หยุนซีโอบกอดลูกสาวเพียงคนเดียวของตนหลังจากจบงานเลี้ยงฉลองความยิ่งใหญ่ของบริษัท ทางครอบครัวของจางหย่งก็มาร่วมงานนี้ด้วย แต่ไม่คาดคิดว่าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตระกูลจางจะลักลอบเข้าห้องซูหนี่ว์ทำเรื่องเสื่อมเสียให้เธออับอาย
“จางหย่งคงไม่ได้ตั้งใจ จะให้เขามารับผิดชอบได้ยังไงคะ ในเมื่อเขามีลี่เซียนอยู่แล้วทั้งคน กับลูกคงทำไปเพราะแค่ความเมา” ซูหนี่ว์กล่าวเสียงเบาบางหากแต่แววตากลับเศร้าสร้อย
“ไม่รู้แหละ ถ้ารู้จักผิดชอบชั่วดีก็ต้องทำให้มันถูกต้อง แม่จะไม่ยอมให้ลูกแม่เสื่อมเสีย”
หยุนซีปกป้องลูกสาวสุดฤทธิ์แม้จะไม่เคยรู้เลยว่าคนที่ร้ายที่สุดคือลูกสาวของตัวเอง ภายใต้ใบหน้าหม่นหมองกลับมีรอยยิ้มบางๆ เผยออกมา เธอจะทำทุกอย่างเพื่อแย่งจางหย่งมาจากลี่เซียนให้ได้
“ลูกแม่อับอายขนาดนี้ แม่ไม่ยอม! จางหย่งต้องรับผิดชอบ!”
บนชั้นดาดฟ้าลี่เซียนที่ยืนร้องไห้อยู่กำลังทุกข์ใจกับสิ่งที่เธอเพิ่งได้ยินมา ผู้ชายที่แสนดีและสุภาพบุรุษเช่นจางหย่งบุกเข้าห้องซูหนี่ว์ กระทำการขืนใจเธอให้ได้รับความอับอายและเสื่อมเสียไปถึงตระกูล
“ลี่เซียน คุณฟังผมก่อนนะ ผมอธิบายได้เรื่องเมื่อคืน”
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้วจางหย่ง คุณเพิ่งคุกเข่าขอฉันแต่งงานแท้ๆ แต่คุณก็กลับมาทรยศฉันบุกเข้าห้องซูหนี่ว์ทำเรื่องที่ไม่น่าให้อภัย ฉันน่าจะเชื่อซูหนี่ว์ตั้งแต่แรก คุณมันผู้ชายมักมาก!”
“ไม่ ผมไม่ได้ทำ ทุกอย่างเป็นแผนของซูหนี่ว์ คุณต้องเชื่อผมนะ ผมไม่มีทางรักเธอได้ผมรักคุณ ลี่เซียน เชื่อผมเถอะนะ”
จางหย่งพยายามอธิบายแต่ลี่เซียนกำลังเสียใจนาทีนี้เธอไม่ฟังอะไรทั้งนั้น เพราะหลักฐานปลอมที่ซูหนี่ว์สร้างขึ้นมันอยู่ในมือของเธอแล้ว มือบางชูหลักฐานเท็จในมือโยนใส่หน้าของจางหย่ง
“ไม่เคยรัก แต่คุณไปไหนมาไหนกับซูหนี่ว์บ่อยกว่าฉันซะอีก และที่ที่คุณพาฉันไปล้วนแต่เคยพาซูหนี่ว์ไปมาก่อนแล้ว นี่น่ะเหรอ? ที่บอกว่าไม่ได้รัก”
“ผมบอกแล้วไงว่ามันเป็นแผนของซูหนี่ว์ เธอสร้างเรื่องราวเท็จทั้งหมดรวมถึงเรื่องเมื่อคืนด้วย ผมไม่เคยรักซูหนี่ว์และจะไม่มีวันรัก”
กริ๊งงงงงง
เสียงมือถือดังแทรกขึ้น จางหย่งจึงต้องรีบรับสายเพราะโทรมาติดกันถี่ยิบ ที่หน้าจอโชว์เบอร์แม่ผู้บังเกิดเกล้าจางหย่งจึงตัดสายไม่ได้
“ครับแม่”
“จางหย่งกลับบ้านมาเดี๋ยวนี้ แกต้องมาพูดคุยเรื่องหมั้นกับซูหนี่ว์”
“ไม่ครับแม่ ผมจะปรับความเข้าใจกับลี่เซียน ผมไม่ได้ทำอะไรซูหนี่ว์ผมจะไม่รับผิดชอบอะไรทั้งนั้น”
“นี่แกอยากให้แม่แกตายเหรอจางหย่ง กลับมาเดี๋ยวนี้! แกอย่าทำตัวเป็นลูกอกตัญญู ลี่เซียนมีอะไรเทียบซูหนี่ว์ไม่ได้เลยสักนิด เป็นแค่ลูกบ้านเล็กบ้านน้อยแกอย่าริอาจไปคว้าเอาพวกดินกรวดมาทำเมีย กลับมา! นี่คือคำสั่งของฉัน”
เสียงมารดาของจางหย่งดังมากพอที่ลี่เซียนจะได้ยินคำพูดพวกนั้นทั้งหมด ลี่เซียนเป็นลูกของอี้อินอดีตเพื่อนของซูเซียวที่เป็นพี่สาวของหยุนซีแม่ของซูหนี่ว์ ซูเซียวแต่งงานกับหวังเหล่ยได้ไม่นานเธอก็เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว และหลังจากนั้นอี้อินก็ปรากฏตัวพร้อมลูก เมื่อหยุนซีนำเรื่องมาประติดประต่อกันจึงได้รู้ว่าหวังเหล่ยแอบมีสัมพันธ์ลับๆ กับอี้อินจนมีลี่เซียนขึ้นมา
ซึ่งทุกคนต่างก็ตีความกันไปแล้วว่าอี้อินคือเมียน้อย แต่ความจริงอี้อินเป็นคนรักของหวังเหล่ยมาก่อนเพียงแต่ยังไม่ได้แต่งงานกัน เพราะเขาถูกทางต้นตระกูลบังคับให้แต่งงานกับซูเซียวแต่แต่งไปได้แค่ 3 ปี ทั้งสองก็หย่ากันและปีต่อมาซูเซียวก็เสียชีวิต นั่นจึงทำให้หยุนซีและซูหนี่ว์รังเกียจลี่เซียน เธอจึงสอนให้ซูหนี่ว์แย่งทุกอย่างของลี่เซียนมาเพื่อชดใช้ให้กับซูเซียวและซานซาน
“ลี่เซียน รอผมนะ”
ไม่มีการตอบกลับจากหญิงสาวนอกจากเสียงสะอื้นไห้ จางหย่งต้องตัดใจกลับไปที่บ้านเพื่อไปเคลียร์ทุกอย่างให้มันถูกต้องแต่แล้วเขาก็ทำไม่ได้ จางหย่งเองก็ถูกบังคับให้แต่งงานกับซูหนี่ว์ไม่ต่างจากพ่อของลี่เซียนเมื่อก่อนเลย ต่างกันก็แค่ซูเซียวเป็นผู้หญิงที่ใสซื่อ เธอรักหวังเหล่ยมากแต่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าสิ่งที่หวังเหล่ยทำเพราะกำลังรักษาบริษัทตัวเองไว้เท่านั้น ทุกอย่างเป็นแค่หน้าที่
“ผมไม่..”
“จางหย่ง นั่งลง” ประมุขของบ้านสั่งการลูกชาย
“เมื่อเรื่องมันเป็นมาแบบนี้แล้วทางตระกูลจางต้องขอโทษตระกูลซูจริงๆ ที่ทำเรื่องไร้มนุษยธรรมแบบนั้นกับหนูซูหนี่ว์ ทางเราจะไม่นิ่งนอนใจจะเร่งจัดเรื่องสู่ขอหนูซูหนี่ว์ทันทีครับ” จางซิงอีกล่าวขึ้นและพร้อมจะรับผิดชอบกับเรื่องนี้
“คุณซิงอีไม่ต้องเร่งรีบขนาดนั้นหรอกครับ ทางเราเข้าใจดี จางหย่งเองก็มีความเป็นลูกผู้ชายมากพอคงไม่นิ่งนอนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นหรอก แต่ซูหนี่ว์ของเรากำลังตกใจ ผมเลยอยากให้ลูกๆ ของเราทำความรู้จักกันไปก่อน ซึ่งจางหย่งก็ต้องหมั้นหมายซูหนี่ว์ไว้ก่อนเพื่อป้องกันการทรยศที่อาจจะเกิดขึ้น พูดก็พูดนะครับ ผมไม่อยากให้ซูหนี่ว์เป็นเหมือนป้าของเธอ”
“ได้ครับทางตระกูลจางรับปากว่าจะไม่มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นแน่นอน เราสัญญา”
“พ่อ!”
“เงียบ!”
ซิงอีสั่งห้ามลูกชาย จางหย่งได้แต่ถอนหายใจขบกรามแน่น ยอมรับต่อชะตากรรมของตนเอง ใบหน้าหล่อปรายสายตาคมมองไปยังคนต้นเรื่องที่เวลานี้เอาแต่ก้มหน้าเปล่งเสียงกระซิกออกมาเป็นระยะ การแสดงของคนตรงหน้าทำจางหย่งกำมือเข้าหากันแน่น
“แม่คะพ่อคะ ซูหนี่ว์ขอตัวก่อนนะคะ ต้องขอโทษทางคุณลุงและคุณป้าด้วยที่หนูเสียมารยาทแต่หนูไม่ไหวแล้วจริงๆ”
ซูหนี่ว์ทำทีขอตัวเสียมารยาทออกจากวงสนทนา หล่อนปาดน้ำตาเล็กน้อยก่อนจะรีบวิ่งขึ้นไปห้องนอนตนเองที่อยู่ชั้นบนสูงสุด จางหย่งได้แต่ผ่อนลมหายใจเข้าออกช้าๆ เพื่อระงับความโกรธ
“ซูหนี่ว์..”