เธอแอบชอบเขาเพราะเขาคือพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเธอเอาไว้ เธอจึงสารภาพรักกับเขาเมื่อเรียนจบและได้เข้าทำงานในบริษัทของเขา แต่เขากลับให้เธอเขียนใบลาออก เธอจึงหนีหายไปจากชีวิตของเขา ได้เจอกันอีกครั้งความจริงก็ถูกเปิดเผย!
เธอแอบชอบเขาเพราะเขาคือพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเธอเอาไว้ เธอจึงสารภาพรักกับเขาเมื่อเรียนจบและได้เข้าทำงานในบริษัทของเขา แต่เขากลับให้เธอเขียนใบลาออก เธอจึงหนีหายไปจากชีวิตของเขา ได้เจอกันอีกครั้งความจริงก็ถูกเปิดเผย!
“โอ๊ย! เจ็บ” นิลินีร้องด้วยความเจ็บเมื่อโดนสองพี่น้องจอมแสบแกล้งแทบจะทุกวันเพราะเธอเป็นเด็กนักเรียนทุนที่แสนยากจน แต่ได้เข้ามาเรียนที่โรงเรียนชื่อดังแห่งนี้
“โอ๊ย! วันนี้ฉันจะสู้ตายแล้วนะ” กวีที่เป็นเพื่อนของนิลินีเอ่ยขึ้น แม้จะอ้อนแอ้นไปหน่อยตามชายใจหญิงแต่ก็อยากจะฮึดสู้ขึ้นมาบ้าง
“ฉันก็สู้เหมือกัน แกล้งกันทุกวัน เป็นไงเป็นกัน ไม่กลัวโว้ย!” นิลินีเองก็ไม่ไหวแล้ว ตอนแรกก็พยายามไม่อยากมีเรื่องด้วย แต่ตอนหลังกลับโดนแกล้งหนักขึ้นกว่าเดิมเสียอีก ในเมื่ออีกฝ่ายเห็นว่าไม่สู้ก็ยิ่งแกล้ง เธอกับเพื่อนอย่างกวีเลยต้องสู้หัวชนฝา เป็นไงเป็นกัน ถ้าจะไม่ได้ทุนเพราะโต้ตอบกลับอันธพาลประจำโรงเรียนอย่างแก้วตาและกันต์ ก็ให้มันรู้ไปสิวะ!
สองเพื่อนซี้พุ่งตัวเข้ามา แต่กระเด็นกลับมาเพราะแก้วตากับกันต์พวกเยอะกว่า ทำเอาสองเพื่อนถึงกับเละ เหมือนเช่นทุกวัน
“หยุดนะ!” เหมือนเสียงสวรรค์หรือจะเรียกว่าพระเอกขี้ม้าขาวก็ย่อมได้ เสียงของพี่รหัสของเธอนั่นเอง
พฤกษ์ กิจไพบูลย์วิวัฒน์ พี่รหัสสุดหล่อของเธอ ได้ข่าวว่าเขาไม่สบายหลายวันเธอกับเขาจึงไม่ได้เจอกัน แต่ที่เธอรู้จักเขาก็เพราะว่าเพื่อน ๆ ในห้องต่างกรี๊ดเขาด้วยกันทั้งนั้น
“พี่พฤกษ์!” สองพี่น้องเรียกพฤกษ์อย่างตกใจ ไม่ใช่แค่ความหล่อแต่พฤกษ์เป็นนักเรียนผู้ทรงอิทธิพลและประธานรุ่น ใคร ๆ ก็ต่างเกรงใจ เรียนเก่ง กีฬาเด่น หน้าตาดี สุภาพบุรุษสุด ๆ นิลินีได้เห็นตัวจริงพี่รหัสก็ถึงกับตาโตอ้าปากค้าง เธอเพิ่งเข้ามาเรียนมอ.สี่ได้แค่ไม่กี่วันจึงยังไม่ได้เจอเขาตัวเป็น ๆ
เธอมาเรียนมอ.สี่ที่นี่ก็มีพี่รหัสมอ.หกที่สุดแสนจะเพอร์เฟค นี่ใช่ไหมจึงเป็นที่หมั่นไส้ของสาว ๆ หลายคนในโรงเรียน หาว่าเธอไม่คู่ควร
“นิลินีเป็นน้องรหัสของฉันใครกล้าแตะ” พฤกษ์ประกาศกร้าว ทำเอาทุกคนหัวหด
“ไม่ใช่ว่าห้ามรังแกน้องรหัสของฉัน แต่ทุกคนพวกเธอก็ห้ามรังแก เคยเตือนแล้วใช่ไหม ถ้าไม่ฟังก็อย่าหาว่าฉันใจร้ายก็แล้วกัน” เพียงไม่นานพฤกษ์ก็ลากคอเสื้อกันต์ นักเรียนมอ.ห้ากับก๊วนเพื่อนและแก้วตาน้องสาวซึ่งอยู่มอ.สี่ไปที่ห้องปกครอง ข่าวนี้โด่งดังไปทั่วโรงเรียนเมื่อพฤกษ์ไม่ได้รังเกียจน้องรหัสที่จนแสนจนอย่างนิลินีแถมยังปกป้องอีกฝ่ายอย่างเต็มที่
“จากนี้ไปใครกล้ารังแกน้องรหัสฉันอีก ฉันจะคิดบัญชีรายตัว” ใครรังแกโดนขึ้นบัญชีดำ ทำเอาทุกคนไม่กล้าแม้แต่จะแตะนิลินีแม้แต่ปลายก้อย
“โหย... พี่รหัสของแกอย่างเท่ห์เลยว่ะนิล ตอนกระโดดมาขวางพวกนั้นฉันนี่ปลื้มสุด ๆ อยากจะกรี๊ดให้ลั่นโรงเรียน” กวีซึ่งโดนรังแกด้วย แต่พอเป็นเพื่อนสนิทกับนิลินีน้องรหัสของพฤกษ์ ทำเอาไม่มีใครกล้ารังแกหรือบูลลี่ว่าเป็นยาจกเด็กทุน ริจะมาเรียนโรงเรียนดังอีกเลยหลังจากนั้น
“เท่จริงๆ นั่นแหละ” นิลินีทำหน้าฝันหวาน พี่รหัสของเธอทั้งหล่อทั้งเท่
เรียกว่าเท่สุด ๆ ไปเลย!
“จะกลับบ้านแล้วเหรอ” พอคิดถึงก็มาเลย ทำเอานิลินีหันไปมองตาโต
คนตรงหน้าคือพี่รหัสสุดหล่อของเธอ อยากจะกรี๊ดแต่ก็เก็บอาการเอาไว้ พฤกษ์เป็นสุภาพบุรุษ เป็นผู้ชายที่น่ารัก เธอจะทำตัวกรี๊ดกร๊าดเกินงามไม่ได้ เอาไว้ค่อยกลับไปกรี๊ดในห้องน้ำที่บ้านก็แล้วกัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า!
“ค่ะพี่พฤกษ์”
“กลับยังไง ให้พี่ไปส่งไหม”
“รอรถประจำทางค่ะ เกรงใจพี่พฤกษ์เปล่า ๆ ไม่ต้องไปส่งหรอกค่ะ”
“ไปค่ะ ให้พี่พฤกษ์ไปส่งสิยายนิล บ้านแกตั้งไกล รอรถก็อีกนาน พี่พฤกษ์อุตส่าห์มีน้ำใจ แกจะทำให้พี่พฤกษ์เสียน้ำใจหรือไง มาเร็วสิ” กวีรีบดึงมือเพื่อนสาวไปขึ้นรถ ในขณะที่นิลินีหน้าตาเหลอหลา
“บ้านพี่เป็นทางผ่านบ้านของเราสองคนพอดี” พฤกษ์เอ่ยขึ้นเมื่อคนขับรถเคลื่อนรถออกไปอย่างระมัดระวัง
“พี่พฤกษ์รู้จักบ้านของเราสองคนด้วยเหรอคะ” กวีเอ่ยถาม
“เคยเห็นลงมาจากรถประจำทางน่ะ” พฤกษ์ตอบเสียงนุ่ม
ท่าทีของพฤกษ์ดูดีทุกระเบียบนิ้ว ก้านนิ้วของเขาเรียวยาวขาวผ่อง น่ามองน่าสัมผัส คนอะไรหล่อวัวตายควายล้ม ไม่สงสัยเลยว่าทำไมสาว ๆ ในโรงเรียนถึงชอบเขา อยากได้เขาเป็นพี่รหัสหรืออยากเป็นหวานใจของเขาด้วยกันทั้งนั้น
นิลินีเหลือบมองแล้วต้องลอบกลืนน้ำลาย อยากจะตบหน้าผากตัวเองแรง ๆ นี่เธอเพิ่งอยู่มอ.สี่นะ แถมยังเป็นนักเรียนทุนอีก จะใจแตกริมีความรักในวัยเรียนไม่ได้
แต่พี่รหัสของเธอ ก็เย้ายวนใจเกินต้านจริง ๆ
ไม่ได้ ๆ นี่คือพี่รหัสนะ เธอต้องให้ความเคารพ ไม่ใช่มาแอบชอบอีกฝ่ายแบบนี้
ความคิดในหัวของนิลินีตีกันให้วุ่นไปหมด จบลงด้วยประโยคคำถามชวนฟินจนนิลินีแทบจะตัวลอย
“โดนรังแกอีกไหม”
“ไม่มีแล้วค่ะ”
“ถ้าใครรังแกบอกพี่ได้เลย พี่จะไม่ยอมให้ใครมารังแกน้องรหัสของพี่เด็ดขาด”
“ค่ะ”
“แล้วเพื่อนน้องรหัสล่ะคะ” กวีเอ่ยถามบ้าง
“เหมือนกันครับ” คำตอบนั้นทำเอากวีกรี๊ดกร๊าด เพราะเขาได้พี่รหัสที่ไม่ค่อยสนใจเขาสักเท่าไหร่ อีกฝ่ายเป็นนักกีฬาโรงเรียนที่โคตรแมนแต่ไม่ชอบชายใจหญิงอย่างเธอเท่าใดนัก ส่วนพี่รหัสมอ.ห้านั้นเป็นผู้หญิง ซึ่งก็รักสวยรักงาม อีกฝ่ายบ้านรวยมาก มีอะไรก็จะนำมาเผื่อแผ่ให้เสมอ กวีจึงปลื้มพี่รหัสมอ.ห้ามากๆ แต่ความทรงอิทธิพลน้อยกว่าพฤกษ์ ทำให้เธอกับเพื่อนรักอย่างนิลินีโดนแก๊งนรกอย่างแก้วตาและกันต์รังแกเอาได้
“แต่งเพราะหนี้ อยู่ต่อเพราะหัวใจ” ภควัตแต่งงานตามใจมารดา หวังบีบให้ปิ่นมุกขอหย่า แต่ยิ่งเมินยิ่งเห็นว่าเธออยู่ได้อย่างมีความสุข และทำให้ “บ้าน” อบอุ่นขึ้น จนดึงดูดเขาอย่างประหลาด
เธอรักเขาคือเรื่องจริง แต่เขาโกรธเกลียดเธอคือเรื่องจริงเช่นกัน ในเมื่อความรักมันเหนื่อยนัก เธอก็ขอพักใจ ถอยห่างออกมา รอวันหย่าขาดจากพ่อของลูกที่ไม่เคยรักเธอเลย
เมื่อโชคชะตาบังคับให้เขาและเธอซึ่งเป็นคู่กัดต้องกลายเป็นคู่แต่งงานแบบสายฟ้าแลบ! ระหว่างอดีตที่เต็มไปด้วยการปะทะคารม กับปัจจุบันที่ต้องใช้ชีวิตร่วมชายคา... เรื่องวุ่น ๆ จึงเริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่แปรงสีฟันยันหัวใจ เขา...ผู้ชายเจ้าเล่ห์ ขี้แกล้ง และขี้หวงอย่างหนัก เธอ...หญิงสาวปากแข็ง ขี้ประชด แต่แอบอ่อนโยนในทุกความใส่ใจ จากบ้านไม้ริมคลอง กลายเป็นสนามรักและสงครามขนาดย่อม ที่ไม่มีใครยอมใคร แต่หัวใจสองดวงกลับเริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด... เพราะบางที...โชคชะตาอาจไม่ได้บังคับ แต่มันอาจกำลังพาเขาและเธอ... กลับมายังที่ที่เรียกว่า "บ้าน" ด้วยกัน
“เขาคือเจ้าพ่อที่ใครต่างหวาดกลัว แต่กลับยอมสยบให้หญิงสาวที่ทั้งโลกเคยมองว่าไร้ค่า...” เมื่อเธอถูกตราหน้าว่าเป็นเพียงหมากในเกมหมั้นหมาย เขากลับเห็นแสงในตัวเธอ และเลือกจะปกป้องด้วยทั้งชีวิตและหัวใจ ท่ามกลางไฟแค้น อำนาจ และความลับของตระกูล หัวใจของคนสองคนค่อย ๆ สานพันธะรักที่ไม่มีใครลบล้างได้ “เธอคือของฉัน ต่อให้โลกทั้งใบต่อต้าน...ฉันก็จะไม่มีวันปล่อยเธอไป”
เมื่อข่าวฉาวบิดเบือนเปลี่ยนหญิงสาวให้กลายเป็นคนที่เขาเกลียด และเมื่อคำสัญญาเก่าของผู้ใหญ่ พาเธอกลับมาในฐานะ ‘คู่หมั้น’ ที่เขาไม่ต้องการ ลลิล สาวสวยผู้สง่างามและเข้มแข็ง ต้องเผชิญแรงกดดันจากคนในครอบครัว รวมถึง กวิน ชายหนุ่มผู้เย็นชา ผู้มองเธอด้วยสายตาดูแคลน…แต่ไม่อาจละสายตาได้เลย ในความเงียบงันระหว่างพวกเขา...กลับมี ‘หัวใจ’ ที่ค่อย ๆ เรียนรู้กันอย่างไม่รู้ตัว จากความเข้าใจผิด กลายเป็นความผูกพัน จากการดูแคลน กลายเป็นการปกป้อง และจาก ‘คู่หมั้นไร้เสน่หา’ กลายเป็น ‘ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขารัก’
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
ในระยะเวลาสองปีที่แต่งงานกัน เนี่ยเหยียนเซินจู่ๆ ก็เสนอขอหย่า เขาพูดว่า "เธอกลับมาแล้ว เราหย่ากันเถอะ คุณอยากได้อะไรบอกมาได้เลย" ชีวิตการแต่งงานสองปีสู้อีกคนที่หันหลังกลับมาไม่ได้ ตามอย่างที่คนเขาว่ากัน "คนรักเก่าแค่ร้องไห้สักหน่อย คนรักปัจจุบันก็ย่อมแพ้แน่นอน" เหยียนซีไม่ได้โวยวายอะไร เลือกที่จะตอบตกลงและเสนอเงื่อนไขว่า "ฉันต้องการรถซูเปอร์คาร์ที่แพงที่สุดของคุณ" "ได้" "วิลล่าสุดหรูชานเมือง" "ตกลง" "กำไรหลายพันล้านที่หามาในช่วงสองปีนี้ แบ่งคนละครึ่ง" "อะไรนะ"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
เพราะเพื่อน..เธอจึงต้องทำอะไรลับๆ ล่อๆ เป็นเหตุให้เขาเข้าใจผิดคิดว่าเธอแอบชอบ ในขณะเดียวกัน เธอเองก็คิดว่าเขาเป็นเกย์ เพราะสถานการณ์บางอย่างเช่นกัน แล้วความวุ่นวายก็บังเกิด เมื่อเธอดัน…หลงรักเกย์ ‘ฮื่อ! เป็นเกย์นะเว้ยไม่ได้เป็นหวัด รักษาวันเดียวจะหายได้ไง สู้ต่อไปศิศิรา ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ยังไม่มีผัวเป็นตัวเป็นตน เพราะงั้นฉันก็ยังมีหวัง เฮ้อ! อย่างมากก็แค่ผิดหวังล่ะน่า’ ***“สาบานได้ว่าครั้งนี้ผมจะไม่หยุด จนกว่าเรา…จะเป็นของกันและกัน” เขาบอกก่อนจะผละลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ขณะที่สองมือค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อ สองตาก็ยังไม่ยอมเลื่อนไปจากเรือนร่างขาวโพลนตรงหน้า และไอ้สายตาคมกล้าประหนึ่งเสือรอตะครุบเหยื่อของเขาก็ทำให้เธอหนาวๆ ร้อนๆ บอกไม่ถูก “ไม่! เราพวกเดียวกัน เรากินกันไม่ได้” เธอพยายามเตือนสติ เพราะคิดว่าเขาอาจจะกำลังขาดสติ “แต่ผมเคยกินคุณแล้ว แล้วผมก็ชอบกินคุณ” เขาพูดพลางหลุบตามองไปที่แพนตี้ของเธอ ทำเอาเจ้าของแพนตี้ทำตาโต ไม่แน่ใจในคำว่ากินของเขา ที่สำคัญ…กะๆ กินอะไร “มะหมายความว่าไง”
เวินอี่ถงได้เห็นความรักอันลึกซึ้งของเจียงยวี่เหิง แต่ก็ได้สัมผัสกับการทรยศของเขาเช่นกัน เธอเผารูปแต่งงานของพวกเขาต่อหน้าเขา แต่เขากลับมัวแต่ง้อชู้ของเขา ทั้งๆ ที่เขาแค่มองดูแวบหนึ่งก็จะเห็น แต่เขากลับไม่สนใจเวินอี่ถงสุดจะทน ตบหน้าเขาอย่างแรง พร้อมอวยพรให้เขากับชู้ของรักกันยืนยาว แล้วเธอก็หันหลังสมัครเข้ากลุ่มวิจัยลับเฉพาะ ลบข้อมูลประจำตัวทั้งหมด รวมถึงความสัมพันธ์การแต่งงานกับเขาด้วย! ก่อนจากไป เธอยังมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้เขาอีกด้วยเมื่อถึงเวลาที่จะเข้ากลุ่ม เวินอี่ถงก็หายตัวไป บริษัทของเจียงยวี่เหิงประสบปัญหาล้มละลาย เขาจึงออกตามหาเธอด้วยทุกวิถีทาง แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นใบมรณบัตรที่ต้องสงสัยเขาสติแตก “ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่ยอมรับ!”เมื่อพบกันอีกครั้ง เจียงยวี่เหิงต้องตกใจที่พบว่าเวินอี่ถงเปลี่ยนตัวตนใหม่แล้ว โดยข้างกายมีผู้มีอำนาจที่เขาต้องยอมก้มหัวให้เขาอ้อนวอนอย่างสิ้นหวัง “ถงถง ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาเถอะ!”เวินอี่ถงเพียงยิ้มยักคิ้ว จับแขนของผู้มีอำนาจข้างๆ “น่าเสียดาย ตอนนี้ฉันอยู่ในระดับที่นายไม่อาจเอื้อมถึงแล้ว”
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY