หัวใจและพร้อมจะเลือกคนอื่น ดวงฤทัย – ปรัชญ์ ปรัชญ์ นายแพทย์ด้านศัลยกรรมมือหนึ่งที่อายุยังไม่ถึงสามสิบต้องอดทนกับชีวิตแต่งงานตามความต้องการของคุณย่าที่อยากให้เขามีลูกกับ ดวงฤทัย เด็กนอกตระกูลที่คุณย่าของเขารับมาเลี้ยง เขาเย็นชาและดีกับทุกคนยกเว้นเมียตัวเอง กระทั่งปรัชญ์ได้รู้จักกับ พิสินี ผู้หญิงที่ทำให้เขาเริ่มเอนเอียงและเกิดความรู้สึกไม่อยากกลับบ้าน ดวงฤทัยคงไม่เจ็บปวดไปมากกว่านี้หากผู้หญิงคนนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่คนไข้ที่เขาต้องคอยดูแลเอาใจ แต่ยังเป็นเพื่อนสนิทของดวงฤทัยที่กลับกลายเป็นมือที่สาม แม้ครอบครัวต้องพังทลายแต่เธอจะไม่ยอมยอมสูญเสียหัวใจดวงน้อย ตัวแทนความรักสุดท้ายที่ ดวงฤทัยพาหลีกหนีไปให้ไกลจากวิมานไร้ใจของเธอ
อดีตอันเจ็บปวดและผิดหวังเปลี่ยนอดีตนักมวยอย่าง โคเลสนิก รอชนีเชนโก ซึ่งผันตัวเองมาเป็นโปรโมเตอร์มวยอันดับหนึ่งของอเมริกากลายเป็นคนหยิ่งทะนงและเลือดเย็น เขารอคอยเวลาที่จะแก้แค้นเอาคืนกระทั่งวันหนึ่งที่ลูกสาวของคนที่เคยทำให้ชีวิตของพังพินาศก้าวเข้ามา...แทมมี่ หรือ ทิพชยา ไนต์ ไม่เคยรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อสองปีที่แล้วกับคนที่เธอเคยแอบรัก สุดท้ายเธอเองต้องกลายเป็นเบี้ยเดินเกมบนกระดานแห่งความพยาบาทอย่างไม่อาจเลี่ยง
เธอต้องกลายเป็นเมียที่ถูกกักขังโดยไม่ได้ตั้งใจ มุกดา – หัสดินทร์ มุกดาถูกขอร้องให้นำเงินหนึ่งล้านบาทมาใช้หนี้แทน นที ลูกชายเจ้าสัวผู้มีพระคุณ แต่กลับถูกพ่อเลี้ยงหัสดินทร์ยืนข้อเสนอให้เธอเป็นเมียเก็บแลกกับการไว้ชีวิตนที ที่ทำให้น้องสาวของเขาท้องและแท้งลูกเสียชีวิต เธอจำต้องรับข้อต่อรองเพื่อทดแทนบุญคุณผู้มีพระคุณโดยที่หัสดินทร์ไม่รู้เลยว่าเขากำลังทำผิดอย่างมหันต์ ทั้งกลั่นแกล้ง ข่มเหงน้ำใจและทำให้เธอเจ็บช้ำ ด้วยการบีบบังคับให้เธอท้องกับเขา หัสดินทร์หวังจะเอาคืนด้วยการเก็บลูกเอาไว้แล้วเฉดหัวมุกดากลับไปแต่สุดท้ายเขาต่างหากที่ไม่อาจอยู่ได้โดยปราศจากเธอและลูก
รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”
หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง
"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด "ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้" ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ
ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก
© 2018-now MeghaBook
บนสุด