/0/24578/coverbig.jpg?v=2728d570f26535a964679569a5dc0b18)
จากแค่ตอนแรกที่คิดว่าจะพาเมียไปนวดอีโรติก สุดท้ายกลายเป็นว่าเมียสาวโดนทั้งนวดและนาบ แถมดูจะติดใจรสรักแปลกใหม่เอาซะด้วย
จากแค่ตอนแรกที่คิดว่าจะพาเมียไปนวดอีโรติก สุดท้ายกลายเป็นว่าเมียสาวโดนทั้งนวดและนาบ แถมดูจะติดใจรสรักแปลกใหม่เอาซะด้วย
“หลายครั้งสิ่งที่ตั้งใจเอาไว้กับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงมันก็เหมือนหนังคนล่ะม้วน เหมือนเรื่องของผมกับเมีย ที่ตอนแรกตั้งใจเอาไว้ว่าจะแค่ให้หมอนวดมาช่วยกระตุ้นอารมณ์และเล้าโลมแค่ภายนอกเท่านั้น แต่สุดท้ายก็จบลงที่เมียผมโดนดุ้นเนื้อของหมอนวดชำแรกเข้าหาร่องเสียวจนครางไม่เป็นภาษา”
จั่วหัวมาแบบนี้ใครเข้ามาอ่านเรื่องของผมก็น่าจะพอเดาจุดเริ่มต้นและตอนจบของเรื่องนี้ได้ไม่ยากเพราะมันก็เหมือนกับเรื่องเสียวแนวสวิงที่เพื่อน ๆ ท่านอื่นอาจจะเคยผ่านหูผ่านตากันมาบ้าง แต่ยังไงผมก็อยากบันทึกมันเอาไว้เพื่อเป็นความทรงจำในกาลเวลาแล้วก็อยากแบ่งปันช่วงเวลาแห่งความตื่นเต้นของคู่เราให้กับทุกท่านได้มีส่วนร่วมไปกับเราสองคนด้วย
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนก็แล้วกันนะครับ ผมชื่อ “วี” อายุ 27 ปี ส่วนเมียผมชื่อ “ริน” อายุ 26 ปี เราสองคนคบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยโดยรินเป็นรุ่นน้องคณะผม ผมจีบรินตอนผมอยู่ปี 2 และรินเข้ามาเป็นเฟรชชี่ของคณะ ถึงแม้ว่ารินจะไม่ใช่สาวสวยประเภทที่ว่าออร่าเปล่งประกายระดับดาวคณะ แต่ก็มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่เข้าตาผมตั้งแต่วันแรกที่รินเข้ามาอยู่ในคณะ
ผมกับรินเรียนอยู่ในคณะเกี่ยวกับการโรงแรมและท่องเที่ยวในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งแถวภาคตะวันออก แต่ที่บังเอิญคือเรามาจากจังหวัดเดียวกันในแถบภาคอีสาน ผมก็เลยใช้เรื่องนี้แหละเป็นใบเบิกทางในการเข้าไปจีบสาวรุ่นน้องคนนี้ และด้วยความที่ผมเองก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไรควงไปไหนมาไหนไม่อายใครว่างั้นเถอะ ผมตามจีบรินอยู่ไม่ถึงสองอาทิตย์รินก็ตกลงที่จะคบกับผม แล้วอีกไม่กี่วันต่อมารินก็ตกเป็นของผม เรียกว่ารวบหัวรวบหางไว้ก่อนที่จะโดน มคปด.
แล้วผมก็ภูมิใจเป็นที่สุดเพราะผมเป็นผู้ชายคนแรกที่ได้ความสาวของริน ส่วนผมนั้นเคยมีแฟนมาแล้วประสบการณ์ก็พอมีบ้างแม้จะไม่ได้ช่ำชองในเกมกามมากนักแต่ก็พารินแตะขอบสวรรค์ได้โดยที่ไม้ล่มปากอ่าวซะก่อน ส่วนครั้งแรกของเราจะเป็นยังไงนั้นขอข้ามไปก็แล้วกันนะครับ เพราะประเด็นของเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่การได้เปิดซิงรินของผม
สำหรับใครที่มองว่าเราอายุแค่ 26-27 เองก็เข้าสู่วงการสวิงแล้วเหรอ ตรงนี้ผมมองว่าแต่ละคู่ก็มีเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป คู่ผมกับรินนั้นได้กันตั้งแต่อายุยังน้อยแถมด้วยฮอร์โมนวัยรุ่นที่มันพลุ่งพล่านทำให้อาทิตย์หนึ่งเราสองคนเอากันแทบจะทุกวันก็ว่าได้ แล้วผมเองก็ไม่เคยรู้สึกเบื่อรินเลยแม้แต่น้อย
นับวันรินยิ่งเร่าร้อนและเซ็กซี่ในความรู้สึกผม ไม่ว่าจะเป็นลีลาการใช้ปากลิ้นอมดุ้นเนื้อ การขึ้นบดและขย่ม การกลืนกินน้ำกามของผมแถมยังบอกว่าชอบมันอีกต่างหาก ยิ่งถ้าวันไหนเราสองคนไปดื่มกันมาด้วยแล้ววันนั้นกลับห้องมารินจะยิ่งออกอาการร่านร้อนถึงขั้นเป็นคนเริ่มก่อนแบบที่แฟนเก่าผมเทียบไม่ติดเลยล่ะ
และด้วยความที่ผมเป็นรุ่นพี่เลยทำให้เรียนจบก่อนริน 1 ปี แต่ก็เลือกที่จะทำงานอยู่ในพื้นที่ที่ไม่ไกลจากรินมากนัก เรียกว่าทั้งรัก ทั้งหวง ทั้งห่วง ขืนไปอยู่ไกล ๆ มีหวังอกแตกตาย
แต่เวลาแค่ปีเดียวมันก็ไม่ได้นานจนเกินไป ผมกับรินยังคงนัดเจอกันบ่อย ๆ แต่ละครั้งก็จัดเต็มกันจนหมดแรง แล้วในที่สุดรินก็เรียนจบที่สำคัญคือได้ตามมาเป็นรุ่นน้องในที่ทำงานผมอีกด้วย เพราะคนเก่าเพิ่งลาออกจังหวะเดียวกับที่รินกำลังยื่นใบสมัครงานไปตามโรงแรมต่าง ๆ
ตำแหน่งของผมตอนนั้นคือผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายจัดเลี้ยง ส่วนรินทำงาน Front คอยต้อนรับลูกค้า ถือเป็นความโชคดีของเราสองคนเพราะน้อยคู่ที่จะได้มีโอกาสแบบนี้ทั้งตอนเรียนและตอนทำงาน
ถึงทุกวันนี้เราสองคนยังคงทำงานที่เดิม เพราะเป็นโรงแรมใหญ่ สวัสดิการดี เงินเดือน โบนัส ทำให้เราอยู่ได้อย่างสบาย ๆ อ้อลืมบอกไปว่าพอรินเรียนจบได้ปีเดียวผมกับรินก็ตกลงแต่งงานกันแล้วอยู่กันกันแบบผัวเมียเต็มตัว
และอย่างที่เกริ่นเอาไว้ในตอนแรกครับว่าเราสองคนพาตัวเองเข้าสู่วงการสวิงตั้งแต่อายุ 26-27 แล้วที่มาที่ไปก็คล้าย ๆ กับรุ่นพี่หลายคู่ในวงการนั่นแหละครับ โดยผมเริ่มรู้ตัวว่าตัวเองมีรสนิยมสวิงกิ้งเมื่อได้อ่านเรื่องเสียวหรือดูคลิปแนวนี้แล้วจะมีอารมณ์มากกว่าเรื่องเสียวแบบอื่น ๆ
ปัญหาก็คือผมคิดอยู่นานมากว่าจะเริ่มต้นยังไงดี อันนี้ใครที่เคยชวนเมียสวิงครั้งแรกน่าจะพอเข้าใจอารมณ์ มันเหมือนเป็นเส้นบาง ๆ ที่เรายังไม่กล้าก้าวข้ามไป เพราะไม่รู้ว่าคำตอบที่ได้มันจะใช่แบบที่เราต้องการหรือป่าว ผมใช้เวลาทำใจอยู่เกือบปีเพราะถึงรินจะเป็นสาวเซ็กส์จัดแต่เรื่องแบบนี้มันค่อนข้างละเอียดอ่อน จนในที่สุดความอยากในใจก็อยู่เหนือเหตุผลและความกลัว ผมจึงเปิดอกคุยกับรินเมียผมในคืนวันหนึ่ง ส่วนคำตอบของเมียผมจะเป็นยังไงนั้นเดี๋ยว EP หน้าผมจะมาเล่าต่อนะครับ แต่ผมรู้ว่าเพื่อน ๆ ก็น่าจะพอเดากันได้ประเด็นคือใครกันนะที่จะเป็นผู้ชายคนที่ 2 ที่ได้สัมผัสเรือนร่างของริน เมียผมจะโดนสอดใส่ตั้งแต่ครั้งแรกหรือว่าครั้งต่อไปที่นัดเจอ เอาไว้มาต่อตอนหน้านะครับ....
“นาดา” หรือ “หมอดา” หมอสาวจบใหม่ไฟแรงดีกรีลูกเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ที่บุคลิกภายนอกดูเข้มขรึมจริงจัง แต่ลึก ๆ แล้วเธอกลับชอบเรื่องเสียว ๆ และเรื่องตื่นเต้นกระตุ้นราคะในแบบที่ใครก็นึกไม่ถึง มาติดตามเรื่องราวของเธอได้ใน “ลุ้นเสียว...กับหมอสาว”
“สวิงของต้นกับอ้อ” ถูกเขียนขึ้นในวันที่ 10 เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2555 โดยลงในเว็บไซต์ Sudswing ที่ปัจจุบันปิดตัวถาวรไปนานแล้ว แต่เชื่อว่ายังอยู่ในความทรงจำของใครหลาย ๆ คน ซึ่งหากนับเวลาแล้วก็ครบรอบ 13 ปี พอดี ณ วันที่กำลังเริ่มต้นลงฉบับพิเศษของนิยายเรื่องนี้ โดยมีการปรับปรุงเนื้อหาในแต่ละตอนให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น รวมถึงการรวมตอนพิเศษและตอนที่หายไปเอามาไว้ในเรื่องนี้ สำหรับไรต์แล้ว “สวิงของต้นกับอ้อ” คือลูกคนโตและลูกรักที่นำพาให้ไรต์ก้าวมาเป็นนักเขียนอย่างเต็มตัวในนิยายสายอีโรติกแนวสวิงกิ้ง NTR, Cuckold, 3P, นิยายแนวเมียสาวเหงารัก รวมถึงแนวที่สามีอยากเห็นภรรยาของตัวเองไปมีอะไรกับชายอื่น ยังไงขอฝากนิยาย “สวิงของต้นกับอ้อ” ฉบับครบรอบ 13 ปีนี้ เอาไว้ให้นักอ่านได้ติดตามกันด้วย ขอบคุณสำหรับทุกการสนับสนุนที่ทำให้ไรต์ยังคงเดินต่อไปได้บนถนนสายตัวอักษรนี้ครับ
“Sex Note บันทึกเสียวของเราสอง” กับเรื่องราวและประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นในชีวิตคู่ระหว่างผมกับแฟน ที่จะมาผลัดกันเล่าให้พวกคุณได้อ่านกัน
เราไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจากการเริ่มต้นออกเดินทางท่องเที่ยวและถ่ายคลิปลงโซเชียลจะนำไปสู่ประสบการณ์ซ่านเสียวในแทบทุกทริปที่ได้ไป ทุกอย่างมันเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่เราได้รู้จักกับพี่แทน หนุ่มมาดเซอร์นักผจญภัยที่ภายหลังกลายมาเป็นคู่ชีวิตของเราและพาเราเข้าไปสู่อีกฝั่งของอารมณ์ราคะที่เราไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะได้สัมผัสกับมันด้วยตัวของเราเอง
ครูทรายพอบอกเลิกกับครูวิชิตไปแล้วก็คิดว่าตัวเองจะพ้นออกจากวังวนสวาทแบบเดิม ๆ แต่เธอหารู้ไม่ว่าผัวของตัวเองนี่ล่ะที่จะพาเธอวนกลับไปหาเรื่องราวความเสียวที่ตื่นเต้น แปลกใหม่ และเร้าใจมากขึ้น
ทรายครูสาวแสนเรียบร้อยมองเผินๆอาจไม่เห็นความต้องการด้านมืดของเธอแต่ใครจะรู้ว่าภายใต้ความเจ้าระเบียบที่แสดงออกมานั้นแอบเก็บความต้องการทางเพศที่เกินคนรู้จักจะจินตนาการ พบกับเรื่องราวของครูสาวกับการเดินทางในโลกแห่งอารมณ์ด้านมืดของเธอได้ใน “ครูสาว สวิงเสียว”
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
ในฐานะที่เธอมีทรัพย์สินนับพันล้านและเป็นลูกสาวที่ได้รับการฝึกฝนอย่างลับๆ โดยรัฐบาล เฉียววานก็ถูกจัดสรรพ่อแม่ให้ในที่สุด แต่ไม่คาดคิด เธอถูกขับออกจากครอบครัวถึงสามครอบครัว การฝึกฝนความสัมพันธ์เป็นญาติพี่น้องก็ล้มเหลวซ้ำๆ จนกระทั่งเธอถูกตระกูลฮั่วรับอุปการะ เฉียววานที่น่าสงสารถูกพ่อแม่บุญธรรมทุ่มเงินให้ตามใจ แสดงความรักอย่างสุดโต่งจนดูเหนือจริง ทำให้บางคนอิจฉาจนบ้าคลั่ง ปล่อยข่าวลือว่า "เฉียววานไม่มีความสามารถใดๆ เลย ต้องอาศัยการทำตัวน่าสนสารเพื่อเรียกร้องความสนใจจากตระกูลฮั่ว!" แต่วันถัดมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศยืนต้อนรับด้วยตัวเอง “ศาสตราจารย์เฉียว ห้องแล็บของคุณเตรียมพร้อมแล้ว” มหาเศรษฐียื่นสัญญาให้ “บอส รายงานการเงินปีนี้กำไรเพิ่มขึ้น 300%!” องค์กรแฮกเกอร์นานาชาติก็เกิดความวุ่นวาย “พี่ใหญ่ ถ้าคุณไม่ออนไลน์ ระบบการเงินจะล่มแล้ว” เมื่อความลับของเฉียววานถูกเปิดเผยทีละอย่าง ทั้งโลกออนไลน์ก็เดือดดาล กู้ซือหาน ผู้ทรงอำนาจและเย็นชาแห่งเมืองจิง จู่ๆ ก็จับเธอไว้ที่มุมกำแพง นิ้วของเขาลูบไล้ริมฝีปากของเธอเบาๆ “คุณนายกู้ เล่นสนุกมากพอหรือยัง? ถึงเวลากลับบ้านไปมีลูกได้แล้ว” เฉียววานหน้าแดงก่ำ “ใคร ใครจะไปมีลูกกับคุณล่ะ” ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ และหยิบบัตรดำวงเงินไม่จำกัดใส่มือเธอ “มีลูกคนหนึ่ง จะมอบเกาะส่วนตัวให้ให้หนึ่งเกาะ”
“ที่รัก ร่างกายของคุณหวานอร่อยไปทั้งตัว หวานจนผมหยุดกินไม่ได้ แล้วตอนนี้ผมหิวอีกแล้ว” ตฤณ ท่านประธานบริษัท วัย 37 ปี หนุ่มโสดหล่อ รวย พ่อบุญทุ่ม ถูกใจใครก็เปย์หนัก ไม่เว้นแม้แต่เลขาสาวสวยที่เขาบังคับมารับตำแหน่ง ด้วยวิธีแสนเจ้าเล่ห์แม้เธอไม่เต็มใจ แต่ในเมื่อเขา “อยากได้” วิธีสุดแสนร้ายกาจเขาก็งัดมาใช้ เพื่อให้ได้เธอมาครอบครอง ***** “ผมขับรถไปรับคุณได้ด้วยตัวเองเลย ไม่ได้ขู่ด้วย เอาให้รู้ไปทั้งบริษัทว่า... คุณเป็นคนของผม ผมมีรถให้เลือกนั่ง 10 คัน ลือกมาสักยี่ห้อเดี๋ยวขับไปหาครับ” “คุณมันบ้า อีตาผู้ชายบ้า เวรกรรมอะไรของฉันเนี่ย แล้วต้องมาอยู่ซอยเดียวกัน” “ท่านประธาน คำที่ถูกต้อง ตกลงขึ้นรถมาหรือยังครับปั้นหยา” “คอยดูนะ ถ้าฉันเจอหน้าคุณ...” “จะสมนาคุณผมด้วยจูบเหรอ” “คุณ!”
ซูหลีพยายามทำทุกอย่างเพื่อเอาใจตระกูลซูมาตลอดห้าปี แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ต่อคำใส่ร้ายของน้องสาวเพียงคำเดียว เรื่องที่ซูหลีเป็นคุณหนูปลอมก็ถูกเปิดเผย ทำให้คู่หมั้นทิ้งเธอ เพื่อนๆ ก็ห่างเหิน และพี่ชายขับไล่เธอออกจากบ้าน บอกให้เธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนาของเธอ ในที่สุดซูหลีก็สิ้นหวังและตัดสินใจตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลซู ยึดความช่วยเหลือทุกอย่างคืนและไม่อดทนอีกต่อไป แต่เธอไม่คาดคิดเลยว่าชาวนาที่พี่ชายพูดถึงนั้นกลับกลายเป็นตระกูลลั่วผู้มั่งคั่งที่สุดในประเทศ ในคืนเดียวเธอเปลี่ยนจากคุณหนูตัวปลอมที่ถูกทุกคนรังเกียจเป็นลูกสาวของมหาเศรษฐีที่มีพี่ชายสามคนที่รักเธอ พี่ชายคนโตที่เป็นผู้บริหารใหญ่“เลิกประชุม จองตั๋วเครื่องบินกลับประเทศ ฉันอยากดูสิว่าใครกล้าแกล้งน้องสาวฉัน” พี่ชายคนที่สองที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ยอดเยี่ยมระดับโลก“หยุดการวิจัย ฉันจะไปรับน้องสาวกลับบ้านเดี๋ยวนี้ ” พี่ชายคนที่สามที่เป็นนักดนตรีระดับโลก “เลื่อนคอนเสิร์ต ไม่มีอะไรสำคัญเท่าน้องสาวของฉัน” จู่ๆ คนทั้งเมืองจิงก็ต้องตกใจช็อก ตระกูลซูเสียใจจนสุดขีด คู่หมั้นก็กลับมาขอคืนดี ผู้คนที่มาขอจีบเธอก็แห่กันมาถึงหน้าบ้าน ไม่ทันที่ซูหลีจะตอบสนอง ตระกูลชือซึ่งเป็นตระกูลสูงสุดในเมืองจิงและมีตำแหน่งสูงสุดในกองทัพเรือ ก็เสนอใบสมรสให้เธอ ทำให้เธอกลายเป็นคนดังในสังคมชั้นสูง!
เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"
"ท่านครับ คนยังไม่ตาย ต้องการชนอีกทีไหมครับ" "จัดการเลย" เสิ่นอันหยูซึ่งกำลังจมอยู่ในกองเลือด ได้ยินคำสั่งของสามีกับหู เธอกับเขาไม่เคยเป็นสามีภรรยาที่แท้จริง และด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่เคยมีลูก อย่างไรก็ตาม การแต่งงานที่ไม่มีบุตรทำให้แม่สามีกล่าวหาว่าเสิ่นอันหยูมีบุตรยาก ตอนนี้ สามีของเธอไม่เพียงนอกใจเธอเท่านั้น แต่เขาต้องการให้เธอตายด้วย! เขาก็หย่ากับเธอได้ แต่นี่เขาพยายามจะฆ่าเธอ... ในวันที่หย่ากัน เสิ่นอันหยูที่เคยรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิดนั้นก็แต่งงานกับชายอีกคนหนึ่งทันที สามีคนที่สองของเธอเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดในเมือง เธอสาบานว่าจะใช้อำนาจของเขาให้เป็นประโยชน์และแก้แค้นคนที่เคยทำร้ายเธอ! เดิมทีการแต่งงานของพวกเขาในครั้งนี้ควรเป็นเพียงข้อตกลงที่หาประโยชน์สำหรับทั้งสองฝ่ายเท่านั้น แต่สุดท้าย เธอกลับถูกชายที่ดื้อรั้นคนนี้ตรึงไว้กับกำแพง "เอาจริงเลยได้ไหม ผมอยากอยู่กับคุณตลอดไป"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด