เมื่อเข้ามาอยู่ในนิยายที่อ่านจบแล้ว ชีวิตของฉันก็หวานหมูเลยสิ
ฉันจะเปลี่ยนโชคชะตาของตัวเอง จากเดิมที่ต้องตายในตอนจบ โอฟีเลียคนนี้จะร่ำรวยที่สุดในจักรวรรดิแห่งนี้ให้ดู..ว่าแต่ท่านแม่คะ นั่นท่านพาตัวร้ายเข้ามาในบ้านของเราทำไมกัน?
ฉันจะเปลี่ยนโชคชะตาของตัวเอง จากเดิมที่ต้องตายในตอนจบ โอฟีเลียคนนี้จะร่ำรวยที่สุดในจักรวรรดิแห่งนี้ให้ดู..ว่าแต่ท่านแม่คะ นั่นท่านพาตัวร้ายเข้ามาในบ้านของเราทำไมกัน?
“เราหย่ากันเถอะค่ะ...”
คำกล่าวนั้นสร้างความฮือฮาในแวดวงสังคมชนชั้นสูงเป็นอย่างมากเมื่อดัชเชส แอเรียนา ขอหย่ากับท่านดยุคกลางงานเลี้ยงครอบรอบการแต่งงานปีที่20ของทั้งสองคน
ดัชเชสเอเวียเป็นสตรีชนชั้นสูงที่งดงามผู้หนึ่ง นางคือน้องสาวของแกรนด์ดัชเชส และหากว่าย้อนเวลาไปเมื่อ20ปีก่อน ชื่อของ ดัชเชสจะอยู่แถวหน้าของสตรีที่เหล่าบุรุษอยากแต่งงานด้วย แต่เพราะเซอร์เกรทสามารถ คว้าชัยชนะมาให้จักรวรรดิ องค์จักรพรรดิจึงได้มีพระราชโองการ พระราชทานงานแต่งแห่งยุคให้แก่ผู้กล้าที่นำสันติมาสู่จักรวรรดิ โดยสตรีที่องค์จักรพรรดิพระราชทานให้แก่ เซอร์เกรท คือเลดี้ตระกูลแอเรียนา นามว่า เอเวีย
หญิงงามแห่งยุคและวีรบุรุษได้แต่งงานกันโดยที่ผู้คนต่างสรรเสริญว่านี่คือบุรุษและสตรีที่เหมาะสมมากที่สุดในช่วงนั้น มีเพียงแกรนด์ดัชเชสพี่สาวของเอเวียเท่านั้นที่มองว่าเซอร์เกรทไม่คู่ควรกับน้องสาวของพระนางเลย
การหย่าร้างในชนชั้นสูง ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และเมื่อดัชเชสเอเวียประกาศกร้าวถึงความต้องการของนาง ก็เกิดเสียงฮือฮาไม่หยุดหย่อน อีกทั้งการแต่งงานของทั้งคู่คือพระราชโองการขององค์จักรพรรดิอีกด้วย
แต่สุดท้ายดยุคเกรทก็ยินยอมลงนามในหนังสือหย่า เขาเดินออกไปจากตระกูลแอเรียนาที่แสนยิ่งใหญ่ของภรรยา และกลับเข้ารับตำแหน่งของเซอร์ตามเดิม
หนังสือพิมพ์ทุกฉบับต่างลงข่าวเดียวกันในหน้าหนึ่ง ข่าวการหย่าร้างของดัชเชสและวีรบุรุษผู้กอบกู้จักรวรรดิ
แต่ถึงจะมีข่าวเรื่องการหย่าร้างโด่งดังมากแค่ไหน ในคฤหาสน์แอเรียนากลับสงบอย่างไม่น่าเชื่อ
เอเวียยื่นมือไปลูบผมสีแดงของลูกสาววัย12ปีของนาง การตัดสินใจหย่าร้างนั้นนางมิได้คิดมาแค่หนึ่งหรือว่าสองวันแต่นางคิดทบทวนเป็นอย่างดีมาเนิ่นนาน
ตลอดระยะเวลาที่แต่งงานด้วยกันมา เอเวีย สัมผัสได้เลยว่าเกรทไม่เคยรักนางเลย เขาให้เกียรตินางก็จริงอยู่แต่เราไม่เคยนอนร่วมห้องกัน มีแค่ครั้งเดียวเท่านั้นที่เราทั้งคู่ได้ทำหน้าที่สามีและภรรยา และเธอโชคดีที่ตั้งครรภ์โอฟีเลียในครั้งนั้น ลูกสาวที่ดูเหมือนเธอราวกับถอดแบบกันมา มันน่าดีใจที่โอฟีเลียนั้นไม่มีตรงไหนเลยที่เหมือนกับเกรทเลย ดีแล้วที่นางไม่เหมือนชายเย็นชาไร้ใจผู้นั้น
“เจ้าปกติมากกว่าที่ข้าคิดเอาไว้อีกนะเอเวีย”
แกรนด์ดัชเชสเอสเทียเดินเข้ามาหาน้องสาวของพระนาง เราทั้งคู่เกิดมาในตระกูลแอเรียนา และเธอถูกท่านแม่บังคับให้แต่งงานกับแกรนด์ดยุค เอสเทียคิดว่าน้องสาวของเธอจะได้มีอิสระในการเลือกคู่ชีวิต ไม่ต้องถูกท่านพ่อและท่านแม่บังคับเหมือนกับเธอ แต่กลับกลายเป็นว่าเอเวียกลับถูกองค์จักรพรรดิยกให้ชายต่ำต้อยผู้นั้น หากอยากจะยกสตรีให้แต่งงานด้วยเป็นของรางวัล ก็ควรจะยกลูกสาวของตัวเองให้สิ มายกน้องสาวของเธอให้ ทำไมกัน!
เธอรู้ดีมากกว่าใครว่าการแต่งงานโดยที่ไม่ได้รักกันมันทรมานมากแค่ไหน และการหย่าในครั้งนี้ผู้สนับสนุนของเอเวียก็คือ เอสเทียนี่แหละ เธอนำพาน้องสาวให้ก้าวเดินออกมาอย่างกล้าหาญ
“โอฟีเลีย ลูกไปวิ่งเล่นทางนั้นกับสาวใช้ก่อนนะ”
โอฟีเลียรู้ข่าวการหย่าของท่านพ่อและท่านแม่ของเธอผ่านทางสาวใช้ ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นเด็กแต่ว่าเธอเข้าใจท่านแม่นะ เพราะว่าท่านพ่อไม่เคยเห็นเราสองแม่ลูกอยู่ในสายตาเลย..
เหตุการณ์ทั้งหมดมันเริ่มจากตรงนี้แหละ แกรนด์ดัชเชสบอกกล่าวกับน้องสาวว่ามีคนเห็นเซอร์เกรทไปที่วิหารบ่อยๆ ไปอยู่ครั้งละหลายๆ วัน และมีความสนิทสนมที่มากเกินพอดีระหว่างเซอร์เกรทและนักบุญหญิงเจมม่า
และในวันนั้นเองโอฟีเลียที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ในสวนถูกงูกัด..และนั่นไม่ใช่งูธรรมดาแต่เป็นงูที่สร้างขึ้นมาจากเวทมนตร์
เอเวียเหมือนคนเสียสติ เมื่อลูกสาวผู้ล้ำค่าของเธอไม่ฟื้นขึ้นมาเลยเป็นระยะเวลาหลายวัน เธอไม่ได้รับความรักจากสามียังไม่เจ็บปวดเท่ากับการที่ลูกสาวนอนซมอยู่เช่นนี้
โอฟีเลียตัวจริงเสียชีวิตไปแล้ว..สาเหตุมาจากการถูกพิษของงูที่สร้างจากเวทมนตร์และนั่นทำให้ฉันเข้ามาอยู่ร่างของโอฟีเลียในวัย12ปี
ริมฝีปากคู่งามแย้มยิ้มออกมาด้วยความดีใจ เพราะว่าฉัน..เข้ามาอยู่ในนิยายที่อ่านจบแล้ว และจำเนื้อเรื่องได้หมดทุกอย่างเลยยังไงล่ะ!
ถึงไม่อยากจะยอมรับแต่ว่าฉันคงจะตายไปแล้วจริงๆ ถึงได้เข้ามาสวมร่างของลูกสาวนางร้ายอย่างโอฟีเลีย ในเนื้อเรื่องเดิม สิ่งที่ทำให้ท่านแม่ผู้อ่อนโยนอย่างดัชเชสเอเวียเปลี่ยนไปคือนางสืบจนรู้เรื่องที่สามีของนางนอกใจ ไม่รักยังพอทน แต่นอกใจนี่พอเลย..เพราะแบบนั้นจึงทำให้ดัชเชสเอเวียทำทุกอย่างเพื่อทำลายนักบุญหญิงเจมม่าและลูกสาวของสตรีู้นั้น..จูเลียนนางเอกของเรื่องนี้
มันน่าหงุดหงิดนิดหน่อยเพราะในนิยายเขียนเอาไว้ว่าเซอร์เกรทและนักบุญหญิงเจมม่านั้นรักกันมาก่อนที่จะถูกพระราชโองการบังคับให้เขาแต่งงานกับดัชเชสเอเวีย
แต่เห้ย..นี่แกแต่งงานไปแล้วนะ ต่อให้คบกันมาแล้วยังไงอ่ะ ทำไมตอนที่องค์จักรพรรดิจะพระราชโองการปากอมอะไรอยู่เอ่ย..ทำไมไม่บอกไปล่ะว่าตัวเองมีคนรักแล้ว
ฉันยื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้ท่านแม่ที่กำลังร้องไห้อยู่ข้างเตียง ก่อนที่ฉันจะกางแขนออกแล้วโอบกอดท่านแม่เอาไว้
ที่ผ่านมาฉันรู้ว่าคุณพบเจอเรื่องยากลำบากมามาก ถึงแม้ว่าในตอนจบของนิยายเรื่องนี้จะเหมือนกับนิยายเรื่องอื่นๆ นั่นก็คือตัวร้ายสุดท้ายก็ต้องตาย แต่ฉันจะไม่ยอมให้มันเป็นแบบนั้นหรอกนะคะ
หนูจะปกป้องคุณเอง เพราะอย่างนั้นเราไม่ต้องเดินตามเส้นทางของนางร้ายเหมือนกับเนื้อเรื่องเดิมก็ได้นะคะคุณแม่
“ขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณพระเจ้าที่ยินยอมส่งลูกกลับมาหาแม่”
อีกสิ่งหนึ่งที่น่าประทับใจคือความรักของ ดัชเชสที่มีต่อลูกสาว นางเป็นนางร้ายที่ร้ายกับทุกคนยกเว้นลูกสาวของนาง
“ค่ะท่านแม่..หนูกลับมาหาท่านแม่แล้วนะคะ”
แววตาสีอำพันของเอเวียวาวโรจน์ขึ้นมา นางกัดกรามแน่นด้วยความเคียดแค้นในหัวใจ งูตัวนั้นจะเป็นใครได้หากไม่ใช่นักบุญหญิงผู้นั้น
กล้าดีอย่างไรมาแตะต้องลูกสาวสุดที่รักของเธอ!
“เช่นนั้นลูกก็นอนพักเถอะนะโอฟีเลีย เดี๋ยวแม่มา..”
ฉันรีบจับแขนของท่านแม่เอาไว้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าท่านแม่จะต้องไปจัดการที่มาของงูนั่นแน่ๆ
“ลูกอยากให้ท่านแม่อยู่ด้วยนะคะ ลูกตกใจจนไม่กล้านอนคนเดียว ท่านแม่อย่าไปเลยนะคะ ช่วยอยู่กับลูกก่อนได้ไหม”
เอเวียจับมือของโอฟีเลียเอาไว้
“นอนเถอะนะโอฟีเลีย”
เอเวียกล่าวพร้อมกับใช้พลังเวทเพื่อให้ลูกสาวของเธอหลับ
ดะ..เดี๋ยวก่อน! ไม่เอาแบบนี้สิ!! นี่มันขี้โกงนี่นา เธอไม่ได้อยากนอนสักหน่อยอยากจะดึงตัวของท่านแม่เอาไว้ต่างหาก!
จะมีอะไรซวยมากไปกว่าการเข้ามาอยู่ในเกมนักสืบแล้วบทบาทที่ได้รับคือฆาตกร ฉันจะต้องตีเนียนว่าไม่ได้ทำ แถมยังต้องตามหาพันธมิตรที่พร้อมจะยืนยันว่าฉันคือผู้บริสุทธิ์อีกต่างหาก
สิงโตมันไม่มีฤดูผสมพันธ์ุที่แน่นอนหรอกนะ เพราะฉะนั้นมันจึงสามารถผสมพันธ์ุได้ทุกที่ทุกเวลา เจ้าแน่ใจไหมเซียร่าว่าร่างกายเล็กๆของเจ้าจะรับความต้องการของข้าไหว?
ความลับเดียวของพนักงานอย่างฉัน คือฉันเป็นนักเขียนนิยายอีโรติก ฉันสามารถปกปิดความลับนี้มาได้ตลอดจนฉันมารู้ว่าเจ้านายเป็นแฟนตัวยงของนิยายฉัน!!
ทารีน่าคือตัวร้ายในนิยายเรื่องนี้ ก่อนที่จะเข้ามาอยู่ในร่างของตัวร้าย เมนของเธอคือไคล์ เขาชอบนางเอกและพยายามฆ่าทารีน่าครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อปกป้องนางเอก นี่ชีวิตของเธอจะต้องถูกเมนตัวเองฆ่าเหรอวะเนี่ย
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน
เจน ไอไออายุยี่สิบปี ถึงเพิ่งรู้เป็นครั้งแรกว่าแท้จริงแล้วตัวเองคือคุณหนูตระกูลมหาเศรษฐี แต่ยังไม่ทันดีใจได้นาน ก็ได้รู้ว่าพ่อแม่แท้ ๆ จะให้เธอไปแต่งงานแทนคุณหนูตัวปลอมคนนั้น กับผู้ชายพิการ อารมณ์ร้าย แถมครอบครัวก็ใกล้จะล้มละลายอีกต่างหาก? ถ้าไม่ใช่เพราะต้องการช่วยยายที่ป่วยอยู่ เธอคงไม่ยอมทนแบบนี้หรอก แต่หลังจากแต่งงานไป เจน ไอไอถึงค่อย ๆ รู้ว่าผู้ชายที่ว่าพิการ อารมณ์ร้าย และกำลังจะล้มละลายนั่น แท้จริงแล้วกลับเป็นเจ้าพ่อผู้ทรงอิทธิพลที่ทั้งหลงและเอาใจภรรยาสุด ๆ ! แย่แล้ว! พวกเขาทำข้อตกลงกันไว้ว่าสองปีหลังจากนี้จะต้องหย่ากัน! ซือเชียนฮานโอบเจน ไอไอไว้แน่น แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแสนอ่อนโยนว่า “ที่รัก…เธอตัดใจหย่ากับฉันได้จริงเหรอ?” เจน ไอไอลูบเอวพลางพูดว่า “ไม่หย่า ไม่หย่าแล้วได้ไหม?”
กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...
วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY