คะนึงนิจรักเขาจึงยอมยกทุกอย่างให้เขาทั้งตัวและหัวใจ แต่เขาเพียงแค่หลอกกินฟรี เตะถ่วงเวลาออกไปเพื่อไปหาผู้หญิงที่ดีกว่า ในเมื่อเขาเห็นเธอเป็นของไร้ค่า เธอก็พร้อมที่จะเดินออกมาจากชีวิตของเขา โดยไม่เสียดายผู้ชายหลอกลวงอย่างฉัฐดนัยเลย
คะนึงนิจรักเขาจึงยอมยกทุกอย่างให้เขาทั้งตัวและหัวใจ แต่เขาเพียงแค่หลอกกินฟรี เตะถ่วงเวลาออกไปเพื่อไปหาผู้หญิงที่ดีกว่า ในเมื่อเขาเห็นเธอเป็นของไร้ค่า เธอก็พร้อมที่จะเดินออกมาจากชีวิตของเขา โดยไม่เสียดายผู้ชายหลอกลวงอย่างฉัฐดนัยเลย
1
ร่างของคะนึงนิจสั่นสะท้านไปตามแรงรักของคนเหนือร่าง เขากอบกุมใบหน้านวลเนียนของเธอเอาไว้ จุมพิตอย่างดูดดื่มพร้อมกับสะโพกสอบที่กระแทกกระทั้นหนักหน่วงขึ้น เธอครวญครางแทบขาดใจก่อนที่เขาจะเสร็จสม
ฉัฐดนัยพลิกร่างลงจากร่างเนียนหอมหวานที่เขาเสพกินไม่รู้จักเบื่อ ก่อนจะหลับตาลงอย่างเป็นสุข
“พี่ฉัฐอยากกินอะไรไหมคะ คะขาจะทำให้กิน” คะนึงนิจเอ่ยถามอย่างเอาใจ
“อะไรก็ได้ครับ” เขาตอบรับเสียงนุ่มก่อนจะหลับไป เธอมองใบหน้าคนที่นอนคว่ำด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะลุกจากเตียงไปทำอาหารที่เขาชอบให้เขากิน
การคบกันของเธอกับเขาเป็นความลับ แอบคบกันด้วยความเต็มใจของเธอกับเขาเอง
ฉัฐดนัยเป็นเพื่อนกับชินวุฒิ พี่ชายของชรัณพร เพื่อนสนิทของเธอ ในขณะที่เธอเป็นแค่เด็กสาวยากจนได้รับทุนการศึกษาถึงได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยชื่อดัง
ในสายตาของทุกคนเธอคือหญิงสาวแสนเชยและไม่มีเพื่อนนอกจากชรัณพร อาจเพราะฐานะทางสังคมที่มีอิทธิพลกับการคบหากันในสังคมปัจจุบัน
เธอไม่คิดว่าฉัฐดนัยจะเข้ามาจีบเธอเสียด้วยซ้ำ เขาเคยช่วยเธอเอาไว้จากการโดนพวกนักเลงอันธพาลข่มเหง และช่วยเธอขึ้นจากสระว่ายน้ำที่บ้านของชรัณพรเมื่อเธอโดนแกล้งจนจมน้ำ
เพื่อนของเขาไม่ค่อยชอบเธอนัก เรียกเธอว่ายายเชยตลอด และเพื่อนของชรัณพรก็ไม่ชอบเธอเช่นกัน ในสายตาของคนอื่นเธอคือแกะดำในกลุ่ม แต่ชรัณพรนั้นเป็นคนดี ไม่ได้คบเธอที่ฐานะ แต่คบด้วยใจ
เพื่อไม่ให้มีปัญหาตามมา การคบกันของเธอกับเขาจึงเป็นความลับ ซึ่งเธอคิดว่าฉัฐดนัยเป็นคนดี การคบกับเขาไม่จำเป็นประกาศให้ชาวโลกรับรู้ก็ได้ ขอแค่เขาดีกับเธอก็พอแล้ว
คะนึงนิจทำสปาเก็ตตี้ทะเลน้ำพริกเผาของโปรดของฉัฐดนัยเสร็จก็ยิ้มออกมา กำลังจะเดินไปปลุกให้เขาตื่นมากินด้วยกัน เขาก็โผล่หน้าเข้ามาในห้องครัวพอดี
“พี่ฉัฐตื่นแล้วเหรอคะ”
“ครับ พี่ต้องออกไปข้างนอกก่อนนะครับ” ฉัฐดนัยที่กำลังกลัดกระดุมเสื้อเอ่ยกับหญิงสาว เขาเป็นคนพูดจาสุภาพเรียบร้อยน่าฟังเสมอเวลาอยู่กับเธอ เขาไม่เคยพูดไม่ดีกับเธอเลยสักครั้ง
“แล้วสปาเก็ตตี้ล่ะคะ คะขาทำสปาเก็ตตี้ทะเลน้ำพริกเผาที่พี่ชอบให้ด้วยนะคะ” คะนึงนิจหน้าซีดไปในทันที ผิดหวังที่อุตส่าห์ทำอาหารแล้วเขาไม่กิน
“คะขากินไปคนเดียวได้ไหมครับ พี่ต้องออกไปหาเพื่อน”
“ธุระสำคัญเหรอคะ” เธออยากให้เขาคิดถึงเธอเป็นคนแรกบ้าง แต่เวลาเพื่อนโทร. มา เขาก็รีบออกไปทันที เขาทิ้งเธอทุกครั้งเพื่อไปหาคนอื่น บางทีก็รู้สึกน้อยใจอยู่เหมือนกัน
“อย่าน้อยใจไปเลยนะครับ เอาไว้วันหลังพี่จะมากินด้วยนะครับ คะขาออกจากห้องพี่ล็อกประตูให้ด้วยนะครับคนดี” ฉัฐดนัยดึงเธอมากอด ก่อนจะจุ๊บหน้าผากเธอเบา ๆ แล้วเขาก็ผละออกห่าง
เธอปลอบใจตัวเองว่าเขาคงมีธุระสำคัญจริงๆ
คะนึงนิจไม่รู้สึกหิวเลยสักนิด เธอกินไม่ลงจึงจัดการกับอาหาร และเปลี่ยนไปทำความสะอาดห้องและซักเสื้อผ้าให้เขาแทน
การได้ดูแลเขาในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้เข้ามาอยู่ในชีวิตของเขาทำให้เธอรู้สึกดี เพราะไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนได้ทำแบบนี้
ฉัฐดนัยกลับมาอีกครั้งก็ยังเจอคะนึงนิจอยู่ที่ห้อง เธอกำลังจัดการเก็บกวาดห้องของเขาอยู่ ทำให้เขาต้องขมวดคิ้วเข้าหากัน
“คะขายังไม่กลับเหรอครับ”
“อุ๊ย! พี่ฉัฐ คะขาช่วยทำความสะอาดห้อง ซักเสื้อผ้า แล้วก็จัดของให้พี่น่ะค่ะ เลยยังไม่กลับ” เธออุทานเพราะจู่ ๆ เขาก็โผล่กลับมา และกลับมาเร็วกว่าที่เธอคิดเอาไว้เสียอีก
“พี่บอกแล้วไงว่าไม่ต้องทำ เหนื่อยเปล่า ๆ เดี๋ยวพี่ให้แม่บ้านมาจัดการเองครับ แล้วพี่ก็ไม่ชอบให้ใครมาย้ายข้าวของของพี่โดยพละการด้วย” ประโยคของเขาดูซีเรียสจนเธออึ้งไป
“คะขาขอโทษค่ะ ถ้าทำให้พี่ฉัฐหงุดหงิดใจ คะขาแค่อยากช่วยจัดของเท่านั้น”
“มันใช่หน้าที่ไหม”
“เอ่อ...”
“ไอ้ฉัฐคุยอยู่กับใครวะ” เสียงเอ่ยถามคือเสียงของปกรณ์ เพื่อนของฉัฐดนัย และตามมาด้วยชิน
วุฒิ สองหนุ่มเห็นคะนึงนิจเข้าก็ถึงกับผิวปากแซวในทันที
“มีสาวรออยู่ที่ห้องนี่เอง ถึงได้รีบกลับมา น้องคะขามาทำอะไรเหรอครับ” ปกรณ์เอ่ยถาม สีหน้าและแววตาทำให้คะนึงนิจหน้าร้อนผ่าว อาจเพราะเรื่องของเธอกับเขาคงไม่เป็นความลับอีกแล้ว
จะว่าไปถึงเธอกับฉัฐดนัยจะแอบคบกัน แต่หลายครั้งเธอก็รู้สึกว่าเพื่อนของเขารับรู้เรื่องนี้ด้วย
“เอ่อ...” คะนึงนิจอึกอัก เหลือบไปมองฉัฐดนัย เขาจึงเป็นคนตอบคำถามนั้นเสียเอง
“คะขามาช่วยทำงานบ้านน่ะ ฉันจ้างเขาเอง” ประโยคของเขาทำให้คะนึงนิจเม้มปากเล็กน้อย โดนเจอจะ ๆ แบบนี้เขาก็ยังไม่บอกสถานะของเธอ
บางทีเธอก็รู้สึกไร้ค่าอย่างที่สุด
“กำลังจะกลับแล้วล่ะ” คะนึงนิจอึ้งไปอีกรอบที่ได้ยินประโยคนั้นจากคนรัก เขากำลังไล่เธอ
จะเรียกว่าเธอเป็นคนรักของเขาได้ไหมนะ เขาไม่เคยแนะนำเธอในฐานะคนรักให้ใครได้รับรู้เลยสักครั้ง
เมื่อโชคชะตาบังคับให้เขาและเธอซึ่งเป็นคู่กัดต้องกลายเป็นคู่แต่งงานแบบสายฟ้าแลบ! ระหว่างอดีตที่เต็มไปด้วยการปะทะคารม กับปัจจุบันที่ต้องใช้ชีวิตร่วมชายคา... เรื่องวุ่น ๆ จึงเริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่แปรงสีฟันยันหัวใจ เขา...ผู้ชายเจ้าเล่ห์ ขี้แกล้ง และขี้หวงอย่างหนัก เธอ...หญิงสาวปากแข็ง ขี้ประชด แต่แอบอ่อนโยนในทุกความใส่ใจ จากบ้านไม้ริมคลอง กลายเป็นสนามรักและสงครามขนาดย่อม ที่ไม่มีใครยอมใคร แต่หัวใจสองดวงกลับเริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด... เพราะบางที...โชคชะตาอาจไม่ได้บังคับ แต่มันอาจกำลังพาเขาและเธอ... กลับมายังที่ที่เรียกว่า "บ้าน" ด้วยกัน
“เขาคือเจ้าพ่อที่ใครต่างหวาดกลัว แต่กลับยอมสยบให้หญิงสาวที่ทั้งโลกเคยมองว่าไร้ค่า...” เมื่อเธอถูกตราหน้าว่าเป็นเพียงหมากในเกมหมั้นหมาย เขากลับเห็นแสงในตัวเธอ และเลือกจะปกป้องด้วยทั้งชีวิตและหัวใจ ท่ามกลางไฟแค้น อำนาจ และความลับของตระกูล หัวใจของคนสองคนค่อย ๆ สานพันธะรักที่ไม่มีใครลบล้างได้ “เธอคือของฉัน ต่อให้โลกทั้งใบต่อต้าน...ฉันก็จะไม่มีวันปล่อยเธอไป”
เมื่อข่าวฉาวบิดเบือนเปลี่ยนหญิงสาวให้กลายเป็นคนที่เขาเกลียด และเมื่อคำสัญญาเก่าของผู้ใหญ่ พาเธอกลับมาในฐานะ ‘คู่หมั้น’ ที่เขาไม่ต้องการ ลลิล สาวสวยผู้สง่างามและเข้มแข็ง ต้องเผชิญแรงกดดันจากคนในครอบครัว รวมถึง กวิน ชายหนุ่มผู้เย็นชา ผู้มองเธอด้วยสายตาดูแคลน…แต่ไม่อาจละสายตาได้เลย ในความเงียบงันระหว่างพวกเขา...กลับมี ‘หัวใจ’ ที่ค่อย ๆ เรียนรู้กันอย่างไม่รู้ตัว จากความเข้าใจผิด กลายเป็นความผูกพัน จากการดูแคลน กลายเป็นการปกป้อง และจาก ‘คู่หมั้นไร้เสน่หา’ กลายเป็น ‘ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขารัก’
"เราเคยสัญญากัน...ใต้ดาวดวงนั้น ว่าจะไม่ทิ้งกันไปไหน แต่บางครั้ง...การจากลาไม่ได้เกิดจากคนที่อยากไป และเมื่อเราได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง คำสัญญานั้น...ยังจะมีความหมายอยู่ไหม"
“เธอคือเจ้าสาวที่เขาไม่ต้องการ แต่กลับเป็นผู้หญิงที่เขาไม่อาจปล่อยไปได้” แต่เมื่อเขายิ่งอยู่ใกล้เธอ เขากลับยิ่งอยากครอบครองเธอทั้งตัวและหัวใจ ทว่าเธอไม่ใช่หมากให้เขาควบคุม เขาต่างหากที่จะถูกเธอควบคุมและยอมจำนนรักต่อเธอ
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
หยางซูมี่บุตรีคนโตแห่งจวนเสนาบดี จำต้องแต่งเข้ามาเป็นพระชายาของอ๋องทมิฬตามบัญชาของฮ่องเต้แต่ในเมื่อนางแต่งเข้ามา สามีเฉยชา ไม่สนใจนาง ทั้งยังแต่งชายารองเข้ามา ทำไมนางต้องเอาชีวิตไปผูกกับเขาด้วย
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
เมื่อเพื่อนรักที่ไว้ใจแอบทรยศคบกับชายที่ตนรัก และชายที่ตนรักกลับรังเกียจตนจนไม่แม้แต่จะแตะต้องเนื้อตัวเธอ สิ่งที่เธอทำได้คือต่างคนต่างอยู่ แต่ในวังหลังแห่งนี้เธอจะทำอย่างนั้นได้จริงหรือ? ตัวอย่างเนื้อเรื่อง “เจ้ามีอันใดจะกล่าวหรือไม่... สนมหลี่กุ้ยเฟย” น้ำเสียงราบเรียบก่อนจะเน้นที่ละคำในประโยคท้ายอย่างหนักแน่น “ฮองเฮาแน่ใจแล้วหรือเพคะ ว่าจะให้หม่อมฉันทูลทุกอย่างต่อหน้าข้าราชบริพารเหล่านี้ หากมีข่าวแพร่ออกไปอีก ฮองเฮาทรงทนฟังคำนินทาเหล่านั้นได้หรือไม่” หลี่ฟางซินกล่าวพร้อมยิ้มอ่อนๆ หลี่ฟางซินย่อมรู้ดีว่าเย่วลี่อิงคงได้ยินคำนินทาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วจึงได้พูดเน้นย้ำ หวังจะกระตุ้นให้นางลงมือทำร้ายตน “คำนินทาเรื่องใดกัน เรื่องที่เจ้าเป็นนางอสรพิษนะหรือ เหตุใดเราจะทนฟังไม่ได้เล่า” เย่วลี่อิงตรัสพร้อมยักไหล่อย่าไม่แยแส มีหรือเย่วลี่อิงจะดูไม่ออกว่า ข่าวลือที่แพร่ออกไปนั้นมาจากผู้ใด หากเป็นแต่ก่อนนางย่อมไม่คิดว่าเป็นสหายคนสนิทของนางเป็นแน่ แต่บัดนี้นางรู้แล้วว่าหญิงที่ยืนตรงหน้านางหาใช่สตรีอ่อนหวานแสนดีอย่างที่นางรู้จักไม่ “หม่อมฉันเป็นนางอสรพิษตั้งแต่เมื่อใดกันเพคะ หม่อมฉันและฝ่าบาทมีใจรักใคร่กันมาเนิ่นนาน หากไม่ใช่เพราะฮองเฮาใช้ความดีของท่านแม่ทัพทูลขอให้ฮ่องเต้องค์ก่อนพระราชทานงานแต่ง วันนี้ตำแหน่งฮองเฮาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นของใคร” “เจ้านางแพศยา หากเจ้ามีใจให้ฝ่าบาท แล้วทำไมไม่บอกข้า ยังแสดงแกล้งเป็นแม่สื่อนำของที่ข้ามอบให้ฝ่าบาท ฝากผ่านพี่ชายเจ้าช่วยมอบของให้ฝ่าบาทแทนข้า” เย่วลี่อิงเริ่มพูดด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “ของอันใดกันเพคะ หม่อมฉันไม่เคยนำของ ของพระองค์มอบให้ฝ่าบาทเลยนะเพคะ ยิ่งให้พี่ชายช่วยส่งแทนให้ยิ่งมิเคย” น้ำเสียงเยาะเย้ยบวกกับรอยยิ้มยียวนของหลี่ฟางซินทำให้เย่วลี่อิงหัวเสียมากขึ้น “นี้เจ้าเอาของของเราไปทิ้งอย่างนั้นหรือ” “ฮองเฮาพูดถึงเรื่องอะไรเพคะ หม่อมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย พระองค์อย่าได้ใส่ความหม่อมฉันสิเพคะ” “นี้เจ้า”
"ชะตากรรมพลิกผันอย่างกะทันหันทำให้เฮเลน่าได้พบกับบุคคลสำคัญและมีอิทธิพล ต่อหน้าผู้คน เธอดูเหมือนสาวงามไร้เดียงสา แต่แท้จริงแล้วเธอเป็นผู้มีอิทธิพลที่ซ่อนเร้นตัวตนไว้หลายตัวตน ชาร์ลีประกาศว่า “เธอค่อนข้างอ่อนไหวและบาดเจ็บได้ง่าย ถ้าขัดใจเธอ คุณก็ขัดใจฉัน” ตระกูลชั้นสูงที่โดนงเฮเลน่าจัดการจนต้องยอมนั้นทำได้แต่ปิดปากเงียบ ในที่สุด เฮเลน่าก็หลุดจากชาร์ลีได้ และทำเขาออกล่าทั่วโลกอย่างบ้าคลั่ง สำหรับเขา เธอเป็นนกที่มีปีกเป็นประกาย และเป้าหมายของเขาคือการช่วยให้เธอไปถึงจุดสูงสุด"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด