เขาตั้งใจหลอกเธอตั้งแต่แรก เพื่อให้เธอหลงรักหัวปักหัวปำแล้วก็สลัดทิ้งอย่างไม่แยแส แต่พอเธอหายไปจากชีวิตของเขา เขากลับทุรนทุรายแทบขาดใจ!
เขาตั้งใจหลอกเธอตั้งแต่แรก เพื่อให้เธอหลงรักหัวปักหัวปำแล้วก็สลัดทิ้งอย่างไม่แยแส แต่พอเธอหายไปจากชีวิตของเขา เขากลับทุรนทุรายแทบขาดใจ!
1
เรไรค่อย ๆ วางกระทงลงในคลองหลังวัดอย่างเบามือ แต่ก็ต้องอุทานออกมาเมื่อมีเมื่อของใครคนหนึ่งขยับมาจับกระทงอันเดียวกับเธอ
“อุ๊ย! พี่กระทิง” เธอเรียกเขาอย่างตกใจระคนดีใจ
“พี่ไม่มีกระทง ขอลอยด้วยนะ”
“พี่กระทิงมากับใครคะ” เรไรเอ่ยถามผู้ชายที่แอบรัก
หลังจากที่พี่ชายของเธอแต่งงานกับพิมพ์แก้ว เธอก็พอรู้ว่าเขาเสียใจอยู่พักใหญ่ นึกเป็นห่วงเลยถามกุหลาบน้องสาวของกระทิง อีกฝ่ายก็คอยส่งข่าวคราวอยู่เสมอ
ส่วนหนึ่งมาจากเธอด้วย เธอทำให้คเชนทร์กับพิมพ์แก้วได้ครองรักกัน
แต่คเชนทร์เป็นพี่ชายคนเดียว และพิมพ์แก้วก็เป็นผู้หญิงที่พี่ชายรัก เธอก็เลยอยากจะช่วยให้ถึงที่สุด
กระนั้นก็ยอมรับว่าตนเองมีสิ่งอื่นแอบแฝง นั่นก็คืออยากกำจัดคู่แข่งออกไป หากพิมพ์แก้วแต่งงานไปกับผู้ชายคนอื่น เธออาจจะมีสิทธิ์หวังในตัวกระทิงนั่นเอง
“มาคนเดียวจ้ะ กุหลาบก็ไปลอยกระทงกับเพื่อนเขานั่นแหละ” ทั้งสองเดินคุยกันไป ดูงานกันไป กระทงมากมายถูกลอยไปในคลองหลังวัด ส่งแสงระยิบระยับจับตา
“พี่กระทิงดีขึ้นแล้วใช่ไหมจ๊ะ” รู้สึกผิดอยู่เหมือนกัน แต่ความรักมันห้ามกันไม่ได้ พิมพ์แก้วรักคเชนทร์ กระทิงก็ต้องทำใจ
“เรื่องอะไรเหรอ”
“เอ่อ...” เรไรอึกอัก
“ถ้าเรื่องพิมพ์แก้วพี่ดีขึ้นแล้วล่ะ พี่ทำใจได้แล้วว่าคนที่เขาไม่ได้รักเรา ยังไงก็ไม่รัก”
“ดีแล้วจ้ะพี่” เธอเงยหน้ามองพระจันทร์ เขาก็มองหน้าเธอไม่วางตา
“พี่กระทิงมองอะไรจ๊ะ” เรไรเอ่ยถามเมื่อรู้สึกว่าเขาเอาแต่จ้องเธอ
“มองคนสวย”
“คะ” เธอหลุดอุทานออกมาก่อนจะมีท่าทีเขินอาย
“พี่จีบเรไรได้ไหม”
“พี่กระทิงว่าอะไรนะจ๊ะ” คนแอบรักเอ่ยถามด้วยหัวใจสั่นระริก
“ตอนนี้พี่รู้ใจตัวเองแล้วว่ารักใคร และรู้ด้วยว่ามีใครคนหนึ่งก็รักพี่มากเช่นกัน พี่คิดว่าเราควรรักคนที่เขารักเราจะดีกว่า” ประโยคของเขาทำให้เรไรเขินอาย
กระทิงเหยียดยิ้ม มันไม่ยากเลยที่จะได้ผู้หญิงแบบเรไร
หลังจากงานลอยกระทงวันนั้น เรไรก็มักไปหากระทิงถึงที่บ้าน เธอทำกับข้าวไปให้เขา และไปช่วยงานเขาเล็กๆ น้อยๆ ในบ้าน กระทิงแยกบ้านอยู่ในสวน ไม่ได้อาศัยอยู่กับบิดามารดาและกุหลาบผู้เป็นน้องสาวจึงค่อนข้างเป็นส่วนตัว
“วันนี้เรไรทำแกงส้ม ไข่เจียวชะอมแล้วก็น้ำพริกผักลวกมาให้พี่จ้ะ” เรไรเอ่ยกับชายหนุ่มที่เธอรักหมดใจ
“ไม่เห็นต้องลำบากทำกับข้าวมาให้พี่เลยจ้ะ” เขาพูดอย่างเกรงใจ
“ไม่ลำบากเลยจ้ะ ถ้าพี่กระทิงไม่ว่าอะไร เรไรอยากมาทำกับข้าวให้พี่กินที่บ้านเสียด้วยซ้ำ”
“พี่อยากกินอย่างอื่นมากกว่า” กระทิงเดินมาทรุดนั่งใกล้ๆ กับหญิงสาว พลางมองสบตาอย่างลึกซึ้ง
เขาได้เธอแล้ว เมื่อหลายวันก่อน ไม่คิดว่าจะใจง่ายขนาดนี้ ก็ดีเหมือนกัน เวลาทิ้งก็จะได้ทิ้งง่าย ๆ
แม้เขาจะเป็นผู้ชายคนแรกของเธอ แต่เขาก็ไม่ได้ภาคภูมิใจอะไรเลย ออกจะดูถูกเสียด้วยซ้ำที่เธอชอบแบให้เขาง่ายๆ
“พี่กระทิงน่ะ ไม่เอาน่ะจ้ะวันก่อนยังเจ็บอยู่เลย”
“แต่รอบนี้ไม่เจ็บแล้วนะ พี่จะทำให้เบามือที่สุด” กระทิงจับร่างน้อยขึ้นมานั่งบนตัก ก่อนจะล้วงมือเข้าไปในเสื้อคอบัวสีขาวของหล่อน
“อุ๊ย! พี่กระทิง” เธออุทานเมื่อโดนขยำหน้าอก และสัมผัสได้ถึงแก่นกายชายที่แข็งเป็นลำดุนดันอยู่ตรงสะโพกกลมกลึงของเธอ
เธอเคยเห็นเคยลองมาแล้วว่าดุ้นเขาใหญ่ยักษ์เพียงใด ทำเธอเดินขาถ่างเจ็บร่องอยู่หลายวัน
“เรไรจ๋า พี่หิวมากเลยนะ ร่องเยิ้มขนาดนี้ให้พี่เสียบนะ” เขาถลกผ้าถุงของเธอขึ้นก่อนที่จะล้วงเข้าไปสัมผัสกับร่องเสียวที่กำลังหยาดเยิ้ม
“อื้อ... พี่กระทิงอย่าค่ะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า”
“ไม่มีใครเข้ามายุ่งวุ่นวายในบ้านพี่หรอกจ้ะ พ่อกับแม่ก็อยู่อีกหลังไกลออกไป พวกท่านไปทำงานกันหมดแล้ว” อาชีพหลักของคนที่นี่คือทำไร่ทำนา ตามประสาชาวสวนชาวไร่ที่มีที่ดินตกทอดมาจากบรรพบุรุษ
“พี่หิวเรไร อยากกระแทกตอนนี้เลย”
“พี่กระทิงพูดอะไรน่าอายจังเลยจ๊ะ”
“เรไรอายเหรอ แต่พี่ว่าพูดแบบนี้ได้อารมณ์ดีนะ อยากให้พี่กระแทกร่องไหมจ๊ะ”
“เรไร อ๊าย... พี่กระทิงอย่าเขี่ยร่องสิจ๊ะ” เธอหนีบขาเข้าหากัน อย่างไรก็เป็นหญิง เธอก็ยังมียางอาย ครั้งก่อนที่เสียตัวให้เขาเพราะโดนรุกหนัก เธอตั้งตัวไม่ทัน โดยตกเป็นของเขาแบบไม่ทันตั้งตัว
แต่คำรักของเขาทำให้เธอใจอ่อน ยอมทอดตัวทอดกายให้เขา
“ทำไมถึงเขี่ยไม่ได้ล่ะ” กระทิงเอ่ยถามเสียงแหบพร่าตรงริมหู ถึงไม่ได้รักแต่เขามีความใคร่ให้คนบนตักอย่างเปี่ยมล้น ถ้าได้เอาเขาก็ได้ปลดปล่อย มีแต่ได้กับได้ เธออยากใจง่ายเอง
“อื้อ...” เธอกัดปากกลั้นเสียงครางเอาไว้
“ตอบสิจ๊ะว่าทำไม” กระทิงเขี่ยติ่งเร็วขึ้น จากที่เธอหนีบขาก็อ้าขาให้เขาเขี่ยติ่งอย่างง่ายดาย ใบหน้าสวยแดงก่ำ เผยอปากครวญครางไม่ได้ศัพท์
“สะ... เสียวจ้ะพี่กระทิง”
“เสียวอะไรบอกพี่สิจ๊ะ” กระทิงเอ่ยถามอย่างสมใจ
“สะ... เสียวติ่งจ้ะ” เธอตอบเสียงหอบ ๆ หน้าแดงก่ำ อายก็อาย เสียวก็เสียว เขาทำให้เธอทั้งเสียวทั้งอาย
"มะนาว" นักศึกษาสาวปีสามผู้ฉลาดแกมโกง คิดว่าตัวเองเอาตัวรอดเก่ง แต่เมื่อหัวใจดันตกหลุมรัก "พี่ธันวา" รุ่นพี่ปีสี่สุดหล่อ สุขุม และเจ้าเล่ห์ยิ่งกว่า เธอจึงต้องวาง "แผน" เพื่อให้ได้ใกล้ชิดเขา แต่ทุกครั้งที่คิดจะเหนือกว่า กลับกลายเป็นว่าเธอตกหลุมพรางหัวใจของเขาซะเอง เกมนี้ไม่มีใครแพ้ เพราะสุดท้ายความรักที่มีแผนซ่อนอยู่ก็คือความรักที่ทำให้ทั้งคู่ยิ้มได้ จะหลอกล่อหรือจะวางแผนยังไงก็ไม่พ้น…เพราะพี่เขาวาง "แผนรัก" รออยู่แล้ว
"มะนาว" ครูสอนโยคะสายสุขภาพที่รักความสงบ ย้ายมาอยู่บ้านใหม่หวังจะมีชีวิตเรียบง่าย…แต่ดันต้องเจอเพื่อนบ้านข้างรั้วอย่าง "ภูผา" วิศวกรหนุ่มเสียงดังที่ชอบทำอะไรปั่น ๆ จนเธอหงุดหงิดไม่เว้นแต่ละวัน เสียงเพลง เสียงเลื่อย เสียงหัวเราะของเขา คือสิ่งที่เธออยากปิดประตูหนี แต่แปลก…เมื่อไรที่มันหายไป หัวใจกลับโหวงเหวงราวกับขาดอะไรบางอย่าง รั้วที่กั้นอาณาเขต อาจกั้นบ้านได้…แต่กั้นหัวใจไม่ได้เลย
เมื่อ "ลมหนาว" สถาปนิกหนุ่มกลับบ้านต่างจังหวัดด้วยหัวใจที่อยากพักเหนื่อย เขาได้พบ "ฟ้าใส" ครูสาวประจำโรงเรียนเล็ก ๆ ที่สดใสเหมือนชื่อ และทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงทุกครั้ง จากแรงลมที่คิดว่าจะพัดผ่านไปชั่วคราว กลับกลายเป็นสายลมที่หอบความรักมาเติมเต็ม… และคราวนี้ เขาไม่ยอมให้มันพัดหายไปอีกแล้ว
เขา เจ้านายผู้เย็นชา แต่เก็บซ่อนความรักเอาไว้ในใจมาเนิ่นนาน เธอ เลขาสาวที่ไม่มีทางเลือก ต้องกลับมาทำงานกับคนที่เคยเป็นศัตรู จากการหยอกล้อในวัยเรียน สู่อีกครั้งที่ต้องเผชิญหน้ากับความจริง ว่าความสัมพันธ์นี้ไม่อาจหนีหัวใจตัวเองได้
การแก้แค้นที่แท้จริง เหมือนประโยคที่ว่า... "สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร"
จาก "เพื่อนบ้านห้องข้าง ๆ" ที่ไม่เคยกินเส้นกัน กลับกลายเป็น "คนบนเตียงเดียวกัน" เพียงเพราะค่ำคืนที่เมามาย เขา จิตรกรอิสระสายหน้ามึน ที่ชอบทำอาหาร วาดรูป และกวนหัวใจเธอทุกวัน เธอ นักเขียนสาวปากแข็ง ที่พยายามบอกตัวเองว่าไม่สนใจเขา ทั้งที่หัวใจเต้นแรงทุกครั้งที่โดนกอด จากการงอแงเรียกร้องความรับผิดชอบ กลายเป็นการตามตื้อจนได้อยู่ห้องเดียวกัน จากคำว่า "คู่กัด" กลายเป็น "คู่ชีวิต" ที่หวานจนทะเลยังต้องอาย "ข้าวเช้าวันนี้ ฉันทำให้เธอเอง" "อย่ามาทำเป็นแฟนฉันนะ!" "ไม่ต้องทำเป็นหรอกฉันเป็นจริง ๆ" เรื่องราวรักวุ่น ๆ ปนร้อนแรงของคนสองคน ที่เริ่มจากความกวน แต่จบลงด้วยความรักสุดหัวใจ
สัญญาณแรกที่บ่งบอกว่าฉันกำลังจะตาย ไม่ใช่พายุหิมะ ไม่ใช่ความหนาวเหน็บที่กัดกินลึกถึงกระดูก แต่มันคือแววตาของคู่หมั้นของฉัน ตอนที่เขาบอกว่าเขายกผลงานทั้งชีวิตของฉัน ซึ่งเป็นหลักประกันเดียวที่จะทำให้เรารอดชีวิตไปให้ผู้หญิงคนอื่น “เค้กหนาวจะตายอยู่แล้ว” เขาพูดเหมือนกับว่าฉันกำลังไร้เหตุผล “คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญนี่ คุณรับมือได้อยู่แล้ว” จากนั้นเขาก็เอาโทรศัพท์ดาวเทียมของฉันไป ผลักฉันลงไปในหลุมหิมะที่ขุดไว้อย่างลวกๆ แล้วทิ้งฉันไว้ให้ตายตรงนั้น เค้ก แฟนใหม่ของเขาปรากฏตัวขึ้น เธอห่มผ้าห่มอัจฉริยะผืนที่เป็นประกายของฉันไว้อย่างอบอุ่น เธอยิ้มขณะที่ใช้ขวานน้ำแข็งของฉันเอง กรีดทำลายชุดของฉัน ซึ่งเป็นเกราะป้องกันพายุชั้นสุดท้าย “เลิกดราม่าสักที” เขาพูดกับฉัน น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรังเกียจขณะที่ฉันนอนรอความตายอย่างหนาวเหน็บ พวกเขาคิดว่าได้เอาทุกอย่างไปจากฉันแล้ว พวกเขาคิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายชนะ แต่พวกเขาไม่รู้เรื่องสัญญาณฉุกเฉินลับที่ฉันเย็บซ่อนไว้ในแขนเสื้อ และด้วยแรงเฮือกสุดท้ายที่มี ฉันได้เปิดใช้งานมัน
ในระยะเวลาสองปีที่แต่งงานกัน เนี่ยเหยียนเซินจู่ๆ ก็เสนอขอหย่า เขาพูดว่า "เธอกลับมาแล้ว เราหย่ากันเถอะ คุณอยากได้อะไรบอกมาได้เลย" ชีวิตการแต่งงานสองปีสู้อีกคนที่หันหลังกลับมาไม่ได้ ตามอย่างที่คนเขาว่ากัน "คนรักเก่าแค่ร้องไห้สักหน่อย คนรักปัจจุบันก็ย่อมแพ้แน่นอน" เหยียนซีไม่ได้โวยวายอะไร เลือกที่จะตอบตกลงและเสนอเงื่อนไขว่า "ฉันต้องการรถซูเปอร์คาร์ที่แพงที่สุดของคุณ" "ได้" "วิลล่าสุดหรูชานเมือง" "ตกลง" "กำไรหลายพันล้านที่หามาในช่วงสองปีนี้ แบ่งคนละครึ่ง" "อะไรนะ"
เส้าหยวนหยวนแต่งงานกับแม่ทัพเทพทรงพลังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนส่งผลกระทบต่อทางจิตใจหลังจาดที่เธอย้อนเวลา เธอไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับการสมรู้ร่วมคิด และต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อแสวงหาอิสรภาพ เธอก่อตั้งธุรกิจ รักษาโรคของคนไข้ และช่วยชีวิตผู้คน เป็นคนที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของแม่ทัพ แต่ต่อมาแม่ทัพกลับคืนคำ ไหนตกลงไว้ว่าจะหย่าล่ะ?
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!
จางลี่สตรีเกิดมาพร้อมกับความเกลียดชัง บิดามารดาไม่รัก พี่สาวรังเกียจ รอบด้านทำร้ายร่างกาย ชาติภพนี้นางถูกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีทำร้ายจนตาย เมื่อเกิดพบชาติใหม่อีกครั้ง นางก็ขอตอบแทบพวกเขาอย่างสาสม อย่าคิดว่าชาติภพนี้พวกเขาจะได้อยู่สุขสบาย นางในชาตินี้จะถนอมพวกเขาเป็นอย่างดี “ข้าไม่ใช่คนดี ท่านอย่าได้หวังว่าข้าจะดีเหมือนคนอื่น หากท่านปรารถนา พบสตรีที่ดีก็เชิญไปหาที่อื่น” บุรุษปริศนาที่ติดตามนางจะเลือกเส้นทางไหน แล้วนางจะตอบแทนพวกเขาเหล่านั้นเช่นไร รอพวกเขาหาคำตอบ แต่บอกได้เลยว่านางหาได้ใจดีเหมือนชาติที่แล้วไม่ “ข้าเตือนท่านแล้ว ว่าอย่าได้หวังว่าข้าจะเป็นคนดี”
เมื่อเซิ่งหนิงเตรียมจะบอกฮั่วหลิ่นเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของเธอ ทว่ากลับพบเขาช่วยพยุงผู้หญิงอีกคนลงจากรถอย่างเอาใจใส่... เคยคิดว่าตนเองอยู่เคียงข้างฮั่วหลิ่นคอยดูแลเขามาสามปี สักวันหนึ่งเขาจะมาสามารถสร้างความประทับใจให้กับเขา แต่สุดท้ายเป็นตนเองที่คิดเองเออเองไปฝ่ายเดียว เซิ่งหนิงตายใจแล้วจากไป สามปีต่อมา ข้างกายของเธมีผู้ชายอีกคนหนึ่ง และฮั่วหลิ่นเสียใจมาก เจาพูดด้วยความโศกเศร้า "เซิ่งหนิง เรามาแต่งงานกันเถอะ" เซิ่งหนิงยิ้มอย่างเฉยเมย "ขออภัยนะคุณฮั่ว ฉันมีคู่หมั้นแล้ว"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY