"เควิน" เจ้าพ่อมาเฟียและนักสะสมของเก่าผู้ทรงอิทธิพลได้มาเจอกับ "นาลัน" นักศึกษาสาวฐานะยากจนที่ได้นำของปลอมมาขายให้เขา หลังจากที่ถูกจับได้ทำให้นาลันตกอยู่ในที่นั่งลำบาก เควินยื่นข้อเสนอให้นาลันจดทะเบียนสมรสกับเขาเพื่อแลกกับการที่ไม่ต้องมีคดีความ
"เควิน" เจ้าพ่อมาเฟียและนักสะสมของเก่าผู้ทรงอิทธิพลได้มาเจอกับ "นาลัน" นักศึกษาสาวฐานะยากจนที่ได้นำของปลอมมาขายให้เขา หลังจากที่ถูกจับได้ทำให้นาลันตกอยู่ในที่นั่งลำบาก เควินยื่นข้อเสนอให้นาลันจดทะเบียนสมรสกับเขาเพื่อแลกกับการที่ไม่ต้องมีคดีความ
ตอนที่ 1
VIP Customer in the littler bar
[Bar & Restaurant Sathon]
กฎข้อห้ามของการเข้าใช้บริการ
ห้ามสูบบุหรี่
ห้ามทะเลาะวิวาท
‘เควินเฉิน’ มาเฟียหนุ่มร่างสูงโปร่งผิวขาวใบหน้าหล่อเหลาเป็นลูกครึ่งไทยฮ่องกง ที่สำคัญเป็นลูกชายของ ‘เฉินเหย่กง’ มหาเศรษฐีฮ่องกงที่ถูกขนานขามว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพลแห่งเอเชียที่ไม่มีใครกล้าต่อกรด้วย
ทว่าเควินเฉินไม่ได้เดินตามรอยพ่อไปเสียทุกอย่างเขามีธุรกิจที่สร้างด้วยตัวเองอย่างอสังหาริมทรัพย์ในไทย โรงแรมหรูที่มีคาสิโนใต้ดิน รวมถึงร้านขายอัญมณีโบราณสำหรับลูกค้าที่ค่อนข้างมีฐานะ
เควินเฉินถือเป็นนักสะสมวัตถุโบราณตัวยง ไม่ว่าเขาจะไปงานประมูลวัตถุโบราณที่ไหน เขาต้องได้ในสิ่งที่ต้องการกลับมาทุกครั้ง
ข้อมือหนาที่สวมนาฬิกาแบรนด์เนมราคาหลักสิบล้านเดินล้วงกระเป๋ากางเกงขายาวสีดำเข้ามาภายในบาร์นั่งชิวขนาดกลางแห่งหนึ่งซึ่งไม่ได้หรูหราเหมือนบาร์อื่นๆ เหมือนที่พวกไฮโซชอบไปกัน
สองเท้ายาวที่สวมรองเท้าหนังเงาวับก้าวเดินไปยังโต๊ะอาหารที่เพื่อนสนิทนั่งรออยู่ ท่ามกลางบรรดาลูกค้าสาวๆ ที่นั่งดื่มแอลกอฮอล์ชิลๆ อยู่ในร้านต่างสะกิดให้หันมามองหนุ่มหล่อที่กำลังเดินเข้ามาเป็นตาเดียวกันเพราะนานๆ ทีจะมีผู้ชายไทป์ไฮโซราวกับพระเอกซีรีส์แวะเวียนมาที่นี่สักที
“ว่าไงมึง! ไม่ได้เจอกันนานยังฮ็อตเหมือนเดิมนะมึง ผู้หญิงมองเพียบเลยว่ะ” เซ้นต์เพื่อนสนิทเควินในไทยดีกรีลูกชายว่าที่นายกรัฐมนตรีคนต่อไปยืนขึ้นและจับมือทักทายแกมแซวเพื่อนรัก
สองคนนี้สนิทกันมาตั้งแต่เด็ก ทว่าเควินต้องไปย้ายไปฮ่องกงพร้อมกับครอบครัว นานๆ ถึงจะได้เจอหน้ากันสักที
“บอดี้การ์ดมึงอยู่ไหนวะ? กูไม่เห็นสักคน” เซ้นต์เอ่ยถามก่อนจะหันหน้าซ้ายขวาไปมองรอบตัวเควินเพราะปกติเพื่อนของเขาจะพาบอดี้การ์ดมาด้วยตลอด
“กูให้รอข้างนอก บาร์ที่นี่เล็กจะตายห่า ขืนพาเข้ามาด้วยเจ้าของร้านคงคิดว่ากูเอาคนมาถล่มร้านเขาดิ”
จริงอย่างที่เควินบอก บาร์สาธรเรียกได้ว่าเป็นบาร์ลับขนาดกลางซึ่งไม่ใหญ่มาก ถ้าพาบอดี้การ์ดนับสิบคนเข้ามาด้วยทั้งเจ้าของร้านทั้งลูกค้าได้แตกตื่นอย่างแน่นอน
คนที่มาใช้บริการที่นี่มักจะเป็นนักศึกษาไม่ก็พนักงานออฟฟิศทั่วไป ที่สำคัญราคาอาหารและเครื่องดื่มไม่แพงเลยสักนิด
การที่เควินกับเซ้นต์เลือกนัดเจอกันที่บาร์สาธร แต่ไม่นัดเจอกันที่บาร์หรูหราเพราะไม่อยากเจอคนรู้จัก เวลาไปบาร์หรูลักชูทีไร ต้องมีนักธุรกิจไม่ก็พวกไฮโซเข้าหา หรือไม่ก็ขอให้ช่วยเหลือเรื่องธุรกิจตลอด ทั้งคู่จึงตัดรำคาญด้วยการย้ายบาร์หนีเสียเลย
“ก็จริงของมึง ว่าแต่มึงจะมาอยู่ที่ไทยนานป่ะ หรือแค่หนีงานแต่งงานที่ต้องแต่งกับแฟนเก่ามึงชั่วคราว?”
“กูคงอยู่ไทยสักพัก มึงอย่าลืมดิ กูก็มีธุรกิจที่นี่เหมือนกัน ส่วนไอ้เรื่องแต่งงานกูอธิบายป๊ากูไปแล้วว่ากูกับเจนนี่เลิกกันเพราะเข้ากันไม่ได้ ป๊ากูก็ไม่ยอม เซ็งฉิบหาย!” เควินกระดกแอลกอฮอล์เข้าปากเมื่อนึกถึงเรื่องที่กวนใจมาตลอด
“อย่าบอกนะว่า…ป๊ามึงไม่รู้เรื่องที่มึงมาไทย?”
“กูว่าคงรู้แล้วแหละ ยังไงลูกน้องป๊ากูก็คอยรายงานอยู่แล้ว”
“ทำใจเถอะว่ะเควิน กูว่านะยังไงมึงก็หนีงานแต่งไม่พ้นหรอก คนรวยๆ อย่างเราไม่ได้มีชอยซ์ให้เลือกเหมือนคนธรรมดาทั่วไปนะเว้ย” เซ้นต์ตบบ่าเควินเบาเป็นการปลอบใจทางอ้อม ให้ทำใจเสียเนิ่นๆ
“จะยากอะไร กูก็แค่จ้างผู้หญิงสักคนมาแต่งงานกับกูไง มึงเชื่อดิคนที่เดือดร้อนเรื่องเงินมีเยอะแยะ”
เควินยักไหล่เพราะเขาคิดว่าสามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างง่ายดาย
เซ้นต์ได้แต่ส่ายหัว วิธีของเพื่อนเขาไม่ต่างจากการหนีปัญหาเลยสักนิด แต่ก็เข้าใจได้เพราะเควินกับเจนนี่คบหากันห้าปี สุดท้ายก็ไปกันไม่รอด ครั้นจะฝืนให้อยู่ด้วยกันต่อไปก็จะมีแต่ทำให้อึดอัดเปล่าๆ
ทว่าครอบครัวของเจนนี่กับครอบครัวของเควินอยากทั้งคู่ให้เป็นทองแผ่นเดียวกันเพราะเรื่องธุรกิจล้วนๆ กรรมจึงมาตกที่เควินเพื่อนสนิทของเขา
พอพูดเรื่องงานแต่งทีไรเควินไม่สบอารมณ์ทุกที มือหนาหยิบซิการ์ที่พกใส่ตลับขึ้นมาจุดไฟแช็กและพ่นควันขึ้นกลางอากาศ
“ขอโทษนะคะ ไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่ภายในร้านค่ะ” เสียงหวานใสของหญิงสาวที่เอ่ยปากเตือนดังมาจากด้านหลังทำให้เพื่อนรักทั้งสองหันไปมองพร้อมกัน
‘นาลัน’ สาวเชียร์เบียร์คนสวยที่สวมเกาะอกสีแดงรัดรูป กระโปรงสั้นเหนือเข่าเผยให้เห็นต้นขาเนียนขาว ความสวยของเธอทำให้ทั้งเควินและเซ้นต์ต่างจ้องมองตาไม่กระพริบ
ใครจะคิดว่าบาร์เล็กๆจะมีผู้หญิงสวยอย่างกับนางฟ้าทำงานอยู่ด้วย
แต่คำพูดของสาวเชียร์เบียร์คนนี้ดูจะไม่มีผลกับเควินเพราะเขาก็ยังลอยหน้าลอยตาสูบซิการ์ต่อไปโดยไม่แคร์สายตาของเธอ นาลันจึงเอ่ยปากย้ำเตือนเป็นครั้งที่สองเพื่อให้เขาหยุดสูบสักที ทำให้เจ้าตัวรู้สึกหงุดหงิดที่ถูกรบกวนไม่จบไม่สิ้น
ปัณกรณ์'ต้องการที่ดินของ'ณิชา' เขาทำทุกอย่างโดยไม่สนวิธีการ วันที่เธอรู้ตัวว่ากำลังท้องและความจริงถูกเปิดเผยว่าเขาเข้ามาเพื่อประโยชน์ทำให้เธอเดินจากเขาไปด้วยความเสียใจ กระทั่งวนมาเจอกันอีกครั้ง! ตัวอย่าง "แม่ครับ โปรดจะได้มีพ่อเหมือนเพื่อนคนอื่นไหมครับ" "น้องโปรดครับ อยู่กับแม่ คุณตา คุณยาย แล้วก็น้าชยานิด มีความสุขไหมครับ" "มีครับ" "ถ้าอย่างนั้นเราอยู่กันแค่นี้ได้ไหมลูก" "ได้ครับ" ลูกชายสุดที่รักพยักหน้าหงึกเพราะรู้ว่ายังไงแม่ก็คงพาพ่อมาหาตัวเองไม่ได้ ภาพหญิงสาวจูงลูกชายที่สะพายกระเป๋าเป้ออกจากโรงเรียนทำให้ปัณกรณ์ที่นั่งสังเกตการณ์ในรถขมวดคิ้วชนกัน ความเคลือบแคลงสงสัยเริ่มก่อตัวขึ้นเรื่อย ๆ หากมองดูดี ๆ เด็กผู้ชายคนนั้นหน้าตาเหมือนเขาตอนเด็กไม่มีผิด
เพราะปาฏิหาริย์ทำให้ กัญญา' ครูสาวผู้แสนดีฟื้นขึ้นมาในร่างของ 'สรานี' ภรรยาที่ร้ายกาจของคุณนาวี เธอไม่คิดมาก่อนว่าเขาเกลียดภรรยาตัวเองมาก และพยายามหาทางหย่าเพื่อจบความสัมพันธ์อัน toxic นี้ "คุณนาวี" เสียงเรียกในลำคอกับรอยยิ้มเบาบางที่ค่อยๆ ปรากฏบนใบหน้าไฮโซสาว ภายในใจอยากตะโกนบอกให้เขารู้ว่าเธอไม่ใช่สรานี แต่เธอคือครูต่ายคนที่เขาช่วยหาบน้ำที่หมู่บ้านบนดอย แต่กลัวว่าเขาจะไม่เชื่อ ทว่าสีหน้าท่าทางของหญิงสาวที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลค่อนข้างแปลกจนทำให้ชายหนุ่มตรงหน้าถึงกับคิ้วขมวดมุ่น ที่ผ่านมาสรานีไม่เคยยิ้มให้เขาแบบนี้มาก่อน "ไหนว่าความจำเสื่อมไง ก็จำชื่อพี่ได้นี่" คำพูดที่ดูดุดันเย็นชาทำให้กัญญาชะงักไปชั่วขณะ คุณนาวีที่เธอรู้จักเป็นผู้ชายที่สุภาพ อ่อนโยน ไม่น่าพูดจาแข็งกร้าวราวกับเธอเช่นนี้ ที่สำคัญสายตาของเขาไม่เหมือนสายตาของคนใจดีที่เคยช่วยเหลือทุกคนบนหมู่บ้านบนดอย มีเรื่องอะไรที่ทำให้เขาเปลี่ยนไปกันนะ "คือฉัน" "ถ้าไม่ได้ความจำเสื่อมก็ดี งั้นก็เซ็นใบนี้ให้พี่ที" เขาหยิบใบหย่าที่พกติดตัวขึ้นมาวางบนโต๊ะรับแขกเพื่อให้สรานีเซ็น ห๊ะ! อะไรกันเนี่ย? หญิงสาวถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก จู่ๆ มาให้เซ็นใบหย่า แล้วเธอจะเซ็นได้อย่างไรในเมื่อเธอไม่ใช่คุณสรานี มันตัดสินใจแทนกันได้ที่ไหน ซวยชะมัดที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์บ้าๆแบบนี้ ตัวละครหลัก ‘นาวี’ ลูกชายวัยสามสิบของหม่อมหลวงอรัญเขาเป็นชายหนุ่มลูกผู้ดีผู้เพียบพร้อมทุกอย่าง ทว่าถูกบังคับให้แต่งงานกับ ‘สรานี’ ลูกสาวเจ้าสัวสายปาร์ตี้ซึ่งนิสัยต่างกันราวฟ้ากับเหว ความสัมพันธ์อัน TOXIC ทำให้เขาเกลียดเธอจนต้องขอหย่าให้ได้ ทว่าสรานีดันรถชนความจำเสื่อม เธอกลายเป็นอีกคน…. ‘กัญญา’ นักศึกษาจบใหม่วัยยี่สิบสามเธอขึ้นฟื้นขึ้นจากความตายมาอยู่ในร่างของคุณสรานี ก่อนหน้านี้เธอเป็นครูอาสาจากบนดอย อัธยาศัยดีหน้าตาน่ารัก สุภาพ อ่อนโยน มีโรคหัวใจเป็นโรคประจำตัว
คุณปู่ตายทิ้งมรดกเป็นไร่สุดโทรม 500 ไร่ให้สาริน แต่ความรู้ไม่มีต้องปลอมตัวไปฝึกงานที่ไร่คู่แข่งกลับกลายเป็นการป่วนหัวใจของเขมราชเจ้าของไร่ที่ขึ้นชื่อว่า 'ดุยิ่งกว่าราชสีห์’ "การทำงานในไร่อาจจะไม่ง่ายอย่างที่คิด แต่การเรียนรู้เรื่องหัวใจ อาจจะยากยิ่งกว่า" ......................................................... หลังจากเขมราชฟื้นขึ้นจากการถูกตีบริเวณศีรษะ เขาหันไปถามพยาบาลประจำไร่สองคนด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวว่ายัยตัวต้นเรื่องที่ทำให้เขาบาดเจ็บอยู่ไหนซึ่งพวกเธอก็ชี้ไปด้านหน้าออฟฟิศ "เธอ..." เขาเอ่ยเสียงต่ำ แต่แฝงไปด้วยความเยือกเย็น ตอนนี้ชีวิตของเธอไม่ต่างจากลูกไก่ในกำมือเขา "ฉะ ฉัน... ฉันขอโทษค่ะ ก็เห็นคุณก้ม ๆ เงย ๆ คิดว่ามาขโมยของ" ริมฝีปากบางพยายามเอ่ยอธิบายทั้งที่ยังตื่นตกใจ เขมราชกัดฟันกรอด กำมือแน่น มองหน้าเธออย่างไม่เชื่อสายตา "ขโมยบ้าอะไร ฉันเป็นเจ้าของไร่ภูเคียงชล!" สารินหน้าซีด เธอรู้ว่าตัวเองทำพลาดครั้งใหญ่ ทีนี้จะทำอย่างไรดี หวังว่าเขาคงไม่ไล่ตะเพิดเหมือนที่คิดไว้ ทว่าคำพูดของเขาดันตรงกับสิ่งที่ตรงคิดไว้เป๊ะ "ออกไปจากไร่ฉันเดี๋ยวนี้" ซวยแล้วเขาไล่เธอจริง ๆ ด้วย สารินต้องรีบคิดหาวิธีขออยู่ต่อเพราะเธอไม่อยากสูญเสียโอกาสในการเรียนรู้การทำไร่ ในที่สุดสารินก็ทรุดตัวลงกอดขาของเขา "ฮืออออ คุณเขมราช!!! ได้โปรดเถอะค่ะ ฉันต้องการงานนี้จริง ๆ ฉันมาจากกรุงเทพ โดนไล่ออกจากงานแม่บ้านทำให้ต้องหางานที่นี่ ช่วยให้โอกาสฉันด้วย ฮึก ฮืออออออ" สารินแสร้งทำเป็นร้องไห้โฮทั้งที่ไม่มีน้ำตาสักหยด ไม่ว่าจะสาธยายความน่าสงสารของตัวเองมากแค่ไหน เขมราชก็ไม่สนใจ ตอนนี้เธอเหมือนคนบ้าในสายตาเขา รวมถึงคนงานคนอื่นที่มองมาอีกด้วย ตัวละครหลัก เขมราช ครองกิตติประเสริฐ หรือนายเขม อายุ 26 ปี เจ้าของไร่ภูเคียงชล หล่อ สูง หน้าคมเป็นผู้มีอิทธิพลและกว้างขวางในเขตภาคเหนือ เขาเป็นเจ้านายใจดี อ่อน โยนมีเมตตากับลูกน้อง ตั้งแต่อกหักรักจากนางเอกสาวทำให้เขาต้องเปลี่ยนเป็นคน ไม่ดูแลตัวเอง และดุขึ้นกว่าเดิม รอวันที่มีใครสักคนมาทลายกำแพงหัวใจ สาริน ปิ่นประดับเพ็ญ หรือ สา อายุ 23 ปี ดีไซเนอร์สาวถังแตกจากนอเวย์ ได้รับมรดกเป็นไร่ภิรมย์รินจากคุณปู่ แต่ทำไร่ไม่เป็นทำให้ต้องปลอมตัวไปฝึกงานในไร่คู่แข่งซึ่งการเจอกันระหว่างสารินกับเขมราชทำให้เขาสงสัยในตัวเธอและหาทางจับผิดสารพัด
คุณหนูไฮโซยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เขารัก แต่ก็สุดท้ายก็ไม่ได้ผล เธอยอมแพ้ และเลือกเดินจากไปพร้อมของขวัญที่เขาทิ้งไว้ให้คือลูกในท้อง! ตัวอย่าง อติกานต์มองไกลๆก็รู้สึกคลับคล้ายคลับคราผู้หญิงคนนั้นอย่างบอกไม่ถูก... มือหนาถอดแว่นกันแดดออก เขาขยี้ตาอีกครั้ง และพบว่าผู้หญิงที่กำลังคุยกับชาวต่างชาติคนนั้นคืออิงชนา! เธอก็กำลังท้องอยู่... ที่สำคัญเธอท้องโตจนใกล้จะคลอดแล้วด้วย! อติกานต์แทบทรุดเมื่อรู้ว่าอิงชนากำลังท้อง คำถามมากมายผุดขึ้นเต็มหัวไปหมด ทำไมเธอถึงไม่บอกเขาสักคำ ทั้งๆที่เด็กในท้องก็คือลูกเขาเช่นกัน!
'คุณหมอเกี่ยวก้อย' บุกไปตามน้องชายที่ทำตัวเกเรเป็นลูกน้อง 'พุฒิธร' นักเลงหน้าหล่อขวัญใจสาวๆ แต่ตามไปตามมาดันพลาดท้องซะงั้น! ตัวอย่าง ขณะที่กำลังจะก้าวออกจากร้านกาแฟ ประตูร้านถูกผลักออกไปอย่างแรงโดยไม่ทันระวัง หมอเกี่ยวก้อยชนเข้ากับใครบางคนอย่างจัง "ขอโทษค่ะ!" เธอรีบกล่าวคำขอโทษทันทีทำให้เอกสารที่อยู่ในมือปลิวกระจัดกระจายไปทั่วพื้น "ไม่เป็นไรครับ ผมช่วยเก็บ" เสียงของชายคนนั้นฟังดูสุภาพและใจดีเกินกว่าที่เธอคาดไว้ เขาก้มลงช่วยเก็บเอกสาร เมื่อเงยหน้าขึ้นสบตากัน หัวใจของเธอแทบหยุดเต้น พุฒิธร! เขาคือพ่อของลูก! คนที่เธอพยายามหลีกเลี่ยงมาตลอดหลายปี ร่างสูงสวมเสื้อเชิ้ตแบรนด์หรู กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าหนัง ดูภูมิฐานราวกับคนละคนกับในอดีต เขาเคยเป็นนักเลงทวงหนี้แห่งบ้านดอนนาหอมแน่เหรอ "คุณ...มาที่นี่ได้ยังไง?" หมอเกี่ยวก้อยถามเสียงสั่น
เพราะว่า...การช่วยตัวเอง...ในที่ทำงานมันผิด!! “โดนของจริงดีกว่าไหมครับ...แค่นิ้ว...มันคงไม่อาจจะสนองความต้องการของคุณได้” นี่จึงเป็นบทลงโทษที่เธอต้องรับมันไป...โทษฐานที่ทำให้ท่านประธานอย่างเขาจับได้...!!
ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
ยัยเด็กขาดสารอาหารคนนี้หรอ คือลูกสาวคนใหม่ของแม่.. เด็กอะไร ขวางหูขวางตาชะมัด เจอหน้ากันเอาแต่ก้มหน้าหลบตา แต่ทำไมยัยเด็กนี่ถึงสวยวันสวยคืน..ถ้าเขาจะแอบกินเด็กของแม่..จะผิดไหม
กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด