“ทำไมขุนยังไปนอนกับผู้หญิงคนอื่น….อยู่ตลอดเวลา….”“แต่กลับกัน….ขุนไม่เคยมีอะไรกับริเลย….” “เพราะถ้าเป็นผู้ชายคนอื่น….เห็นริไปยืนแก้ผ้าต่อหน้าเขาแบบนี้….” “เขาคงจะไม่ปฏิเสธริ….เหมือนที่ขุนทำ"
“ทำไมขุนยังไปนอนกับผู้หญิงคนอื่น….อยู่ตลอดเวลา….”“แต่กลับกัน….ขุนไม่เคยมีอะไรกับริเลย….” “เพราะถ้าเป็นผู้ชายคนอื่น….เห็นริไปยืนแก้ผ้าต่อหน้าเขาแบบนี้….” “เขาคงจะไม่ปฏิเสธริ….เหมือนที่ขุนทำ"
พระเอก
ชื่อเล่น ขุนศึก
ชื่อจริง นาย ขุนณรงค์ ชัชชัยวรรณ อายุ29ปี
นักธุรกิจเจ้าของ อสังหาริมทรัพย์ และเจ้าของบริษัท CEO ห้างสรรพสินค้า KAที่มีสาขาทั้งในประเทศและต่างประเทศ บุตรชายเพียงคนเดียวของคุณหญิง นฤมิตร.....
"ผมมี...ผู้หญิงที่ผมรักอยู่แล้วครับ..."
"เธอก็ยอมรับแบบที่ผ่านมาไม่ได้เหรอ...เพราะตลอดเวลาที่เราคบกัน...ฉันก็ไม่ได้มีอะไรกับเธอแค่คนเดียว..."
นางเอก
ชื่อเล่น เอริ
ชื่อจริง นางสาว ฐิติมน ยิ้มมโหทัย อายุ29ปี
ผู้หญิงที่สวยขยันทำงานเป็นเลขาของเจ้าของบริษัทที่หล่อรวยที่สุดอย่างขุนศึก ที่เธอควบตำแหน่งเพื่อนลูกจ้างและแฟนของเขาในเวลาเดียวกัน แต่เธอต้องอยู่ในสถานะของคนในความลับ
"ฉันไม่อยากอยู่ในสถานะนี้อีกแล้ว...ฉันเหนื่อยอ่ะ.."
"นายก็รู้ว่าเรื่องของเรา...มันไม่มีทางเป็นไปได้..."
"ฉันไม่อยากเป็นแค่ตัวสำรองอีกแล้ว..."
ร่วมด้วย
ชื่อเล่น จอมพล
ชื่อจริง ขจรฤิต ชัชชัยวรรณ อายุ30ปี
ท่านรองประธานบริษัทKAหนุ่มเจ้าสำราญ หล่อเอาใจเก่ง พี่ชายต่างมารดากับขุนศึก ถึงชอบทำตัวกร่างหาเรื่องน้องชาย แต่เขานี่แหละที่ห่วงและหวังดีกับน้องชายหัวดื้อตลอด
“พี่ชอบ….เอรินะ…”
ชื่อเล่น นามิ
ชื่อจริง นางสาว นามิกา รัตนโภชัย อายุ26ปี
คู่หมั้นของขุนศึก บุตรสาวของคุณหญิง นวลปรางเพื่อนสนิทกับคุณหญิง นฤมิตร
"นามิ...ยอมให้พี่ขุนเอาผู้หญิงคนนั้นมาเป็นเมียอีกคนก็ได้นะคะ...แต่เป็นเมียน้อย...และเป็นแม่อุ้มบุญของลูกของเรา..."
ตอนที่1
ย้อนกลับไปเมื่อ8ปีก่อน
บ้านของ เอริ….
07:00น.
เอริ ฐิติมน….
ติ๊ดๆๆๆๆๆ
“อื้อ!”ฉันขยับตัวไปมาและดีดตัวตรงทันทีที่ได้ยินเสียงของนาฬิกาปลุกที่ข้างหัวเตียงนอนของฉันพลางเอื้อมมือไปกดปิดนาฬิกาปลุกที่ส่งเสียงดังอยู่ในขณะนี้ให้ปิดลงทันที
พรึบ
“อื้อออออ…”ฉันบิดตัวไปมาเพื่อเพิ่มความสดชื่นให้ร่างกายก่อนจะลุกขึ้นจากที่นอนหยิบผ้าขนหนูมุ่งหน้าไปยังห้องอาบน้ำเพื่อจะอาบน้ำและแต่งตัวไปมหาลัย
ฉันชื่อเอริ ชื่อจริง นางสาว ฐิติมน ยิ้มมโหทัยอายุตอนนี้ก็ยี่สิบปีบริบูรณ์ กำลังเรียนอยู่ที่มหาลัยเอกชนชื่อดังที่ค่าเทอมแพงแสนแพงนี้ขนาดฉันใช้ความสามารถสอบเข้าน่ะเนี่ยยังแพงอ่ะ ฉันเรียนคณะบริหารธุรกิจปีสองแล้วแหละ และที่ฉันต้องตื่นสายแบบนี้ก็เพราะว่าฉันทำงานพาร์ทไทม์ดึกไปหน่อยน่ะ ฉันเป็นเด็กเหนือบ้านอยู่เชียงใหม่เจ้า ผิวของฉันเลยขาวอมชมพูละเอียดกว่าคนที่นี้หน่อยริมฝีปากก็สีชมพูระเรื่อโดยไม่ต้องแต่งเติมและอีกอย่างฉันมีหน้าตาที่ดีเข้าขั้นสวยเลยก็ว่าได้เพราะฉันเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น แม่เป็นคนญี่ปุ่นพ่อเป็นคนไทยฉันเลยกลายเป็นผู้หญิงตัวเล็กผิวขาวจมูกโด่งแก้มป่องๆน่ารักๆเพราะได้เชื้อแม่ที่เป็นคนญี่ปุ่นมาเต็มๆถึงฉันจะเป็นคนลูกครึ่งแต่ฉันไม่ได้รวยหรอกนะ ออกจะจนเสียด้วยซ้ำไป แม่ฉันกลับญี่ปุ่นไปตั้งแต่คลอดฉันได้สองวัน ส่วนพ่อก็มาเสียชีวิตไปอีกตอนที่ฉันอายุได้เพียงสามเดือน มีคนส่งตัวฉันให้ญาติที่เหลือเพียงคนเดียวของพ่อฉันเป็นคนรับเลี้ยงดู นั้นคือป้าบัวพี่สาวแท้ๆของพ่อฉัน ที่ตอนนี้ฉันก็มาอาศัยป้าแกอยู่เหมือนกัน เราสองคนเช่าแฟลตเก่าๆอยู่ที่มีห้องนอนห้องเดียวและก็ห้องน้ำอีกหนึ่งห้องแค่นั้น แต่ป้าฉันไม่ค่อยได้กลับมานอนที่ห้องสักเท่าไหร่หรอก เพราะท่านทำงานเป็นแม่บ้านบ้านเศรษฐีน่ะกินนอนอยู่ที่นั้นเลย ก็เหลือแต่ฉันนี้แหละ
เขาเป็นถึงมาเฟียใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นเขาทั้งโหดทั้งเถื่อนแต่ทำไมเขากลับยังซิง เขารักแค่ผู้หญิงเพียงคนเดียวมาโดยตลอดแต่พอมาเจอเธอทำไมเขาถึงกลับหวั่นไหวได้ล่ะ หรือเขาจะเป็นผู้ชายหลายใจหรือรักใครไม่เป็น?
เพราะเธอถูกเขาปฏิเสธอย่างเลือดเย็น ทั้งๆที่เขารักเธอ และเธอเองก็รักเขา แต่ทำไมเราถึงรักกันไม่ได้ เพราะอะไร?
ชีวิตผมกำลังอยู่ในเส้นระหว่างความเป็นกับความตายแต่แค่เพียงลมพายุพัดกระหน่ำท้องฟ้าวิปริตแปรปรวนเสียงร้องคำรามของสัตว์สี่ขาและเสียงร้องเอะอะของผู้ร้ายก็ดังสลับกับเสียงร้องหวยโหยก็ดังขึ้นมาพร้อมๆกับสัตว์สี่ขาร่างกายใหญ่โตลายพาดกลอนและเขี้ยวแหลมของมัน บ่งบอกได้ชัดเจนว่ามัน คือ 'เสือ'
เมื่อเธอดันเข้าไปได้ยินแผนการของเขา ‘เฮล’ที่คิดจะจีบเธอและฟันเธอแล้วก็ทิ้ง เธอจึงคิดที่จะตลบหลังเขากลับ แกล้งเดินตามเกมส์เขา และแสร้งทำหน้าตาใสซื่อไม่รู้ไม่ชี้แผนการเลวๆของเขา เพื่อจะหลอกให้เขารักและเธอก็จะทิ้งเขา แต่มันกลับไม่เป็นไปตามที่เธอและเขาคิดในการเกมส์ของเสือในกระดานนี้ และเขาเป็นเสือที่ไม่เคยจริงใจกับผู้หญิงคนไหนไม่พร้อมที่จะถอดเขี้ยวเล็บเพื่อใคร จนต้องมาเจอกับผู้หญิงที่ไม่สนใจเขาอย่างเธอ ‘อลิซ’ ความอยากเอาชนะจึงเริ่มต้นขึ้น ทำให้เขาและเธอต้องเข้าไปพัวพันกันในเกมส์หยุดเสือนี้ เพื่อการอยากเอาชนะของคนทั้งคู่ เกมส์หยุดเสือนี้ จึงเริ่มเดินหมากในกระดานที่ร้อนเป็นไฟ อีกคนก็เสือโคร่ง อีกคนก็เสือดาว การกระโจนเข้าหากันในครั้งนี้ จึงดุเดือดเลือดพล่าน อย่างไม่มีใครยอมใคร
พ่อฉัน ‘เวียงพิงค์’ ยกฉันให้มาเฟียที่ร่ำรวยที่สุดเจ้าของบ่อนที่พ่อฉันเสียพนันได้อุปการะฉัน ฉันแอบชอบเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกันแต่ป๋า ‘เจ้าสัว’มีคู่หมั้นอยู่แล้ว….
ภารกิจของฉันนั่นยิ่งใหญ่ เพราะมันคือการได้ใกล้ชิดกับคนที่ฉันรัก และเปลี่ยนแปลงตัวเองทุกวันนี้ก็เพราะเขา ที่ฉันไปเป็นนางแบบถ่ายภาพโป๊เปลือยก็เพราะเขา ผู้ชายที่ฉันรักและเป็นรักครั้งแรกของฉัน….พี่ลูคัส
【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"
ซ่งจิ่งถังรักฮั่วอวิ๋นเซินอย่างลึกซึ้งนานถึงสิบห้าปี แต่ในวันที่เธอคลอดลูกกลับตกอยู่ในอาการโคม่า ขณะที่ฮั่วอวิ๋นเซินกระซิบข้างหูเธออย่างอ่อนโยนว่า "ถังถัง อย่าฟื้นขึ้นมาอีกเลย สำหรับฉัน เธอไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว" ซ่งจิ่งถังเคยคิดว่าสามีของเธอเป็นคนอ่อนโยนและรักใคร่ตัวเอง แต่จริงๆ แล้วเขามีแต่ความเกลียดชังและใช้ประโยชน์จากเธอเท่านั้น และลูกๆ ที่เธอเสี่ยงชีวิตให้กำเนิด กลับเรียกหญิงสาวคนอื่นว่า 'แม่' ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนต่อหน้าที่เตียงคนไข้ของเธอ เมื่อซ่งจิ่งถังฟื้นขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอทำคือการตัดสินใจหย่าขาดอย่างเด็ดขาด! แต่หลังจากหย่าแล้ว ฮั่วอวิ๋นเซินจึงเริ่มตระหนักว่า ชีวิตที่ผ่านมาของเขาเต็มไปด้วยเงาของซ่งจิ่งถัง หญิงคนนี้กลายเป็นความเคยชินของเขา เมื่อพบกันอีกครั้ง ซ่งจิ่งถังปรากฏตัวในที่ประชุมในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เธอเปล่งประกายจนทุกคนต้องหันมามอง หญิงคนนี้ที่เคยมีแต่เขาในใจ บัดนี้กลับไม่แม้แต่จะมองเขาอีก ฮั่วอวิ๋นเซินคิดว่าเธอแค่ยังโกรธอยู่ ถ้าเขาเอ่ยปากพูดนิดหน่อย ซ่งจิ่งถังจะต้องกลับไปหาเขาแน่นอน เพราะเธอรักเขาหมดหัวใจ แต่ต่อมา ในงานหมั้นของผู้นำคนใหม่ของตระกูลเพ่ย เขาเห็นซ่งจิ่งถังสวมชุดแต่งงานหรูหรา ยิ้มอย่างเปี่ยมสุขและกอดแน่นเพ่ยตู้พร้อมสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ ฮั่วอวิ๋นเซินอิจฉาจนแทบคลั่ง เขาตาแดงก่ำและบีบแก้วจนแตก เลือดไหลไม่หยุด...
เมื่อผู้หญิงที่เพื่อนๆ ตั้งสมญานามว่าแม่ชีอย่างเธอจับพลัดจับผลูต้องมาเจอกับผู้ชายหน้านิ่งที่เอะอะกอด เอะอะจูบอย่างเขา อา…แล้วพ่อคุณก็ดันเป็นโรคนอนไม่หลับ จะต้องนอนกอดเธอเท่านั้นด้วย แบบนี้เธอจะเอาตัวรอดได้ยังไงล่ะ “ชอบอาหารเหนือไหม” “ชอบมากเลยคุณ ให้กินทุกวันยังได้เลย” “มากพอจะอยู่ที่นี่ไหม” “แค่กๆๆ” …………… …………………………………………………………………………………………………………………………. “คุณ! เอากระบอกไฟฉายออกไปวางที่อื่นก่อนได้ไหม มันดันหลังฉัน ฉันนอนไม่หลับ” คนที่ใกล้จะหลับบอกเสียงอู้อี้ “เอ้อ! ไม่มีนี่” เขาบอกเสียงอึกอัก “มันจะไม่มีได้ไง ก็มันดันหลังฉันอยู่เนี่ย” เธอมั่นใจว่ามีแน่ๆ ก็หลักฐานมันทนโท่ขนาดนี้ “อืม! นอนเถอะ ไม่มีหรอก” “จะไม่มีได้ไง ก็นี่ไง” คุณเธอยืนยันด้วยการคว้าหมับเข้าให้ พร้อมหันกลับมา หวังงัดหลักฐานที่อยู่ในมือมาพิสูจน์ให้ได้เห็นกันจะๆ คาตา แต่… ตึก ตึก ตึก อา…! ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่คาตา แต่ยังคามือเธอด้วย เธออ้าปากตาค้างราวกับกำลังตกตะลึงสุดขีด ก่อนจะก้มมองไอ้ที่คิดว่าเป็นกระบอกไฟฉายในมือสลับกับเงยหน้ามองเขา จากนั้นก็… “กรี๊ด…!” เธอร้องลั่นพร้อมกับยื่นเท้าถีบออกไปสุดแรง ตุบ! คนไม่ทันตั้งตัวร่วงตุ้บลงไปบนพื้น ครั้นพอจะลุกขึ้น คุณเธอก็ตะโกนเสียงดังลั่นขึ้นมาอีก “หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะไอ้คนลามก คนเลว คุณมันทุเรศที่สุด คุณให้ฉันจับไอ้นั่นของคุณ มัน…อี๋…! เธอพูดพลางทำท่าขยะแขยง แล้วมาส่องกระบอกไฟฉายพ่อเลี้ยงพร้อมกันนะคะ
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
ก็ไม่ได้คิดหรอกนะว่าวันหนึ่งจะพบเจอกับเรื่องแปลก ๆ แต่เมื่ออยู่แล้วไร้ความหมายไม่มีคนที่รักและรักเรา เขาจึงเลือกที่จะแลกทั้งที่ไม่ได้มั่นใจเลยว่าจะได้พบกับคนที่รักจริงหรือเปล่า แต่ก็ตัดสินใจเลือกไปแล้ว... “อาซวงเป็นของข้าใช่หรือไม่” ก็มิค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่และคิดว่ามิน่าจะมีอะไรมากมาย เก้าเทียนรุ่ยจึงพยักหน้ารับ “ขอรับ” “ถึงเราจะมิได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขเช่นที่ท่านมีกับสหายที่ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่ นอนกลางดินกินกลางทรายมาด้วยกันมาอย่างชิงชวนหรือคนอื่น ๆ หากนับตั้งแต่ที่เราได้พบรวมถึงอยู่ด้วยกัน ข้าก็คิดว่าเราผ่านอะไรมามากมายพอที่จะทำให้ข้ารู้ถึงความรู้สึกที่ตนเองมีต่อท่าน” เก้าเทียนรุ่ยมองสบสายตาเสวียนลิ่วหลางที่มองเขาด้วยความงุนงง ในดวงตามีความสับสนระคนมิแน่ใจ คล้ายจะมีคำถามตามติดมาด้วย ทำให้เขาเผลอยิ้มหวานออกไป เสวียนลิ่วหลางได้แต่ยิ้มด้วยความเขินอาย “ข้าก็มิรู้ว่าจะวางตัวเช่นไรดี พึงพอใจอยากให้เจ้าอยู่ชิดใกล้...หากก็มิอยากบังคับหากเจ้ามิเต็มใจ” “แต่ก็มิอาจทำใจได้หากจะต้องปล่อยมือ” เก้าเทียนรุ่ยเอ่ยอย่างเข้าใจ “เมื่อยังต้องรอให้อาซวงรู้สึกเช่นเดียวกัน นอกจากข้าจะทำให้ผู้อื่นรับรู้แล้วว่าคนนี้...” เสวียนลิ่วหลางจับมือเก้าเทียนรุ่ยมาจูบขณะมองสบเข้าไปในดวงตากลมใสก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มหากเต็มไปด้วยความหนักแน่น “ข้าจอง” “ตะเกียบยังต้องอยู่เป็นคู่ถึงจะใช้กินอาหารได้ หยินก็ยังคู่หยางถึงจะสมดุล เมื่อข้าพบคนที่ใช่ เหตุใดถึงต้องปล่อยมือเล่า”
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY