เป็นเพราะข้าเผลอสบตาหญิงงามนางหนึ่งแต่ด้วยความขัดแย้งจึงไม่อาจบอกว่าข้ามีใจภายนอกที่เห็นจึงดูเหมือน..ไร้ซึ่งหัวใจ..
เป็นเพราะข้าเผลอสบตาหญิงงามนางหนึ่งแต่ด้วยความขัดแย้งจึงไม่อาจบอกว่าข้ามีใจภายนอกที่เห็นจึงดูเหมือน..ไร้ซึ่งหัวใจ..
“จินเฉิงอู่ วันนี้ข้าเห็นสมควรเลือกหญิงงามที่ผ่านการคัดเลือกและฝึกฝนการเป็นนางในเรียบร้อยแล้ว ประทานให้เจ้ารับนางเป็นชายารอง”
สิ่งที่ฮ่องเต้พระราชทานให้ไม่รับไม่ได้ ใครกันกล่าวไว้หากไม่รับก็เพียงแค่บ่ายเบี่ยงหรือยืดเวลาไว้ก็เท่านั้น แต่จินเฉิงอู่กลับไม่แยแส
“นางเป็นเพียงลูกนอกสมรสของใต้เท้าเจิ้งประทานให้เป็นชายารองของอ๋องห้าแห่งแคว้นซ่ง มิสูงศักดิ์ไปหน่อยหรือ”
ใต้เท้าเจิ้งยืนอยู่ที่นั่นด้วยถึงกับหนวดกระตุกไปเลยทีเดียว
เจิ้งเหมยเพียงแต่ยิ้มที่มุมปากมิได้กล่าวคำใด เมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว จะไปที่ใดไม่ต่างกันจะเป็นสนมกุ้ยเหรินกุ้ยเฟยนางในหรือสาวใช้ ไม่มีสิ่งใดมาโยกคลอนจิตใจของเจิ้งเหมยได้อีกแล้ว
“เช่นนั้นจะให้ข้าบังคับเจ้าหาได้ไม่ ข้าประทานให้เจ้าแล้วจะนำนางไปไว้ในตำแหน่งไหนข้าก็มิอาจยุ่งเกี่ยวได้อีกต่อไปแต่นางมิใช่ไร้ฐานันดรโดยแท้ เป็นถึงบุตรสาวของใต้เท้าเจิ้งของสี่ตระกูลใหญ่ เจ้าใจคอจะไม่ให้เกียรติใต้เท้าเจิ้งหน่อยหรือ”
คำพูดเหมือนกับลองใจ จินเฉินอู๋ประสานมือขึ้นเบื้องหน้า เหลือบตาคมกริบ บนใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติ คิ้วเข้มเป็นลักษณะของผู้ห้าวหาญขึ้นมองเจิ้งเหมยเพียบแว๊บเดียว
“ขอบพระทัยฝ่าบาท ข้าให้นางเป็นสาวใช้ข้างกาย หวังว่าท่านเจิ้งจะไม่เคืองโกรธ”
ต่อหน้าฮ่องเต้แม้ ฝืนใจเพียงใดต้องกลำกลืนไว้ค่อยแก้ไขทีหลัง เป็นการใช้จิตวิทยาโต้ตอบกันไปมา อย่างนั้นหรือ
ใต้เท้าเจิ้ง ก้าวเท้าออกมาข้างหน้า
“ท่านอ๋องเมตตา เจิ้งเหวยขอบพระทัยท่านอ๋อง”
รอยยิ้มเย้ยหยันบนใบหน้าของ จินเฉิงอู่
เกี้ยวถูกหามเดินนำไป เจิ้งเหมยเดินเกือบวิ่งตามเกี้ยวไปยังจวนอ๋องกับห่อผ้า บนไหล่และของใช้ส่วนตัว
จินเฉิงอู่ลงจากเกี้ยว สาวเท้าเข้าไปบนจวน ชายาอ๋องรูปร่างอรชรยืนรอรับที่หน้าจวนด้วยสีหน้าสดใสข้างๆ กายมีสาวใช้คอยพยุงอยู่ถึงสองคน
“ท่านกลับมาแล้ว โยวเสวี่ยนเตรียมน้ำให้ท่านอาบ”
มือใหญ่กุมมือบอบบาง
“ลำบากเจ้าแล้ว”
เดินจูงมือเข้าไปข้างใน เจิ้งเหมยถูกไล่ให้ไปเข้าประตูเล็กอีกฝั่งหนึ่ง เมื่อคนเฝ้าประตูปิดประตูตามหลังท่านอ๋องและชายา
“ห้องพักของเจ้าอยู่ติดกับห้องครัว ต่อนี้ไปเจ้ามีหน้าที่ดูแลห้องทำงานท่านอ๋อง ไม่จำเป็นอย่าได้เข้าไปในห้องนอนเพราะชายาท่านอ๋องไม่โปรดให้ใครไปยุ่งที่นั่น ชายานางจะเป็นคนดูแล ทุกอย่างในห้องนอนท่านอ๋องเอง”
สาวใช้วัยไล่เลี่ยกัน จัดแจงช่วย เจิ้งเหมยจัดห้องหับ
“ข้าย่าหนาน เจ้าชื่อแช่ว่าอย่างไร”
เจิ้งเหมยยิ้มเพื่อสานความสัมพันธ์
“เจิ้งเหมยขอบใจเจ้าที่ช่วย ดูแล”
“ไม่ต้องเกรงใจ ข้าอยู่ห้องข้างๆ ห้องแม้จะเล็กแต่ที่นี่เงียบสงบที่สุด ไม่วุ่นวาย ด้านในจวนวุ่นวายสิ้นดีที่นั่นต่างต้องช่วยกันดูแลพระชายา”
“ท่านอ๋องคงจะรักพระชายามากแน่ๆ ”
“พระชายา ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ท่านอ๋องเอาใจใส่ดูแลเหมือนไข่ในหิน ไม่น่าแปลก ฝ่าบาทเคยคิดจะประทานชายารองมาหลายครั้งแต่ท่านอ๋องกลับปฏิเสธ ได้ข่าวว่าเจ้าเป็นคนเดียวที่ท่านอ๋องยอมรับมา แต่ก็ให้มาเป็นสาวใช้อยู่ดีคงจะเกรงใจฝ่าบาทไม่น้อย”
“พวกเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าถูกประทานมาเป็นชายารอง"
“เรื่องนี้เขารู้กันทั้งจวน ว่าคราวนี้หากฝ่าบาทเลือกนางใน ต้องประทานชายามาแน่เจ้าไม่เห็นหรือว่าพระชายาท่านอ๋องร้อนใจถึงกับต้องออกมารับท่านอ๋องที่หน้าจวนทั้งๆ ที่ไม่สบาย”
เจิ้งเหมยยิ้มแห้งๆ
“แต่ไม่ต้องห่วงนะ พระชายาใจดีที่สุด รับรองว่า.. ไม่ได้โกรธเคืองอะไรเจ้าแน่ท่านอ๋องเองก็รู้ๆกันอยู่ว่ามีสายตาไว้มองเพียงพระชายาเท่านั้น”
"ช่างเป็นอ๋องที่รักมั่นเสียจริง"
น้ำเสียงเหมือนจะเย้ยหยัน แต่รอยยิ้มกลับจริงใจ
"รักมั่น แต่เจ้ากับข้าหรือทุกคนในจวนต่างก็ต้องเกรงกลัวท่านอ๋อง แม้สบตายังไม่มีใครกล้าทำ"
เจื้งเหมยยิ้มน้อยๆจะมีอะไรน่ากลัวไปกว่าการที่ จะถูกเลือกไปเป็นสนม ของฮ่องเต้อีก เจิ้งเหมยผ่านมาได้ถึงเพียงนี้นับว่าดวงดีไม่น้อย ฮ่องเต้ในสายตาของเจิ้งเหมยแม้ใบหน้าจะไม่ได่แก่ชราทว่าการที่เป็นถึงฮ่องเต้ หากขัดใจก็ไม่พ้นตาย อยู่ที่นี่เป็นสาวใช้ ไม่จำเป็นต้องเป็นที่โปรดปรานเพียงแต่อยู่เงียบๆในส่วนของตัวเองก็พอ
"ต่อไปข้าคงต้องอาศัยเจ้าแล้วย่าหนาน"
"ข้าดีใจที่เจ้ามาช่วยดูแลที่นี่ ข้าอยู่คนเดียวมาเสียนาน"
เจิ้งเหมยยิ้ม ไม่ได้แย่เกินไปอย่างน้อยก็มีย่าหนานเป็นสหาย
ค่ำคืนใน จวนอ๋องผ่านไปอย่างเรียบง่าย
เช้าสดใส เจิ้งเหมยจัดการตัวเองและเตรียมพร้อมที่จะปัดกวาดในห้องทำงานที่ได้รับมอบหมายเสื้อผ้าชุดใหม่ไม่ได้มีสีสันมากนัก หน้าผมก็ไม่จำเป็นต้องแต่งเหมือนตอนอยู่ในช่วงคัดนางใน หากแต่ปล่อยให้ใบหน้าสดใสไร้เครื่องแต่งแต้ม
ใบหน้าผุดผาดดุจมู่หลานแรกแย้ม ไม่จำเป็นต้องแต่งแต้มใดๆก็สะดุดตามากพอ
ชายาเอกนั่งชมสวนกับสาวใช้อีกสองคน เจิ้งเหมยกำลังจะเดินผ่าน
"เจ้าใช่ไหม สาวใช้ในจวนคนใหม่"
พระเอกสายแอพ เฉยชาทว่าโบ๊ะบ๊ะภายใน โคตรรั่ว อัตราการแขวะ0.01วินาที ภายใต้หน้ากากสูงส่งบริสุทธิ์ ในนามปรมาจารย์ ที่ค้ำคอไว้ พบกับ พระเอกสายกาว ที่ไม่เอื้อนเอ่ย ใครกันจะรู้ภายในใจท่านคิดเช่นไร พบกับนิยายแนว ขุนเขาจอมยุทธ์ บุญคุณความแค้น แต่พระเอกสายฮา สะกดกลั้นความอาไว้ภายใต้หน้ากากหล่อเหลาอย่าเผลอนินทาอย่าเผลอหลงรัก เพราะปรมาจารย์ท่านนี้อ่านใจคนออก
เรื่องเล่าของท่าน อาจทำข้าสำราญ หรืออาจทำให้ทุกข์ตรมไปกับท่าน ถือว่าท่านจ่ายค่าตอบแทนแก่ข้าแล้ว เสพสุขจากความทุกข์ตรมกระทำได้เช่นนั้นหรือความทุกข์ตรมของผู้อื่น ทำให้เราหลุดพ้นความทุกข์ตรมของเราได้
บุตรีของขุนนางกบฏ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้บิดาแทนที่จะหนีไปไกลแสนไกลกลับพาตัวเองมาผูกพัน กับคนที่เป็นศัตรู แค้นฆ่าพ่อจือหรานจะสามารถทวงความเป็นธรรมให้บิดาได้หรือไม่ ..พบกับความรักความแค้นที่ฝั่งแน่น
ตำรวจหญิงมือดีดับอนาถแต่สวรรค์กลับให้โอกาสได้กลับไปแก้แค้น แทนหญิงโง่งมคนหนึ่งที่ถูกหักหลังเช่นกัน งานนี้จะต้องไม่ใครก็ใครสักคนจะต้องเสียน้ำตา
.....อามูเนส... .. ราชินีที่รักแห่งข้าขอเทพธิดาไอซิส มอบชีวิต อมตะให้ข้าและนาง ...รอ เจ้าอยู่ที่นี่ ตราบ ดวงอาทิตย์อับแสง ..รอเจ้าอยู่ร่วมเดินทางสู่ฟากฟ้า พร้อมกัน” คำขอครั้งสุดท้ายของ..โฮรัส.. ผู้เลื่องชื่อเทพแห่งสงคราม กับเจ้าหญิงผู้ซึ่งตกเป็นเชลย ด้วยจุดเปลี่ยนที่บิดาของอามูเนส ผู้เลอโฉมเลื่องลือไปไกล พ่ายแพ้ให้แก้ฟาโรห์โฮรัสเทพสงครามผู้ยิ่งใหญ่ เป็นจุดเริ่มต้นของ คำขอต่อเทพแห่งความเป็นอมตะไอซิส คำขอครั้งสุดท้ายจะเป็นจริงไหมและเอวาสาวสวยนักโบราณคดีที่ขุดค้นพบ คำขอนั้นของฟาโรห์โฮรัสจะ สามารถค้นพบความจริงต่างๆได้อย่างไร ล่องลอยไปกับดินแดน ไอยคุปต์ด้วยกันใน...มนตราฟาโรห์...
ขายตัวเข้ามาเป็นอี้จีฝึกหัด แต่ยังไม่ผ่านงานแรกด้วยซ้ำ สวรรค์ชังหรือนรกแกล้งให้เฟิ่งหลิว ต้องมาพบเจอคนใจร้ายเช่นนี้แล้วยังมาหาว่าเฟิ่งหลิวเป็นนางคณิกา กร้านโลกอีก ทั้งๆที่น้องแสนจะเดียงสา
"พี่เจี๋ยข้าอยากได้อีกจุมพิตเพิ่มพลังของท่าน" ฉีเย่ว์กล่าวงึมงำบนริมฝีปากของเขา นางเป็นฝ่ายดูดกลีบปากของหยางเจี๋ยเบา ๆ ซุกไซร้ซอกซอนแหย่ลิ้นเข้าไปในปากของเขา สัมผัสอ่อนนุ่มในคราแรกเริ่มโหมกระหน่ำร้อนแรงมากขึ้น ฉีเย่ว์ปลดสายรัดเอวของเขาออกสอดมือล้วงเข้าไปในกางเกงของหยางเจี๋ยพบเนื้อร้อนของเขาแข็งแกร่งขึ้นเต็มลำ นางขยำแรง ๆ พร้อมกับรูดมือเบา ๆ "อ๊า คนดีของพี่" หยางเจี๋ยมือหนึ่งประคองศีรษะของนางให้แนบชิดกับปากของเขาอีกมือล้วงเข้าไปในสาบเสื้อของนาง ฉีเย่ว์ไร้อาภรณ์กางกั้นด้านในนางใส่เพียงเสื้อคลุมนอนสีขาวเท่านั้น เขาลูบแผ่นหลังเปลือยเปล่าของนางไล้นิ้วลงไปจนถึงแก้มก้มแล้วขยำเบา หนัก สลับกัน "พี่เจี๋ยให้ข้ารักท่านเถิด" ฉีเย่ว์กัดปากข่มเสียงครางเอาไว้ นางดึงกางเกงของเขาออกโดยมีหยางเจี๋ยคอยช่วยเหลือ นางขึ้นคร่อมเขาอย่างกระหายไม่บัดนี้ตื่นอย่างเต็มตาในขณะที่ควงเอวควบขี่เขาเป็นจังหวะ หยางเจี๋ยขยับรับจังหวะที่องค์ราชินีของตนเองควบขี่ เขาเด้งสะโพกขึ้นรับนางมือดึงผ้ารัดเอวของนางออกแล้วทิ้งไว้ด้านข้าง แหวกสาบเสื้อของนางแล้วผวาศีรษะขึ้นมาอ้าปากดูดรับเนื้ออวบของนางที่กระเด้งเป็นจังหวะ ฉีเย่ว์ดันร่างของตนเองเข้าหาปากเขามือช่วยประคองศีรษะของหยางเจี๋ยให้แนบชิด หยางเจี๋ยดูดปทุมถันคู่งามอย่างกระหาย เสียงหอบหายใจของฉีเย่ว์สั่นสะท้านหัวใจแทบจะหลุดออกมาจากอก เขาคือหัวหน้าหน่วยจู่โจมที่ตายในสงคราม และได้ย้อนเวลากลับมาหลายร้อยปีกระทั่งฟื้นขึ้นมาในร่างเด็กน้อยนาม หยางเจี๋ย เด็กผู้อาภัยจากตระกูลใหญ่ ที่บิดาและมารดาถูกใส่ความว่าทุจริตจนต้องจบชีวิตลง หยางเจี๋ยเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกเลี้ยงดูให้เติบโตในจวนราชครู สหายของบิดา และที่นี่เขาได้พบกับเด็กน้อยผู้หนึ่งนาม ฉีเย่ว์ ธิดาของท่านราชครูฉีผู้สูงส่ง พวกเขาเติบโตมาด้วยกัน ความใกล้ชิดทำให้เขาหวั่นไหว หยางเจี๋ยจะทำเช่นไรเมื่อได้พบว่า ตัวเอง ตกหลุมรักคุณหนูผู้สูงส่งจนหมดหัวใจไปเสียแล้ว เขารักนาง ต้องการทำให้นางตกเป็นของเขา และทำลายขวากหนามทุกอย่างที่ขัดขวางให้หมดสิ้นไป เพื่อนางเพียงคนเดียว
ในชาติก่อน ซูเยว่ซีถูกอวิ๋นถังยวี่ทำร้ายจนตาย ทำผิดต่อครอบครัวของท่านตา และตัวเองยังถูกทรมานจนตาย เกิดใหม่ครั้งนี้ นางตั้งใจจะจัดการกับพวกผู้ชายชั่วและหญิงเลวจัดการพ่อชั่ว เพื่อปกป้องแม่และครอบครัวของท่านตาให้ปลอดภัย พวกผู้ชายชั่วเข้ามาใกล้งั้นเหรอ นางจะใช้แผนให้เขาเสียชื่อเสียง หญิงตีสองหน้าเก่งชอบทำตัวอ่อนแองั้นเหรอ นางจะเปิดโปงธาตุแท้อีกฝ่ายและไล่นางออกจากจวนซู! ในชาตินี้ สิ่งที่นางต้องทำคือการจัดการพวกปลวกที่แอบแฝงอยู่ในราชสำนัก แก้แค้นคนทรยศ เพื่อปกป้องท่านตาที่เป็นคนซื่อสัตย์ นางใช้มือเรียวเป็นเครื่องมือ ก่อให้เมืองจิงเกิดความวุ่นวาย แต่ท่ามกลางความโกลาหล นางได้พบกับองค์ชาย ผู้ที่ทุกคนเล่าลือว่าเป็นคนพิการ “อวิ๋นเฮิง เจ้าจะมาขวางข้าหรือ” อวิ๋นเฮิงยิ้มเบาๆ “ไม่ ข้าตั้งใจจะมาช่วยเจ้า”
กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...
ซ่งจิ่งถังรักฮั่วอวิ๋นเซินอย่างลึกซึ้งนานถึงสิบห้าปี แต่ในวันที่เธอคลอดลูกกลับตกอยู่ในอาการโคม่า ขณะที่ฮั่วอวิ๋นเซินกระซิบข้างหูเธออย่างอ่อนโยนว่า "ถังถัง อย่าฟื้นขึ้นมาอีกเลย สำหรับฉัน เธอไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว" ซ่งจิ่งถังเคยคิดว่าสามีของเธอเป็นคนอ่อนโยนและรักใคร่ตัวเอง แต่จริงๆ แล้วเขามีแต่ความเกลียดชังและใช้ประโยชน์จากเธอเท่านั้น และลูกๆ ที่เธอเสี่ยงชีวิตให้กำเนิด กลับเรียกหญิงสาวคนอื่นว่า 'แม่' ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนต่อหน้าที่เตียงคนไข้ของเธอ เมื่อซ่งจิ่งถังฟื้นขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอทำคือการตัดสินใจหย่าขาดอย่างเด็ดขาด! แต่หลังจากหย่าแล้ว ฮั่วอวิ๋นเซินจึงเริ่มตระหนักว่า ชีวิตที่ผ่านมาของเขาเต็มไปด้วยเงาของซ่งจิ่งถัง หญิงคนนี้กลายเป็นความเคยชินของเขา เมื่อพบกันอีกครั้ง ซ่งจิ่งถังปรากฏตัวในที่ประชุมในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เธอเปล่งประกายจนทุกคนต้องหันมามอง หญิงคนนี้ที่เคยมีแต่เขาในใจ บัดนี้กลับไม่แม้แต่จะมองเขาอีก ฮั่วอวิ๋นเซินคิดว่าเธอแค่ยังโกรธอยู่ ถ้าเขาเอ่ยปากพูดนิดหน่อย ซ่งจิ่งถังจะต้องกลับไปหาเขาแน่นอน เพราะเธอรักเขาหมดหัวใจ แต่ต่อมา ในงานหมั้นของผู้นำคนใหม่ของตระกูลเพ่ย เขาเห็นซ่งจิ่งถังสวมชุดแต่งงานหรูหรา ยิ้มอย่างเปี่ยมสุขและกอดแน่นเพ่ยตู้พร้อมสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ ฮั่วอวิ๋นเซินอิจฉาจนแทบคลั่ง เขาตาแดงก่ำและบีบแก้วจนแตก เลือดไหลไม่หยุด...
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY