เพื่อพิชิตใจแม่ทัพหนุ่มที่หมายปอง นางผู้เป็นองค์หญิงถึงกับปลอมตัวเข้าไปเป็นทหารเพื่อที่จะได้ใกล้ชิดเขา แต่เหตุการณ์มันไม่ง่ายขนาดนั้นเพราะเขาเข้าใจว่านางเป็นบุรุษ แล้วนางจะเกี้ยวเขาสำเร็จได้อย่างไร
เพื่อพิชิตใจแม่ทัพหนุ่มที่หมายปอง นางผู้เป็นองค์หญิงถึงกับปลอมตัวเข้าไปเป็นทหารเพื่อที่จะได้ใกล้ชิดเขา แต่เหตุการณ์มันไม่ง่ายขนาดนั้นเพราะเขาเข้าใจว่านางเป็นบุรุษ แล้วนางจะเกี้ยวเขาสำเร็จได้อย่างไร
“หา!! เจ้าบอกว่าอยากทำสิ่งใดนะ พูดให้พี่ฟังอีกทีซิ”
ภายในตำหนักขนาดใหญ่ที่ได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรงดงาม บ่งบอกถึงฐานะของผู้อยู่อาศัย บุรุษหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง เบิกตามองสตรีใบหน้าจิ้มลิ้มที่ได้ชื่อว่าเป็นน้องของตนด้วยความตื่นตระหนกตกใจระคนเหนื่อยหน่ายกับสิ่งที่นางเพิ่งจะเอ่ยขอ จนถึงกับต้องถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ รวมทั้งคาดหวังให้ตัวเองฟังผิด
“ข้าอยากปลอมตัวเข้าไปอยู่ในกองทัพของสหายท่าน อนุญาตเถอะนะเพคะ” เสียงใสตอบกลับกึ่งอ้อนวอน
“แต่เจ้าเป็นองค์หญิง!”
เฉินไป่ชางหรือที่คนทั่วไปเรียกกันว่าองค์ชายชาง ว่าที่องค์
รัชทายาทแห่งแคว้นเป่ยหนานร้องออกมาอย่างเหลืออด สองมือจับไหล่บอบบางของน้องสาว แล้วมองเข้าไปในดวงตากลมโตสุกใสอย่างเคร่งขรึมจริงจัง
“เจ้าปลอมตัวเข้าไปเสี่ยงอันตรายเช่นนั้นไม่ได้ ไม่เด็ดขาดหยางจู”
ย้ำท้ายประโยคด้วยเสียงเด็ดขาดที่ไม่ค่อยได้ใช้กับนางบ่อยนัก แต่หากไม่ย้ำให้ชัด มีหรือที่น้องสาวจอมแก่นของเขาจะฟัง
ดรุณีน้อยที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงองค์หญิงถอนหายใจเฮือกใหญ่ แววตาสุกสกาวเมื่อครู่หม่นแสงลงทันทีเมื่อได้ฟังคำตอบ แต่นั่นก็เป็นอยู่เพียงชั่วแวบเดียวเท่านั้น นางก็กลับมาร่าเริงอีกครั้งตามนิสัย ครานี้ดวงตานางฉายแววเจ้าเล่ห์ซุกซนเหมือนกับทุกครั้งที่นางซุกซ่อนแผนการณ์ต่าง ๆ ไว้ เฉินไปชางเห็นดังนั้นก็รู้สึกใจคอไม่ค่อยจะดี เพราะน้องสาวเขาผู้นี้ขึ้นชื่อว่าเป็นจอมป่วนอันดับหนึ่งแห่งวังหลวง ด้วยเพราะเสด็จพ่อรักและตามใจนางมาก
“แต่…ถ้าหากไปโดยมีคนช่วยเหลือ ก็ไม่น่าจะเป็นอันตรายใด ๆ นี่เพคะ”
“แล้วผู้ใดจะมาช่วยเหลือเจ้า”
“รองแม่ทัพซื่อหมิงอย่างไรเล่า”
เขาส่ายหน้าช้า ๆ ต่อให้จางซื่อหมิงจะเป็นที่ไว้วางใจของเขารองจากมู่หรงเซียวหนานซึ่งเป็นแม่ทัพและเป็นสหายของเขา แต่เขาก็ไม่มีทางปล่อยน้องสาวไปตกระกำลำบากเช่นนั้นได้ มีอย่างที่ไหน สตรีจะปลอมตัวเป็นบุรุษเข้าไปในกองทัพที่อยู่ไกลถึงชายแดน นางจะต้องเจอกับสิ่งใดบ้างเมื่อเข้าไปอยู่ในนั้น ได้ตระหนักบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ หรือคิดแต่จะเอาสนุกสนานเพียงอย่างเดียวถึงได้มาขออะไรที่เป็นไปไม่ได้เพียงนี้
“นี่พี่จะต้องอบรมเจ้า เรื่องหน้าที่พึงกระทำของผู้มีศักดิ์เป็น
องค์หญิงแห่งแคว้นเป่ยหนานอันยิ่งใหญ่ของเราอีกหรือ”
“จริงอยู่ว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างที่ข้าต้องกระทำเมื่อเกิดมาสูงส่ง แต่จะมีเพียงสิ่งเดียวไม่ได้เชียวหรือ ที่พอจะให้ข้าได้ทำตามใจตนเองบ้าง” หยางจูเอ่ยด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ จับมือของผู้เป็นพี่เอาไว้แน่นเป็นเชิงขอร้อง
“ไม่ได้ เจ้าจะทำสิ่งนี้ไปเพื่ออันใดกัน พี่ไม่เข้าใจ” เฉินไป่ชางพยายามทำใจแข็งกับลูกอ้อนของน้องสาว
นางนิ่งไปเล็กน้อยอย่างพยายามเรียบเรียงคำพูด ในขณะที่เขาเองก็คิดว่าความอยากเล่นสนุกอย่างเดียวคงไม่ถึงขนาดผลักดันให้นางคิดทำอะไรยิ่งใหญ่เพียงนี้ ถ้าไม่มีเหตุผลอื่นแอบแฝงอยู่
“ว่าอย่างไร ตอบพี่มาตามตรง”
“ก็เรื่องที่เสด็จพ่อทรงมีพระประสงค์จะให้ข้าอภิเษกเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์กับต่างแคว้น ทั้งที่ไม่เคยเห็นหน้าบุรุษผู้นั้นมาก่อน ซ้ำร้าย ข้ายังมีใจชอบพอผู้อื่นอยู่ก่อนแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้ามิสมควรได้รับโอกาสได้ทำตามหัวใจตัวเองก่อนหรือเพคะ ในเมื่อคนที่ข้าเลือกก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าคนอื่นเลยแม้แต่น้อย” นางตอบไปสะอื้นไป
“เจ้าหมายถึง...” เขาหยุดเพียงแค่นั้น เนื่องจากตัวเองก็พอจะรู้ว่าคนที่อยู่ในหัวใจของน้องนั้นคือใคร
หยางจูพยักหน้าเป็นเครื่องช่วยยืนยัน บุรุษที่นางคิดที่จะเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงเพื่อจะให้ได้อยู่ใกล้คือมู่หรงเซียวหนาน บุตรชายคนโตของท่านแม่ทัพใหญ่มู่หรงเซียนหลิว ซึ่งได้รับความไว้วางพระทัยจากฮ่องเต้ ซึ่งก็คือเสด็จพ่อของนางอย่างใหญ่หลวง คนทั้งตระกูลมู่หรงมีความสัมพันธ์อันดีกับราชวงศ์มาอย่างยาวนาน แม้แต่ธิดาเพียงคนเดียวก็ยังได้รับบรรดาศักดิ์เป็นท่านหญิงและอภิเษกกับหลี่อวี้อ๋อง เสด็จอาของนางเช่นกัน ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ทำไมนางถึงจะต้องการให้มู่หรงเซียวหนานมาเป็นพระสวามีของนางบ้างไม่ได้
แม้นางจะเกิดมาเป็นสตรี แต่นางก็มีความเชื่อว่าสตรีควรได้สิทธิ์ในการเลือกสามีเองเช่นกัน ถ้าหากนางเลือกอย่างชาญฉลาดแล้วละก็ นางคงจะเป็นหญิงสาวที่มีความสุขที่สุดคนหนึ่ง ดีกว่าจะต้องไปทนอยู่กับองค์ชายที่นางไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้าค่าตาหรือนิสัยใจคอมาก่อน และยังต้องจากครอบครัวไปอยู่ถึงต่างบ้านต่างเมือง
“แต่หยางจู ในเมื่อเสด็จพ่อก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าอยากให้เจ้าเป็นตัวเชื่อความสัมพันธ์ หากเจ้าไม่ทำตามนั้น ก็เท่ากับฝ่าฝืนพระประสงค์ของพระองค์” ขณะเอ่ยเฉินไป่ชางก็รู้สึกเห็นในน้องสาวอยู่ไม่น้อย
“เมื่อถึงตอนนั้น ข้าเชื่อว่าท่านที่เป็นพี่ชายของข้า จะช่วยเหลือข้าอย่างเต็มที่ อีกไม่นานท่านจะได้รับการสถาปนาเป็นองค์ชายรัชทายาทอย่างเป็นทางการ อย่างไรเสีย คำพูดของท่านย่อมต้องมีน้ำหนักและทำให้เสด็จพ่อโอนอ่อนผ่อนตามได้โดยง่าย” องค์หญิงหยางจูประจบผู้เป็นพี่อย่างเต็มที่
คนเป็นพี่เพียงแต่ทำเสียงในลำคออย่างไม่เห็นด้วย นึกอยากจะบอกออกไปว่าความจริงใช้เพียงการออดอ้อนของนาง เสด็จพ่อก็คงจะพระทัยอ่อนแล้ว ดังเช่นที่เขากำลังจะเป็นอยู่นี้
แต่ไม่ได้หรอก แม้เขาจะเข้าใจนางดีว่าเมื่อคนเราตกอยู่ในห้วงแห่งความรัก ย่อมต้องทำทุกวิถีทางให้ความรักนั้นสมหวัง แต่ก็เป็นเพราะเหตุนั้นอีกเช่นกัน คนเราถึงได้ขาดเหตุผล และกระทำการไม่สมควรมากมาย จนต้องมานึกเสียใจภายหลัง
“หากพี่ช่วยเจ้าให้ได้ไปที่ค่ายจริง ๆ เจ้าจะกินอยู่อย่างไร ไม่มีใครทำอาหารที่เจ้าอยากกินและยกมาให้ถึงที่หรอกนะ ไหนจะเรื่องการอาบน้ำแต่งตัว ที่หลับที่นอน เจ้าต้องไปอยู่อย่างชายชาติทหาร ซึ่งนั่นหมายความว่าเจ้าจะลำบากกว่าเดิมนับร้อยเท่า เจ้าจะรับไหวหรือ” คนเป็นพี่เอ่ยลองใจและตั้งใจข่มขู่
“ข้าคิดเรื่องนั้นมาหมดแล้ว และข้ามั่นใจว่าตัวเองอยู่ได้ ข้าไม่ใช่ผู้หญิงบอบบางเสียเมื่อไหร่” คนเป็นน้องยิ้มเผล่ ก่อนที่นางจะมาขอร้องให้เสด็จพี่ช่วย นางย่อมใคร่ครวญปัญหาเรื่องความลำบากมาเป็นอย่างดีแล้ว
องค์ชายชางมองนางตั้งแต่หัวจรดเท้า หยางจูสูงแทบไม่พ้นไหล่เขา และหากเขาต้องยืนอยู่ด้านหน้า เขาจะบังนางจนมิด นี่นางคิดอะไรอยู่ถึงได้บอกว่าตัวเองไม่ได้บอบบาง
“ข้ารู้ว่าท่านคิดสิ่งใดอยู่ แต่สรีระหาใช่ตัวกำหนดพละกำลังภายในไม่ ข้าแข็งแรงกว่าที่เสด็จพี่เห็นแน่นอน” นางพูดอย่างมั่นใจ
“อย่างนั้นหรือ” เขาทำเสียงไม่เชื่อ จินตนาการนางในชุดผู้ชายแล้วก็ต้องส่ายหัว
“ได้โปรด ข้าจำต้องไปจากวังหลวงจริง ๆ ข้าไม่อยากอภิเษกกับคนแปลกหน้า และหัวใจข้าก็มีเพียงท่านแม่ทัพมู่หรงเซียวหนาน ให้ข้าไปเถอะนะเพคะเสด็จพี่ แล้วข้าจะไม่ลืมบุญคุณครั้งนี้เลยจริง ๆ”
หยางจูทรุดลงไปกับพื้นจนเขาต้องรีบก้มลงไปดึงนางขึ้น แต่นางไม่ยอมท่าเดียว
“รับปากข้ามาก่อนว่าท่านจะช่วย”
“เจ้านี่มัน” เขารู้สึกอ่อนใจกับนางเหลือเกิน แต่ไหนแต่ไรมา นางเป็นต้องใช้ความเป็นน้องเล็กมาอ้อนขอทุกสิ่งทุกอย่างอยู่เรื่อย
“นะเพคะ” ดวงตาที่เคยทอประกายแวววาว ตอนนี้กลับคลอไปด้วยหยาดน้ำใส ๆ ที่ปริ่มอยู่ตรงขอบตา จวนเจียนจะไหลลงมาตามแก้มนวลเต็มที ดูแล้วน่าสงสารยิ่ง และเฉินไป่ชางต้องพยายามเต็มที่จะไม่
ใจอ่อน
“เจ้าจะทำพวกเราเดือดร้อนกันหมด หากพี่ยอมให้เจ้าไป แล้วเกิดอันตรายอะไรขึ้นมา เสด็จพ่อได้ประหารทุกคนหมดแน่ โดยเฉพาะรองแม่ทัพซื่อหมิง ที่เจ้าอยากจะดึงเขาเข้ามาร่วมชะตากรรมด้วย” เขาพยายามเอ่ยเสียงแข็งแต่น้ำเสียงที่ใช้ก็อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
“ข้าสัญญาว่าจะดูแลตัวเองอย่างดี และข้าก็ไว้ใจในฝีมือแม่ทัพ
มู่หรงด้วย เขาจะต้องปกป้องดูแลข้าอย่างถึงที่สุด”
“แม้จะไม่รู้ว่าเจ้าคือใครอย่างนั้นหรือ”
“แต่เดิมเขาก็เป็นคนจิตใจดีงามอยู่แล้ว ยิ่งหากข้าทำให้เขามีใจได้ละก็ เขาย่อมต้องยิ่งอยากดูแลข้าให้ดีกว่าเดิม”
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ”
เขาผู้ไม่เชื่อในรัก แต่ความสัมพันธ์ครั้งเดียวกลับเปลี่ยนเขาไปตลอดกาล ธาริกา สาวน้อยแสนสวยที่ดันไปเข้าตา จักรินทร์ คุณหมอที่ขึ้นชื่อเรื่องความเป็นคาสซาโนว่า เธอเป็นคุณหนูที่ถูกพ่อแม่เลี้ยงดูมาราวกับไข่ในหิน ซึ่งความรักของพ่อแม่ที่คอยปกป้องดูแลอย่างไม่ให้คลาดสายตาทำให้เกิดความรู้สึกอึดอัด เธอไม่สามารถไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระโดยไม่แจ้งให้พ่อแม่ได้รับรู้ ด้วยเหตุนี้ประสบการณ์รักเหมือนเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันจึงเป็นศูนย์ แน่นอนว่าเรื่องนั้น...เธอยังคงความบริสุทธิ์ผุดผ่อง เขาเป็นคุณหมอหนุ่มที่ไม่เชื่อเรื่องความรัก เมื่อเขาเจอเธอ เขาถูกความงามของเธอดึงดูดจนไม่อาจปล่อยวางได้ เขาต้องได้เธอ เขาใช้ประสบการณ์อันโชกโชนล่อลวงสาวน้อยที่หมายปองได้สำเร็จ โดยการทำข้อแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน เขาจะสอนประสบการณ์บนเตียงให้เธอ แต่ทั้งหมดนี้ ไม่มีเรื่องหัวใจมาเกี่ยวข้อง ทว่าเหตุการณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อความหวั่นไหวเกิดขึ้นในใจ ด้วยอายุที่หางกันมาก อีกทั้งสถานะทางสังคม กลับเป็นอุปสรรคขัดขวางเส้นทางรักของทั้งคู่ สุดท้ายแล้วเรื่องราวจะลงเอยอย่างไร โปรดไปติดตามกันค่ะ
ดวงใจของมาโปรด เขาคือคุณอาข้างบ้านและคนที่ยื่นมือมาช่วยเธอยามอ่อนแรง เธอ...เด็กสาวจอมซนที่หนีหายไปเสียนาน เมื่อได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง เขาจะต้องกักเก็บเธอไว้ข้างกายตลอดไป +++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ดวงใจอนันต์ เหมือนกามเทพเล่นตลกให้เธอต้องมาพัวพันกับคนที่แอบชอบ ทั้งที่รู้ว่าฐานะต่างกันเหลือเกิน แต่เรื่องของหัวใจมันบังคับได้ที่ไหนล่ะ!
ความงกของนางทำเอาบุรุษทุกคนต้องถอยหนี แม้กระนั้นความงามทำให้คนมาติดพันนางมากมาย แต่นางเล่นเอาพวกเขาเหล่านั้นหมดตัวกันไปทุกครั้ง แล้วอย่างนี้จะมีบุรุษจวนไหนที่จะกล้าแต่งนางเข้าจวน ฉายาท่านหญิงตำลึงทองของนางไม่ใช่ได้มาเล่น ๆ “ข้าจะหาของมากมายมาให้เจ้า เมื่อนั้น เจ้าจะได้เข้าใจว่าในที่สุดแล้ว ของพวกนั้นก็หาได้มีราคาเทียบเท่ากับตัวเจ้า ที่ข้าทุ่มเททุกอย่างให้” ไป่ชางบอกพลางจ้องดวงตาดอกท้อสุกสกาวตรงหน้า มู่หรงเย่วชิงออกอาการเอียงอาย ก้มหน้าลงแล้วหันหนี สองมือจับอยู่ตรงสายชายอาภรณ์แล้วบิดไปมาระบายความเขิน ซึ่งดูได้ยากว่าเป็นเรื่องจริง หรือเป็นเพียงการซ่อนความดีอกดีใจที่จะได้รับพระราชทานสิ่งของราคาแพงถึงขนาดนั้นกันแน่ “มันจะเป็นของมากมายเพียงใดกันนะ” นางรำพึงรำพัน “มากจนเจ้าคาดไม่ถึงเลยทีเดียว” “หนึ่งหีบหรือเพคะ” “มากกว่านั้น” “หรืออาจจะเป็นสอง” “เจ้าพอใจเท่านั้นเองหรือ” “สตรีไม่ควรละโมบโลภมาก แม้บุรุษผู้นั้นจะนำมาเสนอให้ถึงที่ก็ตามที” นางช่างกล้าพูด! นี่เป็นความคิดของคนที่หลบซ่อนอยู่ องค์ชายชางทำหน้าไม่เห็นด้วย “ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านั้น” “ยิ่งมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเยว่ชิง ใช่หรือไม่เพคะ” นางแสร้งทำเป็นออกความเห็นแบบเด็ก ๆ อีกครั้ง ความฉลาดในการเอาตัวเองไปผูกกับบุรุษที่ร่ำรวยที่สุดในอาณาจักรทำให้หลี่อวี้ทั้งขำและเอ็นดูนางในคราวเดียวกัน และยิ่งขบขันมากขึ้น เมื่อเห็นว่าเจ้าหลานโง่ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังเจอกับอะไร
ความคุ้นเคยก่อเกิดเป็นความรักล้นอก เพราะรักจึงถลำลึกจนก่อเกิดพยานรักตัวน้อย แต่เธอจำใจต้องจากเขามาเพราะเขาเป็นคนที่ไม่ควรรัก
‘ถ้าหากเวทมนตร์แห่งวันคริสต์มาสมีจริงขอให้ปีนี้ฉันได้เจอรักแท้ ช่วยส่งผัวแบบแซ่บ ๆ สักคนมาให้ฉันด้วยเถิด’
สินีที่อกหักจากเจ้านายที่พ่วงตำแหน่งคู่ขา กับ พชรที่อกหักจากรุ่นน้องที่ดันไปรักกับเจ้านายของสินี เมื่อคนอกหักสองคนมาเจอกัน ดังนั้นความสัมพันธ์ของเราสองคนจึงเริ่มต้นจากเซ็กซ์และความผิดหวัง
เวินอี่ถงได้เห็นความรักอันลึกซึ้งของเจียงยวี่เหิง แต่ก็ได้สัมผัสกับการทรยศของเขาเช่นกัน เธอเผารูปแต่งงานของพวกเขาต่อหน้าเขา แต่เขากลับมัวแต่ง้อชู้ของเขา ทั้งๆ ที่เขาแค่มองดูแวบหนึ่งก็จะเห็น แต่เขากลับไม่สนใจเวินอี่ถงสุดจะทน ตบหน้าเขาอย่างแรง พร้อมอวยพรให้เขากับชู้ของรักกันยืนยาว แล้วเธอก็หันหลังสมัครเข้ากลุ่มวิจัยลับเฉพาะ ลบข้อมูลประจำตัวทั้งหมด รวมถึงความสัมพันธ์การแต่งงานกับเขาด้วย! ก่อนจากไป เธอยังมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้เขาอีกด้วยเมื่อถึงเวลาที่จะเข้ากลุ่ม เวินอี่ถงก็หายตัวไป บริษัทของเจียงยวี่เหิงประสบปัญหาล้มละลาย เขาจึงออกตามหาเธอด้วยทุกวิถีทาง แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นใบมรณบัตรที่ต้องสงสัยเขาสติแตก “ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่ยอมรับ!”เมื่อพบกันอีกครั้ง เจียงยวี่เหิงต้องตกใจที่พบว่าเวินอี่ถงเปลี่ยนตัวตนใหม่แล้ว โดยข้างกายมีผู้มีอำนาจที่เขาต้องยอมก้มหัวให้เขาอ้อนวอนอย่างสิ้นหวัง “ถงถง ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาเถอะ!”เวินอี่ถงเพียงยิ้มยักคิ้ว จับแขนของผู้มีอำนาจข้างๆ “น่าเสียดาย ตอนนี้ฉันอยู่ในระดับที่นายไม่อาจเอื้อมถึงแล้ว”
หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
เมื่อน้องสาวฝาแฝดแสนอ่อนแอต้องแต่งเข้ามาเป็นฮองเฮาเพื่อมาสืบเรื่องราวการตายของวงศ์ตระกูลที่แท้จริง และได้มาเจอกับฮ่องเต้ที่มีปมฝังใจจนกลายเป็นคนขี้ระแวง แฝดผู้พี่จึงต้องปลอมตัวเป็นน้องสาวเพื่อมาจัดการกับสนมที่ข่มเหงน้องสาวฝาแฝดของนางและต่อกรกับฮ่องเต้ที่ไม่สนใจใยดีฮองเฮาของตนเอง แถมยังต้องตามสืบหาความจริง แต่นางจะสามารถทำได้สำเร็จดั่งที่ตั้งใจไว้จริงหรือ?
แต่งงานกับมู่หนานจือมาเป็นเวลาสามปี ซูป้านเซี่ยคอยดูแลและเอาใจเขามาโดยตลอด แต่สุดท้ายสิ่งที่ได้รับจากเขาคือความเย็นชาและความรังเกียจ เมื่อคนรักของมู่หนานจือกลับมา เธอก็รู้สึกว่าสามีของเธอยิ่งห่างเหินจากเธอ ในที่สุด เธอไม่สามารถทนต่ออีกต่อไปและเป็นฝ่ายเสนอให้หย่ากัน มู่หนานจือมองตามหลังซูป้านเซี่ยที่กำลังลากกระเป๋าเดินทางออกจากบ้าน ก็พนันกับเพื่อนว่า "ดูเอาเถอะ สักวันหนึ่งเธอจะต้องเสียใจและกลับมาอ้อนวอนแน่ ๆ " ซูป้านเซี่ยได้ยินก็ยิ้มอย่างเย็นชา"มู่หนานจือ ฝันไปเถอะ" ผ่านไปหลายวัน มู่หนานจือบังเอิญพบว่าอดีตภรรยาของตนฉลองการหย่าร้างในบาร์ และจากนี้ไปอีกไม่นาน เธอก็มีแฟนหนุ่มใหม่แล้วด้วย เวลานี้เอง มู่หนานจือถึงเริ่มกระวนกระวายใจขึ้นมา เพราะเขาพบว่าผู้หญิงที่เคยรักเขาอย่างเอาเป็นเอาตายนั้น ตอนนี้ดูเหมือนไม่ได้สนใจเขาอีกต่อไปแล้ว แล้วเขาควรจะทำอย่างไร
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY