พี่กัส 'ออกัส' เป็นพี่ชายของฉัน 'อลิน' เราเป็นพี่น้องบุญธรรมกัน แต่เขากลับไม่เคยทำดีกับฉันเลยสักครั้ง เอาแต่คอยทำร้ายจิตใจและร่างกายของฉัน จนหัวใจและร่างกายของฉันมันบอบช้ำ แต่หัวใจเจ้ากรรมกลับไม่รักดีเผลอรักพี่ชายคนนี้ จนหมดใจ
พี่กัส 'ออกัส' เป็นพี่ชายของฉัน 'อลิน' เราเป็นพี่น้องบุญธรรมกัน แต่เขากลับไม่เคยทำดีกับฉันเลยสักครั้ง เอาแต่คอยทำร้ายจิตใจและร่างกายของฉัน จนหัวใจและร่างกายของฉันมันบอบช้ำ แต่หัวใจเจ้ากรรมกลับไม่รักดีเผลอรักพี่ชายคนนี้ จนหมดใจ
พระเอก
ออกัส อัครเดช รัตนบูรภาพิทักษ์(อายุ27ปี)
ลูกชายคนเดียวของแด๊ดเฮลและม๊าอลิซ เจ้าของผับOOK
หนุ่มเจ้าสำราญ เจ้าชู้ตัวพ่อ หล่อ รวย และโคตรเลว
(แด๊ดดี้เฮลนิสัยยังไง ผมก็นิสัยแบบนั้นแหละครับหึๆ)
"อยู่บ้านคนอื่นเขา ใช้เงินเขา ก็ตอบแทนเขาหน่อย ด้วยการให้ฉันเอาเธอ ยัยเด็กกาฝาก
นางเอก
อลิน อริศรา ภัททกิจโภคิน (อายุ21ปี)
ลูกบุญธรรมของน้าอลิซ เรียนอยู่ที่มหาลัยAL คณะบริหารธุรกิจปี3
สวย เก่งขยัน ขวัญใจหนุ่มๆ ดาวคณะควบดาวมหาลัย
"บางที เราต้องแกล้งโง่ เพื่อให้ควา...ตายใจ"
เขาเป็นลูกของผู้มีพระคุณของฉัน ฉันเลยไม่มีสิทธิ์ที่ปฏิเสธเขา
ตอนที่1
ผับ OOK
ออกัส อัครเดช
"หึ "ตอนนี้ผมกำลังนั่งมองสินค้าอย่างพึงพอใจ ผมกำลังทดลองสินค้าอยู่ที่ห้องทำงานที่ผับของผม เธอจะมาเป็นเด็กที่ผับของผม เธอเพิ่งจะมาสมัครงานเป็นเด็กนั่งดริ้งค์ที่ผับผม ผมจะต้องทดลองก่อนถึงจะรับเข้าทำงาน
"อืมมมม อ่าาาา อย่างนั้นแหละ ลึกๆๆ"ผมกดหัวเธอให้อมมังกรยักของผม เข้าไปในโพรงปากเธอ เธอนั่งคุกเข่าข้างล่างตรงหน้าของผม
"อึกๆๆโอก ไม่ไหวค่ะคุณกัส มันคับปากของหนูไปหมด มันลึกจนหนูรู้สึกจะอ้วก"เธอผละออกจากความเป็นชายของผมที่ตอนนี้มันชี้โด่ชี้เด่ไปที่หน้าเธออยู่
"ฉันไม่รับเธอ ออกไป!"ผมตวาดเสียงดังใส่ผู้หญิงในชุดนักศึกษา แม่งหุ่นน่าเอาชิบ
"ไม่นะคะ หนูอยากทำงานที่นี้ หนูชอบคุณกัสนะคะ"เธอบอกผมด้วยนำ้เสียงร้อนรน ผู้หญิงก็ต้องอยากจะได้ผมทั้งนั้นแหละ ก็ผมทั้งหล่อ ทั้งรวย หึ
"เธอเป็นสินค้าที่ ไร้คุณภาพ ผับฉันไม่รับเด็กอ่อนประสบการณ์"ผมบอกเธอ พร้อมกับจุดบุหรี่ขึ้นสูบ
"พู่วว"ผมพ้นควันบุหรี่ใส่หน้าเธอ เธอก็มองผมแล้วเธอก็ค่อยๆปดกระดุมเสื้อนักศึกษาตัวเล็กของเธอออก จนเผยให้เห็นเนินอกอวบอิ่มขาวน่าจับต้อง เธอเอามือลูบไปตามเนินอกของเธอ หึผู้หญิงก็แบบนี้แหละ ง่าย
"คันหรอ?"ผมเอ่ยถามเธอ ในขณะที่ผมสูบบุหรี่หมดมวน
"ก็ หนูอยากทำงานที่นี้ แล้วหนูก็อยากเป็นของคุณกัสคะ"เธอบอกผมแล้วเธอก็โน้มหน้า ลงมาหาผม
"ฉันไม่ชอบผูกมัดกับใคร เธอเสนอมาฉันก็แค่สนองให้ เธอไม่มีสิทธิ์จะมาก้าวก่ายในชีวิตฉัน จำเอาไว้!"ผมพูดบอกเธอ ผมชื่อออกัส ลูกชายคนเดียวของแด๊ดดี้เฮลกับม่ะม๊าอลิซแด๊ดผมนิสัยยังไงผมก็นิสัยแบบนั้นแหละครับ
"ค่ะ แค่หนูได้ตกเป็นของคุณกัสหนูยอมทุกอย่าง"เสียงหวานๆเอ่ยบอกผม ผมก็กระตุกยิ้ม แล้วมองไปยังหุ่นผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าผม
"อย่าจูบปากฉัน ปากเธอสกปรก!"ผมบอกเธอและหันหน้าหนีเธอไม่ให้เธอจูบปากผม เธอเอาปากของเธอไปอมของใครมามั่งก็ไม่รู้ สกปรก
"ค่ะ ขอโทษค่ะ"เธอขอโทษผม แล้วเธอก็ขึ้นคร่อมมานั่งบนตักผม
"ซี๊ดดด เด็ดว่ะ"ผมพูดบอกเธอในขณะที่เธอซุกไซร้ซอกคอผม ผมก็เอียงคอให้เธอดูดมิบซอกคอขาวๆของผม
"อ๊ะ บีบแรงๆเลยคะ คุณกัส"เธอเอ่ยบอกผมในขณะที่ผม ยกมือสองข้างไปบีบหน้าอกเธอ อยากจะบีบให้แหลกคามือไปเลย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"ใครมาว่ะแม่ง!"ผมสบทขึ้น อย่างขัดใจนี้มันตอนกลางวันผับกูยังไม่เปิด
"ไซร้ต่อสิ หยุดทำไมว่ะ!"
เขาเป็นถึงมาเฟียใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นเขาทั้งโหดทั้งเถื่อนแต่ทำไมเขากลับยังซิง เขารักแค่ผู้หญิงเพียงคนเดียวมาโดยตลอดแต่พอมาเจอเธอทำไมเขาถึงกลับหวั่นไหวได้ล่ะ หรือเขาจะเป็นผู้ชายหลายใจหรือรักใครไม่เป็น?
เพราะเธอถูกเขาปฏิเสธอย่างเลือดเย็น ทั้งๆที่เขารักเธอ และเธอเองก็รักเขา แต่ทำไมเราถึงรักกันไม่ได้ เพราะอะไร?
ชีวิตผมกำลังอยู่ในเส้นระหว่างความเป็นกับความตายแต่แค่เพียงลมพายุพัดกระหน่ำท้องฟ้าวิปริตแปรปรวนเสียงร้องคำรามของสัตว์สี่ขาและเสียงร้องเอะอะของผู้ร้ายก็ดังสลับกับเสียงร้องหวยโหยก็ดังขึ้นมาพร้อมๆกับสัตว์สี่ขาร่างกายใหญ่โตลายพาดกลอนและเขี้ยวแหลมของมัน บ่งบอกได้ชัดเจนว่ามัน คือ 'เสือ'
เมื่อเธอดันเข้าไปได้ยินแผนการของเขา ‘เฮล’ที่คิดจะจีบเธอและฟันเธอแล้วก็ทิ้ง เธอจึงคิดที่จะตลบหลังเขากลับ แกล้งเดินตามเกมส์เขา และแสร้งทำหน้าตาใสซื่อไม่รู้ไม่ชี้แผนการเลวๆของเขา เพื่อจะหลอกให้เขารักและเธอก็จะทิ้งเขา แต่มันกลับไม่เป็นไปตามที่เธอและเขาคิดในการเกมส์ของเสือในกระดานนี้ และเขาเป็นเสือที่ไม่เคยจริงใจกับผู้หญิงคนไหนไม่พร้อมที่จะถอดเขี้ยวเล็บเพื่อใคร จนต้องมาเจอกับผู้หญิงที่ไม่สนใจเขาอย่างเธอ ‘อลิซ’ ความอยากเอาชนะจึงเริ่มต้นขึ้น ทำให้เขาและเธอต้องเข้าไปพัวพันกันในเกมส์หยุดเสือนี้ เพื่อการอยากเอาชนะของคนทั้งคู่ เกมส์หยุดเสือนี้ จึงเริ่มเดินหมากในกระดานที่ร้อนเป็นไฟ อีกคนก็เสือโคร่ง อีกคนก็เสือดาว การกระโจนเข้าหากันในครั้งนี้ จึงดุเดือดเลือดพล่าน อย่างไม่มีใครยอมใคร
พ่อฉัน ‘เวียงพิงค์’ ยกฉันให้มาเฟียที่ร่ำรวยที่สุดเจ้าของบ่อนที่พ่อฉันเสียพนันได้อุปการะฉัน ฉันแอบชอบเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกันแต่ป๋า ‘เจ้าสัว’มีคู่หมั้นอยู่แล้ว….
ภารกิจของฉันนั่นยิ่งใหญ่ เพราะมันคือการได้ใกล้ชิดกับคนที่ฉันรัก และเปลี่ยนแปลงตัวเองทุกวันนี้ก็เพราะเขา ที่ฉันไปเป็นนางแบบถ่ายภาพโป๊เปลือยก็เพราะเขา ผู้ชายที่ฉันรักและเป็นรักครั้งแรกของฉัน….พี่ลูคัส
ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
หลังจากที่แฟนหนุ่มประสบอุบัติเหตุรถชนและหมดสติไปหนึ่งสัปดาห์ เขาก็ฟื้นคืนความทรงจำขึ้นมาอย่างกะทันหัน เขาจำได้ว่ามีคนที่เขารักมายาวนาน ดังนั้น สิ่งแรกที่เซิ่งหลินชวนทำเมื่อฟื้นจากอาการโคม่า คือการขอเลิกกับฉินเวย “เรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงที่ฉันความจำเสื่อม ไม่ได้เป็นสิ่งที่ฉันตั้งใจทำจริงๆ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราตัดขาดความสัมพันธ์ ความรักของเราก็ทำเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นเลย ” ฉินเวยไม่ได้ว่าอะไร บัญเอิญว่าการวิจัยยาใหม่ในห้องทดลองสำเร็จ ฉินเวยจึงขอเข้าร่วมการทดลองยา “เมื่อคุณรับประทานยาเม็ดนี้ ความทรงจำส่วนนี้จะถูกลบไปอย่างถาวร คุณฉินเวย คุณตัดสินใจดีแล้วหรือ?”
หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
ในระยะเวลาสองปีที่แต่งงานกัน เนี่ยเหยียนเซินจู่ๆ ก็เสนอขอหย่า เขาพูดว่า "เธอกลับมาแล้ว เราหย่ากันเถอะ คุณอยากได้อะไรบอกมาได้เลย" ชีวิตการแต่งงานสองปีสู้อีกคนที่หันหลังกลับมาไม่ได้ ตามอย่างที่คนเขาว่ากัน "คนรักเก่าแค่ร้องไห้สักหน่อย คนรักปัจจุบันก็ย่อมแพ้แน่นอน" เหยียนซีไม่ได้โวยวายอะไร เลือกที่จะตอบตกลงและเสนอเงื่อนไขว่า "ฉันต้องการรถซูเปอร์คาร์ที่แพงที่สุดของคุณ" "ได้" "วิลล่าสุดหรูชานเมือง" "ตกลง" "กำไรหลายพันล้านที่หามาในช่วงสองปีนี้ แบ่งคนละครึ่ง" "อะไรนะ"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY