เขาเป็นคุณอาของเพื่อน เย็นชา หน้านิ่ง แถมยังดุอีกด้วย ในค่ำคืนหนึ่งที่โดนเพื่อนชายวางยา เขากลับช่วยเธอเอาไว้ แล้วกลายเป็นคุณอาหนุ่มคลั่งรักที่ทำเอาเธอกลายเป็นนางฟ้าตัวน้อย ๆ ในอ้อมแขนแข็งแกร่งอบอุ่นอ่อนโยนของเขา
เขาเป็นคุณอาของเพื่อน เย็นชา หน้านิ่ง แถมยังดุอีกด้วย ในค่ำคืนหนึ่งที่โดนเพื่อนชายวางยา เขากลับช่วยเธอเอาไว้ แล้วกลายเป็นคุณอาหนุ่มคลั่งรักที่ทำเอาเธอกลายเป็นนางฟ้าตัวน้อย ๆ ในอ้อมแขนแข็งแกร่งอบอุ่นอ่อนโยนของเขา
นันทวดีพยายามแกะมือของเพื่อนชายที่ลวนลามเธอออก เพื่อนของเธอนัดเธอออกมากินข้าวที่ร้านกึ่งผับ แต่เพื่อนกลับโทร. มาแจ้งว่ารถติดยังมาไม่ถึง เธอจึงนั่งรอไปก่อน วิทวัสที่เป็นเพื่อนอีกคนจึงเดินมานั่งคุยด้วย แต่อีกฝ่ายกลับทำไม่ดีไม่ร้ายเธอ
“นี่ปล่อยนะ!”
“เล่นตัวไปได้” วิทวัสไม่สน จะล้วงมือเข้าไปในร่มผ้าของนันทวดีท่าเดียว แม่เลี้ยงของอีกฝ่ายขายหล่อนให้เขาแล้ว เขาก็มีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้
“โอ๊ย!” วิทวัสร้องด้วยความเจ็บเมื่อนันทวดีเอาขวดเครื่องดื่มที่เธอสั่ง ฟาดลงบนศีรษะของเขาเต็ม ๆ แรง
“ไอ้ลามก!” เธอผลักเขาออกก่อนจะวิ่งหนีออกมาแบบไม่คิดชีวิต เธอวิ่งไปตามถนนด้วยความรู้สึกอ่อนล้า เม็ดเหงื่อไหลซึมไปทั่วใบหน้าและตามเนื้อตามตัว
ตอนนี้หญิงสาวรู้สึกร้อนวูบวาบไปหมด
ร่างของเธอถูกดึงเข้าไปในอ้อมแขนแกร่งของใครบางคน เธอหันไปหา ก่อนที่จะหอบหายใจออกมาอย่างรุนแรง
“อาเอง” เสียงทุ้มนุ่มหูแสนคุ้นเคยนั้นทำให้นันทวดีโผเข้ากอดร่างสูงอย่างไร้สติ
“ทำไมถึงมีสภาพเป็นแบบนี้!” เสียงดุเข้มเอ่ยถาม พีรณัฐรีบประคองเพื่อนหลานสาวไปที่รถอย่างรวดเร็ว
“ช่วยด้วยค่ะอาพีร์” เธอร้องขอด้วยน้ำเสียงร้อนรน มือบางลูบไล้สะเปะสะปะไปตามเนื้อตัวของเขา
“อย่าซนสิ” พีรณัฐทำเสียงดุใส่แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่ยอมหยุด เขารู้ว่าเธอโดนวางยาจึงรีบพาเธอไปที่ห้องพักส่วนตัวโดยด่วน
เหตุการณ์ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อนันทวดีรุกหนักจนพีรณัฐไม่ทันตั้งตัว จึงทำให้ทั้งสองมีค่ำคืนที่แสนวาบหวามด้วยกัน
นันทวดีตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกปวดเมื่อยเนื้อตัวไปหมด พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงของพีรณัฐ เขาเองก็กำลังนอนมองเธออยู่ก่อนแล้ว
หญิงสาวสะดุ้งสุดตัว นี่เธอมานอนไร้เสื้อผ้าอยู่บนเตียงเดียวกับอาของเพื่อนสาวคนสนิทได้อย่างไรกันนะ
“ตื่นแล้วเหรอ” เสียงของเขาไม่ได้เข้มดุเหมือนทุกครั้ง แต่ก็ไม่ได้อ่อนโยนหวานหูเช่นเดียวกัน
ประโยคคำถามง่าย ๆ นั้น ทำเอาเธอต้องกำจิกผ้าห่มแน่น ได้แต่มองเขาตาปริบ ๆ ด้วยความรู้สึกมึนงงไม่หาย
“เมื่อคืน...” เธอพูดได้แค่นั้นก่อนจะรำลึกถึงเหตุการณ์เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา แล้วก็ต้องตาโตอ้าปากค้างอีกรอบ
“เมื่อคืนเธอโดนวางยา เดินสะเปะสะปะอยู่ข้างถนน ดีที่ไม่โดนผู้ชายลากไปรุม” ประโยคของเขาอาจจะดูโหดร้ายแต่มันคือเรื่องจริงล้วน ๆ
เขาช่วยเธอเอาไว้ แต่เธอดันเสียตัวให้เขานี่นะ
“วดี เอ่อ... วดี” เธออึกอักไม่รู้จะเริ่มต้นพูดอะไรก่อนดี
“หิวหรือยัง” เขาขยับตัวอย่างเกียจคร้าน ก่อนจะลุกจากเตียง เธอหลับตาปี๋เพราะเขาอยู่ในสภาพล่อแหลม แต่พอแอบดูก็เห็นว่าเขาหยิบเสื้อคลุมมาสวมใส่เรียบร้อยแล้ว
“วดีต้องขอบคุณอาพีร์ไหมคะ” เธออยากจะเขกหัวตัวเองจริงๆ ที่ถามคำถามปัญญาอ่อนแบบนั้นออกไป
“ถ้าไม่อยากขอบคุณก็ไม่เป็นไร อาไม่ชอบบังคับจิตใจใคร”
“เอ่อ... ค่ะ”
“อาสั่งอาหารเอาไว้ให้แล้ว คิดว่าวดีคงจะหิว เพราะเมื่อคืนเราเปลืองแรงไปเยอะ” ประโยคราบเรียบของเขาไม่ได้แสดงอารมณ์อันใด แต่กลับทำให้เธอหน้าแดงร้อนผ่าวลามไปถึงใบหู มันบ่งบอกว่าเธอกับเขาทำอะไรกันเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา
จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนนี่ อยากจะตบหน้าผากตัวเองแรง ๆ นัก
“อาให้คนไปจัดการคนที่วางยาวดีให้แล้วนะ”
“อาพีร์รู้เหรอคะว่าใคร”
“รู้สิ อาอยู่ในร้านนั้นด้วย จนเห็นเธอเดินโซซัดโซเซออกมา เลยรีบตามมาช่วย”
“วดีตีหัววัสเต็ม ๆ เลย น่าจะหัวแตกหรือตายไปแล้ว”
“ไม่ต้องกลัว ร้านนั้นเป็นของเพื่อนอา เขาไม่มีทางมาเอาผิดอะไรวดีได้แน่นอน”
“ขอบคุณค่ะ” ครั้งนี้เธอขอบคุณเขาจริงๆ วิทวัสมีพ่อแม่รวยจึงเอาแต่ใจตัวเองและใช้เงินมือเติบ เลี้ยงเพื่อนฝูง มีพรรคพวกมากมาย ในขณะที่เธอหัวเดียวกระเทียมลีบ ไม่มีเงิน ไม่มีพรรคพวกเหมือนอีกฝ่าย ถ้าเขาจะเอาเรื่องขึ้นมาเธอคงเดือดร้อนแน่ ดีที่พีรณัฐยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ
“อาบน้ำแล้วไปกินข้าวกินปลาเสียก่อน จะได้คุยกัน”
“คุยกันเหรอคะ” เธอทำหน้าตาแตกตื่น
“ทำไม ไม่อยากคุยกับอาเหรอ”
“ไม่ใช่นะคะ แต่ถ้าอาพีร์จะคุยเรื่องที่ต้องรับผิดชอบวดี ไม่ต้องก็ได้นะคะ มันเป็นอุบัติเหตุ”
“ไม่อยากให้รับผิดชอบงั้นเหรอ”
“ใช่ค่ะ” เธอพูดอย่างหนักแน่น
“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวมากินข้าวกัน” เขาตัดบท
“ค่ะ อุ๊ย!” พอลุกจากเตียงเธอก็ต้องร้องด้วยความเจ็บ ร่างแทบทรุดฮวบลงไปกองกับพื้น พีรณัฐรีบตวัดอุ้มร่างของเธอขึ้นจากพื้น
“อุ๊ย!” อุทานอีกรอบก่อนที่จะคล้องคอหนาเอาไว้ได้ทันท่วงที
“เดี๋ยวอาอุ้มไปส่งที่ห้องน้ำ คิดว่าน่าจะเดินไม่ไหว” สัมผัสอ่อนโยนของเขาทำให้เธอถึงกับเผลอไผลไปกับความใส่ใจนั้น แต่ประโยคของเขานี่สิ ทำเธอหน้าแดงซ่านลามไปถึงใบหู
เขาวางเธอให้เหยียบยืนบนพื้นห้องน้ำ ก่อนจะถอยออกไปจากห้องน้ำ ไม่ทำให้เธอต้องอึดอัดใจ
หัวใจของนันทวดีเต้นแรงราวกลองเพล ความรู้สึกที่ได้อยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายที่แอบรักมันเป็นแบบนี้นี่เอง
เธอยืนมองตัวเองหน้ากระจกเงาบานใหญ่ ด้วยใบหน้าแดงก่ำเขินอาย เธอไม่อยากทำให้เขาต้องอึดอัดใจ
เมื่อโชคชะตาบังคับให้เขาและเธอซึ่งเป็นคู่กัดต้องกลายเป็นคู่แต่งงานแบบสายฟ้าแลบ! ระหว่างอดีตที่เต็มไปด้วยการปะทะคารม กับปัจจุบันที่ต้องใช้ชีวิตร่วมชายคา... เรื่องวุ่น ๆ จึงเริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่แปรงสีฟันยันหัวใจ เขา...ผู้ชายเจ้าเล่ห์ ขี้แกล้ง และขี้หวงอย่างหนัก เธอ...หญิงสาวปากแข็ง ขี้ประชด แต่แอบอ่อนโยนในทุกความใส่ใจ จากบ้านไม้ริมคลอง กลายเป็นสนามรักและสงครามขนาดย่อม ที่ไม่มีใครยอมใคร แต่หัวใจสองดวงกลับเริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด... เพราะบางที...โชคชะตาอาจไม่ได้บังคับ แต่มันอาจกำลังพาเขาและเธอ... กลับมายังที่ที่เรียกว่า "บ้าน" ด้วยกัน
“เขาคือเจ้าพ่อที่ใครต่างหวาดกลัว แต่กลับยอมสยบให้หญิงสาวที่ทั้งโลกเคยมองว่าไร้ค่า...” เมื่อเธอถูกตราหน้าว่าเป็นเพียงหมากในเกมหมั้นหมาย เขากลับเห็นแสงในตัวเธอ และเลือกจะปกป้องด้วยทั้งชีวิตและหัวใจ ท่ามกลางไฟแค้น อำนาจ และความลับของตระกูล หัวใจของคนสองคนค่อย ๆ สานพันธะรักที่ไม่มีใครลบล้างได้ “เธอคือของฉัน ต่อให้โลกทั้งใบต่อต้าน...ฉันก็จะไม่มีวันปล่อยเธอไป”
เมื่อข่าวฉาวบิดเบือนเปลี่ยนหญิงสาวให้กลายเป็นคนที่เขาเกลียด และเมื่อคำสัญญาเก่าของผู้ใหญ่ พาเธอกลับมาในฐานะ ‘คู่หมั้น’ ที่เขาไม่ต้องการ ลลิล สาวสวยผู้สง่างามและเข้มแข็ง ต้องเผชิญแรงกดดันจากคนในครอบครัว รวมถึง กวิน ชายหนุ่มผู้เย็นชา ผู้มองเธอด้วยสายตาดูแคลน…แต่ไม่อาจละสายตาได้เลย ในความเงียบงันระหว่างพวกเขา...กลับมี ‘หัวใจ’ ที่ค่อย ๆ เรียนรู้กันอย่างไม่รู้ตัว จากความเข้าใจผิด กลายเป็นความผูกพัน จากการดูแคลน กลายเป็นการปกป้อง และจาก ‘คู่หมั้นไร้เสน่หา’ กลายเป็น ‘ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขารัก’
"เราเคยสัญญากัน...ใต้ดาวดวงนั้น ว่าจะไม่ทิ้งกันไปไหน แต่บางครั้ง...การจากลาไม่ได้เกิดจากคนที่อยากไป และเมื่อเราได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง คำสัญญานั้น...ยังจะมีความหมายอยู่ไหม"
“เธอคือเจ้าสาวที่เขาไม่ต้องการ แต่กลับเป็นผู้หญิงที่เขาไม่อาจปล่อยไปได้” แต่เมื่อเขายิ่งอยู่ใกล้เธอ เขากลับยิ่งอยากครอบครองเธอทั้งตัวและหัวใจ ทว่าเธอไม่ใช่หมากให้เขาควบคุม เขาต่างหากที่จะถูกเธอควบคุมและยอมจำนนรักต่อเธอ
คะนึงนิจรักเขาจึงยอมยกทุกอย่างให้เขาทั้งตัวและหัวใจ แต่เขาเพียงแค่หลอกกินฟรี เตะถ่วงเวลาออกไปเพื่อไปหาผู้หญิงที่ดีกว่า ในเมื่อเขาเห็นเธอเป็นของไร้ค่า เธอก็พร้อมที่จะเดินออกมาจากชีวิตของเขา โดยไม่เสียดายผู้ชายหลอกลวงอย่างฉัฐดนัยเลย
“เหล่ากง..” หญิงสาวยกมือปิดหน้าอก ชันเข่าขึ้นซ่อนสิ่งที่บ่งบอกความเป็นสตรี ตะแคงตัวหนีสายตาหยาดเยิ้มของเขา “สายตาของท่านทำซินเอ๋อร์ขัดเขินแทบขาดใจแล้ว” “เช่นนั้นเหล่ากงให้มองคืนบ้าง” เขาดึงนางมาสู้สายตา “ซินเอ๋อร์ไม่กล้าหรอก” นางเผลอมองไปแล้ว แม้จะเห็นความใหญ่โตของมันแค่ครึ่งลมหายใจ แต่ก็ทำให้นางตกใจจนทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว
แค่ทะลุมิติมาในโลกยุคโบราณก็นับว่าแย่มากพอแล้ว แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด เธอต้องมาแต่งงานกับท่านอ๋องที่ขึ้นชื่อว่าอำมหิตมากที่สุดในเมืองหลวง แล้วจางอวิ๋นซีจะเอาตัวรอดจากเงื้อมมือของท่านอ๋องจอมโฉดได้อย่างไร
“เคลวิน อาร์มันโด” มหาเศรษฐีผู้ไม่เคยเชื่อในพรหมลิขิต ไม่คิดเลยว่าการมาเยี่ยมเยียนมารดาและน้องสาวที่เมืองไทยในครั้งนี้จะได้มาเจอกับกวางน้อยแสนสวยที่เคยทำเขาหัวใจแทบหยุดเต้นมาแล้วครั้งหนึ่ง! เขาวางแผนการบางอย่างเพื่อต้อนกวางน้อยเข้าสู่กรงทองแล้วครอบครองได้อย่างที่จะไม่ทำให้ต้องเสียหน้า แต่กลายเป็นว่านักล่าอย่างเขาพลาดท่าตกลงไปในกับดักนั้นเสียเอง เพราะหนีผู้ปกครองเที่ยวแท้เชียว เธอถึงต้องมาเจอเขาอีกครั้ง ผู้ชายวาจาร้ายกาจกับสถานการณ์น่าอับอาย “มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ ผมยินดีและเต็มใจ” “มีค่ะ” ตอบกลับเสียงแข็ง “เสร็จธุระแล้วก็ช่วยออกไปจากห้องด้วย เชิญค่ะ” ว่าพลางชี้ไปทางประตูห้องด้วยหางตา “เรื่องแค่นี้เองหรือที่ต้องการให้ช่วย” เคลวินหันมาถามหลังจากเดินมาถึงหน้าประตู คิ้วทรงดาบเลิกขึ้นสูง “ผมนึกว่าคุณอยากให้ช่วยแบบว่า... ช่วยติดขอเสื้อในนี่ให้ฉันทีสิคะฉันติดไม่ถึง อะไรแบบนี้เสียอีก” ว่าพลางส่งยิ้มยียวน ดวงตาพราวระยับจ้องนิ่งตรงทรวงอกที่กระเพื่อมขึ้นลงเร็วแรง สาบานได้ว่านี่คือคำพูดของคนเพิ่งเจอกัน เขาเข้ามาในห้องเธอโดยไม่ได้รับอนุญาต แถมยังจ้องเธออย่างเสียมารยาทในขณะที่เธออยู่ในสภาพ... ล่อแหลม! “ลัลน์นารา” หวังอย่างยิ่งว่านั่นจะเป็นครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายในชีวิตกับความอับอายและผู้ชายแสนยียวน แต่โชคชะตาช่างเล่นตลกกับเธอ ให้กงล้อหมุนเวียนพาเธอกับเขามาเจอกันอีกครั้งและกลายเป็นผูกพันกันไปตลอดกาล... “พี่เค นี่มันบนเรือนะคะ” "บนเรือแล้วแปลกตรงไหน หาอะไรแปลกใหม่บ้าง ชีวิตจะได้มีสีสัน” “เรือจะล่มไหมคะ” คนถามออกอาการหวาดหวั่น เคลวินหัวเราะในลำคอกึ่งขบขันกึ่งสงสาร “พี่จะพยายามเบามือที่สุดค่ะ หยาดเองก็อย่ารุนแรงนักนะคะ”
ก็เลิกกันไปแล้ว ไม่รักกันแล้ว ไม่มีสิทธิ์ทำตัวเป็นหมาหวงก้าง ขุนพลแฟนเก่าของนาเดียพยายามเข้าใกล้เธอเหมือนมีเจตนาแอบแฝง นาเดียไม่ไว้ใจเขาทั้งยังรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่ได้พบหน้า เธอพยายามถอยห่าง เขาพยายามรุกคืบ และการกระทำนั้นทำให้เธอเริ่มสั่นคลอนลงทุกวัน เขายังทำตัวเป็นหมาหวงก้าง และระรานคนไปทั่ว ผู้ชายเฮ็งซวยที่เลิกกันไปหลายปีแล้วกำลังทำให้เธอเจอกับเรื่องยุ่งเหยิงที่ยิ่งแก้ก็เหมือนยิ่งพันตัวเธอจนติดหนึบกับเขา คำแนะนำ นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นนะคะ หากชื่นชอบรบกวนผู้อ่านทุกท่านกดหัวใจเพื่อเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยนะคะ และซื่อในเว็บหรือแอนดรอยจะราคาถูกกว่า แอปเปิ้ลนะคะ ขอบพระคุณมากค่ะ
ในระยะเวลาสองปีที่แต่งงานกัน เนี่ยเหยียนเซินจู่ๆ ก็เสนอขอหย่า เขาพูดว่า "เธอกลับมาแล้ว เราหย่ากันเถอะ คุณอยากได้อะไรบอกมาได้เลย" ชีวิตการแต่งงานสองปีสู้อีกคนที่หันหลังกลับมาไม่ได้ ตามอย่างที่คนเขาว่ากัน "คนรักเก่าแค่ร้องไห้สักหน่อย คนรักปัจจุบันก็ย่อมแพ้แน่นอน" เหยียนซีไม่ได้โวยวายอะไร เลือกที่จะตอบตกลงและเสนอเงื่อนไขว่า "ฉันต้องการรถซูเปอร์คาร์ที่แพงที่สุดของคุณ" "ได้" "วิลล่าสุดหรูชานเมือง" "ตกลง" "กำไรหลายพันล้านที่หามาในช่วงสองปีนี้ แบ่งคนละครึ่ง" "อะไรนะ"
นุชพินตา ควรเป็นเจ้าสาวที่น่าอิจฉาที่สุดที่ได้แต่งงานกับ ปุลวัชร เจ้าบ่าวที่ทั้งหล่อ รวย เนื้อหอม เป็นเจ้าชายในฝันของสาวๆ ทั้งเมือง แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าบ่าวในฝันนั้น...ทั้งไร้หัวใจ และไม่ได้รักเธอสักนิด! การแต่งงานที่ไร้รัก อยู่กันไปก็มีแต่เจ็บปวดเท่านั้น แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเธอไม่อาจปฏิเสธ แม้จะต้องถูกเขาทำร้ายหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะทำอย่างไรหากใจที่ไม่คิดปรารถนารักกลับอยากได้ความรักจากเขา ------------------------------ “เธอเคยนอนกับผู้ชายหรือเปล่า” เขาถามออกมาจากปากร้าย ตอนที่เธอได้ยินถึงกับสะอึก ไม่คิดว่าเขาจะถามตรง ๆ และในนาทีต่อมา นุชพินตาก็รู้สึกโกรธมาก หญิงสาวโต้เขากลับ “ทำไมผู้ชายดี ๆ การศึกษาดี ๆ ถึงได้พูดจาแบบนี้คะ มาพูดดูถูกกัน เมื่อกี้ก็หาว่าพวกเราขายตัว และตอนนี้ยังมากล่าวหาฉันอีกว่าฉันสำส่อน คุณถามคำถามแบบนี้กับผู้หญิงทุกคน ที่คุณเคยนอนด้วยหรือยังไงคะ” ความเจ็บปวดระบายออกมาทางสายตา เขาเป็นบ้าอะไรกันนี่ คำพูดแบบนี้มาจากสันดานข้างในหรือเพราะว่าเขาเมา “แล้วเธอเคยมีอะไรกับผู้ชายหรือเปล่าล่ะ” เขาย้ำอีกครั้ง จ้องสบตาด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ “ปากร้าย ประโยคนี้คุณไม่ควรถามออกมาด้วยซ้ำไป” จากที่เรียกเขาว่าพี่ปุ่น ชักขุ่นและมีอารมณ์โมโหขึ้นมาเปลี่ยนสรรพนามที่คนฟังก็รู้ว่าห่างเหิน “ผู้หญิงที่ดี ๆ ที่ไหน จะตอบตกลงแต่งงานกันชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่คิด เวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น” “แล้วมันยังไงคะ” นุชพินตาก็ไม่ยอมเหมือนกัน “เธออาจจะเป็นมือสองก็ได้” ‘เมื่อคืนเขาไปนอนที่ไหน แล้วไปนอนกับใคร’ ‘อ้อ… ก็คงจะเป็นผู้หญิงคนนั้นสินะ’ ดวงตาเศร้าลง เธอลุกขึ้นไปเปิดม่านหน้าต่าง และมองออกไปยังท้องทะเล แสงอาทิตย์กระทบกับระลอกคลื่นที่ไล่เรียงกันกระทบเข้าฝั่ง นุชพินตาถึงกับถอนหายใจดังเฮือก ‘ฉันมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ มาให้เขาย่ำยีเล่นใช่หรือไม่’ เฝ้าถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ‘ยะหยาอย่าเสียใจไปเลยนะ เธอต้องทำตัวเองให้เข้มแข็ง แข็งแรงเถอะ ในเมื่อเธอก็ไม่ได้รักเขาเหมือนกัน’ คำพูดปลอบโยนตัวเอง ‘ใช่… ฉันไม่ได้รักเขา และจะเกลียดเขาให้มากกว่านี้’ เธอตอกย้ำคำนี้เข้าไปในหัวใจของตัวเองด้วยความมุ่งมั่นและสายตาที่แน่วแน่ แม้จะรู้สึกเจ็บแน่นในหัวอก ------------------------------ “ฉันจะหย่ากับเธอ” เขาเอ่ยอย่างใจดำ หญิงสาวถึงกับใจหล่นวูบ เธอเม้มขบริมฝีปาก กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว นุชพินตาพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว “นางผู้หญิงไร้ยางอาย แพศยาฉันเกลียดผู้หญิงหลายใจ ฉันเกลียดผู้หญิงที่นอกใจ ไปให้พ้นจากบ้านของฉัน ไปให้พ้นจากหน้าฉัน พรุ่งนี้จะให้ทนายทำใบหย่า” “พี่ปุ่นคะ” เธอยกมือขึ้นมาไหว้เขาปลก ๆ “เราสองคนเพิ่งแต่งงานกันเองนะคะ ยะหยาไม่อยากให้คุณลุงและคุณย่าเสียใจ” “แต่สิ่งที่เธอทำล่ะ มันน่าอาย แล้วเธอไม่ละอายบ้างเหรอ หน้าด้าน” เขามีอาการเสียใจ และหัวเสีย นุชพินตาเอง เธอไม่คิดว่าปุลวัชรจะปากร้ายด่าทอเธอได้ถึงเพียงนี้ “ฉันจะหย่ากับเธอแน่นอน เตรียมปากกาไว้เซ็นใบหย่าในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” พูดจบ เขาเดินเข้าไปใช้มือปัดแจกันที่อยู่ใกล้ และชกบานกระจกที่ใช้ตกแต่งอยู่ในห้องโถงด้วย จนกระจกแตกละเอียดทั้งบาน มือของปุลวัชรมีเลือดไหลซึม เขาจะเดินเข้าห้องทำงานและปิดประตูตามหลังดังโครม นุชพินตาตกใจ และหวาดกลัวกับสิ่งที่เธอได้เห็น ความดีใจที่สามีจะกลับมา เธอจะบอกข่าวดีเขา และกินข้าวด้วยกัน ได้มลายหายไปสิ้น มีเพียงความเศร้าเข้ามาทับถมอยู่ในจิตใจของนุชพินตา แล้วหญิงสาวยกมือขึ้นมาปิดหน้าปิดตาปล่อยโฮ
© 2018-now MeghaBook
บนสุด