คะนึงนิจรักเขาจึงยอมยกทุกอย่างให้เขาทั้งตัวและหัวใจ แต่เขาเพียงแค่หลอกกินฟรี เตะถ่วงเวลาออกไปเพื่อไปหาผู้หญิงที่ดีกว่า ในเมื่อเขาเห็นเธอเป็นของไร้ค่า เธอก็พร้อมที่จะเดินออกมาจากชีวิตของเขา โดยไม่เสียดายผู้ชายหลอกลวงอย่างฉัฐดนัยเลย
คะนึงนิจรักเขาจึงยอมยกทุกอย่างให้เขาทั้งตัวและหัวใจ แต่เขาเพียงแค่หลอกกินฟรี เตะถ่วงเวลาออกไปเพื่อไปหาผู้หญิงที่ดีกว่า ในเมื่อเขาเห็นเธอเป็นของไร้ค่า เธอก็พร้อมที่จะเดินออกมาจากชีวิตของเขา โดยไม่เสียดายผู้ชายหลอกลวงอย่างฉัฐดนัยเลย
1
ร่างของคะนึงนิจสั่นสะท้านไปตามแรงรักของคนเหนือร่าง เขากอบกุมใบหน้านวลเนียนของเธอเอาไว้ จุมพิตอย่างดูดดื่มพร้อมกับสะโพกสอบที่กระแทกกระทั้นหนักหน่วงขึ้น เธอครวญครางแทบขาดใจก่อนที่เขาจะเสร็จสม
ฉัฐดนัยพลิกร่างลงจากร่างเนียนหอมหวานที่เขาเสพกินไม่รู้จักเบื่อ ก่อนจะหลับตาลงอย่างเป็นสุข
“พี่ฉัฐอยากกินอะไรไหมคะ คะขาจะทำให้กิน” คะนึงนิจเอ่ยถามอย่างเอาใจ
“อะไรก็ได้ครับ” เขาตอบรับเสียงนุ่มก่อนจะหลับไป เธอมองใบหน้าคนที่นอนคว่ำด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะลุกจากเตียงไปทำอาหารที่เขาชอบให้เขากิน
การคบกันของเธอกับเขาเป็นความลับ แอบคบกันด้วยความเต็มใจของเธอกับเขาเอง
ฉัฐดนัยเป็นเพื่อนกับชินวุฒิ พี่ชายของชรัณพร เพื่อนสนิทของเธอ ในขณะที่เธอเป็นแค่เด็กสาวยากจนได้รับทุนการศึกษาถึงได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยชื่อดัง
ในสายตาของทุกคนเธอคือหญิงสาวแสนเชยและไม่มีเพื่อนนอกจากชรัณพร อาจเพราะฐานะทางสังคมที่มีอิทธิพลกับการคบหากันในสังคมปัจจุบัน
เธอไม่คิดว่าฉัฐดนัยจะเข้ามาจีบเธอเสียด้วยซ้ำ เขาเคยช่วยเธอเอาไว้จากการโดนพวกนักเลงอันธพาลข่มเหง และช่วยเธอขึ้นจากสระว่ายน้ำที่บ้านของชรัณพรเมื่อเธอโดนแกล้งจนจมน้ำ
เพื่อนของเขาไม่ค่อยชอบเธอนัก เรียกเธอว่ายายเชยตลอด และเพื่อนของชรัณพรก็ไม่ชอบเธอเช่นกัน ในสายตาของคนอื่นเธอคือแกะดำในกลุ่ม แต่ชรัณพรนั้นเป็นคนดี ไม่ได้คบเธอที่ฐานะ แต่คบด้วยใจ
เพื่อไม่ให้มีปัญหาตามมา การคบกันของเธอกับเขาจึงเป็นความลับ ซึ่งเธอคิดว่าฉัฐดนัยเป็นคนดี การคบกับเขาไม่จำเป็นประกาศให้ชาวโลกรับรู้ก็ได้ ขอแค่เขาดีกับเธอก็พอแล้ว
คะนึงนิจทำสปาเก็ตตี้ทะเลน้ำพริกเผาของโปรดของฉัฐดนัยเสร็จก็ยิ้มออกมา กำลังจะเดินไปปลุกให้เขาตื่นมากินด้วยกัน เขาก็โผล่หน้าเข้ามาในห้องครัวพอดี
“พี่ฉัฐตื่นแล้วเหรอคะ”
“ครับ พี่ต้องออกไปข้างนอกก่อนนะครับ” ฉัฐดนัยที่กำลังกลัดกระดุมเสื้อเอ่ยกับหญิงสาว เขาเป็นคนพูดจาสุภาพเรียบร้อยน่าฟังเสมอเวลาอยู่กับเธอ เขาไม่เคยพูดไม่ดีกับเธอเลยสักครั้ง
“แล้วสปาเก็ตตี้ล่ะคะ คะขาทำสปาเก็ตตี้ทะเลน้ำพริกเผาที่พี่ชอบให้ด้วยนะคะ” คะนึงนิจหน้าซีดไปในทันที ผิดหวังที่อุตส่าห์ทำอาหารแล้วเขาไม่กิน
“คะขากินไปคนเดียวได้ไหมครับ พี่ต้องออกไปหาเพื่อน”
“ธุระสำคัญเหรอคะ” เธออยากให้เขาคิดถึงเธอเป็นคนแรกบ้าง แต่เวลาเพื่อนโทร. มา เขาก็รีบออกไปทันที เขาทิ้งเธอทุกครั้งเพื่อไปหาคนอื่น บางทีก็รู้สึกน้อยใจอยู่เหมือนกัน
“อย่าน้อยใจไปเลยนะครับ เอาไว้วันหลังพี่จะมากินด้วยนะครับ คะขาออกจากห้องพี่ล็อกประตูให้ด้วยนะครับคนดี” ฉัฐดนัยดึงเธอมากอด ก่อนจะจุ๊บหน้าผากเธอเบา ๆ แล้วเขาก็ผละออกห่าง
เธอปลอบใจตัวเองว่าเขาคงมีธุระสำคัญจริงๆ
คะนึงนิจไม่รู้สึกหิวเลยสักนิด เธอกินไม่ลงจึงจัดการกับอาหาร และเปลี่ยนไปทำความสะอาดห้องและซักเสื้อผ้าให้เขาแทน
การได้ดูแลเขาในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้เข้ามาอยู่ในชีวิตของเขาทำให้เธอรู้สึกดี เพราะไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนได้ทำแบบนี้
ฉัฐดนัยกลับมาอีกครั้งก็ยังเจอคะนึงนิจอยู่ที่ห้อง เธอกำลังจัดการเก็บกวาดห้องของเขาอยู่ ทำให้เขาต้องขมวดคิ้วเข้าหากัน
“คะขายังไม่กลับเหรอครับ”
“อุ๊ย! พี่ฉัฐ คะขาช่วยทำความสะอาดห้อง ซักเสื้อผ้า แล้วก็จัดของให้พี่น่ะค่ะ เลยยังไม่กลับ” เธออุทานเพราะจู่ ๆ เขาก็โผล่กลับมา และกลับมาเร็วกว่าที่เธอคิดเอาไว้เสียอีก
“พี่บอกแล้วไงว่าไม่ต้องทำ เหนื่อยเปล่า ๆ เดี๋ยวพี่ให้แม่บ้านมาจัดการเองครับ แล้วพี่ก็ไม่ชอบให้ใครมาย้ายข้าวของของพี่โดยพละการด้วย” ประโยคของเขาดูซีเรียสจนเธออึ้งไป
“คะขาขอโทษค่ะ ถ้าทำให้พี่ฉัฐหงุดหงิดใจ คะขาแค่อยากช่วยจัดของเท่านั้น”
“มันใช่หน้าที่ไหม”
“เอ่อ...”
“ไอ้ฉัฐคุยอยู่กับใครวะ” เสียงเอ่ยถามคือเสียงของปกรณ์ เพื่อนของฉัฐดนัย และตามมาด้วยชิน
วุฒิ สองหนุ่มเห็นคะนึงนิจเข้าก็ถึงกับผิวปากแซวในทันที
“มีสาวรออยู่ที่ห้องนี่เอง ถึงได้รีบกลับมา น้องคะขามาทำอะไรเหรอครับ” ปกรณ์เอ่ยถาม สีหน้าและแววตาทำให้คะนึงนิจหน้าร้อนผ่าว อาจเพราะเรื่องของเธอกับเขาคงไม่เป็นความลับอีกแล้ว
จะว่าไปถึงเธอกับฉัฐดนัยจะแอบคบกัน แต่หลายครั้งเธอก็รู้สึกว่าเพื่อนของเขารับรู้เรื่องนี้ด้วย
“เอ่อ...” คะนึงนิจอึกอัก เหลือบไปมองฉัฐดนัย เขาจึงเป็นคนตอบคำถามนั้นเสียเอง
“คะขามาช่วยทำงานบ้านน่ะ ฉันจ้างเขาเอง” ประโยคของเขาทำให้คะนึงนิจเม้มปากเล็กน้อย โดนเจอจะ ๆ แบบนี้เขาก็ยังไม่บอกสถานะของเธอ
บางทีเธอก็รู้สึกไร้ค่าอย่างที่สุด
“กำลังจะกลับแล้วล่ะ” คะนึงนิจอึ้งไปอีกรอบที่ได้ยินประโยคนั้นจากคนรัก เขากำลังไล่เธอ
จะเรียกว่าเธอเป็นคนรักของเขาได้ไหมนะ เขาไม่เคยแนะนำเธอในฐานะคนรักให้ใครได้รับรู้เลยสักครั้ง
“แต่งเพราะหนี้ อยู่ต่อเพราะหัวใจ” ภควัตแต่งงานตามใจมารดา หวังบีบให้ปิ่นมุกขอหย่า แต่ยิ่งเมินยิ่งเห็นว่าเธออยู่ได้อย่างมีความสุข และทำให้ “บ้าน” อบอุ่นขึ้น จนดึงดูดเขาอย่างประหลาด
เธอรักเขาคือเรื่องจริง แต่เขาโกรธเกลียดเธอคือเรื่องจริงเช่นกัน ในเมื่อความรักมันเหนื่อยนัก เธอก็ขอพักใจ ถอยห่างออกมา รอวันหย่าขาดจากพ่อของลูกที่ไม่เคยรักเธอเลย
เมื่อโชคชะตาบังคับให้เขาและเธอซึ่งเป็นคู่กัดต้องกลายเป็นคู่แต่งงานแบบสายฟ้าแลบ! ระหว่างอดีตที่เต็มไปด้วยการปะทะคารม กับปัจจุบันที่ต้องใช้ชีวิตร่วมชายคา... เรื่องวุ่น ๆ จึงเริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่แปรงสีฟันยันหัวใจ เขา...ผู้ชายเจ้าเล่ห์ ขี้แกล้ง และขี้หวงอย่างหนัก เธอ...หญิงสาวปากแข็ง ขี้ประชด แต่แอบอ่อนโยนในทุกความใส่ใจ จากบ้านไม้ริมคลอง กลายเป็นสนามรักและสงครามขนาดย่อม ที่ไม่มีใครยอมใคร แต่หัวใจสองดวงกลับเริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด... เพราะบางที...โชคชะตาอาจไม่ได้บังคับ แต่มันอาจกำลังพาเขาและเธอ... กลับมายังที่ที่เรียกว่า "บ้าน" ด้วยกัน
“เขาคือเจ้าพ่อที่ใครต่างหวาดกลัว แต่กลับยอมสยบให้หญิงสาวที่ทั้งโลกเคยมองว่าไร้ค่า...” เมื่อเธอถูกตราหน้าว่าเป็นเพียงหมากในเกมหมั้นหมาย เขากลับเห็นแสงในตัวเธอ และเลือกจะปกป้องด้วยทั้งชีวิตและหัวใจ ท่ามกลางไฟแค้น อำนาจ และความลับของตระกูล หัวใจของคนสองคนค่อย ๆ สานพันธะรักที่ไม่มีใครลบล้างได้ “เธอคือของฉัน ต่อให้โลกทั้งใบต่อต้าน...ฉันก็จะไม่มีวันปล่อยเธอไป”
เมื่อข่าวฉาวบิดเบือนเปลี่ยนหญิงสาวให้กลายเป็นคนที่เขาเกลียด และเมื่อคำสัญญาเก่าของผู้ใหญ่ พาเธอกลับมาในฐานะ ‘คู่หมั้น’ ที่เขาไม่ต้องการ ลลิล สาวสวยผู้สง่างามและเข้มแข็ง ต้องเผชิญแรงกดดันจากคนในครอบครัว รวมถึง กวิน ชายหนุ่มผู้เย็นชา ผู้มองเธอด้วยสายตาดูแคลน…แต่ไม่อาจละสายตาได้เลย ในความเงียบงันระหว่างพวกเขา...กลับมี ‘หัวใจ’ ที่ค่อย ๆ เรียนรู้กันอย่างไม่รู้ตัว จากความเข้าใจผิด กลายเป็นความผูกพัน จากการดูแคลน กลายเป็นการปกป้อง และจาก ‘คู่หมั้นไร้เสน่หา’ กลายเป็น ‘ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขารัก’
หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”
เมื่อผู้หญิงที่เพื่อนๆ ตั้งสมญานามว่าแม่ชีอย่างเธอจับพลัดจับผลูต้องมาเจอกับผู้ชายหน้านิ่งที่เอะอะกอด เอะอะจูบอย่างเขา อา…แล้วพ่อคุณก็ดันเป็นโรคนอนไม่หลับ จะต้องนอนกอดเธอเท่านั้นด้วย แบบนี้เธอจะเอาตัวรอดได้ยังไงล่ะ “ชอบอาหารเหนือไหม” “ชอบมากเลยคุณ ให้กินทุกวันยังได้เลย” “มากพอจะอยู่ที่นี่ไหม” “แค่กๆๆ” …………… …………………………………………………………………………………………………………………………. “คุณ! เอากระบอกไฟฉายออกไปวางที่อื่นก่อนได้ไหม มันดันหลังฉัน ฉันนอนไม่หลับ” คนที่ใกล้จะหลับบอกเสียงอู้อี้ “เอ้อ! ไม่มีนี่” เขาบอกเสียงอึกอัก “มันจะไม่มีได้ไง ก็มันดันหลังฉันอยู่เนี่ย” เธอมั่นใจว่ามีแน่ๆ ก็หลักฐานมันทนโท่ขนาดนี้ “อืม! นอนเถอะ ไม่มีหรอก” “จะไม่มีได้ไง ก็นี่ไง” คุณเธอยืนยันด้วยการคว้าหมับเข้าให้ พร้อมหันกลับมา หวังงัดหลักฐานที่อยู่ในมือมาพิสูจน์ให้ได้เห็นกันจะๆ คาตา แต่… ตึก ตึก ตึก อา…! ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่คาตา แต่ยังคามือเธอด้วย เธออ้าปากตาค้างราวกับกำลังตกตะลึงสุดขีด ก่อนจะก้มมองไอ้ที่คิดว่าเป็นกระบอกไฟฉายในมือสลับกับเงยหน้ามองเขา จากนั้นก็… “กรี๊ด…!” เธอร้องลั่นพร้อมกับยื่นเท้าถีบออกไปสุดแรง ตุบ! คนไม่ทันตั้งตัวร่วงตุ้บลงไปบนพื้น ครั้นพอจะลุกขึ้น คุณเธอก็ตะโกนเสียงดังลั่นขึ้นมาอีก “หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะไอ้คนลามก คนเลว คุณมันทุเรศที่สุด คุณให้ฉันจับไอ้นั่นของคุณ มัน…อี๋…! เธอพูดพลางทำท่าขยะแขยง แล้วมาส่องกระบอกไฟฉายพ่อเลี้ยงพร้อมกันนะคะ
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
ในชาติก่อน ซูเยว่ซีถูกอวิ๋นถังยวี่ทำร้ายจนตาย ทำผิดต่อครอบครัวของท่านตา และตัวเองยังถูกทรมานจนตาย เกิดใหม่ครั้งนี้ นางตั้งใจจะจัดการกับพวกผู้ชายชั่วและหญิงเลวจัดการพ่อชั่ว เพื่อปกป้องแม่และครอบครัวของท่านตาให้ปลอดภัย พวกผู้ชายชั่วเข้ามาใกล้งั้นเหรอ นางจะใช้แผนให้เขาเสียชื่อเสียง หญิงตีสองหน้าเก่งชอบทำตัวอ่อนแองั้นเหรอ นางจะเปิดโปงธาตุแท้อีกฝ่ายและไล่นางออกจากจวนซู! ในชาตินี้ สิ่งที่นางต้องทำคือการจัดการพวกปลวกที่แอบแฝงอยู่ในราชสำนัก แก้แค้นคนทรยศ เพื่อปกป้องท่านตาที่เป็นคนซื่อสัตย์ นางใช้มือเรียวเป็นเครื่องมือ ก่อให้เมืองจิงเกิดความวุ่นวาย แต่ท่ามกลางความโกลาหล นางได้พบกับองค์ชาย ผู้ที่ทุกคนเล่าลือว่าเป็นคนพิการ “อวิ๋นเฮิง เจ้าจะมาขวางข้าหรือ” อวิ๋นเฮิงยิ้มเบาๆ “ไม่ ข้าตั้งใจจะมาช่วยเจ้า”
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY