ไคด้า ดาริน ลูกสาวพราวเสน่ห์อดีตเจ้าพ่อมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ มีปมชีวิตกับการสูญเสียคนที่รักไปทั้งครอบครัว จากฝีมือคู่อริของพ่อ การแก้แค้นจึงเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้เธอได้ทุกสิ่งคืนมา แล้วเธอจะมีวิธีอะไรที่ทำให้ทุกอย่างกลับมาเป็นของเธออีกครั้ง
ไคด้า ดาริน ลูกสาวพราวเสน่ห์อดีตเจ้าพ่อมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ มีปมชีวิตกับการสูญเสียคนที่รักไปทั้งครอบครัว จากฝีมือคู่อริของพ่อ การแก้แค้นจึงเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้เธอได้ทุกสิ่งคืนมา แล้วเธอจะมีวิธีอะไรที่ทำให้ทุกอย่างกลับมาเป็นของเธออีกครั้ง
เป็นเวลาเกือบสิบปีเต็มที่ฉันต้องนั่งกินข้าวคนเดียวในห้องอาหารที่แสนจะใหญ่โต เก้าอี้ถูกจัดวางเรียงเป็นแถวสองด้านของโต๊ะรับประทานอาหาร ยิ่งฉันได้เห็นทำให้ฉันรู้สึกหดหู่ใจมากขึ้นที่เคยนั่งกินข้าวพร้อมหน้ากัน พ่อ แม่ ลูก
ฉัน ‘ไคด้า’ เป็นลูกสาวคนเล็กของบ้าน เป็นสาวน้อยสามสัญชาติด้วยกันคือ ไทย จีนและอังกฤษ ฉันมีพี่ชายอีกสองคนคือ พี่เดรโกและพี่เดร็ค ซึ่งชื่อของเราสามพี่น้องจะมีความหมายว่า ‘มังกร’ ทุกคนตามที่คุณพ่อกับคุณแม่ต้องการแต่ทุกคนที่เคยอยู่ร่วมกันพร้อมหน้า พวกเขาได้จากฉันไปอย่างไม่มีวันหวนกลับแล้วค่ะ จากวันงานฉลองตำแหน่งใหม่ของคุณพ่อ
คุณพ่อท่านเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปในแวดวงนักธุรกิจและกลุ่มแก๊งต่างๆ ของทางเมืองจีนที่ย้ายรกรากแบ่งสาขามาตั้งถิ่นฐานที่เมืองไทย รวมถึงของเมืองไทยด้วยเช่นกัน ด้วยฐานะ อำนาจบารมีที่คุณพ่อมีด้วยลักษณะนิสัยของท่านที่เป็นคนใจเด็ด มีเมตตาปราณี ทำให้ทุกคนเคารพรักนับถือท่านมาก ไม่นานนับจากนั้นท่านก็ได้รับการแต่งตั้งให้คุณพ่อของฉันเป็นหัวหน้าใหญ่ของกลุ่มแก๊งต่างๆ ของประเทศ เมื่อทุกคนได้ยินชื่อของท่านต่างเรียกขานเป็นเสียงเดียวกันว่า 'เจ้าพ่อมาเฟีย'
ก็อย่างว่าอีกนั่นแหละค่ะคนทุกคนเมื่อมีคนรักก็ย่อมมีคนเกลียดเป็นธรรมดา จึงเป็นเหตุให้คุณพ่อมีศัตรูอย่างไม่ตั้งใจ โดยที่ศัตรูคนนั้น ณ ตอนนี้มันกำลังดำรงตำแหน่งเจ้าพ่อมาเฟียแทนคุณพ่อของฉันไปเมื่อสิบปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน นับจากวันที่มันได้ตำแหน่งไปก็ไม่เคยมีใครได้ครองตำแหน่งนั้นอีกเลยนอกเสียจากคนในตระกูลของมัน
ยิ่งฉันหวนคิดถึงอดีตที่เลวร้ายในวันนั้นมากเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งรู้สึกเสียใจและแค้นใจมากเท่านั้น แต่ฉันไม่อาจทำอะไรได้ในตอนนี้ ความรู้สึกทั้งหมดยังถูกซ่อนไว้ภายใต้หัวใจที่เจ็บปวดมาโดยตลอด สิ่งที่เดียวที่ฉันพอจะทำได้คือรอวันที่จะได้ปลดปล่อยความแค้นกับคนที่มันมาทำร้ายครอบครัวของฉันไม่วันใด ก็วันหนึ่ง
เมื่อสิบปีก่อน วันนั้นเป็นวันที่ฉันมีความสุขที่สุดในชีวิตช่วงวัยเด็ก ตอนนั้นฉันมีอายุเพียง 9 ขวบ นับว่ายังไม่รู้เดียงสาอะไรมากนัก ฉันได้เห็นรอยยิ้มของคุณพ่อ ได้ยินเสียงหัวเราะของท่านที่ร่วมพูดคุยสนุกสนานเฮฮากับเพื่อนๆ ในวัยเดียวกัน ทุกคนดูมีความสุขมาก โดยมีคุณพ่อคุณแม่และพี่ชายทั้งสองคนนั่งอยู่โต๊ะเดียวกันกับฉัน ทุกคนต่างช่วยกันตักอาหารมาใส่จานข้าวของฉันเต็มไปหมด ทั้งยังขยันขยอให้ฉันทานให้หมดอีกต่างหาก เราทั้งห้าคนล้วนมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
อาหารการกินถูกจัดขึ้นแบบบุฟเฟ่ต์ภายในห้องบอลลูมสุดหรูของโรงแรมแห่งหนึ่งใจกลางกรุง แขกเหรื่อมากมายมาร่วมแสดงความยินดีกับคุณพ่อ ความสุขสนุกสนานบวกกับเสียงหัวเราะชอบใจดังร่วนขึ้นเป็นระยะๆ โดยไม่มีใครคาดคิดเลยว่าวันแห่งความสุขของคุณพ่อจะกลายเป็นวันที่ฉันต้องสูญเสียคนในครอบครัวไป
ภาพเหตุการณ์ตอนนั้นยังติดอยู่ในความทรงจำของฉันเสมอมา ไม่มีค่ำคืนใดที่ฉันจะไม่นอนผวาหรือไม่นอนฝันร้าย เรื่องเลวร้ายมันเกิดขึ้นกะทันหันตอนที่คุณพ่อขึ้นไปบนเวทีเพื่อเตรียมดื่มไวน์ฉลองรับตำแหน่งสำคัญกับคุณแม่พร้อมกับพี่ชายอีกสองคนและยังมีหัวหน้ากลุ่มแก๊งต่างๆ อีกหลายคนที่อยู่บนเวทีนั้นด้วย หากวันนั้นคุณพ่ออนุญาตให้ฉันขึ้นไปบนเวทีด้วยได้ คงไม่มีฉันมานั่งเล่าเรื่องราวอยู่ตอนนี้ เหมือนฟ้าแกล้งให้ฉันต้องมารับรู้เรื่อราวความสูญเสียตั้งแต่ยังเด็ก มันช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย
หลังจากที่คุณพ่อรับตำแหน่งเสร็จ ซึ่งจะมีพิธีชนแก้วดื่มไวน์เพื่อแสดงความยินดีส่งท้าย...
"เอ้าชน! ไชโยๆๆ..." ทันทีที่คุณพ่อยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มแล้วเตรียมจะนั่งบนเก้าอี้ตำแหน่งอันสูงเกียรติซึ่งมีคุณแม่ยืนอยู่ทางด้านหลังและพี่ๆ ยืนประกบสองข้างของท่าน จังหวะนั้นก็เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นสนั่นหวั่นไหวตรงบริเวณเวทีด้านหน้าฉัน
ตู้มม!
มันเกิดขึ้นเร็วมาก ทุกคนในงานแตกตื่นวิ่งหนีตายกันอลหม่าน ฉันลุกขึ้นจากเก้าอี้รับประทานอาหารอย่างรวดเร็ว ฉันตะลึงกับภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อสายตาของตัวเอง คนบนเวทีเกือบทั้งหมดนอนตายอย่างอนาถ ที่รอดชีวิตก็ส่งเสียงร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด ฉันมีอาการมือชา ยืนตัวสั่น น้ำตาไหลนองหน้าอัตโนมัติ เมื่อพอได้สติขึ้นมาบ้างฉันก็ไม่รอช้ารีบวิ่งเข้าไปหาคนที่ฉันรักที่เวทีทันที แต่กลับถูกบอดี้การ์ดกันเอาไว้เสียก่อนเพื่อความปลอดภัย ฉันทั้งร้องทั้งตะโกนสั่งให้บอดี้การ์ดปล่อยตัวฉันเพื่อจะไปยังเวที บัดนี้แม้แต่เวทีเองก็ไม่เหลือสภาพเค้าโครงเดิม แล้วคนบนนั้นจะเป็นอย่างไร…
ทันทีที่บอดี้การ์ดปล่อยตัว ฉันจึงรีบวิ่งเข้าไปหาคนที่ฉันรักแต่มันสายไปเสียแล้ว ทุกคนจากฉันไปหมด ฉันยืนหมดแรง ขาอ่อน ล้มทั้งยืนพลางร่ำไห้อย่างไม่อายใครตามประสาเด็ก แม้กระทั่งหัวหน้ากลุ่มแก๊งต่างๆ บางคนก็ตายเหมือนกัน จากเสียงระเบิดเพียงครั้งเดียวกลับสร้างความเสียใจให้กับทุกคนเป็นอย่างมาก เสียงร่ำไห้แก่ผู้ที่จากไปดังระงมห้องบอลลูมที่จัดงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมหน่วยกู้ชีพต่างกรูเข้าตรวจสอบพื้นที่นับร้อยชีวิต
ทันทีที่ฉันมีสติครบถ้วนสายเลือดมังกรในตัวฉันก็แสดงปาฏิหาริย์ความเป็นผู้นำออกมาอย่างไม่น่าเชื่อ ฉันลุกขึ้นยืนตระหง่านท่ามกลางการแวดล้อมของลูกน้องและบอดีการ์ดกว่าร้อยชีวิต ก่อนจะตะเบ็งเสียงออกคำสั่งให้ลูกน้องของคุณพ่อรวมถึงบอดี้การ์ดทั้งหมดในบริเวณนั้นให้ช่วยกันตามล่ามือวางระเบิดกับคนบงการให้ได้ตัวมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ส่วนทางเจ้าหน้าที่กฎหมายก็ทำหน้าที่ของพวกเขาไป
แต่ผ่านไปหลายปีก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้าหรือจะพูดสั้นๆ คือยังจับตัวคนร้ายมาลงโทษไม่ได้สักที ซึ่งมันคนนั้นที่เป็นผู้บงการเรื่องเลวร้ายทั้งหมดก็เป็นผู้มีอิทธิพลไม่ต่างจากคุณพ่อ ทั้งยังมีนายใหญ่คอยคุ้มครองมันอยู่ กฎหมายบ้านเมืองเลยทำอะไรมันไม่ได้ สักวันฉันจะแก้แค้นมันด้วยตัวของฉันเอง ฉันจะทำให้มันได้รับความเจ็บปวดเหมือนอย่างที่ฉันเจออยู่ในตอนนี้
ทุกๆ ปีฉันจะไปไหว้ดวงวิญญาณของคนที่ฉันรัก ในวันที่พวกเขาจากไปด้วยตัวฉันเอง วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ฉันได้มาเยี่ยมทุกคนที่จากไปเพื่อเซ่นไหว้ดวงวิญญาณพวกเขาหลังจากที่ทานอาหารเช้าเสร็จ ฉันจึงสั่งให้ทุกคนในบ้านจัดเตรียมข้าวของ อาหารหวานคาวทุกอย่างให้พร้อมและต้องเป็นของกินที่พวกเขาชอบทาน
ชีวิตที่พลิกผันเปลี่ยนเด็กหนุ่มกำพร้าให้มีเจ้าพ่อมาเฟียรับเขาไปอุปการะเลี้ยงดูราวกับน้องชายร่วมสายเลือด ความสัมพันธ์ของทั้งสองแปรเปลี่ยนเป็นคนรักในเวลาต่อมา จึงตัดสินใจที่จะมีลูกน้อยด้วยกัน แต่ใครจะรู้ว่าคนที่เด็กน้อยรักและเทิดทูนที่สุดในชีวิตจะกลายเป็นคนที่ทำลายชีวิตเขาให้พังพินาศที่สุดด้วยเช่นกัน การตัดสินใจที่จะหนีออกมาจากคฤหาสน์สุดหรู เพราะเขาไม่สามารถทนกับความรุนแรงและความเจ้าชู้ได้ ในที่สุดเด็กหนุ่มกลับได้พบรักกับนายแบบนู้ดชื่อดังอย่างไม่ตั้งใจ… เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร ชีวิตของเขาจะพลิกผันอีกหรือไม่ไปติดตามพร้อมๆกันค่ะ
ดาราชื่อดังอย่างทิชาพบรักกับจันทร์ จันทร์หอมที่เป็นพ่อค้าขายผักในตลาด คนทั้งสองต้องร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ โดยมีแม่ของทิชาเป็นต้นเหตุที่คอยกีดกันความรักของเขาทั้งสองคนตลอดเวลา จนกระทั่งแม่ทิชานำตัวเองเป็นข้อต่อรองเพื่อที่จะให้ทิชาได้แต่งงานกับหลานชายของตน ซึ่งเป็นการกีดกันไม่ให้ทิชาได้สมหวังในความรักกับคนธรรมดาอย่างจันทร์ ความรักของคนทั้งสองจะเป็นอย่างไรและไปในทิศทางไหน มาติดตามกับความรักของคนทั้งคู่ไปพร้อมๆ กันค่ะ
'วายุ' หรือ 'วา' นายแบบหนุ่มหน้าหวาน ผู้มีรูปร่างสวยสง่า ปานอิสตรีผู้เลอโฉม มีชีวิตเฉิดฉายบนเส้นทางสายบันเทิงและแคทวอล์ค... เขา 'ณธีร์' หรือ 'ธีร์' ข้าราชการหนุ่มผู้มีอนาคตไกล ที่เปี่ยมไปด้วยความสุขุม นายแบบเนื้อหอมอย่างวา กำลังตามหาชายหนุ่มอย่างเขามาแสนนาน ….หนุ่มหน้าหวานที่ร้อนรุ่มดังสายลมร้อนเฉกเช่นวายุไฟอันระอุ แรงปรารถนาของเขาจะเป็นจริงหรือไม่... ติดตามได้แล้วที่นี่ค่ะ!!
องค์รัชทายาทตกอับถูกท่านน้าขับไล่ออกจากพระราชวังเพื่อหวังตั้งตนเป็นใหญ่ กระทั่งรัชทายาทหนุ่มต้องเร่ร่อนมาเป็นพ่อบ้านของมหาเศรษฐีคนหนึ่ง แต่แล้วเขาก็ถูกกลั่นแกล้งจนต้องลาออกจากงานที่นั่นไปทำงานเป็นพ่อบ้านที่บ้านของคุณชายทายาทของตระกูลใหญ่และเกิดเรื่องวุ่นวายมากมาย ในที่สุดท่านน้าเกิดสิ้นพระชนม์จึงมีคำสั่งให้องค์รัชทายาทกลับไปดำรงตำแหน่งรัชทายาทผู้ครองพระราชวังตามพินัยกรรมของพระมารดาโดยทันที LIPPO
รักคือการให้ยังได้ยินอยู่ทุกยุคสมัยและเป็นคติประจ าใจของ ‘เมฆ’ เสมอมา ตั ้งแต่ได้มาพบกับ ‘ก๊อป’ เด็กหนุ่มผู้มีรูปร่างหน้าตาคล้ายคลึง กับน้องชายผู้จากไป ท าให้เขาอดคิดถึงอีกคนเสียไม่ได้ เมฆจะมีวิธี อย่างไรเมื่อฟ้าลิขิตให้ก๊อปเดินเข้ามาในวันที่เขาสูญเสียน้องชายไปตลอด กาล... ความสัมพันธ์แบบพี่น้องที่เขาวาดไว้กลับแปรเปลี่ยนกลายเป็น ความเกลียดชังแก่อีกฝ่ายเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ..." LIPPO
ทุกคนต่างรู้ดีว่าเจียงว่านหนิงรักเย่เชินมานานหลายปี เธอที่มักจะว่านอนสอนง่ายและน่ารักเสมอ ได้สักลายเพื่อเขาและยอมทนอยู่ใต้อำนาจผู้อื่น เมื่อเธอถูกทุกคนใส่ร้ายจนโดนตำหนิ เขากลับนิ่งเฉยและยังถึงขั้นให้เธอคุกเข่าให้แฟนเก่าของเขาอีกด้วย เธอที่รู้สึกอับอาย ในที่สุดก็หมดหวัง หลังจากยกเลิกการหมั้น เธอก็หันไปแต่งงานกับทายาทพันล้านทันที คืนนั้นเอง ใบทะเบียนสมรสของทั้งคู่ก็กลายเป็นข่าวฮิตบนโลกออนไลน์ เย่เชินที่เคยคิดว่าตัวเองเก่งกาจที่สุดก็เริ่มวิตกและพูดออกมาด้วยความโกรธว่า "อย่าเพ้อฝันไปเลย นายคิดว่าเธอรักนายจริงๆ งั้นเหรอ เธอแค่ต้องการใช้พลังอำนาจของตระกูลฟู่เพื่อแก้แค้นฉันเท่านั้นเอง" ฟู่จิงเซินจูบหญิงสาวในอ้อมกอดและตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจว่า "แล้วจะเป็นไรไปล่ะ ก็พอดีว่าฉันมีทั้งเงินและอำนาจนี่"
ซ่งจิ่งถังรักฮั่วอวิ๋นเซินอย่างลึกซึ้งนานถึงสิบห้าปี แต่ในวันที่เธอคลอดลูกกลับตกอยู่ในอาการโคม่า ขณะที่ฮั่วอวิ๋นเซินกระซิบข้างหูเธออย่างอ่อนโยนว่า "ถังถัง อย่าฟื้นขึ้นมาอีกเลย สำหรับฉัน เธอไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว" ซ่งจิ่งถังเคยคิดว่าสามีของเธอเป็นคนอ่อนโยนและรักใคร่ตัวเอง แต่จริงๆ แล้วเขามีแต่ความเกลียดชังและใช้ประโยชน์จากเธอเท่านั้น และลูกๆ ที่เธอเสี่ยงชีวิตให้กำเนิด กลับเรียกหญิงสาวคนอื่นว่า 'แม่' ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนต่อหน้าที่เตียงคนไข้ของเธอ เมื่อซ่งจิ่งถังฟื้นขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอทำคือการตัดสินใจหย่าขาดอย่างเด็ดขาด! แต่หลังจากหย่าแล้ว ฮั่วอวิ๋นเซินจึงเริ่มตระหนักว่า ชีวิตที่ผ่านมาของเขาเต็มไปด้วยเงาของซ่งจิ่งถัง หญิงคนนี้กลายเป็นความเคยชินของเขา เมื่อพบกันอีกครั้ง ซ่งจิ่งถังปรากฏตัวในที่ประชุมในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เธอเปล่งประกายจนทุกคนต้องหันมามอง หญิงคนนี้ที่เคยมีแต่เขาในใจ บัดนี้กลับไม่แม้แต่จะมองเขาอีก ฮั่วอวิ๋นเซินคิดว่าเธอแค่ยังโกรธอยู่ ถ้าเขาเอ่ยปากพูดนิดหน่อย ซ่งจิ่งถังจะต้องกลับไปหาเขาแน่นอน เพราะเธอรักเขาหมดหัวใจ แต่ต่อมา ในงานหมั้นของผู้นำคนใหม่ของตระกูลเพ่ย เขาเห็นซ่งจิ่งถังสวมชุดแต่งงานหรูหรา ยิ้มอย่างเปี่ยมสุขและกอดแน่นเพ่ยตู้พร้อมสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ ฮั่วอวิ๋นเซินอิจฉาจนแทบคลั่ง เขาตาแดงก่ำและบีบแก้วจนแตก เลือดไหลไม่หยุด...
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน
เมื่อผู้หญิงที่เพื่อนๆ ตั้งสมญานามว่าแม่ชีอย่างเธอจับพลัดจับผลูต้องมาเจอกับผู้ชายหน้านิ่งที่เอะอะกอด เอะอะจูบอย่างเขา อา…แล้วพ่อคุณก็ดันเป็นโรคนอนไม่หลับ จะต้องนอนกอดเธอเท่านั้นด้วย แบบนี้เธอจะเอาตัวรอดได้ยังไงล่ะ “ชอบอาหารเหนือไหม” “ชอบมากเลยคุณ ให้กินทุกวันยังได้เลย” “มากพอจะอยู่ที่นี่ไหม” “แค่กๆๆ” …………… …………………………………………………………………………………………………………………………. “คุณ! เอากระบอกไฟฉายออกไปวางที่อื่นก่อนได้ไหม มันดันหลังฉัน ฉันนอนไม่หลับ” คนที่ใกล้จะหลับบอกเสียงอู้อี้ “เอ้อ! ไม่มีนี่” เขาบอกเสียงอึกอัก “มันจะไม่มีได้ไง ก็มันดันหลังฉันอยู่เนี่ย” เธอมั่นใจว่ามีแน่ๆ ก็หลักฐานมันทนโท่ขนาดนี้ “อืม! นอนเถอะ ไม่มีหรอก” “จะไม่มีได้ไง ก็นี่ไง” คุณเธอยืนยันด้วยการคว้าหมับเข้าให้ พร้อมหันกลับมา หวังงัดหลักฐานที่อยู่ในมือมาพิสูจน์ให้ได้เห็นกันจะๆ คาตา แต่… ตึก ตึก ตึก อา…! ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่คาตา แต่ยังคามือเธอด้วย เธออ้าปากตาค้างราวกับกำลังตกตะลึงสุดขีด ก่อนจะก้มมองไอ้ที่คิดว่าเป็นกระบอกไฟฉายในมือสลับกับเงยหน้ามองเขา จากนั้นก็… “กรี๊ด…!” เธอร้องลั่นพร้อมกับยื่นเท้าถีบออกไปสุดแรง ตุบ! คนไม่ทันตั้งตัวร่วงตุ้บลงไปบนพื้น ครั้นพอจะลุกขึ้น คุณเธอก็ตะโกนเสียงดังลั่นขึ้นมาอีก “หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะไอ้คนลามก คนเลว คุณมันทุเรศที่สุด คุณให้ฉันจับไอ้นั่นของคุณ มัน…อี๋…! เธอพูดพลางทำท่าขยะแขยง แล้วมาส่องกระบอกไฟฉายพ่อเลี้ยงพร้อมกันนะคะ
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY